อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 307 ผลงานใหญ่สุด
ตอนที่ 307 ผลงานใหญ่สุด
สองพี่น้องจับปลาไนขนาดเท่าฝ่ามือผู้ใหญ่ห้าตัว ล้างทำความสะอาดเสร็จก็เอาตอกไผ่ร้อยแล้วหิ้วกลับ
นำปลาใส่ถุงพลาสติกสะอาด จากนั้นก็เอาน้ำจากเถาวัลย์ล้างมือ เย่ว์จือกวงรีบไปหยิบเข่งมาดูดอกจื่อตันชนิดที่แทบทนรอไม่ไหว
“เยอะขนาดนี้เลยเหรอเสี่ยวเยาเยา! ทำเป็นยาได้กี่เม็ดกันเนี่ย!”
มู่เถาเยายิ้มดวงตาโค้งมน “ถ้าผสมตัวยาอื่นด้วยก็ทำได้เยอะมากค่ะ เก็บให้อาหนึ่งต้น ให้อาจารย์รองหนึ่งต้น ส่วนที่เหลือเอาไปทำเป็นยาเม็ด”
คนที่กำลังภายในไม่ได้สูงมากอย่างเย่ว์หลั่ง เย่ว์จือเหิง หมอเทวดาหยวน กินยาเม็ดธรรมดาก็พอแล้ว ถ้ากินดอกจื่อตันทั้งต้นร่างกายจะแบกรับไม่ไหว สิ้นเปลืองเปล่าๆ
ส่วนพวกศิษย์พี่ศิษย์น้องของสำนักซย่าโหว ให้กินยาเม็ดไปก่อน รอดูปีหน้าว่าจะมีดอกจื่อตันโตเต็มที่อีกเท่าไรค่อยแจกจ่ายว่าจะให้ใครกินทั้งต้นบ้าง
ลู่จือฉินยิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยา พรุ่งนี้พวกเราหาสมุนไพรที่ต้องใช้ทำยาจื่อตันกับยาอายุยืนให้ครบก่อน ตอนนี้มีดอกจื่อตันเยอะขนาดนี้ คงไม่ต้องเอาหญ้าอายุยืนมาผสมแล้ว”
“ค่ะ”
“เสี่ยวเยาเยา ฟ้าเริ่มมืดแล้ว พี่จุดไฟก่อนนะ” ในที่สุดเย่ว์จือกวงก็วางเข่งดอกจื่อตันลง
“จุดเลยค่ะ”
“อืม น้องกับอาจารย์กินเนื้อแห้งกับผลนมหมาป่าไปก่อนนะ พี่จะย่างปลา”
“ได้ค่ะ พี่รองก็กินอะไรรองท้องก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวไฟติดก่อนพี่ค่อยกิน”
มู่เถาเยาพยักหน้า จากนั้นก็ไปดูแม่หมาป่า
ลู่จือฉินใช้เถาวัลย์น้ำล้างหม้อหินที่เมื่อครู่เอามาตำสมุนไพรให้ลูกหมาป่าสีเทาสองตัวกิน
หมาป่าขาวสูงวัยกับครอบครัวราชาหมาป่า ทั้งหมดสิบกว่าตัวบ้างก็อยู่ตรงปากถ้ำ บ้างก็อยู่ข้างกองไฟ บ้างก็อยู่รอบๆ หินก้อนใหญ่เฝ้าแม่หมาป่า นั่งบ้าง ยืนบ้าง นอนบ้าง ต่างพักผ่อน มีส่งเสียงร้องหากันอยู่เรื่อยๆ
บริเวณโดยรอบยังมีหมาป่าเฝ้ายามที่หอนสื่อสารกันบ้างเป็นครั้งคราว
เมื่อตรวจดูแม่หมาป่ากับลูกสองตัวเสร็จแล้ว มู่เถาเยาก็ล้างมือแล้วไปนั่งข้างกองไฟพร้อมลู่จือฉินกับเย่ว์จือกวง กินเนื้อแห้งกับปลาย่าง
ก้นหม้อหินบางมาก ปลาย่างก็เลยสุกไว
เย่ว์จือกวงเอาปลาย่างสองตัวที่สุกแล้วไปวางบนใบไม้ใหญ่ที่ถูกล้างสะอาด ให้ผู้หญิงสองคนกินก่อน
ตะเกียบไม้ไผ่กับใบไม้ใหญ่หามาจากทางน้ำตก
“ตัวนี้ให้พี่รองกิน ฉันกับอาจารย์กินหนึ่งตัวค่ะ”
หม้อหินกว้างพอสมควร ย่างปลาได้ทีละสองตัว
“ได้”
เย่ว์จือกวงกินไปย่างไป
ลู่จือฉินยิ้มพูด “ปลาย่างที่ไม่ผ่านการปรุงรสอะไรก็รสชาติดีเหมือนกันนะ”
มู่เถาเยาพยักหน้า “วัตถุดิบจากธรรมชาติก็ดีแบบนี้ น้ำจากเถาวัลย์พอเอามาต้มยิ่งออกรสหวานนะคะ”
เนื่องจากหม้อหินก้นบาง จึงเติมน้ำจากเถาวัลย์เข้าไปเรื่อยๆ ตอนนี้ปลาที่ย่างเสร็จจึงยังมีรสหวานติดมาด้วย
เย่ว์จือกวง “นั่นสิ เนื้อปลามีรสหวานจากน้ำเถาวัลย์ด้วย ถ้าคืนพรุ่งนี้ยังจำเป็นต้องก่อไฟอีก พี่จะตัดต้นไผ่มาทำเป็นชามกับช้อน พรุ่งนี้เอาน้ำเถาวัลย์มาต้มแกงจืดปลาซดกัน”
“ช่วงสองสามวันนี้ต้องก่อไฟค่ะ พวกเราผลัดกันเฝ้ายาม คนหนึ่งกินดอกจื่อตันฝึกร่างกายให้ยาออกฤทธิ์ คนหนึ่งเฝ้ายาม อีกคนนอน”
ก่อไฟในป่าต้องระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ ป้องกันเกิดอัคคีภัย
ลู่จือฉินไม่แย้งอะไร
เย่ว์จือกวงกลับอยากเฝ้ายามคนเดียวทั้งสามคืน แต่เขาก็อยากกินดอกจื่อตัน อีกทั้งตอนกลางวันยังต้องคอยคุ้มกันให้ผู้หญิงสองคน เพื่อที่พวกเธอจะได้หาสมุนไพรอย่างสบายใจ
เรื่องความปลอดภัยไม่ใช่เรื่องเล็ก
ทำตามที่น้องสาวบอกแล้วกัน
เมื่อกินอิ่มกันแล้วทั้งสามคนก็คุยกันสักพักถึงไปหาที่จัดการธุระส่วนตัวแถวนั้น มู่เถาเยาบอกเย่ว์จือกวงเรื่องที่พึงระวังหลังกินดอกจื่อตันกับวิธีการฝึก
คืนนี้ให้เย่ว์จือกวงกินดอกจื่อตันก่อน มู่เถาเยาเฝ้ายาม ลู่จือฉินนอน
หมาป่าขาวหมอบข้างมู่เถาเยาเฝ้ายามเป็นเพื่อนเธอ
ค่ำคืนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ลู่จือฉินตื่นแต่เช้า ประลองฝีมือกับเย่ว์จือกวง ปรากฏว่าแพ้ราบคาบ
เย่ว์จือกวงอดพูดกับน้องสาวสุดที่รักไม่ได้ “เสี่ยวเยาเยา ดอกจื่อตันมันสุดยอดจริงๆ! ตอนนี้พี่รู้สึกว่ากำลังภายในเต็มเปี่ยมมาก ตัวเบาเหมือนนกนางแอ่น ประสาทสัมผัสทั้งห้าก็ดีกว่าเมื่อก่อนอีก!”
ลู่จือฉินก็ยิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยา วรยุทธ์ของอากวงเหนือกว่าอาจารย์รองของเธอแล้วนะ”
เดิมทีก็ด้อยกว่าแค่กำลังภายใน ตอนนี้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว กอปรกับคนเผ่าหมาป่าพระจันทร์มีข้อได้เปรียบเรื่องความเร็วและพละกำลังมาแต่กำเนิด เย่ว์จือกวงจึงเหนือกว่าคนอื่นแบบก้าวกระโดด
มู่เถาเยาก็ดีใจมาก “พี่รองเรียนรู้ได้เร็วด้วยค่ะ” เหมือนอาไม่มีผิด
พอได้ยินน้องสาวพูดแบบนี้ เย่ว์จือกวงก็เบิกบานใจ
“เสี่ยวเยาเยาจะนอนสักหน่อยไหม”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่เหนื่อย”
ต่อให้ไม่ได้นอนทั้งคืนเธอก็ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้า
ลู่จือฉิน “ตอนนี้ฟ้าเริ่มสว่าง ดวงอาทิตย์จะออกมาแล้ว เสี่ยวเยาเยาจะไปออกกำลังไหม”
มู่เถาเยาพยักหน้า “หนูจะไปฝึกแถวน้ำตก แล้วจะล้างหน้าแปรงฟันด้วยค่ะ”
“ตรงนั้นล้างหน้าแปรงฟันสะดวก อาจารย์ไปด้วย”
“ค่ะ พี่รองคะ น้ำดื่มขวดนั้นใกล้หมดแล้ว พี่รองใช้น้ำที่เหลืออยู่แปรงฟันได้เลย เดี๋ยวพวกเรากลับมาพี่ค่อยไปอาบน้ำล้างหน้าแล้วเอาขวดใส่น้ำกลับมาราดกองไฟให้ดับสนิท”
“ได้ ตามสบายนะ”
มู่เถาเยากับลู่จือฉินหยิบแปรงสีฟันกับผ้าขนหนูของตัวเองแล้วเหาะไปทางน้ำตก
ครึ่งชั่วโมงต่อมาลู่จือฉินที่ล้างหน้าเสร็จก็กลับมาก่อน
เย่ว์จือกวงเก็บกวาดเข่งเรียบร้อย หาที่วางดอกจื่อตัน กินอาหารเช้า
ลู่จือฉินตำยา ใส่ยาให้แม่หมาป่าแล้วป้อนยาลูกหมาป่าเทาทั้งสองตัว
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมงมู่เถาเยาก็กลับมา
เย่ว์จือกวงไปอาบน้ำแล้วถือน้ำกลับมาราดกองไฟ
ผู้หญิงทั้งสองคนก็กินอาหารเช้าเสร็จแล้ว เตรียมออกไปเก็บสมุนไพร
มู่เถาเยาลูบหัวหมาป่าขาวพลางพูดกับมัน “พวกเราจะออกไปนะ บ่ายๆ ถึงจะกลับ นายอยู่บ้านเฝ้าลูกเมียให้ดี ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ให้หมาป่าไปตามพวกเรา พวกเราไปทางนี้”
ชี้ทางด้านซ้ายให้หมาป่าขาวดู
พอพูดคุยเสร็จ สองพี่น้องก็สะพายเข่ง ลู่จือฉินถือกล่องยาใบน้อยออกจากที่พัก
หมาป่าขาวเห็นพวกเขาไม่ได้เอาเต็นท์และของอื่นๆ ไปด้วยก็คิดว่าพวกเขาต้องกลับมาอีกแน่ จึงมองพวกเขาเดินออกไปด้วยท่าทางนิ่งเฉย
วันนี้เป็นวันที่สี่ของการอยู่ในป่าพิษหมาป่า
ยังคงไม่พบสมุนไพรที่ต้องการ แต่หาสมุนไพรที่ต้องใช้ผสมกับดอกจื่อตันและหญ้าอายุยืนครบแล้ว ยังมีสมุนไพรสำหรับแม่หมาป่าและลูกๆ ที่ต้องใช้ช่วงสองสามวันนี้ด้วย
คืนนี้เย่ว์จือกวงเฝ้ายาม ลู่จือฉินกินดอกจื่อตัน มู่เถาเยานอน
วันที่ห้า ขณะใส่ยาให้แม่หมาป่า พวกเขาก็ต้องตะลึงกับความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายของมัน
ดวงตาของมันดูมีชีวิตชีวาแล้ว
วันที่หกเป็นวันเสาร์ มีเวลาแค่ครึ่งวัน ตอนบ่ายมู่เถาเยากับลู่จือฉินก็ต้องกลับแล้ว
เย่ว์จือกวงอยู่ต่อที่นี่ดูแลแม่หมาป่าอีกสองสามวัน รอพวกเธอกลับไปทำยาแล้วเอามาส่งค่อยกลับพร้อมกัน
ผลงานใหญ่สุดของการเข้าป่าครั้งนี้คือได้ช่วยชีวิตแม่หมาป่าและค้นพบดอกจื่อตัน
“พี่รองคะ ฉันกับอาจารย์สามเก็บสมุนไพรสำหรับแม่หมาป่ากับลูกๆ มาพอใช้สามวันแล้ว แบ่งเป็นมัดๆ เรียบร้อย เช้าเย็นใส่ยาให้มันใช้หนึ่งมัด พวกเด็กๆ ก็เหมือนกันค่ะ”
“เข้าใจแล้ว ไม่ต้องห่วงนะ”
เย่ว์จือกวงดูมาสามวันแล้ว ย่อมรู้ว่าต้องทำอย่างไร
“ยาในกล่องยาใช้ทำอะไรบ้างจำได้แล้วใช่ไหมคะ”
ต้องทิ้งกล่องยาใบน้อยไว้ให้เย่ว์จือกวงด้วย เผื่อฉุกเฉิน
กล่องยาที่ว่านี้เป็นของลู่จือฉิน ไม่ใช่ของมู่เถาเยา
“จำได้แล้ว”
“ดีค่ะ ช่วงสองสามวันนี้พี่รองก็อย่าไปไหนคนเดียวยกเว้นตรงน้ำตก อยากไปไหนก็ให้หมาป่าไปด้วย พวกมันใหญ่สุดในป่า รู้ว่าตรงไหนไปได้ ตรงไหนมีอันตราย”
“วางใจเถอะเสี่ยวเยาเยา พี่รองจะเชื่อฟังเธอ ดูแลความปลอดภัยของตัวเอง”
“ค่ะ งั้นฉันกับอาจารย์กลับแล้วนะคะ อีกสองสามวันมาใหม่”
“อืม”
มู่เถาเยากับลู่จือฉินสะพายเข่งที่เต็มไปด้วยสมุนไพรคนละใบแล้วเหาะกลับ
ฝูงหมาป่าที่แน่นขนัดเงยหน้าหอนเป็นเสียงยาว
บรู้ววว