ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ - ตอนที่ 370 ลั่วเซ่าเซินมาถึงประเทศ H / ตอนที่ 371 ทำไมฉันต้องฟังคุณด้วย?
- Home
- ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ
- ตอนที่ 370 ลั่วเซ่าเซินมาถึงประเทศ H / ตอนที่ 371 ทำไมฉันต้องฟังคุณด้วย?
ตอนที่ 370 ลั่วเซ่าเซินมาถึงประเทศ H
ตำแหน่งของปราสาทเก่าแก่ตั้งอยู่บนไหล่เขา ธรรมดาแล้วแท็กซี่ทำได้เพียงจอดลงที่ตีนเขาเท่านั้น แน่นอนว่าก็มีกรณีพิเศษ หากยามเฝ้าประตูภายในปราสาทออกปากอนุญาต รถแท็กซี่ก็จะแล่นเข้าไปได้ แต่ว่าโอกาสที่ว่านั้นก็มีน้อยนัก
อย่างไรคนที่อาศัยอยู่ในสถานที่แบบนี้ก็ไม่ได้ขัดสนที่จะซื้อรถสักคันอยู่แล้ว ดังนั้นคนขับรถแท็กซี่หลายๆ คนจึงใช้โอกาสในการส่งผู้โดยสารเข้าไปข้างในดูบรรยากาศภายใน ทว่าจนถึงตอนนี้ โอกาสพิเศษแบบนั้นก็มีน้อยเหลือเกิน
ลั่วเซ่าเซินจ่ายค่าแท็กซี่ ยืนนิ่งอยู่ที่ตีนเขา เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ลากกระเป๋าเดินทางเดินขึ้นไปบนเขา ที่เขามาครั้งนี้ไม่ได้มีความคิดที่จะพักที่โรงแรม เขาเตรียมตัวเตรียมใจที่จะก่อกวนถังโจวโจวไปให้ถึงที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นแผนทรมานตัวเองหรือว่าชายผู้แสนดี ขอให้ได้ใช้ก็ถือว่าเป็นแผนการที่ดีทั้งนั้น ลั่วเซ่าเซินตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะไม่ยอมให้ถังโจวโจวจากเขาไปไหน เขาจะไม่ยอมถอยหลังแม้แต่ก้าวเดียว
เดินมาได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็เข้าใกล้ตำแหน่งที่ลั่วอิงอยู่แล้ว แต่ว่าประตูรั้วบานใหญ่ตรงหน้าก็ขวางทางเขาเอาไว้
ลั่วเซ่าเซินตัดสินใจโทรไปหาถังโจวโจว “ฮัลโหล โจวโจวตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน”
“คุณโทรหาฉันมีอะไรเหรอคะ?” หู่พั่วไม่เข้าใจว่าจู่ๆ เขาจะถามว่าเธออยู่ที่ไหนไปทำไม เธออยู่ที่ไหนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาสักหน่อย ต่อให้บอกเขาไป เขาก็เข้าใกล้เธอไม่ได้อยู่ดี ไหนยังจะยังระยะทางอันยาวไกลที่ขวางทางเอาไว้อีก
“โจวโจว ไม่ได้คุยกับผมนานขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงไม่เกรงใจผมบ้าง?” แม้ว่าลั่วเซ่าเซินจะล้อเล่นกับเธอ แต่ว่าที่ผ่านมาถังโจวโจวก็ไม่เคยเมินเฉยใส่เขาขนาดนี้มาก่อน ต่อให้เมื่อก่อนทะเลาะเบาะแว้งกัน ก็ไม่เคยถึงขั้นนี้
“หึ! คุณลั่วคะ ถ้าคุณจะคุยกับลั่วอิง ฉันจะเอาโทรศัพท์ไปให้เธอ แต่ถ้าคุณอยากคุยกับฉัน ฉันก็ต้องขออภัยด้วยที่ไม่อาจจะรับใช้คุณได้ ต่อให้ฉันบอกคุณไป มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี ใช่ว่าคุณจะโผล่ขึ้นมาตอนนี้ได้เลยเสียที่ไหน”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าเป็นไปไม่ได้?” ลั่วเซ่าเซินจินตนาการท่าทีที่กำลังโกรธเคืองของถังโจวโจว เขาก็หุบรอยยิ้มที่มุมปากเอาไว้ไม่อยู่
“โอเค คุณนี่ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ฉันจะบอกคุณก็ได้ ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องตัวเอง มีอะไรหรือเปล่า?”
เสี่ยวอวี่ที่หลับอยู่ยังไม่ตื่น หู่พั่วเพิ่งจะล้างหน้าแปรงฟัน ก็มารับโทรศัพท์ของลั่วเซ่าเซินทันที
“ห้องของคุณอยู่ชั้นสองใช่ไหม?”
“คุณรู้ได้ยังไง?”
ถังโจวโจวตอบรับลั่วเซ่าเซินไปอย่างดุดัน เขาทายถูก ใช่อย่างที่คิดจริงๆ ด้วย “โจวโจว คุณเปิดหน้าต่างห้องคุณแล้วมองออกมาข้างนอกสิ”
“ทำไมฉันต้องทำตามที่คุณบอกด้วย?” อีกนิดเดียวเธอก็จะทำตามที่เขาพูดอยู่แล้ว โชคดีที่เธอตั้งสติเอาไว้ได้ทัน ทำไมเธอต้องทำตามที่ลั่วเซ่าเซินบอกด้วย เธอไม่อยากทำตามที่เขาต้องการ
“คุณจะไม่มองออกมาข้างนอกจริงๆ เหรอ? คุณอาจจะพลาดวิวสวยๆ ก็ได้นะ” เสียงของลั่วเซ่าเซินทุ้มต่ำราวกับมีเสน่ห์ดึงดูด เร่งเร้าให้หู่พั่วเดินไปยังริมหน้าต่าง พอเปิดหน้าต่างออกไป เธอมองออกไปข้างนอก ถึงได้เข้าใจว่าที่ลั่วเซ่าเซินพูดมาทั้งหมดหมายความว่าอย่างไร
มือของเธอยังคงถือโทรศัพท์เอาไว้ ทว่าดวงตาของหู่พั่วกลับจดจ้องอยู่ที่เงาดำที่อยู่ข้างนอก มองลอดพุ่มไม้ชั้นแล้วชั้นเล่าออกไป เธอก็เห็นว่าที่นอกประตูรั้วมีเงาสีดำยืนอยู่ตรงนั้น
รอจนกระทั่งเงาดำนั้นโบกมือให้เธอ อีกทั้งเสียงของลั่วเซ่าเซินที่อยู่ในโทรศัพท์ เธอถึงได้เข้าใจว่า ที่แท้ลั่วเซ่าเซินก็อยู่ที่นี่แล้วนี่เอง
“ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” เขาจงใจรอเธออยู่ตรงนั้น ตอนนี้เขาเห็นเธอโวยวายจนน่าขัน หู่พั่วไม่อยากจะสนใจลั่วเซ่าเซิน รีบปิดหน้าต่างลงในทันที เรื่องของเขาสิ เธอไม่เห็นเขาก็เป็นอันว่าใช้ได้แล้ว
อย่างกับลั่วเซ่าเซินรู้ว่าของถังโจวโจวโกรธเขาเข้าให้แล้ว จึงเอ่ยด้วยความน่าสงสาร “โจวโจว ผมนั่งเครื่องบินมาสิบกว่าชั่วโมง ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ตอนนี้ทั้งหนาวทั้งหิว คุณจะกลั้นใจมองข้ามผมไปแบบนี้เลยเหรอ?”
ลั่วเซ่าเซินไม่สนใจว่าถังโจวโจวจะยังมีใจให้เขาหรือเปล่า ด้วยความใจดีของถังโจวโจว เธอไม่มีทางที่จะปล่อยเขาไว้โดยไม่สนใจไยดี
แต่ใครจะรู้ว่าเขาเข้าใจผิดไป “ดูเหมือนว่าคุณจะตั้งใจให้ฉันปล่อยให้คุณเข้ามาด้วยความสงสารสินะ ฝันไปเถอะ! รีบไปหาโรงแรมอาบน้ำอุ่นให้สบายเถอะนะคะ ฉันไม่หลงกลคุณหรอก”
ลั่วเซ่าเซินเตรียมคำพูดโน้มน้าวใจเธอเอาไว้อีก ใครจะรู้ว่าถังโจวโจวจะกดตัดสายเขาไปแล้วโดยไม่ลังเล
“โธ่เว้ย!” ตอนนี้เขาหงุดหงิดไปหมด ใช้แรงเตะขาออกไป ที่ไหนได้ดันไปเตะเข้ากับกำแพง ทำเอาเขากุมเท้ากระโดดไปทั่ว “โอ๊ย เจ็บเป็นบ้า!”
ตอนที่ 371 ทำไมฉันต้องฟังคุณด้วย?
ถังโจวโจวปิดหน้าต่างห้องของเธอไปแล้ว ตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้าอยู่ ถึงแม้ในปราสาทโบราณจะมีคนรับใช้เดินผ่านไปมาในสวนอยู่บ่อยครั้ง แต่ว่าลั่วเซ่าเซินไม่อยากทำให้พวกเขาแตกตื่น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายคนนั้นอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยหรือเปล่า
“พ่อบ้าน ผมจะออกไปข้างนอกสักหน่อย น่าจะไม่ได้กลับมากินมื้อกลางวันที่นี่นะครับ” โอวหยางหงมองออกไปที่นอกหน้าต่างรถ ออกคำสั่งเรื่องต่างๆ ให้กับพ่อบ้าน ยามเปิดรั้วประตูใหญ่ออก เขาขับรถออกไป แต่ไม่ทันเห็นลั่วเซ่าเซินที่ยืนอยู่ที่ซอกรั้ว
มองผู้ชายที่ดูคุ้นตา ที่เขาคิดไว้เป็นเรื่องจริงเสียด้วย ตอนนี้ถังโจวโจวกับโอวหยางหงอาศัยอยู่ด้วยกัน นี่ทำให้ลั่วเซ่าเซินโกรธจนเลือดขึ้นหน้า “ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้? ทำไมโจวโจวถึงได้ทำแบบนี้? รู้หรือเปล่าว่าโอวหยางหงชายชั่วคนนั้นอาจจะเอาเปรียบเธอได้…”
เมื่อคิดมาถึงตอนนี้แล้วลั่วเซ่าเซินก็พลันไม่อยากคิดอะไรให้มากมายไปกว่านี้แล้ว พวกเขามีลูกด้วยกัน จะเอาเปรียบไม่เอาเปรียบอะไรกันอีก มีแต่เขาคนเดียวที่หวังดีต่อเธอด้วยใจจริง ถึงได้เป็นเดือดเป็นร้อนแทนเธอแบบนี้
เมื่อเห็นว่าโอวหยางหงปรากฏตัว ลั่วเซ่าเซินก็รู้สึกว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะต้องรอบคอบให้มากกว่าเดิม อย่างน้อยๆ เขาก็ต้องสืบให้แน่ใจว่าปราสาทโบราณแห่งนี้เป็นของใครกันแน่ ดูเหมือนว่าจะต้องเจอหน้าลั่วอิงให้ได้เสียก่อน
ลั่วเซ่าเซินโทรหาถังโจวโจวอีกครั้ง เมื่อโทรติด เขาก็รีบพูดขึ้นว่า “โจวโจว คราวนี้ผมไม่ได้จะคุยกับคุณ คุณให้ลั่วอิงออกมาเจอผมหน่อยได้หรือเปล่า”
“ตกลง เดี๋ยวฉันจะไปเรียกเธอที่ห้องให้”
หู่พั่วพูดเพียงประโยคสั้นๆ ก็วางสายในทันที เดิมทีลั่วเซ่าเซินอยากใช้โอกาสตอนที่เธอเดินไปเรียกลั่วอิง คุยกับเธออีกสักหน่อย แต่ว่าดูเหมือนหู่พั่วจะไม่อยากเปิดโอกาสให้เขา
“ลั่วอิง ตื่นหรือยังจ๊ะ?” หู่พั่วเคาะประตูห้องของลั่วอิง แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากภายในห้อง
เธอย่องเข้าไปเบาๆ เพื่อที่จะดูว่าลั่วอิงยังหลับอยู่หรือเปล่า เมื่อเดินไปยังข้างเตียง จากแสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา หู่พั่วเห็นว่าร่างกายของลั่วอิงถูกห่มมิดชิดอยู่ใต้ผ้าห่ม
หู่พั่วรออยู่สักครู่ก็เห็นว่าจู่ๆ ร่างกายที่อยู่ใต้ผ้าห่มก็ขยับเขยื้อน เธอก็รู้ได้ทันที “เหมือนว่าลั่วอิงจะยังไม่ตื่นนะ ฉันออกไปก่อนดีกว่า รอให้เธอตื่นเมื่อไหร่ค่อยบอกเธอว่าคุณพ่อของเธอมาแล้ว”
“อะไรนะคะ! คุณพ่อมาแล้วเหรอคะ!” ความจริงลั่วอิงก็ตื่นอยู่ก่อนที่หู่พั่วจะเคาะประตูแล้ว เพียงแต่ว่าเธอตื่นขึ้นมาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น เธอนอนงัวเงียอยู่บนเตียง ยังไม่ทันที่จะได้ตอบรับถังโจวโจว เธอก็เข้ามาในห้องแล้ว ลั่วอิงจึงทำทีว่าหลับสนิทไปเสียเลย
หู่พั่วเผิดผ้าม่านออก ในห้องก็พลันสว่างไสว “ไม่ใช่ว่ายังไม่ตื่นหรอกเหรอจ๊ะ? ทำไมแค่ได้ยินคำว่าคุณพ่อแค่สองคำหนูก็ดูมีชีวิตชีวาได้ขนาดนี้ล่ะ?”
ลั่วอิงรู้ว่าเธอติดกับเข้าแล้ว ก็หัวเราะด้วยความรู้สึกเขินอาย “คุณแม่โจวโจว หนูก็แค่ยังไม่ทันได้ตั้งสติ ใครจะรู้ว่าคุณแม่จะเข้ามา หนูก็เลยทำเป็นว่ายังหลับอยู่”
หู่พั่วเห็นว่าเธอไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แม้ว่าในห้องจะมีฮีตเตอร์คอยรักษาอุณหภูมิในห้อง แต่ก็กลัวว่าเธอจะหนาวอยู่ดี “รีบห่มผ้าเถอะ เดี๋ยวฉันจะเอาเสื้อผ้ามาให้”
หู่พั่วเปิดตู้เสื้อผ้า เลือกชุดที่ลั่วอิงจะใส่ในวันนี้ ลั่วอิงเองก็ไม่ได้เรียกร้องว่าตัวเองจะต้องใส่อะไร นานๆ ทีจะมีโอกาสให้คุณแม่โจวโจวแต่งตัวให้ ลั่วอิงอยากรักษาโอกาสอันหาได้ยากนี้เอาไว้ให้ดี
ความจริงเธอแต่งตัวเองเป็นมาตั้งนานแล้ว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าถังโจวโจว ลั่วอิงกลับทำตัวเหมือนเด็กสามขวบ ใช้นิสัยชอบออดอ้อนของตัวเองอย่างสุดกำลัง ทำให้สายตาของถังโจวโจวโฟกัสอยู่ที่ตัวเธอ ไม่ต่างอะไรกับเด็กที่เล่นซุกซนเลยสักนิดเดียว
บางทีพวกเขาอาจจะไม่ได้อยากจะก่อความวุ่นวาย ก็เพียงแค่อยากให้คุณใส่ใจในตัวเธอ ได้รับความสนใจจากผู้ใหญ่ก็เท่านั้น
สิ่งที่พวกเด็กๆ ต้องการก็เรียบง่ายเท่านี้เอง
ลั่วอิงสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก่อนจะล้างหน้าแปรงฟันให้เสร็จด้วยความรวดเร็วสุดชีวิต แล้วจึงวิ่งลงชั้นล่างไป หู่พั่วตามไล่หลังมาด้วย “ลั่วอิง วิ่งช้าๆ หน่อยจ้ะ รอฉันด้วย”
“คุณแม่โจวโจว เร็วๆ สิคะ หนูไม่ได้เจอคุณพ่อมาตั้งนานแล้ว หนูอยากเจอคุณพ่อเร็วๆ” ลั่วอิงรอหู่พั่วอยู่เพียงสักครู่ เมื่อทั้งสองคนจูงมือกัน เธอถึงได้เริ่มออกวิ่งอีกครั้ง
เหล่าคนรับใช้เห็นว่าพวกเธอวิ่งออกไปข้างนอกก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ถึงแม้พวกเขาจะแปลกใจ แต่ก็ไม่กล้าวางมือจากความรับผิดชอบของตัวเอง เดี๋ยวเจ้านายจะต่อว่าเอาได้ ไม่มีใครร้องขอความเห็นใจได้เสียด้วย