อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 807 เอาใจ
ตอนที่ 807 เอาใจ
ตอนที่ 807 เอาใจ
อวี้ชิงลั่วเคยบอกว่าการไม่มีวิชาตัวเบาช่างเป็นเรื่องยากลำบาก เย่ซิวตู๋จึงอุ้มนางไปเช่นนี้เลย
เย่ซิวตู๋ไม่ปล่อยให้นางกลับไป หลังจากทะยานขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ครู่หนึ่ง ทั้งสองก็มายืนอยู่ในตรอกหลังโรงเตี๊ยม
อวี้ชิงลั่วเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ที่นี่คือโรงเตี๊ยมที่นางเคยพักมาก่อนไม่ใช่หรือ? เย่ซิวตู๋พานางมาที่นี่เพื่ออะไร?
คนที่อยู่ใต้ร่างของนางกระทืบเท้าอีกครั้ง ก่อนทะยานขึ้นตรงเข้าไปในห้องที่อวี้ชิงลั่วเคยพักอยู่
ทันทีที่ปิดหน้าต่าง เสียงจากภายนอกก็ถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์ จากนั้นเย่ซิวตู๋ก็ผ่อนคลายลง เขาเอาแขนโอบรอบเอวของอวี้ชิงลั่วอีกครั้ง วางคางไว้บนกระหม่อมของนางและไม่เอ่ยคำใดออกมาสักพัก
อวี้ชิงลั่วก็กอดเขาอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็สะกิดเอวเขา แล้วพูดเสียงเบาว่า “ข้าเจ็บนิดหน่อยเพราะยืนนาน”
เย่ซิวตู๋ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะอุ้มนางไปวางลงบนเตียงโดยไม่พูดอะไรสักคำ แล้วก้มตัวตามลงไปทับนางไว้
อวี้ชิงลั่วตัวแข็งทื่อ “ข้าจะนั่งพักสักครู่”
“อย่าขยับ” เย่ซิวตู๋ไม่สนใจนาง เขาเหนื่อยมากเพราะต้องวิ่งเต้นไปทั่ว โดยเฉพาะเมื่อเขาไม่ได้เจอนาง หัวใจของเขาเอาแต่เฝ้าแต่คะนึงหานางจนกระทั่งยามราตรีก็นอนไม่หลับ
ตอนนี้นางอยู่เคียงข้างเขาแล้ว เขาจึงรู้สึกสบายใจที่ได้สัมผัสถึงกลิ่นและอุณหภูมิจากกายของนาง และรู้สึกว่าในที่สุดเขาก็ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เสียที
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุก ถูกเขาทับตัวไว้เช่นนี้ นางจะกล้าขยับตัวได้อย่างไร?
เย่ซิวตู๋นอนอยู่บนร่างของนางครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็ดึงผ้าห่มผืนบางมาคลุมตัวทั้งสองไว้ แล้วหลับตาโอบแขนไว้รอบตัวนาง
“ท่าน…” เดิมทีอวี้ชิงลั่วต้องการปลุกเขา ตอนนี้มันมืดสนิทแล้ว นางต้องการกลับไป
แต่เมื่อเห็นท่าทางผ่อนคลายของเย่ซิวตู๋ และรอยคล้ำใต้ตาของเขา นางก็รู้ว่าเขาหมดแรงจนไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
แน่นอนว่าเย่ซิวตู๋ก็ผล็อยหลับไปหลังจากนั้นไม่นาน อวี้ชิงลั่วมองดูใบหน้าหล่อเหลาและเหนื่อยล้าของเขา ก่อนถอนหายใจเบา ๆ จากนั้นก็กำลังจะเอื้อมมือไปถอดเสื้อคลุมของเขาออก เพื่อจะได้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น
แต่ทันทีที่นางขยับตัว เย่ซิวตู๋ก็สะดุ้งตื่นขึ้นทันที เมื่อเห็นว่านางกำลังจะลุกขึ้นจากไป เขาก็ขมวดคิ้วอย่างเกรี้ยวกราดขณะดึงตัวนางกลับมา พร้อมถามด้วยเสียงแหบพร่า “เจ้ากำลังทำอะไร?”
“ถอดเสื้อผ้านี้ออกก่อนเข้านอน มันอึดอัดไม่ใช่หรือ?” เสื้อผ้าของคนยุคโบราณช่างใส่ได้ยากยิ่ง และทุกครั้งที่อวี้ชิงลั่วเห็นเขาสวมเสื้อผ้า นางก็พบว่ามันใส่ยาก บางครั้งนางต้องการจะช่วยเขา แต่ยิ่งนางช่วยก็ยิ่งสร้างความยุ่งเหยิง
ดังนั้นนางจึงสอนหนานหนานตั้งแต่เด็กว่าให้ทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เช่น แต่งตัวและหวีผมเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหนานหนานแกล้งเมื่อมาขอให้นางช่วยแต่งตัวให้ และนางไม่รู้วิธี
เมื่อได้ฟังคำตอบของนาง เย่ซิวตู๋ก็ผ่อนคลายลงอีกครั้ง เขาส่งเสียง ‘อืม’ แผ่วเบา แล้วหลับตาลงนอนนิ่งอีกครั้ง
อวี้ชิงลั่วมีสีหน้ามืดมน นางไม่มีทางเลือกจึงได้แต่ยอมจำนนต่อชะตากรรม แล้วถอดเสื้อผ้าชั้นนอกออก
เย่ซิวตู๋นอนอ้อยอิ่ง เขาหลับไม่ลงเมื่อนางทำเช่นนี้ แต่เขาไม่ได้ช่วยอะไร เพียงแค่พลิกตัวไปมาให้นางช่วยถอดเสื้อเท่านั้น พร้อมรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก
หลังจากช่วยถอดเสื้อให้เขาได้ในที่สุด อวี้ชิงลั่วก็รู้สึกว่าตนเองเหงื่อออกแล้ว
อวี้ชิงลั่วมองค้อนเย่ซิวตู๋ แล้วนอนลง เย่ซิวตู๋พลิกตัวกลับมากอดนางแน่นอีกครั้ง
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุกเมื่อเห็นเขาทำเช่นนี้ นางอยากจะดุเขาสักสองสามคำ เพราะทนไม่ได้แล้ว ทว่าเมื่อเห็นว่าสักพักเขาก็ผล็อยหลับไปอีกครั้ง นางจึงเพียงแค่หันไปมองเขา
ท้องฟ้าข้างนอกเริ่มมืดลงเรื่อย ๆ แสงไฟสว่างขึ้นทีละชั้น เสียงบนถนนเปลี่ยนจากเสียงดังเป็นเงียบสงัด และในที่สุดก็มีเสียงเคาะบอกเวลาดังขึ้น
อวี้ชิงลั่วจ้องมองเขาเช่นนี้เป็นเวลาหลายชั่วยาม แต่นางไม่เคยรู้สึกเบื่อที่จะจ้องมองเขาเลย
อันที่จริงพวกเขาไม่ได้แยกจากกันเป็นเวลานาน เมื่อเทียบกับเวลาที่นางและหนานหนานเดินทางมาที่ดินแดนเหมิงกันเองก็เป็นเวลาเพียงไม่กี่วัน
แต่พวกเขารู้สึกคิดถึงคะนึงหากันยิ่งนัก
นางรักอิสระเสมอมา แน่วแน่และไม่แยแสต่อความรู้สึก แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่านางจะตกอยู่ในความรู้สึกนั้นจริง ๆ เมื่อเห็นว่าเย่ซิวตู๋ต้องวุ่นวายอย่างหนักเพราะนาง นางก็รู้สึกเป็นทุกข์มาก
มือของอวี้ชิงลั่วลูบไล้หลังมือของเขา เมื่อรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของนิ้วเขา นางก็รู้สึกสบายใจ
นางรู้สึกว่าเมื่อมีเขาอยู่เคียงข้าง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในดินแดนเหมิง เรื่องทั้งหมดก็จะสามารถแก้ไขได้
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจเบา ๆ แล้วผล็อยหลับไปข้างเขาหลังจากนั้นไม่นาน
เมื่อนางตื่นขึ้นอีกครั้งก็รู้สึกว่าร่างกายของนางถูกกดทับ ทำให้หายใจไม่ค่อยออก
อวี้ชิงลั่วลืมตาขึ้นพบว่าเย่ซิวตู๋กำลังทับร่างของนางไว้ และชุดชั้นในของนางก็หายไป มือของเขาวางไว้บนศีรษะของนาง ดูเหมือนว่านางกำลังจะถูกโจมตีเสียแล้ว
ท้องฟ้าข้างนอกเริ่มสว่างแล้ว อวี้ชิงลั่วขยับตัวเล็กน้อย แล้วพูดด้วยความขุ่นเคือง “เย่ซิวตู๋”
“อย่าส่งเสียงดัง ข้าไม่ได้ทำมานานแล้ว ข้าควบคุมมันไม่ได้” เย่ซิวตู๋เผยเรือนร่างเปลือยเปล่า ทันทีที่เขาพูดจบ ก็ประทับจุมพิตลงที่ริมฝีปากของนาง
ร่างกายของอวี้ชิงลั่วเจ็บระคนอ่อนระทวยเพราะถูกเขาขบกัด นางรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ นางไม่ได้เจอเขาสองสามวัน แต่เขายังคงเป็นสัตว์ร้าย
ไม่ได้ทำนานเกินไปหมายความว่าอย่างไร ตอนที่ทั้งสองยังไม่เคยมีความสัมพันธ์กันมาก่อน เขาก็เย็นชาเหมือนน้ำไม่ใช่หรือ?
“เจ้าไม่ยอมนอนและทำให้ข้าตื่นเอง เจ้าต้องรับผิดชอบ”
อวี้ชิงลั่วโกรธ “ข้าตื่นอยู่ตลอด”
“…อืม บางทีอาจเป็นเพราะเจ้าคิดถึงข้ามากเกินไป วันนี้เจ้าจึงนอนหลับไม่สนิท” เย่ซิวตู๋พูดและจุมพิตคางของนางอีกครั้ง
อวี้ชิงลั่วไม่สามารถเอ่ยคำใดได้สักคำ “…” ตัวเขาเองกลายเป็นสัตว์ร้ายไปแล้ว แต่ก็ยังมีข้อแก้ตัวมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้ช่างเป็นเรื่องซับซ้อน
เย่ซิวตู๋เป็นสัตว์ร้ายจริง ๆ หลังจากผ่านไปสองรอบ อวี้ชิงลั่วก็มองไปยังด้านนอกที่สว่างแล้ว และตระหนักได้ว่าเขาหมายถึงอะไรในตอนที่เขาพูดเช่นนั้น
แน่นอนว่าสำหรับเขาแล้ว เขาหิวกระหายมากเกินไปจริง ๆ
เย่ซิวตู๋กอดนางอย่างพึงพอใจด้วยรอยยิ้ม และประสานมือกับนาง “หนานหนานคิดถึงเจ้ามาก เราจะกลับไปหลังจากพักผ่อนอีกสักพัก” เขายังคงคิดว่ามันเป็นเรื่องดีกว่าที่ได้อยู่กับนาง แม้นางจะระบุเหตุผลที่ไม่ได้พบเขาในจดหมายแล้วอย่างชัดเจน แต่ในความคิดของเขา มันไม่ได้มีอะไรพิเศษ
สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการได้พบกับนาง หากไม่มีนางอยู่เคียงข้าง เขาจะนอนไม่หลับ
กลับไปหรือ? อวี้ชิงลั่วอึ้งไปครู่หนึ่ง โดยลืมเสียสนิทว่าร่างกายของนางกำลังเจ็บปวดและอ่อนล้า ทันใดนั้นนางก็นึกขึ้นได้ว่าคืนนี้นางไม่ได้กลับไป ด้วยนิสัยของซ่างกวนจิ่น เขาอาจส่งองครักษ์ออกมาตามหานาง
นางรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย และทำได้เพียงนิ่งเงียบ
เย่ซิวตู๋จุมพิตเนินอกของนาง เมื่อคิดว่านางต้องทนทุกข์ทรมานมากหลังจากถูกลักพาตัว เขาก็รู้สึกเจ็บใจ เขาจึงกอดนางแน่นขึ้น
ทว่าในวินาทีต่อมา ราวกับว่าเขาคิดอะไรบางอย่างได้ เขาจึงถอยผละออกจากนาง แล้วถามว่า “ว่าแต่เจ้าถูกลักพาตัว แล้วเจ้าหนีออกมาได้อย่างไร? ครั้งที่แล้วเจ้าไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องหนีในจดหมาย ตอนที่เจ้าหนี เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”
เมื่ออวี้ชิงลั่วได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
มาถึงก็กินเอาๆ เลยนะท่านอ๋อง ชิงลั่วช้ำหมดแล้ว
นั่นสิชิงลั่ว จะอธิบายยังไงไม่ให้ตัวเองโดนกินอีกรอบ
ไหหม่า(海馬)