ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ - ตอนที่ 456 เมิ่งไหวเซินใจโหดเหี้ยม / ตอนที่ 457 ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
- Home
- ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ
- ตอนที่ 456 เมิ่งไหวเซินใจโหดเหี้ยม / ตอนที่ 457 ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
ตอนที่ 456 เมิ่งไหวเซินใจโหดเ**้ยม
เมิ่งไหวเซิ่นพูดจบก็ไม่รอให้ฉินอวิ๋นพูดอีก เขาวางสายทันที ฉินอวิ๋นเห็นว่าถูกตัดสายก็อยากจะปามือถือลงพื้นเป็นอย่างมาก แต่ครู่หนึ่งก็คิดได้ ตอนนี้ไม่มีเวลามาโกรธ เธอไม่ควรมาเสียเวลากับเรื่องพวกนี้
เขาให้เธอไปขอร้องลั่วเซ่าเชิน ฉินอวิ๋นกังวลแค่ว่าเรื่องที่เธอทำทั้งหมดจะถูกเขาล่วงรู้หมดแล้ว ถ้าลั่วเซ่าเชินสืบรู้เรื่องทั้งหมดที่เธอทำ ฉินอวิ๋นคิดไม่ออกเลยว่าจะหาวิธีไหนมาทำให้เขาใจอ่อนได้
เมิ่งไหวเซินเลิกสนใจเรื่องที่เพิ่งจะคุยกับฉินอวิ๋นไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่ผิด ลูกสาวของตัวเองปกติก็เป็นคนที่เขาตามใจมาตลอด เธอในตอนนี้เลยทำผิดพลาดครั้งใหญ่และครั้งนี้เขาจะไม่ช่วยเธออีก
เมิ่งไหวเซินตัดสินใจเด็ดขาด และไม่คิดเรื่องของชิงซีอีก เขาเริ่มโทรไปที่บ้านหลังเก่า ก็ไม่รู้ว่าเวลานี้คุณพ่อจะนอนกลางวันอยู่ไหม
“ฮัลโหล ไม่ทราบว่าใครพูดสายอยู่คะ” แม่บ้านของที่บ้านรับสาย เมิ่งไหวเซิ่นรีบบอกสถานะของตัวเองทันที
“ฉันเอง”
“อ้อ ที่แท้ก็คือคุณชายรอง คุณจะคุณกับคุณท่านใช่ไหมคะ ดิฉันจะไปเรียนให้” ครู่เดียวแม่บ้านก็เดาความตั้งใจของเมิ่งไหวเซินได้ เพียงแต่ค่อนข้างประหลาดใจ เมิ่งไหวเซินโทรหาคุณท่านได้ช่างเป็นเรื่องปาฏิหาริย์จริงๆ
รอไม่นาน สายอีกฝั่งก็ปรากฏเสียงของคนชราขึ้น “ฮัลโหล แกโทรมาทำไม”
ปกติเมิ่งซงอวิ๋นก็ไม่ได้ทำสีหน้าดีๆ กับลูกชายคนนี้ของเขามากนัก เขาเป็นคนแข็งกระด้างคนหนึ่ง แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่รู้ว่าอ่อนโยนแปลว่าอะไร
ถ้าเมิ่งซงอวิ๋นทำผิด เขาจะยังทบทวนความผิดของตัวเอง แต่เมิ่งไหวเซินเป็นคนที่ไม่เคยฟังคำเตือนของใคร ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่เคยไว้หน้าคนในตระกูลและคนในครอบครัว เขาเห็นแล้วก็ขวางหูขวางตา จนถึงตอนนี้ความสัมพันธ์ของสองพ่อลูกนับวันยิ่งแย่ลง
“คุณพ่อครับ ผมรู้ว่าคุณพ่อไม่อยากเจอผม แต่วันนี้ผมมีเรื่องอยากบอกกับพ่อจริงๆ ฟังจบแล้วพ่อจะต้องดีใจแน่” เมิ่งไหวเซินพูดลองเชิงให้เมิ่งซงอวิ๋นสนใจ
“ในเมื่อมีอะไรจะบอกก็รีบพูด ไม่ต้องมาเล่นลิ้น” ตลอดชีวิตของเมิ่งซงอวิ๋นเป็นคนพูดเร็ว จะคุ้นชินกับสไตล์การพูดของเมิ่งไหวเซินเสียที่ไหนกัน
“พ่อครับ ผมเจอหลานอีและชิงหลานแล้ว พ่อดีใจไหม”
ทางฝั่งของเมิ่งซงอวิ๋นเงียบไปพักหนึ่ง ผ่านไปครู่หนึ่งเขาถึงถามขึ้นมาว่า “จริงรึเปล่า แกเจอที่ไหน”
มือของเขาสั่นเทา ถึงจะบอกว่าเมิ่งไหวเซินมีภรรยาใหม่ไปแล้ว แต่ในใจของเมิ่งซงอวิ๋นก็ยังมีเสิ่นหลานอีเป็นลูกสะใภ้คนสำคัญที่สุดอยู่ดี เธอมีความรู้และสามารถดูแลบ้านหลังนี้ได้ เพียงแต่เพราะเมิ่งไหวเซินไม่สนใจ บวกกับชะตาชีวิตอาภัพทำให้เธอต้องตายตั้งแต่อายุยังน้อย
เสิ่นหลานอีเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนหัวใจของเมิ่งซงอวิ๋นมาโดยตลอด ตอนนี้ได้ยินเมิ่งไหวเซินบอกว่าได้พบเสิ่นหลานอี หัวใจของเขาก็ไม่สามารถสงบลงได้อีก รอจนคิดอย่างละเอียดอีกครั้งถึงพบความผิดปกติในคำพูดนั้น
“เมิ่งไหวเซิน แกเจอผีเหรอไง หลานอีตายไปนานแล้ว แกจะไปเจอเธอได้ยังไง”
“พ่อครับ พ่อฟังผมให้ดีนะครับ…” เมิ่งไหวเซินเอาเรื่องทั้งหมดทั้งก่อนหลังเล่าให้ฟังอย่างชัดเจน เมิ่งซงอวิ๋นอารมณ์เสียอยู่นานหลังจากนั้นก็ตอบมาประโยคหนึ่ง “ดูเหมือนว่าจะเป็นพรหมลิขิต ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ถังโจวโจวก็คือชิงหลานหลานสาวของฉัน ในเมื่อเจอชิงหลานแล้ว ถ้าอย่างนั้นชิงเยียนก็ต้องอยู่กับเธอด้วยใช่ไหม”
ทำไมถึงไม่ได้ยินเมิ่งไหวเซินพูดว่าเจอชิงเยียนเลยล่ะ ตอนที่เมิ่งซงอวิ๋นอยู่กับเด็กสองคนนี้นั้นก็รักพวกเขามาก เดิมทีมีหลานผู้หญิงมักจะทุกข์ใจ แต่ตอนนั้นเมิ่งซงอวิ๋นยังไม่รีบมีหลานชาย หลานอีก็ยังสาว มีหลานสาวก่อนแล้วค่อยมีหลานชายก็ได้
เพียงแต่ไม่คิดว่า ความสุขจะอยู่ได้ไม่นาน สามแม่ลูกประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เด็กทั้งสองคนหายไปและหลานอีก็เสียชีวิต ตอนนี้เสิ่นหลานอีฟื้นคืนจากความตาย เมิ่งซงอวิ๋นรู้สึกว่าเพราะสวรรค์มีตา ไม่ให้คนดีๆ ต้องทนทุกข์อีก
“พ่อครับ ชิงเยียนจากโลกนี้ไปแล้วครับ ชิงหลานได้รับคนอุปการะ ตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”
ควรพูดว่าเดิมทีเมิ่งไหวเซินก็ลืมไปแล้วว่าตัวเขาเองก็ยังมีลูกสาวคนโตอยู่ ตอนนี้ถังโจวโจวคือลูกสาวของเขา ถ้าไม่ใช่เพราะมีผลประโยชน์ เขาคงไม่ใส่ใจขนาดนี้แน่
ตอนที่ 457 ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“แกเป็นพ่อประสาอะไร ทำไมถึงไม่รู้อะไรเลย” เมิ่งซงอวิ๋นเห็นเมิ่งไหวเซินไม่รู้อะไรสักอย่างก็โมโหขึ้นมา สำหรับลูกชายคนนี้ไม่รู้ว่าชาติก่อนเขาไปติดหนี้อะไรไว้รึเปล่า ชีวิตนี้ถึงต้องอยู่ในกำมือเขาแบบนี้
“พ่อครับ ตอนนี้โจวโจวไม่ยอมกลับมาที่บ้านตระกูลเมิ่งของเราครับ หลานอีเองก็มีครอบครัวใหม่ไปแล้ว ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงครับ พ่อว่าถ้าพ่อออกหน้า…”
“เรื่องที่แกจัดการไม่ได้เลยอยากให้ฉันออกหน้างั้นเหรอ” เมิ่งซงอวิ๋นล่วงรู้ความคิดของเมิ่งไหวเซินได้ในทันที ก็คืออยากให้เขาช่วยสินะ
“พ่อครับ พ่อพูดอะไรอย่างนั้น ผมทำเพื่อพ่อไม่ใช่หรือไง พ่อคิดถึงหลานอี ชิงหลาน ชิงเยียนมาตลอดไม่ใช่เหรอครับ ถึงแม่ตอนนี้ชิงเยียนจะไม่อยู่แล้ว แต่ชิงหลานตอนนี้เธอมีลูกชายที่อ้วนกลมตัวน้อยให้กับตระกูลลั่วแล้ว พ่อไม่อยากเจอพวกเขาเหรอครับ”
เมิ่งไหวเซินพูดถึงสิ่งที่ติดอยู่ในใจของเมิ่งซงอวิ๋นออกมา สำหรับเมิ่งซงอวิ๋นแล้วทำไมเขาจะไม่อยากเจอเล่า ทำไมจะไม่คิดถึง หลายปีมานี้ในใจเขาก็คิดถึงอยู่แค่สองเรื่องเท่านั้นคือเรื่องสะใภ้ที่ด่วนจากโลกนี้ไปกับหลานสาวที่หายตัวไป ตอนนี้ในที่สุดก็เจอตัวพวกเขาแล้ว เขาต้องการจะไปที่นั่นทันทีด้วยซ้ำ แต่คำพูดของลูกชายทำให้เขาโกรธมาก
“แกบอกเรื่องนี้กับเมียแกรึยัง” ฉินอวิ๋นรู้แล้วจะสงบขนาดนี้เหรอ เมิ่งไหวเซินเชื่อว่า เมิ่งซงอวิ๋นคงไม่เชื่อแน่
เมิ่งไหวเซินเห็นเขาพูดถึงฉินอวิ๋นก็เงียบขรึมไปครู่หนึ่ง เขาพูดขัดขึ้น “ผมยังไม่ทันได้บอกเธอเลย พ่อครับ ผมไม่คิดอยากจะบอกเธอหรอก ชิงหลานคือลูกสาวของผม นอกจากนี้ตอนนี้เธอยังมีเรื่องยุ่งต้องไปจัดการ คงไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนี้หรอกครับ”
เมิ่งซงอวิ๋นไม่รู้ว่าเขากำลังเล่นอะไรอยู่ “เอาล่ะ เรื่องนี้ฉันรู้แล้ว”
เมิ่งไหวเซินเห็นเขาไม่ได้พูดออกมาชัดเจนก็วางสายไป ในใจพะว้าพะวง สรุปแล้วเขาจะมาหรือไม่มากันแน่ เขาไม่มั่นใจเลยสักนิด อยากจะโทรกลับไปถามอีกสักครั้ง แต่เขาก็รู้ดีว่าถ้าคุณพ่อไม่อยากบอก จะถามอย่างไรเขาก็คงไม่ยอมบอกแน่
ในวันหยุด เดิมทีลั่วเซ่าเชินจะต้องพาเสี่ยวอวี่ไปคฤหาสน์ลั่วเพื่อไปหาคุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่ว เพียงแต่เสิ่นหลานอียังอยู่ที่บ้าน ถังโจวโจวรู้สึกว่าคงไม่ดีที่จะปล่อยให้พวกเขาอยู่บ้าน ดังนั้นอาทิตย์นี้จึงตัดสินใจว่าจะไม่ไป
เธอให้ลั่วเซ่าเชินโทรไปอธิบายกับคุณแม่ลั่วเกี่ยวกับเรื่องราว แต่ยังเก็บเรื่องของเสิ่นหลานอีไว้ ตอนนี้เรื่องที่เสิ่นหลานอีกลับมาจะให้คุณแม่ลั่วรู้ไม่ได้ ต้องรู้ว่าหลายปีนี้ถึงแม้เสิ่นหลานอีจะออกมาให้คนอื่นๆเห็นบ้าง แต่ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่เคยเห็นว่าเธอเกิดเรื่องอะไรในปีนั้น
เพราะไม่แน่ว่าอาจจะมีคนความจำดี จดจำเสิ่นหลานอีขึ้นมาได้ เพราะเธอในตอนนี้กับเมื่อก่อนก็ไม่ได้เปลี่ยนไปสักเท่าไหร่ พอถึงเวลาถ้ามีคนสนใจเธอมากเข้า โอวหยางเลี่ยอาจจะหึงเอาได้
ครั้งก่อนที่พบกับเมิ่งไหวเซินโดยบังเอิญ โอวหยางเลี่ยก็โกรธอยู่ตลอดวัน แต่พอถึงตอนค่ำก็ใจอ่อนเองโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องให้เสิ่นหลานอีพูดอะไรมาก
เขาตระหนักถึงอันตรายรอบตัวเขาได้แล้ว ถ้าเขายังโกรธเธอต่อไปอีก ไม่ใช่ว่าจะทำให้คนอื่นมีโอกาสเข้ามาแทรกได้เหรอ เขาจะไม่ทำเรื่องโง่ๆ แบบนั้นแน่
เมิ่งซงอวิ๋นกลับใจเย็นมาก เขาส่งคนไปสืบก่อนว่าเรื่องที่เสิ่นหลานอีกลับมาเป็นเรื่องจริง และหลังจากนั้นก็ได้รับรู้ข่าวว่าช่วงนี้บริษัทตระกูลเมิ่งเกิดเรื่องจึงได้รู้ว่าลูกชายของเขากระตือรือร้นเรื่องที่ลูกสาวหายไปหลายปีเพราะอะไร
ไม่ใช่ว่าคุณปู่เมิ่งอยากจะจับผิดเมิ่งไหวเซิน เพียงแต่เขาในหลายปีนี้ก็มีพฤติกรรมที่ไม่ดี ทำไมจู่ๆ จะเปลี่ยนมาทำตัวดีได้เล่า
เมื่อเอาเรื่องทั้งหมดมาปะติดปะต่อกันแล้ว คุณปู่เมิ่งก็เข้าใจ แท้จริงแล้วเพราะมีปัญหาเลยต้องการความช่วยเหลือจากครอบครัวถึงได้ทำตัวดีแบบนี้ ถ้าไม่มีประโยชน์ก็คงไม่มาทำดีด้วยแน่
คุณปู่เมิ่งเองก็ไม่ได้อยากต่อว่าลูกชายตัวเองอย่างนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาก็คือลูกชายของตน ยังคงมีเลือดของเขาไหลเวียนอยู่ เพียงแต่นิสัยนี้ของเขาก็ไม่รู้ว่าเหมือนใคร เกิดมามองแค่ว่าที่ไหนมีผลประโยชน์ก็จะมุ่งไปที่นั่น
เมื่อก่อนคุณปู่เมิ่งเองก็แปลกใจที่ฉินอวิ๋นสามารถคว้าหัวใจของเมิ่งไหวเซินเอาไว้ได้ ขนาดลูกสะใภ้ของเขาไม่ได้รับความอบอุ่นจากเมิ่งไหวเซินเลย
พอคุณปู่เมิ่งรู้ว่าเสิ่นหลานอีกลับมาแล้วก็อยากไปหาเธอในทันที เพียงแต่ตอนนี้ข้างกายของเสิ่นหลานอีมีคนอื่นอยู่ด้วย ฟังจากน้ำเสียงโกรธขึ้งของเมิ่งไหวเซินแล้ว ดูเหมือนว่าคนทั้งสองจะมีลูกด้วยกันแล้ว คุณปู่เมิ่งกลัวว่าถ้าจู่ๆ เขาเข้าไปหาจะทำให้คนเข้าใจผิดเอาได้