อัศวินดำ - ตอนที่ 18
◆ เทพธิดาแห่งความงามและชัยชนะ เรน่า
[ เกือบไปแล้วนะเรน่า ]
ตอนที่ฉันกำลังจะเข้าไปในบ้านที่เอลีอัส มีคนเรียกฉันก่อน
ฉันมองไปยังทิศต้นตอของเสียง ตรงนั้นมีชายคนหนึ่งยืนอยู่
[ มีธุระอะไรงั้นรึคะพี่? ]
ฉันถามเทพอัลพอส พี่ชายฝาแฝดที่มาเยือมฉัน
ฉันที่กำลังอารมณ์ไม่ดี และเพราะเดิมทีเกลียดพี่ชายคนนี้สุดๆ แม้ว่าหน้าตาของเขาจะคล้ายฉันก็ตาม แต่นิสัยน่ะคนล่ะเรื่อง
[ พี่ได้ยินว่าอัศวินดำคิดจะเอาชีวิตของเรน่า ]
[ แล้วไปได้ยินเรื่องนั้นมาจากไหนกันล่ะคะ? ]
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
[ ค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นอัศวินดำก็แค่ปัญหาเล็กน้อยเท่านั้นเอง ]
[ พี่รู้เขาคงเป็นตัวปัญหาสินะ ]
อัลพอสส่ายหัว
[ เมื่อกี้เขาเพิ่งจัดการภาคีอัศวินศักดิ์สิทธิ์ด้วยมือเดียวนะ ]
[ เอ๊ะ? ]
ภาคีอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่คัดเฉพาะบุคคลชั้นเลิศจากเผ่าสวรรค์และวีรบุรุษจากเผ่ามนุษย์มารับใช้ราชาเทพ โอดิน
พวกเขาคือกองกำลังที่แข็งแกร่งของเอลีอัสและเป็นอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้
พวกเขาต่อสู้ได้สูสีกับกองทหารอัศวินดำของโมเดสเลยด้วยซ้ำ
ดังนั้นคงนึกกันออกใช่มั้น ว่าคนๆ เดียวที่สามารถจัดการภาคอัศวินศักดิ์สิทธิ์ด้วยมือเดียวคนนั้นเป็นใคร?
[ เพราะท้องฟ้ารอบๆ เอลีอัสอยู่ใต้การดูแลของอัศวินศักดิ์สิทธิ์ เป็นธรรมดาที่ลีนาเรียที่อยู่ใต้การปกครองของเอลีอัสก็เช่นกัน แต่เขากลับบินบนท้องฟ้านั้น ]
ท้องฟ้าเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฏหมายของเทพ ไม่มีใครที่ถูกยกเว้น ใครจะมาบินเป็นท้องฟ้าตามอำเภอใจไม่ได้นอกจากนกเท่านั้น และอย่างน้อยฉันก็ห้ามไม่ให้พวกผู้กล้าห้ามบินบนฟ้าได้
ดังนั้นเผ่านางฟ้าและเหล่าวีรบุรุษของมนุษย์ยังคอยปกป้องท้องฟ้าโดยขี่ม้าเพกาซัสตรวจตราให้และเมื่อพบผู้บุกรุกก็จะจับกุมเท่านั้น
[ อัศวินดำสามารถจัดการอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่คิดจะจับเขาได้หมด น่า ก็ไม่แปลกใจนักหรอก เพราะอัศวินดำคนนั้นคือคนที่จัดการผู้กล้าได้ ]
อัลพอสพูดออกมา
ฉันนึกถึงอัศวินดำไดร์ฮาร์ด หน้าตาและรูปลักษณ์ของเขาไม่สมควรจะไปเป็นลูกน้องของโมเดสเลยสักนิด
ใบหน้าของชายหนุ่มที่เงามากระทบ ผมสีดำ ดวงตาสีอัลมอนด์ที่เหมือนเด็กไร้เดียงสา ทำไมคนที่หล่อเหลาขนาดนั้นถึงไปเป็นลูกน้องของเจ้าโมเดสน่าเกลียดนั้นด้วย?
[ ดูเหมือนเจ้าจะดีใจนะที่ได้ยินเรื่องของเขา เรน่า ]
อัลพอสพูดเช่นนั้น
[ เอ๊ะ! งั้นเหรอ? ]
ฉันสัมผัสที่ริมฝีปากของตัวเอง
[ แล้วท่านโอดินคิดจะทำยังไง? ]
ฉันพยายามเปลี่ยนหัวข้อการพูดคุย
[ อา ก็พยายามไกล่เกลี่ยกับโมเดสนะสิ ]
[ ไกล่เกลี่ย!? ]
เป็นคำพูดที่ไม่คาดคิดจริงๆ
[ นี่ท่านโอดินตัดสินใจโดยไม่ผ่านการตัดสินใจจากเหล่าเทพเลยเหรอ? ]
การตัดสินใจของเหล่าเทพ นั่นคือการเรียกเหล่าเทพมาเพื่อประชุมกัน
ซึ่งในแต่ละเรื่องใช่ว่าโอดินจะสามารถตัดสินใจตามใจชอบได้ โดยโอดินจะเป็นผู้ตัดสินจากเสียงข้างมากในระหว่างการประชุม และให้โอดินทำตามทำตัดสินนั้น มิฉะนั้นจะไม่มีใครเชื่อฟังคำสั่งโอดิน
[ ฉันจำไม่เห็นได้เลยว่ามีการประชุมแบบนั้นด้วย ]
การเข้าร่วมประชุมไม่ใช่หน้าที่ แต่ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะตัดสินกันโดยขาดความรู้ของฉัน
และฉันก็ไม่เคยขาดประชุมเลยสักครั้ง
หากมีการประชุมก็น่าจะมีจดหมายส่งไปให้เหล่าเทพแต่ละคน แต่ในเมื่อไม่มีจดหมายมาก็แปลว่าการตัดสินนั้นเป็นโมฆะ
[ มันต่างกันนะเรน่า มีเพียงโอดินเพียงคนเดียวที่อยากจะคืนความสัมพันธ์กับโมเดส ดังนั้นไม่จำเป็นต้องให้เทพคนอื่นปฏิบัติตาม ]
[ นั่นหมายความว่ายังไง? ]
แน่นอน ถ้าเป็นตามที่ว่า ก็ไม่จำเป็นต้องจัดการประชุม
[ ข้าคิดว่าเงื่อนไขของสัญญานี่อาจจะทำให้โอดินอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเจ้า ]
[ แน่นอน บางทีล่ะนะ ]
[ ซึ่งโอดินได้เสนอว่าจะไม่รุกรานนากอลแต่แลกเปลี่ยนด้วยการทำลายอุปกรณ์สำหรับอัญเชิญของโมเดส ]
[ ว่าไงนะ!!! ]
หากโอดินเป็นคนบอกเองว่าจะไม่บุกนากอล โอดินที่เป็นราชาแห่งเทพ… ถ้าโอดินไม่เคลื่อนไหว ก็ไม่มีใครในเอลีอัสยอมเคลื่อนไหวด้วยแล้ว
ที่สำคัญคือโมเดสจะต้องผูกติดกับสัญญาว่าจะไม่รุกรานเอลีอัสแลกเปลี่ยนกับอุปกรณ์อัญเชิญ
[ สำหรับโอดินแล้ว อัศวินดำกับผู้กล้าถือเป็นเรื่องน่าหนักใจยิ่งกว่าโมเดสซะอีก เพราะอัศวินดำคนนั้นเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่จัดการภาคอัศวินศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยตัวคนเดียว โอดินจึงคิดจะกำจัดอุปกรณ์ที่ใช้ในการอัญเชิญ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการอัญเชิญขึ้นมาอีก ]
[ งั้นแล้วผู้กล้ากับอัศวินดำที่ถูกอัญเชิญมาแล้วล่ะ? นั้นจะไม่เป็นปัญหางั้นเหรอ? ]
[ อา ที่ข้ามาที่นี่ก็เพื่อส่งข้อความว่า เจ้าจะต้องเป็นคนดูแลพวกเขา เพราะเดิมทีคนที่อัญเชิญพวกเขามาก็คือเจ้าเอง ]
รู้สึกปวดหัวจัง
เดิมทีเรื่องมันก็ง่ายๆ ฉันก็แค่ส่งพวกเขากลับไปที่โลกแห่งวิญญาณหลังจากพวกเขาปราบโมเดสได้ แต่อัศวินดำกลับปรากฏตัวในตอนนั้น
และยังต้องเสียอุปกรณ์ที่ใช้ในการอัญเชิญทั้งหมดไปอีก
เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ยังมีการห้ามการอัญเชิญและอุปกรณ์ที่ใช้ผลิตของพวกนั้นอีกด้วย
การใช้พวกผู้กล้ามาแก้ปัญหาชักจะกลายเป็นเรื่องวุ่นแล้วสิ
[ เดี๋ยวสิ ฉันไม่ใช่คนอัญเชิญไดร์ฮาร์ดมาสักหน่อยนะ!! ]
คนที่อัญเชิญขามาคือโมเดส ดังนั้นไม่เห็นจะเกี่ยวกับฉันเลย
[ เรื่องนั้นก็จริง แต่โมเดสบอกว่าการกระทำของอัศวินดำขึ้นอยู่กับผู้กล้าที่เรน่าดูแลอยู่ ถึงต้องให้เรน่าใจเย็นลงหน่อย ]
จบลงที่โอดินตัดสินใจจะไม่รุกรานอีกแล้ว แต่หากโมเดสเป็นคนมาโจมตีผู้กล้าก่อน คนที่ทำลายสัญญาก็จะเป็นโมเดส
[ ข้าก็มาบอกเจ้าแค่นี้ล่ะเรน่า หวังว่าเจ้าคงไม่ให้พวกผู้กล้าเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่จะเป็นภัยต่อเอลีอัสนะ ]
ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
นอกจากต้องมาสงบจิตสงบใจเรื่องโมเดส แล้วฉันยังต้องมาดูแลพฤติกรรมของพวกผู้กล้าอีก ถ้าพวกเขาทำตัวไม่ดีตำแหน่งของฉันในเอลีอัสมีหวังปลิวหายไปแน่
[ เข้าใจแล้ว ฉันจะหาทางทำอะไรกับพวกผู้กล้าเอง ถ้าไม่มีอะไรอยากพูดแล้วก็กลับไปสักที!! ]
ฉันตอบเขาไปด้วยน้ำเสียงโกรธ
[ ขอโทษด้วย แต่ยังมีอีกเรื่อง ]
[ แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ? ]
ฉันจ้องเขม็งไปที่อัลพอส แต่เขาคงไม่สะดุ้งกับอีแค่นี้หรอก
[ เมื่อไหร่เจ้าจะแต่งงานเรน่า? ]
[ ฮะ? ]
นี่ เขาพูดเรื่องอะไร?
[ นี่ก็เป็นข้อความจากโอดินด้วยเหรอ? ]
[ ไม่ใช่หรอก ก็แค่พี่ชายคนนี้เป็นห่วงว่าน้องสาวจะได้แต่งงานเมื่อไหร่เท่านั้นเอง ]
มันก็ไม่เห็นเกี่ยวกับนายนี่ยะ
[ เทพผู้ชายที่เอลีอัสมีแต่พวกงี่เง่าไม่จริงใจ ฉันไม่คิดจะแต่งงานมั่วซั่วหรอกนะ ]
พวกเทพที่เอลีอัสมีแต่พวกสองจิตสองใจ (มีเมียน้อย) ใครจะไปทนกันล่ะยะ
ในหมู่เทพทั้งหมดคนที่ฉันเกลียดมากที่สุดก็พี่ชายคนโตนี่ล่ะ เพราะเขามีเมียถึง 2,000 คน ฉันเกลียดทั้งพี่ทั้งพวกผู้หญิงที่มาหลงเขาก็เหมือนกัน
[ โอย๊ะ ยังมีเทพที่โสดอยู่อีกมากเลยนะ ]
[ ฉันเกลียดพวกหน้าตาน่าเกลียดยิ่งกว่าซะอีก ]
ไม่เอาทัง้นั้น ไอ้พวกหลายใจหรือพวกหน้าเกลียดก็ไม่เอา
นี่ล่ะเหตุผลที่ฉันยังโสด
[ ถ้าไม่ใช่เทพ งั้นผู้กล้าล่ะเป็นยังไง? ]
[ ไม่มีวันค่ะ เพราะเขาก็เหมือนกับพี่นั้นล่ะ ]
ฉันรู้สึกว่าเรย์จิเหมือนกับอัลพอส นั่นล่ะเหตุผลที่ฉันชอบเขาไม่ลง
[ ปากร้ายจริงๆ น้า แล้วแบบนี้ใครล่ะที่น้องอยากได้เป็นสามี? ]
ฉันเงียบไปสักพักก่อนจะตอบเขากลับไปว่า
[ …. คนพรรค์นั้นไม่มีหรอกค่ะ!! ]
พี่ชายของฉันแสดงท่าทีฉุนเฉียวและยิ้มอ่อนๆ
[ นา ช่วยไม่ได้ งั้นพี่ชายที่เธอเกลียดคนนี้ขอตัวกลับก่อนแล้วกัน ไปนะเรน่า ]
พี่ชายของฉันหันหลังกลับไป ฉันจ้อมองแผ่นหลังของเขา
จากนั้นฉันก้ส่ายหัว ขณะที่นึกถึงคำถามของเขาอีกครั้ง
ทำไมใบหน้าของไดร์ฮาร์ดถึงได้โผล่เข้ามาในใจของฉันกันนะ
◆ สหายของผู้กล้าจิยูกิ
พวกเราเสียเส้นทางที่จะกลับไปยังโลกเดิม
ฉันไม่คิดเลยว่าอุปกรณ์อัญเชิญจะถูกทำลาย
หลังจากเราไล่ตามชิโรเนะมา ก็เจอเธอกำลังต่อสู้กับไดร์ฮาร์ด
สำหรับฉันแล้วชีวิตของชิโรเนะสำคัญกว่าเรน่า แต่ชิโรเนะนั้นล่ะที่งี่เง่าที่ยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องเรน่า
เราพลัดหลงจากเธอหลายครั้งขณะที่ไล่ตามไป เพราะทหารเขี้ยวมังกรที่พบตลอดทาง
เรย์จิตอนนี้ยังไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมนัก แต่ทางคายะเองก็ทำอะไรไม่ได้เพราะต้องคอยปกป้องเคียวกะที่หมดสติกับดื่มเหล้าเข้าไป การที่เราสูญเสียกองหน้าไปเกือบทุกคนทำให้เป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากมาก เพราะริโนะและฉันที่เป็นพวกใช้ปืนไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้เพราะอยู่ในตัวอาคาร การต่อสู้กับทหารเขี้ยวมังกรจึงยากลำบากมาก
และสิ่งที่เราเห็นเมื่อเข้ามาในห้องก็คือไดร์ฮาร์ดที่ยืนอยู่และชิโรเนะที่กำลังร้องไห้
ไดร์ฮาร์ดเก็บดาบเข้าฝีกและหนีไปทันทีเมื่อเห็นพวกเรา
เราได้ยินจากเรน่าทีหลังว่า ไดร์ฮาร์ดนั้นเข้าใจผิดว่าเรน่าจะทำการอัญเชิญผู้กล้าคนใหม่จึงมาทำลายอุปกรณ์ในการอัญเชิญ
ความเป็นจริงนั้นผิดจากที่เราคาดไว้อย่างสิ้นเชิง
ข้อมูลคงรั่วไหลจากที่ไหนสักแห่งแน่ๆ แต่คำถามนี้ก็ได้รับการแก้ไขในทัน ดูเหมือนว่าพักนี้จะมีสัตว์ขนาดเล็กแอบเข้ามาในวิหาร
ไม่ต้องสงสัยลยว่า สัตว์ตัวเล็กๆ นั้นคือศัตรูของพวกเราและมันก็เข้าใจผิดเพราะเห็นเรน่ากำลังเตรียมพิธีส่งพวกเรากลับโลกเดิม
นาโอะขอโทษทุกคนที่เพิ่งรู้สึกตัว แต่มันก็สายเกินไปแล้ว ไม่มีใครสนใจรื่องที่เธอประมาทเลยสักคน
ดูเหมือนเป้าหมายของไดร์ฮาร์ดจะมีแค่การทำลายอุปกรณ์อัญเชิญ ดังนั้นในการโจมตีนี้จึงไม่มีใครเสียชีวิตเลย
ดังนั้นชิโรเนะเองก็ปลอดภัยดี
หลังจากชิโรเนะกลับมา ฉันดุเธอไปตั้งหลายเรื่องว่าพวกเราเป็นห่วงเธอขนาดไหน
ชิโรเนะร้องห่มร้องไห้
แม้ชิโรเนะจะเคยเรียนศิลปะการต่อสู้มา แต่ความจริงแล้วเธอก็เป็นแค่เด็กสาวที่อ่อนแอ ยิ่งตอนที่ดาบหลุดจากมือส่วนที่อ่อนแอของเธอก็ยิ่งแสดงออกมาเด่นชัดมากขึ้น
จากเหตุการณ์ของชิโรเนะ เราเข้าใจว่าเธอพ่ายแพ้ไดร์ฮาร์ดอย่างสมบูรณ์แบบ และได้รู้ว่าไดร์ฮาร์ดแข็งแกร่งขนาดไหน
แม้อาการบาดเจ็บของเรย์จิจะหายสนิทแต่ภารกิจปราบราชาปีศาจคงต้องเลื่อนออกไปสักพัก
แต่เรย์จิก็ไปโทษอะไรเธอไม่ได้ เพราะเขาก็ผลีผลามจะไปสู้กับไดร์ฮาร์ดเหมือนกัน
และเรายังมีข้อมูลของไดร์ฮาร์ดน้อยเกินไป แม้ว่าเขาจะมีส่วนคล้ายกับเรย์จิที่ไม่ชอบการฆ่าอย่างไร้ประโยชน์ แต่หากมีใครหันดาบใส่เรย์จิ คนๆ นั้นจะต้องตายแน่นอน ในกรณีของไดร์ฮาร์ดแม้จะหันดาบใส่เขา เขาก็ไม่ได้ฆ่า นี่เขาเป็นลูกน้องผู้ชั่วร้ายของราชาปีศาจแน่เหรอ?
หรือว่าเขาจะมีส่วนที่คล้ายกับเรย์จิคือไม่ฆ่าเฉพาะผู้หญิง? ไม่สิ งั้นจะอธิบายเรื่องอัศวินในวิหารที่นอนหลับอยู่นั้นได้ยังไง
อัศวินดำนี่ช่างเป็นคนที่ลึกลับจริงๆ ขณะที่ราชาปีศาจโมเดสขังตัวเองอยู่ที่นากอลโดยไม่ทำอะไร แต่ลูกน้องของเขากลับจัดการพวกเราได้อย่างราบคาบ ความเสียหายที่เกิดจากลูกน้องของราชาปีศาจนั้นน่ากลัวมาก งั้นเหตุการณ์เลวร้ายที่ประเทศต่างๆ ถูกโจมตีจากปีศาจก็เป็นฝีมือของไดร์ฮาร์ดด้วยงั้นเหรอ?
แต่สงสัยฉันจะคิดมากเกินไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
ที่สำคัญเรามีเรื่องอื่นที่ต้องทำหลังจากนี้
เราไม่สามารถซ่อมอุปกรณ์อัญเชิญได้และไม่สามารถหาจากที่ไหนได้อีกแล้ว
จึงไม่มีทางเลือกนอกจากหาใคนสักคนที่สามารถใช้วทมนตร์ส่งเรากลับไปยังโลกเดิมได้ เพราะเราได้รับการยืนยันจากเรน่าแล้วว่ายังมีคนอื่นที่ใช้เวทอัญเชิญอยู่
พอเราถามรน่าไป ข้อมูลเกี่ยวกับคนๆ นั้นเธอบอกว่าไม่รู้อะไรเลย ยกเว้นความจริงที่ว่าเขาสามารถใช้เวทอัญเชิญได้ แม้ท่าทีของเธอจะแปลกๆ จนทำให้ฉันกังวลแต่ก็ยังดีล่ะนะ
วิธีที่เร็วที่สุดก็คือตามหาเจ้าโรคจิตที่ทำร้ายคุณเคียวกะเพื่อหาตัวคนๆ นั้น แต่ฉันค้านไปเพราะมันช่วยไม่ได้
ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่
◆ ราชาปีศาจโมเดส
[ งั้นรึ ลอร์ดไดร์ฮาร์ดมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ กับผู้กล้าสินะ… ข้าเข้าใจแล้วนัค ]
[ ตามบัญชาครับ ]
นัคถวายความเคารพให้ข้า
ข้าที่เพิ่งได้รายงานจากนัคที่อยู่บนไหล่ของลูคัส
[ แล้วสถานการณ์ปัจจุบันของลอร์ดไดร์ฮาร์ดล่ะ? ]
[ ครับ ดูๆ ไปแล้วก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงครับ แต่ทว่า… ]
[ แต่? ]
[ กระผมคิดว่าเขาคล้ายกับฝ่าบาทตอนที่เพิ่งมาถึงดินแดนนี้เลยครับ ]
[ งั้นเหรอ… ]
แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวิหารจากรายงานของนัค แต่บางทีคงเกี่ยวกับผู้หญิงคนที่ลอร์ดไดร์ฮาร์ดหลงรัก
ตอนนั้นข้าร้องไห้เพราะความชิงชัง
เท้าของข้ามันขยับไปเองตามความปรารถนาที่ข้าอยากจะสร้างโมน่าขึ้นมา
เพื่อสร้างโมน่า ข้าต้องการสื่อเวทมนตร์อีกมากมาย เพื่อสรรค์สร้างชีวิตและเวทมนตร์เข้าด้วยกัน ผสมผสานกับอุปกรณ์วิเศษจากเฮย์บอสเพื่อนของข้า
ฉันยืนหยัดขึ้นเพื่อสร้างเทพธิดาของตัวเอง เทพธิดาที่งดงามไม่แพ้เทพธิดาแห่งเอลีอัสที่ขับไล่ข้าออกมา
และผลที่ได้ก็คือโมน่า
พอข้านึกถึงโมน่าแล้ว…
[ เดยุฟุฟุฟุ ]
[ เอ่อ… มีอะไรเหรอครับฝ่าบาท? ]
ลูคัสเรียกข้าด้วยสีหน้าเป็นห่วง
ข้าที่คิดถึงเรื่องในคืนนั้นของข้ากับโมน่า ปล่อยเสียงออกมาดังมากโดยไม่ตั้งใจ
ลืมมันไปซะ ลืมมันไปเดี๋ยวนี้
[ โอ๊ะ ขอโทษด้วย มันเกี่ยวกับลอร์ดไดร์ฮาร์ดน่ะ ]
[ อ-อา ครับ ]
[ เรามาสร้างเทพธิดาเพื่อให้กำลังใจลอร์ดไดร์ฮาร์ดกันดีมั้ย? ]
[ เหมือนท่านโมน่ารึครับ? ]
ข้าพยักหน้าให้กับลูคัส
เพราะหากเป็นไปได้ข้าก็อยากให้ลอร์ดไดร์ฮาร์ดอยู่ที่นากอล
เพราะข้าอยากให้เขาคอยปกป้องข้าและโมน่า
แต่ในกรณีนี้ข้าควรทำยังไง?
ใช่แล้ว สิ่งที่ดีที่สุดก็คือมอบผู้หญิงให้ใช่มั้ย?
เพียงแต่การสร้างเทพธิดาเป็นเรื่องต้องห้ามในเอลีอัส
ในกรณีนี้เขาก็จะกลายเป็นศัตรูของเหล่าเทพเหมือนกับข้า เช่นนั้นเขาก็ต้องอยู่ที่นากอลใช่มั้ย?
ลอร์ดไดร์ฮาร์ดที่แข็งแกร่ง ที่สามารถทำลายภาคีอัศวินศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างง่ายดายระหว่างทางกลับ แต่หากเขาเป็นพวกเดียวกับข้า ข้าก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
ข้าเผลอยิ้มไปโดยไม่รู้ตัว
[ กุฟุฟุฟุฟุฟุฟุ ]
[ เอ่อ… ฝ่าบาท…]
ลูคัสเรียกข้าเพราะเป็นห่วงที่จู่ๆ ข้าก็หัวเราะ
◆อัศวินดำคุโรกิ
โมเดสให้ห้องๆ หนึ่งในปราสาทกับผม ซึ่งห้องนั้นมีขนาดกว้างขวางมาก
แต่เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งในห้องก็มีเพียงแค่โต๊ะ พรมปูเท้า และเตียงเพียงเท่านั้น
ผมไม่รู้จะพูดยังไงดีกับปีศาจหน้าเหมือนหมีนั้นเลย ดูเหมือนว่าผมจะสามารถขอร้องอะไรก็ได้ตราบเท่าที่ขอไป
นี่ผมโดนปฏิบัติเหมือน VVIP ของนากอลเลยทีเดียว
นากอลไม่ใช่ดินแดนที่ไร้ซึ่งความงามแต่ก็ไม่ใช่ดินแดนที่สวยงาม ภาพวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างออกจะน่าบื่อเพราะมีแต่อากาศมืดมนลอยไปมา
และนากอลยังไม่เหมาะในการเพาะปลูก กระทั่งเตียงนี้ก็เทียบไม่ได้เลยกับเตียงที่หมู่บ้านเอลฟ์ที่ผมเคยแวะระหว่างเดินทาง
แต่ดูเหมือนนี่จะเป็นเตียงที่ดีที่สุดของนากอลแล้ว
ผมรู้สึกว่าสภาพความเป็นอยู่แบบนี้ไม่ได้ดีไปกว่าการอยู่ที่ญี่ปุ่นเลย
ผมที่ไม่รู้จะทำยังไง นอนราบลงไปบนเตียง
ตอนนี้ก็รู้สถานการณ์ของชิโรเนะแล้ว ชิโรเนะกับคนอื่นๆ คนกลับไปที่โลกเดิมด้วยเวทอัญเชิญนั้นไม่ได้แล้ว
แต่ตราบใดที่พวกเธอยังอยู่ใต้การดูแลของเทพธิดาเรน่า พวกเธออาจจะตกอยู่ในอันตรายก็ได้
หรือผมควรจะช่วย?
ไม่ล่ะ คงไม่จำเป็นต้องช่วยพวกเขา เพราะศาสตร์การผลิตอุปกรณ์อัญเชิญเพิ่งถูกสั่งห้ามในเอลีอัสไปเมื่อไม่กี่วันก่อน อย่างน้อยตอนนี้พวกเขาก็ยังกลับไปที่โลกวิญญาณไม่ได้
อีกอย่างถึงจะดูอ้อมค้อมเกินไป แต่ผมไม่ได้คิดจะทำร้ายพวกผู้กล้าหรอก แค่ได้ยินว่าเรน่าจะไม่ส่งพวกเขากลับไป เท่านี้ผมก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพวกเขาอีกแล้ว
คงไม่เป็นไรแล้วล่ะมั้ง ถ้าผมเมินเฉยต่อชิโรเนะและคนอื่นๆ ซะ
ผมส่ายหัวเพื่อไล่ความคิดนั้นออกไป
พูดตามตรง ผมไม่อยากเอาตัวเองไปมีเอี่ยวกับเรื่องนี้ไปมากกว่านี้แล้ว
นอกจากนี้ ทำไมผมถึงต้องไปช่วยเรย์จิที่ทำให้ผมต้องรู้สึกเศร้าด้วยล่ะ?
แล้วพวกเขาก็น่าจะถูกสั่งห้ามโจมตีนากอล ผมก็น่าจะเลิกกังวลได้แล้ว ใช่แล้วเลิกกังวลดีกว่า
แต่ว่าพวกเขาน่าจะพยายามทำอะไรสักอย่างเพื่อกลับโลกดิม แต่เดิมทีผมก็แค่ตัวคนเดียวการจะหาวิธีกลับโลกเดิมด้วยตัวคนเดียวมันเสียเปรียบด้านจำนวนชัดๆ ไม่ใช่ว่าผมอิจฉาหรืออะไรหรอกนะ
… ไม่ดีๆ เปลี่ยนหัวข้อดีกว่า
จากนี้ไปจะทำอะไรดีน้า
อันดับแรกก็ทาหนทางที่จะกลับโลกเดิม ถึงโมเดสจะบอกว่ายังไม่รู้วิธีส่งกลับไปยังโลกเดิมก็เถอะ
ตอนนี้ผมเลยต้องอยู่ที่โลกนี้ไปก่อน
และดูท่าผมคงจะต้องใช้ชีวิตที่โลกนี้อยู่อีกนาน
แต่ผมไม่มีเพื่อนอยู่ที่โลกนี้เลยสักคน
ผมอยากได้เพื่อน… เพราะต้องอยู่ที่โลกนี้อีกนาน
แม้ว่าโมเดสจะเป็นเพื่อนของผมเหมือนกัน แต่มันก็ต่างจากที่ผมต้องการนิดหน่อย
อย่างที่คิดเลย เรย์จินี่ดีจังน้า ที่มีเพื่อนรายล้อม
แถมพวกเธอยังเป็นสาวสวยทุกคนด้วย
ผมนึกถึงคำสัญญาของโมเดส
โคลนนิ่งเทพธิดา…
บางทีคงถึงเวลาที่ผมจะไปเอารางวัลจากโมเดสแล้ว
ถ้าเป็นไปได้ อยากได้สาวน้อยน่ารักจะดีมากเลยน้า
ดีล่ะ ไปลองถามเขาดูดีกว่า
อยากมีสาวน้อยน่ารักคอยเคียงข้างจัง ผมคิดเช่นนั้น