อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 231 ตามหาพี่ชายไปทั่ว
ตอนที่ 231 ตามหาพี่ชายไปทั่ว
วันศุกร์
เป็นวันธรรมดาที่ไม่ได้มีความพิเศษอะไร
ช่วงเช้ามู่เถาเยาเข้าเรียนตามปกติ ตอนเที่ยงนั่งรถของเฉิงอันนั่วไปกินข้าวกลางวันที่บ้านอธิการบดีเจียงเฉา
กู่ย่ากับหลี่อวี้เสวี่ยก็กลับมาถึงบ้านไล่เลี่ยกัน
เฉิงหรานมาถึงเป็นคนสุดท้าย
ผู้ชายเข้าครัวทำอาหารเช่นเคย ผู้หญิงรอกิน
พวกผู้ชายช่ำชองกันอยู่แล้ว ทำอาหารปริมาณที่พอกินเสร็จสรรพอย่างง่ายดาย
หัวข้อสนทนาบนโต๊ะอาหารในครั้งนี้คือ อาจารย์อาเล็กจะยอมรับน้องสาวหรือไม่
“อาจารย์อาเล็กคะ เมื่อวานตี้อู๋เปียนบอกว่าหมอลู่กำลังเดินออกมาเรื่อยๆ แล้ว คิดว่าบ่ายวันเสาร์หรือไม่ก็ช่วงเช้าวันอาทิตย์คงออกจากป่าแล้วค่ะ อาจารย์อาเล็กตัดสินใจหรือยังคะว่าจะยอมรับน้องสาวไหม”
“ยอมรับน้องสาวอะไรกัน อาจารย์ปู่จะมีน้องสาวบุญธรรมเหรอครับ” เฉิงอันนั่วถามด้วยสีหน้างุนงง
จะยอมรับน้องสาวหรือน้องสาวบุญธรรมมันก็ดูเหมือนจะ…ไม่เข้าท่านะ อาจารย์ปู่…เป็นคนแบบนั้นเหรอ อาจารย์ย่าก็เห็นดีเห็นงามด้วยเหรอ
หลี่อวี้เสวี่ยตีแขนเฉิงอันนั่วไปหนึ่งที ตบความคิดของเขากระเด็น
“น้องสาวบุญธรรมอะไร เฉิงอันนั่วอย่าพูดซี้ซั้ว! หมอลู่เป็นน้องสาวแท้ๆ ของอาจารย์ปู่ น้องสาวแท้ๆ น่ะ”
“อาจารย์ปู่มีน้องสาวด้วยเหรอครับ”
เฉิงอันนั่วเกือบลุกพรวด
หลี่อวี้เสวี่ยถลึงตาใส่ด้วยความโมโห “ทำตัวให้มันสุขุมหน่อยได้ไหม อายุตั้งยี่สิบกว่าแล้ว แค่นั่งดีๆ ยังนั่งไม่ได้ มีอย่างที่ไหนกัน!”
เฉิงอันนั่ว “…ก็ผมตกใจมากนี่ครับแม่ ทุกคนรู้อยู่ก่อนแล้วเหรอครับ ทำไมไม่บอกผม”
“ตอนนี้ก็กำลังบอกอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“…”
กู่ย่าอธิบายให้เฉิงอันนั่วฟังอย่างใจดี “เสี่ยวเยาเยาบอกตอนวันนั้นที่ทำปิ้งย่างกินกัน ตอนนั้นเราไปตกปลาข้างนอกก็เลยไม่รู้จ้ะ”
“งั้นเสี่ยวเหมียนรู้หรือยังครับ” พวกเขาออกไปด้วยกัน
หลี่อวี้เสวี่ยจ้องเขา “ไม่มีมารยาท! เรียกเสี่ยวเหมียนได้เหรอ ต้องเรียกอาเล็กสิ!”
เฉิงอันนั่ว “…”
อายุน้อยกว่าเขา แต่อาวุโสกว่าเขา
ชีวิตมันช่างยากเหลือเกิน!
กู่ย่ายิ้มพลางพูด “เสี่ยวเหมียนยังไม่รู้หรอก ไว้พวกเราค่อยหาโอกาสบอก”
อาจารย์อาเล็กพูดแทรก “เสี่ยวเยาเยา เกิดเป็นเรื่องเข้าใจผิดล่ะ”
มู่เถาเยา “อาจารย์อาเล็กคะ ไม่งั้นพวกเราไปก่อนดีไหมคะ พอเจอหน้าหมอลู่ค่อยทำการพิสูจน์อีกครั้ง”
อาจารย์อาเล็กไม่เหมือนเธอ
เพราะเธอมีเสด็จแม่ อีกทั้งคนตระกูลเย่ว์ก็เหมือนครอบครัวตายายเมื่อชาติที่แล้ว เธอจึงยอมรับได้ในทันที ไม่จำเป็นต้องมีขั้นตอนใดๆ
แต่อาจารย์อาเล็กไม่มีความทรงจำตั้งแต่เด็กนอกจากเรื่องในสำนัก การที่จะคิดมากก็เป็นเรื่องธรรมดา
“ได้ ไปก่อนค่อยว่ากัน”
มู่เถาเยาดีใจมาก ดีใจแทนอาจารย์ลู่
กู่ย่าใช้โอกาสนี้พูดขึ้น “งั้นพวกเราไปพรุ่งนี้เช้าหรือคืนนี้ดีล่ะ”
มู่เถาเยา “แล้วแต่อาจารย์อาเล็กสะดวกค่ะ”
อาจารย์อาเล็ก “พรุ่งนี้เช้าแล้วกัน ขอเวลาทำใจหน่อย”
“คุณก็ทำใจมาหลายวันแล้วนะ…” กู่ย่าหมดคำจะพูด
เฉิงหรานกับหลี่อวี้เสวี่ยหัวเราะ
อย่าว่าแต่อาจารย์อาเล็กเลย ขนาดพวกเขาก็ยังไม่กล้าเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่เสี่ยวเยาเยาบอก ก็แสดงว่าเรื่องจริงแน่นอน
เฉิงอันนั่ว “อาจารย์ปู่ ไม่งั้นเดี๋ยวผมไปด้วย ไปช่วยเป็นกำลังใจให้ดีไหมครับ”
ทุกคน “…”
ไปเจอญาติยังต้องการกำลังใจด้วยเหรอ
หลี่อวี้เสวี่ย “เฉิงอันนั่ว ไปไหนก็ไป อย่าก่อกวน”
“…แม่ครับ ผมไม่ได้ก่อกวนนะ ผมแค่รู้สึกว่าอาจารย์ปู่ต้องการกำลังใจ”
อธิการบดีเจียงพยักหน้า
กู่ย่ากลั้นไม่ไหว หัวเราะออกมา
“เอาล่ะ อันนั่วอยากไปก็ไปด้วยกัน ส่วนเรื่องเป็นกำลังใจอะไรนั่นก็ช่างเถอะ พวกเราไม่ได้จะไปแข่งขันเสียหน่อย และก็ไม่ได้ไปทะเลาะวิวาท”
มู่เถาเยายิ้มดวงตาโค้งมน “เดี๋ยวอันนั่วโทรถามเสี่ยวอินด้วยว่าจะไปด้วยกันไหม ไม่ต้องจับตาดูเจียงเย่ว์ตลอดเวลาหรอก ถ้าเสี่ยวอินก็อยากไป พรุ่งนี้เช้านายไปรับเธอมาที่ตำหนักพระจันทร์ตอนเก้าโมง”
“ครับอาจารย์อาเล็ก”
“ตอนบ่ายเลิกเรียนกลับบ้านฉันก็จะถามเสี่ยวหว่านกับเหยาเหยาด้วยว่าอยากกลับหมู่บ้านเถาหยวนด้วยกันไหม”
อาจารย์อาเล็กพูดด้วยความลังเล “…เสี่ยวเยาเยา หลังจากหมอลู่ออกมาแล้ว…พักที่ไหนเหรอ ไม่มีที่พักอาศัยใช่หรือเปล่า”
เสี่ยวเยาเยาเคยบอกว่าหมอลู่ไม่มีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่งเพราะต้องตามหาพี่ชายไปทั่ว…
“อาจารย์อาเล็กอยากเชิญหมอลู่มาเย่ว์ตูเหรอคะ
“…เปล่าๆ…แค่ถามดู…หมอลู่อยากไปไหนก็ตามใจ…” อาจารย์อาเล็กเหมือนแมวที่ถูกเหยียบหาง
กู่ย่ากุมขมับ
ยอมรับว่าตัวเองเป็นห่วงมันยากขนาดนั้นเลยเหรอ
“ถ้าหมอลู่ยินดี มาพักกับพวกเราที่บ้านก็ได้”
อาจารย์อาเล็กดวงตาเบิกโพลง
เขายังไม่ได้เตรียมใจเลยนะ
มู่เถาเยาพูดด้วยรอยยิ้ม “อาสะใภ้คะ ให้หมอลู่พักตำหนักพระจันทร์ไปก่อนดีกว่าค่ะ ฉันยังต้องขอคำปรึกษาเรื่องอาการป่วยของตี้อู๋เปียน”
เสด็จแม่ของเธอต้องมาดูหมอลู่แน่ ถ้าพักบ้านอาจารย์อาเล็กพวกเธอจะไม่สะดวกคุยกัน
กู่ย่าพยักหน้า “ก็ได้จ้ะ แบบนี้อาจารย์อาเล็กของหนูจะได้มีเวลาทำใจนานหน่อย อุ๊บ…”
คนอื่นๆ ก็อดขำไม่ได้
อาจารย์อาเล็ก “…”
เห็นๆ อยู่ว่าไม่ตลกเลยสักนิด!
กินข้าวเสร็จก็คุยสัพเพเหระกันอยู่สักพัก มู่เถาเยากับเฉิงอันนั่วไปเรียน คนอื่นๆ ไปทำงาน
หลังเลิกเรียนมู่เถาเยาก็ไปหารถตัวเองที่ลานจอดรถ
พอเห็นคนที่นั่งตำแหน่งคนขับเธอก็ตกใจมาก
“มาได้ไงคะพี่ใหญ่”
“ไม่ใช่แค่พี่นะ อาก็มาด้วย”
“อาก็มาด้วยเหรอ เกิดอะไรขึ้นคะ” เธอยังคิดอยู่ว่าคืนนี้ก่อนนอนจะโทรเล่าเรื่องหมอลู่ให้เสด็จแม่ฟัง
“พวกเรากลับบ้านก่อนดีกว่า”
“ค่ะ” เธอก็อยากเจอเสด็จแม่ชนิดที่ทนรอไม่ไหวแล้ว
“พี่ใหญ่คะ คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายแข็งแรงดีไหมคะ”
“พวกเขาแข็งแรงดี ก็แค่คิดถึงเธอมาก”
มู่เถาเยา “…”
แอบไปต่อไม่ถูก
เย่ว์จือเหิงยิ้ม เอามือข้างหนึ่งลูบศีรษะของมู่เถาเยา
“ใกล้ปิดเทอมแล้ว อยากกลับหมู่บ้านเถาหยวนก่อนหรือไปที่เผ่าก่อนล่ะ”
“กลับเผ่าก่อนแล้วกันค่ะ ไว้ถึงตอนนั้นฉันกับพี่รองจะพาคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายมาที่หมู่บ้านเถาหยวนด้วยกัน”
“ได้”
“ฉันขอชวนใครไปด้วยได้ไหมคะพี่ใหญ่”
เธออยากพาอาจารย์ลู่ไปด้วย
“เธออยากพาใคร พาไปกี่คน ก็ได้ทั้งนั้น เครื่องบินของเธอเข้าไปจอดที่ลานจอดเครื่องบินของตำหนักพระจันทร์ในเผ่าได้เลยนะ”
“ค่ะ”
สองพี่น้องพูดคุยกันไป ไม่นานก็ถึงเซิ่งซื่อฉางอัน
เหล่าเด็กสาวกับเหลียงจีกำลังคุยเป็นเพื่อนเย่ว์เลี่ยง
“อาคะ”
“เสี่ยวเยาเยาของพวกเรากลับมาแล้ว”
เย่ว์เลี่ยงนั่งอยู่ที่โซฟา ยิ้มพลางมองลูกสาวของตัวเองที่รูปร่างสะโอดสะองงดงามเดินเข้ามาหา
“เสี่ยวเยาเยา”
“พี่เยาเยา”
“พี่ใหญ่เย่ว์”
เหล่าเด็กสาวก็เรียกแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน
เจียงเฟิงเหมียนลุกเข้าไปดึงมู่เถาเยามานั่งข้างเย่ว์เลี่ยง จากนั้นก็มองทั้งสองคนสลับไปมา
“พี่เยาเยาหน้าเหมือนอาเย่ว์เลี่ยงมากเลยนะคะ!”
มู่หว่านกับอวิ๋นสุ่ยเหยาพยักหน้าพร้อมกัน
หากมองภายนอก อันที่จริงก็แค่ใบหน้าเหมือนตุ๊กตาคล้ายกัน แต่คนอื่นๆ กลับรู้สึกว่าเหมือนกันมาก
เย่ว์เลี่ยงยิ้มพูด “ก็ญาติกันนี่เนอะ เสี่ยวเยาเยาจะเหมือนอาก็ไม่แปลก”
ทุกคนเคยได้ยินคำพูดแบบนี้ จึงไม่รู้สึกแปลกใจอะไร
มู่เถาเยายิ้มดวงตาโค้งมน “อาคะ น้าเล็กอวิ๋นไม่ได้กลับมาด้วยกันเหรอคะ”
“อวิ๋นไป๋กับพี่รองของหลานช่วงนี้งานยุ่งอยู่ คงไม่ออกจากเผ่าไปไหนระยะนี้”
“อ่อ”
น้าเล็กอวิ๋นเคยบอกไว้ว่าอาจกลับมาตอนเธอปิดเทอมหน้าร้อน จากนั้นค่อยไปเยี่ยมปู่ตี้ย่าตี้และก็เสี่ยวอันเหยี่ยที่หมู่บ้านเถาหยวนด้วยกัน
เหลียงจีรินน้ำชาให้มู่เถาเยากับเย่ว์จือเหิงเสร็จก็เรียกสามสาว “พวกเราเข้าไปในครัวกัน ดูว่ามีอะไรให้ช่วยไหม”
อวิ๋นไป๋โทรบอกพ่อบ้านจงให้พาเชฟของบ้านตระกูลตี้มาทำอาหารแล้ว เหลียงจีแค่อยากดึงสามสาวออกไป ครอบครัวเย่ว์จะได้คุยกันสะดวก
“ได้เลยค่ะ”
สามสาวกุลีกุจอเดินตามเหลียงจีไปห้องครัว