อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 379 ผลจากการฝึก
ตอนที่ 379 ผลจากการฝึก
หลังจากหมดวันหยุดยาวแต่ละมหาวิทยาลัยก็เริ่มสอบ
มู่เถาเยาต้องสอบหลายวิชา แม้จะเริ่มก่อนคนอื่น แต่กว่าจะสอบเสร็จก็หลังวันที่สิบ
วันที่สิบเอ็ดมกราคม หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จมู่เถาเยาก็ไปดูศิษย์พี่ห้าชิงหลินที่โรงพยาบาลพร้อมเหลียงจี ปาอิน ถังถัง ตี้อู่หลันฉือ
นับตั้งแต่เกิดความคิดอยากได้ลู่จือฉินเป็นแม่เลี้ยง ตี้อู่หลันฉือก็ทำตัวติดมู่เถาเยาหนึบประหนึ่งเป็นเงาตามตัว
ทุกคนเพิ่งไปถึงโรงพยาบาลได้ไม่นานชิงหลินก็คลอดเด็กทารกผู้ชายน้ำหนักสามกิโลกรัมแปดขีด
ปลอดภัยทั้งแม่และลูก
เยี่ยหนานเฉินพี่เขยห้าดีใจเหมือนคนบ้า พอเยี่ยมสองแม่ลูกเสร็จก็ไล่โทรบอกคนอื่นๆ ตั้งแต่เช้ายันเย็น
โทรหาทุกคนที่มีเบอร์
ผ่าคลอดอย่างน้อยต้องรอหนึ่งสัปดาห์ถึงจะออกจากโรงพยาบาลได้ แต่ศิษย์พี่หญิงห้ากลับเร่งให้มู่เถาเยากลับหมู่บ้านเถาหยวนหลังคลอดได้สามวัน
เธอยังจำได้ว่าศิษย์น้องยังมีเรื่องใหญ่อย่างเข้าเขตป่าชั้นในรออยู่
“งั้นพวกเราจะกลับตอนบ่าย พรุ่งนี้จะส่งอาจารย์ใหญ่มาเยี่ยมศิษย์พี่นะคะ”
“อย่าเลย อาจารย์อายุเยอะแล้ว โรงพยาบาลเชื้อโรคเยอะอย่ามาเลยดีกว่า รอพวกเธอเข้าเขตป่าชั้นใน พี่ออกจากโรงพยาบาลกลับไปอยู่บ้านแล้วค่อยให้อาจารย์มาแล้วกัน”
“ก็ได้ค่ะ ไว้ถึงตอนนั้นให้อาจารย์พักกับศิษย์พี่ระยะหนึ่ง พอพวกเราออกจากป่าก่อนตรุษจีนค่อยกลับไป” เกรงว่าพอถึงตอนนั้นจะมีคนบาดเจ็บด้วย
มีหมอเทวดาที่ชื่อเสียงโด่งดังอยู่ด้วยคนเจ็บก็วางใจ
“อืม เดี๋ยวพวกเธอกลับไปเถอะ วางใจได้ พี่เขยห้าดูแลพี่กับเยี่ยจั๋วได้ดีแน่นอน”
“ค่ะ”
มู่เถาเยาดูเยี่ยจั๋วน้อยที่เพิ่งเกิดก็ขาวอวบ จากนั้นก็บอกลาคนครอบครัวชิงกับครอบครัวเยี่ย
กินอาหารกลางวันเสร็จก็กลับหมู่บ้านเถาหยวนพร้อมเหลียงจี ปาอิน ถังถัง และตี้อู่หลันฉือ
เลือกคนจากกลุ่มฝึกพิเศษออกมาสิบห้าคนเพื่อเตรียมเข้าเขตป่าชั้นใน รวมกับมู่เถาเยา ลู่จือฉิน เย่ว์จือกวง ถังถัง ตี้อู่หลันฉือกับพ่อ ทั้งหมดเป็นยี่สิบเอ็ดคน
ตี้อู๋เปียนก็อยากตามไปด้วย แต่เขารู้ว่ามู่เถาเยาแบกรับภาระไว้มาก แบ่งสมาธิมาดูแลเขาไม่ได้ เขาจึงไม่เอ่ยปากขอ แม้เขาจะ ‘ดวงดี’ ช่วยเลี่ยงอันตรายได้มากก็ตาม
แต่ว่ากลุ่มฝึกพิเศษเรียนมานานขนาดนี้ก็ต้องให้พวกเขาได้เผชิญกับอันตรายจากธรรมชาติบ้าง ทดสอบผลจากการฝึกพิเศษหน่อย
มู่เถาเยาใช้เวลาสองวันในการอบรมกฎต่างๆ ให้กลุ่มฝึกพิเศษ
เรื่องที่เกี่ยวพันถึงชีวิตของตัวเองแบบนี้ไม่มีใครไม่ใส่ใจ
“ตอนนี้ยังไม่ออกเดินทาง ใครกลัวจะถอนตัวก็ยังทัน พอเข้าป่าเซียนโหยวแล้วห้ามเปลี่ยนใจ”
บรรยากาศเงียบขึ้นมาทันตา แต่ไม่มีใครถอนตัว
ดวงตาของมู่เถาเยามีรอยยิ้ม “ในเมื่อไม่มีใครต้องการถอนตัว ถ้าอย่างนั้นจะให้ทุกคนดูภาพของดอกไม้สองชีวิต หญ้าพิษชีวิต และดอกพันวัน”
ถ้าใครหาเจอก็จะได้รับรางวัลอย่างงาม
อันที่จริงสมาชิกในกลุ่มจดจำหน้าตาของสมุนไพรต่างๆ ได้มากมายตั้งแต่ตอนเรียนปกติอยู่แล้ว
“พอถึงเดือนกรกฎาสิงหา ทุกท่านที่เข้าเขตป่าชั้นในจะได้รับส่วนแบ่งยาจื่อตันที่สามารถเพิ่มกำลังภายในได้อย่างน้อยหนึ่งเท่า ดังนั้นต้องรักษาชีวิตของตัวเองให้ดี ไปอย่างไรก็กลับอย่างนั้น อย่าแขนหายหรือขาขาด…ถ้าพบเจอสัตว์หรือพืชที่ไม่รู้จักก็อย่าแตะต้องส่งเดช…อย่าออกจากกลุ่ม…”
เมื่ออบรมได้พอประมาณแล้วมู่เถาเยาก็สั่งแยกย้าย ให้พวกเขากลับไปสำรวจข้าวของของตัวเอง
เตรียมข้าวของต่างๆ เช่น เต็นท์ ถุงนอน ขนมปังกรอบ แจกจ่ายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
ให้พวกเขาตรวจเช็กอีกรอบก่อนออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ เพื่อป้องกันการตกหล่น
เช้าตรู่วันต่อมา รวมตัวหลังกินอาหารเช้าเสร็จ
ยืนเรียงสามแถวแถวละเจ็ดคน
มู่เถาเยาเป็นหัวหน้ากลุ่มย่อยที่หนึ่ง สมาชิกมีสองคนจากกลุ่มเยาวชนอัจฉริยะที่ความสามารถโดดเด่นที่สุด และสี่คนที่ตระกูลเย่ว์ส่งมา
ลู่จือฉินเป็นหัวหน้ากลุ่มย่อยที่สอง มีสมาชิกเป็นสองพ่อลูกตระกูลตี้อู่ และสี่คนจากสำนักสารพัดสารพัน
เย่ว์จือกวงเป็นหัวหน้ากลุ่มย่อยที่สาม มีสมาชิกคือ ถังถัง ถังหง ถังเซิ่ง และยังมีศิษย์หลานจากตระกูลซย่าโหวหนึ่งคน ซังเฟย เยี่ยเซียว สองยอดทหารจากกองทัพ
จากประสบการณ์ วิทยายุทธ์ และความรู้ด้านพิษ กลุ่มสองจะเป็นผู้นำ กลุ่มหนึ่งและสามขนาบข้าง เข้าเขตป่าชั้นในโดยใช้รูปแบบการเดินเป็นรูปร่ม
เนื่องจากเป็นคณะใหญ่ที่มีทั้งชายและหญิง พวกผู้หญิงอย่างมู่เถาเยาจึงกินยาควบคุมประจำเดือนไว้ก่อนล่วงหน้า มิฉะนั้นอยู่เขตป่าชั้นในจะเปลี่ยนผ้าอนามัยกับทำความสะอาดร่างกายไม่สะดวก
ทั้งยี่สิบเอ็ดคนอยู่เขตป่าชั้นในเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มตั้งแต่วันที่สิบหกมกราคมจนถึงวันที่สิบห้ากุมภาพันธ์
เมื่อออกมาอีกครั้งสภาพแต่ละคนสกปรกมอมแมมเหมือนขอทาน เนื้อตัวมีแต่กลิ่นเหม็น แต่สภาพจิตใจกลับสดชื่นเป็นพิเศษ ใช้คำว่าพลังเปี่ยมล้นมาบรรยายก็ดูจะไม่เกินไป รวมถึงถังหงที่ต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัว คนของสำนักสารพัดสารพันคนหนึ่งที่แขนบาดเจ็บ และคนของตระกูลเย่ว์อีกหนึ่งคนที่ถูกพิษได้รับการถอนพิษแล้วแต่ยังดูอิดโรย
คนส่วนใหญ่มีบาดแผลมากน้อยแตกต่างกันไป แต่เมื่อเทียบกับความสามารถที่พัฒนาขึ้นและสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งขึ้น บาดแผลพวกนั้นก็ไม่ควรค่าให้พูดถึง
หลังจากทุกคนวางสิ่งของติดตัวที่ห้องปรุงยาด้านข้างเสร็จ มู่เถาเยา ลู่จือฉิน หยวนเหยี่ย เฉิงหราน และเว่ยฉางหย่วนก็ช่วยกันตรวจร่างกายสมาชิกที่เข้าป่า เพื่อให้แน่ใจว่าสภาพร่างกายปลอดภัยดี
พอตรวจร่างกายเสร็จ ตี้อู๋เปียน เฉิงซิ่น และลุงผู้ใหญ่บ้านได้จัดคนไปส่งพวกเขาพักผ่อนตามบ้านเดิมที่เคยพัก อาบน้ำใส่ยา นอนพักให้เต็มอิ่ม พรุ่งนี้เที่ยงมากินข้าวรวมกันที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน
มู่เถาเยากลับห้องอาบน้ำแล้วลงมา ตี้อู๋เปียนเอาชาร้อนกับขนมไปเสิร์ฟทันที
“ซาลาเปาน้อย ลำบากพวกเธอแย่”
จุดประสงค์ในการเข้าเขตป่าชั้นในครั้งนี้คือ หนึ่ง ทดสอบฝีมือของกลุ่มฝึกพิเศษ สองค้นหาดอกไม้สองชีวิตกับหญ้าพิษชีวิต รวมถึงดอกพันวัน ถึงแม้จะบรรลุเป้าหมายเพียงข้อเดียว แต่สิ่งที่ได้รับกลับไม่สิ้นสุด
มู่เถาเยาจิบชาร้อนแล้วพูด “ฉัน อาจารย์สาม พี่รองโอเคดี แต่พวกเขาคงเหนื่อยน่าดู”
“พวกเธอต้องดูแลความปลอดภัยของคนตั้งเยอะ คงเครียดไม่น้อย เหนื่อยกว่าพวกเขา”
คนตระกูลตี้กับตระกูลเย่ว์ต่างพยักหน้า
ดวงตาลูกกวางน้อยของมู่เถาเยาโค้งมน หันไปพูดกับหยวนเหยี่ย ซย่าโหวโซ่วและปู่ทวดถัง “อาจารย์ทั้งสามท่านก็เหนื่อยมาตั้งครึ่งปีกว่า”
หยวนเหยี่ยยิ้มพูด “เด็กพวกนี้ขยันกันทุกคน พวกเรามีความสุขกันจะตาย”
ซย่าโหวโซ่วกับปู่ทวดถังยิ้มพลางพยักหน้า
มู่เถาเยาก็ยิ้มตามอยู่สักพักแล้วถามตี้อู๋เปียน “ทำไมยังเหลือคนอีกตั้งเยอะไม่กลับบ้านล่ะ”
“พวกเขาบอกว่ารอพวกเธอออกมาแล้วกลับพร้อมกัน เป็นห่วงความปลอดภัยของทุกคน”
“ใกล้ตรุษจีนแล้ว พรุ่งนี้ให้พวกเขาพักหนึ่งวัน พวกเราเตรียมของฝากไว้หน่อย วันมะรืนส่งพวกเขากลับบ้าน สมุนไพรที่เก็บได้จากเขตป่าชั้นในก็แบ่งให้พวกเขาเอากลับไปด้วย”
“อืม”
“รอเดือนกรกฎาสิงหาฉันทำยาจื่อตัน คุณก็บอกให้คนของพวกคุณมา ฉัน หรือไม่ก็อาจารย์รองจะสอนพวกเขาฝึกให้ยาออกฤทธิ์”
“ได้”
“คุณกับปู่ตี้ย่าตี้ คุณตาคุณยาย จะกลับไปฉลองตรุษจีนเมื่อไรเหรอ”
“น่าจะวันมะเรื่อง รอส่งพวกเขากลับให้หมดก่อน”
มู่เถาเยาพยักหน้า จากนั้นก็มองเฉินหรานกับภรรยา เว่ยฉางหย่วนกับภรรยา ยิ้มพูด “ศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่หกทำไมมาที่นี่ด้วยล่ะคะ”
ศิษย์พี่ใหญ่ยิ้มตอบ “หลังจากพวกเธอเข้าเขตป่าชั้นใน เหลียงจีก็ไปส่งอาจารย์เยี่ยมศิษย์น้องห้าที่เมืองเย่ว์ตู รู้ว่าพวกเธอออกมาวันนี้พวกเราก็เลยรวมตัวกันตามอาจารย์กลับมาด้วย”
“อ่อ ศิษย์พี่หญิงห้ากับเยี่ยจั๋วสบายดีไหมคะ”
หลี่อวี้เสวี่ยยิ้มพูด “พวกเขาสบายดีจ้ะ ศิษย์พี่หญิงห้าของเธออยากเลิกอยู่ไฟก่อนครบวัน แต่พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายคอยจับตาดูอยู่ ไม่อย่างนั้นคงอุ้มเยี่ยจั๋วหนีไปแล้ว”
กู่ย่ายิ้มมุมปาก พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เสี่ยวเยาเยา เยี่ยจั๋วโตขึ้นทุกวัน ยิ่งโตยิ่งน่ารักน่าเอ็นดู!”
เจ้าถุงลมน้อยกอดขามู่เถาเยา ปากก็พูดเจื้อยแจ้ว “พี่สาว น้องสาวอันเหยี่ยก็ต้องน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนกัน! รอน้องโตอีกหน่อย ไม่ต้องอยู่ในท้องแม่แล้ว อันเหยี่ยจะอุ้มมาให้พี่สาวดู…”
พูดเจื้อยแจ้วดวงตาเปล่งประกาย