CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อัศวินดำ - ตอนที่ 11

  1. Home
  2. อัศวินดำ
  3. ตอนที่ 11
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

◆ อัศวินดำคุโรกิ

 

สาธารณรัฐศักดิ์สิทธิ์ลีนาเรีย หนึ่งในประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้

 

เป็นเมืองที่รวมคนหลายเชื้อชาติเอาไว้โดยมีประชากรประมาณ 200,000 คน

 

โดยตัวเลขประชากรนั้นนับเพิ่งคนที่มีสถานะเป็นพลเมืองเท่านั้น หากนับคนที่ไม่มีสถานะเป็นพลเมืองล่ะก็จำนวนจะเพิ่มขึ้นมหาศาลทีเดียว

 

สาธารณรัฐศักดิ์สิทธิ์ลีนาเรียเป็นประเทศที่ไม่มีกษัตริย์ ไม่มีราชวงศ์ตามชื่อ ประเทศนี้ปกครองโดยระบบสภาซึ่งจะเลือกตั้งกันทุกๆ สี่ปี

 

สภานั้นจะได้รับเลือกจากการเลือกตั้ง แต่ก็แตกต่างกันไปตามแต่ประเทศ โดยวิหารเรน่าจะเลือกสภาจากคนที่มีคะแนนเสียงมากที่สุดจากประชาชน

 

โดยทางวิหารเรน่านั้นมีสิทธิ์ที่จะยับยั้งพลโหวตและการชุมชุมในฐานะองค์กร

 

สรุปแล้วก็คืออำนาจทางการเมืองของประเทศนี้อยู่ใต้การควบคุมของวิหารเรน่า ดังนั้นผู้ปกครองสูงสุดที่แท้จริงของประเทศนี้ก็คือวิหารเรน่านั่นเอง

 

วิหารเรน่านี่กล่าวได้ว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ของเหล่าผู้ศรัทธาเทพธิดาเรน่าและสถานที่ซึ่งผู้ศรัทธาจากทั่วโลกจะมาเคารพบูชาเทพธิดาเรน่า

 

เพราะประเทศนี้เป็นประเทศที่ร่ำรวย จึงมีนักท่องเที่ยวมากมายมาเที่ยวชมสถานที่อื่นมากมายนอกจากวิหารเทพธิดาเรน่าอยู่มาก

 

และผมเองก็มาในฐานะนักท่องเที่ยวนั้นเอง

 

[ จากนี้จะทำอะไรดีครับท่านไดร์ฮาร์ด? ]

 

นัคที่อยู่บนไหล่ของผมถามขึ้น

 

[ อืมมม จะทำอะไรกันก่อนดี… ลองหาที่พักก่อนแล้วกันนะ ]

 

ผมเดินไปยังเมืองที่อยู่นอกกำแพง

 

เพราะเมืองนี้ใหญ่มาก จึงมีหลายอย่างที่สามารถทำได้นอกเมือง

 

ถนนนอกเมืองที่ยาวเหยียดไปถึงกำแพง

 

ถ้าเป็นเมืองนอกกำแพงผมก็ไม่จำเป็นต้องแสดงตัวตน สามารถเข้าออกได้ตามสบาย

 

แต่มันจะอันตรายในตอนกลางคืนล่ะนะ

 

แต่มันก็ทำให้คนที่ไม่มีสถานะเป็นพลเมืองทำอะไรได้สะดวกดี ยังไงก็ไม่มีที่ให้ไปอยู่แล้ว

 

โดยคนที่อาศัยอยู่นอกเมืองส่วนใหญ่จะเป็นคนของประเทศที่ถูกทำลายหรือไม่ก็คนร้ายที่มีค่าหัวถูกไล่ล่าจากประเทศต่างๆ

 

ดังนั้นความปลอดภัยจึงต่ำมาก

 

หน้าที่ของอัศวินคือการปกป้องความปลอดภัยของประชาชนนอกกำแพงปราสาท

 

แบ่งเป็นกลุ่มเฝ้าระวังและกลุ่มที่เฝ้ายามภายใน โดยจะเฝ้ายามตั้งแต่ทางหลวงไปจนถึงนอกกำแพง

 

เพราะมักจะมีปีศาจปรากฏตัวที่ทางหลวง หากไม่กำจัดปีศาจเป็นระยะๆ จะทำให้นักเดินทางตายมากขึ้น

 

อัศวินต้องต่อสู้กับปีศาจและบริเวณรักษาการณ์ที่ใหญ่มาก ดังนั้นการจะเป็นอัศวินจึงต้องขี่ม้าเป็นและมีฝีมือที่มากพอควรจึงจะสามารถเป็นอัศวินได้

 

เพราะประเทศคงลำบากแน่ถ้าคนที่มีฝีมือทางการรบเป็นกบฏต่อประเทศ ดังนั้นอัศวินจึงต้องมีความจงรักภักดีด้วย

 

แต่ทว่าสุดท้ายแล้วอัศวินก็ช่วยปกป้องเพียงแค่เมืองที่พวกเขาถูกผูกมัดตามสัญญาหรือที่พวกเขาเกิดเท่านั้น

 

อัศวินจะไม่ปกป้องคนที่ไร้สัญชาติ

 

ถึงแม้ว่าจะมีคนฆ่ากันที่นอกกำแพงเมืองมันก็ถือว่าไม่ใช่หน้าที่ของอัศวิน

 

ในทางตรงกันข้าม หากคนไร้สัญชาติไปฆ่าคนที่มีสถานะเป็นพลเมือง อัศวินจะฆ่าคนไร้สัญชาติอย่างไร้ปราณีทีเดียว

 

ถ้ามองจากมุมมองของอัศวิน ผู้คนนอกเมืองก็ไม่ต่างอะไรจากปีศาจหรอก

 

งั้นทำไมไม่ขับไล่พวกผู้คนนอกเมืองไปซะล่ะ?

 

เหตุผลก็เพราะพวกเขาถือเป็นแรงงานที่ราคาถูกมาก

 

ราคาค่าแรงของพวกเขาถูกกว่าคนที่มีสถานะพลเมืองทั่วอยู่มาก จึงช่วยได้ในการก่อสร้างพัฒนาเมือง

 

ด้วยเหตุนี้ อัศวินจึงปล่อยให้เหล่าคนที่ไร้สัญชาติอยู่นอกกำแพงเมืองได้ ตราบใดที่พวกเขาไม่ทำเรื่องที่เป็นอันตรายต่อประชาชน

 

คนที่ดูเหมือนโจรเดินผ่านหน้าผมไป

 

[ ตอนนี้เราจะไปที่ไหนรึครับ? ]

 

นัคที่ย้ายมาอยู่ในกระเป๋าเสื้อกำลังถามผม

 

[คิดว่าจะไปหาโรงแรมน่ะ แต่… ดูท่าว่าจะหาโรงแรมดีๆ นอกเมืองยากล่ะนะ ]

 

เพราะนอกเมืองความปลอดภัยต่ำล่ะนะ โรงแรมถ้าจะดีก็คงเป็นด้านในเมืองจะดีกว่า

 

แต่สำหรับผมที่ไม่มีสัญชาติการจะเข้าไปในกำแพงมันก็ยากพอดูเลยนะสิ

 

ถึงจะแอบเข้าไปได้สำเร็จ แต่จะเข้าพักโดยไม่โดนสงสัยได้เหรอ?

 

คงจะดีถ้าผมใช้เวทมนตร์ลบตัวตนได้ แต่น่าเสียดายที่ใช้ไม่ได้นี่สิ

 

หลังจากบ่นจบ ผมก็เดินหาสถานที่พักที่นอกเมืองอีกครั้ง

 

ผมเดินไปรอบๆ เมืองด้านนอก

 

แอ่งน้ำจากฝนที่ตกเมื่อวานทำให้รองเท้าสกปรกทุกครั้งที่ก้าว

 

[ … ก็ถือว่าดีกว่าเมืองด้านนอกที่เจอมาล่ะนะ ]

 

ผมพึมพำคนเดียวขณะที่มองไปรอบๆ

 

จากที่พวกเราเดินทางมา นี่เป็นเมืองด้านนอกเมืองที่สามแล้ว

 

สองเมืองที่ผมเดินทางผ่านมา มันแย่มากเลยล่ะ

 

ไม่ว่าจะเป็นศพของคนที่กระจัดกระจายไปทั่ว นั่นก็ถือเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไป

 

แต่นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นศพของคนเลยนะ

 

ถึงผมจะรู้สึกไม่สบอารมณ์นิดหน่อย แต่ก็ได้แค่เบือนสายตาหนีเท่านั้น

 

ถ้าเป็นที่โลกเดิมของผมล่ะก็มันคงจะเกิดเรื่องวุ่นเข้าแล้ว

 

ตั้งแต่ที่ผมถูกอัญเชิญมา บางทีมันอาจจะเป็นผลข้างเคียงที่ทำให้ความคิดของผมเปลี่ยนไป

 

ผมไม่รู้สึกกลัวแม้จะถูกรายล้อมด้วยปีศาจตอนที่ถูกอัญเชิญมา

 

ทางตรงกันข้าม เรย์จิกับชิโรเนะน่ากลัวกว่าซะอีก

 

บางทีนี่อาจเป็นสถานการณ์เดียวกับที่ชิโรเนะกำลังพบเจอก็ได้

 

เรย์จิกับชิโรเนะจัดการพวกปีศาจมามากมาย

 

นี่พวกเขาไม่รู้สึกกลัวบ้างเลยเหรอ?

 

ผมเจอที่ที่ดูเหมือนจะเป็นโรงแรมแล้ว ผมยืนแล้วมองรอบๆ แล้วคิดอยู่สักพัก

 

แล้วก็เดินผ่านมันไป

 

เหตุผลก็คือผมไม่มีเงิน

 

ที่ที่ผมหาก็คือสถานที่ที่หลบฝนและลมได้เท่านั้นเอง

 

ผมเดินไปที่ชานเมือง

 

◆  นายทหารยากจนคนนึง โดซุมิ

 

[ บัดซบ… ข้า… จะทำยังไงดี… ]

 

ไม่มีความคิดดีๆ เข้ามาในหัวข้าเลย แม้จะพยายามขบคิดแค่ไหน

 

แม้ข้าจะดื่มเหล่าไปมากแค่ไหน ความคิดดีๆ ก็ไม่ผุดขึ้นมาในหัวข้าเลยสักนิด

 

เริ่มรู้สึกเวียนหัวแล้วสิ

 

ข้าเดินไปยังสถานที่ที่ลับตาคน

 

[ เฮ้ โดซุมิ!! ]

 

เสียงจากใครบางคนเรียกข้า ขณะที่ข้ากำลังอ้วก

 

โดซุมินั่นคือชื่อของข้าเอง

 

มันไม่ใช่ชื่อจริงของข้าหรอก แต่เพราะหน้าตาของข้าคล้ายหนู จากชื่อ ‘โซบุเนซุมิ’ พวกเขาย่อมันจนไปชื่อ “โดซุมิ’

 

ข้าหันหน้าไปก็เห็นชายห้าคนยืนอยู่ข้างหลังกับชายตัวสูงที่เด่นกว่าคนอื่นอยู่คนนึง

 

ข้ารู้จักกับพวกเขาดี

 

ใช่แล้ว พวกเขาคือเพื่อนร่วมงานของข้า กลุ่มนักทหารรับจ้างอิสระที่ข้าเคยทำมาก่อน

 

การได้เจอหน้าคนที่ไม่อยากเจอ ทำให้ข้าที่เมาอยู่ถึงกับหายเมาไปเลย

 

ตัวข้าเคยอยู่ในกองพันทหารเมืองด้านนอกของสาธารณรัฐศักดิ์สิทธิ์ลีนาเรีย

 

แม้ว่าจะว่าเป็นกองหาร แต่ก็เป็นเพียงการรวมตัวของกลุ่มนักเลงเท่านั้น

 

แตกต่างจากอัศวินจริงๆ ที่มีไว้เพื่อจัดการเหล่าปีศาจที่จะบุกเข้ามาในเมือง

 

พวกเราไม่เคยทำอะไรอย่างการจัดการพวกปีศาจเลย

 

คนที่เราจัดการจึงมีเพียงมนุษย์เท่านั้น

 

เราเป็นกลุ่มคนไม่ดีที่มักจะแย่งอาหารจากคนที่อ่อนแอ นั่นล่ะกองทหารที่ข้าเคยอยู่

 

การจะอยู่นอกเมืองโดยไม่สังกัดองค์กรไหนเลย มันใช้ชีวิตยากลำบากมาก

 

ข้าถึงได้ไม่เคยบ่นเลย ถึงแม้ว่าจะต้องทำงานที่เลวร้ายแค่ไหนก็ตาม

 

แต่เพราะกลุ่มทหารที่ข้าอยู่พยายามจะฆ่าข้านี่ล่ะ ข้าถึงได้จะร้องไห้

 

[ ไม่ใช่ข้านะ… ท่านหัวหน้า]

 

ข้ามองไปที่หัวหน้า ขณะที่เขากำลังยิ้มเยาะเย้ย

 

เขาเป็นชายร่างใหญ่ที่มีรอยแผลบนหน้าและหัวล้าน

 

แม้ว่าท้องของเขาจะมีพุงออกนิดหน่อย แต่แขนของเขาก็มีกล้ามที่ใหญ่มาก

 

[ เจ้าคิดจะหนีไปไหนโดซุมิ? แกไม่เข้าใจรึไง? ข้าก็แค่บอกให้แกไปแทงท่านผู้กล้านะ เข้าใจมั้ย? ]

 

หัวหน้ากำลังหัวเราะ

 

[ พูดอะไรกัน อย่างข้าจะไปทำอะไรผู้กล้าได้… ]

 

ข้าตะโกนทั้งที่กำลังร้องไห้

 

[ ฮ่า! งั้นแกก็ฆ่าคนรักของเจ้าผู้กล้านั้นซะก็จบแล้ว! ]

 

[ ข้าไม่ทำ! ข้าไม่อยากเป็นฆาตกร!! ก็ท่านหัวหน้าเป็นคนฆ่าเองไม่ใช่เหรอไง! ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนของผู้กล้าเชียวนะ! ]

 

[ เฮ้ย อย่าตะโกนเสียงดังสิวะ! ]

 

หัวหน้าเข้ามาใกล้ข้า

 

ข้าเดินถอยหลังไป

 

[ หลังจากข้าแทงยัยนั้น ข้าก็จะกลายเป็นแพะรับบาปแล้วพวกแกก็จะหนีไปละสิ ใครจะยอมกัน! พอผู้กล้า ถ้าผู้กล้าหายดี คนที่จะถูกไล่ล่าก็จะเป็นข้าแทน…! ]

 

[หุบปากซะ!]

 

หัวหน้าตวัดดาบของเขา

 

ขืนเป็นแบบนี้ข้าโดนฆ่าแน่

 

ถึงแม้ว่าข้าจะวิ่งหนี แต่ข้าก็คงวิ่งได้ไม่ถนัดนักเพราะอาการเมาจากเหล้าที่ดื่มไป

 

ข้าจะตายทั้งๆ แบบนี้เหรอ?

 

ไม่เอา

 

ข้าไม่อยากตาย

 

[ เอ่อ ขอโทษนะครับ? ]

 

ทันใดนั้นข้าก็ได้ยินเสียง

 

จากโทนเสียงนั่นดูท่าว่าจะเป็นเด็กหนุ่ม

 

หัวหน้าหันหน้าไปมองตามเสียง

 

แต่เพราะหัวหน้าตัวใหญ่เกินไป ทำให้หน้ามองไม่เห็นแม้แต่เงาของชายหนุ่มคนนั้น

 

เจ้าของเสียงเดินมาทางข้าในโดยไม่สนใจหัวหน้า

 

ร่างกายของคนตรงหน้าข้าสวมฮู้ดสีดำปกคลุมทั้งตัว

 

[ ขอโทษนะครับ แต่ช่วยเล่าเรื่องของคุณให้ฟังได้มั้ย? ]

 

ชายสวมฮู้ดสีดำถามข้า

 

แต่เพราะฮู้ดนั้นปกปิดใบหน้าของเขาไว้หมด ทำให้ข้ามองไม่เห็นหน้า

 

แล้วเมื่อกี้เขาถามว่าอะไรน่ะ?

 

มันจะถูกรึไม่สำหรับตอนนี้ ข้าไม่สนแล้ว ขอแค่มีคนเต็มใจอยากจะฟังเรื่องของข้า ข้าก็ดีใจแล้ว

 

[ จ เจ้าบอกว่า… อยากฟังเรื่องของข้างั้นเหรอ ]

 

ขณะที่ข้ากำลังคิดจะเล่าเรื่องทั้งหมดของข้าให้เขาฟัง

 

[ เฮ้ย ไอ้หนุ่ม เราจะเดือดร้อนเอาได้ ถ้าแกไปฟังเรื่องของเจ้านั้น! ]

 

หัวหน้าเอาดาบไปพาดไว้บนคอของชายสวมฮู้ดจากข้างหลัง

 

[ อืมม… ในเมื่อคุณหันดาบใส่ผมเอง ถ้าผมต่อสู้กลับก็อย่ามาบ่นทีหลังแล้วกัน! ]

 

หลังจากพูดจบ ชายสวมฮู้ดก็คว้าดาบขอหัวหน้า ดาของหัวหน้าหักไปในพริบตาและเขาก็โดนลูกไฟสีดำเข้าไป

 

[ อะไรกัน เวทมนตร์!!! ]

 

หัวหน้าพูดออกมาอย่างตกใจ

 

[ ขอโทษด้วยนะ แต่อยู่เงียบๆ สักพักได้มั้ย?! ]

 

ชายสวมฮู้ดหันไปทางผู้นำ ตอนนี้เข่าของเขาทรุดไปแล้ว

 

ข้าไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น

 

หัวหน้าเอามือจับคางไว้

 

ดูเหมือนขากรรไกรของหัวหน้าจะถูกตัดไปแล้ว

 

[ ฟุ กะ.. ฟุ กะ… ]

 

หัวหน้ามองชายสวมฮู้ดราวกับกำลังพูดอะไรบางอย่าง

 

ดวงตาของเขาถูกย้อมไปด้วยความกลัว

 

[ ถ้าคุณไม่บอกใครเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นมันคงจะดีกว่านะ ]

 

หลังจากชายสวมฮู้ดพูดจบ หัวหน้าและคนอื่นๆ ก็หนีไป

 

[ เอาล่ะ… ช่วยเล่าเรื่อทั้งหมดให้ผมฟังหน่อยได้มั้ย? ผู้กล้า… เรย์จิยังมีชีวิตอยู่ใช่มั้ย? ]

 

ข้าพยักหน้าเมื่อได้ยินคำถามของเขา

 

◆ อัศวินดำคุโรกิ

 

นัคและผมเดินเปลี่ยนสถานที่คุยไปยังรังของคนที่ชื่อว่าโดซุมิ

 

รังของโดซุมิ มันก็คือกระท่อมไม้ที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเล็กน้อยนั้นเอง

 

ในกระท่อมมีหลุมอยู่มากมาย ราวกับมันจะพักได้ตลอดเวลา

 

[ เรื่องมันเป็นแบบนี้เองเหรอ… ]

 

[ ถูกต้องแล้วครับนายท่าน… ]

 

จากที่โดซุมิบอก เด็กสาวที่เป็นคนของกองกำลังทหารของที่เขาอยู่ ได้เป็นที่ถูกใจของผู้กล้า

 

แม้จะบอกว่า ‘ถูกใจ’ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเพราะตัวเธอเอง แต่เพราะหัวหน้าของพวกเขาบังคับให้เธอไปเข้าใกล้ผู้กล้าเท่านั้น

 

หัวหน้าของพวกเขาข่มขู่เด็กผู้หญิงคนนั้นว่าจะฆ่าพ่อเธอ หากไม่ยอมทำตามที่พูด

 

เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่มีสถานะเป็นพลเมืองของสาธารณรัฐศักดิ์สิทธิ์ลีนาเรีย ขืนไปทำร้ายใครเข้ารับรองโดนฆ่าอย่างไม่ปราณีแน่

 

และแล้วผู้กล้าเรย์จิก็ปรากฏตัวขึ้น

 

เด็กสาวได้ขอให้เรย์จิช่วยและเรย์จิก็ยอมช่วยเธอ เพราะเด็กสาวคนนั้นก็เป็นสาวสวยนั้นเอง

 

หัวหน้าของพวกเขาจึงได้แต่ยอมถอนตัวเพราะคงไม่อาจเอาชนะผู้กล้าได้

 

แต่เพราะข่าวลือว่าผู้กล้าเรย์จิได้ตายลงด้วยน้ำมือของอัศวินดำได้แพร่กระจายไปทั่ว

 

เด็กสาวที่สูญเสียการคุ้มครองจากเรย์จิทำให้ไม่มีใครปกป้องและพ่อของถูกหัวหน้าฆ่าตาย

 

แต่ทว่าเรย์จิยังมีชีวิตอยู่

 

ถึงแม้จะเป็นเมืองภายนอก แต่เขาก็ย่อมไม่ให้อภัยกับนักฆ่าแน่

 

แต่เด็กสาวเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าพ่อของเธอ แต่หากลองตามสืบดู หัวหน้าอาจจะไม่รอดก็ได้

 

ด้วยเหตุนั้นเขาจึงต้องหาแพะรับบาป เพราะกลัวว่าเรย์จิจะมาไล่ล่า

 

แต่ผมไม่คิดว่าเรย์จิจะติดกับลูกไม้ตื้นๆ พรรค์นี้หรอก ผมที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากที่เขาเล่าแล้วก็เงียบขบคิดอยู่พักนึง

 

[ ขอบคุณสำหรับข้อมูล ]

 

ผมหยิบอัญมณีจากหลังเอวส่งให้โดซุมิ

 

โดซุมิมองที่อัญมณีที่ผมให้

 

[ นี่มัน… ของจริง? ]

 

โดซุมิมองอัญมณีจากมุมต่างๆ และพยายามจะกัดมัน

 

[ น้อยไปงั้นเหรอ? ]

 

โดซุมิส่ายหัวเมื่อผมถามออกไป

 

[ ถ้านี่เป็นของจริง ข้าสามารถออกไปจากที่นี่ไปยังเมืองอื่นยังได้เลย… ถึงอย่างนั้นนายท่าน! ให้ของมีค่าขนาดนี้กับข้าจะดีงั้นเหรอ!? ]

 

ฟันของโดซุมิสั่นขณะที่พึมพำคำพูดนั้น

 

[ ไม่เป็นไร ฉันได้ข้อมูลที่ต้องการแล้ว… นอกจากนี้นายยังให้ฉันพักในกระท่อมนี้ด้วยล่ะนะ ]

 

เมื่อโดซุมิได้ยินคำพูดของผม ก็พยักหน้าหลายครั้ง

 

[ ข้ายินดีให้กระท่อมนี้กับนายท่านเลยครับ! ข้าจะออกจากเมืองนี้แล้ว! ดังนั้นโปรดใช้ได้ตามสบายเลยครับ! ]

 

[ งั้น… ผมยังมีเรื่องจะถามอีกสักหน่อยได้มั้ย? ]

 

[ ได้ทุกเรื่องตราบที่เป็นเรื่องที่ข้าตอบได้ครับ แม้ท่านจะเป็นปีศาจข้าก็ไม่เกรงกลัว! ]

 

เขาพยักหน้าแล้วหัวเราะ

 

ผมได้ฐานมาแล้ว

 

งานต่อไปก็คือการตรวจสอบสถานะปัจจุบันของเรย์จิ

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 11"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์