อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 271 มีเธออยู่ทุกที่
ตอนที่ 271 มีเธออยู่ทุกที่
หลังจากมู่เถาเยาฝังเข็มให้ตี้อู๋เปียนแล้วก็กินข้าวเที่ยงที่บ้านตระกูลตี้ แล้วไปมหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตูพร้อมลู่จือฉิน ปาอิน และเหลียงจี
อาจารย์อาเล็กอธิการบดีเจียงกับเฉิงอันนั่วกำลังรอพวกเธออยู่ในห้องปรุงยา
“โสมกับหลิงจือชั้นดี! เสี่ยวเยาเยา เธอเก็บเอาไว้ใช้เองเถอะ”
“อาจารย์อาเล็กคะ ในบ้านหนูมีแบบที่ดีกว่านี้ สองต้นนี้เอามาทำยาให้ทุกคนกินเถอะค่ะ”
“พวกเราสุขภาพแข็งแรง ไม่จำเป็นต้องกินยาบำรุงดีขนาดนี้”
“ไม่ได้กินทุกวันสักหน่อยนี่คะ เว้นหลายวันเอาใส่น้ำแกงหรือชงน้ำดื่มก็ได้ ยังไงเราก็ไม่ได้ขาดแคลน”
สมุนไพรของเธอที่ดีกว่านี้ไม่ได้เอาออกมาแบ่งก็เพราะทุกคนสุขภาพแข็งแรงมาก จึงเก็บเอาไว้ใช้ยามจำเป็น
อย่างไรเสียแบบนี้มีเยอะหน่อยก็พวกสมุนไพรอายุหลายร้อยปี เหมาะที่จะเอามากินบ้างเป็นครั้งคราวยามปกติ
“เสี่ยวเยาเยา…” อาจารย์อาเล็กเสียดายจริงๆ
นี่มันของราคาร้อยล้านเชียวนะ! กินหนึ่งคำเป็นเงินเท่าไร!
ปวดใจ!
“ไม่เป็นไรค่ะอาจารย์อาเล็ก ที่บ้านยังมีสมุนไพรอีกเยอะ ไว้เมื่อไรลดน้อยลงหนูจะเข้าป่าเซียนโหยวไปเก็บ รับรองมีพร้อมใช้ตลอดค่ะ”
“…”
ดูเสี่ยวเยาเยาพูดสิ ทำเหมือนป่าเซียนโหยวเป็นสวนผักในบ้านไปได้ อยากจะไปเก็บเมื่อไรก็ไปได้ อยากเอาชนิดไหนก็จัดให้ได้
มู่เถาเยายิ้มให้อาจารย์อาเล็ก เริ่มจัดการสมุนไพรและปรุงยา
เธอกับอาจารย์สามชอบปรุงยา คนสมัยนี้ไม่รู้เรื่องพวกนี้ เฉิงอันนั่ว ปาอิน หรือแม้แต่อาจารย์อาเล็กต่างก็สนใจมาก
พวกเขายังได้ถามอีกหลายคำถาม
มู่เถาเยาก็ตอบอย่างใจเย็น
เมื่อทำออกมาเป็นยาเสร็จ กลิ่นก็หอมอบอวลไปทั่วห้องปรุงยา ไม่ได้เหม็นจนถึงขั้นที่ได้กลิ่นแล้วอยากอ้วกแบบยาที่ต้มเป็นน้ำ
ปาอินถาม “เสี่ยวเยาเยา นักปรุงยาในยุคโบราณมีจริงใช่ไหม”
“แน่นอน อันที่จริงปรุงยาไม่ได้ยาก สิ่งที่ยากคือจะใช้อะไรเป็นตัวนำ การคุมไฟ ลำดับการใส่สมุนไพร…รายละเอียดเล็กน้อยพวกนี้ถ้าทำได้พอเหมาะพอดี ยาที่ได้มาจะคุณภาพสูงมาก…”
เฉิงอันนั่ว ปาอิน อาจารย์อาเล็กต่างพยักหน้าหงึกๆ
มู่เถาเยาแบ่งสมุนไพรที่ถูกจัดการเรียบร้อยแล้วเป็นชุดๆ อาจารย์อาเล็กกับเฉิงอันนั่วคนละชุด ส่วนที่เหลือรอกินข้าวร่วมกันพรุ่งนี้ค่อยเอาให้ ไม่จำเป็นต้องเอาไปส่งให้ตามบ้านตั้งแต่ตอนนี้
ยาเม็ดที่ทำเสร็จแล้วถูกบรรจุลงขวด วันอังคารจะเอาไปให้ปู่ย่าตายายกินที่เผ่า
อาจารย์อาเล็กมองนาฬิกาข้อมือ “ตอนนี้ห้าโมงกว่าแล้ว เสี่ยวเยาเยา อาสะใภ้กับพี่สะใภ้เธอก็น่าจะใกล้กลับมากันแล้ว พวกเรากลับไปทำกับข้าวก่อนดีกว่า”
เขาซื้อวัตถุดิบมาตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว
“ค่ะ”
ทุกคนไปที่บ้านอาจารย์อาเล็ก อาจารย์อาเล็กกับเฉิงอันนั่วเข้าห้องครัวอย่างรู้หน้าที่
ลู่จือฉิน ปาอิน และเหลียงจีอยากเข้าไปช่วย แต่อาจารย์อาเล็กไม่ให้ช่วย
มู่เถาเยาก็ไม่ขอ ‘สร้างความยุ่งยาก’ ให้
ฝีมือการทำอาหารของเธอไม่ควรค่าให้พูดถึงเมื่ออยู่ต่อหน้าคนเหล่านี้
พวกผู้หญิงเพิ่งนั่งดื่มชาอยู่ในห้องรับแขก กู่ย่านายหญิงของบ้านก็เข้ามาพร้อมหลี่อวี้เสวี่ย
“เอ๊ะ ทุกคนเสร็จงานกันแล้วเหรอ นี่ฉันยังคิดว่าพวกเราจะกลับมาก่อนเลยนะ” กู่ย่าพูดขณะวางกระเป๋า
“อาสะใภ้ พี่สะใภ้ ศิษย์พี่ใหญ่ไม่มาด้วยเหรอคะ”
หลี่อวี้เสวี่ยยิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยา ศิษย์พี่ใหญ่ของเธอจะมาช้าหน่อยจ้ะ”
มู่เถาเยาตอบอ่อ
กู่ย่า “จือฉิน เห็นอวี้เสวี่ยบอกว่าเธอรับลูกศิษย์แล้วเหรอ”
หลี่อวี้เสวี่ยฟังจากลูกชายมาเมื่อคืน
ลู่จือฉินยิ้มตอบ “ใช่ค่ะพี่สะใภ้ หันซูเป็นเด็กดีที่มีพรสวรรค์มาก”
“เธอถูกใจก็พอ จริงสิจือฉิน ช่วงหลายวันนี้พี่กับอวี้เสวี่ยถามคนในคณะดู มีคนหนึ่งจะเกษียณไปใช้ชีวิตที่บ้านลูกชาย เตรียมขายบ้านของครอบครัว อยู่ที่หมู่บ้านเรือนอุ่นรักนี่แหละ ด้านหลังตึกที่เสี่ยวเยาเยาอยู่ พี่กับอวี้เสวี่ยไปดูมาแล้ว บ้านเดี่ยวหลังนี้ถูกดูแลมาดีเลยนะ”
มู่เถาเยาร้องด้วยความตื่นเต้นขึ้นมาก่อน “จริงเหรอคะ”
หลี่อวี้เสวี่ยยิ้มพูด “จริงจ้ะเสี่ยวเยาเยา เธอกับอาเธอเคยเจอคนคนนี้ด้วยนะ เป็นอาจารย์สอนกู่เจิง”
“อาจารย์หลี่เหรอคะ”
เธอจำได้ว่าอาจารย์หลี่ที่เล่นกู่เจิงเป็นศิลปินที่อายุมากสุดในคณะ
กู่ย่ายิ้มมุมปาก “เสี่ยวเยาเยาความจำดีมาก บ้านหลังนั้นเป็นของลูกชายอาจารย์หลี่ ซื้อให้อาจารย์หลี่อยู่หลังจากที่สามีอาจารย์หลี่เสีย เธออาศัยอยู่คนเดียวมาตลอด ครอบครัวลูกชายมีกลับมาบ้าง ถ้าไม่ติดว่าอีกหน่อยจะไม่กลับมาทางนี้แล้ว อาจารย์หลี่ก็ยังไม่อยากขายหรอก”
ลู่จือฉินยิ้มพูด “บังเอิญจริงๆ”
หลี่อวี้เสวี่ยยิ้มดวงตาโค้งมน “นั่นสิ จือฉินดวงดีมากเลยนะ”
มู่เถาเยายิ้มกว้าง “พี่สะใภ้คะ งั้นอาจารย์หลี่จะเกษียณเมื่อไรคะ”
“ยังอีกสามเดือนจ้ะ”
กู่ย่า “เสี่ยวเยาเยา ลองเดาดูสิว่าหลี่ชวนลูกชายอาจารย์หลี่อยู่ที่ไหนกันแน่”
“…คงไม่ใช่เผ่าหมาป่าพระจันทร์ใช่ไหมคะ”
หลี่อวี้เสวี่ยกับกู่ย่าหัวเราะออกมาพร้อมกัน พูดเป็นเสียงเดียวกัน “เผ่าหมาป่าพระจันทร์”
“บังเอิญขนาดนั้นเลย!”
ปาอินกะพริบตาปริบๆ “น้อยมากที่จะมีคนย้ายถิ่นฐานไปที่เผ่าหมาป่าพระจันทร์ได้ ลูกชายของอาจารย์หลี่จะต้องเป็นคนที่สร้างคุณูปการให้ทางเผ่าแน่เลยค่ะ”
เหลียงจีพยักหน้า “เท่าที่ฉันทราบ ชาวต่างชาติที่อยู่ในเผ่ามีไม่ถึงร้อยครอบครัว ถูกรับเข้ามาเป็นกรณีพิเศษทั้งนั้น”
ถ้าแค่ร่ำรวย ไม่มีทางมีโอกาสย้ายเข้าเผ่าได้ เพราะเผ่าของเราไม่ร้อนเงิน!
กู่ย่า “พวกเราไม่รู้หรอกว่าลูกชายของอาจารย์หลี่ทำงานอะไร อาจารย์หลี่ไม่เคยเล่าด้วยซ้ำว่าลูกชายอยู่เผ่าหมาป่าพระจันทร์ เพิ่งจะพูดถึงตอนที่ต้องย้ายที่นี่แหละ ชวนพวกเราให้ไปเที่ยวด้วยถ้ามีโอกาส”
เหลียงจี “ไม่รู้ก็เรื่องปกติค่ะ เพราะทุกคนที่เข้าไปทำงานในเผ่าจะต้องเซ็นสัญญาเก็บความลับ”
เธอเคยอยู่กองทัพ อีกทั้งยังเป็นนักบินของหัวหน้าเผ่า ย่อมรู้เรื่องพวกนี้
พอได้ยินว่าเซ็นสัญญาเก็บความลับ หลี่อวี้เสวี่ยกับกู่ย่าก็ไม่แปลกใจแล้ว
ลู่จือฉิน “งั้นพี่สะใภ้กับอวี้เสวี่ยช่วยจองให้ฉันก่อน ราคาคุยกันได้ ไว้เสี่ยวเยาเยาเปิดเทอมพวกเราค่อยไปคุยกับอาจารย์หลี่ หากบ้านไม่มีปัญหาก็เอาแน่ค่ะ”
กู่ย่าพยักหน้า “จ้ะ อาจารย์หลี่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ไม่มีทางหลอกพวกเรา แต่บ้านใหญ่พอสมควร ราคาคงไม่ใช่ถูกๆ จือฉิน เงินพอหรือเปล่า พี่กับพี่ชายเธอพอมีอยู่นะ เอ่ยปากได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”
หลี่อวี้เสวี่ย “พวกเราก็มีอยู่นะ”
เรือนอุ่นรักเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เขตโรงเรียน มีทั้งตึกพักอาศัยและบ้านเดี่ยว
ถึงแม้บ้านเดี่ยวจะไม่ใช่แบบที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่ที่นั่นทำเลดี ตกแต่งอย่างประณีตสวยงาม ต่อให้ลดเป็นพิเศษเพราะเห็นแก่หน้าพวกเธอก็คงถูกลงไม่ได้เท่าไร
เมืองเย่ว์ตูหาที่พักอาศัยยาก ไม่เคยขาดแคลนผู้ที่อยากซื้อ
เมื่อก่อนลู่จือฉินเป็นหมอทั่วไปของโรงพยาบาลธรรมดาๆ ต่อมาได้ลาออกเพื่อตามหาพี่ชาย สิบห้าปีมานี้ไม่ได้ทำงานเป็นกิจจะลักษณะ คงไม่มีเงินเก็บเท่าไร
ปาอินกับเหลียงจีไม่พูด แค่ยิ้มมองลู่จือฉิน
พวกเธอก็มีเงิน ไม่ใช่ว่าไม่ยินดีให้ยืม ก็แค่พวกเธอรู้สึกว่าคนเก่งๆ อย่างอาจารย์สามไม่มีทางเดือดร้อนเรื่องเงิน
อาสะใภ้กับพี่สะใภ้ไม่ได้เห็นความเก่งของอาจารย์สามกับตา ถึงได้เป็นห่วงขนาดนี้
ระยะนี้พวกเธอกินอยู่ ฝึกวิชากับอาจารย์สาม จึงรู้ดีว่าไม่ว่าด้านไหนอาจารย์สามก็ไม่ด้อยไปกว่าเสี่ยวเยาเยา
ถึงขั้นที่วิชาการแพทย์จะสูงกว่าด้วยซ้ำ มิฉะนั้นเสี่ยวเยาเยาคงไม่นับถือเป็นอาจารย์หรือเปล่า
ลู่จือฉินสัมผัสได้ถึงความหวังดีของทุกคน ยิ้มพูด “ขอบคุณพี่สะใภ้กับอวี้เสวี่ยมาก ฉันมีเงินค่ะ ซื้อบ้านเดี่ยวหลังเล็กๆ ได้ไม่เดือดร้อน”
กู่ย่าพยักหน้า “จ้ะ ถ้าลำบากอะไรก็บอกพวกเราได้ พี่กับพี่ชายเธอจะพยายามช่วยเต็มที่”
“ขอบคุณค่ะพี่สะใภ้”
“ครอบครัวเดียวกันไม่ต้องเกรงใจนะ”
“ค่ะ”
มู่เถาเยา “อาสะใภ้กับพี่สะใภ้ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ยังมีหนูอีกคนนะคะ”
กู่ย่าอดจิ้มหน้าผากอวบอิ่มของสาวน้อยที่ยิ้มแย้มงดงามไม่ได้ แกล้งดุ “ทำไมมีเราอยู่ทุกที่เลยนะ! เด็กควรมากลุ้มเรื่องของผู้ใหญ่เหรอ จะชอบช้อปปิ้งดูละครเหมือนเด็กคนอื่นบ้างไม่ได้หรือไง”
เหลียงจีกับปาอินหลุดขำ
ลู่จือฉินกับหลี่อวี้เสวี่ยก็อดขำไม่ได้
มู่เถาเยา “…”
ดูเหมือนเธอจะทำตัวเป็นเด็กอายุสิบกว่าแค่กับอาและพวกอาจารย์หรือเปล่า