อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 91 เนื้อย่าง
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ ตอนที่ 91 เนื้อย่าง
หยุนเจิ้นซงคิดไม่ถึงว่า หยุนหว่านหนิงจะปล่อยเขาเลือกจัดการกับหยุนธิงหลานอย่างไรก็ได้
ตอนนั้นเองก็ตกตะลึงไปชั่วครู่ มีเพียงหยุนธิงหลานฉายแววเปล่งประกายด้วยความยินดี มองมาทางเขาด้วยสายตามีความหวัง
ปกติท่านพ่อรักเอ็นดูนางที่สุด…
แต่วินาทีถัดมา กลับได้ยินหยุนหว่านหนิงพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ยิ่งกั๋วกงต้องคิดให้ดีว่าควรจะตอบอย่างไร! เรื่องนี้ข้ายังต้องรายงานกับเสด็จพ่อ หากเจ้าลำเอียงแล้วถูกเสด็จพ่อรู้เข้า…”
นางยกโม่จงหรานมากดดันเขา!
คนที่หยุนเจิ้นซงหวาดกลัวที่สุด ย่อมต้องเป็นโม่จงหราน
เขากลืนคำที่เตรียมพูดทันที แล้วพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “เรื่องนี้ข้าขอคิดให้ดีก่อน!”
“ให้ข้าคิดให้ดีก่อน!”
“ขอคิดให้ดีก่อนย่อมได้ วันนี้ข้ามีเวลาเยอะพอดี”
ความหมายคือหากหยุนเจิ้นซงไม่ให้คำตอบที่พึงพอใจ หยุนหว่านหนิงก็จะรั้งอยู่ในจวนยิ่งกั๋วกงไม่ไปไหน!
ขณะนั้นหยุนเจิ้นซงก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก รอยยิ้มบนใบหน้าก็แข็งค้าง
หยุนธิงหลานเกือบจะกัดฟันแทบแตก กำมือทั้งสองแน่น ” หยุนหว่านหนิง วันนี้เจ้าจะไม่ยอมจนกว่าข้าจะตายใช่หรือไม่”
“หากไม่ใช่ข้า เจ้าคงทำให้ธิงธิงตายไปนานแล้ว”
หยุนหว่านหนิงหันหน้ามองนางยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม “เป็นอะไรไป บทบาทเจ้าที่เป็นคนอ่อนโยนเห็นอกเห็นใจผู้อื่น แสดงต่อไปไม่ไหวแล้วหรือ”
หยุนธิงหลานปิดปากอย่างไม่สมัครใจ
นางเฉินคิดจะขอความเมตตา พอเห็นสีหน้าหยุนเจิ้นซงน่าเกลียดมาก ก็ไม่กล้าพูดส่งเดช
ในขณะที่ สองแม่ลูกไม่กล้าที่จะระบายความโกรธออกมมา
ผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง หยุนเจิ้นซงก็กัดปากกล่าวว่า “หลานเอ๋อร์ลงมือทำร้ายน้องสาวแท้ ๆ ของตัวเอง ทำให้พ่อใจสลายจริง ๆ!”
“เอาเช่นนี้ละกันธิงธิง เจ้าเห็นว่าจะจัดการเจ้าอย่างไร ถึงจะบรรเทาความคับแค้นในใจเจ้าได้”
เขาพยายามเตะลูกหนังนี้ ใส่หัวของหยุนธิงธิง
แต่ดูเหมือนจะลืมไปว่า หยุนธิงธิงถูกทำให้โกรธจนสลบไปแล้ว
หยุนหว่านหนิงมองเขาอย่างขบขัน
ใบหน้าแก่ชราหยุนเจิ้นซงแข็งทื่อ “ไม่งั้นก็นำหลานเอ๋อร์ขังไว้ในห้องบรรพชนให้สำนึกผิด คัดกฎบ้านร้อยจบ!หลังรอธิงธิงฟื้นแล้ว ค่อยถามความเห็นของนาง”
บทลงโทษนี้ ก็ไม่เลว
หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้วขึ้น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จบเถอะ”
แน่นอนว่าย่อมควรให้หยุนธิงธิงเป็นคนตัดสินใจเอง ไม่อย่างนั้นความคับแค้นในใจนี้เกรงว่าจะไม่บรรเทาลง
“แล้วนางล่ะ”
นางยื่นมือ ชี้ไปทางนางเฉิน
เฉินซื่อสะดุ้ง หลบสายตาไม่กล้ามองพวกเขาอีก
หยุนเจิ้นซงลำบากใจ
กับนางเฉินนั้นเขาไม่อาจตัดใจ แต่ก็ชิงชังเช่นกัน…นางทำร้ายสตรีบริสุทธิ์ผู้หนึ่งตายไป แล้วยังแย่งบุตรสาวของผู้อื่นมาเป็นของตน
หลายปีมานี้ ก็ละเลยหยุนธิงธิง ปล่อยให้หยุนธิงหลานรังแกนางสารพัด
หยุนเจิ้นซงก็ยังไม่รู้ว่า ควรจะจัดการนางอย่างไรดี
สุดท้าย ได้แต่ปลดตำแหน่งภรรยาเอกของนางเฉินให้นางกลับไปเป็นอนุภรรยาอีกครา…
และกักบริเวณ อีกทั้งไม่มีกล่าวว่าจะมีการยกเลิกกักบริเวณเมื่อใด
สภาพจิตใจของหยุนธิงธิงแย่มาก หยุนหว่านหนิงไม่อาจวางใจ จะพานางกลับจวนอ๋องหมิง
ดีที่ครั้งนี้โม่เยว่ออกหน้าให้นางมาก ไม่ได้โกรธเคืองเพราะเรื่องนี้ กลับกันก็กำชับบ่าวรับใช้ให้ดูแลหยุนธิงธิงให้ดี
ขณะเดียวกันก็ทำให้หยุนหว่านหนิงประหลาดใจ ซาบซึ้งมากขึ้นหลายส่วน
วันนี้บุรุษผู้นี้ต้องกินยามาผิดแน่ ถึงได้ออกหน้าให้นางขนาดนี้ แล้วยังอ่อนโยนและใส่ใจเช่นนี้อีก
……
ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ หยุนหว่านหนิงไม่เพียงดูแลรักษาร่างกายให้หยุนธิงธิง แล้วยังเข้าวังดูแลรักษาร่างกายให้โม่จงหราน อาจเป็นเพราะนางมีบุคลิกที่ตรงไปตรงมา แม้แต่บุตรีชนชั้นสูง บรรดาองค์หญิงก็ไม่ได้ร่าเริงสดใสเหมือนกับนาง
ดังนั้นในบรรดาลูกสะใภ้หลายคน โม่จงหรานจึงปฏิบัติต่อนางเหมือนลูกสาว ไม่เคยเห็นเป็นคนนอก
ต่อหน้าโม่จงหรานหยุนหว่านหนิงก็ค่อย ๆ ไม่มีความรู้สึกเก้ๆกังๆขนาดนั้นแล้ว
เมื่อกลับจากวัง ก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว
วันนี้หยุนธิงธิงดูสภาพจิตใจดีขึ้นมาก
ตอนนี้เป็นเดือนอ้าย ปีนี้ในพระราชวังไม่ได้จัดงานเลี้ยงพิเศษคืนสู่เหย้า
เพราะโม่หุยเฟิงอยู่ห่างไกลถึงชายแดน โม่จงหรานใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้าง เพียงตกรางวัลเล็กน้อย และไม่ได้เชิญเหล่าข้าราชการเข้าวังร่วมงานเลี้ยง
ตลอดวันขึ้น 7 ค่ำเดือนอ้าย โม่จงหรานรับสั่งฮองเฮาจ้าวเตรียมงานเลี้ยงของราชวงศ์
หรือก็คือเมื่อวาน
วันนี้คือวันขึ้น 8 ค่ำ เดือนอ้ายแล้ว
วันก่อนวันส่งท้ายปีเก่าของปีนี้ ก็หายากที่จวนอ๋องหมิงมีคืนสู่เหย้าที่มีความสุขกันสักรอบเช่นกัน
หยุนหว่านหนิงเพิ่งจะกลับจวนอ๋อง คนจากตำหนักเว่ยหยาง กล่าวว่าตอนบ่ายโม่เฟยเฟยต้องการมาที่จวนอ๋องหมิง
“นางจะมาทำอะไร”
คำว่างงงวยเขียนเต็มใบหน้าหยุนหว่านหนิง
หยุนธิงธิงมองนางด้วยสายตาไม่เข้าใจ “พี่หญิงใหญ่ จะอย่างไรท่านก็เป็นพี่สะใภ้ขององค์หญิงเก้า!น้องสาวของสามีมาจวนท่าน ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่ปกติหรอกหรือ”
เป็นเพราะหยุนหว่านหนิงช่วยนางไว้ ธิงธิงนี่จึงมีท่าทีปฏิบัติต่อนางดีกว่าเมื่อก่อนไม่น้อย
แต่ยังมักจะมองนางด้วยใบหน้าอย่างเหยียดหยาม บอกว่านางเมื่อก่อนไม่มีสมอง ชอบรนหาที่ตายอยู่เรื่อย
ณ ตอนนั้น หยุนหว่านหนิงจุกความโกรธจนพูดไม่ออก
นี่โทษนางได้หรือ!
ตอนนางเพิ่งทะลุมาก็ถูกชายปากหมาโม่เยว่ผู้นั้นกักบริเวณแล้ว หากบอกว่าเกลียดก็เป็นการเกลียดหยุนหว่านหนิงคนก่อน เกี่ยวข้องอะไรกับนางกันล่ะ!
หยุนธิงธิงก็รู้ถึงการมีตัวตนของหยวนเป่าแต่แรกแล้ว
แต่ หยุนหว่านหนิงก็ไม่ได้บอกว่าหยวนเป่าเป็นลูกของใครกันแน่
เหมือนกันกับคนอื่น ๆ ที่รู้ถึงการมีตัวตนของหยวนเป่า หยุนธิงธิงเพียงแต่คิดว่า หยวนเป่าเป็นลูกของบ่าวรับใช้
นางมักจะพูดเกลี้ยกล่อมหยุนหว่านหนิงไม่ยอมหยุด “ข้าว่าพี่เขยใหญ่ปฏิบัติต่อท่านไม่เลวเลย!ถือโอกาสที่ท่านยังสาว พยายามคลอดลูกให้พี่เขยใหญ่สักคนสิ!”
“ไม่เช่นนั้นใจพี่เขยใหญ่รังเกียจ แล้วสักวันหนึ่งท่านอาจถูกกักบริเวณอีก”
หยุนหว่านหนิง “…”
เด็กนี่รู้จักพูดหรือไม่เนี่ย
เห็นหยุนธิงธิงเหมือนหญิงชราที่ชอบพูดเกลี้ยกล่อมว่านั้นนี่ดีสำหรับนาง หยุนหว่านหนิงทำได้เพียงตอบอย่างนิ่งเงียบ
คนตำหนักเว่ยหยางเพิ่งไป นางก็ถูกหยุนธิงธิงคว้ามา “สั่งสอน” อีกคราว
“หายากที่องค์หญิงเก้าจะมาจวนพวกเราสักครา วันนี้ข้าจะเข้าครัวเอง”
หยุนหว่านหนิงตบหลังมือของนาง “วันนี้อากาศดี เจ้าอาบแดดเสริมแคลเซียม!บำรุงสมอง อาบแดดบ่อยจะได้ตาสว่าง”
เด็กนี่ตาไร้แววเป็นแน่
เห็นชัดว่าหยวนเป่าเหมือนโม่เยว่ทุกกระเบียดนิ้ว นางยังคิดว่าเป็นลูกของบ่าวรับใช้…
ช่วงขณะหนึ่ง เห็นหยุนธิงธิงกำลังจะโต้แย้ง แล้วนางรีบกล่าวว่า “เจ้าไม่เคยกินเนื้อย่างใช่ไหม”
“วันนี้ข้าจะทำเนื้อย่างให้พวกเจ้ามื้อหนึ่ง! รับรองว่าทำให้พวกเจ้าต้องอยากกินจนน้ำลายสอ!”
ดั่งสำนวนที่ว่า หากอยากมัดใจบุรุษ ต้องคว้ากระเพาะเขาให้ได้ก่อน
หยุนหว่านหนิงใช้ทักษะการทำอาหารสมัยปัจจุบัน “ขั้นเทพ” ของนาง คว้ากระเพาะของโม่เยว่อย่างเหนียวแน่น…เพียงแต่ยังไม่รู้ว่า จะมัดใจเขาได้หรือเปล่า
วันนี้ นางจะใช้วิธีนี้นี่แหละ มาคว้ากระเพาะของโม่เฟยเฟย!
วันหน้าน้องสาวสามีผู้นี้เจอนาง แล้วไม่ชี้จมูกไปทางนางอีก!
หยุนหว่านหนิงม้วนแขนเสื้อขึ้นแล้วเข้าไปในครัว สั่งให้คนรับใช้เตรียมวัตถุดิบให้นาง
ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว ก็หรูเยียนเข้ามารายงาน กล่าวว่าองค์หญิงเก้ามาถึงแล้ว
นางก็ถามโดยไม่หันไป “ท่านอ๋องกลับมาแล้วหรือยัง”
หรูเยียนส่ายหัว “ยังเจ้าค่ะ! ท่านอ๋องไปรับคุณชายน้อยหยวนเป่าที่ตระกูลกู้ แล้วบอกว่าอาจจะทานอาหารกลางวันที่นั่น และตอนบ่ายถึงจะกลับมาเจ้าค่ะ”
ในเมื่อเป็นอย่างนี้ โม่เยว่ชายปากหมาผู้นี้ จะให้นางเผชิญหน้าคนเดียวกับโม่เฟยเฟยหรือไร!