อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 312 กลิ่นอายเจ้าหญิงน้อย
ตอนที่ 312 กลิ่นอายเจ้าหญิงน้อย
วันอาทิตย์ หลังจากฝังเข็มให้ตี้อู๋เปียนเสร็จแล้วก็กินข้าวกลางวันเร็วหน่อย จากนั้นก็ยกขบวนกันไปบ้านตระกูลเป่ย รวมถึงเทาน้อยสองตัวที่ติดมู่เถาเยามาก
บ้านตระกูลเป่ยไม่เหมือนตำหนักพระจันทร์ พวกเขาพักในหมู่เรือนใหญ่เขตทหาร
อาณาเขตของบ้านไม่ใหญ่เท่าตำหนักพระจันทร์
แต่เนื่องจากสมาชิกน้อย ดังนั้นต่อให้บ้านไม่ใหญ่มากก็ดูเงียบเหงาอยู่ดี
นอกจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้วก็มีแค่พ่อครัวกับคนทำความสะอาดอย่างละคน
เมื่อก่อนลูกสาวคนเดียวยังไม่ออกเรือนยังพอไหว เป่ยซีที่มีนิสัยร่าเริงมักทำให้ครอบครัวครึกครื้น
ตอนที่ยังไม่เกิดเรื่องขึ้นกับเย่ว์จืออิ๋ง เกือบทุกสุดสัปดาห์เป่ยซีจะพาสามีกับลูกมาค้างที่บ้านหนึ่งคืน…
คุณตา “เสี่ยวเยาเยา นี่เป็นห้องของแม่หลานเมื่อก่อนนี้ หลายปีมานี้ยังคงสภาพเดิมเอาไว้”
“ค่ะ” มู่เถาเยายิ้มบางพลางพยักหน้า
เดินวนรอบห้อง เธอรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายความรักของพ่อกับแม่
คุณยาย “ห้องข้างๆ เก็บไว้ให้หลาน อยากดูหน่อยไหม”
“ได้ค่ะ”
มู่เถาเยาเดินตามตายายออกจากห้องของแม่แล้วไปเข้าห้องที่อยู่ข้างกัน
กลิ่นอายเจ้าหญิงพุ่งออกมาเลยทีเดียว มีแต่สีชมพูเข้าตา!
“พวกเราเริ่มเตรียมไว้ตั้งแต่แม่ของหลานตั้งท้อง ค่อยๆ ทยอยเอาของเข้ามาเติมทีละนิด หลายปีมานี้ถูกปิดไว้ตลอดจนกระทั่งมีข่าวคราวของหลาน ตากับยายถึงได้ปัดกวาดทำความสะอาดอีกครั้ง”
มู่เถาเยาลูบเตียงทารกสีชมพูหวาน สะอาดไร้ฝุ่น แสดงให้เห็นว่ามีการทำความสะอาดทุกวัน
“ลำบากคุณตาคุณยายแล้วค่ะ”
ไม่ใช่แค่ลำบาก
น่าจะทุกข์ทรมานและเสียใจกันมากด้วยซ้ำ
คุณตาที่กุมอำนาจทหารมาตลอดน้ำตาคลอในเวลานี้ “ทุกอย่างมันคุ้มค่าแล้ว”
คุณยาย “เสี่ยวเยาเยาโตแล้ว ทำห้องใหม่ตามแบบที่หลานชอบได้นะ”
“แบบนี้ดีแล้วค่ะคุณตาคุณยาย”
เธอมาที่เผ่าส่วนใหญ่จะค้างตำหนักพระจันทร์ บ้านตระกูลเป่ยคงสภาพเดิมไว้ดีแล้ว
“ได้ ข้างห้องของหลานเป็นห้องหนังสือ ห้องของพี่ชายหลานสองคนอยู่ชั้นสาม”
“ค่ะ”
มู่เถาเยาทำความรู้จักบ้านตระกูลเป่ยทั้งภายนอกและภายในทีละนิดตามการพาชมของคุณตาคุณยาย จากนั้นก็กลับเข้าห้องรับแขกที่ครึกครื้น
จิบชายามบ่ายเสร็จก็พากันกลับตำหนักพระจันทร์
เย่ว์จือกวง “เสี่ยวเยาเยา มีอะไรที่อยากเอากลับหมู่บ้านเถาหยวนไหม วันสองวันนี้พี่รองจะเตรียมให้”
“เอาผลนมหมาป่ากลับไปหน่อยก็ได้ค่ะ อย่างอื่นไม่เอาอะไร”
“หมู่บ้านเถาหยวนขาดแคลนสมุนไพรอะไรไหม เอาจากในบ้านกลับไปหน่อยไหม”
“ไม่ต้องค่ะ หมู่บ้านเถาหยวนไม่ขาดแคลนสมุนไพร ที่นั่นมีสวนสมุนไพรธรรมชาติที่ใหญ่มากอยู่ค่ะ”
“โอเค เข้าใจแล้ว” เขาดูๆ ให้แล้วกัน
เย่ว์จือเหิง “เสี่ยวเยาเยา เอาหนังสือกลับไปด้วยไหม”
“อันนี้ได้ค่ะ ฉันยังอยากสร้างห้องสมุดที่หมู่บ้านเถาหยวนด้วยค่ะ”
กิจการของหมู่บ้านเถาหยวนนับวันยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ มีห้องสมุดสักแห่งยิ่งดี
เย่ว์จือกวง “เดี๋ยวพี่รองช่วย”
เย่ว์หลั่งเบียดลูกชายทั้งสองคนออก ยิ้มหน้าบานพูดกับลูกสาว “ลูกรัก พ่อช่วยเอง แม่ของลูกอยู่ที่นั่นพอดี ช่วยดูได้ด้วย”
“ค่ะ”
เย่ว์จือกวง “…”
ยังดีที่เขามีช่วยน้องสาวทำหอทดลองกับจัดหาหมอชั้นยอดจากทั่วโลก
เย่ว์จือเหิง “…เสี่ยวเยาเยา ไว้น้องกลับมาครั้งหน้าพี่จะพาไปยิงปืนนะ”
“ค่ะ”
เย่ว์เลี่ยงกับลู่จือฉินมองหน้ากันแล้วยิ้ม
ปู่เย่ว์ย่าเย่ว์ก็ยิ้มตาหยีมองลูกชายกับพวกหลานๆ ที่เข้ากันได้ดี
ตี้อู๋เปียน “ซาลาเปาน้อย ฉันพอช่วยอะไรได้บ้างไหม”
“คุณดูแลสุขภาพให้ดีก็ถือว่าช่วยฉันแล้วค่ะ”
ตี้อู๋เปียน “!”
ยังดีที่เขามีพลังวิเศษ ไม่รีบ!
ลุงหลานเอาผลนมหมาป่าที่ปั่นผสมน้ำจากเถาวัลย์เข้ามาให้
ย่าเย่ว์ดื่มแล้วยิ้มพลางพูด “เสี่ยวเยาเยา นึกไม่ถึงว่าผลนมหมาป่าปั่นผสมน้ำจากเถาวัลย์จะอร่อยไม่แพ้ปั่นผสมนมวัวเลยนะ”
เย่ว์เลี่ยงก็พยักหน้า “นั่นสิ คนละรสชาติกันเลย แบบปั่นกับนมวัวจะหอมนม น้ำข้นกว่า คล้ายเครื่องดื่มผสม แต่แบบที่ปั่นกับน้ำจากเถาวัลย์เหมือนน้ำผลไม้จากธรรมชาติมากกว่า”
บางคนไม่ชอบดื่มน้ำผลไม้ที่เหนียวข้น อย่างเช่นเธอ
จุดนี้เสี่ยวเยาเยาไม่เหมือนเธอ
ลู่จือฉินพยักหน้า “ตอนนั้นเสี่ยวเยาเยาดื่มน้ำจากเถาวัลย์ไปท่อนหนึ่งแล้วกินผลนมหมาป่าตาม จากนั้นก็พบว่าสองอย่างนี้ผสมกันเป็นรสชาติที่ลงตัว พวกเราเลยตัดเอากลับมาให้ทุกคนลองชิมค่ะ”
น้อยครั้งที่พวกเขาจะดื่มน้ำจากเถาวัลย์แล้วตามด้วยผลนมหมาป่าทันที หรือกินผลนมหมาป่าแล้วตามด้วยน้ำจากเถาวัลย์ เพราะเดิมทีผลนมหมาป่าก็ให้น้ำที่เพียงพออยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำเพิ่ม
แต่เสี่ยวเยาเยาชอบกินผลไม้ ดื่มน้ำเสร็จไม่ส่งผลต่อการกินผลไม้ตาม ถึงได้ค้นพบรสชาติที่อร่อยกว่า
มู่เถาเยายิ้มดวงตาโค้งมน “พวกเราเอามันมาต้มซุปปลาด้วยนะคะ หวานสดชื่น อร่อยมากค่ะ”
ลุงหลานยิ้ม “น้ำที่เหลือจากทำเครื่องดื่มผมเอาไปต้มซุปปลาแล้วครับ”
ย่าเย่ว์ “งั้นเดี๋ยวย่าจะกินซุปเยอะๆ”
ปู่เย่ว์ “เถาวัลย์น้ำกักเก็บน้ำได้เยอะจริงๆ”
ลุงหลาน “นั่นสิครับ ทำน้ำปั่นเสร็จยังเหลืออีกกว่าครึ่งหม้อเลยครับ”
หม้อไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็พอกินกันคนละชาม
เย่ว์จือกวง “ถ้าชอบกินกันพรุ่งนี้ผมจะให้คนไปตัดกลับมาหนึ่งคันรถแล้วเอาไปส่งหมู่บ้านเถาหยวนให้แม่กับพวกหมอเทวดาหยวนได้ลองชิมกันครับ”
เถาวัลย์น้ำมีเยอะแยะ
ตัดออกมาแค่นี้ไม่ส่งผลต่อระบบนิเวศ อีกทั้งก็ไม่ได้ตัดทุกวัน แล้วนับประสาอะไรกับที่พวกมันยังงอกออกมาได้อีก
สัตว์ในป่าก็ชอบกินใบกับน้ำของเถาวัลย์
เย่ว์จือเหิง ปาเฝ่ย อวิ๋นไป๋ พ่อบ้านจง พูดขึ้นพร้อมกัน “ไปด้วย”
มู่เถาเยา “…”
ถึงแม้ในป่าเซียนโหยวจะไม่มีเถาวัลย์น้ำแบบนี้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ ก็แค่ลาภปากนิดหน่อยเอง
ปู่เย่ว์ “งั้นพรุ่งนี้พวกนายก็ไปตัดเถาวัลย์น้ำกลับมาหน่อย ตัดใบทิ้งให้พวกสัตว์กิน เอาแค่ปล้องของมัน” อย่างไรเสียน้ำก็ถูกกักเก็บไว้ข้างใน ไม่มีทางเหี่ยว
อันที่จริงเฉิงอันนั่วก็อยากไปด้วย แต่พรุ่งนี้ต้องดูอาจารย์อาเล็กปรุงยา เขาจึงไม่พูดอะไร
มู่เถาเยายิ้มพูด “พรุ่งนี้พวกเราทำยาจื่อตันกันก่อน ตอนเย็นจะได้กินพอดี บำรุงร่างกายทุกคน”
บรู้ววว…
เทาน้อยสองตัวความรู้สึกไวต่อคำว่า ‘กิน’ พอได้ยินก็จะส่งเสียง
มู่เถาเยายิ้มตาโค้งจิ้มหัวของพวกมัน “เดี๋ยวเย็นหน่อยจะเอายาบำรุงให้กินนะ”
บรู้ววว
ปาอิน “เสี่ยวเยาเยา พวกมันดูฉลาดมากเลยนะ” ยื่นมือออกไปอยากอุ้ม
สองแสบไม่กลัวคนแล้ว แต่ก็ไม่ชอบให้ใครมาแตะตัว มันจึงกระโจนเข้าหามู่เถาเยา
ไม่มีใครแตะตัวพวกมันได้เลยยกเว้นคนตระกูลเย่ว์กับลู่จือฉิน
ปาอินเบ้ปาก “ไม่น่ารักเลยสักนิด”
ลู่จือฉินหัวเราะ “ก่อนหน้านี้เสี่ยวเยาเยาอุ้มขาวน้อยมาใส่อกอาจารย์ เจ้าตัวแสบนั่นดิ้นหนักกว่านี้อีก”
ปู่เย่ว์ “หมาป่าไม่ใช่สัตว์ที่สนิทสนมง่าย คล้ายคนบางคน ตอนแรกอย่าไปสนใจ เดี๋ยวนานเข้าก็ใกล้ชิดกันเอง”
ลู่จือฉินพยักหน้า “ใช่ค่ะ ฉันอยู่กับพวกมันหลายวันสุดท้ายก็ได้ลูบ แต่ไม่ยอมให้อุ้ม”
เย่ว์เลี่ยง “นิสัยหมาป่าก็แบบนี้แหละ”
มู่เถาเยาหยอกเทาน้อยสองตัว “พวกมันฉลาดกว่าขาวน้อย” เธอสังเกตเห็นตั้งแต่อยู่ในป่าพิษหมาป่าแล้ว
เย่ว์หลั่ง “ลูกรัก ลูกชอบก็เลี้ยงเลยนะ”
“เลี้ยงพวกมันให้แข็งแรงก่อนค่ะ วันหน้าค่อยดูความต้องการของพวกมัน อยากอยู่ก็อยู่ ไม่อยู่ก็ส่งกลับ”
ต่อให้อยากอยู่กับเธอ เธอก็จะพาพวกมันไปหาพ่อแม่พี่น้องบ่อยๆ อยู่ดี