อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 1084 น้องสาวถือกำเนิด
ตอนที่ 1084 น้องสาวถือกำเนิด
ตอนที่ 1084 น้องสาวถือกำเนิด
ในเดือนสิบสอง ปีเดียวกับที่อาณาจักรเฟิงชางเกิดความโกลาหล อาณาจักรจิงเหลยก็เกิดการรัฐประหารที่ไม่ใหญ่ไม่เล็กนัก
ซ่างกวนจิ่น ผู้สำเร็จราชการแห่งอาณาจักรจิงเหลย ให้ฮ่องเต้แห่งอาณาจักรจิงเหลยออกพระราชโองการด้วยตนเองว่าจะยกตำแหน่งฮ่องเต้ให้เขา อีกทั้งยังในสองสามปีต่อมา เหล่าลูกหลานของราชวงศ์ต่างก็ถูกลอบสังหารทีละคนๆ ส่งผลให้อาณาจักรจิงเหลยเกิดการนองเลือดทั้งแผ่นดิน
เมื่อเย่ซิวตู๋ได้รับข่าวนี้ ก็เพียงแค่หัวเราะออกมา
เมื่อครั้งการแข่งขันใหญ่ของสี่อาณาจักรที่ซ่างกวนจิ่นถูกลอบสังหาร ผู้อยู่เบื้องหลังก็คือเหล่าองค์ชายพวกนั้น
ซ่างกวนจิ่นเดิมทีก็เป็นคนทะเยอทะยานดุร้ายและไม่อยู่เฉยอยู่แล้ว องค์ชายเหล่านี้ยังไปเติมน้ำมันในเชื้อไฟอีก หากมีจุดจบเช่นนี้ก็ไม่น่าแปลกใจนัก
ส่วนอาณาจักรเฟิงชางนั้นก็ค่อยๆ เข้ารูปเข้ารอย คลื่นลมสงบ
เย่ซิวตู๋ยังคงยุ่งมาก แต่เมื่อเทียบกับสองเดือนก่อนหน้านี้ ก็ถือว่าสบายลงไม่น้อยแล้ว
เหมิงจื่อเชียนนำเถ้ากระดูกของเหมิงกุ้ยเฟยและเหมิงซินกลับไปยังดินแดนเหมิง ผู้ร่วมทางยังมีซวนหย่าที่ก่อนหน้านี้ขัดแย้งกับเขาราวน้ำกับไฟ
หลังจากนั้นหกเดือนก็เข้าสู่ช่วงต้นฤดูร้อน เป็นช่วงที่ทุกอย่างเจริญรุ่งเรือง
เช้าตรู่ของวันนี้ อวี้ชิงลั่วก็รู้สึกปวดที่หน้าท้อง ท้องโย้เริ่มไม่ฟังคำสั่งเสียแล้ว
“โอ๊ย…” เสียงร้องหวาดกลัวของนางเริ่มดังขึ้นมาเป็นครั้งแรก ทั้งตำหนักอ๋องซิวก็ล้วนเข้าสู่สภาวะตึงเครียดโกลาหลในทันที
แม่นมเก๋อ แม่นมเซียว และหงเย่ก็เริ่มยุ่งวุ่นวายกันขึ้นมา
โม่เสียนและเหวินเทียนทั้งสองคนรีบตรงเข้าวังหลวงเพื่อรายงานแก่เย่ซิวตู๋ที่กำลังเข้าประชุมราชสำนักช่วงเช้า
การประชุมราชสำนักช่วงเช้าดำเนินถึงช่วงกลาง เหล่าขุนนางกำลังหารือกันถึงปัญหาภัยแล้งทางภาคเหนืออย่างเข้มข้น มีนางในมากระซิบที่ข้างหูขององค์รัชทายาท จากนั้นเหล่าขุนนางก็เห็นองค์รัชทายาทน้อยที่อายุเพียงนิดแต่กลับเงียบขรึมขึ้นทุกวัน จู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้
แววตาของทุกคนจับจ้องไปที่เขา แม้แต่เย่ซิวตู๋ที่ฟังทุกคนหารือกันอย่างเงียบๆ มาโดยตลอดก็อดไม่ได้ที่จะมองเขา
เย่หลานเฉิงเสียการควบคุมอย่างหาได้ยาก มองเลงไปยังเย่ซิวตู๋อย่างรีบร้อนแล้วกล่าว “เสด็จอา ออกมาแล้วขอรับ”
เย่ซิวตู๋ชะงักงันไป ต่อจากนั้นรูม่านตาก็หดลง สะบัดเสื้อคลุมออกจากท้องพระโรงไปโดยไม่คิดและไม่กล่าวอันใด
ทุกคนต่างก็สบตากันอย่างงุนงงสับสน ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ จากนั้นก็มีสองสามคนเริ่มก้มหน้าครุ่นคิด เมื่อครู่ได้พูดเรื่องปัญหาภัยพิบัติผิดไปอย่างนั้นหรือ
มีเพียงหลีจื่อฟานที่ลอบยิ้มเงียบๆ แววตาอ่อนโยนและลึกซึ้ง
เย่หลานเฉิงเองก็ไม่สนใจสิ่งใดแล้ว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความยินดี กล่าวออกมา “เรื่องการบรรเทาภัยพิบัติ กรมครัวเรือนและเหล่าขุนนางหารือกันไปก่อน รีบร่างข้อบังคับออกมาแล้วส่งมาโดยเร็วที่สุด รอให้ข้าและท่านผู้สำเร็จราชการตรวจสอบแล้วก็จะเริ่มดำเนินการทันที”
“พ่ะย่ะค่ะ” เหล่าขุนนางที่ถูกขานชื่อตอบรับในทันที สองสามคนนั้นยังคงไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ๆ เย่ซิวตู๋จึงออกจากท้องพระโรงโดยไม่พูดไม่จา ในใจกังวลเล็กน้อย เพราะเหตุนี้เรื่องการบรรเทาภัยพิบัติจึงถูกร่างขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่กลับมีประสิทธิภาพอย่างมาก
หลังจากเย่หลานเฉิงลาจากราชสำนักไปยังวังหลังแล้วก็ส่งคนไปรายงานฮ่องเต้ ไทเฮา สวีโหรวทางด้านนั้นทันที ส่วนตนเองก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกจากวังไปยังตำหนักอ๋องซิวอย่างรีบร้อน
หนานหนานยืนอยู่หน้าประตูห้องของอวี้ชิงลั่วเดินไปเดินมาแล้ว มือเล็กกำแน่น สีหน้าสับสนอย่างมาก
มองเห็นสาวใช้และเหล่าคนรับใช้เข้าๆ ออกๆ เขาก็อดไม่ได้อยากจะบุกเข้าไป สุดท้ายก็ถูกเสิ่นอิงขวางเอาไว้ก่อน
“หนานหนาน เจ้าเองก็อย่ากังวลเกินไปเลย เจ้าดูสิว่ามีคนตั้งมากมาย ข้างในยังมีหมอตำแยมากประสบการณ์จากในวัง ทั้งยังมีแม่นมเซียวและแม่นมเก๋อ ทั้งยังมีหงเย่ที่มีความรู้เรื่องการผดุงครรภ์ ท่านหมอเจียงก็คอยช่วยเหลืออยู่ด้านนอกตลอดเวลา อีกทั้งแม่ของเจ้าเองก็บอกไว้แล้ว เด็กสุขภาพดี การคลอดบุตรจะไม่นานนัก”
หนานหนานยังคงเดินไปเดินมาอย่างไม่สบายใจ “แต่ว่า แต่ว่าท่านแม่กรีดร้องตลอดเลย น้ำเสียงของนางดูเจ็บปวดมากขอรับ”
“สตรียามให้กำเนิดบุตรก็ล้วนเป็นเช่นนี้ทั้งนั้น เจ้าวางใจเถิด เมื่อครู่หมอตำแยที่ด้านในกล่าวว่าทุกอย่างปกติดี” ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวอายุยังน้อย ก็ไม่สามารถเข้าห้องทำคลอดได้ จึงได้ยืนรออยู่ด้านนอกกับเสิ่นอิง
เย่ซิวตู๋มาถึงอย่างรวดเร็ว สีหน้ามีทั้งความกังวลใจและดีใจ อารมณ์ที่ซับซ้อนรวมอยู่ด้วยกัน ดูแล้วกลับเป็นความเย็นชาที่ผิดปกติ
เพียงเขามาถึงก็ถามเสิ่นอิงทันที “เป็นอย่างไรบ้าง?”
“หมอตำแยบอกว่ายังต้องใช้เวลาอีกสักครู่ แต่หวางเฟยมีพื้นฐานที่ดี จึงไม่มีปัญหาอันใดขอรับ”
เขาเพิ่งกล่าวจบ ในห้องก็มีเสียงกรีดร้องของอวี้ชิงลั่วดังขึ้นมาทันที ทำให้หัวใจของเย่ซิวตู๋และหนานหนานเต้นเร็วขึ้นด้วยความตกใจ รีบพุ่งเข้าไปด้านในโดยไม่คิดแม้แต่น้อย เสิ่นอิงและฟ่านเสี่ยวเสี่ยวรวมถึงคนอื่นๆ พากันห้ามก็ไม่อาจห้ามได้
โชคดีที่แม่นมเซียวดวงตาเฉียบคม อุ้มหนานหนานเอาไว้ “เจ้าอายุยังน้อย จะบุกเข้าไปทำไมกัน”
นางอุ้มเด็กได้ แต่กลับไม่อาจห้ามเย่ซิวตู๋ไว้ได้
ใช้กำลังภายในเพียงเล็กน้อย เย่ซิวตู๋ก็มาถึงเตียงแล้ว มองอวี้ชิงลั่วที่เหงื่อท่วมใบหน้า หัวใจก็เจ็บปวดขึ้นมา
“ชิงเอ๋อร์ ชิงเอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
แม่นมเก๋อที่อยู่ข้างๆ โกรธมาก “ท่านอ๋อง ท่านเข้ามาได้อย่างไร รีบออกไปเสีย”
เย่ซิวตู๋ไม่สนใจนาง ยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดเหงื่อของอวี้ชิงลั่ว “เจ้าวางใจเถิด ข้าอยู่ตรงนี้ ไม่เป็นไร”
อวี้ชิงลั่วหันศีรษะมา เมื่อเห็นเขาก็ผงะไป มุมปากเผยรอยยิ้ม เพียงแต่ครู่ต่อมาก็ขมวดคิ้ว กล่าวด้วยน้ำเสียงขมขื่น “ท่านออกไปเสีย”
“ชิงเอ๋อร์”
“ท่านออกไป ท่าน หากท่านไม่ออกไป ข้าจะไม่คลอดนะ” หญิงสาวคลอดลูกช่างไม่น่าดูเอาเสียเลย กลิ่นเลือดในห้องคลอดเข้มข้นมาก มีกลิ่นต่างๆ ผสมกันไปหมด นางดมเองยังรู้สึกไม่สบายเลย
เย่ซิวตู๋ร้อนรน “เจ้าอย่าพูดอะไรโง่ๆ นี่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแล้ว จะมาพูดว่าคลอดไม่คลอดอะไรกันอีก เจ้าเชื่อฟังเสียหน่อย ข้าจะอยู่กับเจ้าตรงนี้ เจ้าไม่ต้องกลัวแล้ว”
ให้ตายเถิด เขาใช้ตาข้างไหนมาเห็นว่านางกลัวกัน
อวี้ชิงลั่วหลับตา ที่ท้องเจ็บแปลบขึ้นมาอีกครั้ง นางตะคอกออกมา “อย่างไรท่านก็ต้องออกไป ออกไป!!”
เย่ซิวตู๋เห็นนางเป็นเช่นนี้ในใจก็ทนไม่ไหว ทำได้เพียงฟังนาง “ก็ได้ๆๆ ข้าจะออกไป เจ้า เจ้าไม่ต้องกลัวนะ ข้าจะอยู่ข้างนอก”
แม่นมเก๋อถอนหายใจ จากนั้นก็ปล่อยมือเท้าและไปดึงเขาออกจากห้อง
หลังจากเย่ซิวตู๋ออกไป เย่หลานเฉิงและสวีโหรวก็มากันแล้ว ทั้งสองคนกำลังปลอบหนานหนานอยู่
ไม่นานนัก อวี้เป่าเอ๋อร์รวมถึงเย่ฮ่าวหรานและจินหลิวหลีก็พากันมาถึง
ผ่านไปไม่ถึงสิบห้านาที แม้แต่เป่าหวางเฟย เย่หลานผิง หวางเฟยสาม เย่หลานเวย หวางเฟยหก เย่หลานจ้าวแม่ลูกก็พากันมาเช่นกัน
เพียงไม่นาน ทั้งตำหนักอ๋องซิวก็ครึกครื้นขึ้นอย่างประหลาด เรื่องที่อวี้ชิงลั่วคลอดบุตรกลับได้รับความสนใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เวลาผ่านไปทีละน้อย ความถี่ของหงเย่ในการเข้าออกห้องคลอดก็มากขึ้นเช่นกัน
โชคดีที่ถึงแม้จะผ่านไปนาน แต่ก็ไม่มีข่าวร้ายออกมาเลย ถึงขนาดได้ยินเสียงมีความสุขของหมอตำแยดังมาจากด้านใน “หวางเฟย ออกแรงอีกเจ้าค่ะ หัวเด็กออกมาแล้ว ออกแรงอีกนิด… มา สูดหายใจลึกๆ … หนึ่ง สอง…”
เย่ซิวตู๋และหนานหนานสบตากัน ทั้งสองคนยิ้มออกมาพร้อมกัน
ไม่นานนัก จู่ๆ ข้างในก็มีเสียงร้องดัง ‘อุแว้’ ออกมา
“ออกมาแล้ว” สวีโหรวแววตาเป็นประกาย เอ่ยปากอย่างมีความสุข
เย่ซิวตู๋และหนานหนานแทบรอไม่ไหววิ่งเข้าไปข้างในห้อง
แต่ไม่นานนัก จู่ๆ ก็มีเสียงร้องโกรธเกรี้ยวของหนานหนานดังออกมา “ท่านแม่ ท่านบอกว่าเป็นน้องชายไม่ใช่หรือ นี่มันน้องสาวชัดๆ เป็นน้องสาวของข้า เวรล่ะ นี่ข้าไม่ได้เตรียมของขวัญให้น้องสาวเลย แย่แล้ว”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
น้องออกมาแล้ว เตรียมโดนพี่ชายสปอยล์ได้เลยค่ะ ตอนที่ยังอยู่ในท้องก็โดนสปอยล์หนักหน่วงแล้ว
ไหหม่า(海馬)