อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 236 เล่นมาเล่นกลับ
ตอนที่ 236 เล่นมาเล่นกลับ
พอพวกมู่เถาเยาสามคนออกมาจากเขตป่าชั้นในก็เจอครอบครัวราชาม้าป่าที่เดินผ่านต้นท้อใหญ่ต้นนั้นพอดี
“เกาหม่า เสี่ยวเหยี่ย เสี่ยวเซวี่ย”
เมื่อม้าทั้งสามตัวได้ยินเสียงที่คุ้นเคยก็หันวิ่งกลับมาด้วยความดีใจ
เสี่ยวเหยี่ยร้องฮี้ เอาศีรษะใหญ่ๆ ของตัวเองซุกเข้าหามู่เถาเยาก่อน
ลู่จือฉินกับเย่ว์เลี่ยงอดหัวเราะไม่ได้ จากนั้นก็มองสำรวจเกาหม่ากับเสี่ยวเซวี่ย
“เย่ว์เลี่ยง ม้าสองตัวนี้…ให้ความรู้สึกคล้ายม้าศึกของฉันกับเสี่ยวเยาเยา…”
เย่ว์เลี่ยงจากไปเร็ว ไม่รู้ว่าม้าศึกของพวกเธอเป็นอย่างไร แต่ความบังเอิญในตอนนี้มันมากเหลือเกิน เธอไม่สงสัยว่าตัวเองคิดเพ้อฝันอีกแล้ว
ยกมือจะลูบหัวของเกาหม่า แต่มันกลับเบี่ยงหนี
ลู่จือฉินหลุดขำ “แบบนี้ยิ่งเหมือน! ปกติม้าจี๋เฟิงของเสี่ยวเยาเยาก็ไม่ให้ใครแตะแม้แต่ฉันกับเยี่ยนหัง!”
เย่ว์เลี่ยงก็ลูบเกาหม่าไม่ได้ แต่ไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนเลยสักนิด “ม้าสามตัวนี้รูปงามมาก”
ลู่จือฉินลองลูบเสี่ยวเซวี่ย
มันกลับไม่ขัดขืนอะไร ยอมให้ลูบแต่โดยดี
คราวนี้แม้แต่มู่เถาเยาก็ยังแปลกใจ
ถึงแม้เสี่ยวเซวี่ยจะนิสัยอ่อนโยน แต่ก็ไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามาแตะเนื้อต้องตัว
“อาจารย์คะ เสี่ยวเซวี่ยเหมือนอิ่นเซวี่ยไหม”
อิ่นเซวี่ยคือม้าศึกของอาจารย์เมื่อชาติก่อน
“มองภายนอกเหมือนมาก ก็แค่ไม่รู้ว่าด้านอื่นเป็นยังไงบ้าง”
ถึงแม้อิ่นเซวี่ยของเธอจะเป็นแม่ม้า นิสัยก็อ่อนโยน แต่กลับสู้เก่งมากในบรรดาม้าทั้งปวง
“เสี่ยวเหยี่ยก็เหมือนม้าศึกของเยี่ยนหังค่ะ คึกคะนองมาก”
ลู่จือฉินก็ยิ้มจนดวงตาที่คล้ายอธิการบดีเจียงเฉากับเจียงเฟิงเหมียนโค้งมน “นั่นสิ หลิวอวิ๋นของเยี่ยนหังขี้อิจฉามาก”
มู่เถาเยาหลุดหัวเราะ
เป็นแบบนั้นจริง
ขนาดตอนเยี่ยนหังให้อาหารมันแล้วแบ่งให้จี๋เฟิงกับอิ่นเซวี่ยกิน หลิวอวิ๋นยังโมโหกระฟัดกระเฟียด
ก็เหมือนเสี่ยวเหยี่ย อิจฉาได้แม้กระทั่งแม่ตัวเอง!
เอาแต่ใจมาก!
เย่ว์เลี่ยงไม่ได้เห็นชีวิตในภายหลังของพวกเขา รู้สึกเสียดายเหลือเกิน
มู่เถาเยาปล่อยเสี่ยวเหยี่ย ไปคล้องแขนเย่ว์เลี่ยง “ท่านแม่ เยี่ยนหังต้องมาแน่ และก็จะมาพร้อมความทรงจำแบบพวกเรา นับตั้งแต่เขาจำความได้ ลูกก็เล่าเรื่องท่านแม่ให้เขาฟัง แถมยังเอาภาพเหมือนให้ดูบ่อยๆ เยี่ยนหังต้องจำท่านแม่ได้แน่นอน”
“เด็กดี! หลายปีมานี้ลำบากลูกกับจือฉินแย่เลย…”
“เย่ว์เลี่ยง เป็นอาจารย์หนึ่งวัน แต่เป็นบิดาตลอดชีวิต ฉันเท่ากับเป็นพ่อของเสี่ยวเยาเยาด้วย ก็ย่อมต้องรับผิดชอบดูแลสองพี่น้องคู่นี้ให้ดี”
ส่วนพ่อตัวจริงนั่น ไม่พูดถึงดีกว่า
“ได้ พวกเราเลิกพูดถึงอดีต”
ลู่จือฉินพยักหน้า “อืม ตอนนี้พวกเราใช้ชีวิตให้ดี ดื่มด่ำกับสิ่งดีๆ ที่เมื่อชาติที่แล้วพลาดไป”
มู่เถาเยาได้โอกาสรีบพูด “งั้นท่านแม่กับอาจารย์หาคนแต่งงานด้วยเลยสิคะ หนูอยากมีน้อง”
เย่ว์เลี่ยงกับลู่จือฉินแจกมะเหงกให้มู่เถาเยาคนละที
มู่เถาเยาเอามือจับหน้าผาก น้ำตาคลอที่ถูกสองคนตรงหน้าใช้ความรุนแรง
เย่ว์เลี่ยงแกล้งดุ “เด็กอย่างเราทำมายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่” มองข้ามว่าลูกตัวเองตายตอนอายุสามสิบหกด้วยความเคยชิน
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าลูกสาวจะโตแค่ไหนก็ยังเป็นเด็กในสายตาของแม่เสมอ
“ท่านแม่ น้าเล็กอวิ๋นเป็นคนใช้ได้จริงๆ นะคะ! หนูชอบเขามากเลย”
ลู่จือฉินถาม “น้าเล็กอวิ๋นคือใครเหรอ”
“เป็นน้าของตี้อู๋เปียนค่ะ ชื่ออวิ๋นไป๋ ตามจีบท่านแม่มายี่สิบปีแล้ว”
“เหรอ งั้นก็ใช้ได้นี่! เย่ว์เลี่ยง ลองพิจารณาหน่อยสิ ดีไม่ดีเยี่ยนหังอาจมาเกิดเป็นลูกพวกเธอก็ได้นะ”
มู่เถาเยากับเย่ว์เลี่ยงต่างอึ้ง
พวกเธอไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้เลย
มู่เถาเยาพึมพำ “อวิ๋นเยี่ยนหังเหรอ ท่านแม่ อวิ๋นเยี่ยนหังเพราะกว่ามู่เยี่ยนหังอีก!”
เย่ว์เลี่ยงหมดคำจะพูด มองลูกสาวที่อยู่ๆ ก็ดูตื่นเต้นมาก
ลู่จือฉินก็ยิ้มพลางพยักหน้า “นั่นสิ อวิ๋นเยี่ยนหังเพราะกว่า! หรือไม่ก็เย่ว์เยี่ยนหังก็ได้! ดีกว่ามู่เยี่ยนหังทั้งนั้น!”
เย่ว์เลี่ยง “…”
ศิษย์อาจารย์คู่นี้มองเย่ว์เลี่ยงแล้วยิ้มฮี่ๆ
“…เสี่ยวเยาเยา จือฉินก็ไม่ได้แต่งงาน! ไปขอน้องจากจือฉินไป!”
เอาสิ เล่นมาเล่นกลับไม่โกง!
ลู่จือฉิน “…”
ตัดความเป็นเพื่อนกันเลยได้ไหม
มู่เถาเยาหันขวับ พูดเสียงออดอ้อน “อาจารย์ หนูอยากได้น้องสาว จะให้ชื่อว่าเสี่ยวลู่ลู่”
ลู่จือฉิน “…”
ลูกศิษย์คนนี้ก็ตัดทิ้งซะ!
ตอนนี้ถึงคราวเย่ว์เลี่ยงหัวเราะแล้ว
ทั้งสามคนหยอกล้อกันอยู่สักพัก เล่นกับม้าทั้งสามตัวอีกเล็กน้อยก็ปล่อยพวกมันไป
มู่เถาเยามองต้นท้อใหญ่พลางพูด “อาจารย์ ท่านแม่ พวกเราเก็บลูกท้อน้ำผึ้งกลับไปหน่อยดีกว่า มันออกผลรอบสุดท้ายของปีนี้แล้วค่ะ”
เข่งใบเล็กของเธอยังว่างอยู่ ใส่ได้เยอะ
ปกติไม่ค่อยมีคนมาตรงนี้ มีแค่พวกศิษย์พี่ของเธอที่จะมาเก็บไปให้บรรดาผู้อาวุโสกินบ้างเป็นครั้งคราว
อย่างไรเสียสำหรับชาวบ้านที่วิชาตัวเบาไม่เก่งพอแล้วนั้น ตรงนี้ไกลเกินไป อีกทั้งหมู่บ้านเถาหยวนของพวกเขาก็ปลูกผลไม้สารพัด รสชาติไม่ด้อยไปกว่ากันมาก จึงไม่มีใครมาตั้งใจเก็บลูกท้อน้ำผึ้งทางนี้
มีลูกท้อบนต้นหลายผลที่ถูกนกจิกกิน
“เอาสิ ลูกท้อน้ำผึ้งนี่อร่อยมาก จือฉินลองชิมดูสิ”
“อืม”
ทั้งสามคนเด็ดลูกท้อที่หนักเกือบหนึ่งกิโลกรัมมากินจนอิ่ม
เป็นคนมีวรยุทธ์ทั้งนั้น กินเก่ง
พอกินลูกท้อเสร็จลู่จือฉินก็พูดชมไม่หยุด
“อร่อยมากจริงๆ! ฉันเดินอยู่ในเขตป่าชั้นในของป่าเซียนโหยวมาเกือบเดือนได้ ของข้างนอกสู้ของในนี้ไม่ได้เลย…”
ทั้งสามคนเลือกเด็ดลูกท้อน้ำผึ้งพลางคุยกัน
“อาจารย์คะ หาเวลาเล่าเรื่องเขตป่าชั้นในให้พวกเราฟังหน่อยสิคะ ตอนนี้พวกเรารวบรวมกำลังคนมาฝึกพิเศษ เตรียมเข้าไปตามหาดอกไม้สองชีวิตกับหญ้าพิษชีวิตที่ข้างในตอนช่วงปิดเทอมหน้าหนาวค่ะ” รวมถึงเรื่องเบาะแสของเหมียวอวี้ที่เป็นพี่เลี้ยงด้วย
“เสี่ยวเยาเยา อาการของตี้อู๋เปียนเป็นยังไงบ้าง”
“ขาดแคลนพลังชีวิตแต่กำเนิด”
“ขาดแคลนพลังชีวิตเหรอ งั้นไม่เท่ากับว่าอายุสั้นเหรอ”
“ใช่ค่ะ ถ้าไม่ได้มาเจอหนูแล้วใช้วิชาหุยหยางที่อาจารย์คิดค้นขึ้น ตี้อู๋เปียนอยากมีชีวิตถึงอายุยี่สิบห้าก็จะเป็นความฝันลมๆ แล้งๆ…”
สองอาจารย์กับลูกศิษย์คุยเรื่องอาการป่วยของตี้อู๋เปียนอย่างจริงจัง
จนกระทั่งเก็บลูกท้อได้เต็มเข่ง เย่ว์เลี่ยงถึงเตือนทั้งสองคนว่าควรกลับได้แล้ว
เนื่องจากต้องคุยเรื่องแผ่นดินจงโจว ทั้งสามคนจึงใช้เวลาในเขตป่าชั้นในนานมาก ตอนนี้ดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าแล้ว จะกลับเย็นกว่านี้ไม่ได้อีก
มู่เถาเยาสะพายเข่งที่เต็มไปด้วยลูกท้อน้ำผึ้ง เย่ว์เลี่ยงสะพายเข่งใบใหญ่ของลู่จือฉินที่เต็มไปด้วยสมุนไพรหายาก ทั้งสามคนคล้องแขนเหาะกลับด้วยกัน
พื้นที่เขตป่าชั้นนอกของป่าเซียนโหยวมีอาณาบริเวณที่กว้างมาก แม้จะเหาะกลับโดยตรง แต่ก็กลับถึงบ้านตอนแสงอาทิตย์หายลับขอบฟ้าไปแล้ว
ภายในเรือนของบ้านตระกูลหยวนมีคนอยู่เต็ม ทั้งหมดต่างชะเง้อคอมองไปทางป่าเซียนโหยว
กว่าจะเห็นคนกลับมาทุกคนก็ชะเง้อมองจนปวดคอ
เจียงเฟิงเหมียนวิ่งไปหาลู่จือฉิน สวมกอดแน่นร้องไห้โฮโดยไม่รังเกียจที่อีกฝ่ายเนื้อตัวสกปรกเลยสักนิด
ลู่จือฉิน “…”
กอดผิดคนหรือเปล่า แน่ใจนะว่าไม่ได้อยากกอดเย่ว์เลี่ยงหรือเสี่ยวเยาเยา
“คุณอา! หนูมีอาแล้ว! พ่อหนูมีน้องสาวแล้ว! พ่อหนูไม่ใช่ลูกกำพร้าโดดเดี่ยว! หนูมีอาแล้ว! อาของหนู…ฮ่าๆ มีอาแล้ว…”
เจียงเฟิงเหมียนเดี๋ยวร้องไห้เดี๋ยวหัวเราะ สลับกันไปแบบนี้
ทุกคนรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นดีใจของเธอ