อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่292 โม่เยว่ของเจ้าจะฆ่าคน
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่292 โม่เยว่ของเจ้าจะฆ่าคน
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หรูอวี้ก็กลับมาอย่างเหงื่อเต็มหน้า
“พระชายา พระชายา ท่านลงจากเตียงได้หรือยัง?”
เขาเคาะประตูและตะโกน
หยุนหว่านหนิงยังไม่นอน
หยวนเป่ากับโม่จงหรานเดินเล่นกันสนุกสนาน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา นางวางหนังสือแพทย์ในมือลง สั่งให้หรูเยียนเปิดประตู ปล่อยให้หรูอวี้เข้ามา
“เกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อเห็นหรูอวี้หอบ นางขมวดคิ้วและถาม
“นายท่านจะฆ่าคนแล้ว!”
หรูอวี้พูดอย่างกระวนกระวายว่า “หากพระชายาสามารถลงจากเตียงได้แล้ว ไปที่จวนอ๋องฮั่นหน่อยเถอะขอรับ!”
“หากไปช้า เกรงว่าอ๋องฮั่นจะมีอันตราย!”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?!”
หยุนหว่านหนิงตกตะลึง
โม่เยว่กลับไปที่เรือนทิงจู่แล้วไม่ใช่หรือ? !
ทำไมถึงไปจวนอ๋องฮั่น? !
“เรื่องมันยาว! แต่คืนนี้นายท่านโกรธมาก และไม่รู้ว่าอ๋องฮั่นล่วงเกินนายท่านอย่างไร ดังนั้นนายท่านจึงไปที่จวนอ๋องฮั่นด้วยท่าทางอาฆาต ตอนนี้……”
หรูอวี้ยังพูดไม่จบ เสียงของโจวหยิงหยิงก็ดังมาจากข้างนอก
“หนิงเอ๋อร์!”
นางก็วิ่งเข้ามาในเรือนชิงหยิ่งด้วยความตื่นตระหนก “หนิงเอ๋อร์ รีบไปห้ามเจ้าเจ็ดหน่อยเถอะ!”
“ไม่รู้ว่าท่านอ๋องของข้าทำอะไรเขา เขาจะฆ่าโม่ฮั่นอี่ว์ของข้า!”
นับตั้งแต่ที่รู้จักกับโจวหยิงหยิงมา ในสายตาของหยุนหว่านหนิง นางเป็นคนที่ร่าเริงมาโดยตลอด มีนิสัยปากจัดและตรงไปตรงมา
คืนนี้ หยุนหว่านหนิงเห็นนางตื่นตระหนกเช่นนี้เป็นครั้งแรก
“พี่สะใภ้รอง เกิดอะไรขึ้น?เจ้าค่อยๆพูด”
โจวหยิงหยิงมาขอความช่วยเหลือ แน่นอนว่าหยุนหว่านหนิงก็จะต้องช่วยอยู่แล้ว……แม้ว่าตอนนี้สมองยังรู้สึกเวียนเล็กน้อย แต่นางก็พลิกตัวลงจากเตียงทันที
ขณะที่ทั้งสองเดินออกไปที่นอกประตู หยุนหว่านหนิงก็ให้โจวหยิงหยิงพูดที่ไปที่มาของเรื่องให้นางฟัง
“ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน”
โจวหยิงหยิงเพียงเอาแต่ร้องไห้ สีหน้าตะขิดตะขวงใจเหมือนกลัว
“ตอนโม่ฮั่นอี่ว์ถูกคนของเสด็จพ่อส่งกลับมา ยังดีๆอยู่เลย! ได้ยินเพียงว่าเสด็จพ่อออกคำสั่ง ให้เขากินได้แต่ข่าวเปล่ากับน้ำในครึ่งปีนี้……”
นางจับมือของหยุนหว่านหนิง ร่างกายของนางสั่นเล็กน้อย
หรูเยียนและหรูอวี้รีบถือตะเกียง และทั้งสี่คนก็ออกไปจากจวนอ๋องหมิงพร้อมกัน
“แต่ไม่นาน เจ้าเจ็ดก็เข้าไปที่จวนอ๋องฮั่นแล้ว! เขาไม่ได้พูดสาเหตุใดๆ เพียงทุบตีโม่ฮั่นอี่ว์ของข้า”
นางเช็ดน้ำตา
“เจ้าก็รู้ว่า ตอนนี้ท่านอ๋องของข้านั้นอ้วนเหมือนหมู”
เดิมทีบรรยากาศที่ตึงเครียดนั้น ก็ผ่อนคลายลงเพราะคำพูดของโจวหยิงหยิงที่ว่า “อ้วนเหมือนหมู”
โจวหยิงหยิงเองก็กลั้นหัวเราะไม่ได้
ทั้งร้องไห้และหัวเราะ เพราะหัวเราะก็พ่นน้ำมูกฟองเล็กๆ ออกมาด้วย
โจวหยิงหยิงหน้าแดงทันที รีบใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำมูกซ้ำๆ
หยุนหว่านหนิงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “พี่สะใภ้รอง เข้าประเด็นกันเถอะ! มิฉะนั้นต่อให้ข้าไปที่จวนอ๋องฮั่น ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และจะห้ามโม่เยว่อย่างไร?”
“ออ ใช่ ใช่”
โจวหยิงหยิงยัดผ้าเข้าไปในแขนเสื้ออย่างไร้เดียงสา
นางจับมือของหยุนหว่านหนิงแล้ววิ่งไปบนถนนอย่างรวดเร็ว
“อันที่จริง ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น! เจ้าเจ็ดของท่านเข้ามาก็ทุบตีเจ้ารองของข้า”
ในยามวิกฤต โจวหยิงหยิงก็ไม่อาจสน “โม่เยว่” หรือ “โม่ฮั่นอี่ว์” อีกต่อไปได้ เพียงเอาแต่เรียกว่า “เจ้าเจ็ด” ของเจ้า และ “เจ้ารอง” ของข้า
“เจ้าก็รู้ว่า เจ้ารองของข้าสู้เจ้าเจ็ดของเจ้าไม่ได้อยู่แล้ว!”
เมื่อเห็นว่า โม่ฮั่นอี่ว์ถูกซ้อมจนหน้าช้ำ หน้าบวมไปหมด……
โจวหยิงหยิงก็ห้ามโม่เยว่เอาไว้ไม่ได้ เอาโม่จงหรานท่านนี้มาขู่ โม่เยว่ก็ไม่แยแสอะไร
ก็ยังตีอยู่เหมือนเดิม
ไม่มีทางเลือกอื่น โจวหยิงหยิงจึงมาจวนอ๋องหมิงเพื่อขอความช่วยเหลือจากหยุนหว่านหนิง
“เจ้ารองของข้าก็เคยหล่อเหลามาก่อน แต่ตอนนี้กินจนอ้วน เดิมทีก็ทนต่อการชกต่อยไม่ไหวอยู่แล้ว การตีที่โหดร้ายของเจ้าเจ็ดนั้น ตีจนเขาหน้าฟกช้ำและบวมไปหมด แทบดูไม่ได้เลย!”
เมื่อเห็นโจวหยิงหยิงทำสีหน้ารังเกียจ หยุนหว่านหนิง:“……ถึงขนาดนั้นเลยหรือ?”
“นั่นเป็นผู้ชายของเจ้านะ!”
“ผู้ชายของข้าเป็นไร? ถูกผู้ชายของเจ้าทุบตีจนพิการแล้ว!”
หยุนหว่านหนิง: “……ข้าขอโทษ”
“มันไม่เกี่ยวกับเจ้า!”
โจวหยิงหยิงยิ้ม “แต่เจ้าเจ็ดของเจ้าลงมือได้โหดเหี้ยมจริงๆ! ข้าก็ไม่รู้ว่าจะไปขอความช่วยเหลือจากใคร ดัง
นั้นข้าจึงนึกถึงเจ้า”
“เจ้าเจ็ดของเจ้าโปรดปรานเข้าเช่นนี้ ก็คงมีเจ้าเพียงคนเดียวที่สามารถหยุดเขาไว้ได้!”
หยุนหว่านหนิงทำหน้างุนงง
โม่เยว่โปรดปรานนางขนาดนั้นเมื่อไหร่? !
ทำไมในสายตาของทุกคน ล้วนคิดว่าโม่เยว่โปรดปรานนาง? !
“ทำไมไม่ไปขอเสด็จพ่อ?”
นางถามด้วยความประหลาดใจ
“ข้าจะไปกล้าที่ไหนกันล่ะ!”
โจวหยิงหยิงกลอกตามองบนใส่นาง “เจ้านึกว่า เสด็จพ่อจะโปรดปรานทุกคนเช่นเจ้าหรือ? พวกข้าสะใภ้ทั้งหลาย เสด็จรักเจ้าเหมือนลูกสาวแท้ๆเพียงผู้เดียว”
“เจ้าไปถามพี่สะใภ้ใหญ่ ถามสะใภ้ของเจ้าสามดู ใครกล้ากำเริบเสิบสานต่อหน้าเสด็จพ่อ?”
พวกเขาสะใภ้ทั้งสามคน เห็นโม่จงหรานก็ตัวสั่นไปหมด จนไม่กล้าหายใจ
ก็มีเพียงแต่อีนังหนูหยุนหว่านหนิงเท่านั้น ที่กล้ากำเริบเสิบสานต่อหน้าเสด็จพ่อ……
ไม่เพียงแต่ไม่โดนเสด็จพ่อด่า แถมยังตามใจนางทุกอย่าง!
โจวหยิงหยิงเหลือบมองนางอย่างอิจฉา
หยุนหว่านหนิงหัวเราะเยาะ
นั่นก็เพราะว่านางหน้าด้านไม่ใช่หรือ? !
หน้าด้าน ถึงจะได้กินเนื้อ
โจวหยิงหยิงและคนอื่นๆ พวกเขาไม่หน้าด้านรบกวนเสด็จพ่อเอง และยังจะมาบอกว่าเสด็จพ่อโปรดปรานนาง……หากทุกคนต่างก็หน้าด้านกันหน่อย ก็ไม่เป็นไรแล้วไม่ใช่หรือ?
“อีกอย่าง”
หลังจากวิ่งไปได้ระยะหนึ่ง โจวหยิงหยิงก็รู้สึกหอบเล็กน้อย
นางเดินช้าลง “อีกอย่าง เสด็จพ่อบอกว่า พรุ่งนี้เป็นต้นไปก็จะไม่ให้โม่ฮั่นอี่ว์กินของพวกนั้นแล้ว”
“วันนี้ เขากำลังฉวยโอกาสกินให้เต็มที่……”
“หากเชิญเสด็จพ่อไปในตอนนี้ หากเสด็จพ่อเห็นเข้า ก็จะโกรธยิ่งขึ้นไม่ใช่หรือ?!”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโม่ฮั่นอี่ว์กำลังกินอย่างมีความสุข โม่เยว่ก็เข้ามาแล้วตีเลย ตีจนเขาอาเจียนไปทั่วพื้น……
โจวหยิงหยิงส่ายหัว “หากเสด็จพ่อมา ไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยเขา แถมยังจะตีเข้าพร้อมกับเจ้าเจ็ดด้วย!”
หยุนหว่านหนิง:“……เจ้าคิดได้รอบคอบมาก!”
ขณะที่พูด สะใภ้ทั้งสองก็ได้เข้าไปในจวนอ๋องฮั่นแล้ว
ประตูของจวนอ๋องฮั่นล้มลงกับพื้น ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีคนมาซ่อมแซม คงเป็นเพราะโม่เยว่โกรธแล้วเตะประตูนี้พัง……
หยุนหว่านหนิงเห็นอกเห็นใจประตูไปหนึ่งวิ
เวลาที่เหลือ เอาไปเห็นอกเห็นใจโม่ฮั่นอี่ว์หมด
เพราะทันทีที่เข้ามา ก็ได้ยินเสียงหอนที่เหมือนฆ่าหมูของโม่ฮั่นอี่ว์ดังมาจากห้องโถงใหญ่……
สีหน้าของโจวหยิงหยิงตึงเครียด และนางมองดูหยุนหว่านหนิงอย่างลังเล “หนิงเอ๋อร์ เจ้าเข้าไปดูเถอะ ข้าไม่เข้าไปแล้ว”
หยุนหว่านหนิงสับสน “ทำไมล่ะ?”
เขาสงสารผู้ชายของตัวเอง จึงมาขอความช่วยเหลือจากนางไม่ใช่หรือ?
“ข้ากลัวว่าข้าเห็นสภาพในตอนนี้ของโม่ฮั่นอี่ว์แล้ว ความรู้สึกของข้าที่มีต่อเขาจะลดลง”
โจวหยิงหยิงยื่นมือทั้งสองข้างออก ด้วยสีหน้าที่ต่อต้าน “ข้ากลับไปที่ห้องก่อนดีกว่า! คะนึงคิดนึกถึงรูปร่างหน้าตาที่หล่อที่สุดของเขาไว้ รอให้เขาหายดีก่อนแล้วข้าค่อยมาพบเขา!”
พูดเสร็จ โจวหยิงหยิงก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
เหตุผลนี้ โดดเด่นแปลกใหม่ดีแฮะ!
หรือว่าเคล็ดลับของการ “รักกันเหมือนแรกคบ” ระหว่างโม่ฮั่นอี่ว์กับโจวหยิงหยิงหลังจากแต่งงานมาหลายปีนั้น ก็คือการพึ่งพาคะนึงคิดนึกถึงอดีต? !
“อ๊ากกก……”
เสียงกรีดร้องดังมาจากห้องโถงใหญ่อีกครั้ง ขัดจังหวะการคาดเดาของหยุนหว่านหนิง
หรูอวี้รีบพูดว่า “พระชายา รีบเข้าไปเถอะขอรับ!”
เข้าไปสายเกิน เขากลัวว่านายท่านของเขาจะฆ่าโม่ฮั่นอี่ว์ทิ้งจริง!
หยุนหว่านหนิงเลิกคิดและรีบเข้าไปในห้องโถงใหญ่
ทันทีที่เข้าไป ภาพตรงหน้าก็ทำให้คนตกตะลึงจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก!