อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 337 เก่งแต่เด็ก
ตอนที่ 337 เก่งแต่เด็ก
บ่ายวันจันทร์ ถังถังกับเย่ว์จือกวงมาถึงไล่เลี่ยกัน
“เอ๊ะ ประธานเย่ว์ก็มาด้วย!”
พอถังถังเดินเข้าบ้านไปก็เห็นผู้ชายร่างสูงใหญ่สง่ายืนอยู่ข้างน้องคนสนิท
เย่ว์จือกวงทักทายตามมารยาท น้ำเสียงราบเรียบ น้ำเสียงไม่ได้ดูเซอร์ไพรส์แบบถังถัง
เหล่าคนชราพอได้ฟังก็รู้ว่าระหว่างสองคนนี้ไม่มีอะไรในกอไผ่จริงๆ จึงแอบรู้สึกเสียดาย
เด็กสองคนนี้เหมาะสมกันจะตาย!
แต่พวกเขาก็ไม่คิดจะยุ่งเรื่องของเด็กๆ
ถังถังก็ไม่ได้รู้สึกอะไรต่อท่าทีไม่ยินดียินร้ายของเย่ว์จือกวง
เธอมาเพื่อเยี่ยมทุกคน ไม่ได้มาหาแฟนแถวนี้
เมื่อก่อนที่ตามติดเขาก็แค่อยากขอให้เขาพาเข้าเขตป่าชั้นใน ใครจะไปรู้ว่าเข้าใจผิดกันทั้งหมู่บ้าน!
ความชอบที่มีเพียงน้อยนิดถูกฝังกลบในก้นบึ้งหัวใจไปแล้ว เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่เหมาะกับเย่ว์จือกวง
“ย่าคะ เสี่ยวเยาเยา คิดถึงทุกคนจังเลย!” ถังถังคล้องแขนปู่ทวดพลางพูดกับทุกคน
อาจารย์แม่รองยิ้มพูด “ตอนนี้เรียนมหา’ลัยเดียวกับเสี่ยวเยาเยาแล้วนะ ต่อไปสุดสัปดาห์ก็กลับมาด้วยกันได้”
“ได้ค่ะ! หนูยังอยากเรียนกับอาจารย์หลายท่านด้วย!”
ต้องเข้าเขตป่าชั้นในให้ได้ โอกาสที่หาได้ยาก
ถังถังไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่พวกเขาเข้าเขตป่าชั้นในได้เปลี่ยนไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากสำหรับเธอ มู่เถาเยาจึงไม่ได้อธิบายอะไรเป็นพิเศษ
“พี่ถังถัง ฉันเก็บยาจื่อตันไว้ให้พี่ด้วย คืนนี้ค่อยกินนะคะ หลายวันที่เหลือนี้ฉันจะสอนพี่สองสามท่า”
“เสี่ยวเยาเยาดีที่สุดเลย!”
ถังถังมีความสุขสุดๆ
เป้าหมายเดียวของเธอในตอนนี้ก็คือฝึกวรยุทธให้ก้าวหน้า!
ถ้ามีวรยุทธสูง เธอก็จะเข้าออกเขตป่าชั้นในเก็บสมุนไพรพิษกับแมลงพิษได้ตามใจแบบเสี่ยวเยาเยาแล้ว
สาเหตุที่ตอนนี้เธอหยุดงานแล้วย้ายที่เรียนก็เพราะเสี่ยวเยาเยาอยู่มหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตู ยามปกติจะได้เรียนรู้จากเสี่ยวเยาเยาได้ ไม่ใช่เพราะเบื่อวงการบันเทิงแล้ว
“ฉันจะพาพี่ไปบ้านอดีตผู้ใหญ่บ้านค่ะ หลายวันนี้พี่ไปพักที่บ้านนั้นนะคะ”
พี่รองของเธอก็พักที่บ้านอดีตผู้ใหญ่บ้าน
ไม่ใช่ว่าเธอจงใจเปิดโอกาสให้สองคนนี้ แต่เป็นเพราะตอนนี้มีแค่ไป๋เฮ่าอวี๋กับพี่รองของเธอที่ไปขออาศัย ยังเหลือห้องว่างอีกเยอะ
“ได้เลย”
ถังถังปล่อยแขนปู่ทวด เดินไปหามู่เถาเยา
เย่ว์จือกวงเป็นสุภาพบุรุษช่วยถือสัมภาระให้
ทั้งสามคนทักทายทุกคนเสร็จก็ออกไป
ตอนนี้เป็นคาบสุดท้ายของวัน นอกจากพวกคนแก่อย่างปู่เย่ว์ ปู่ตี้ ตาอวิ๋น ที่ปกติไม่ต้องไปสอนวิชาแล้ว ก็ยังมีปู่ทวดถังที่ตั้งใจออกมารอถังถังตรงลานบ้าน คนอื่นๆ ไปเรียนที่สนามกีฬาของโรงเรียนกันหมด
เดินไปก็แค่สิบกว่านาที ไม่นานทั้งสามคนก็ถึงบ้านของอดีตผู้ใหญ่บ้าน
พวกเขาได้ยินเสียงหัวเราะของคนข้างในตั้งแต่ยังไม่เข้าไป
ตี้อู๋เปียน ไป๋เฮ่าอวี๋ มู่หว่าน กำลังนั่งคุยเป็นเพื่อนสองผู้อาวุโส
มู่จิ้งไม่อยู่บ้าน ไปโรงงานแล้ว
“เสี่ยวเยาเยา” มู่หว่านหันหน้าทางประตูพอดี พอทั้งสามคนเข้ามาเธอก็เห็นทันที
อดีตผู้ใหญ่บ้านกับคนอื่นๆ พอได้ยินเธอเรียกก็ลุกไปมองทางประตู
“เสี่ยวเยาเยา อากวง เอ๊ะ เสี่ยวถังถังก็มาหมู่บ้านเถาหยวนซานด้วยเหรอ”
“ปู่ผู้ใหญ่บ้าน ย่าหลี่ หนูมารบกวนทุกคนอีกแล้วค่ะ”
ถังถังหน้าตาดี เสียงหวาน นิสัยดี อารมณ์ดี ไม่มีใครไม่ชอบเธอยกเว้นบางคนในวงการบันเทิงที่จ้องจะอิจฉาเธอ คนหมู่บ้านเถาหยวนซานชอบเธอกันหมด
ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นเหลนสาวของปู่ทวดถังที่อายุยืนที่สุดในหมู่บ้าน (อืม มาอยู่ที่นี่ก็ถือเป็นชาวหมู่บ้านแล้ว)
ย่าหลี่ยิ้มกว้าง “ถังถังไม่ได้มานานแล้ว ครั้งนี้อยู่ได้นานเท่าไรเหรอจ๊ะ”
“ย่าหลี่ ตอนนี้หนูหยุดทำงานแล้วค่ะ รอมหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตูเปิดหนูก็จะไปเรียนค่ะ”
“อ้าว เรียนที่เดียวกับเสี่ยวเยาเยาของพวกเราเลย”
ถังถังยิ้มจนดวงตาดอกท้อโค้งมน “ใช่ค่ะ ต่อไปเสี่ยวเยาเยากลับมาหนูก็ตามกลับมาด้วย”
“ดีจ้ะ ปู่ทวดของหนูคงดีใจมาก”
“ใช่ค่ะ”
“รีบเข้าบ้านก่อน อากวง ช่วยถังถังเอาสัมภาระไปวางไว้ชั้นสองนะ” ข้างห้องลูกสาวคนเล็กของเธอมีห้องพักแขกหนึ่งห้อง
ห้องพักแขกชั้นสามมีผู้ชายสองคนพัก ถังถังเป็นผู้หญิงพักชั้นสองกับเจ้าของบ้านดีกว่า
มู่หว่านยิ้มพูด “ฉันพาพี่เย่ว์ขึ้นไปเองค่ะ”
“ได้ ขอบใจนะ”
ไป๋เฮ่าอวี๋อยากช่วยถือสัมภาระ แต่ถูกเย่ว์จือกวงปฏิเสธ บอกว่าเขาคนเดียวไหว
“เสี่ยวเยาเยา เสี่ยวถังถัง มากินแตงโมกัน” อดีตผู้ใหญ่บ้านยิ้มกว้างเลื่อนจานผลไม้ไปตรงหน้าเด็กสาวทั้งสอง
มู่เถาเยากับถังถังหยิบแตงโมชิ้นเล็กขึ้นมากิน
“เนื้อดีหวานมาก! อร่อยสุดๆ !” ถังถังยิ้มพูดอย่างมีความสุข
ย่าหลี่ยิ้ม “นี่เป็นแตงโมที่หมู่บ้านเราปลูกเอง เดี๋ยวนี้ความเป็นอยู่ดี ไม่ว่าจะฤดูไหนทุกบ้านก็มีผลไม้ไม่เคยขาด ไม่เหมือนเมื่อก่อน ตัดใจซื้อผลไม้ไหวที่ไหนกัน อย่างมากก็แค่มะเขือเทศ แตงกวา ของที่กินดิบได้พวกนี้เอามากินแทนผลไม้ หรือไม่ก็ไปตรงเขตป่าชั้นนอกของป่าเซียนโหยวหาผลไม้ป่ากิน”
เดิมทีในหมู่บ้านมีลูกท้อ แต่อย่างไรเสียก็กินได้แค่ในฤดูของมัน กินหมดก็ต้องรอปีหน้า
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ตัดใจกินไม่ลง เพราะสภาพอากาศกับดินดี ลูกท้อที่เก็บได้ทั้งใหญ่ทั้งแดงทั้งหวาน สวยและอร่อย เอาออกไปขายได้แพงกว่าในซูเปอร์มาร์เก็ต
ถังถังยิ้มถาม “ย่าหลี่คะ เมื่อก่อนหมู่บ้านนี้ยากจนมากเหรอคะ”
“ใช่จ้ะ ยากจนแบบที่ได้แค่ประทังชีวิต พวกเราเลยแทบไม่ได้เรียนหนังสือ ย่ามีลูกหลายคนก็มีแค่มู่จิ้งลูกสาวคนเล็กที่ได้ออกไปเรียน มาถึงรุ่นเสี่ยวหว่านชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีขึ้นมาแล้ว”
ไป๋เฮ่าอวี๋ยิ้มพูด “หมู่บ้านเถาหยวนซานพัฒนาไปไวมากเลยครับ! ดูตอนนี้สิ นึกภาพไม่ออกเลยว่าเมื่อสิบกว่าปีก่อนได้แค่ประทังชีวิต นี่เพิ่งจะไม่กี่ปีเองนะครับ!”
“นับตั้งแต่พวกเสี่ยวเยาเยาย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านนี้ ที่นี่ก็เริ่มเปลี่ยนไป ทุนทั้งหมดในตอนแรกสุดมาจากพวกเสี่ยวเยาเยา แม้แต่ถนนพวกนี้ก็เสี่ยวเยาเยาสร้าง…เปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมเลยล่ะ เร็วจนรุ่นคนแก่อย่างพวกเราตามไม่ทัน”
อดีตผู้ใหญ่บ้านกับภรรยามองมู่เถาเยา ความเอ็นดูในดวงตาแทบจะเอ่อล้นออกมา
มู่หว่านที่ลงมาจากชั้นบนยิ้มพูด “จำได้ว่าตอนเด็กๆ ที่หมู่บ้านเริ่มพัฒนา เสี่ยวเยาเยาพาเด็กๆ อย่างพวกเราที่อายุไม่เท่ากันไปปลูกต้นไม้ผลไม้ หาของดีบนเขา เก็บสมุนไพร…”
พอนึกถึงอดีตก็มีแต่ความสุข
ดวงตาของย่าหลี่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ตอนเสี่ยวหว่านเด็กๆ ขี้แงมาก พอร้องไห้ย่าก็จะอุ้มไปให้เสี่ยวเยาเยาช่วยปลอบ ปรากฏว่าไม่ต้องปลอบ พอเห็นเสี่ยวเยาเยาก็ยิ้มออกเฉย อีกทั้งทุกครั้งยังชอบกางแขนออกให้เสี่ยวเยาเยาอุ้ม แต่เสี่ยวเยาเยาก็ตัวเล็กเหมือนกัน อุ้มไหวที่ไหน…”
“คำแรกที่เสี่ยวหว่านพูดคือน้อง ส่วนคำว่า พ่อ แม่ เสี่ยวเยาเยาเป็นคนสอนให้ทั้งนั้น…” อดีตผู้ใหญ่บ้านยิ้มตาหยี
“ใช่ๆ นับตั้งแต่เสี่ยวหว่านเดินได้ เท้าเล็กๆ ก็เอาแต่จะเดินไปหาเสี่ยวเยาเยา…”
ย่าหลี่พูดถึงเรื่องสนุกกับเรื่องหน้าอายของสองสาวขึ้นมาก็ยังขำเอง
คนอื่นๆ ก็หัวเราะตาม
เย่ว์จือกวงก็อดไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันก็ภูมิใจ
น้องสาวของเขาเก่งแต่เด็ก!
มู่หว่านรู้สึกอายเล็กน้อย
เห็นๆ อยู่ว่าเธอโตกว่าเสี่ยวเยาเยาหนึ่งเดือน แต่พอเทียบกับเสี่ยวเยาเยา เธอดูไร้เดียงสามากจริงๆ
—————————–