อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 419 ลูกชายเจ้าเป็นผู้มีบุญญา
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 419 ลูกชายเจ้าเป็นผู้มีบุญญา
“ให้พวกเขากลับมาให้หมด!”
โจวหยิงหยิงไม่ได้ตอบแม่นมจาง เพียงใช้ขอบโต๊ะพยุงตัวขึ้นมา สั่งการไปที่คนรับใช้นอกประตู “อยู่กันในจวนให้ดี ไม่ต้องไปที่ไหนทั้งนั้น”
มีคนรับใช้คนหนึ่งถาม “แต่พระชายาฮั่น พระชายาของข้าหายไปแล้ว!”
“ใช่! พวกเราจะไปตามหาพระชายา!”
“ต้องเข้าวังไปกราบทูลฮ่องเต้ด้วยมิใช่รึ?!”
“ไม่ต้องทั้งหมดแล้ว”
โจวหยิงหยิงสูดลมหายใจเข้าปอดลึก บังคับให้ตนเองสงบลง “กลับไปก่อนเถอะ!”
นางไม่ได้อธิบายอะไรทั้งนั้น และให้คนรับใช้แยกย้ายกันไป
แม่นมจางถามเสียงเบา “พระชายาฮั่น พระชายาของข้าไปตามหาคุณชายน้อยใช่หรือไม่?!”
“อืม”
โจวหยิงหยิงกำกระดาษแน่น ผ่านไปนานถึงสั่งแม่นมจางว่า “เจ้ารีบไปจวนหยาง เชิญหมอหลวงหยางมาจวนอ๋องหมิง”
“ถึงจะไม่รู้ว่าหนิงเอ๋อร์จะกลับมาเมื่อไหร่ แต่ร่างกายนางอ่อนแอยิ่งนัก ให้หมอหลวงหยางมารออยู่ที่จวนแล้วกัน”
แม่นมจางสีหน้าเปลี่ยนทันที รีบวิ่งออกไป
เพราะว่ารีบร้อนเกินไป ยังสะดุดล้มที่ขั้นบันไดเอาหนึ่งที!
แม่นมจางลุกขึ้นมา และวิ่งออกไปอย่างไม่เห็นฝุ่น
โจวหยิงหยิงมองความมืดนอกหน้าต่าง พึมพำว่า “หนิงเอ๋อร์ เจ้าอย่าเป็นอันใดเด็ดขาดนะ! ยังมีหยวนเป่า ต้องปลอดภัยกันกลับมานะ!”
….
หยุนหว่านหนิงในตอนนี้ ได้ควบม้าออกนอกเมืองอย่างรวดเร็วแล้ว
เพราะหยวนเป่าหายตัวไป ทั่วทั้งเมืองหลวงเวรยามเข้มงวด
กลางดึก ทหารเฝ้าประตูเมืองเห็นมีคนเข้าใกล้ ก็รีบห้ามไว้
แต่พอเห็นเป็นหยุนหว่านหนิง ก็ดึงทวนยาวกลับ “พระชายาหมิง…”
“เปิดประตู!”
หยุนหว่านหนิงไม่สนใจอธิบาย พอประตูเมืองเปิด ก็ควบม้าจากไป พริบตาเดียวหายตัวไปในความมืด
ทหารหลายคนมองหน้ากัน จากนั้นมีคนรายงานเรื่องนี้กลับไปหาโม่จงหราน
ในเวลานี้ หยุนหว่านหนิงมิใช่แมลงวันไร้หัว(เปรียบว่าบินว่อนไร้ทิศทาง)
นางแน่ใจในทิศทาง ไม่นานก็ถึงตีนเขาหยุนอู้!
ถ้าจะต้องตามหาหยวนเป่าไปทุกที่ราวกับแมลงวันไร้หัว(เปรียบว่าบินว่อนไร้ทิศทาง) นางกลับพุ่งเป้ามาที่เขาหยุนอู้—-เสวียนซันเซียนเซิงเลย!
ซ่งจื่ออวี๋ไม่อยู่ นางมีแต่ต้องขอความช่วยเหลือจากเสวียนซันเซียนเซิง!
ตอนขึ้นเขา ท้องฟ้าเริ่มมีเส้นขอบฟ้า
ตัวหยุนหว่านหนิงกลับยิ่งดูกระตือรือร้นมากขึ้น!
แต่พอดูดีๆ ความกระตือรือร้นของนางกลับไม่เหมือนคนปกติเลย ปีนเขาหยุนอู้ที่สูงขนาดนี้ นางกลับไม่หอบเลยแม้แต่น้อย!
เสวียนซันเซียนเซิงยังนอนหลับกรนคร่อกๆอยู่บนก้อนหิน
หยุนหว่านหนิงผลักปลุกเขา “เสวียนซันเซียนเซิง ช่วยข้าหาลูกชายหน่อย!”
เสวียนซันเซียนเซิงโดนปลุก ขยี้ตามอง “ข้ากำลังฝันอยู่เลย ฝันถึง…หม้อใหญ่”
“ช่วยข้าหาลูกชายหน่อย!”
หยุนหว่านหนิงพูดซ้ำอีกครั้งอย่างร้อนรน “ช่วยข้าดูหน่อย ลูกชายข้าโดนใครพาไป ไปทิศทางไหน มีอันตรายหรือไม่?!”
“ลูกชายเจ้าหายตัวไปรึ?”
เสวียนซันเซียนเซิงถึงได้สติกลับมา “แปลกนัก เจ้าขอร้องข้าให้ช่วย นี่ท่าทีขอร้องรึ?”
เขากอดอก หันหน้าหนีอย่างเง้างอน
หยุนหว่านหนิงกัดฟันกรอด
นี่มันเวลาอะไรแล้ว ตาแก่นี่ยังลีลากับนางอีก?!
นางคว้าขนมมากมายจากในช่องว่างยัดใส่เขา “เดี๋ยวนี้ ช่วยข้าหา!”
“ค่อยยังชั่ว”
เสวียนซันเซียนเซิงถึงได้กัดกินเนื้อวัวแห้งอย่างอิดออด “บอกวันเดือนปีเกิดของลูกชายเจ้ากับข้า ถ้าหาไม่แม่นรับรองไม่คิดเงิน…”
นี่ต่างอะไรกับนักพรตจอมปลอมที่หลอกล่อลวงพวกนั้นเชิงเขาตรงไหน?!
หยุนหว่านหนิง “…ท่านเป็นยอดฝีมือเร้นหลบ ขอท่านช่วยมีราศีของยอดฝีมือเร้นหลบหน่อยได้ไหม?!”
นางพูดวันเดือนปีเกิดของหยวนเป่าออกมา
“ข้ามีราศีมาเอง”
เสวียนซันเซียนเซิงแค่นเสียงหึ “วันเดือนปีเกิดของลูกชายเจ้านี่ ดูเผินๆไม่ดีเอามากๆ แต่ดูให้ดีแล้ว เป็นผู้มีบุญญา โอรสสวรรค์”
“แต่ชะตาชีวิตยากลำบากนัก”
หยุนหว่านหนิงจำได้แม่นยำ
ตอนแรกที่คลอดหยวนเป่า เป็นเวลากลางดึก
สายฟ้าแลบฟ้าผ่ายามดึก นางไม่มีหมอตำแย มีเพียงแม่นมจางวิ่งเข้าวิ่งออกเป็นพัลวัน…
นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ว่า ทำไมทั้งๆที่รู้ว่าแม่นมจางชอบเล่นแง่ เจ้าเล่ห์เพทุบาย และยังชอบกินทั้งยังขี้เกียจ แต่หยุนหว่านหนิงไม่ได้ไล่นางไป
ตอนที่นางคลอดหยวนเป่า แม่นมจางช่วยนางต้มน้ำ ชำระล้างตัว
ลมกระหน่ำพัดหน้าต่างไปมา พายุฝนสาดใส่กระเซ็นเข้ามาด้วยกัน หยุนหว่านหนิงเจ็บจนร้องไม่ออก
นางตัดสายสะดือด้วยตัวเอง และมีเสียงสายฟ้าฟาดดังสนั่นในเวลาเดียวกับเสียงร้องไห้ดังของหยวนเป่า….
“คิดอะไรอยู่น่ะ?”
เสวียนซันเซียนเซิงยื่นมือออกมาปัดไปมาต่อหน้านาง อ้าปากแล้วเต็มไปด้วยกลิ่นเนื้อวัว “ลูกชายเจ้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้แล้ว”
“ตอนนี้ยังไม่มีอันตรายอะไร! เด็กคนนั้นเฉลียวฉลาด ไม่เป็นอะไรหรอก” เสวียนซันเซียนเซิงพูดอย่างเนิบช้า
ไม่เป็นอะไร มีสองความหมาย
หนึ่งคือตอนนี้หยวนเป่าไม่เป็นไร
สองคือต่อให้พวกเขายังหาหยวนเป่าไม่เจอ เขาก็ไม่เป็นอะไร
หยุนหว่านหนิงเก็บหัวใจกลับเข้าอก และมองเขาอย่างน้ำตาคลอเบ้าอีกว่า “งั้น งั้นใครกันลักพาตัวลูกชายข้าไป? ทำไมต้องไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ด้วย?”
ทิศตะวันออกเฉียงใต้…
ไม่ใช่ตงจวิ้นรึ?!
หยุนหว่านหนิงสงสัยขึ้นมาในแวบแรกทันทีว่า เป็นฝีมือยัยตัวร้ายหนานกงเยว่นั่น!
นางต้องพาตัวหยวนเป่าของนางไปเพื่อแก้แค้นนางแน่!
แต่พอคิดดูอีกที หนานกงเยว่อาจจะยังไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น
เพราะถึงหยวนเป่าจะยังเด็ก แต่ก็เก่งพอตัว
“พูดยาก”
เสวียนซันเซียนเซิงส่ายหัวบอก “ทิศทางของพวกเขาไม่ชัดเจน เปลี่ยนแปลงทิศทางไปมา ส่วนว่าเป็นใครนั้น…เจ้าคิดว่าข้าเป็นเซียนหรือไง?”
“ยังจะสามารถมองไกลพันลี้ได้รึ?”
หยุนหว่านหนิงก็รู้สึกว่านางดูจะเรียกร้องมากไปหน่อย
นางถามอย่างไม่ยอมแพ้อีกครั้ง “แน่ใจว่าลูกชายข้าไม่เป็นอะไร และจะไม่เป็นอะไรแน่นะ?”
“เจ้าลูกชายของเจ้านั่นเฉลียวฉลาดจะตาย! ใครจะทำอะไรเขาได้…”
เสวียนซันเซียนเซิงพึมพำออกมา
หยุนหว่านหนิงวางใจได้เสียที!
ทิศตะวันออกเฉียงใต้หรอ?!
นางเลยสั่งให้คนพลิกฟ้าและแผ่นดินทิศตะวันออกเฉียงใต้ตามหา!
นางกำลังจะไป ก็ได้ยินเสียงเสวียนซันเซียนเซิงพูดเนิบช้าขึ้นมา “เจ้าจะไปแล้วรึ? นี่มันถึงฝั่งแล้วแยกทางชัดๆ! ข้าจัดการให้เจ้าแล้ว เจ้าก็สะบัดกีบไปเลยงั้นสิ?”
สะบัดกีบ….
เห็นนางเป็นลาหรือไง?!
หยุนหว่านหนิง “ข้าไม่ได้ให้อาหารเลิศรสมากมายเป็นของกำนัลแก่ท่านแล้วหรือไง?”
“ข้ามันตาแก่โดดเดี่ยวเดียวดายคนเดียว ลูกศิษย์ของข้าก็โดนเจ้าหลอกลงเขาไปแล้ว หรือว่าเจ้าจะไม่สามารถมีแก่ใจเมตตาสงสารผู้อาวุโส อยู่พูดคุยเป็นเพื่อนตาแก่อย่างข้ารึ?”
เสวียนซันเซียนเซิงไม่พอใจ
หยุนหว่านหนิงร้อนใจมาก “วันอื่นแล้วกัน! ข้าจะไปตามหาลูกชายข้าก่อน!”
“ข้าบอกแล้วว่าลูกชายเจ้าไม่เป็นไรหรอก เจ้ากลัวอะไร?”
เสวียนซันเซียนเซิงตบมือ พลางปัดเศษขนมบนเคราออก “เจ้ามานั่งก่อน พวกเราคุยกัน”
“ถ้าเจ้าปฏิเสธข้า ข้าจะแสดงอภินิหารจับเจ้าค้างอยู่กับที่! เจ้ารู้ดี ข้าเป็นยอดฝีมือเร้นหลบ เซียนอาวุโส ข้ารู้วิชาเซียนนะ”
พูดไป เขาก็ยกมือทำท่าวาดมือขึ้นมา ท่าทางเหมือนจริง
หยุนหว่านหนิง “…”
นางอยากปฏิเสธมากจริงๆ!
เมตตาผู้อาวุโสอะไร….
ตอนนี้ลูกชายนางสำคัญที่สุด!
แต่คำแรกที่เสวียนซันเซียนเซิงพูดก็ทำให้ขาที่ยกขึ้นของนางวางลงอีก นางมองเสวียนซันเซียนเซิงด้วยสีหน้าชะงักค้าง “เมื่อครู่ท่านว่าอะไรนะ?!”