อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 204 ฟันเนี่ยนเนี่ยน
ตอนพิเศษ 204 ฟันเนี่ยนเนี่ยน
ตอนพิเศษ 204 ฟันเนี่ยนเนี่ยน
แต่สำหรับเนี่ยนเนี่ยนนั้น ไม่สำคัญว่าใครจะออกไปกับนาง
ไม่ว่าโม่เพียวจะใช้วิธีใดเกลี้ยกล่อมให้เหวินหย่ายอม นางก็ไม่ได้อยากรู้มากนัก
เมื่อเห็นว่าใกล้จะสายแล้ว นางก็พยักหน้าให้โม่เพียว “ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ”
ดวงตาของโม่เพียวเป็นประกาย “ได้เลยเจ้าค่ะ” หลังจากพูดจบ นางก็รีบเก็บของ แล้วเดินตามเนี่ยนเนี่ยนออกจากประตูหอหลินเยว่
ทันทีที่ร่างของพวกนางหายลับไป เหวินหย่าก็ออกมาจากห้องสุขา นางขมวดคิ้วแล้วลูบท้องตัวเอง เมื่อเห็นว่าห้องว่างเปล่า นางก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามสาวใช้ที่กำลังทำความสะอาดว่า “เนี่ยนเนี่ยนอยู่ที่ใด?”
สาวใช้คนนั้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบเสียงเบาว่า “จวิ้นจู่กับแม่นางโม่เพียวออกไปแล้วเจ้าค่ะ”
“…” เหวินหย่าลอบกัดฟัน เจ้าโม่เพียวจอมร้ายกาจ
นางก้าวเท้าเตรียมจะตามไป แต่นางก็ต้องถอยกลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วลูบหน้าผากตัวเอง ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเสียไม่ได้
ในเมื่อออกไปกันหมดแล้ว ก็ให้นางตามไปเถิด
โม่เพียวกระหยิ่มยิ้มย่องที่ทำสำเร็จ แม้ว่าวิธีนี้จะค่อนข้างฉวยโอกาสและไม่ค่อยสะอาดนัก แต่อย่างน้อยก็บรรลุเป้าหมายแล้ว
นางเดินตามเนี่ยนเนี่ยน พลางมองไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นเต้น “ไม่ได้ออกไปไหนมาสองสามวันแล้ว ถนนดูเหมือนจะเปลี่ยนไปแล้วนะเจ้าคะ”
“…” เนี่ยนเนี่ยนกะพริบตา เปลี่ยนหรือ? เหตุใดนางถึงไม่รู้สึกเลย? มันยังคงเหมือนเดิม ร้านขายหุ่นดินเผาทางด้านซ้ายยังเหมือนเดิม แม้แต่หุ่นดินเผาที่วางขายอยู่ก็ยังเหมือนเดิม
นางหรี่ตามองโม่เพียว รู้สึกหมั่นไส้
หลังจากที่ทั้งสองเดินไปสักพัก โม่เพียวก็ดึงเสื้อของเนี่ยนเนี่ยนอย่างแรง “คุณหนู คุณหนู ตลาดดอกไม้ที่แม่เฒ่าเซินพูดถึงอยู่ตรงนั้นเจ้าค่ะ ไปดูกันเถอะ เร็วเข้าเจ้าค่ะ”
เนี่ยนเนี่ยนจ้องมองมือของนางที่แทบจะฉีกแขนเสื้อตน มุมปากของนางกระตุก “ไปดูเองเถิด ข้าจะไปโรงเตี๊ยมจวี้เป่าก่อน”
หากโม่เพียวเดินไปทั่วตลาดดอกไม้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเสร็จภายในสองหรือสามชั่วยาม นางไม่มีเวลาว่างถึงเพียงนั้น
เมื่อได้ยินสิ่งที่นางพูด โม่เพียวก็รู้สึกลำบากใจ นางบุ้ยปากเล็กน้อย “แต่ว่าคุณหนู หากเหวินหย่ารู้ว่าข้าปล่อยท่านไว้ แล้วไปเดินดูดอกไม้ตามลำพัง นางต้องจัดการข้าเมื่อกลับไปเป็นแน่ เพราะข้าสัญญากับนางว่าจะดูแลท่านเป็นอย่างดี คุณหนู ท่านอย่าแยกจากข้าเลยเจ้าค่ะ”
เนี่ยนเนี่ยนหัวเราะแห้ง ๆ นางพยายามแกะนิ้วของโม่เพียวออกทีละนิ้ว ในที่สุดก็ดึงแขนเสื้อกลับมาได้ จากนั้นก็ถอนหายใจยาว แล้วพูดว่า “ข้าดูแลตัวเองได้ เจ้าไปดูดอกไม้ของเจ้าเถิด ข้าสัญญา… ว่าจะไม่บ่นต่อหน้าเหวินหย่า”
มันไม่สมเหตุสมผลเลย เห็นได้ชัดว่าวรยุทธ์ของนางดีกว่าทั้งยังฉลาดกว่าด้วย แล้วเหตุใดคนที่โม่เพียวกลัวถึงเป็นเหวินหย่า ไม่ใช่นาง? ช่างไร้เหตุผลนัก
ดวงตาของโม่เพียวเป็นประกายเมื่อได้ยินเช่นนั้น หากไม่บ่น… ก็สบายใจได้
ความคิดของนางเริ่มตีกัน ฝั่งหนึ่งเป็นตลาดดอกไม้และพันธุ์ดอกไม้หายาก ที่นางรอคอยที่จะได้เห็น ส่วนอีกฝั่งหนึ่งคือนางต้องดูแลและปกป้องคุณหนู ไม่ว่านางจะทิ้งฝั่งใดไป นางก็จะรู้สึกว่าตนมีความผิดร้ายแรง เช่นนั้นควรทำอย่างไรดี?
โม่เพียวแอบถอนหายใจ รู้สึกว่าตนกำลังเผชิญกับการทดสอบครั้งสำคัญในชีวิต
เนี่ยนเนี่ยนเห็นสีหน้าท่าทางของนางแล้วก็อยากจะหัวเราะ และอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปผลักนาง “เอาล่ะ เจ้าไปดูดอกไม้ของเจ้า โรงเตี๊ยมจวี้เป่าอยู่ข้างหน้าแล้ว เดินไปอีกไม่กี่ก้าวก็ถึง อีกทั้งเจ้าไม่รู้หรือว่าทักษะของข้าอยู่ในระดับใด? ป้องกันตัวเองได้อยู่แล้ว”
การตัดสินใจของโม่เพียวเอนเอียงไปทางตลาดดอกไม้ทันที นัยน์ตาของนางพลันเป็นประกาย
ใช่แล้ว คุณหนูเก่งกว่านางทั้งในด้านวรยุทธ์และความฉลาด นางจึงไม่มีอะไรต้องกังวล
โม่เพียวเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นคว้ามือของเนี่ยนเนี่ยนด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “เช่นนั้นคุณหนูต้องดูแลตัวเองให้ดีนะเจ้าคะ ท่านไม่ต้องกังวล ข้าแค่ไปดูสักพัก แล้วจะรีบไปหาท่านที่โรงเตี๊ยมจวี้เป่าเจ้าค่ะ”
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก เอาล่ะ ไม่จำเป็นต้องโกหกเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วหรอก มันทำให้นางรู้สึกอึดอัด
“อืม อืม ไว้เจอกัน”
โม่เพียวปล่อยมือของนางทันที แล้วเดินไปที่ตลาดดอกไม้อย่างมีความสุข ด้วยท่าทางกระวนกระวายใจ ราวกับกลัวว่าเนี่ยนเนี่ยนจะเปลี่ยนใจ แล้วดึงนางกลับไปในวินาทีต่อมา
เนี่ยนเนี่ยนตบหน้าผากตัวเอง นางตระหนักได้อย่างลึกซึ้งว่า สถานะของนางในใจของโม่เพียวนั้นต่ำมาก ต่ำจนไม่อาจต่ำไปมากกว่านี้ได้แล้ว
นางกลอกตาแล้วเดินไปที่โรงเตี๊ยมจวี้เป่า
โรงเตี๊ยมจวี้เป่าอยู่ไม่ไกลจากที่นี่จริง ๆ ห่างออกไปแค่สองทางแยกเท่านั้น เพียงแค่เดินตรงไปเรื่อย ๆ ตามถนนเส้นนี้
ทว่าเมื่อเนี่ยนเนี่ยนไปถึงทางแยกแรก ฝีเท้าของนางก็หยุดลง นางเดินเลี้ยวเข้าไปในตรอกกว้าง
เมื่อมาถึงทางเข้าตรอกก็เลี้ยวเข้าไปในซอยที่ค่อนข้างแคบ ซอยนี้เงียบงันไร้ผู้คน
มาถึงตรงนี้ เนี่ยนเนี่ยนเริ่มคิด
คนผู้นั้นตามมาตลอดทาง หลังจากพยายามอย่างหนักมานาน ก็ไม่ควรจะปล่อยให้ความพยายามสูญเปล่าใช่หรือไม่?
นางค่อนข้างใจดี จึงไม่พาเขาไปที่โรงเตี๊ยมจวี้เป่า และปล่อยให้เป่ยเป่ยมาจัดการกับเขา
เขาไม่ปรากฏตัวตอนที่นางยังอยู่ที่นั่นกับโม่เพียว บัดนี้นางอยู่คนเดียวในซอย จึงเป็นโอกาสดีสำหรับเขาที่จะโจมตี
ในที่สุดเนี่ยนเนี่ยนก็หันหน้าเข้าหากำแพง นางหยุดนิ่ง แล้วเอียงคอแสร้งพูดด้วยความเสียใจว่า “เหตุใดถึงเป็นทางตันเล่า? เช่นนั้นควรไปทางไหนดี?”
“เจ้าไม่ต้องไปไหนหรอก” ทันใดนั้นก็มีเสียงห้าวดังมาจากข้างหลัง แล้วก็มีคนกระโดดลงมาจากกำแพง และขวางทางออกเพียงทางเดียวของนางไว้ ทำให้นางไม่อาจหนีไปได้
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก นางหันไปมอง แล้วถอยหลังไปสองก้าวทันทีเมื่อเห็นคนที่กำลังมา ก่อนจะมองเขาด้วยความตกใจ “เจ้าเป็นใคร?”
“แน่นอนว่าเป็นผู้ที่จะปลิดชีวิตเจ้า”
ชายที่อยู่ข้างหน้านางมีท่าทางดุร้าย เขาคาบฟางไว้ในปาก และแบกดาบเล่มใหญ่ไว้บนบ่า ดูน่าเกรงขามยิ่งนัก
เนี่ยนเนี่ยนถอยหลังไปอีกก้าว “ปลิดชีวิตข้างั้นหรือ? ข้าไม่รู้จักเจ้าเลย เหตุใดเจ้าถึงต้องการปลิดชีวิตข้า? เจ้ากับข้าไม่เคยมีความขุ่นข้องหมองใจกันมาก่อน และไม่ได้มีความขุ่นเคืองใจกันในปัจจุบัน แล้วเหตุใดเจ้าต้องมาฆ่าข้า ทั้งที่เราไม่เคยเกี่ยวข้องกันด้วยเล่า?
“ถุย” ชายคนนั้นพ่นฟางในปากทิ้ง ก่อนจะง้างดาบเล่มใหญ่บนไหล่ของเขาขึ้น แล้วใช้ดาบคมกริบนั้น ฟันตะกร้าที่ถูกวางทิ้งไว้ในตรอกรกร้างขาดออกเป็นสองท่อน
เขามองไปที่เนี่ยนเนี่ยน แล้วแสยะยิ้มมีเลศนัย “เจ้าโทษข้าไม่ได้ ข้ารับเงินจากคนจ้างเพื่อกำจัดเป้าหมาย หากต้องการรู้ชัดเจน ก็จงไปถามพญายมเอาเองเถิด”
เขาพูดพร้อมกับเดินลากดาบใหญ่เข้าไปหาเนี่ยนเนี่ยนทีละก้าว
เนี่ยนเนี่ยนหรี่ตาลง รับเงินจากคนจ้าง… กำจัดเป้าหมาย… คนผู้นี้ถูกคนอื่นว่าจ้างให้มาฆ่านางงั้นหรือ? ใครกัน? หลิ่วเหวยหรือ?
นางรีบคิดในใจ สีหน้าของนางเปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ชายคนนั้นไม่อาจรอได้อีกต่อไป เขาหยิบดาบใหญ่ขึ้นมาฟันเนี่ยนเนี่ยน
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
โม่เพียวแสบไม่เบาเลยน้า นึกว่าจะเป็นคนซื่อๆ ในหมู่สาวใช้ของเนี่ยนเนี่ยนเสียอีก
โดนคนตามฆ่าแล้ว จะมีใครมาช่วยไหมเนี่ยเนี่ยนเนี่ยน
ไหหม่า(海馬)