อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่293 ข้าผิดไปแล้ว
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่293 ข้าผิดไปแล้ว
เช่นเดียวกันกับที่โจวหยิงหยิงพูด โม่ฮั่นอี่ว์อาเจียนไปทั่ว
ในขณะนี้ เขาถูกโม่เยว่ต่อยจนฟกช้ำและบวมไปหมด สภาพนั้นดูน่าเวทนายิ่งนัก แต่เกิดขึ้นกับโม่ฮั่นอี่ว์ที่อ้วนท้วมนี้ ดูยังไงก็ตลกมาก……
ในห้องโถงใหญ่ มีกลิ่นที่อธิบายไม่ได้ลอยอยู่เต็มห้อง
หยุนหว่านหนิงกลั้นหายใจ และยืนอยู่ที่หน้าประตูด้วยความลังเล
ในที่สุดนางก็เข้าใจว่า ทำไมโจวหยิงหยิงถึงไม่อยากเจอโม่ฮั่นอี่ว์ในตอนนี้……
สภาพนี้ ค่อนข้างไม่น่าดูจริง
เมื่อเห็นว่าหยุนหว่านหนิงมา โม่เยว่ที่กำลังขี่อยู่บนตัวโม่ฮั่นอี่ว์และตีเขาอยู่นั้น ก็รีบลงมาทันที
เขาจัดระเบียบรูปร่างหน้าตาอย่างรวดเร็ว และเดินไปที่ประตูโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “หนิงเอ๋อร์ เจ้ามาได้อย่างไร?ค่ำแล้ว น้ำค้างเยอะ ร่างกายของเจ้าก็ไม่ดี……”
“ใครแอบไปแจ้งให้หนิงเอ๋อร์?!”
วินาทีก่อน เขายังพูดคุยกับหยุนหว่านหนิงอย่างอ่อนโยน
ในวินาทีต่อมา ก็ราวกับว่าพญายมลงมายังแดนมนุษย์ จ้องมองหรูอวี้เหมือนจะกินคน และเตะไปอย่างรุนแรง “กินบนเรือน ขี้บนหลังคา!”
“หากคืนนี้หนิงเอ๋อร์เป็นหวัด ข้าจะหั่นเจ้าเป็นชิ้นๆแล้วเอาไปให้หมากิน!”
หรูอวี้ทำหน้าน้อย “นายท่าน ข้าน้อยไม่ได้เป็นคนไปฟ้องพระชายา”
“คือ คือพระชายาฮั่น……”
เขาขายโจวหยิงหยิงออกมาโดยไม่ลังเล
โม่เยว่ขมวดคิ้วทันที
แต่โจวหยิงหยิงเป็นผู้หญิง และเป็นพี่สะใภ้รองของเขา……แม้ว่าเขาจะโกรธมากเพียงใด ก็ไม่สามารถวิ่งไปที่สวนหลังบ้าน และชกต่อยโจวหยิงหยิงสินะ?
เขาอุ้มหยุนหว่านหนิงไว้ในอ้อมแขนทันที ใช้ร่างของเขากั้นลมด้านนอกไว้ “เข้ามาคุย”
“ออกไปเถอะ”
ห้องโถงใหญ่ยุ่งเหยิงไปหมด กลิ่นเหม็นยิ่งนัก ดังนั้นโม่เยว่จึงจูงมือของหยุนหว่านหนิงเดินออกไป
“รอสักครู่”
หยุนหว่านหนิงจับมือของเขาไว้ และยืนอยู่ที่เดิมอย่างดื้อรั้น “โม่เยว่ คืนนี้ข้าบอกอะไรกับท่าน? ท่านไม่ได้ใส่ใจสักนิดเลยใช่หรือไม่?”
โม่เยว่เหลือบมองโม่ฮั่นอี่ว์ที่นอนหายใจแขม่วๆอยู่บนพื้น “หนิงเอ๋อร์ ไว้ค่อยคุยกันตอนกลับ”
“ข้าไม่”
หยุนหว่านหนิงดึงเขาไว้อย่างดื้อรั้น “ทำไมท่านต้องลงมือกับอ๋องฮั่น?”
ในขณะนี้ โม่ฮั่นอี่ว์ที่นอนอยู่บนพื้น ได้เอ่ยปากด้วยความไม่เป็นธรรม “ฮือฮือฮือหว่านหนิง……เจ้าเจ็ดจะตีข้าตาย เจ้ารีบช่วยข้าด้วย……”
“ท่านหุบปาก!”
หยุนหว่านหนิงตะโกนใส่เขา
โม่ฮั่นอี่ว์ตัวสั่น และปิดปากด้วยความน้อยใจ
สามีภรรยาคู่นี้ คนหนึ่งดุกว่าคนหนึ่งจริงๆเลย!
“หนิงเอ๋อร์……”
โม่เยว่ลดเสียงลงเล็กน้อย “กลางคืนอากาศหนาว ข้าส่งเจ้ากลับไปก่อนดีหรือไม่?”
“ไม่ดี!”
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้วมองดูเขา และพูดด้วยน้ำเสียงที่ผิดหวังว่า “โม่เยว่ ท่านลองคิดดูเอง หากในอนาคตลูกชายก็เป็นเหมือนท่าน เป็นปีศาจร้ายที่ฆ่าคนไปเรื่อย ท่านจะคิดอย่างไร?”
เขาจะรู้สึกภาพภูมิใจมาก!
ลูกชายของเขา ก็ต้องเหมือนเขาอยู่แล้ว!
แต่โม่เยว่กล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าหยุนหว่านหนิงสักที่ไหนกัน?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ผู้หญิงคนนี้กำลังโกรธอยู่……
ถ้าเขาพูดแบบนี้ หยุนหว่านหนิงคงตีเขาตายแน่เลย!
“ข้ารู้ผิดแล้ว”
โม่เยว่ก้มหัวยอมรับผิด
โม่ฮั่นอี่ว์นอนอยู่บนพื้น ครุ่นคิด “หว่านหนิง เจ้าเจ็ด ลูกชายอะไรกัน? เจ้าก้อนแป้งนั้น ไม่ใช่ลูกบุญธรรมของพวกเจ้าหรือ?”
“ข้าบอกให้หุบปาก!”
หยุนหว่านหนิงโกรธจัดและสั่งหรูอวี้ “ตีเขาสลมซะ!”
“ขอรับ พระชายา”
หรูอวี้ทนเสียงที่น่ารำคัญของโม่ฮั่นอี่ว์ไม่ไหวนานแล้ว รีบเข้าไปต่อยหน้าโม่ฮั่นอี่ว์โดยไม่พูดอะไรสักคำ
เขามองบนแล้วเป็นลมไป
“เห็นท่านขัดตามานานแล้ว”
หรูอวี้สะบัดกำปั้น
คืนนี้เขาถูกนายท่านเตะไปหลายครั้ง ล้วนเป็นเพราะโม่ฮั่นอี่ว์……เนื่องจากเขาคืออ๋องฮั่น แม้หรูอวี้จะแค้นมากเท่าไหร่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
คราวนี้ดีเลย พระชายาออกคำสั่ง เขาสามารถตีได้อย่างเปิดเผยเลย!
ความรู้สึกตอนตีอ๋องฮั่นนั้นดีมาก……
ไม่น่าแปลกใจที่นายท่านโกรธเมื่อไหร่ ก็จะมาตีอ๋องฮั่น!
“โม่เยว่ ข้ากำลังรอคำอธิบายของท่านอยู่”
หยุนหว่านหนิงมองดูโม่เยว่อย่างสงบ น้ำเสียงของนางสงบลงมากแล้ว “เรื่องในคืนนี้ หากเสด็จพ่อรู้เข้า ท่านจะอธิบายอย่างไร?”
“เขาสมควรโดนตี”
โม่เยว่สบตานาง
เขารู้นานแล้วว่าหนิงเอ๋อร์เป็นคนที่ดื้อด้านมาก
สิ่งที่นางตัดสินใจ ต่อให้ใช้วัวเก้าตัวก็ลากกลับมาไม่ได้
นางอยากใส่อารมณ์กับเขา……
ต่อให้เป็นหนึ่งปีก็ไม่ใช่ปัญหา
ดังนั้นเขายังจะทำอะไรได้อีก?
ทำได้เพียงก้มหัวยอมรับผิด ให้นางหายโกรธ!
“เท่าที่ข้ารู้ เขากล้าให้คนอื่นเรียกเขาว่ากูเย๋เหย่ต่อหน้าเจ้า”
แม้ว่าโม่เยว่จะยอมรับผิด แต่กลับไม่มีอารมณ์ใดบนในหน้า ทำท่าทางเหมือน “ข้าไม่ผิด” “เจ้าเป็นกูหน่ายนาย เขาเป็นกูเย๋เหย่ แล้วข้าเป็นอะไร?”
หยุนหว่านหนิง:“……”
ที่แท้เป็นเพราะเรื่องนี้นี่เอง? !
เรื่องที่โม่ฮั่นอี่ว์ให้เปาจึเรียกเขาว่ากูเย๋เหย่? !
ไม่น่าแปลกใจตอนนั้นเขาพึ่งเอ่ยปาก ตาข้างขวาของหยุนหว่านหนิงก็กระตุกอย่างแรง
ตอนนั้นคิดในใจว่ามีอะไรผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ……
แต่คิดไม่ถึงว่า รออยู่ที่นี่นี่เอง!
“แค่นี้?”
หยุนหว่านหนิงรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
“แค่นี้”
โม่เยว่กล่าวอย่างดื้อด้าน
“ไม่มีความเป็นไปได้แม้แต่นิดเลยว่า จะเป็นเพราะเมื่อคืนเรื่องที่เขาดึงท่านเข้าไปพัวพันด้วย ต่อหน้าเสด็จพ่อ?ยังให้เสด็จพ่อต้องลงโทษท่านด้วยหรือ”
หยุนว่านหนิงถามอย่างไม่เต็มใจ
“ไม่ เป็นเพราะเรื่องนี้เรื่องเดียว”
โม่เยว่ยืนยันในความคิดเห็นของตัวเอง
หยุนหว่านหนิง:“……ฮ่าฮ่าฮ่า”
หรูอวี้เข้าใกล้อย่างไม่กลัวตาย “พระชายา ความหึงหวงที่นายท่านมีต่อท่านนั้น ไม่สามารถใช้……”
“ข้าให้หน้าเจ้าเกินไปหรือเปล่า?!”
โม่เยว่เตะเขาอย่างแรง หรูอวี้หลบได้ทันเวลา และหลบอยู่ข้างหลังของหยุนหว่านหนิง “พระชายาท่านดูสิ นายท่านถูกข้าน้อยเดาเรื่องในใจถูกเลยพาลโกรธ!”
หยุนหว่านหนิงชำเลืองมองเขาโดยไม่พูดอะไร
ไอ้สารเลวนี้ ตอนนี้พูดอย่างสนุก
แต่กลัวว่าหลังจากนั้นไม่นาน โม่เยว่จะหักหัวของเขาลงแล้วเอามาเตะเล่นสินะ? !
“เจ้าหุบปาก”
หยุนหว่านหนิงยิ่งปวดหัวมากขึ้นกว่าเดิม
เมื่อเห็นมือของนางวางอยู่บนขมับ ก็รู้ว่านางไม่สบาย ดังนั้นโม่เยว่จึงรีบพยุงนาง “หนิงเอ๋อร์ เป็นความผิดของข้าทั้งหมด”
“เจ้าอย่าโกรธเลย ข้าส่งเจ้ากลับไปพักผ่อน”
“ท่านผิดตรงไหน?”
หยุนหว่านหนิงไม่จบไม่สิ้น
โม่เยว่คิดอย่างจริงจัง “ข้าควรผูกมัดโจวหยิงหยิงเอาไว้ ไม่ให้นางไปฟ้องเจ้า หากเจ้าไม่รู้เรื่องนี้ ก็จะไม่ปวดหัวแล้ว”
เขาควรจะปิดประตูแล้วตี เพื่อป้องกันไม่ให้ข่าวไปถึงหูของหยุนหว่านหนิง
หยุนหว่านหนิง:“……”
ท้ายที่สุด เขาก็ยังไม่คิดว่าเขาผิด!
ช่างเถอะ นิสัยของตระกูลโม่เป็นเช่นนี้ และสายเลือดของความดุร้ายและเจ้าอารมณ์ที่ไหลอยู่บนตัวของโม่เยว่
ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา นิสัยของเขาถูกฝังลึกแล้ว และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้!
ต่อให้ให้เขาเปลี่ยน ก็เกรงว่าคงแก้ไขไม่ได้ภายในเวลาอันสั่น……
ส่วนหยวนเป่า ปล่อยให้ท่านตากับท่านลุงสั่งสอนจะดีกว่า
หากโม่เยว่สั่งสอนเอง เกรงว่าเขาดีไม่ดีก็ “ตัดหัว” “ประหาร” “ตัดมือ”…… เจ้าวัดไม่ดี หลวงชีสกปรกสินะ!
ตระกูลโม่ เกรงว่านับตั้งแต่บรรพบุรุษของตระกูลโม่ ผู้ใหญ่ระดับบนก็ประพฤติมิชอบไม่ดีแล้ว
แล้วส่งต่อรุ่นสู่รุ่น ยิ่งแย่กว่าเดิมจนไม่มีหน้าไปพบใครเลย……
หยุนหว่านหนิงสิ้นหวังมาก “ส่งข้ากลับไปก่อนเถอะ”
โม่เยว่โล่งใจลง “ได้ ข้าส่งเจ้ากลับไป!”
“ไม่ ข้าจะให้หรูอวี้ส่ง”
หยุนหว่านหนิงยื่นมือออกมา ชี้ไปที่หรูอวี้และพูดว่า