อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 433 ไปดูม้าด้วยกัน
ตอนที่ 433 ไปดูม้าด้วยกัน
เช้าตรู่วันอาทิตย์ พวกศิษย์พี่ศิษย์หลานของมู่เถาเยามารวมตัวกันที่บ้านครอบครัวหยวน
เมื่อมู่เถาเยา ลู่จือฉิน เย่ว์หลั่งกับเป่ยซีมาจากบ้านตระกูลเย่ว์ก็เห็นคนยืนอยู่เต็มลานบ้านแล้ว
แม้แต่มู่หว่านก็อยู่ด้วย
“เสี่ยวเยาเยา ฉันก็อยากไปด้วย ตอนนี้ฉันน่าจะไหวแล้ว”
“ได้ งั้นเธอตามพวกศิษย์พี่ศิษย์หลานของฉันไปตัดเถาวัลย์มาให้ม้า”
มีทุกคนอยู่ เธอก็ไม่ต้องห่วงความปลอดภัยของมู่หว่าน
กอปรกับที่นั่นเป็นอาณาเขตของงูเถาวัลย์ ไม่มีสัตว์อันตรายอื่นๆ อีกนอกจากตัวมัน
เธอเป็นคนพาเข้าไป งูเถาวัลย์ก็ไม่มีทางทำร้ายคนของเธอ เธอถึงได้วางใจให้พวกเขาตัดเถาวัลย์ตามลำพังแล้วเอากลับไป
หลังจากทุกคนออกมาตอนบ่ายแล้วเธอค่อยจัดให้เครื่องบินขนพวกม้ากับเถาวัลย์ไปเมืองหลวง
พวกเขาคุยกันสักพักก็ออกเดินทางพร้อมกัน
เหาะไปยังจุดหมายปลายทาง มู่เถาเยาสื่อสารกับงูเถาวัลย์อย่างอารมณ์ดีแล้วให้ทุกคนเริ่มตัดเถาวัลย์
บอกให้ทุกคนระวังความปลอดภัย จากนั้นเธอกับลู่จือฉินก็เดินหาสมุนไพรตามเส้นทางขากลับ
ประมาณบ่ายสี่โมงทุกคนก็กลับมา
มู่เถาเยา ลู่จือฉิน และพวกอาหยวนพาพวกม้าไปที่ลานจอดเครื่องบินทันที
เครื่องบินขนสินค้าลำใหญ่เตรียมพร้อม
มู่เถาเยากับพวกอาหยวนห่อขาและลำตัวของพวกม้า เกลี้ยกล่อมให้พวกมันเข้าไปในตู้ขนสินค้า
พวกอาหยวนสี่คนยืนอยู่ด้วยในตู้ จูงพวกมันปลอบพวกมัน ป้องกันพวกมันกระวนกระวายแตกตื่น
หลังจากเครื่องบินขนม้าออกไปแล้ว มู่เถาเยาก็โทรบอกโค้ชเถียน
ม้าจะถูกขนลงที่ลานจอดเครื่องบินของวังตระกูลตี้ จึงจำเป็นต้องให้โค้ชเถียนพาคนกับม้าไปที่ศูนย์ฝึก
หลังจากเสร็จธุระแล้วพวกมู่เถาเยาก็กลับไปกินข้าวเย็น
“เสี่ยวเยาเยากินเสร็จก็กลับเมืองหลวงเถอะ พรุ่งนี้อาจารย์จะทำยากำลังภายในแล้ววันมะรืนจะส่งให้ อาจารย์ไม่รีบกลับเมืองเย่ว์ตู”
“ได้ค่ะ อาจารย์สามไม่ต้องไปส่งด้วยตัวเองนะคะ ส่งพัสดุมาก็ได้ค่ะ”
“ก็ได้ อาจารย์จะใส่กล่องไม้ส่งไปที่คอนโดจยาเหอนะ”
“ค่ะ อาจารย์สามคะ จากนี้หนูจะไม่กลับหมู่บ้านเถาหยวนระยะหนึ่งนะคะ”
“ได้ ช่วงวันชาติอาจารย์จะไปหาที่เผ่านะ”
มู่เถาเยาพยักหน้า “ถ้าศิษย์น้องกับพวกน้าเหมียวอยากกลับก็กลับมาด้วยกันนะคะ หนูจะส่งคนไปรับ”
“ไว้อาจารย์กลับเมืองเย่ว์ตูแล้วจะลองถามพวกเขาดู ถ้ามีอาจารย์แค่คนเดียวอาจารย์จะนั่งเครื่องบินไปเอง”
“ได้ค่ะ”
เป่ยซียิ้มอย่างอ่อนโยนมองลูกสาว “เสี่ยวเยาเยา แม่กับพ่อก็กลับเผ่าวันพรุ่งนี้นะ”
“ค่ะ ไว้วันหยุดหนูจะกลับไปนะคะ”
กินอาหารเย็นที่แสนอบอุ่นเสร็จเรียบร้อย มู่เถาเยา เหลียงจี พี่หยางก็เก็บข้าวของแล้วกลับเมืองหลวง
“ซาลาเปาน้อย”
“เอ๊ะ ตี้อู๋เปียนกลับมาจากทางตะวันตกแล้วเหรอ”
“กลับมาเมื่อวาน วันนี้ต้องฝังเข็ม”
“อ้อใช่ ฉันลืมไป ยื่นมือมาให้ตรวจหน่อย”
มู่เถาเยายืนจับชีพจรให้ตี้อู๋เปียน
“ดีขึ้นเรื่อยๆ แล้ว”
“ไว้วันไหนประลองกันอีกสิ” ดวงตาหงส์ของตี้อู๋เปียนเปล่งประกาย
“ได้”
“พวกเรากลับกันก่อน ทุกคนรออยู่”
“พี่สาว” เจ้าถุงลมน้อยกับจินเหยี่ยน้อยจับมือมู่เถาเยาแกว่งคนละข้างด้วยความน้อยใจ
ทำไมพี่สาวเห็นแค่อาเล็ก ทั้งๆ ที่พวกเขาก็มารับพี่สาวพร้อมอาเล็ก
มู่เถาเยาก้มหน้า ยิ้มถามเด็กๆ “นี่ก็ดึกแล้ว จินเหยี่ยน้อยกับพี่ชายทำไมยังไม่นอนอีกจ๊ะ”
มือของจินเหยี่ยน้อยจับมู่เถาเยาข้างหนึ่ง อีกข้างชี้ตัวเอง พูดเสียงน่าเอ็นดู “คิดถึงพี่สาว”
มู่เถาเยาก้มตัว ใช้มือข้างหนึ่งอุ้มจินเหยี่ยน้อยขึ้นมา มืออีกข้างจูงเจ้าถุงลมน้อยแล้วเดินไปทางรถ “พี่สาวก็คิดถึงพวกหนู ไป พวกเรากลับไปนอนกันนะ”
ตี้อู๋เปียนที่ถูกทิ้งอย่างกะทันหันรีบเดินตาม “ซาลาเปาน้อย เธอชอบเด็กเหรอ”
มู่เถาเยาหันไปตอบ “คุณไม่ชอบเหรอ”
“…ชอบ” ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากมีลูกสามคน!
หูของตี้อู๋เปียนแดงขึ้นมาเล็กน้อย
มู่เถาเยาไม่สังเกตเห็น เพราะสายตาเธอละไปหาจินเหยี่ยน้อยเสียก่อน
เด็กน้อยเริ่มผงกหัว ท่าทางเหมือนจะหลับ
พอขึ้นรถมู่เถาเยาก็อุ้มเด็กน้อยนอนบนตักเพื่อให้หลับในท่าที่สบายหน่อย
“อันเหยี่ยง่วงหรือยัง”
ตี้อันเหยี่ยพยักหน้าตอบตามตรง
เดิมทีไม่รู้สึกง่วง ตอนนี้ขึ้นรถแล้วก็ง่วงขึ้นมาทันที
“ต่อไปไม่ต้องรอนะ ยังไงพี่สาวก็อยู่ที่เมืองหลวง อยากเจอตอนไหนก็ได้”
“คิดถึง”
มู่เถาเยารู้สึกขำ “ก็แค่ได้เจอกันช้าหน่อยเอง เราเป็นแค่เด็กหกขวบ ต้องพักผ่อนให้เป็นเวลาถึงจะโตเร็วนะ”
เจ้าถุงลมน้อยคิดแล้วพยักหน้า
มู่เถาเยายื่นมือข้างหนึ่งออกไปลูบศีรษะของเขา
พอไปถึงวังตระกูลตี้ กู้เนี่ยนก็รับจินเหยี่ยน้อยไป ยิ้มให้มู่เถาเยาอย่างจนปัญญา “พวกเด็กๆ จะรอเสี่ยวเยาเยากลับมาให้ได้ ไม่งั้นไม่ยอมนอน ปกติสามทุ่มก็นอนแล้ว นี่สี่ทุ่มกว่าแล้ว ก็อุตส่าห์อดทนได้ถึงตอนนี้”
มู่เถาเยายิ้มพูด “ต่อไปอย่าบอกพวกเขาเลยค่ะว่าหนูจะกลับมา พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้พาเด็กๆ ไปนอนก่อนเถอะค่ะ”
“ได้ งั้นพวกเราขึ้นชั้นบนก่อนนะ”
“ค่ะ” มู่เถาเยาพยักหน้า
มองส่งสองสามีภรรยาพาลูกๆ ขึ้นชั้นบนเสร็จมู่เถาเยาก็หันไปมองบรรดาผู้อาวุโส “ปู่ตี้ย่าตี้คะ แล้วก็อาจารย์รองกับอาจารย์แม่รองด้วย ทำไมยังไม่นอนกันอีกคะ”
ปู่ทวดถังกลับบ้านตระกูลถังไปเมื่อวาน
ย่าตี้ยิ้มกว้าง “สี่ทุ่มกว่ายังไม่ถือว่าดึกเกินไป ตอนนี้กลับมากันแล้ว งั้นพวกเราไปพักผ่อนดีกว่า”
อาจารย์แม่รอง “ไปนอนกันเถอะ พรุ่งนี้เสี่ยวเยาเยากับเสี่ยวหว่านต้องไปมหาวิทยาลัยแต่เช้า”
มู่เถาเยา “หนู พี่เหลียงจี พี่หยางขอตัวกลับคอนโดจยาเหอนะคะ”
คุณนายอวิ๋นเหอ “ดึกขนาดนี้ยังจะกลับไปอีกเหรอ เสี่ยวเยาเยา พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าไปมหาวิทยาลัยจากที่นี่ไม่ดีกว่าเหรอจ๊ะ ออกแต่เช้ารถไม่ติดหรอก”
“หนูลาหยุดตอนเช้าไว้ค่ะ ต้องไปดูพวกม้าที่ศูนย์ฝึกม้า กลัวพวกมันอาละวาด”
ตี้อู๋เปียน “งั้นยิ่งไม่ต้องรีบกลับไปใหญ่ พรุ่งนี้ฉันจะไปเยี่ยมพวกม้าพร้อมเธอด้วย ฉันก็สนิทกับเสี่ยวเหยี่ยเสี่ยวเซวี่ย” ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไป๋เสวี่ยที่เดิมทีก็เป็นม้าของเขา
มู่เถาเยาครุ่นคิดแล้วพยักหน้า “ได้ พรุ่งนี้คุณก็ช่วยปลอบพวกมันหน่อย พวกมันอารมณ์ไม่ค่อยดี ฉันกลัวพวกอาหยวนจะเอาเสี่ยวเหยี่ยกับหลิวซิงไม่อยู่”
เห็นหลิวซิงยังเล็กแบบนั้น แต่มันดื้อกว่าเสี่ยวเหยี่ยเสียอีก แล้วนับประสาอะไรกับที่ตอนนี้โศกเศร้าเสียใจอยู่
ราชาตี้ยิ้มพูด “ลุงเห็นม้าพวกนั้นแล้ว เป็นม้าดีที่หาได้ยากทั้งนั้น”
มู่เถาเยายิ้มตาโค้ง “เสี่ยวเซวี่ยเป็นม้าอัคคัลทีคสายพันธุ์แท้ที่หนูทุ่มเทควานหาซื้อมาจากประเทศเลี้ยงม้าค่ะ ลูกของมันกับราชาม้าป่าย่อมไม่มีทางด้อย ถ้าคุณลุงชอบ ไว้เสี่ยวเหยี่ยกับไป๋เสวี่ยมีลูกเมื่อไรหนูจะยกให้คุณลุงค่ะ”
ราชาตี้ยิ้มพลางส่ายมือ “ชอบก็ส่วนชอบ แต่จะพรากลูกม้าไปจากพ่อแม่ของมันคงไม่ดี”
“งั้นรอคุณลุงเกษียณหนูจะเลือกม้าที่อายุเหมาะสมให้นะคะ”
ราชาตี้ยิ้มพลางพยักหน้า “เอาสิ พอถึงตอนนั้นลุงก็มีเวลาเลี้ยงม้าด้วยตัวเองแล้ว”
อวิ๋นเหอแกล้งดุ “ขอของจากเด็กไม่รู้จักอายเลยนะคุณ”
“ขอจากลูกหลานตัวเองมีอะไรน่าอาย ทำอย่างกับว่าเสี่ยวเยาเยาแสดงน้ำใจกับคุณน้อยนักเหรอ กินยาเสริมความงามเข้าไปเท่าไรแล้วล่ะ” ราชาตี้มองภรรยา ยิ้มกว้างเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
คุณนายอวิ๋นเหอ “…”
อยากเถียงกลับแต่ก็เถียงไม่ขึ้น