อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 439 ขี้เหร่จนอยากร้องไห้
ตอนที่ 439 ขี้เหร่จนอยากร้องไห้
วันรุ่งขึ้นทุกคนตื่นกันแต่เช้าตรู่
บ้างก็ไปออกกำลังกาย บ้างก็หัดเรียน สนามหญ้าของวังตระกูลตี้ครึกครื้นขึ้นมาถนัดตา
มู่เถาเยา ตี้อู๋เปียน และพวกมู่หว่านออกกำลังวันนี้เสร็จก็ไปมุงดูซย่าโหวโซ่วสอนราชาตี้ คุณนายอวิ๋นเหอ ตี้อู๋เว่ยกับภรรยา และยังมีพวกบอดี้การ์ดให้รู้จักการควบคุมลมปราณภายใน
เมื่อวานบอกจะฝึก วันนี้ก็เริ่มทันที จริงจังกันน่าดู
จินเหยี่ยน้อยก็ช่างซุกซน เดี๋ยวก็ไปฝึกอยู่ข้างๆ ปู่ (ก่อกวนเสียมากกว่า) เดี๋ยวก็ไปจับมือเท้าพ่อแม่ มีความสุขหัวเราะคิกคัก
มู่เถาเยายิ้มตาโค้ง “เสี่ยวจิน มานี่เร็ว พี่สาวพาเหาะสูงๆ”
เด็กน้อยกางแขนออก วิ่งเตาะแตะเข้าไปหา
มู่เถาเยาย่อตัวนั่งลงเพื่อให้เด็กน้อยโอบคอถึง จากนั้นก็อุ้มขึ้นมา
“พร้อมหรือยัง พวกเราจะบินแล้วนะ”
เด็กน้อยพยักหน้า พูดเสียงน่ารัก “เสี่ยวจินบินสูงๆ…”
“จ้ะ พวกเราบินสูงๆ”
มู่เถาเยาพูดจบก็โอบกระชับตัวเด็กน้อยแล้วกระโดดขึ้นหลังคา เหาะไปมาระหว่างอาคารแล้วกลับสู่จุดเดิม
เด็กน้อยหัวเราะชอบใจใหญ่
มู่เถาเยาลูบศีรษะเสี่ยวจินเหยี่ย “เอาล่ะ พวกเรากลับไปอาบน้ำกัน เดี๋ยวไปเล่นน้ำนะ”
เด็กน้อยตบมือแปะๆ “เล่นน้ำ สนุก”
“เสี่ยวจินชอบเล่นน้ำนี่นา”
“อื้อๆ”
“งั้นวันนี้ต้องเชื่อฟังพี่ชายพี่สาวนะจ๊ะ”
“เสี่ยวจินเด็กดี” ตะโกนเสียงดังเป็นพิเศษ
ตี้อู๋เปียนอดหัวเราะไม่ได้ “เราเนี่ยนะเด็กดี ไม่ซนก็ขอบคุณมากแล้ว!”
เด็กน้อยเถียงกลับ “อาเล็กไม่ดื้อนะ”
อุ๊บ…
คนที่ได้ยินต่างหัวเราะ
ตี้อู๋เปียนแกล้งหลานสาว “ไม่ดื้ออยู่แล้ว เรานั่นแหละที่ดื้อ”
“ไม่ดื้อ ไม่ดื้อ…” เด็กน้อยร้อนใจ รีบเถียงกลับ
มู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียน อวิ๋นสุ่ยเหยา กับพวกเหลียงจีหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง
มู่เถาเยายิ้มมุมปาก ดวงตาโค้งมน ขยี้หัวเสี่ยวจินเหยี่ย “เสี่ยวจินของพวกเราเป็นเด็กดีที่สุด”
ตี้อู๋เปียนคัดค้านทันที “ซาลาเปาน้อย เธอพูดปด”
มู่เถาเยา “…” มันก็แค่คำพูดเอาใจเด็ก จริงจังอะไรขนาดนั้น
เธอหันหน้าหนี อุ้มเด็กน้อยเดินกลับอาคาร
“เสี่ยวหว่าน เสี่ยวเหมียน เสี่ยวเหยา เดี๋ยวพวกเธอกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วเก็บของมาเลยนะ พวกเรากินข้าวเช้าเสร็จก็จะออกเดินทาง”
สาวๆ ทั้งสามตอบเป็นเสียงเดียวกัน “ได้เลย”
ตี้อู๋เปียนลูบจมูก รีบเดินตาม “ซาลาเปาน้อย เดี๋ยวฉันจะจัดรถไปรับพวกโค้ช”
“อืม คุณรีบอาบน้ำลงมา ฉันจะเปลี่ยนสีผิวให้”
“ได้”
แต่ละคนแยกย้ายกลับห้อง อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็หอบสัมภาระลงมา
มู่ซือจิ่น ซย่าโหวจิ่งเหยา ถังเซิ่นอวี๋ก็จัดการตัวเอง
หลังจากไปใช้ชีวิตอยู่ในค่ายทหารด้วยกัน พวกเขาก็ดูแลตัวเองได้แล้ว
กินอาหารเช้าแสนสุขเสร็จตอนแปดโมงครึ่ง
มู่เถาเยาให้พ่อบ้านเอายาที่ต้มเสร็จเมื่อคืนแล้วเทใส่ชามเอาเข้าตู้เย็นออกมา จากนั้นก็หยิบสำลีจากกล่องยาใบน้อยมาจุ่มยา
ใช้แหนบคีบขึ้นมาซับยาออกที่ขอบชามเพื่อไม่ให้ยาหยด จากนั้นก็ยกชามไปตรงใต้คางของตี้อู๋เปียน
“ตี้อู๋เปียน เปลือกตาก็ต้องเปลี่ยนสีด้วย คุณหลับตาลง”
ตี้อู๋เปียนหลับตา แอบตื่นเต้นเล็กน้อย
เมื่อคืนปู่หยวนบอกว่าจะขี้เหร่ เขากลัวจนไม่กล้ามองตัวเอง แต่ตอนนี้ ‘เข้าตาจน’ แล้ว จำต้องยอมทุกอย่าง
มู่เถาเยาหยิบสำลีชุบยาเริ่มที่หน้าผากของตี้อู๋เปียน ค่อยๆ ทาทีละนิด
เสียงหัวเราะที่เพิ่มขึ้น ภายในใจของตี้อู๋เปียนก็เหมือนกับยานี้ เย็นวาบ
“ซา…”
“อย่าเพิ่งพูด เดี๋ยวยาไหลเข้าปาก รอฉันบอกให้ลืมตาคุณค่อยลืมตา”
ตี้อู๋เปียน “…”
มู่เถาเยาทาใบหน้าของตี้อู๋เปียนซ้ำสามรอบแล้วถึงวางชามลง
จินเหยี่ยน้อยพูดด้วยความตะลึง “พี่สาวสุดยอดเลยค่ะ! อาเล็กกลายเป็นลิงแล้ว”
ทุกคนกลั้นหัวเราะไม่อยู่แล้ว
ตี้อู๋เปียนใจหายวาบ
“เอาล่ะ ลืมตาได้แล้ว”
ตี้อู๋เปียนรีบลืมตา เห็นทุกคนหัวเราะท้องคัดท้องแข็งก็ลุกไปห้องน้ำทันที
จากนั้นเขาก็ยืนอยู่ในห้องน้ำไม่ยอมออกมา
ทุกคนตามไปที่ห้องน้ำ หัวเราะจนเมื่อยปาก ราวกับหุบไม่ลง
เห็นเพียงตี้อู๋เปียนยืนนิ่งอยู่หน้ากระจก
ขนตามใบหน้าที่ปกติถ้าไม่สังเกตก็จะไม่เห็น ตอนนี้กลับเหมือนทามาสคาร่า เข้มขึ้นจนเห็นชัด…
นี่มันลิงเหมือนที่จินเหยี่ยน้อยพูดชัดๆ!
ตี้อู๋เปียนจ้องคนในกระจก รับรูปลักษณ์ใหม่ของตัวเองไม่ได้
พอเห็นใกล้เวลาแล้วมู่เถาเยาก็เร่งทุกคน “เอาล่ะๆ ทุกคนหยิบข้าวของของตัวเองนะคะ เตรียมไปลานจอดเครื่องบินกันค่ะ”
ตี้อู๋เปียนพูดด้วยความน้อยใจ “ซาลาเปาน้อย ล้างตอนนี้ทันไหม”
เขาขี้เหร่จนจะร้องไห้แล้ว!
“มันก็ได้อยู่หรอก แต่ไม่มีสมุนไพร ตอนนี้พวกเราก็ไม่มีเวลาต้มยาด้วย คุณทนเอาหน่อย อีกสี่สิบแปดชั่วโมงก็ล้างออกหมดแล้ว” มู่เถาเยากลั้นขำพูด
คุณนายอวิ๋นเหอพูดอย่างอารมณ์ดี “อู๋เปียน รีบออกมาเร็ว อย่าทำเสี่ยวเยาเยาเสียเวลา”
ราชาตี้ “ตอนนี้ไม่ต้องกลัวว่าใครจะจำได้แล้วนะ ไปเที่ยวได้อย่างสบายใจเลย”
ตี้อู๋เปียน “…”
เขาไม่สบายใจเลยสักนิด!
ต้องใช้ชีวิตในสภาพหน้าผีแบบนี้ ใครมันจะมีความสุขได้
ตอนนี้เขาไม่อยากออกไปไหนแล้ว! แต่ก็ไม่อยากทิ้งโอกาสที่จะได้ไปเที่ยวกับซาลาเปาน้อย!
ถึงแม้ซาลาเปาน้อยไปครั้งนี้ถือเป็นการทำงาน กอขอคอก็เยอะใช่เล่น แต่เขาก็ไม่อยากปล่อยโอกาสทิ้งไป
ซย่าโหวโซ่วหัวเราะพลางพูด “อันที่จริงผู้ชายไม่ต้องสนใจรูปลักษณ์มากหรอก”
หยวนเหยี่ยพยักหน้า “ใช่ ขอแค่ไม่ทำเด็กร้องไห้ ออกไปข้างนอกก็ไม่เป็นไรหรอก อย่างมากก็แค่ทุเรศสายตาคนอื่น”
ทุกคนหัวเราะจนแทบหายใจไม่ทัน
ตี้อู๋เปียน “…”
ตี้อู๋เว่ยยิ้มพูด “ผมเห็นรถที่ไปรับพวกโค้ชกลับมาแล้ว ทุกคนหยิบของมาเลยนะครับ”
ย่าตี้กับอาจารย์แม่รองรีบพูดกับพวกเด็กๆ บอกให้พวกเขาตามติดพวกพี่ๆ ไว้ ห้ามไปไหนตามลำพัง
คุณนายอวิ๋นเหอกับกู้เนี่ยนก็บอกพวกบอดี้การ์ดให้ดูแลเด็กๆ
สาวๆ อย่างมู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียน อวิ๋นสุ่ยเหยา ดูแลกันเองได้ ส่วนเด็กๆ ก็ให้บอดี้การ์ดประกบตามจำนวนคน ยังมีพี่เลี้ยงของจินเหยี่ยน้อยกับเจ้าถุงลมน้อย จางหมิงเจ๋อกับหลินเหอเฟิงที่เป็นอาจารย์สอนต่อสู้ นักบินเหลียงจี พวกโค้ช ทั้งหมดยี่สิบกว่าคนออกเดินทางพร้อมกัน
พวกผู้อาวุโสอย่างปู่ตี้ ย่าตี้ หยวนเหยี่ย ไม่ได้ไปส่งพวกเขาที่ลานจอดเครื่องบิน มีแค่คุณนายอวิ๋นเหอกับตี้อู๋เว่ยและภรรยาที่ไป
พวกโค้ชเคยเจอคุณนายอวิ๋นเหอ ตี้อู๋เว่ยกับภรรยาแล้ว และก็รู้ล่วงหน้าว่าต้องมาขึ้นเครื่องบินที่วังตระกูลตี้ พอเจอกันจึงไม่เกร็งเท่าไร
คุณนายอวิ๋นเหอยิ้มพูดกับพวกโค้ช “พวกเราสนิทกับคนในครอบครัวของเสี่ยวเยาเยา เครื่องบินของเสี่ยวเยาเยาก็เลยจอดที่วังตระกูลตี้ พวกคุณไม่ต้องคิดมากนะคะ ควรฝึกยังไงก็ว่าตามนั้น พวกผู้ใหญ่ไม่ยุ่งแน่นอนค่ะ”
พวกโค้ชแค่ยิ้ม จากนั้นก็เหลือบไปเห็นตี้อู๋เปียนที่อยู่ถัดจากคุณนายอวิ๋นเหอ พวกเขาพากันทำสีหน้าเหมือนเห็นผีแบบที่ไม่มีปิดบัง!
ว้าก!
ตัวอะไรวะนั่น!
นี่ใช่คนหรือเปล่า!