อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 214 ไม่ใช่มือใหม่หัดขับ
ตอนที่ 214 ไม่ใช่มือใหม่หัดขับ
วันพฤหัสบดี มู่เถาเยายุ่งมากจริงๆ ถึงขนาดที่ตอนกลางวันไม่ได้กลับมากินข้าวกับเจียงเฟิงเหมียน มู่หว่าน และเหลียงจี
ข้อแรกเพราะเรียนเยอะ ข้อสองเพราะเธอกำลังศึกษาน้ำลายงูเถาวัลย์ที่เอากลับมาจากป่าเซียนโหยว ข้อสามเพราะเธอไปโรงพยาบาลทหาร1111เพื่อเยี่ยมหวังต้าฟาชายวัยกลางคนที่ป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
ด้วยระดับทางการรักษาในปัจจุบัน ยังไม่สามารถรักษาโรคที่เกี่ยวกับเซลล์ประสาทสั่งการให้หายขาดได้ แต่การค้นคว้าของมู่เถาเยาก็เป็นรูปเป็นร่างแล้ว
แม้ยาที่เธอให้จะไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น แต่ก็ช่วยคงอาการกล้ามเนื้อที่ลีบไปได้ระยะยาว
“คุณหมอเทวดา ต่อให้ป้าต้องเก็บขยะเก็บเศษเหล็กขายก็จะหาเงินมารักษาสามี ไม่ว่ายังไงคุณหมออย่าทิ้งเขานะคะ”
หลี่เหมยภรรยาของหวังต้าฟาพยายามกลั้นน้ำตาจับมือขอร้องมู่เถาเยา
“คุณป้าคะ วางใจได้ค่ะ หนูไม่มีทางเลิกค้นคว้าหาทางรักษาโรคนี้ คุณป้าต้องมั่นใจว่าคุณลุงหวังจะต้องหายนะคะ”
หลี่เหมยพยักหน้า “จ้ะ ขอบคุณมาก”
“คุณป้าครับ คุณป้าต้องดูแลให้คนป่วยกินยาด้วยนะครับ อย่าให้คนป่วยคิดในแง่ลบ…” หยางหยางหมอเจ้าของไข้คอยกำชับ
“ได้ค่ะๆ ป้าจะคอยดูให้ดี”
เดิมทีสามีไม่อยากรักษาแล้ว ครั้งนี้เธอเป็นคนลากเขามารักษา ยังต้องคอยจับตาดูไว้ด้วย!
เธอทนความลำบาก ทนความยากจน ทนอุปสรรคได้ทุกอย่าง แต่ไม่สามารถไม่มีสามีที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมายี่สิบกว่าปีได้
มู่เถาเยา “ลุงหวังคะ อย่าคิดมากค่ะ ชีวิตคนเราก็แบบนี้ หลังผ่านคราวเคราะห์ครั้งใหญ่ย่อมได้พบความสุขค่ะ”
ทุกคน “…”
เด็กสาวอย่างเธอมาพูดเรื่องชีวิตกับพวกเขาที่อายุครึ่งร้อยแล้วเนี่ยนะ แม้แต่หวังต้าฟาก็ยังอดหัวเราะไม่ได้
“คุณหมอเทวดา วางใจเถอะครับ ลุงจะให้ความร่วมมือกินยารักษาแน่นอน”
หลักๆ คือเขาแค่กลัวเสียเงิน เพราะลูกสาวยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่
ตอนนี้ภรรยารู้เรื่องแล้ว ถ้าไม่รักษาต้องไม่ยอมแน่
ไม่อย่างนั้นต่อให้เขาตาย สองแม่ลูกก็ไม่มีทางยอมใช้เงินที่เขาทิ้งไว้ให้แน่ เพราะสองคนนี้จะคิดว่าเป็นเงินช่วยชีวิตเขา
“ค่ะ ขอแค่ไม่ดื้อ ยาก็ช่วยระงับการลุกลามของโรคได้ ด้านการกินต้องกินผลไม้เยอะๆ โปรตีนสูง วิตามินสูง งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ อาหารรสจัด เผ็ดจัด ของเย็น ต้องบำรุงกำลัง…”
เมื่อครู่หยางหยางพูดเป็นเชิงให้กำลังใจผู้ป่วย ตอนนี้มู่เถาเยาพูดเรื่องเกี่ยวกับโรค และก็เป็นการกำชับของหมอ
“ครับ ผมจะทำตาม”
เพื่อภรรยากับลูกสาว เพื่อหมอดีทั้งสองที่หาได้ยาก หวังต้าฟาตัดสินใจแล้วว่าจะตั้งใจรักษาตัว
“ค่ะ มีปัญหาอะไรก็โทรหาได้ตลอดนะคะ”
หวังต้าฟากับภรรยาพยักหน้า
“งั้นก็พวกเรากลับก่อนนะคะ”
“ค่ะ แล้วเจอกันใหม่”
“แล้วเจอกันครับคุณหมอทั้งสอง”
หลังจากหวังต้าฟากับภรรยาออกไปแล้ว มู่เถาเยาก็ก้มหน้าอ่านรายงาน
หยางหยางหัวหน้าแผนกประสาทวิทยารอเธออ่านเสร็จถึงพูดขึ้น “เสี่ยวเยาเยา ระยะนี้เธอกำลังศึกษาโรคนี้เหรอ”
“ค่ะ ศิษย์พี่หยางรู้จักงูเถาวัลย์ไหมคะ”
“รู้จัก มันเป็นของล้ำค่าที่ใช้แก้พิษเลยนะ! แต่งูเถาวัลย์หายากมาก ต่อให้เป็นคนที่ชำนาญการเลี้ยงงูเข้าป่าลึกไปหาด้วยตัวเองก็ไม่ได้เจอร่องรอยของพวกมันได้ง่ายๆ”
มู่เถาเยาพยักหน้า “หลักๆ คืองูเถาวัลย์มีน้อย และมันก็ชอบเลื้อยพันอยู่บนเถาวัลย์ตี้หวังเท่านั้น”
“เสี่ยวเยาเยา ทำไมอยู่ๆ ก็พูดถึงงูเถาวัลย์ล่ะ”
“ฉันกำลังคิดว่า พิษงูมีคุณสมบัติมากมาย…ต้านมะเร็ง ลดการแข็งตัวของเลือด สลายไฟบริน บรรเทาอาการเจ็บปวด งูเถาวัลย์กินงูพิษโดยเฉพาะ งั้นของเหลวจากตัวมันยังจะมีคุณสมบัติอื่นอีกไหมนอกจากถอนพิษ”
“คือ…เสี่ยวเยาเยา ตอนนี้รู้แค่ว่ามันมีคุณสมบัติช่วยถอนพิษ เธอคงไม่ได้คิดจะศึกษาของเหลวจากงูเถาวัลย์เพื่อรักษาโรคเซลล์ประสาทสั่งการใช่ไหม”
“ฉันได้ของเหลวจากตัวงูเถาวัลย์มาแล้ว ระยะนี้จะตั้งใจศึกษามันค่ะ” รวมถึงเลือดของปู่ทวดถัง
“ถ้าอยากให้ช่วยอะไรก็บอกได้เลยนะ”
เขาพูดแบบนี้ก็เพราะหนึ่งไม่อยากทำลายความตั้งใจของเด็กสาว สองคือเด็กสาวคนนี้มีความสามารถสูง
ตอนนี้เป็นไปไม่ได้ก็ไม่ได้หมายความว่าอีกหน่อยจะเป็นไปไม่ได้ด้วย
“ขอบคุณค่ะศิษย์พี่หยาง”
“ไม่เป็นไร”
“เสี่ยวเยาเยา เสี่ยวเฟิงเหมียนสอบเสร็จแล้วสบายดีไหม”
“ดีเสียยิ่งกว่าดีอีกค่ะ”
ได้ยินมู่เถาเยาพูดแบบนี้หยางหยางก็วางใจแล้ว
“เสี่ยวเฟิงเหมียนนิสัยดี เหมือนอาจารย์ของพวกเรา”
“ค่ะ เสี่ยวเหมียนนิสัยคล้ายอาจารย์อาเล็กมาก”
“เสี่ยวเยาเยา พี่เลี้ยงข้าวดีไหม”
“ไม่ล่ะค่ะ ที่บ้านมีแขก”
“งั้นก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปส่งเธอ”
“ไม่ต้องค่ะ ฉันขับรถมา”
“ได้ใบขับขี่แล้วเหรอ”
“ค่ะ เพิ่งได้”
หยางหยางถามด้วยสีหน้าตกใจ “เพิ่งได้ใบขับขี่ก็กล้าขับรถมาในช่วงเวลาเร่งด่วนคนเดียวเลยเหรอ”
“สอบใบขับขี่ก็เพื่อเอามาใช้ขับรถไม่ใช่เหรอคะ” มู่เถาเยาไม่เข้าใจ
“…ก็ได้ งั้นขับช้าหน่อยนะ ระวังด้วย”
“ตอนฉันอยู่บ้านเกิดก็ขับบ่อย ไม่กลัวค่ะ”
“…” ที่แท้ก็ไม่ใช่มือใหม่!
“ศิษย์พี่หยาง ฉันกลับก่อนนะคะ”
“อืม”
มู่เถาเยาวางเอกสารในมือลง หยิบกล่องยาใบน้อยของตัวเองเดินออกจากห้องทำงานหัวหน้าแผนก ไปที่ลานจอดรถขับรถออฟโรดที่ติดสติกเกอร์ ‘มือใหม่’ ทั้งที่ไม่เข้ากันสักนิดออกมา
เหยียบคันเร่งเข้าสู่ถนนที่การจราจรคับคั่ง
ตรงปากทางแห่งหนึ่งเธอเกือบชนกับรถฝั่งตรงข้าม
โชคดีที่ตัดสินใจไว หักหลบไปอีกทางได้อย่างรวดเร็ว ทำให้รถของเธอเสยฟุตบาทที่สูงกว่าถนนหลายเซนติเมตร
มู่เถาเยาสายตาดี ตอนที่รถแฉลบกันเธอเห็นคนขับในรถฝั่งตรงข้าม
เป็นคนที่ไม่เคยเจอ แต่ก็ถือว่ารู้จักกัน
แน่นอนว่าอีกฝ่ายรู้จักเธอหรือเปล่าก็ไม่รู้แล้ว
เพิ่งกลับถึงโรงรถของตำหนักพระจันทร์โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นทันที
“พี่เขยเหลย”
เหลยโจว พี่เขยของเฉิงหราน พ่อของเหลยถิง
“เสี่ยวเยาเยาเลิกเรียนหรือยัง”
“เพิ่งถึงบ้านค่ะ พี่เขยสืบเรื่องครอบครัวของเจียงเย่ว์ได้แล้วเหรอคะ”
“อืม ตอนนี้เธอสะดวกไหม พวกเราไปคุยที่บ้านอาหรานกัน”
“พี่เขยเหลยคะ ตอนนี้ที่บ้านหนูมีแขก ไม่งั้นพี่เขยเหลยกับศิษย์พี่ใหญ่มาที่บ้านหนูดีไหมคะ”
วันนี้ช่วงบ่ายน้าเล็กอวิ๋นพาอวิ๋นสุ่ยเหยามาส่งแล้ว เธอยังไม่ได้เจอตัว ไม่สะดวกออกไปข้างนอก
“งั้นวันอื่นแล้วกัน ก็ไม่ได้รีบอะไรมาก”
“ตอนนี้พี่เขยเหลยอยู่บ้านไหมคะ เหลยถิงไปหาเจียงเย่ว์ที่มหาวิทยาลัยหรือเปล่า”
“เมื่อวานเย็นอาถิงบอกว่าวันนี้พ่อแม่ของเจียงเย่ว์มา แต่เจียงเย่ว์ไม่พาอาถิงไปเจอ ดังนั้นเขาไม่น่าออกไปไหนนะ ตอนนี้พี่ยังอยู่ที่สำนักงานทนายความ”
อยู่บ้านโทรคุยไม่สะดวก เพราะภรรยากับลูกชายยังไม่รู้เรื่องที่โดนวางยา
“งั้นพรุ่งนี้เที่ยงเจอกันที่บ้านศิษย์พี่ใหญ่แล้วกันค่ะ”
“ได้ เดี๋ยวพี่จะโทรบอกอาหราน”
“ค่ะ”
“เสี่ยวเยาเยา งั้นแค่นี้ก่อนนะ”
“ค่ะ”
พอวางสายมู่เถาเยาก็เปิดประตูรถออกมา
“เสี่ยวเยาเยา”
“พี่เยาเยา”
“พี่เยาเยา”
มู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียน อวิ๋นสุ่ยเหยา ทั้งสามคนเรียกพร้อมกัน
“พวกเธอออกมาทำไมกัน”
เจียงเฟิงเหมียนยิ้มดวงตาโค้งมน “พวกเราอยู่ข้างบนเห็นรถของพี่เลี้ยวเข้ามาก็เลยลงมารับค่ะ”
อีกสองคนพยักหน้าพร้อมกัน
มู่เถาเยายิ้ม
“เสี่ยวเหยา พี่ชายไม่มาด้วยกันเหรอ”
อวิ๋นสุ่ยเหยาส่ายหน้า “เปล่าค่ะ พี่ฉันตามพ่อไปเรียนรู้งานที่บริษัทแล้ว แต่ว่ามีคนที่พี่เยาเยาไม่รู้จักตามมาด้วยอีกคน เธอกับอาเล็กของหนูพักอยู่ที่บ้านตระกูลตี้ค่ะ”
ความคิดแรกของมู่เถาเยาคือ น้าเล็กอวิ๋นชอบผู้หญิงอื่นแล้วเหรอ
แต่ความคิดนี้ก็หายวับไปอย่างเร็ว เธอปฏิเสธทันที
น้าเล็กอวิ๋นไม่ใช่คนเปลี่ยนใจง่ายขนาดนั้น ไม่งั้นจะโสดมายี่สิบปีเหรอ
ตอนต่อไป