อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 327 พวกเขาไม่ใช่อันโหรวและโอวหยางลี่คนเดิมอีกต่อไป
- Home
- อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด
- ตอนที่ 327 พวกเขาไม่ใช่อันโหรวและโอวหยางลี่คนเดิมอีกต่อไป
ตอนที่ 327 พวกเขาไม่ใช่อันโหรวและโอวหยางลี่คนเดิมอีกต่อไป
น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ใช่อันโหรวและโอวหยางลี่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว
อันโหรวเมื่อก่อนนั้นมีแต่เขา แต่ตอนนี้ภายในใจของเธอมีแค่จิ่งเป่ยเฉินเท่านั้น แม้เขาจะไม่อยู่แล้วก็ตาม
โอวหยางลี่คนเดิมเองก็ไม่ได้เจ้าชู้ ภายใต้แสงอาทิตย์โอวหยางลี่ที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ดูสะอาดสะอ้าน มีรอยยิ้มจาง ๆ ราวกับฤดูใบไม้ผลิ ภาพเหล่านั้นเคยทำให้หัวใจของเธอนั้นอบอุ่น
แต่หลังจากนั้นมา หัวใจของเธอก็ถูกเขาพังทลายจนแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ
“โหรวโหรว ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการที่บริษัท รอให้จัดการเรื่องพวกนี้เสร็จ พวกเราก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ตอนนี้เธอรออยู่ที่นี่ไปก่อน รอให้พวกเราออกไปจากที่นี่ แล้วเธอจะมีอิสระเหมือนเมื่อก่อน เธออยากจะทำอะไรก็ได้ ฉันจะไม่บังคับเธอ ไม่เด็ดขาด” เขาวางแผนความคิดชั่ว ๆ เอาไว้หมดแล้ว
แต่ไม่คิดว่าอันโหรวจะให้โอกาสกับเขา ภายในใจของเขาจะไม่ตื่นเต้นได้ยังไง!
อันโหรวมองไม่เห็นท่าทางของเขา แต่ก็รับรู้ได้ถึงความตื่นเต้นของเขา
แต่เธอที่เพิ่งพูดจุดประสงค์ไปเมื่อครู่ เดิมทีเธอต้องการให้เขาปล่อยเธอไปและให้อิสระกับเธอเท่านั้น
หากเป็นไปไม่ได้เธอจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร?
ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง
เขาบอกว่าช่วงนี้มีเรื่องที่ต้องจัดการ นอกจากธุรกิจผูกขาดแล้วยังมีเรื่องอะไรอีก?
จิ่งเป่ยเฉินก็ไม่อยู่ ใครจะมาต่อกรกับโอวหยางกรุ๊ป?
อันโหรวไม่เข้าใจแต่แบบนี้ก็ยิ่งดี เขาจะได้อยู่ที่นี่น้อยลง เธอจะได้มีเวลาหาวิธีหนีออกไป
“ฉันออกไปไม่ได้ก็ได้ แต่ฉันไม่อยากให้มีกล้องวงจรปิดจับตาดูในห้องเยอะแบบนี้ ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้ไปไหน นายมีกล้องวงจรปิดแบบนี้มันมากเกินไปหรือเปล่า?” เธอหันไปมองเขาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยเหมือนสายลมที่พัดผ่าน เธอเอาผมทัดหู “นายไม่กลัวว่าคลิปวิดีโอที่ฉันนอนอยู่คนอื่นจะเห็น? นายไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวในบ้านพักหลังนี้นะ”
“ใคร? ใครจะกล้า!” โอวหยางลี่ได้ยินเธอพูดก็โกรธขึ้นมาทันที
“ฉันเพียงแค่พูดไว้เท่านั้น ช่วงนี้นายงานยุ่งไม่อยู่บ้าน และมีกล้องวงจรปิดเยอะแบบนี้ ฉันอยู่ที่นี่ไม่มีแม้แต่เวลาส่วนตัว นอนจากนอนอยู่บนเตียง ฉันจะทำอะไรได้?” ถ้าไม่ถูกจับตามองจากกล้อง เธอคงทำอะไรได้เยอะขึ้น
“โหรวโหรว เพื่อประโยชน์ของเธอ ฉันจะไม่ให้เกิดเรื่องเหมือนเมื่อวานอีก!”
“ไม่มีทาง ฉันสาบานได้!” อุบัติเหตุเมื่อวานนั้นเดิมทีคิดว่าจะให้เกิดขึ้นตอนที่เขาอยู่
ถ้าหากเขาไม่อยู่ บอดี้การ์ดไม่มีทางเห็นเธอได้แน่ เธอไม่คิดจะเอาชีวิตตัวเองมาเล่นแบบนี้หรอก
เรื่องนั้นเธอไม่มีทางทำ
“อย่างน้อยก็เอากล้องวงจรปิดในห้องนอนฉันออกได้ไหม?” เธอยื่นร้องคำขอจากเขา เรื่องเล็ก ๆ หากเขาไม่เห็นด้วย
“ก็ได้!” โอวหยางลี่ตอบอย่างหมดหนทาง “ด้านนอกเริ่มลมแรง เธอเข้าไปก่อนเถอะ!”
โอวหยางลี่มองเธอที่ไม่ขยับก็พูดด้วยความโกรธ “ตอนแรกที่เมื่อวานกลืนน้ำยาล้างจานเข้าไปก็ทำให้ร่างกายแย่พออยู่แล้ว นี่เธออยากจะทำร้ายร่างกายตัวเองให้พังอีกหรือไง?”
“เปล่าเสียหน่อย ฉันเพียงแค่โหยหาโลกภายนอก ไม่ได้อยากอยู่ในหอคอยงาช้างแบบนี้”
“โหรวโหรว รอก่อนนะ!” หรือว่าที่พูดไปเธอจะยังไม่เข้าใจอีก?
ตอนนี้จิ่งเป่ยเฉินเหมือนคนบ้าคลั่ง พยายามทำลายกลุ่มโอวหยางกรุ๊ปในทุก ๆ ด้าน หากเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ช้าก็เร็วโอวหยางลี่ได้หายไปจากเมือง A อย่างแน่นอน
ถ้าหากถึงเวลานั้นขึ้นมาจริง ๆ เขาต้องพาเธอหนีไปก่อนแน่นอน
ครั้งนี้เขาพยายามอย่างเต็มที่ถึงได้ความคิดแบบนี้ ในสายตาของจิ่งเป่ยเฉินนั้น อันโหรวก็คงได้ตายไปนานแล้ว
ซากศพไม่เหลือแม้แต่กระดูก
และในสายตาของเธอก็เหมือนกัน จิ่งเป่ยเฉินได้ตายไปแล้ว
อันโหรวไม่ได้พูดอะไรอีก แค่เดินผ่านร่างของเขาเข้าไปในห้อง
ในคืนนั้นอันโหรวกลับไปที่ห้องก็พบว่ากล้องวงจรปิดไม่มีแล้ว
เธอไม่ได้ตอบสนองอะไรมากมาย ก่อนจะนอนลงไปบนเตียงอย่างสงบ
เช้าวันรุ่งขึ้น โอวหยางกรุ๊ป
ภายในห้องประชุม โอวหยางลี่นั่งอยู่หัวโต๊ะและเอามือจับหัวของตัวเอง เขารู้สึกไม่มีชีวิตชีวาสักเท่าไร ผู้ถือหุ้นรายอื่นต่างแสดงความคิดเห็นของพวกเขาออกมา และภายในห้องประชุมก็เริ่มเสียงดังโหวกเหวกขึ้นมา
“พอแล้ว! จะเสียงดังอะไรกันนักหนา!” โอวหยางลี่ตะโกนคำรามออกมาและมองไปที่พวกเขา “โอวหยางกรุ๊ปไม่อาจพังทลายลงได้ในตอนนี้ ตื่นเต้นกันทำไม!”
ผู้ถือหุ้นที่มองเขาที่โกรธแบบนั้นก็ต่างพากันตกใจไปชั่วครู่ และภายในห้องประชุมก็เริ่มเสียงดังกันขึ้นมาอีกครั้ง
“ท่านประธาน ครั้งที่แล้วเรื่องที่บริษัทจิ่งซื้อโรงงานหยกของบริษัทเหอไปจนล่มสลายนั้น ครอบครัวผู้เสียชีวิตจู่ ๆ ก็โผล่ออกมาบอกว่าคนของโอวหยางกรุ๊ปให้เงินเธอและเสนอไอเดียให้!”
“ยังมีอีกนะ! ข่าวเรื่องภรรยาคนก่อนของท่านประธานที่เป็นข่าวดังบนโลกอินเทอร์เน็ต บอกว่าภรรยาคนปัจจุบันของประธานสั่งคนให้ไปฆ่าคน! ตอนนี้ชื่อเสียงของโอวหยางกรุ๊ปเสียหายหนักมาก ราคาหุ้นของบริษัทก็ตกจนใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว!”
“ใครคือภรรยาคนปัจจุบันของท่านประธาน ฉันยังไม่ได้ขอเธอแต่งงาน! คนนอกพูดแบบนั้นก็เชื่องั้นเหรอ ดูเหมือนว่าพวกคุณจะว่างเกินไปแล้วมั้ง ถึงได้มีเวลาว่างมาซุบซิบนินทาเรื่องของฉัน!” ตอนนี้โอวหยางลี่อยู่ในอาการหงุดหงิดขึ้นมา ไม่คิดว่าพวกเขายังมีเวลามาสนใจข่าวซุบซิบเหล่านี้
“ท่านประธาน นี่ไม่ใช่ว่าพวกเรารอความคิดเห็นของคุณอยู่เหรอ?” ผู้ถือหุ้นรายหนึ่งเอ่ยและหัวเราะขึ้นมา
“ความจริงวันนี้อยู่ที่นี่ พวกคุณเอาเรื่องพวกนี้เก็บเข้าท้องไปเถอะ ไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรขึ้น!” เขากุมขมับตัวเอง เรื่องเมื่อวานที่เกิดขึ้นก็ยังไม่ได้พักผ่อน
ผู้ถือหุ้นคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากัน ก่อนที่จะเดินออกไป
ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่นั้นจู่ ๆ ก็เงียบสงบลง
เขาที่นั่งอยู่ตำแหน่งบนสุดยังคงไม่มีวี่แววจะออกไปแต่อย่างใด ทันใดนั้นประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดออก
เขาคิดว่าเป็นเลขาจึงไม่ได้สนใจ และยังคงนั่งอยู่ท่าเดิม
“โอวหยางลี่!”
“แม่?”
เขาเงยหน้าขึ้นมองเฉาลี่เฟยที่เดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทางดุดัน “แม่ไม่ได้อยู่บ้านดูแลหลานเหรอ มาที่บริษัททำไม?”
“อันโหรวอยู่ไหน?” เฉาลี่เฟยถามไป
“อันโหรวทำไม? เธอไม่ได้ตกลงน้ำไปแล้วเหรอ? เรื่องใหญ่แบบนี้หรือว่าแม่ไม่รู้?” โอวหยางลี่ตอบไปอย่างเบา ๆ
“นี่อย่ามาแกล้งโง่หน่อยเลย ถ้าเธอตกลงไปในน้ำจริง แกจะยังสงบอยู่อย่างนี้งั้นเหรอ?” เฉาลี่เฟยเดินเข้ามาใกล้เขา เธอไม่เชื่อว่าอันโหรวจะเกิดอุบัติเหตุจริง ๆ หากเป็นเรื่องจริงทำไมเขาถึงได้ดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อนแบบนี้
เว้นเสียแต่อันโหรวจะอยู่ในกำมือของเขา หรือไม่เขาก็รู้ว่าอันโหรวอยู่ที่ไหน
“แม่ พวกเราเป็นอดีตไปแล้ว เธอจะมาเกี่ยวข้องอะไรกับผมอีก? หรือว่าแม่อยากเห็นผมถูกควักตับไตไส้พุงออกมาตัดเป็นชิ้น ๆ [1]”
ดูเหมือนว่าเขาจะพาอันโหรวหนีออกไปก่อนแล้ว
“โอวหยางลี่ ฉันเป็นแม่แกนะ คนอื่นไม่เข้าใจแก ไม่ได้หมายความว่าฉันจะไม่รู้ว่าแกเป็นยังไง?” เฉาลี่เฟยตบลงบนโต๊ะอย่างแรงพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน “ในใจของแกมีแต่เธอ ไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใคร! เธออยู่ไหนกันแน่? แกพาเธอกลับมาคืนให้จิ่งเป่ยเฉินเดี๋ยวนะ แกอยากจะเห็นโอวหยางกรุ๊ปถูกเขาเล่นจนตายหรือไง!”
ในสายตาของโอวหยางลี่นั้น ตอนนี้เฉาลี่เฟยเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งมาโดยตลอด ต้องการดูแลจัดการทุกอย่างตั้งแต่เด็กจนโต รวมถึงดูแลเขาเสมอมา แม้แต่การแต่งงานของเขาก็เป็นเธอเองที่ตัดสินใจ
ถ้าหากห้าปีที่แล้วเธอไม่ได้ตัดสินใจให้เขาแต่งงานกับเหลียวเว่ย ก็คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอย่างแน่นอน
เขากับอันโหรวคงได้อยู่ด้วยกันตั้งนานแล้ว!
[1] หมายถึงเจ็บจนแทบจะขาดใจ