อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 424 คุณชายน้อยอารมณ์เสีย
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 424 คุณชายน้อยอารมณ์เสีย
มือปราบจับผมของนางเอาไว้ “เด็กคนนั้นล่ะ?”
“เด็ก เด็กอะไร?”
หญิงนางนั้นตัวสั่นไม่หยุด
ในฤดูกาลนี้ น้ำเย็นหนึ่งอ่างราดลงมาจากศีรษะ นางเปียกโชกไปหมดทั้งตัว หญิงนางนั้นตัวสั่นขึ้นมา สายตาที่มองไปทางมือปราบเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว “นายท่าน ข้า ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดนะ!”
“ข้าคือพลเมืองดี พวกท่านจับตัวข้าทำไม?”
มือปราบขมวดคิ้ว “เจ้ากับชายร่างใหญ่คนนั้น พาเด็กมาด้วยคนหนึ่งไม่ใช่หรือ?”
“เด็กอะไร ข้าไม่รู้เรื่อง! ชายร่างใหญ่อะไร ข้าก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน!”
หญิงนางนั้นกล่าวตอบอย่างตื่นตระหนกตกใจ
นางมองไปรอบๆ เห็นตัวเองอยู่ในคุกใต้ดิน ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อทันที “ที่นี่คือที่ไหน ข้าจะกลับบ้าน ข้าจะกลับบ้าน!”
ความหวาดกลัวและตื่นตระหนกในดวงตาของนาง ดูไม่เหมือนแสร้งทำออกมา
นอกจากความหวาดกลัวและตื่นตระหนกแล้ว ยังมีความไม่ประสีประสาเล็กน้อยนั่น ก็ดูเหมือนจริงอย่างมากเช่นกัน
“อย่ามาทำไขสือกับข้า!”
มือปราบคว้าเครื่องลงทัณฑ์ที่อยู่ด้านข้างขึ้นมา “หากเจ้าไม่สารภาพมาตามตรง ข้าก็จะให้เจ้าไปพบพญายม!”
หญิงนางนั้นตกใจจนร้องไห้ออกมา เอาแต่พูดว่าไม่รู้อะไรทั้งนั้นอย่างเดียว ยิ่งไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน
สุดท้าย แม้กระทั่งตัวเองชื่อแซ่อะไรก็ไม่รู้แล้ว……
ทำไมถึงปรากฏตัวที่นี่ ก็ยิ่งไม่รู้เข้าไปใหญ่!
ถึงแม้เครื่องลงทัณฑ์จะประทับลงมา ทิ้งรอยแผลที่น่ากลัวเอาไว้บนไหล่ของนาง หญิงนางนั้นก็ยังกัดฟันตอบว่าไม่รู้ ไม่สามารถตอบอะไรได้เลย
แม้กระทั่งบาดแผลบนศีรษะของนาง นางก็ไม่รู้ว่าปรากฏขึ้นมาได้อย่างไร
หญิงนางนี้ใช้ไม่ได้ทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง มือปราบก็หมดหนทางแล้ว
ตอนนี้สามารถแน่ใจได้ว่า ชายร่างใหญ่คนนั้นผิดปกติจริงๆ
เด็กคนนั้น มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นพระนัดดาองค์โตเตี้ยนเซี่ย!
นอกจากรายงานเรื่องนี้ขึ้นไป และส่งคนไล่ตามไปแล้ว……
หญิงนางนี้ก็จะฆ่าทิ้งไม่ได้ นางเป็นจุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวในการทะลวงปราการแล้ว!
ภายใต้ความจนใจ มือปราบได้แต่ขังหญิงนางนั้นเอาไว้ในคุกใต้ดิน สั่งให้คนมาควบคุมเอาไว้อย่างดี
……
ตกกลางคืน บริเวณโดยรอบมีเสียงนกร้องที่แปลกประหลาดดังมาเป็นระยะๆ
ในป่าหุบเขาที่ว่างเปล่า เสียงลมพัดหวีดวิว
แสงจันทร์ถูกบดบังอยู่ภายใต้กลุ่มเมฆ ไม่เห็นดวงดาวระยิบระยับ บริเวณโดยรอบมืดจนมองไม่เห็นอะไร
หยวนเป่าขดตัวอยู่ใต้ต้นไม้ สองมือกอดเข่าเอาไว้แน่น คนทั้งคนขดตัวเป็นก้อนเล็กๆ เขานอนหลับไม่ค่อยสนิท พึมพำขึ้นมาเป็นระยะๆ “ท่านแม่ ท่านแม่”
“ฮือๆๆท่านแม่”
หยวนเป่าสะอื้นเสียงเบา
ชายร่างใหญ่ที่นั่งอยู่ด้านข้างขมวดคิ้วแน่น
เขาไม่กล้าก่อไฟ และไม่กล้านอนหลับ ได้แต่เฝ้าอยู่ข้างกายของเขาเท่านั้น
พูดด้วยจิตใจ เด็กตัวเล็กแค่นี้…..
สามารถติดตามเขาเดินทางไกลขนาดนี้ เดินจนเท้าเป็นแผลยังไม่บ่นสักคำ ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่จริงๆ!
ตอนกลางคืนอากาศหนาวมาก แล้วเขาก็ไม่ใช่คนที่อบอุ่น
เลยได้แต่ถอดเสื้อตัวหนาที่อยู่ด้านนอก คลุมเอาไว้บนตัวของหยวนเป่า
ยังต้องเฝ้ารักษาการณ์บริเวณโดยรอบ ป้องกันไม่ให้ใครไล่ตามมา
ป้องกันไม่ให้สัตว์ร้ายตื่นจากการจำศีลในฤดูกาลนี้ ออกมาหาอาหาร
ถึงแม้เจ้าเด็กคนนี้จะมีฐานะสูงส่ง แต่กลับไม่บอบบางกลัวความลำบากเลย ที่บอกว่าเขาไม่บอบบางกลัวลำบาก แต่กลับจู้จี้จุกจิกมากกว่าใคร……ระหว่างที่มานี้ต้องกินและดื่มของดีมาตลอดทาง
ถ้าหากเขาหนาวจนเป็นหวัด จะยิ่งลำบากมากขึ้นไปอีก
หลังเที่ยงคืน จู่ๆหยวนเป่าก็สะดุ้งตื่นขึ้นมากะทันหัน
เขาลุกขึ้นมานั่งทันที เห็นชายร่างใหญ่ที่อยู่ด้านข้างไม่รู้ว่าพิงหลับอยู่บนลำต้นของต้นไม้ตั้งแต่เมื่อไหร่
โอกาสมาแล้ว!
หยวนเป่าอยากจะลุกขึ้นแล้วหนีไปมาก แต่ก็รู้ว่าถึงแม้ว่าเขาจะหนีไป ในป่าเขาที่มืดมิดเช่นนี้ เด็กน้อยอย่างเขาหนีไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ก็จะถูกชายร่างใหญ่จับตัวกลับมาอีก
ถึงเวลานั้น ไม่แน่ว่ายังจะต้องถูกซ้อมอย่างหนักก็เป็นได้!
ถ้าหากชายร่างใหญ่ยิ่งระมัดระวังตัวมากขึ้น เขาก็จะไม่มีโอกาสหลบหนีอีกต่อไป!
หยวนเป่าถอนหายใจอย่างเงียบๆเฮือกหนึ่ง สองมือวางรองศีรษะเล็กๆเอาไว้ มองดูท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยเมฆดำอย่างเศร้าสร้อย
เขาอยู่อย่างเชื่อฟังดีกว่า ให้ชายร่างใหญ่ผ่อนคลายความระมัดระวังตัวก่อนจะดีกว่า
ด้วยเหตุนี้ตอนที่ชายร่างใหญ่ตื่นมา ก็เห็นหยวนเป่ากอดเข่าเอาไว้และกำลังนับมดอยู่
ฟ้าสว่างแล้ว
กลางคืนน้ำค้างลงหนา เสื้อผ้าบนร่างกายของทั้งคู่ล้วนเปียกไปด้วยน้ำค้าง ชายร่างใหญ่เดินทางอย่างรวดเร็วตลอดทาง ดังนั้นพลทหารที่ไล่ตามมาพวกนั้นไม่สามารถไล่ตามทันได้ง่ายๆ
เขาเปลี่ยนเส้นทางอย่างต่อเนื่อง ยากที่จะพบร่องรอยของพวกเขาเช่นกัน
“เจ้าตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่?”
ชายร่างใหญ่มองดูเขาอย่างระมัดระวัง
“ไม่รู้”
หยวนเป่าถือกิ่งไม้เอาไว้กำลังแกล้งมดอยู่ “ตื่นมานานมากแล้ว! ฟ้ายังไม่สว่างเลย!”
“ทำไมเจ้าไม่เรียกข้าให้ตื่น?”
ชายร่างใหญ่มองดูเขาด้วยสีหน้าท่าทางที่แปลกประหลาด
หากเป็นเด็กคนอื่น อาจจะฉวยโอกาสตอนที่เขากำลังนอนหลับหนีไปแล้วใช่ไหม? แต่เจ้าเด็กเปรตคนนี้ดันยังอยู่เงียบๆ นั่งอยู่ข้างกายของเขา
หรือว่าโง่ไปแล้ว?
ไม่รู้จักวิ่งหนีไป? !
“ข้ากลัวท่านตีข้า”
หยวนเป่ากล่าวอย่างดูไม่มีความสุข “ท่านป้าคนนั้น ก็ถูกท่านใช้ก้อนหินทุบจนหมดสติไป”
“ข้ากลัวว่าท่านจะใช้ก้อนหินทุบข้าด้วย!”
คำพูดของเด็กไม่ควรถือสา
ชายร่างใหญ่ยังอดรู้สึกขบขันกับคำพูดของเขาไม่ได้
ชายร่างใหญ่ที่หัวเราะขึ้นมา บนใบหน้ามีความอ่อนโยนที่สังเกตเห็นได้ยากเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย เห็นหยวนเป่าเงยหน้ามองดูเขา เขารีบปั้นหน้าบึ้งตึงระงับรอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้ทันที
“ถือว่าเจ้ารู้ดี!”
เขาฮึเสียงเย็นชา “หิวหรือยัง?”
“หิวแล้ว”
หยวนเป่าพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา ยังกลืนน้ำลายลงคออีกด้วย
เมื่อวานตอนอยู่ในโรงเตี๊ยม เดิมทีเขาก็กินไม่อิ่มอยู่แล้ว
อาหารพวกนั้นถึงแม้จะไม่อร่อยเท่าที่ท่านแม่ทำ แต่อย่างไรก็สามารถทำให้อิ่มท้องได้
ได้ยินเพียงลูกค้าสองสามท่านนั้นพูดถึงท่านแม่กับท่านพ่อ หยวนเป่าก็คิดถึงพวกเขาขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ ดังนั้นจึงกินอะไรไม่ลง ถูกชายร่างใหญ่อุ้มเอาไว้แล้วจากไปเลย
ตลอดทางที่มา เขาก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย รู้สึกหิวมากแล้วจริงๆ
“กิน”
ชายร่างใหญ่ไม่พูดอะไรมาก
เขาหยิบกล่องอาหารมา ข้างในคืออาหารที่ห่อมาจากโรงเตี๊ยมเมื่อวานนี้
หยวนเป่าส่ายหน้าอย่างดื้อรั้น “มันเย็นแล้ว กินไม่ได้แล้ว ท่านแม่ของข้าบอกว่า กินอาหารที่เย็นแล้ว โดยเฉพาะของคาวพวกนี้ จะทำให้ท้องเสียได้!”
ชายร่างใหญ่: “……หากเจ้าพูดว่าแม่ของเจ้าบอกว่าอีกครั้งหนึ่ง ข้าจะตีเจ้า!”
หยวนเป่าปั้นหน้าบูดบึ้ง “ท่านจะให้ข้าหิวตายหรือ?”
“ถึงอย่างไรอาหารที่เย็นแล้วข้าไม่กิน”
เขาหันหลังไปและนั่งหันหลังให้กับเขา “ถึงแม้ท่านจะลักพาตัวข้า ก็จะให้ข้าหิวไม่ได้ใช่ไหม! มิเช่นนั้นคนที่จ้างวานให้ท่านมาลักพาตัวข้า ก็จะไม่ปล่อยท่านไปเช่นกัน!”
“เช่นนั้นเจ้าบอกมาว่าจะทำอย่างไร!”
ชายร่างใหญ่เห็นเขาทำ “นิสัยคุณชายน้อย” อีกแล้ว เขาโกรธจนได้แต่บีบหว่างคิ้ว “ในถิ่นทุรกันดารนี้ ยังสามารถทำอะไรได้อีก? !”
“เช่นนั้นท่านก็หาวิธีอุ่นให้ข้า”
หยวนเป่าเห็นเขายอมลดละ “เมื่อคืนเสื้อผ้าของข้าเปียกน้ำค้างไปหมด หนาวมาก จะทำให้เป็นหวัดได้”
ชายร่างใหญ่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน อวัยวะทั้งห้าบนใบหน้าบีบกันเป็นก้อน “เจ้าแม่งช่างเป็นคนหาเรื่องเก่งจริงๆ!”
“ใครใช้ให้ท่านมาลักพาตัวข้าล่ะ”
หยวนเป่าเบ้ปากเล็กๆ “ข้ากินดีอยู่ดีมาตั้งแต่เด็ก คุ้นเคยกับการถูกดูแลปรนนิบัติ ข้ามันบอบบางกลัวความลำบากเช่นนี้แหละ ถ้าหากท่านไม่ดูแลปรนนิบัติข้าให้ดี ข้าก็จะป่วย เมื่อข้าป่วยขึ้นมาก็จะไม่……”
“หุบปาก!”
ชายร่างใหญ่รู้สึกว่ามียุงบินไปบินมาส่งเสียงหวี่ๆๆอยู่ข้างหูอีกแล้ว!
เขาหยุดหยวนเป่าเอาไว้อย่างหงุดหงิด “เจ้าเด็กเปรตคนนี้ ตอนนอนหลับน่ารักมากกว่าจริงๆ!”
“ข้าก่อไฟให้เจ้าก็ได้! เจ้าหุบปากเอาไว้ให้ดี!”
เขาหันหลังไปเก็บฟืน ยังไม่ลืมข่มขู่หยวนเป่า “หากเจ้ากล้าหนี ข้าจะตีขาของเจ้าให้หัก!”
หยวนเป่าปิดปากเอาไว้ นั่งลงใต้ต้นไม้อย่างเชื่อฟัง ทำท่าทาง “ข้าเชื่อฟังมากข้าจะไม่หนีไปไหน” แต่ในตอนที่ชายร่างใหญ่หันไปเก็บฟืน ในดวงตาของหยวนเป่ามีแสงสว่างแวบผ่านไปเล็กน้อย……