อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 280 อย่าปรักปรำกันนะ
ตอนที่ 280 อย่าปรักปรำกันนะ
มู่เถาเยาถามด้วยความแปลกใจ “อาจารย์สามคะ คุณพ่อหนูมีอะไรผิดปกติเหรอคะ”
ต่อให้ตั้งใจจ้องขนาดไหน เธอก็ไม่มีทางสงสัยว่าอาจารย์คิดเป็นอื่นกับพ่อของเธอ
ทุกคนต่างมองไปที่ลู่จือฉิน
“อาจารย์กำลังคิดว่า ในเมื่อไม่พบแรงจูงใจ ถ้าอย่างนั้นจะเป็นไปได้ไหมว่า…เกลียดเพราะรัก”
คราวนี้ทุกคนพากันหันไปมองเย่ว์หลั่งแล้ว
เย่ว์หลั่งดวงตาเบิกโพลง ร้อนใจพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน “มองผมทำไมกัน ผมมีแค่เสี่ยวซีคนเดียวตั้งแต่ต้น! ผมไม่เคยเจอเหมียวฉีเลยนะ! ถ้าไม่ใช่เพราะเหมียวอวี้ ผมก็ไม่รู้ว่ามีคนคนนี้อยู่บนโลกด้วย!”
คนตระกูลเย่ว์กับตระกูลเป่ยย่อมเชื่อเขา
เย่ว์หลั่งกับเป่ยซีรักกันมาตั้งแต่อายุยังน้อย ทุกคนรู้ว่าพวกเขารักและผูกพันกันขนาดไหน มีเหรอที่คนอื่นจะเข้าไปแทรกกลางได้
เย่ว์จือเหิงพูดขึ้น “พ่อครับ เหมียวฉีเคยเรียนโรงเรียนเดียวกับพ่อ…”
เดิมทีตระกูลหัวหน้าเผ่าก็ไม่ได้ถือตัว กอปรกับโรงเรียนในเผ่าไม่มีแบ่งแยกดีไม่ดี ล้วนจำแนกตามความสนใจ
ตอนที่เย่ว์เลี่ยงยังไม่เกิด เย่ว์หลั่งถูกเลี้ยงมาแบบผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าเผ่า เชิญอาจารย์มาสอนมากมายนับไม่ถ้วน แต่พอเย่ว์เลี่ยงเกิดจนกระทั่งพูดได้เดินได้ อาจารย์เหล่านี้ก็ถูกย้ายไปสอนเย่ว์เลี่ยงแทน
ต่อมาเย่ว์หลั่งก็ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน ทั้งยังย้ายโรงเรียนหลายครั้งเพียงเพื่อต้องการรู้ข้อบกพร่องทางการศึกษา
เพราะการศึกษาจะส่งผลต่ออนาคตของเผ่า
น้อยครั้งที่ชาวบ้านธรรมดาจะได้มีโอกาสใกล้ชิดคนตระกูลเย่ว์ ยกเว้นช่วงที่อยู่โรงเรียน อย่างไรเสียสถานที่ที่ไปก็ไม่เหมือนกัน
“งั้นพ่อก็ไม่เคยเจอเธอเหมือนกัน! อย่ามาปรักปรำกันนะ!” เย่ว์หลั่งแทบอยากจะเข้าไปซัดลูกชายคนโตสักตุ้บ
หัวใจที่เขามีให้เมียฟ้าดินเป็นพยานตะวันจันทรายืนยันได้!
ลูกชายคนโตพูดแบบนี้ รวมกับคำพูดของอาจารย์สามของลูกสาว ราวกับว่าเขาเคยมีความสัมพันธ์อะไรกับเหมียวฉีอย่างนั้นแหละ มีเหรอจะทนไหว!
“เป็นไปได้ไหมครับว่าเหมียวฉีแอบรักคุณพ่อ ทำให้เธอวางยาเหมียวอวี้แล้วอุ้มน้องออกไป เกลียดเพราะรัก นี่แหละแรงจูงใจ” เย่ว์จือกวงคิดว่าความจริงเป็นแบบนี้
พอได้ฟังลูกชายคนรอง เย่ว์หลั่งรู้สึกเหมือนกินแมลงวันเข้าไปทันที ขนลุกไปทั้งตัวชวนสยดสยอง
ยายหลาน “เสี่ยวซีต้องรู้จักเหมียวฉีแน่ สนิทกับเหมียวอวี้ขนาดนั้น”
“คุณยายคะ อย่าเพิ่งบอกคุณแม่นะคะ อีกครึ่งปีค่อยว่ากัน หนูกับอาจารย์สามจะหาสมุนไพรมาถอนพิษฮ่วนเซี่ยงก่อน จริงสิ พูดถึงเรื่องพิษ แม่ของศิษย์น้องยังถูกพิษดอกห้อมช้างด้วย พิษนั่นกัดกินสติปัญญา”
เย่ว์จือเหิงหัวไว “น้องหมายความว่า….ต่อให้แก้พิษฮ่วนเซี่ยงแล้ว สติปัญญาของเหมียวอวี้ก็ยังเสียหายอยู่ดีงั้นเหรอ อาจบอกเรื่องการหายตัวไปไม่ได้”
มู่เถาเยาพยักหน้า “ใช่ค่ะ ต่อให้ถอนพิษฮ่วนเซี่ยงกับดอกห้อมช้างแล้ว ยังต้องอาศัยดอกพันวันเพื่อเสริมสร้างสติปัญญาด้วยค่ะ”
เธอไม่กล้าคาดหวังอะไรกับน้าเหมียวมาก อย่างไรเสียของในตำนานก็ไม่ได้หาเจอง่ายๆ
ศิษย์น้องก็รู้ดี ถึงได้อยากพักการเรียน
เย่ว์เลี่ยง “บนโลกนี้มีสมุนไพรเสริมสร้างสติปัญญาด้วยเหรอ บำรุงสมองเหรอ”
“ไม่เหมือนกันค่ะ บำรุงสมองคือการยกระดับจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว แต่ดอกพันวันจะช่วยฟื้นฟูสติปัญญาที่หายไป อีกทั้งยังช่วยซ่อมแซมความทรงจำที่เสียหาย เช่น ความจำเสื่อมอะไรทำนองนั้นค่ะ แต่แน่นอนว่านี่ก็เป็นเรื่องที่เล่ากันมา”
มู่เถาเยายังนึกถึงอาจารย์อาเล็กด้วย
ถ้ามีดอกพันวันเหลือก็ให้อาจารย์อาเล็กลองดูด้วยก็ได้ ถ้าเขายินยอม
อาจารย์อาเล็กแค่สูญเสียความทรงจำตอนช่วงอายุก่อนหกขวบ จะต้องการให้ฟื้นคืนหรือไม่ก็ไม่สำคัญเท่าไร เพราะต่อให้เป็นคนปกติทั่วไป เดิมทีความทรงจำช่วงก่อนอายุหกขวบก็เลือนลางอยู่แล้ว
เย่ว์จือเหิง “น้องเล็กวาดรูปสมุนไพรออกมา พวกเราจะให้นักเก็บสมุนไพรของตระกูลปาไปช่วยหาด้วย”
“ได้ค่ะ เห็นเสี่ยวอินบอกว่าตระกูลปามีดอกห้อมช้างอยู่ต้นหนึ่ง”
เย่ว์หลั่ง “ลูกพ่อ ดอกห้อมช้างมีประโยชน์อะไร แก้พิษของมันได้เหรอ”
มู่เถาเยาพยักหน้า “ใช่ค่ะ ดอกแก้พิษที่หนามได้ ดอกห้อมช้างมีพิษแค่ตรงหนามค่ะ”
“งั้นพ่อจะไปขอตระกูลปามาให้”
“อย่าเพิ่งเลยค่ะ รอเจอสมุนไพรถอนพิษฮ่วนเซี่ยงก่อนค่อยว่ากัน ถ้าไม่มีหญ้าร้อยรส แก้พิษไปก็ไม่มีประโยชน์”
“ได้ งั้นพ่อจะไปเกริ่นกับอาหรูไว้ก่อน”
“ขอบคุณค่ะพ่อ”
เย่ว์หลั่งเอามือจับตรงหัวใจ สีหน้าเจ็บปวด “ลูกรักพูดขอบคุณกับพ่อ ดูห่างเหินเหลือเกิน เจ็บปวด”
มู่เถาเยา “…”
เห็นๆ อยู่ว่าเธอขอบคุณตามมารยาท
เย่ว์เลี่ยงมองสองพ่อลูกคุยกัน ยิ้มมุมปาก “เสี่ยวเยาเยา อาจะไปช่วยหลานกับอาจารย์หาสมุนไพรด้วย”
เย่ว์จือกวง “อาครับ ผมพาน้องกับอาจารย์ไปก็พอแล้วครับ”
“ไม่งั้นแบ่งกลุ่มไหม อากวงไปกับเสี่ยวเยาเยา อาจะไปกับอาจารย์สาม”
“อางานยุ่งจะตาย ให้พี่รองไปกับพวกเราก็พอแล้วค่ะ”
“งั้นอาจะไปกับอาจารย์ของหลานแค่ช่วงสุดสัปดาห์”
มู่เถาเยาพยักหน้า
ไม่ใช่แค่เพื่อหาสมุนไพร ยังเพื่อหาโอกาสให้อาได้อยู่กับอาจารย์มากหน่อย อย่างไรเสียคำพูดบางอย่างก็ต้องพูดตอนไม่มีคนไม่มีกล้องวงจรปิดถึงจะพูดได้อย่างสบายใจ
เย่ว์หลั่ง “ลูกรัก…”
“คุณพ่อทำงานไปดีกว่าค่ะ”
“…ก็ได้ งั้นพรุ่งนี้ลูกวาดรูปออกมานะ พ่อจะให้อาหรูเอาไปให้นักเก็บสมุนไพรช่วยหา”
“ค่ะ ขอบ…” เธอยั้งปากไว้
กลัวพ่อจะ ‘ปวดใจ’ อีก!
“พรุ่งนี้พวกเราไปบ้านคุณยาย วันมะรืนไปบ้านครอบครัวเหมียวกับอาจารย์ หนูเอาเส้นผมของแม่ศิษย์น้องมาด้วย อยากตรวจดีเอ็นเอค่ะ”
คุณตา “เสี่ยวเยาเยา เรื่องไปบ้านเราน่ะไม่รีบหรอก หลานไปจัดการธุระก่อนก็ได้ ไว้ว่างๆ หรือก่อนกลับประเทศเหยียนหวงค่อยไปทำความรู้จักญาติๆ ก็ได้ ยังไงซะระยะนี้พวกเราก็พักที่ตำหนักพระจันทร์”
“ค่ะ งั้นพรุ่งนี้หนูกับอาจารย์จะไปบ้านพ่อแม่ของน้าเหมียวค่ะ”
ยังไงก็ต้องไปดูให้เห็นกับตา พอผลตรวจออกมาจะได้เล่าให้ศิษย์น้องฟังเรื่องครอบครัวฝั่งยายได้อย่างสะดวก