ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ - ตอนที่ 508 ความคิดที่เห็นมาตลอด / ตอนที่ 509 ลูกของพี่ชายใหญ่
- Home
- ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ
- ตอนที่ 508 ความคิดที่เห็นมาตลอด / ตอนที่ 509 ลูกของพี่ชายใหญ่
ตอนที่ 508 ความคิดที่เห็นมาตลอด
“แต่ทุกคร้งที่มีน้องชายอยู่ คุณปู่กับคุณย่าไม่ยอมฟังที่หนูพูดเลยนี่คะ” ลั่วอิงพูดตามที่เห็นมาตลอด ทำให้คุณพ่อลั่วค่อนข้างรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่บ้าง เมื่อคิดเรื่องนี้แล้วก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องจริง เพียงแต่มีเด็กอยู่ด้วยจึงไม่อาจเสียหน้าต่อหน้าเด็ก
“หลานสาวของปู่ หลานคิดผิดแล้วล่ะ เพราะว่าเสี่ยวอวี่ยังเด็ก พวกเราเลยแค่ใส่ใจเขามากขึ้นหน่อยเท่านั้นเอง” คุณพ่อลั่วพยายามกล่อมเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้ลั่วอิงยอมเชื่อ ถึงแม้ว่าเด็กจะยังเล็กแต่ก็ไม่ง่ายที่จะหลอกล่อ
ลั่วอิงไม่พูดอะไร แต่ท่าทางก็ยังไม่อยากจะเชื่อนัก พอคุณแม่ลั่วเห็นท่าทางของลั่วอิงแบบนั้นก็เอ็ดขึ้นมาทันทีว่า “ลั่วอิง รีบขอโทษคุณปู่เร็ว พูดกับผู้ใหญ่แบบนี้ได้ยังไง”
คุณแม่ลั่วหันมามองหลานชายที่อยู่ในอ้อมกอดอีกครั้ง ยิ่งรู้สึกว่าหลานชายคนนี้เป็นเด็กดี ยิ่งอุ้มก็ยิ่งไม่เหนื่อย ถ้าไม่กลัวว่าพวกถังโจวโจวจะไม่ยินยอมและกังวลเกี่ยวกับหลานชายแล้วล่ะก็ คุณแม่ลั่วก็อยากจะให้ถังโจวโจวส่งหลานชายมาให้เธอเลี้ยงเอง
เพียงแต่คุณพ่อลั่วรู้ถึงความคิดของคุณแม่ลั่วจึงรีบเอ่ยห้ามเธอทันที “คุณไม่ต้องพูดแล้ว นิสัยของคุณแบบนี้เดี๋ยวก็ทะเลาะกับลูกชายอีก ถึงตอนนั้นอย่ามาบอกให้ผมช่วยนะ”
คุณแม่ลั่วถูกคุณพ่อลั่วเตือนแบบนี้ก็เลิกคิดไป เพราะหากไม่สามารถเจอหลานชายตัวเองได้บ่อยๆ ควทำให้เธอสิ้นหวังแน่
“แม่คะ หนูอยากกลับบ้านแล้ว” ลั่วอิงเดิมทีก็รู้สึกผิด แต่สุดท้ายคุณแม่ลั่วก็ยังว่าเธออย่างนี้อีก เธอไม่สามารถทนได้จริงๆ พอเกิดอารมณ์ขึ้นมาก็ยิ่งควบคุมไม่ได้
ลั่วเซ่าเชินรีบมาขวางตรงหน้าเธอไว้ทันที “แม่ครับ แม่พูดอะไรออกมา โจวโจว คุณอุ้มเสี่ยวอวี่และพาลั่วอิงขึ้นบ้านไปก่อน ผมมีเรื่องจะคุยกับพ่อแม่สักหน่อย”
“ทำไมต้องอุ้มเสี่ยวอวี่ไปด้วย ฉันเพิ่งอุ้มได้ไม่ถึงสองนาทีเอง ลูกรอให้กินข้าวเสร็จก่อนแล้วค่อยพูดได้ไหม”
น่าเสียดายที่คุณแม่ลั่วเองก็ไม่ได้สนใจ “โจวโจว รีบเอาเสี่ยวอวี่ออกไป ผมมีเรื่องจะพูดกับคุณพ่อคุณแม่”
“ได้ค่ะ แม่คะ ส่งเสี่ยวอวี่ให้หนูเถอะค่ะ” เดิมทีคุณแม่ลั่วอยากจะรั้งเสี่ยวอวี่ไว้ แต่เสี่ยวอวี่นั้นเมื่อเห็นถังโจวโจวก็เหมือนลูกหมาเห็นกระดูก ท่าทางตื่นเต้นมากขนาดนั้น คุณแม่ลั่วรู้สึกเซ็งจนต้องยอมปล่อยมือ
ถังโจวโจวอุ้มเสี่ยวอวี่ขึ้นมา “แม่คะ พวกเราลงไปชั้นล่างก่อนนะคะ ลั่วอิง รีบไปกับแม่เถอะ” ถังโจวโจวรู้ว่าลั่วอิงยังดูอารมณ์ไม่ดี เธออุ้มเสี่ยวอวี่ด้วยมือหนึ่งอีกมือก็จูงเธอไปด้วย ลั่วอิงเองก็เดินตามไปอย่างเชื่อฟังและไม่พูดอะไรเหมือนเดิม
“ลูกอยากพูดอะไรกับพวกเราเหรอ” ในห้องรับแขกเหลือแค่สามคน คุณแม่ลั่วเห็นลั่วเซ่าเชินมีสีหน้าจริงจัง ในใจก็ตึงเครียดเล็กน้อย
“พ่อครับ แม่ครับ ผมมีเรื่องเรื่องหนึ่งจะบอก ทั้งสองคนตั้งใจฟังให้ดีนะครับ”
คุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่วนั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน ลั่วเซ่าเชินนั่งที่โซฟาเดี่ยว ทั้งสองมองลั่วเซ่าเชินไม่วางตา
“อาเซิน มีเรื่องอะไรก็รีบพูดมา นี่มันเรื่องอะไรกัน” คุณแม่ลั่วไม่อยากจะยอมรับนักว่าเธอถูกลั่วเซ่าเชินมองอย่างจนลนลานไปหมด
“แม่ครับ แม่ไม่ควรปฏิบัติกับลั่วอิงเหมือนเป็นคนอื่นเพียงเพราะมีเสี่ยวอวี่นะครับ ตอนที่ไม่มีเสี่ยวอวี่ คุณแม่ก็สนใจลั่วอิงดีนี่ครับ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะครับ”
บางครั้งลั่วเซ่าเชินก็ไม่เข้าใจความคิดของคุณแม่ลั่วเลย หลานชายสำคัญก็จริง แต่หลานสาวเองก็ต้องการความรักความเอาใจใส่ นอกจากนี้ลั่วอิงก็เป็นหลานคนแรกของตระกูลด้วย ทำไมถึงสองมาตรฐานแบบนี้กันนะ
“ฉันทำเมื่อไหร่กัน ฉันก็แค่ใส่ใจเสี่ยวอวี่มากหน่อยเท่านั้น อีกอย่างว่าไปแล้วลั่วอิงก็ไม่รู้ว่าเป็นลูกของแกกับผู้หญิงคนไหนด้วยซ้ำ ก็ต้องสำคัญไม่เหมือนหลานชายฉันอยู่แล้วสิ” คุณแม่ลั่วยังคงไม่สำนึกและผลักไสความผิดไปให้ลั่วอิง
แต่ไหนแต่ไรมาลั่วเซ่าเชินไม่เคยพูดเรื่องของลั่วอิงให้พ่อแม่ของเขารับรู้เลยจึงไม่สงสัยเลยว่าพวกเขาจะเข้าใจผิดแบบนี้
“แม่ครับ วันนี้ผมจะมาบอกเรื่องของลั่วอิงครับ”
“….ถ้าอย่างนั้นก็บอกมาเถอะ ฉันจะลองฟังข้ออ้างของแกดู” คุณพ่อลั่วก็ขมวดคิ้วอยู่ข้างๆ เขาไม่คิดว่าลั่วอิงจะมีอะไรได้ หรือว่าแม่แท้ๆ ของลั่วอิงมียศมีตำแหน่งมีชื่อเสียงที่ดีกว่าถังโจวโจวงั้นเหรอ
ตอนที่ 509 ลูกของพี่ชายใหญ่
“พ่อครับ แม่ครับ ลั่วอิงคือลูกของพี่ชายใหญ่ครับ”
“ลูกพูดอะไร ไหนพูดใหม่อีกทีซิ” คุณแม่ลั่วตกใจจนต้องลุกขึ้นยืน ถึงแม้คุณพ่อลั่วจะไม่แสดงอาการเท่าคุณแม่ลั่ว แต่ก็ตกใจไม่น้อย ไม่คิดว่าลูกชายคนโตยังเหลือเลือดเนื้อเชื้อไขอยู่บนโลกใบนี้
“แม่ครับ ผมบอกว่าลั่วอิงเป็นลูกของพี่ชายใหญ่ครับ เป็นลูกของพี่ใหญ่กับซูเสี่ยว”ลั่วเซ่าเชินพูดออกมาอย่างสงบนิ่งมาก หลังจากความลับที่ปกปิดมาหลายปีที่ซ่อนอยู่ในที่สุดก็ได้เปิดเผยออกมาในวันนี้
“เซ่าอวี๋ของฉันยังมีลูกอีกคนเหลืออยู่….” เดิมทีคุณแม่ลั่วคิดว่าชีวิตนี้ก็คงไม่ได้ยินชื่อของผู้หญิงอย่างซูเสี่ยวอีก แต่วันนี้กลับได้ยินชื่อจากปากลูกชายอีกคนว่าหลานสาวของเธอคือลูกของซูเสี่ยว ช่างเป็นเรื่องที่น่าขำจริงๆ
“ครับ แม่ครับ แม่อย่าเอาแต่คิดว่ามีเสี่ยวอวี่อยู่และสนใจแต่เขา ต้องรู้ว่าลั่วอิงก็ไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้ว ไม่ควรถูกคำพูดของพ่อแม่ทำร้ายจิตใจนะครับ”
“เธอไม่ใช่เด็กเล็กๆ ที่ไหนกัน ทำไม ในสายตาลูกเธอโตแล้วเหรอไง” คุณแม่ลั่วอดไม่ได้ที่จะพูดขัดขึ้นมา ก็เธอไม่รู้ว่าลั่วอิงเป็นลูกของเซ่าอวี๋นี่ ถึงแม้แม่ของเธอคือซูเสี่ยวที่เธอแสนเกลียดชัง แต่เห็นแก่หน้าของเซ่าอวี๋ ต่อไปตนก็จะทำดีต่อเธอแล้วกัน
“แน่นอนครับ ลั่วอิงรู้ประสามากแล้ว แม่ครับ แล้วแม่ก็อย่าคิดว่าพี่ตาบอดที่เลือกซูเสี่ยวนะครับ เพราะถ้าแม่ได้ยินสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ แม่อาจจะต้องเสียใจก็ได้”
“ลูกพูดอะไรให้มันชัดเจนหน่อย ฉันมีตรงไหนต้องเสียใจกัน”
คุณแม่ลั่วรู้สึกว่าลั่วเซ่าเชินไร้สาระ เธอมีอะไรต้องเสียใจกัน ตอนนี้สิ่งที่เธอเสียใจคือเรื่องของถังโจวโจวต่างหาก นอกเหนือจากนี้ คุณแม่ลั่วรู้สึกว่าไม่มีสิ่งไหนที่จะทำให้เธอเสียใจได้ แต่ในไม่ช้าเธอก็ต้องเสียใจจริงๆ
“แม่ต้องเสียใจแน่ เพราะซูเสี่ยวก็คือพี่สาวของโจวโจวครับ” คำพูดนี้เป็นเหมือนระเบิดอีกลูก นานมากกว่าคุณพ่อลั่วคุณแม่ลั่วจะได้สติกลับมา “ลูกจะบอกว่าซูเสี่ยวก็เป็นคนตระกูลเมิ่งงั้นเหรอ”
“ใช่ครับ เธอคือพี่สาวโจวโจว และก็เป็นหลานคนโตของบ้านตระกูลเมิ่งด้วย พ่อกับแม่ควรทราบไว้ว่าเธอก็คือเมิ่งชิงเยียน”
เมื่อลั่วเซ่าเชินเอ่ยเตือน คุณแม่ลั่วก็นึกขึ้นได้ ตอนนั้นตระกูลเมิ่งมีหลานสาวสองคน อีกคนเหมือนจะชื่อชิงเยียน เพียงแต่ไม่คิดว่าต่อมาจะกลายเป็นซูเสี่ยวไปได้
ถ้าจะบอกว่าเสียใจคุณแม่ลั่วก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ อย่างน้อยตอนที่ซูเสี่ยวอยู่กับลูกชายของเธอ หล่อนก็ไม่ได้มีสถานะเป็นคนบ้านตระกูลเมิ่ง และเรื่องทั้งหมดมันก็ผ่านไปแล้ว
เพียงแต่ถ้าซูเสี่ยวรู้สถานะของตัวเองเร็วกว่านี้ คิดว่าเธอก็คงจะได้เป็นสะใภ้ของตระกูลไปแล้ว และเซ่าอวี๋ของเธอก็จะได้ไม่ต้องจากไปตั้งแต่อายุยังน้อย
คุณแม่ลั่วคิดมาตลอดว่า ถ้าไม่มีซูเสี่ยวเข้ามาเกี่ยวข้อง เซ่าอวี๋ก็จะไม่ต้องจากไปเร็ว เพียงเพราะมีซูเสี่ยวอยู่ ถึงทำให้ลูกชายเธอเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น
“ลูกสาวทั้งสองคนของตระกูลเมิ่งล้วนมีความสัมพันธ์กับครอบครัวเราทั้งนั้น” คุณพ่อลั่วยังจำได้ ตอนที่เมิ่งชิงเยียนและเมิ่งชิงหลานยังเด็ก เขามีโอกาสได้เจอทั้งสองพี่น้อง ตอนนี้เมิ่งชิงซียังไม่เกิด เมิ่งชิงเยียนดูอ่อนโยน และเมิ่งชิงหลานถึงแม้ยังเล็กแต่ก็มีความคิดอ่านเป็นของตัวเอง
ตอนนั้นเมิ่งชิงหลานยังเพิ่งจะขวบเดียว ถึงแม้ใครจะอุ้มก็ได้ แต่เมื่อเธอไม่พอใจ นอกจากเสิ่นหลานอีแล้ว เธอจะไม่ฟังใครเลย อาจเป็นเพราะเหตุนี้ทำให้เมิ่งซงอวิ๋นรักหลานสาวคนเล็กมาก
เพียงแต่หลังจากนั้นก็ได้ข่าวว่าสะใภ้ตระกูลเมิ่งประสบอุบัติเหตุ ลูกทั้งสองคนก็หายตัวไป ตอนนั้นคุณพ่อลั่วก็ไม่รู้ว่าคิดยังไง ตอนนั้นพวกเขาให้เซ่าเซินหมั่นกับชิงหลาน ผลสุดท้ายคู่หมั้นก็มาหายตัวไป โชคดีที่เด็กยังเล็ก ทั้งสองครอบครัวจึงไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้มากนัก
หลังจากนั้นเมิ่งชิงซีก็เข้ามามีตัวตนในบ้านตระกูลลั่ว งานหมั้นตอนแรกของตระกูลเมิ่งและตระกูลลั่วก็จัดขึ้นใหม่อีกครั้ง เพียงแต่เปลี่ยนจากเมิ่งชิงหลานเป็นเมิ่งชิงซี
อย่างไรก็เป็นหลานของบ้านตระกูลเมิ่ง ตระกูลลั่วเพียงต้องการได้คนตระกูลเมิ่งมาเป็นลูกสะใภ้เท่านั้น ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายของครอบครัวเองก็เห็นด้วย ยกเว้นแค่เขาไม่ได้ถามความเห็นของลั่วเซ่าเซินก่อน
“พ่อครับ พ่อหมายความว่า พ่อนึกอะไรขึ้นมาได้เหรอครับ”