ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ - ตอนที่ 356 นั่งโต๊ะเดียวกัน / ตอนที่ 357 แย่งถังโจวโจวกลับคืนมา
- Home
- ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ
- ตอนที่ 356 นั่งโต๊ะเดียวกัน / ตอนที่ 357 แย่งถังโจวโจวกลับคืนมา
ตอนที่ 356 นั่งโต๊ะเดียวกัน
ลั่วเซ่าเซินสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ถึงได้เล่าเรื่องที่ถังโจวโจวความจำเสื่อมให้เธอฟัง ลั่วอิงเองก็ลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังร้องไห้อยู่ เอ่ยถามอย่างร้อนรนว่า “คุณพ่อคะ คุณพ่อหมายความว่าคุณแม่โจวโจวจำพวกเราไม่ได้เหรอคะ?”
“ใช่ลูก แม่ไม่ได้แค่ลืมพวกเรา แต่จำเรื่องในอดีตของตัวเองไม่ได้เลย ลืมแม้กระทั่งตัวเอง” นี่นับเป็นเรื่องที่เศร้าที่สุด เขาคิดว่าจะโน้มน้าวเธอกลับมาอย่างไรดี จะตามหาเธออย่างไรครอบครัวถึงจะกลับมาอยู่กันพร้อมหน้ากันได้
แต่ระหว่างที่เขาไม่ได้ข่าวคราวของเธอเลยนั้น เธอกลับลืมเรื่องที่เคยเกิดขึ้นไปหมดแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไร ในสมองของเธอก็มีเพียงแต่ความว่างเปล่า
“แล้วคุณลุงคนนั้นละคะ? เขาเป็นอะไรกับคุณแม่โจวโจว แล้วก็เด็กคนนั้นด้วย?” ลั่วอิงเชื่อว่าถังโจวโจวความจำเสื่อม แต่ว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของคุณแม่โจวโจวกับคุณลุงคนนั้นหรือเปล่า?
ตอนนี้คุณแม่โจวโจวไม่ได้เป็นแค่คุณแม่โจวโจวของเธอกับคุณพ่อแล้ว ตอนนี้เธอยังเป็นของคนอื่นด้วย
“ลูกรัก เรื่องนี้ลูกไม่ต้องสนใจนะ ลูกรู้แค่ว่าลูกจะมีน้องชายเพิ่มอีกคน คุณแม่โจวโจวเองก็จะกลับมา ลูกจำเรื่องนี้ไว้ก็พอ” ลั่วเซ่าเซินตัดสินใจแล้ว เขาจะไม่ปล่อยถังโจวโจวไป ไม่ว่าตอนนี้เธอจะคบกับใครอยู่ เขาก็จะแย่งเธอกลับมา
เด็กคนนั้น…เขาเองก็จะดูแลให้เหมือนลูกแท้ๆ ขอเพียงถังโจวโจวยอมกลับมา นั่นก็ไม่มีอะไรที่เป็นปัญหาทั้งนั้น ถ้าคุณแม่ของเขามีคำถาม เขาก็จะบอกว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขากับถังโจวโจว ถึงเวลานั้นฝ่ายแม่ของเขาก็ไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรอีก เธอเองก็อยากได้หลานชายมาตลอดไม่ใช่หรือไง!
ถังถังจะความจำเสื่อมก็ไม่เป็นไร ขอแค่เธอตกหลุมรักเขาอีกครั้งก็พอ!
ลั่วเซ่าเซินคิดทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว ท่าทางของเขาดูมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก เขาจะไม่ยอมปล่อยถังโจวโจวไปไหน จะให้ใครไปไม่ได้ทั้งนั้น เมื่อคิดดีแล้ว ลั่วเซ่นเซินก็พลันผ่อนคลาย เมื่อมีจุดมุ่งหมาย เขาก็เล่าให้ลั่วอิงฟังอย่างละเอียดรอบหนึ่ง สองพ่อลูกจะทำภารกิจแย่งถังโจวโจวกลับมาจากข้างกายโอวหยางหง
ลั่วอิงตบลงที่หน้าอกของตัวเอง “คุณพ่อวางใจเถอะนะคะ หนูจะช่วยคุณพ่อเอง จะไม่ยอมให้ลุงคนนั้นแย่งคุณแม่โจวโจวไปได้ค่ะ!”
เมื่อตัดสินใจได้อย่างนั้นแล้ว ลั่วเซ่าเซินก็พาลั่วอิงไปยังโต๊ะของโอวหยางหง ให้พนักงานเพิ่มเก้าอี้ให้สองตัว ทั้งสี่คนนั่งล้อมรอบโต๊ะ อ๊ะ ลืมเสี่ยวอวี่ไปเลย ต้องบอกว่าห้าคนสิถึงจะถูก!
“คุณแม่โจวโจว หนูชื่อลั่วอิง หนูรู้ว่าคุณแม่จำหนูไม่ได้แล้ว แต่ว่าคนที่คุณแม่รักที่สุด นอกจากคุณพ่อ ก็คือหนูค่ะ”
“ฉันเชื่อว่าที่ลั่วอิงพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง หนูน่ารักขนาดนี้ จะไม่ให้รักได้ยังไงละจ๊ะ”
ลั่วเซ่าเซินชี้ไปที่โอวหยางหง แนะนำเขาให้ลั่วอิงรู้จัก “ลั่วอิง นี่คุณโอวหยาง เป็นเพื่อนของคุณแม่โจวโจว”
โอวหยางหงเลิกคิ้วมองลั่วเซ่าเซินที่จงใจพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหู่พั่วให้ดูธรรมดา แต่เขาไม่ใส่ใจหรอก เดิมทีเขาก็แค่แกล้งหลอกลั่วเซ่าเซินเท่านั้นเอง
ดูจากตอนนี้ลั่วเซ่าเซินคงจะตัดสินใจอะไรบางอย่างแล้ว ไม่อย่างนั้นลั่วเซ่าเซินที่จ้องตาเขม็งทั้งยังโกรธขึ้งใส่เขา ตอนนี้กลับให้เขารู้จักกับลูกสาวได้อย่างเป็นมิตร มันจะง่ายขนาดนี้ได้ยังไง
“ลั่วเซ่าเซิน ความสัมพันธ์ของผมกับหู่พั่วจะสรุปรวมๆ ว่าเป็นเพื่อนทั่วไปคงไม่ได้นะครับ” โอวหยางหงอยากให้เห็นลั่วเซ่าเซินร้อนใจจนเสียท่า เขาจะต้องสั่งสอนลั่วเซ่าเซินแทนพี่สาว!
“คุณลุง หู่พั่วคือใครเหรอคะ?” เมื่อกี้ยังบอกอยู่เลยว่าตัวเองกับคุณแม่โจวโจวมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้พูดถึงผู้หญิงคนอื่นเสียล่ะ ลั่วอิงหวังว่าเธอจะคว้าจุดอ่อนของเขาไว้ได้ อย่างนี้ถังโจวโจวก็จะรู้สึกผิดหวังต่อเขา แล้วก็จะกลับมาอยู่ข้างกายเธอกับคุณพ่อเอง
มีหรือว่าโอวหยางหงจะไม่รู้ความคิดของลั่วอิง แต่ด้วยเห็นว่าลั่วอิงเป็นลูกสาวของพี่ใหญ่ เขาเองก็ไม่ได้มองว่าลั่วเซ่าเซินเป็นศัตรู เขาอธิบายให้เธอฟังเบาๆ ว่า “หู่พั่วเป็นชื่อปัจจุบันของคุณแม่โจวโจวของหนู นี่เป็นชื่อที่ลุงตั้งใจตั้งให้เธอเองเลยนะ”
ตอนที่ 357 แย่งถังโจวโจวกลับคืนมา
“คุณลุงเป็นคนตั้งชื่อให้คุณแม่โจวโจวเหรอคะ? ทำไมถึงตั้งชื่อนี้ล่ะคะ คุณแม่โจวโจวมีชื่ออยู่แล้วนี่นา ไม่ต้องให้คุณลุงตั้งให้ก็ได้ค่ะ!”
ลั่วอิงไม่ยินดีที่จะให้ถังโจวโจวเปลี่ยนไปใช้ชื่ออื่น อย่างนี้จะทำให้เธอรู้สึกว่าถังโจวโจวไม่ใช่คุณแม่โจวโจวที่เธอเคยรู้จักอีกต่อไป เธอกลายเป็นคนสำคัญที่สุดของคนอื่นไปแล้ว
“เด็กน้อย ไม่ใช่ว่าหนูพูดแล้วจะได้ตามนั้นนะ เอาล่ะ พูดกันมาตั้งนาน หนูก็คงจะหิวน้ำแล้ว งั้นลุงสั่งน้ำผลไม้ให้แก้วหนึ่งนะ ดีไหม?”
โอวหยางหงกำลังเรียกให้พนักงานเดินเข้ามา แต่กลับได้ยินคำปฏิเสธจากลั่วอิงเสียก่อน “คุณลุง ขอโทษนะคะ แต่หนูไม่ดื่มน้ำผลไม้ค่ะ”
ลั่วอิงพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะกลืนน้ำลายลงไป เวลานี้เธอเป็นทีมเดียวกับคุณพ่อ จะยอมให้คุณลุงคนนี้ซื้อตัวไปไม่ได้ เธอต้องอดทนไว้
เขาแย่งคุณแม่โจวโจวไป เธอจะรับของจากเขาไม่ได้ เธอพยายามหนักแน่นในความคิดนี้ เวลาต่อมาลั่วอิงจึงพูดกับโอวหยางหงเพียงไม่กี่คำ ถ้าไม่คุยด้วยได้เธอก็จะไม่พูดด้วย
สมาธิของลั่วอิงไปรวมกันอยู่ที่เสี่ยวอวี่ เธอนั่งอยู่ข้างๆ ถังโจวโจว และไถลตัวลงมาจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว “คุณแม่โจวโจว หนูขออุ้มเขาได้ไหมคะ?”
เดิมทีลั่วอิงก็ไม่อยากสนใจเสี่ยวอวี่ แต่ว่าท่าทางบ้องแบ๊วของเสี่ยวอวี่กระตุ้นให้เธอมองไปอยู่หลายครั้ง ในที่สุดเธอก็ต้านทานเสน่ห์ของเสี่ยวอวี่เอาไว้ไม่ไหว ขยับเข้าไปตรงหน้าเสี่ยวอวี่
“ได้สิจ๊ะ แต่หนูต้องนั่งบนเก้าอี้ก่อนนะ เสี่ยวอวี่ตัวหนัก ตอนนี้หนูยังอายุน้อยไปหน่อย ฉันกลัวว่าจะอุ้มไม่ไหว”
ลั่วอิงลากเก้าอี้เข้ามาให้ใกล้กับที่นั่งของถังโจวโจวขึ้นอีกหน่อย จากนั้นก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวตรง หู่พั่ววางเสี่ยวอวี่ลงบนขาของเธอ ดูแล้วเสี่ยวอวี่จะชอบพี่สาวตัวเล็กคนนี้เป็นพิเศษ เขาเอาน้ำลายป้ายบนหน้าเธอไม่หยุด
หู่พั่วทำหน้านิ่ง “เสี่ยวอวี่ อย่าให้น้ำลายโดนตัวพี่เขาสิจ๊ะ ถ้าทำอย่างนี้อีกลูกจะไม่น่ารักแล้วนะ”
“คุณแม่โจวโจว ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูชอบเสี่ยวอวี่ ถึงน้องจะทำแบบนี้ก็ไม่เป็นไรค่ะ” ลั่วอิงท่าเหมือนกับพี่คนโตไม่มีผิด เธอรู้จักที่จะให้อภัยน้องชายตัวเล็ก
พนักงานยกอาหารจานหลักมาให้ หู่พั่วอยากเอาเสี่ยวอวี่กลับมาอุ้ม แล้วให้ลั่วอิงกินข้าว หากแต่ลั่วอิงไม่ยอม “คุณแม่โจวโจวกินข้าวก่อนเถอะค่ะ หนูยังอยากอุ้มเสี่ยวอวี่อีกหน่อย”
“งั้นถ้าเหนื่อยก็บอกฉันนะจ๊ะ ฉันจะอุ้มเสี่ยวอวี่เอง ปล่อยให้หนูเหนื่อยเกินไปไม่ได้หรอก” หู่พั่วเปลี่ยนใจลั่วอิงไม่ได้ เธอทำได้เพียงมองสังเกตไปที่เธอเป็นครั้งคราว จิตใจไม่เป็นอันอยู่กับสเต็กเนื้อตรงหน้า
ลั่วเซ่าเซินเห็นว่าเธอไม่มีสมาธิกับการกินข้าว อีกอย่างลั่วอิงเองก็ได้อุ้มมาสักพักแล้ว ถึงเสี่ยวอวี่จะตัวไม่ใหญ่ แต่ดูแล้วก็มีเนื้อมีหนังอยู่ เพราะอย่างนั้นลั่วเซ่าเซินจึงเป็นกังวลว่าลั่วอิงจะอุ้มจนเหนื่อยเกินไป “ลูก ให้พ่ออุ้มแทนไหม ลูกกินข้าวก่อนเถอะ กินข้าวเสร็จแล้วค่อยเล่นกับน้องนะ”
ลั่วอิงรับปากในทันที ลั่วเซ่าเซินลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วรับเสี่ยวอวี่มา เพียงรับมาไว้ในมือ ก็พบว่าหนักไม่ใช่เล่นเลย ดูแล้วถังโจวโจวจะเลี้ยงเขามาอย่างดี
เสี่ยวอวี่เล่นคนเดียวอยู่สักครู่ อาจเพราะเห็นว่าคนอื่นๆ กำลังกินข้าวกินอยู่ ก็เลยรู้สึกหิวขึ้นมาบ้าง เห็นอาหารบนโต๊ะน่ากิน ก็เบะปากให้หู่พั่ว
“หม่า…ม้า” เสียงอ่อนหวานเรียกหู่พั่วจนใจของเธอแทบอ่อนปวกเปียก “หิวเหรอจ๊ะลูก? เดี๋ยวแม่ป้อนนะ”
หู่พั่วอยากรับตัวเสี่ยวอวี่กลับมา แต่ลั่วเซ่าเซินกลับหลบไปอีกฝั่ง “ให้ผมอุ้มเถอะ คุณป้อนเขาก็แล้วกัน”
โอวหยางหงมองลั่วเซ่าเซินปราดหนึ่ง โอวยางหงเหลือบตามามองก็เห็นว่าลั่วเซ่าเซินไม่ได้มองมาที่เขาสักนิด ตอนนี้เขามีกะจิตกะใจอยู่แค่กับเด็กน้อยและถังโจวโจวที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
ถ้าไม่มีโอวหยางหง ตอนนี้พวกเขาสี่คนคงกำลังกินมื้อกลางวันด้วยกันอย่างมีความสุข แต่บังเอิญว่ามีโอวหยางหงอยู่ด้วย คอยเตือนสติเขาว่า ตอนนี้ถังโจวโจวยังไม่ได้เป็นของเขา
“อย่างนั้นก็ได้ เสี่ยวอวี่ อ้าปากสิจ๊ะ” โอวหยางตั้งใจสั่งซุปเห็ดมาให้เสี่ยวอวี่ หู่พั่วเพิ่มผักให้อีกหน่อย ถือช้อนคันเล็กป้อนเข้าไปในปากของเสี่ยวอวี่
“เก่งมากเลย!” หู่พั่วเช็ดปากให้เสี่ยวอวี่เล็กน้อย เสี่ยวอวี่ได้ยินว่าแม่ให้กำลังใจ ก็ยิ้มดีใจขึ้นไปอีก กวัดแกว่งมือน้อยๆ ตาจ้องเขม็งอยู่ที่ชาม เห็นได้ชัดว่าอยากกินอีก