อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 429 เปิดทางสะดวก
ตอนที่ 429 เปิดทางสะดวก
วันที่หนึ่งกันยายน เปิดเทอมวันแรก
กู้หานมาที่วังตระกูลตี้แต่เช้า ไปรับมู่เถาเยากับเหลียงจีที่คอนโดจยาเหอพร้อมเย่ว์หลั่งกับเป่ยซีเพื่อไปมหาวิทยาลัย
เหลียงจีตามไปดูเส้นทาง ต่อไปจะได้ไปรับส่งมู่เถาเยา
มหาวิทยาลัยวิศวกรรมสารสนเทศเหยียนหวงอนุญาตให้นักศึกษาขับรถเข้ามหาวิทยาลัยได้
ถึงแม้วันนี้เพิ่งเปิดเทอม แต่มู่เถาเยาลงทะเบียนรายงานตัวออนไลน์ไปก่อนแล้ว ตอนนี้แค่ขาดเอาหลักฐานเอกสารต่างๆ ไปยื่นและชำระเงิน
กู้หานบอกให้คนขับรถของตระกูลตี้พาไปส่งที่จุดรายงานตัว
เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จ มู่เถาเยาก็ถูกขอให้อยู่รอศาสตราจารย์โจวอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอ
ครั้นแล้วเย่ว์หลั่งกับเป่ยซีจึงให้คนขับรถพากู้หานไปจัดการเรื่องของตัวเองก่อน เสร็จแล้วค่อยติดต่อกัน
กู้หานนอนหอพักมหาวิทยาลัย มีเรื่องต้องจัดการเยอะกว่ามู่เถาเยา จึงออกไปพร้อมคนขับรถกับเหลียงจีก่อน
เหลียงจีไปคอยช่วยกู้หาน
สามคนพ่อแม่ลูกถูกอาจารย์ที่จุดรายงานตัวพาไปนั่งดื่มชารอในห้องรับแขก
เดิมทีพวกเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดท่านนั้นถึงโทรมาบอกให้พวกเขารั้งเด็กคนนี้ไว้ก่อน ตอนนี้พอเห็นอายุของนักศึกษา แถมยังจบดอกเตอร์จากมหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตูที่โด่งดังระดับโลก พวกเขาจึงเข้าใจทันที
คนมีความสามารถแบบนี้อาจารย์คนไหนจะไม่อยากรับเป็นลูกศิษย์บ้าง
ไม่แปลกที่จะตื่นเต้น
ทั้งสามคนรออยู่ประมาณสิบนาที จากนั้นก็มีศาสตราจารย์ร่างสูงใหญ่วัยห้าสิบกว่าวิ่งเข้ามาด้วยความรีบร้อน “ไหนล่ะ อยู่ไหนเหรอ”
“ศาสตราจารย์โจวใจเย็นๆ ครับ นักศึกษามู่เถาเยากับผู้ปกครองรออยู่ด้านในครับ”
“รีบพาผมเข้าไปเร็ว” เขาร้อนใจ! จะไม่ให้รีบได้เหรอ!
ทั้งสองคนเข้าไปในห้องรับแขก อาจารย์คนที่พามาทำการแนะนำ “…พ่อมู่แม่มู่ครับ นักศึกษามู่เถาเยา ท่านนี้คือศาสตราจารย์โจวที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาครับ”
ผู้ปกครองสองท่านนี้ดูอ่อนเยาว์มาก เหมือนพี่ชายกับพี่สาวมากกว่า เหมือนพ่อแม่ที่ไหนกัน จึงลังเลเล็กน้อยตอนแนะนำ
สามคนพ่อแม่ลูกยิ้มพลางพยักหน้าพร้อมกัน “ศาสตราจารย์โจว”
ส่วนที่อาจารย์ท่านนั้นเรียกพ่อมู่แม่มู่ ก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้ชัดเจน
“ฮ่าๆ สวัสดีครับ! นักศึกษามู่เถาเยา ที่อาจารย์ให้อยู่ก่อนเพราะอยากคุยด้วยหน่อย ไปนั่งที่ห้องทำงานหรือร้านกาแฟหน่อยดีไหม”
มู่เถาเยาพยักหน้า “หนูก็อยากคุยกับศาสตราจารย์โจวอยู่พอดีค่ะ งั้นไปห้องทำงานกันดีกว่าค่ะ”
“ได้เลย พวกเราไปห้องทำงานของท่านอธิการกัน ท่านอธิการก็อยากเจอเธอก่อน”
ศาสตราจารย์โจวเดินนำออกไปด้วยความดีใจ ขับรถพาทั้งสามคนไปห้องทำงานของอธิการบดี
เคาะประตู เมื่อได้รับอนุญาตจึงเปิดประตูเข้าไป
“อธิการฟาง พวกเรามาแล้วครับ”
อธิการบดีฟางที่อยู่หลังโต๊ะทำงานยืนขึ้นพูด “มาแล้วเหรอ เชิญนั่งครับ”
“อธิการฟาง” สามคนพ่อแม่ลูกเรียกเป็นเสียงเดียวกัน
อธิการบดีฟางที่สวมแว่นทรงกลมกรอบทองเดินออกมาจากโต๊ะทำงาน รินน้ำชาให้ทุกคนด้วยตัวเอง จากนั้นก็นั่งโซฟาฝั่งตรงข้ามศาสตราจารย์โจว
“นักศึกษามู่เถาเยา เห็นอธิการบดีเจียงบอกว่าเธอใช้เวลาสองปีครึ่งเรียนปริญญาตรี โท เอกจนจบหมด”
อธิการบดีเจียงเคยผ่าตัดให้ญาติของบ้านอาเขา ถึงแม้จะไม่ถือว่าเขากับอธิการบดีเจียงสนิทกัน แต่ก็ไม่ใช่คนแปลกหน้า
ต่อให้ไม่มีเรื่องนี้มาก่อน เป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยชื่อดังเหมือนกัน พวกเขาก็ต้องรู้จักกันอยู่แล้ว
“ค่ะ ถ้าเป็นไปได้หนูก็อยากเก็บหน่วยกิตของการแพทย์เอไอให้หมด อีกหนึ่งปีหนูจะค่อนข้างยุ่ง เพราะต้องตระเวนไปตามป่าต่างๆ เพื่อหาสมุนไพรให้คนไข้ค่ะ”
อธิการบดีฟางยิ้มพลางพยักหน้า “นับตั้งแต่เธอตัดสินใจมาเรียนที่มหาวิทยาลัยของเรา อธิการบดีเจียงก็ต่อสายตรงมาคุยกับผมแล้ว บอกว่าให้ยืดหยุ่นเรื่องกฎระเบียบหน่อย…ได้ยินมาว่าเธอยังต้องเป็นตัวแทนประเทศลงแข่งขันงานกีฬาระดับนานาชาติด้วยใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
“ทำไมถึงนึกอยากลงแข่งกีฬาล่ะ เธอเรียนเป็นหมอ แถมยังเป็นลูกศิษย์ของหมอเทวดาหยวน ทำไมถึงไม่ไปทำเรื่องที่มันเกี่ยวข้องกัน”
ไม่ใช่การเค้นถาม ก็แค่รู้สึกเสียดาย นี่เป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นดีของวงการแพทย์เชียวนะ!
เกิด ‘เดินทางผิด’ ขึ้นมา วงการแพทย์ก็จะขาดบุคลากรไปหนึ่งคน
“แค่ปีเดียวเองค่ะ ไม่ส่งผลกระทบอะไร”
ถ้าเทียบกับอายุขัยของคนเรา ปีเดียวก็ไม่เท่าไร แล้วนับประสาอะไรกับที่ยังคิดค้นเพื่อให้อายุยืนยาวด้วย
อธิการบดีฟาง “ขอแค่ไม่ไปเป็นนักกีฬาอาชีพก็พอ คนวัยเท่านี้จะมีความคิดมากมายก็เรื่องปกติ ขอแค่สุดท้ายยังกลับมาทำงานด้านการแพทย์เป็นพอ ไม่อย่างนั้นคงเสียดายแย่”
ไม่ใช่ว่าเป็นนักกีฬามันไม่ดี แต่การทำงานด้านการแพทย์ช่วยสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้มากกว่า
ทหารป้องกันประเทศ หมอช่วยชีวิตคน อาจารย์สั่งสอนให้มีความรู้ เขาคิดว่านี่เป็นสามอาชีพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว
มู่เถาเยายกคำพูดที่เมื่อก่อนเคยพูดกับศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตูมาพูดให้อธิการบดีฟางและศาสตราจารย์โจวฟัง
เธอไม่ได้เลือกเรียนเพราะไปฟังใครพูดมา แต่เป็นเพราะตัวเองชอบ
เอาชนะโจทย์ยากทางการแพทย์คือเป้าหมายของเธอ
ทั้งสองคนพยักหน้าด้วยความพอใจ
อธิการบดีฟางพูดอย่างอารมณ์ดี “เธอเป็นคนเก่ง ไม่ควรเอากฎระเบียบไปผูกมัดอิสระในการพัฒนาตัวเองของเธอ อธิการบดีเจียงถึงได้อยากให้ช่วยอำนวยความสะดวก พวกเราก็ทำให้ได้ ขอแค่เก็บหน่วยกิตให้ครบ พวกเราก็จะอนุญาตให้เธอเรียนจบดอกเตอร์ได้ ต่อไปถ้ามีธุระก็ลาหยุดกับศาสตราจารย์โจวได้ พวกเราจะจัดการให้นะ”
“ขอบคุณค่ะท่านอธิการ ศาสตราจารย์โจว”
อธิการบดีฟางยิ้มกว้าง หันไปมองเย่ว์หลั่งกับเป่ยซีด้วยความอิจฉาเหลือเกิน “พวกคุณเลี้ยงลูกมาดีมากนะครับ” อัจฉริยะแบบนี้หายากเหลือเกิน!
สองสามีภรรยายิ้มพูดพร้อมกัน “ขอบคุณครับ/ค่ะ”
อธิการบดีฟางพยักหน้า มองฝั่งตรงข้าม “ศาสตราจารย์โจว คุณต้องดูแลนักศึกษามู่เถาเยาให้ดีๆ นะ”
“ท่านอธิการวางใจได้ครับ ผมจะเอาใจใส่ยิ่งกว่าลูกชายแท้ๆ อีกครับ!”
มู่เถาเยา “…”
อธิการบดีฟางหัวเราะเสียงดัง “ลูกชายของคุณก็เป็นอัจฉริยะ อายุยังน้อยกลับพาหัวหน้าและคณะวิจัยหุ่นยนต์รุ่นใหม่ออกมาได้”
“โจวซือหย่วนยังห่างชั้นกับนักศึกษามู่เถาเยาอีกไกลเลยครับ”
มู่เถาเยา “…” ยังไม่ได้เริ่มเรียนเลยนะ! ทำไมศาสตราจารย์ถึงยกเธอไว้บนหิ้งแล้วล่ะ
เย่ว์หลั่งกับเป่ยซีก็ไม่คัดค้าน และไม่พูดถ่อมตัวใดๆ
ในสายตาของพวกเขา ลูกสาวสุดที่รักดีเลิศที่สุด ไม่มีใครเทียบได้!
อธิการบดีฟาง “เอาล่ะ พวกเราจะทิ้งเบอร์ไว้ให้ มีอะไรก็โทรมานะครับ”
สามคนพ่อแม่ลูกบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของอธิการบดีฟางกับศาสตราจารย์โจวเอาไว้
ศาสตราจารย์โจวมีสีหน้าชื่นบาน “เดี๋ยวผมพาพวกคุณไปเดินชมมหาวิทยาลัยดีไหมครับ”
เย่ว์หลั่งยิ้มพูด “ไม่เป็นไรครับศาสตราจารย์โจว พวกเรามีลูกของญาติเรียนที่นี่ด้วย ตอนนี้ไปจัดการธุระอยู่ เดี๋ยวจะมากับคนขับรถรับพวกเราครับ”
“งั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมลงไปส่ง”
“ไม่เป็นไรครับศาสตราจารย์โจว พวกเราเดินลงไปเรื่อยๆ ก็ได้ครับ ท่านอธิการฟาง ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปก่อนนะครับ” เขาอยากเดินเล่นกันแค่สามคนพ่อแม่ลูก ไม่อยากให้มีคนนอกอยู่ด้วย
“ครับ ไว้เจอกันครับ”
อธิการบดีฟางกับศาสตราจารย์โจวเดินไปส่งทั้งสามคนที่หน้าห้องทำงาน เย่ว์หลั่งบอกให้พวกเขาส่งแค่นี้ จากนั้นทั้งสามคนก็ค่อยๆ เดินลงไปชั้นล่าง
“ลูกรัก ลูกจะเริ่มไปฝึกตั้งแต่เมื่อไร”
“หลังจากนี้หนึ่งสัปดาห์ค่ะ ทุกเย็นของสัปดาห์นี้หนูมีเวลาอยู่กับพ่อแม่ค่ะ สุดสัปดาห์จะกลับหมู่บ้านเถาหยวนไปพาพวกเสี่ยวเหยี่ยมา”
“ได้ พ่อกับแม่จะกลับหมู่บ้านเถาหยวนด้วย จากนั้นค่อยกลับเผ่า”
ริมฝีปากของเป่ยซีฉีกยิ้ม มองลูกสาวแก้วตาดวงใจด้วยความเอ็นดู “เสี่ยวเยาเยาทำงานของลูกไป ถ้าพ่อกับแม่คิดถึงจะมาหาลูกเอง ขอแค่ลูกสบายดีพวกเราก็มีความสุขแล้ว”
ถูกต้อง พวกเขาขอแค่ลูกสาวสุขภาพแข็งแรงปลอดภัยดีก็พอใจแล้ว ต่อให้ชีวิตเรียบง่ายก็ไม่เป็นไร
“ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะดูแลตัวเองให้ดีค่ะ”
“จ้ะ”