อัศวินดำ - ตอนที่ 14
◆ สหายของผู้กล้า จิยูกิ
[ เอาล่ะ ช่วยบอกลักษณะของเจ้าโรคจิตนั้นมาทีสิ? ]
นาโอะกำลังถามคายะ
มีคำว่า ‘ประชุมด่วน : เหตุการณ์การบีบคลึงหน้าอกของเคียวกะ’ เขียนลงบนกระดานดำ ตัวหนังสือชัดเจน
และคนที่เขียนมันก็คือนาโอะนั้นล่ะ เพราะเธอเคยรับบทเป็นนักสืบในละครเลยกำลังเข้าสู่บทบาทอยู่ล่ะมั้ง
[ ความสูงของเขาอยู่ที่ประมาณเรย์จิ ซ่อนใบหน้าไว้ใต้เสื้อฮู้ดสีดำที่ปกปิดใบหน้าค่ะ ]
คายะตอบคำถามด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
[ ฉันรู้แล้ว คนร้ายคือนายนั้นแหละ…. เรย์จิ ]
ริโนะพูดขึ้นแล้วตบมือเอง
[ ริโนะ นั้นมันเป็นไปไม่ได้หรอก ]
เรย์จิพูดตอบกลับไป
ใช่แล้ว เรย์จิไม่มีทางเป็นคนร้ายไปได้แน่ ทุกคนที่นี่รู้ดี
[ ม-ไม่จริง ท่านพี่เป็นคนร้ายเองเหรอคะ… ถ้างั้นฉันจะยอมให้บีบคลึงยังไงก็ได้เลยค่ะ เชิญเลยค่ะ! ]
[ เอาล่ะ กลับไปเข้าประเด็นกันดีกว่า ]
[ ขอค้านค่ะริโนะจัง เรย์คุงอยู่กับพวกเราตลอดเวลา เขามีพยานที่อยู่ชัดเจนนะคะ ]
ซาโฮโกะคัดค้านเสียงแข็ง ไม่เป็นไรหรอกริโนะคงไม่คิดว่าเรย์จิเป็นคนร้ายจริงๆ หรอกน่า
[ ทุกคนเงียบก่อน เราต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดก่อน ]
นาโอะบอกให้ทุกคนเงียบ
[ งั้นคุณคายะช่วยอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดให้ฟังทีค่ะ ]
[ ค่ะ เราเดินผ่านกลางเมืองเพื่อไปซื้อขนมปังกับคุณหนูและจู่ๆ ฉันก็สังเกตเห็นว่ามีใครบางคนกำลังตามพวกเรามา ]
มีจุดหนึ่งที่ทำให้ฉันกังวลกับคำให้การของคุณคายะ
[ คุณคายะคะ แล้วพวกอัศวินมองไม่เห็นเขากันเหรอคะ? ]
[ ค่ะ ดูเหมือนเขาจะใช้เวทมนตร์ล่องหนค่ะ ]
เวทมนตร์ล่องหน เวทมนตร์ที่สามารถทำให้คนอื่นไม่รับรู้ถึงตัวตน ซึ่งคนที่ไม่มีสกิลตรวจจับระดับหนึ่งจะมองไม่เห็น
ถ้าเขาใช้เวทมนตร์ข้อสงสัยนี้ก็ถือเป็นการคลี่คลาย
[ นั่นหมายความว่าคนร้ายเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ งั้นเรามาเริ่มงานกันเถอะค่ะ]
ผู้ใช้เวทมนตร์ในแต่ละเมืองมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
แม้ว่าเมืองที่เราอยู่จะมีผู้ใช้เวทมนตร์อยู่หลายคน แต่ก็ทำให้ตรวจสอบได้ง่ายขึ้นมาก
[ คนๆ เข้ามาหาเราจากข้างหลังด้วยเวทมนตร์ล่องหน เมื่อเขาเดินเข้ามาที่ข้างหลัง ฉันก็เตะเป็นวงกลมใส่เขาค่ะ ]
[บอกว่าเตะเป็นวงกลมงั้นเหรอ ไม่ใช่ว่าคนๆ นั้นตายไปแล้วหรอกนะ… ]
คายะส่ายหัวปฏิเสธคำพูดของชิโรเนะ
[ เขาหลบลูกเตะของฉันได้ค่ะ ]
[ ง่ะ ~~ …. ]
บางคนถึงกลับกลั้นหายใจ
ศิลปะการต่อสู้ของคายะนี่ถึงขั้นใช้หาเงินได้เลยนะ แต่เจ้าโรคจิตนั้นกลับหลบลูกเตะนั้นได้ แปลว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ
[ พอฉันกระโดดเตะเขาไปสามครั้ง เขาก็จับแขนฉันแล้วโยนฉันไปค่ะ ]
[……]
ทุกคนต่างเงียบกันไปหมดและตกใจหลังจากได้ยินคำพูดของเธอ
รวมถึงฉันด้วย
คายะเก่งมากเลยนะ ขนาดในโลกเราถือยังมีชื่อเสียงดังก้องไปทั่วเชียวนะ
พูดอะไรน่ะ เขาหลบการโจมตีของเธอได้แล้วยังโยนเธอได้อีก
แม้กระทั่งเรย์จิก็ยังหลบการเตะของเธอไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
แล้วคนบนโลกนี้จะทำได้งั้นเหรอ ฉันชักสงสัยแล้วสิว่าเขาเป็นใครกันแน่
[ หลังจากนั้น เขาก็ไปลูบคลำหน้าอกคุณหนู สุดท้ายแล้วก็หนีไปค่ะ ]
[……]
ทุกท่านต่างอึ้งไปกันหมด แต่เพราะเหตุผลต่างจากเมื่อก่อนหน้านี้
[ เอาล่ะ มาเรียบเรียงสถานะการณ์กันก่อน ]
นาโอะเริ่มเขียนที่กระดานดำ
คนร้ายตัวสูงเท่ากับเรย์จิ
เขาใช้เวทมนตร์ล่องหน
เขาสามารถโยนคุณคายะได้
เขาชอบหน้าอกของคุณเคียวกะ
[ นี่มันอาจจะเชื่อมกันที่ตรงไหนสักแห่งก็ได้ ]
นาโอะพูดแล้วหันกลับมา
[ คนโรคจิตที่มีฝีมือเก่งกาจเหรอ… ]
นาโอะพูดไม่ออก
พูดตามตรงฉันก็เหมือนกัน
[ ไม่จริง นี่หน้าอกของฉัน… ตกเป็นเป้าหมายเจ้าพวกโรคจิตงั้นเหรอ!? ]
เคียวกะพูดขึ้นแล้วเอามือซ่อนหน้าอกไว้
หน้าอกของเคียวกะใหญ่รองจากซาโฮโกะ เป็นเรื่องปกติที่พวกผู้ชายจะมุ่งความสนใจมาที่หน้าอกของเธอ
[ ฉันล่ะอิจฉาคนที่มีหน้าอกเล็กจัง ]
เคียวกะพูดขึ้นแล้วมองไปทางนาโอะและริโนะ
[ คนหน้าอกใหญ่อย่างเธอไม่มีวันเข้าใจหรอกยะ!!! ]
[ ฉ-ฉันยังโตได้อีกนะ!! ]
ริโนะและนาโอะพูดออกมา
[ ไม่เป็นไรริโนะ นาโอะ ฉันไม่ใส่ใจหรอก ]
ฉันไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ว่า “ไอ้ท่าทางนั้น” ฉันล่ะอยากตีมือเขาที่ทำท่าทางลามกนั้นจัง
[ อืมมม น่าสงสัยจริงๆ ว่าคนร้ายเป็นคนแบบไหนกันแน่? ]
ชิโรเนะพูดขึ้น
ฉันเองก็กังวลเหมือนกัน
เราพยายามหาจุดเชื่อมโยงกับจุดแรกและจุดที่สองที่นาโอะเขียนขึ้น
แต่ปัญหาคือจุดที่สาม เป็นไปได้ด้วยเหรอที่จะมีคนที่โยนคายะได้ในเมืองนี้นอกเหนือจากเรย์จิ?
และจุดที่ทำให้สงสัยกันมากที่สุดก็จุดที่สี่
ฉันก็ไม่ได้อยากรู้หรอกนะว่าเจ้าโรคจิตนั้นคิดอะไรอยู่
[ งั้นวันพรุ่งนี้เราไปที่สมาคมผู้ใช้เวทกันดีมั้ย? บางทีเราอาจจะได้ตัวคนร้ายมาก็ได้ ]
ฉันให้คำแนะนำไป ฉันวางแผนที่จะค้นหาตัวคนร้ายจากจุดเชื่อมโยงที่หนึ่งและสอง
[ ใช่แล้ว ฉันต้องไปสั่งสอนเจ้านั้นสักหน่อย ที่บังอาจเอามือมาแตะต้องน้องสาวของฉัน ]
เรย์จิทำสีหน้าน่ากลัว
[ ใช่ ฉันเองก็คิดว่าเราไม่ควรปล่อยให้คนอันตรายแบบนี้ไว้ ]
ริโนะเห็นด้วยเช่นกัน
ทุกคนลงความเห็นเหมือนกัน
[ เดี๋ยวก่อนค่ะ! ]
ทุกคนมองไปทางคายะ หายากมากที่คายะจะเริ่มบทสนทนาขึ้นมา
[ มีอะไรเหรอคะคุณคายะ? ]
[ มีบางอย่างทำให้ฉันกังวลค่ะ ]
ทุกคนเอียงหัวสงสัย
[ มีอะไรต้องเป็นห่วงงั้นเหรอ? ]
คายะพยักหน้า
[ ค่ะ เทคนิคที่เขาใช้มันคือเทคนิคเดียวกับที่ท่านชิโรเนะเคยใช้กับฉันเมื่อตอนฝึกค่ะ ]
ครอบครัวชิโรเนะเปิดโรงฝึกสอนเทคนิคการต่อสู้ยูโด้อยู่
และคายะยังบอกว่าเจ้าโรคจิตนั้นใช้เทคนิคเดียวกันแน่ๆ
[ คุณชิโรเนะเคยสอนเทคนิคนั้นให้ใครบางมั้ยคะ? ]
ชิโรเนะส่ายหัวปฏิเสธ
[ อืมม ฉันเพิ่งเคยใช้ให้คุณคายะดูตอนที่มาถึงโลกนี้เองนะ ]
คราวนี้เป็นคร่าวที่คายะพยักหน้า
[ ต้องขออภัยด้วย แต่ฉันคิดว่าคนๆ นั้นแข็งแกร่งกว่าฉันซะอีกค่ะ ]
คายะพูดแล้วทำท่าทางน่ากลัว
[ เขาแข็งแกร่งกว่าฉันมั้ย ]
ชิโรเนะถาม
[ ต้องขออภัยด้วยค่ะ …. ]
คายะพูดในเชิงเลี่ยงคำตอบ
[ อือ ฉันไม่ได้ใส่ใจหรอก เพราะฉันไม่ได้เก่งยูโด้อะไรขนาดนั้นด้วย ]
ชิโรเนะหัวเราะ
[ แต่ทำไมถึงบอกว่าเขาใช้เทคนิคเดียวกับชิโรเนะล่ะ? ]
ริโนะพูดขึ้น
[ บางทีมันอาจจะเป็นเทคนิคการต่อสู้ที่คล้ายๆ กันบนโลกนี้ก็ได้ ]
ฉันเห็นด้วยกับคำพูดของนาโอะ
มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีเทคนิคการต่อสู้ที่คล้ายๆ กันบนโลกนี้
[ บางทีอาจจะแค่เทคนิคที่คล้ายกันก็ได้ค่ะ แล้วเผอิญว่าเทคนิคการต่อสู้นั้นไปคล้ายกับยูโด้ของท่านชิโรเนะ ]
คายะเห็นด้วยกับนาโอะ
จากนั้นเธอก้เดินไปหลังจากหยุดไปชั่วขณะ
[ แต่ฉันคิดว่ามันก็อาจเป็นเทคนิคการต่อสู้จากโลกเราก็ได้ค่ะ ]
ทุกคนมองหน้ากันและฟังที่คายะพูด
ราวกับเธอเพิ่งทิ้งระเบิดไว้
[ หมายความว่ามีคนอื่นถูกอัญเชิญมาที่โลกนี้เหมือนกับเรางั้นเหรอ? ]
คายะพยักหน้าให้กับคำพูดของเรย์จิ
[ หากนำทุกอย่างมารวมกัน มันก็มีความเป็นไปได้อยู่นะ ]
ฉันขบคิดถึงความหมายของคำพูดเธอ
[ ถ้าเป็นความจริง ทุกอย่างก็กระจ่างแล้ว ]
ถ้าเขาเป็นคนจากโลกของเรา การจะหลบการเตะของคายะและโยนเธอก้เป็นไปได้
และถือเป็นเรื่องปกติที่เขาจะใช้เวทมนตร์ได้เหมือนกับเรา
[ แต่เรน่าไม่ได้บอกอะไรกับเราเลยนะ ]
พวกเราบางคนพยักหน้าให้กับคำพูดของเรย์จิ
แน่นอน เรน่าไม่ได้บอกเลยว่ามีคนที่ถูกอัญเชิญมาที่อยู่ข้างพวกเราด้วย หรือว่าเธอจะลืมบอกเรา เรื่องสำคัญแบบนี้เนี่ยนะ
[เป็นไปได้ว่าจะมีใครบางคนใช้เวทอัญเชิญก็ได้… ]
นั่นมันก็มีความเป็นไปได้
[ งั้นลองไปถามจากเรน่าดีกว่า เพราะเรายังมีอีกหลายเรื่องที่อยากถามเธอด้วย ]