อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 418 หยุนหว่านหนิงกระอักเลือด
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 418 หยุนหว่านหนิงกระอักเลือด
หรูอวี้ไม่กล้าสบตานางเลย
ไม่มีท่าทีเอ้อระเหยลอยชาอย่างปกติ เขาค่อยๆยกของในมือยื่นให้หยุนหว่านหนิง
นั่นเป็นพู่หยกที่โม่จงหรานเจอหยวนเป่าครั้งแรกตอนไปตำหนักสิงกงแล้วดีใจมากจนเด็ดจากเอวให้ เป็นพู่หยกที่มีค่าเทียม ตราพยัคฆ์ที่โม่จงหรานพกมาหลายปี!
หรูอวี้พูดเสียงต่ำ “พระชายา เตี้ยนเซี่ยยังหาไม่เจอ”
“นายท่านพบพู่หยกของนายน้อยที่หน้าประตูเมือง เลยให้ข้าน้อยนำกลับมารายงานพระชายาก่อน เพื่อให้พระชายาวางใจก่อน”
“นายท่านตามไปแล้ว”
หน้าประตูเมือง?
พูดแบบนี้ หยวนเป่าถูกคนพาตัวออกนอกเมืองหลวง?!
หยุนหว่านหนิงรับพู่หยกมาด้วยสองมือสั่นเทา และแนบไว้ที่หน้าอกแน่น
วางใจ?
นางจะวางใจได้อย่างไร?!
ทันใดนั้น หยุนหว่านหนิงสายตาวาบประกายเจ็บปวด…จากนั้นนางงอร่าง กระอักเลือดออกมาคำโต!
เลือดหยดลงบนพู่หยก เลือดสีแดงตัดกับหยกสีขาวชัดเจนจนน่าตกใจ
“หนิงเอ๋อร์!”
“พระชายา!”
โจวหยิงหยิงกับหรูอวี้อุทานอย่างตกใจขึ้นพร้อมกัน!
หยุนหว่านหนิงเกือบเป็นลมไปอีกครั้ง แต่นางกัดลิ้นอย่างแรง เรียกสติให้กับตนเอง
“พาข้า พาข้าไป!”
นางลุกขึ้นยืนตัวโอนเอน “ข้าจะไปตามหาหยวนเป่า…”
“เจ้าเป็นแบบนี้จะไปตามหาหยวนเป่าได้อย่างไร?!”
โจวหยิงหยิงร้องไห้ว่า “หนิงเอ๋อร์ ข้าขอร้องเจ้าล่ะ เจ้านอนพักบนเตียงดีๆเถอะ! อย่าให้พอหยวนเป่ากลับมาแล้ว เจ้าก็ล้มป่วยไปอีกคนเลย!”
“หมอหลวงหยางมาดูอาการเจ้าแล้ว บอก บอกว่าชีพจรเจ้าทั้งอ่อนและสับสน เหมือนมีโรคที่ยากจะรักษาอะไรสักโรค ข้าเองก็ไม่เข้าใจว่าเขาพูดเช่นนี้หมายความว่าอะไร ยังไงซะก็คือบอกว่า ตอนนี้ร่างกายเจ้าอ่อนแอมาก ต้องให้เจ้านอนพักบนเตียงห้ามไปไหน!”
นางโอบเอวหยุนหว่านหนิง และร้องไห้หนักกว่าเดิมออกมา “ดูเอวเจ้านี่สิ”
“ผอมบางเท่ากับขาข้าเลยเชียว….”
ถ้าเป็นปกติ หรูอวี้ต้องทนไม่ไหวหัวเราะออกมาแน่
แต่ตอนนี้ใครก็หัวเราะไม่ออก!
หรูอวี้ขยี้ตา “พระชายาเอนตัวลงก่อนเถิด มีข่าวใดก็ตาม ข้าน้อยจะรีบมารายงานท่านทันที”
เขาหมุนตัวหายไปในความมืด
จวนอ๋องหมิงในคืนนี้ เหล่าคนรับใช้ไม่กล้าส่งเสียงใดๆเลย คุณชายน้อยของพวกเขา พระนัดดาองค์โตของหนานจวิ้นหายตัวไป ท่านอ๋องเดือดดาล พระชายาเป็นลม…
ทั่วทั้งจวนอ๋องหมิงถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด ความมืดนั้นราวกับสัตว์ร้ายที่อ้าปากกว้างคละเลือดคลุ้ง
หยุนหว่านหนิงถูกโจวหยิงหยิงบังคับลงนอนที่เตียงอีกครั้ง มือนางกำพู่หยกของหยวนเป่าแน่น
พู่หยกนี้ ไม่รู้ว่าหยวนเป่าจงใจทิ้งไว้ เพื่อชี้เบาะแสให้พวกเขา…
หรือว่าเจออันตรายอะไร แล้วหล่นไว้ระหว่างดิ้นรน
ตอนนี้ไม่กล้าแน่ใจอะไรทั้งนั้น
พอเห็นพู่หยกนี้ หยุนหว่านหนิงก็คิดถึงท่าทางของหยวนเป่า นางแนบพู่หยกไว้ที่หน้าอกแน่น ร้องไห้ได้สักพักก็ทำใจเข้มแข็งขึ้นมา “ข้าจะอ่อนแอไม่ได้”
ถ้านางอ่อนแอ หยวนเป่ากลับมาเห็นเข้าก็เป็นห่วงอีก
“ข้าเองจะรออยู่เฉยๆไม่ได้”
นางปาดน้ำตาออก “หยิงหยิง รบกวนเจ้าไปเชิญซ่งจื่ออวี๋มา ข้ามีเรื่องจะขอร้องเขา!”
“ใต้เท้าซ่ง?”
โจวหยิงหยิงเดาความคิดนางได้ทันที “เจ้าจะขอร้องให้ใต้เท้าซ่งช่วยเจ้าตามหาหยวนเป่า?!”
“นี่เป็นความคิดที่ดี! ข้าจะไปเดี๋ยวนี้!”
โจวหยิงหยิงวิ่งออกไปอย่างตื่นเต้น
แต่ไม่นาน นางก็วิ่งกลับมาอย่างเหงาหงอยคอตก “หนิงเอ๋อร์ ใต้เท้าซ่งไม่อยู่ที่จวน! คนของจวนซ่งบอกว่า วันนี้ใต้เท้าซ่งออกไปตอนเที่ยง ยังไม่กลับมาเลย!”
ซ่งจื่ออวี๋ไม่อยู่ในจวน?!
หยุนหว่านหนิงพึมพำ “เขาไปไหนนะ…”
“ใช่ไง! เวลาสำคัญเช่นนี้ ใต้เท้าซ่งไปไหน! กำลังต้องการเขาเชียว!” โจวหยิงหยิงบ่นพึมพำพลางหมุนตัว
เมื่อครู่ตอนนางไม่ทันสังเกต หยุนหว่านหนิงก็ตกลงกับเฮียช่องว่าง เพื่อขอของอย่างหนึ่ง
เฮียช่องว่างที่ปกติจะยอมตามใจ ให้ทุกอย่างที่นางต้องการมาตลอดกลับลังเลในครั้งนี้….เพราะของที่หยุนหว่านหนิงต้องการมันเป็นอันตรายต่อร่างกาย!
หยุนหว่านหนิงแทบจะร่ำร้องอ้อนวอนเขาในใจ: ขอร้องท่านล่ะ เฮียช่องว่าง! ข้าจำต้องไปตามหาลูกชายข้า ข้าต้องการสิ่งนี้!
เฮียช่องว่างยังคงลังเล
หยุนหว่านหนิงน้ำตาอาบแก้ม อ้อนวอนต่อไป: ลูกชายข้าตอนนี้ต้องกลัวมากแน่ ข้าต้องรีบไปหาเขา อยู่เป็นเพื่อนเขา!
อาจเพราะนางทำหวั่นไหว เฮียช่องว่างยอมถอยให้
วินาทีต่อมา ในช่องว่างมียาฉีดเล่มหนึ่งวางอยู่นิ่งๆ
หยุนหว่านหนิ่งถอนหายใจโล่งอก
“หนิงเอ๋อร์ เจ้าวางใจเถอะ! ตอนนี้ทั่วทั้งเมืองหลวงล้วนเคลื่อนไหวแล้ว คาดว่าคนผู้นั้นก็ไม่กล้าทำอะไรหยวนเป่าแน่!”
โจวหยิงหยิงยังคอยปลอบนาง “ใครไม่รู้กันบ้างว่า หยวนเป่าเป็นดั่งชีวิตของเสด็จพ่อ? ครั้งนี้ไม่ว่าใครกล้าพาหยวนเป่าไป ต้องไม่มีจุดจบดีแน่นอน!”
หยุนหว่านหนิงพูดเสียงต่ำ “ข้าหิวแล้ว”
“เจ้าอยากกินอะไร?”
โจวหยิงหยิงรีบหันมามองนาง
“กินข้าวต้มสักหน่อยเถอะ”
หยุนหว่านหนิงฝืนยิ้ม
สีหน้านางยังซีดเผือดจนน่าตกใจ ดวงตาแดงก่ำบวมปูด ทุกครั้งที่โจวหยิงหยิงมองนาง ก็รู้สึกเสียใจนัก
“ได้ ข้าไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”
โจวหยิงหยิงสูดลมหายใจ ก่อนลุกวิ่งพรวดออกไป
หยุนหว่านหนิงคว้าเข็มยาฉีด และมองไปทางประตูอย่างตื่นเต้น จากนั้นทำใจกัดฟันแทงยาฉีดเข้าร่างกาย
นางนอนอยู่บนเตียง แค่เวลาไม่ถึงชั่วชงชา สีหน้าก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นางยื่นมือออกมากำหมัดสักที มีแรงมากกว่าเมื่อกี้มาก
หยุนหว่านหนิงเหลือกระดาษแผ่นหนึ่งไว้ให้โจวหยิงหยิง ก่อนจะหายไปในความมืด
นางพึ่งไปไม่นาน โจวหยิงหยิงก็ยกข้าวต้มร้อนควันฉุนเข้ามา
“หนิงเอ๋อร์ ข้าวต้มหอมมากเลย! เจ้าคนเดียวคงกินไม่หมดสิ้นเปลืองแน่ อีกอย่างกินคนเดียวดูจะเหงาไปหน่อย ข้ามากินเป็นเพื่อนเจ้าแล้วกัน พรุ่งนี้ข้าค่อยลดความอ้วน…”
พูดยังไม่ทันจบ ถาดในมือโจวหยิงหยิงก็หล่นลงพื้น!
ข้าวต้มระเนระนาด ชามกระเบื้องแตกเละ
นางไม่มีเวลาสนใจสภาพอนาถ รีบเดินมาที่ข้างเตียง “หนิงเอ๋อร์? หนิงเอ๋อร์!”
โจวหยิงหยิงร้อนรนขึ้นมาทันที!
นางเลิกผ้าห่มขึ้น และค้นหาใต้ผ้าห่มอีกครั้ง ในห้องไร้ซึ่งผู้คน…
“แย่แล้ว! ใครก็ได้! หนิงเอ๋อร์หายไปแล้ว!”
โจวหยิงหยิงแหกปากร้องตะโกนออกมา
จวนอ๋องหมิงที่เดิมทีเงียบงัน พลันอึกทึกขึ้นมาเพราะเสียงของนาง
โจวหยิงหยิงผลักสาวใช้ออกและวิ่งไปด้านนอก พอเห็นคนรับใช้วิ่งมาหานาง ก็รีบสั่งการออกไป “พวกเจ้าไปดูที่ห้องน้ำสิ! พวกเจ้ารีบไปตามหาทั้งในและนอกจวน พวกเจ้าไปกราบทูลเสด็จพ่อ พวกเจ้าไปตามหาในเมืองหลวง”
โม่เยว่กำลังตามหาหยวนเป่า คราวนี้น่ากลัวหาไม่เจอแน่
“พวกเจ้า…”
โจวหยิงหยิงกำลังจะพูด แม่นมจางก็คว้ากระดาษบนโต๊ะขึ้นมา “พระชายาฮั่น มีจดหมาย!”
“ต้องเป็นหนิงเอ๋อร์ทิ้งไว้แน่!”
โจวหยิงหยิงรีบวิ่งเข้ามา
เมื่อครู่นางไม่ทันระวังถึงขั้นไม่เห็นกระดาษบนโต๊ะ!
โจวหยิงหยิงอ่านข้อความบนจดหมายเสร็จ เห็นแค่นางขาอ่อนยวบนั่งลงกับพื้น “แย่แล้วแย่แล้ว คราวนี้แย่แล้ว!”
แม่นมจางไม่รู้หนังสือ และไม่รู้ว่าบนจดหมายเขียนอะไรไว้
แต่พอเห็นโจวหยิงหยิงหลุดการควบคุม แม่นมจางเองก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องดีอะไรแน่!
นางถามขึ้นเสียงสั่นเทาว่า “พระชายาฮั่น อะ อะไรแย่แล้ว?!”