อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 85 คุณรับไม่ไหวหรอก
ตอนที่ 85 คุณรับไม่ไหวหรอก
เมื่อกลุ่มคนมาถึงคฤหาสน์ตระกูลตี้ ตี้อู๋เปียนก็นั่งรออยู่บนตั่งไม้ยาวหน้าประตู จ้องพวกเขาจนแทบจะทะลุอยู่แล้ว
ย่าเย่ว์ขมวดคิ้วถามเขาด้วยความเป็นห่วงว่า “อู๋เปียน ทำไมหลานถึงไม่ไปพักผ่อนในห้องล่ะ ตอนนี้หลานรู้สึกเป็นยังไงบ้าง”
“ย่าเย่ว์ ผมสบายดีครับ” ใบหน้าของตี้อู๋เปียนเปลี่ยนเป็นสีแดง
หลังจากฝังเข็มไปสองครั้งในตอนเช้า เขาก็รู้สึกว่าร่างกายมีเรี่ยวแรงยิ่งขึ้น จึงไม่ได้นอนกลางวันแต่แอบออกกำลังกายอยู่ในห้องของตัวเอง ผลลัพธ์คือ…โศกนาฏกรรม!
ถ้าไป๋เฮ่าอวี๋ไม่ได้เข้ามาดูเขาเพราะเห็นว่าเขาไม่ได้ออกจากห้องในตอนบ่าย เขาคงกลายเป็นศพนอนตายอยู่บนพื้นไปแล้ว
สภาพแทบไม่ต่างอะไรกับคนแก่ที่คลานอยู่บนพื้น น่าอนาถมาก
เพราะงั้นนั่นถึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเขาถึงไม่ออกไปส่งเย่ว์เลี่ยงกับทุกคนด้วยกัน
ย่าตี้ดุเขาว่า “อีกหน่อยห้ามทำอะไรตามใจแบบนี้อีกนะ! คนไข้ต้องเชื่อฟังที่หมอสั่ง รอไว้หลานหายดีก่อน ถึงตอนนั้นอยากจะออกกำลังกายก็ยังไม่สายเกินไป”
“ย่าครับ ผมรู้แล้ว” จะไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว! นี่มันน่าขายหน้าเกินไป!
ตี้อู๋เปียนลอบชำเลืองมองมู่เถาเยา เมื่อเห็นว่าเธอกำลังก้มหน้าคุยกับอันเหยี่ย เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่แล้วเขาก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อยอีกครั้ง
เขาเป็นแบบนี้แล้ว เธอไม่คิดจะถามไถ่ด้วยความห่วงใยสักคำเลยเหรอ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังกำลังขนสัมภาระของทุกคนเข้าประตู เขาก็ลืมเรียกร้องความสนใจไปเสียสนิท
“ปู่เย่ว์กับย่าเย่ว์ ทั้งสองจะมาพักที่นี่ด้วยกันเหรอครับ”
“ใช่จ้ะ” ย่าตี้ยิ้มอย่างมีความสุขมาก
“ถ้างั้น…ซาลาเปาน้อยก็จะมาค้างที่นี่ด้วย?” ตี้อู๋เปียนหันไปมองมู่เถาเยา
“อืม เราจะมาขอรบกวนที่นี่สักสัปดาห์หนึ่ง”
“ยินดีต้อนรับ”
ตี้อู๋เปียนมีความสุขมากๆ แม้จะไม่รู้ว่าเหตุผลนั้นคืออะไร แต่ไฝที่หว่างคิ้วของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและมันดูน่าหลงใหลมากขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าที่ขาวซีดของเขาดูเหมือนจะถูกปกคลุมด้วยชั้นเมฆสีแดงจางๆ
“ทำไมอาเล็กต้องแต่งหน้าด้วยล่ะ” ถุงลมน้อยถามอย่างงงงวยในขณะที่เขาจ้องมองหน้าอาเล็กของเขาพร้อมกับเอียงศีรษะ
เขาจำได้ว่ามีเพียงผู้หญิงเท่านั้นที่แต่งหน้า
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ตี้อู๋เปียน
“ฉันไม่ได้แต่งหน้า! ตี้อันเหยี่ยสายตาเธอมีปัญหาแล้วใช่ไหม!”
ใบหน้าที่งดงามราวกับเทพเจ้าจุติลงมายังโลกมนุษย์ของตี้อู๋เปียนแดงมากยิ่งขึ้น…เพราะความโกรธ!
“ก็อาเล็กหน้าแดงเหมือนคุณย่า คุณแม่ และก็คุณอาเลย”
เขาเคยเห็นแม่แต่งหน้าแบบนี้ ก็มันมีสีแดงๆ แบบนี้จริงๆ นี่นา
ทุกคนกลั้นหัวเราะ
“ของฉันนี่คือแดงธรรมชาติ ไม่ได้เกิดจากการแต่งหน้าโอเคไหม?” แต่ทำไมเขาถึงหน้าแดงล่ะ อากาศช่วงเดือนมีนาคมไม่ร้อนสักหน่อย!
ย่าเย่ว์อดไม่ได้ที่จะพูดกลั้วหัวเราะว่า “แดดข้างนอกกำลังแรงเลย ยืนอยู่ตรงนี้แดดตกลงไปที่อู๋เปียนพอดี คงร้อนสินะ”
“ครับ”
อันที่จริงเขาไม่ร้อนเลยแถมยังรู้สึกสบายตัวมาก แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงหน้าแดง ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเป็นเพราะแสงอาทิตย์
ย่าตี้บ่น “ร้อนแล้วก็ไม่รู้จักกลับเข้าไปข้างใน เด็กคนนี้นี่!”
มู่เถาเยาจับชีพจรให้เขา
“ย่าตี้คะ หนูว่าให้เขาอาบแดดแบบนี้ต่อไปก็ดีนะคะ แดดตอนนี้ไม่แรงมากแล้วด้วย”
ตี้อู๋เปียน “ซาลาเปาน้อย ทำไมเราไม่ไปตกปลาที่เชิงเขากันล่ะ ในทะเลสาบนั่นมีปลาอยู่ทุกชนิด ปลาจี้อวี๋นำมาต้มซุปได้ ปลาเฉาฮื้อก็ปรุงเป็นเมนูปลาต้มเผ็ดได้รสเด็ดที่สุด นอกจากนี้ในลำธารใกล้ๆ กันยังมีปลาแอนโชวี่เหมาะสำหรับนำมาทำเป็นซาชิมิ ปลาแม่น้ำทั่วไปก็เอามาย่างเกลือ…คืนนี้พวกเรากินเมนูปลากัน”
มู่เถาเยากลืนน้ำลายดังอึก
อันเหยี่ยขยับปากดังแจ็บๆ น้ำลายไหลออกมาจากปาก ไม่คิดจะซ่อนมันไว้สักนิด เขาดึงมือมู่เถาเยาและเขย่าไปมา “พี่สาว ไปตกปลากันเถอะ กินปลาๆ”
เขาไม่เลือกกิน อะไรก็กินได้ แถมยังชอบกินทุกอย่าง
ตอนนี้เมื่อได้ยินอาเล็กพูดแบบนี้ เขาก็คิดว่าปลาอร่อยมากจริงๆ ! เขาอยากกินมันมากๆ !
“ตกลง งั้นคืนนี้พวกเรากินปลากัน” มู่เถาเยาลูบหัวน้อยๆ ของเขา
“ปู่เย่ว์ ย่าเย่ว์ ปู่ครับ ย่าครับ ทุกคนจะไปด้วยกันไหม” เสียงของตี้อู๋เปียนไม่ดังมาก แต่ฟังออกได้เลยว่ามันเต็มไปด้วยความสุข
ผู้เฒ่าหลายคนหันไปมองหน้ากัน แล้วพยักหน้าพร้อมกัน
ย่าตี้หันไปพูดกับย่าเย่ว์ “ทิวทัศน์แถวทะเลสาบน่ะสวยมากจริงๆ นะ มีสนามหญ้า ต้นไม้สีเขียว ดอกไม้สีแดง ลำธารเล็กๆ แถมยังมีภูเขาสีเขียวล้อมรอบ…เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพักผ่อนมาก”
พ่อบ้านจงยิ้มและพูดกับทุกคนว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปสั่งให้คนจัดห้องและเตรียมอุปกรณ์ตกปลา อวนจับปลา ผลไม้ น้ำชา และของว่างให้ทุกคนนะครับ”
ตี้อู๋เปียนพยักหน้า
บอดี้การ์ดหลายคนออกไปเตรียมสถานที่ก่อน อีกส่วนแยกไปจัดเตรียมรถ รถนำเที่ยวสองสามคันที่ถูกจอดไว้ในลานจอดรถใกล้ๆ มานานปีถูกสตาร์ทและขับออกมารอไว้
ทุกคนขึ้นรถ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังภูเขาด้านหลัง
ทิวทัศน์ระหว่างทางสวยงามมาก เกือบทั้งหมดเป็นทิวทัศน์เชิงนิเวศดั้งเดิมที่ยังไม่ได้รับการตัดแต่งและจัดการ
ดอกไม้และต้นไม้เติบโตอย่างไร้แบบแผน แต่นั่นแหละที่ทำให้ผู้คนรู้สึกเบิกบานใจมาก
ดอกซากุระ ดอกพีช ดอกแพร์ ดอกแอปริคอต แมกโนเลีย ไลแลค ดอกไม้รวมถึงไม้ผลอื่นๆ มากมาย ดูรกมาก แต่ก็ให้บรรยากาศของภูเขาเต็มเปี่ยม
ดอกไม้สีสดที่แบ่งบานอย่างกล้าหาญภายใต้ท้องฟ้าสีคราม ประหนึ่งสีสันอันงดงามที่ถูกแต่งแต้มลงบนภาพวาดจีนโบราณซึ่งบรรจงวาดโดยจิตรกรชั้นนำ
ย่าเย่ว์ถอนหายใจเบาๆ “สถานที่ที่กว้างใหญ่และงดงามแบบนี้ อวิ๋นไป๋ยังตัดใจได้ลง”
ย่าตี้ยิ้มและพูดว่า “ตั้งแต่เด็กอวิ๋นไป๋ก็ใส่ใจเรื่องสุขภาพของอู๋เปียนเป็นที่สุด และชุมชนนี้ก็ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตี้อู๋เปียนและเย่ว์เลี่ยงโดยเฉพาะ”
ปู่ตี้กล่าวเสริมว่า “เดิมทีอวิ๋นไป๋ยังต้องการปิดล้อมพื้นที่ทั้งหมดนี้ให้เป็นเขตสวนส่วนตัว แต่การทำอะไรที่โอเวอร์เกินไปจะทำให้ประชาชนอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในเขตนั้นมากยิ่งขึ้น”
ปู่เย่ว์พยักหน้า “หลักการนี้แหละ”
ผู้เฒ่าหลายคนหันไปพูดคุยกัน และในไม่ช้าทุกคนก็มาถึงริมทะเลสาบที่เชิงเขาชิงซิ่ว
มู่เถาเยาลงจากรถก่อน จากนั้นก็อุ้มถุงลมน้อยลงไป แล้วหันไปถามตี้อู๋เปียนที่อยู่ข้างๆ ว่า “ที่นี่มีทะเลสาบอยู่สองแห่งเหรอ”
เธอจำได้ว่าครั้งแรกที่เธอพบเขาทะเลสาบที่เขาใช้เล่นตกปลาในตอนนั้นไม่ใช่สถานที่เดียวกันกับทะเลสาบปัจจุบัน
“อืม ทะเลสาบนั้นอยู่อีกฟากหนึ่ง แต่ปลาในนั้นส่วนใหญ่ยังเป็นเพียงลูกปลาที่จับจากลำธารแถวนี้และนำไปปล่อยเลี้ยงไว้ในนั้น”
ตี้อู๋เปียนชี้ไปที่ลำธารข้างหน้าและพูด
“ลำธารนี้…เชื่อมต่อกับแม่น้ำชิงซีที่ไหลผ่านเมืองเย่ว์ตูทั้งเมืองใช่ไหม”
“ใช่”
“น้าเล็กอวิ๋นยอดเยี่ยมมากที่หาสถานที่วิเศษแบบนี้พบ! มีทั้งภูเขา แม่น้ำ ดอกไม้และผลไม้! เหมาะแก่การเกษียณอายุมาก!”
ตี้อู๋เปียน “…” ซาลาเปาน้อยกำลังพูดเป็นนัยถึงเขาหรือเปล่า
อันเหยี่ยจับมือมู่เถาเยาและเดินไปที่ลำธาร “พี่สาว จับปลา”
“เอาสิ เดี๋ยวพี่สาวจับปลาให้เสี่ยวอันเหยี่ยกินนะ”
ทั้งสองคนจับมือกันแล้วเดินจากไป
ตี้อู๋เปียน “…” รู้สึกเหมือนโดนซาลาเปาน้อยข้ามแม่น้ำรื้อสะพาน!
หนึ่งคนตัวใหญ่และอีกหนึ่งคนตัวเล็กข้างหน้าไม่มีเวลามาสนใจสิ่งที่เขากำลังคิด ทั้งสองมุ่งหน้าไปที่ลำธารโดยมีเป้าหมายเดียวเท่านั้น
สายน้ำในลำธารไหลเอื่อยๆ ไปอย่างเงียบๆ และเมื่อแสงแดดส่องกระทบลงมา มันก็ดูเหมือนริบบิ้นสีเงินที่พาดเป็นชุดกระโปรงดูระยิบระยับสวยงามเต็มเนินเขาเขียวขจีด้านหลัง
น้ำไหลกระทบหินผ่านธารน้ำสายยาว เสียงธรรมชาติที่กู่ก้องเป็นเหมือนเสียงของเครื่องดนตรีที่กำลังบรรเลงดนตรีคลาสสิกที่เต็มไปด้วยความงดงามและอารมณ์ที่สัมผัสได้
ธารน้ำใสไหลเชี่ยวผ่านหน้าทุกคน ปลาใหญ่เล็กแสดงทักษะการว่ายน้ำที่ยอดเยี่ยมของมันอย่างไม่กังวลถึงอันตรายใดๆ
สถานการณ์นี้ทำให้มู่เถาเยาอดยิ้มไม่ได้
เธอย่อกายลง ม้วนขากางเกงและแขนเสื้อขึ้นให้อันเหยี่ย จากนั้นก็ม้วนให้กับตัวเอง
ทั้งสองคนจับมือกันเดินลงไปในแม่น้ำ
“เย็นจัง คิกคิก…” คนตัวเล็กหัวเราะอย่างมีความสุข
เขาต้องการจับปลา ดังนั้นเขาจึงปล่อยมือจากมู่เถาเยา
“อันเหยี่ย ระวังลื่นล้มนะ”
“ครับ” คนตัวเล็กตอบพร้อมกับก้มลงจับปลาตัวเล็กที่ว่ายผ่านมา
“ตี้อู๋เปียน คุณห้ามลงน้ำเด็ดขาด” มู่เถาเยาดับฝันคนที่กำลังดึงขากางเกงตัวเองขึ้นซะมิด
“…!!!”
“น้ำมันเย็น คุณรับไม่ไหวหรอก ไปนอนอาบแดดไป”
“…”
โอเค เกี่ยวกับสภาพร่างกายของเขา…เขาพอจะรู้อยู่
“ตี้อู๋เปียน คุณโทรขอให้ใครสักคนเอาชุดมาเปลี่ยนให้อันเหยี่ยสักชุดหนึ่งนะ ฉันเดาว่าเขาคงเปียกโชกทั้งตัวหลังเล่นเสร็จ”
“…อ้อ”