อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 17 เราทั้งคู่เหมาะสมจะเป็นคู่กัน
- Home
- อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม
- บทที่ 17 เราทั้งคู่เหมาะสมจะเป็นคู่กัน
“อาจารย์ ห้าสิบรอบนี่ละเว้นเถอะ ข้าว่าคนในโรงเรียนล้วนเล่นดีกว่าข้า”
“ไม่หรอก พวกเขาคนไหนก็ไม่มีทักษะพิณขั้นสูงเท่าคุณหนูสาม ข้าจะรายงานให้ฝ่าบาท รายงานต่อท่านอ๋องหาน รายงานต่อท่านเฉิงเซี่ยง ให้พวกเขาได้มาฟังเพลงที่ไพเราะของคุณหนูสาม”
อาจารย์ซ่างกวนยังคงยิ้มบางอ่อนโยนเหมือนเช่นเดิม แต่ในสายตาของกู้ชูหน่วน กลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนี้ช่างน่ากลัวและเลวร้ายมาก
ข่มขู่
ข่มขู่อย่างโจ่งแจ้ง
ในฐานะอาจารย์ ไม่สอนนางดีๆก็ช่างไปแล้ว ยังมาตั้งใจหาเรื่องนางแบบนี้ ไม่สมกับเป็นครูบาอาจารย์เลยจริงๆ
ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นทั้งแปลกใจทั้งขำ
ที่แปลกใจคือ อาจารย์ซ่างกวนแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยลงโทษนักเรียน แต่วันนี้กลับลงโทษคุณหนูสามกู้อย่างไม่เคยมีมาก่อน
ที่ขำก็คือ กู้ชูหน่วนที่แสนกำเริบเสิบสาน สมควรแล้วที่ได้รับการลงโทษหนัก
กู้ชูหน่วนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ได้ เล่นก็เล่น พวกเจ้าไม่ได้รู้สึกรำคาญก็ดี ข้าจะเล่นเดี๋ยวนี้”
“เวลาเรียน โปรดอย่ารบกวนนักเรียนคนอื่น หลังเลิกเรียนค่อยเล่น”
แม่งเอ๊ย……
นั่นมันคือการเรียนพิเศษชัดๆ
หลังเลิกเรียนนางยังต้องไปร้านยาสมุนไพรอีกนะ
“การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ได้แก่ พิณ หมากกระดาน การเขียนตัวอักษร ภาพวาด และบทกวี เมื่อครู่พูดถึงพิณไปแล้ว เรามาพูดถึงหมากกระดานกันต่อ”
อาจารย์ซ่างกวนชำเลืองมอง คนรับใช้เข้าใจ เก็บพิณบนโต๊ะของทุกคนไปทันที แล้วตั้งหมากกระดานแทน
“หมากกระดานมีอยู่สองประเภท ประเภทป้องกันและประเภทโจมตี ครั้งก่อนได้บอกพวกเจ้าไปหมดแล้ว ข้าจะไม่พูดซ้ำอีก คู่ต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดของพวกเจ้าในครั้งนี้คือเทพหมากกระดาน เทพหมากกระดานเก่งการโจมตี หมากกระดานที่เขามักจะเล่นเป็นการทำให้คู่ต่อสู้ไร้การป้องกัน ข้าจะสอนหลายๆ วิธีทำลายเกมหมากกระดานของเขา……”
กู้ชูหน่วนง่วงนอนอีกครั้ง
คำพูดจู้จี้จุกจิกนั่น นางไม่อยากได้ยินแม้แต่คำเดียว
“กู้ชูหน่วน……”
“อ่า……เลิกเรียนแล้วเหรอ”
“ฮ่าๆๆ……”
“คุณหนูสามกู้มาเพื่อเล่นเหรอ วันทั้งวันเอาแต่นอน”
อย่าว่าแต่ทุกคนจะล้อเลียน แม้แต่เซียวหยู่เซวียนก็ทนดูไม่ได้อีกต่อไป
เคยเห็นคนที่เชื่อถือไม่ได้ แต่ก็ไม่เคยเห็นคนที่เชื่อถือไม่ได้ขนาดนี้
“ยังไม่เลิกเรียนเหรอ……” กู้ชูหน่วนบ่นมาหนึ่งประโยค บ่ายนี้ช่างยาวนานนัก
“คุณหนูสามกู้สามารถนอนหลับในชั้นเรียนได้ แสดงว่าหมากกระดานที่ข้าเพิ่งสอนไป คงเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว ไม่สู้คุณหนูสามกู้แสดงให้ทุกคนได้เห็นเสียหน่อย”
แม่งเอ๊ย……
ทำไมเป็นนางอีกแล้ว
กู้ชูหน่วนประท้วง “อาจารย์ ข้าเพิ่งมาเรียนวันนี้เอง หมากกระดานที่ท่านสอนคราวก่อน ข้าไม่เคยได้ฟังเลย”
“ไม่เป็นปัญหา พวกเราสาธิตสิ่งที่สอนกันในวันนี้ก็ได้ คุณหนูสามกู้ เชิญ”
กู้ชูหน่วนชาขึ้นไปถึงหนังศีรษะ มองหมากกระดานช่องถี่ยิบ แล้วเงยหน้าขึ้นถาม “ข้าเล่นสีดำ ท่านเป็นสีขาว”
“แล้วแต่เจ้า”
กู้ชูหน่วนใช้มือไปหยิบสีดำขึ้นมาหนึ่งเม็ด ลูบคางครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดก็กัดฟันวางลง
“ฮ่าๆๆ……”
ทุกคนหัวเราะอีกครั้ง หัวเราะจนแทบหายใจไม่ทัน
“ที่ว่าคุณหนูสามกู้เป็นคนทึ่มนั้นล้วนแล้วแต่ยกย่องนางแล้ว เจ้าดูสิ นางเล่นสีดำ แต่กลับวางช่องสีขาว เดิมทีนางก็ปิดประตูตายอยู่แล้ว ตอนนี้ยังมารนหาที่ตายเองอีก หมากรุกนี้คือการขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ”
“นั่นสิ ข้าว่าคุณหนูสามกู้คนนี้ไม่รู้วิธีการเล่นหมากกระดานเลย นางแค่เล่นไปสุ่มๆ”
“เฮ้อ คนทึ่มแบบนี้ ต่อให้เข้าสู่รอบสุดท้าย ก็ไม่มีทางเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้หรอก”
“อาจารย์ ข้าว่าให้นางแพ้ไปเถอะ จะได้ไม่เปลืองแรง”
กู้ชูหน่วนพยักหน้า
คำพูดนี้มีเหตุผลนะ ปล่อยนางไปตามยถากรรม ให้หลับในชั้นเรียนไปเถอะ
“ได้ยังไง ในเมื่อยู่ในชั้นเรียนของข้า ข้าก็มีหน้าที่รับผิดชอบสอนนาง คุณหนูสาม ไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้เจ้าเรียนบทกวี ตัวอักษร ภาพวาดมาเป็นยังไงบ้าง”
“อ้อ……ก็พอได้”
“งั้นเชิญคุณหนูสามวาดภาพ แล้วค่อยตามด้วยเขียนตัวอักษรสักสองสามประโยค”
กู้ชูหน่วยหมดคำจะพูด
ซ่างกวนฉู่คำนวณอย่างดี ให้นางวาดภาพหนึ่งภาพ แถมด้วยบทกวีหนึ่งบท นี่ไม่ใช่ว่าทดสอบนางทั้งตัวอักษร ภาพวาด และบทกวีเลยหรอกหรือ
“อาจารย์ ข้าวาดรูปเก่งมากนะ เกรงว่าพวกเจ้าจะอับอายที่สู้ไม่ได้ หรือข้าไม่วาดจะดีกว่า”
ทุกคนกระอักเลือด
อะไรคือวาดเก่งมาก เกรงว่าพวกเขาจะอับอายที่สู้ไม่ได้
บ้าอะไร
ประสาทแล้ว
หลิวเยว่และคนอื่นๆ มองไปยังเซียวหยู่เซวียน
พี่ใหญ่ของพวกเขาจะทำได้ไหม อย่างไรก็รู้สึกว่าท่าทางดูจะเชื่อถือไม่ได้
เซียวหยู่เซวียนปิดหน้าตัวเอง
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพี่ใหญ่ของพวกเขา ‘ชื่อเสียง’ โด่งดังในราชวิทยาลัยมาอีก
“ไม่เป็นปัญหา ทุกคนต้องการแรงจูงใจอย่างมากจากคุณหนูสาม”
ชางกวนฉู่ยิ้มอย่างไม่เป็นอันตราย เป็นอาจารย์ที่ดีมีมาตรฐาน จนทุกคนในโรงเรียนอดชื่นชมไม่ได้ มีเพียงอาจารย์ซ่างกวนถึงได้มีความอดทนแบบนั้น
มีเพียงกู้ชูหน่วนเท่านั้นเอาแต่ก่นด่าเขาในใจ
นางหยิบพู่กัน จุ่มลงหมึกแรงๆ วาดบนกระดาษข้าวสีขาวบริสุทธิ์ แต่ละหยดหมึกทั้งเข้มทั้งหยาบทั้งหนาแน่น
ทุกคนอึ้ง
นางวาดวงกลมแล้ววงกลมเล่า ใช้หมึกสีดำละเลงทั้งหมดนี่คือทำอะไร
แล้วดูท่าทางการถือพู่กัน ทำไมใช้สองมือ
นางใช้พู่กันเป็นหรือไง
กู้ชูหลันยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
ตั้งแต่เด็กจนโตกู้ชูหน่วนไม่เคยจับพู่กันเลย และไม่เคยอ่านหนังสือด้วย นางจะสามารถแต่งบทกวีวาดภาพอะไรได้
“เสร็จแล้ว”
“เสร็จแล้ว? นี่คืออะไร”
“ตัวหมาก ตัวหมากสีดำ นู่นไง ไม่เหมือนตัวหมากนั่นเหรอ”
ทุกคนจับหน้าผาก
นี่ก็ได้หรอ?
“เชิญคุณหนูสามกู้เขียนตัวหนังสือลงไป” อาจารย์ซ่างกวนยังคงมีความอดทน และก็ไม่ได้ด่าโทษนาง
กู้ชูหน่วนขีดเขียนตัวอักษรชูที่บิดเบี้ยว ดูเหมือนจะเขียนกู้และไม่เป็น จึงเงยหน้ามองไปยังเซียวหยู่เซวียน และกระซิบถามว่า “กู้และหน่วนเขียนยังไง”
เซียวหยู่เซวียนรีบถอยหลัง
เขาไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้
ไม่รู้จักแน่นอน
ถึงเสียงกู้ชูหน่วนจะเบาแค่ไหน แต่ทุกคนก็ได้ยิน จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่น
ทุกคนต่างบอกว่าคุณหนูสามกู้ทึ่ม ตอนนี้มีหลักฐานยืนยันแล้ว นางทึ่มจริงๆ
กู้ชูหลันยืนอยู่ข้างอ๋องเจ๋อ พูดเสียงเบา “ความสามารถทางวรรณกรรมของพี่สาวข้าเป็นแบบนี้เสมอ หวังว่าอ๋องเจ๋อจะไม่รังเกียจ”
อ๋องเจ๋อหัวเราะเยาะ มองกู้ชูหน่วนด้วยสายตาที่มีแต่ความรังเกียจ “นางจะมีความสามารถทางวรรณกรรมยังไง มันเกี่ยวอะไรกับข้า ข้ายกเลิกการหมั้นหมายกับนางไปตั้งนานแล้ว”
ดวงตาที่ไร้เดียงสาของกู้ชูหน่วนฉายแววเย็นชาแปลกประหลาดแวบหนึ่ง ก่อนจะกลับไปเป็นคนทึ่มอย่างรวดเร็ว
“อาจารย์ รบกวนถามข้าผ่านหรือไม่”
“การวาดและลายมือของคุณหนูสามกู้สมควรได้รับยกย่อง เดี๋ยวเอาภาพวาดของคุณหนูสามไปแขวนไว้ที่ศูนย์กลางของโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนคนอื่นๆ ได้มีความพยายามในการตั้งใจเรียนกัน”
คำพูดประโยคนี้อีกแล้ว
ซ่างกวนฉู่ ภายนอกอ่อนโยนอ่อนหวาน แต่ในความเป็นจริงใจดำเจ้าเล่ห์ ใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพเซียนช่างหลอกลวงผู้คน
นางยิ้มอย่างประจบ “อาจารย์ แบบนี้มันไม่ค่อยดีนะ”
“ข้าว่าดีมากนะ”
กู้ชูหน่วนอารมณ์เสียกลับมานั่งที่ นางรู้สึกได้ว่าทุกคนมองนางด้วยสายตาเย้ยหยัน
เซียวหยู่เซวียนเข้ามาใกล้และพูดปลอบ “ไม่เป็นไร มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรเท่าไรหรอก อย่างน้อยข้าก็จะไม่หัวเราะเยาะเจ้า”
กู้ชูหน่วนยิ้มย่อง เป็นยิ้มที่มีเจตนาไม่ดี
“ข้าเห็นแล้ว เสี่ยวเซวียนเซวียน เจ้าพูดถูก เราสองคนเข้ากันได้ดีมาก ข้าว่าเราทั้งคู่เหมาะสมจะเป็นคู่กัน”
“โอ้แม่เจ้า”
เสี่ยวเซวียนเซวียนตกใจจนล้มตึง
เขาเก็บการปลอบเมื่อครู่กลับ
ผู้หญิงคนนั้นเป็นเหล็กคงกระพัน อะไรก็ฟันแทงไม่เข้า การปลอบของเขาเท่ากับหาเหาใส่หัว