อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่310 โง่จนน่ากลัว
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่310 โง่จนน่ากลัว
ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันมงคลของโม่หุยเฟิง
แต่ก็แค่สู่ขอพระชายารองเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นเขายังถูกกักบริเวณอยู่ในจวน ถูกยึดตำแหน่งไป ตกลงสู่จุดต่ำที่สุดในชีวิต
ดังนั้นวันนี้ มีแค่โม่หุยเหยียนกับหนานกงเยว่ที่มาจวนอ๋องสาม ต้อนรับแขกแทนพวกเขา
ว่ากันว่าพี่สะใภ้ใหญ่เป็นเหมือนแม่
ฮองเฮาจ้าวถูกกักบริเวณอยู่ในตำหนักคุนหนิง โม่จงหรานก็ไม่มีทางออกวังมาดื่มเหล้ามงคลหรอก เต๋อเฟยกับซูเฟยก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้ จึงทำให้จวนอ๋องสามเงียบเฉียบมาก
ถึงแม้จะเป็นวันมงคล แต่แขกที่เข้าออกจวนอ๋องสาม ก็มีแค่นิดเดียวเท่านั้น
จวนกั๋วกงยังคึกคักกว่าอีก
เพราะยังไงตอนนี้ ถ้าเข้าออกจวนอ๋องสาม……
จะต้องถูกคิดว่าเป็น ‘พรรคโม่หุยเฟิง’
ดังนั้นตอนนี้ จึงไม่มีใครกล้ามาหาโม่หุยเฟิงกัน
ส่วนท่านอ๋องคนอื่นๆ……
โม่ฮั่นอี่ว์ถูกกักบริเวณ โจวหยิงหยิงกลับบ้านแม่
โม่เหว่ยปิดประตูไม่ออกบ้าน โม่โยวโยวไม่อยากเจอผู้คน
โม่เยว่เข้าวังประชุม โม่เฟยเฟยไม่ไว้หน้า
ดังนั้นนอกจากหยุนหว่านหนิงแล้ว ก็ไม่มีใครมางานมงคลนี้เลย
ในตอนที่ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครยอมใครนั้น เวลามงคลก็ผ่านไปแล้ว หยุนเจิ้นซงกระทืบเท้าอย่างร้อนรน “หลานเอ๋อร์ลูก เจ้าจะให้พ่อทำยังไง?”
“หากพลาดเวลามงคลไป จะทำให้ไม่มงคลได้นะ!”
“ท่านพ่อ ท่านจะร้อนใจไปทำไม?”
หยุนธิงหลานไม่สนใจ “ยังไงก็พลาดเวลามงคลไปแล้ว ถ้าตอนนี้รีบไปก็ไม่ทันอยู่ดี”
“อีกอย่าง ท่านพ่อไม่คิดว่าข้าจะแต่งเข้าจวนอ๋องสามได้ไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้มาร้อนใจทำไม?”
นางไม่สนใจหรอก
ก็เหมือนอย่างที่หยุนหว่านหนิงพูด งานแต่งนี้เป็นคำสั่งของฮ่องเต้
ถึงแม้หยุนเจิ้นซงจะไม่อยากให้นางแต่งมากแค่ไหน ฉินซื่อเสวียจะไม่อยากให้โม่หุยเฟิงแต่งมากแค่ไหน
แต่ราชโองการออกมาแล้ว ใครก็แก้ไขอะไรไม่ได้!
พวกเขาก็ยื้อต่อไปแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องของเวลามงคลแล้ว ยังจะสนใจเรื่องเวลามงคลอีกทำไม……ขอแค่วันนี้ได้เข้าจวนอ๋องสามก็พอแล้ว
หากไม่ได้ งั้นก็พรุ่งนี้ก็ได้!
“ข้าไม่ได้ร้อนใจอะไร! ถ้าเรื่องนี้ฝ่าบาทกับฮองเฮารู้เข้า……”
หยุนเจิ้นซงส่ายหน้าถอนหายใจ
“รู้ก็รู้ไปสิ!”
หยุนธิงหลานแสยะยิ้ม “เรื่องยิ่งดังยิ่งดี ฝ่าบาทคงรู้เรื่องนี้นานแล้ว ตอนนี้ไม่สั่งคนมาจัดการ แสดงว่าท่านไม่สนใจว่าพวกเราจะทะเลาะกันยังไง”
“อีกอย่าง เรื่องนี้ข้าไม่ผิด”
“ดังนั้นเจ้าจะยื้อต่อไปแบบนี้น่ะเหรอ?”
เห็นสายตาที่ไม่เห็นด้วยของหยุนเจิ้นซง หยุนธิงหลานก็กระตุกยิ้ม “ใช่! ฉินซื่อเสวียนั่น ไม่รอข้าแต่งเข้าไปก็จะข่มขู่ข้าแล้ว”
“วันนี้ถ้าข้าก้มหน้ายอมแพ้ ต่อไปใครจะไว้หน้าข้าอีก?”
“ขนาดพ่อยังต้องเสียหน้าตามไปด้วยเลย!”
ได้ยินนางพูดแบบนี้ หยุนเจิ้นซงก็รู้สึกมีเหตุผลดี
หยุนธิงหลานโยนชุดแต่งงานสีชมพูลงพื้น แล้วเหยียบขยี้แรงๆก็ยังไม่หายโกรธ “ท่านพ่อดูสิ ข้าจะใส่ชุดแบบนี้ออกได้ยังไง?”
ว่าแล้ว สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป
“ใช่สิ! ข้าคิดออกแล้ว!”
เห็นหยุนธิงหลานดวงตาเป็นประกาย หยุนเจิ้นซงก็ใจสั่น “เจ้าคิดจะทำอะไร?”
ลางสังหรณ์บอกเขาว่า ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่!
……
หยุนหว่านหนิงกับหยุนธิงธิง ความคิดแตกต่างจากหยุนธิงหลาน
ดังนั้นเวลาที่รอจวนอ๋องสามก้มหน้า พวกนางสองพี่น้องก็ออกไปเดินเล่น ในตอนที่กลับมา ก็เห็นหยุนธิงหลานสวมชุดแต่งงานสีชมพูแล้ว
ด้านในใส่เสื้อในสีชมพู ไม่มีเสื้อคลุมปิดเลยด้วยซ้ำ
ยังดีที่ในห้องมีแค่หยุนธิงหลานกับลู่โย่วสองคน
เห็นท่าทีที่ไม่เขินอายเลยของหยุนธิงหลาน……หยุนธิงธิงก็แก้มแดงระเรื่อ รีบเอามือปิดตาไว้ “พี่รอง พี่ พี่ทำอะไรกัน……”
“ไม่เคยเห็นคนใส่แบบนี้หรือไง!”
หยุนธิงหลานพูดไม่พอใจ ลุกขึ้นจัดกระโปรง
“ในเมื่อเป็นชุดแต่งงานที่จวนอ๋องสามส่งมาให้ข้า งั้นข้าก็ต้องใส่ชุดนี้ออกไปสิ! ข้าจะให้ทุกคนในเมืองเห็นชัดๆว่า จวนอ๋องสามทำกับข้ายังไง!”
หยุนธิงหลานกระตุกยิ้ม “ทางที่ดี ให้เรื่องไปถึงหูฝ่าบาทยิ่งดี”
“ให้ฝ่าบาทได้เห็นว่า ฉินซื่อเสวียเป็นพระชายายังไง! ข้ายังไม่ทันได้แต่งเข้าไป ก็รังแกข้าขนาดนี้แล้ว!”
นางคิดได้แล้วล่ะ
ในเมื่อฉินซื่อเสวียอยากเห็นนางอับอาย——
งั้นนางก็จะเริ่มก่อน ให้ฉินซื่อเสวียโดนคนอื่นชี้หน้าด่า!
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้ว ส่ายหน้าเบาๆ “หยุนธิงหลาน ข้ารู้ว่าเจ้าโง่นานแล้ว”
“แต่ไม่คิดว่า เจ้าจะโง่ขนาดนี้!”
“วิธีของเจ้าก็ดีอยู่หรอก แต่จัดการศัตรูได้หนึ่งพัน ฝั่งตนสูญเสียไปแปดร้อย เจ้าคิดว่าคุ้มเหรอ? เจ้าคิดจริงเหรอว่า เจ้าออกแบบนี้ จะทำให้ฉินซื่อเสวียโดนทุกคนชี้หน้าด่า?”
ถูกนางถามแบบนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของหยุนธิงหลานก็หายไปทันที
“พี่ใหญ่ พี่หมายความว่ายังไง?”
“เจ้าลองใช้นิ้วเท้าคิดดูดีๆสิ”
หยุนหว่านหนิงยื่นมือไปชี้เท้าของนาง “เจ้าออกไปแบบนี้ ถูกคนอื่นมองเหมือนลิงคือใคร? ถูกชาวบ้านหัวเราะเยาะคือใครล่ะ?”
“เจ้าคิดจริงเหรอว่า ฉินซื่อเสวียเป็นคนโง่? ถึงตอนนั้น นางคงตอบกลับมาว่า เจ้าใส่ร้ายนาง?”
หยุนธิงหลานไม่ทันได้คิดข้อนี้เลย!
ตอนนี้ได้ยินนางพูดแบบนี้ ใบหน้าแดงนั้นก็ซีดเซียวทันที
“งั้น งั้นข้าควรทำยังไงดี?”
“จะทำยังไงได้?”
หยุนหว่านหนิงมองนางอย่างดูถูก “ข้ามาบอกเจ้าว่า เมื่อกี้ได้ข่าวว่า จวนอ๋องสามยอมแพ้แล้ว”
“ฉินซื่อเสวียคิดวิธีดีๆได้”
“ดังนั้นอีกไม่นาน คนของจวนอ๋องสามก็คงมาถึง!”
หยุนธิงหลานก็โล่งอก
ถึงว่าก่อนหน้านี้ต่อกรกับหยุนหว่านหนิง นางถึงแพ้ราบคาบขนาดนั้น
หยุนหว่านหนิงฉลาดกว่านางมากจริงๆ!
วันนี้ถ้านางไม่ห้ามไว้ก่อน เกรงว่านางคงจะใส่ชุดนี้ออกไปจริงๆ อยากใช้โอกาสนี้ตบหน้าฉินซื่อเสวีย……สุดท้าย กลับโดนตบหน้าเสียเอง
หยุนธิงหลานมองหยุนหว่านหนิงอย่างหวาดกลัว
“ไม่รู้ว่า ฉินซื่อเสวียคิดวิธีอะไรได้”
นางพูดเสียงเบา “ข้ามีลางสังหรณ์ว่า ต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่……”
“เจ้าไม่ต้องสนหรอกว่าวิธีอะไร?”
หยุนหว่านหนิงกวาดตามองนางอย่างไม่พอใจ “รีบถอดชุดนี้ออกเถอะ! ข้าทนดูไม่ไหวแล้ว!”
หยุนธิงธิงก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน นางปิดปากกลั้นหัวเราะ
หยุนธิงหลานโมโหแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร
วันนี้นางยังคาดหวังให้หยุนหว่านหนิงช่วยนาง ต่อกรกับฉินซื่อเสวียนังบ้านั่น!
ไม่งั้นถ้าเป็นปกติ โดนหยุนหว่านหนิงพูดจาว่าร้ายแบบนี้ นางคงจะระเบิดแล้วล่ะ……ตอนนี้หยุนธิงหลานเดินกลับห้องเงียบๆ เปลี่ยนชุดมุ้งสีชมพูนั้นออก
เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมา นอกห้องก็มีคนเคาะประตูเสียงดัง
สาวรับใช้ยืนอยู่ด้านนอก “คุณหนูรอง คนของจวนอ๋องมารับแล้วเจ้าค่ะ!”
“บอกว่าเอาชุดแต่งงานใหม่ส่งมาให้แล้ว ให้คุณหนูรองดูก่อน!”
ด้านหลังมีแม่นมจากจวนอ๋องคนหนึ่ง ถือกล่องผ้าไหมไว้
กล่องผ้าไหมดูราคาแพงมาก
ชุดแต่งงานนั้นจะต้องมีราคาสูงมากแน่ๆ?!
หยุนธิงหลานดีใจ รีบกวักมือเรียกแม่นมคนนั้น “รีบเข้ามาสิ!”
หยุนหว่านหนิงมองดูกล่องผ้าไหมนั้น แล้วแสยะยิ้มออกมา……ฉินซื่อเสวียยัยผู้หญิงคนนั้นยอมลงทุน ถึงขนาดเอาไพ่ตายของตัวเองออกมาเลยสินะ!