CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อัศวินดำ - ตอนที่ 22

  1. Home
  2. อัศวินดำ
  3. ตอนที่ 22
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

◆ เทพธิดาแห่งความปัญญาและชัยชนะ เรน่า

โมน่า

นั่นคือชื่อเทพธิดาปลอมที่สร้างมาจากเส้นผมของผม สรุปสั้นๆ ก็คือโคลนนิ่งของฉัน

ถ้าถามว่าทำไมฉันถึงได้รู้ถึงการคงอยู่ของเธอ แม้ว่าโมเดสจะพยายามปกปิดเรื่องของเธอไว้

แม้ฉันจะไมรู้เหตุผล แต่วันหนึ่งภาพในฝันนั้นก็ปรากฏขึ้นโดยเป็นในมุมมองของตัวเธอ(โมน่า)

บางทีสาเหตุคงเพราะเธอเป็นโคลนนิ่งของฉัน

นอกจากนี้ฉันสามารถรับรู้ถึงข้อมูลจากตัวเธอได้ แต่เธอไม่สามารถรับรู้ถึงทางฝั่งฉันได้ บางทีคงเป็นความแตกต่างระหว่างตันแบบกับโคลนนิ่ง โมน่าจึงไม่รู้ว่าฉันสามารถสืบข้อมูลจากตัวเธอได้

ดังนั้นแม้ฉันจะอยู่ที่เอลีอีสก็สามารถรู้ข้อมูลทุกก้าวของนากอลได้

แต่มันก็มีข้อมูลที่ฉันไม่อยากรู้อยู่เหมือนกัน

มันยิ่งเลวร้ายขึ้น เพราะเหมือนฉันถูกบังคับให้ดูโมน่ากับโมเดส **** กันทุกคืน ด้วยเหตุนี้ฉันจึงมองเห็นร่างกายเปลือยเปล่าอันน่าเกลียดของโมเดสทุกคืนในความฝัน ให้ตายสิ นี่มันฝันร้ายชัดๆ ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ได้…

ด้วยเหตุนี้ฉันจึงทำการอัญเชิญเรย์จิมาเพื่อปราบโมเดส

แต่แผนการของฉันเหมือนรถไฟที่ตกรางกลางคัน เพราะโมเดสอัญเชิญไดร์ฮาร์ดออกมา

แม้ฉันจะไปปรึกษากับคาซ่า เทพธิดาที่สามารถมองเห็นอนาคตได้ ว่าช่วยทำอะไรสักอย่างกับไดร์ฮาร์ดทีได้มั้ย พลังของคาซ่าทำให้เธอมองเห็นอนาคตอันสั้นและทางเลือกนับไม่ถ้วนได้ แทนที่จะเรียกว่าการมองเห็นอนาคต น่าจะเรียกว่าคาดการณ์อนาคตจะดีกว่า

แต่เธอไม่สามารถมองเห็นอนาคตที่ไม่มีทางเกิดขึ้นหรือไม่มีอยู่ได้ ความสามารถนี้ทั้งไม่สมดุลและอันตราย ทำให้ฉันพึ่งพาแต่คาซ่ามากไม่ได้

ไม่มีทางเลือก ฉันคงมีแต่ต้องลงมือด้วยตัวเองซะแล้ว

ฉันรู้ข้อมูลนากอลมาจากโมน่า แต่ดูเหมือนบางครั้งโมเดสก็ไม่ได้บอกอะไรมากกับโมน่า ข้อมูลจึงเชื่อถือไม่ค่อยได้

ส่วนการอัญเชิญไดร์ฮาร์ด โมน่าเองก็ไม่รู้จนกระทั่งถึงเวลานาทีสุดท้าย นี่คงเพราะโมเดสไม่ไว้ใจโมน่านั่นเอง โมเดสก็แค่อยากจะทำให้โมน่าสบายใจและใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ดังนั้นโมเดสจึงไม่ได้บอกเรื่องปัญหาต่างๆ ในนากอลกับโมน่าเลย

มีเพียงบางครั้งเท่านั้นที่เขาจะบอกข้อมูลสำคัญให้รู้

ดังนั้นฉันเลยรู้ว่าไดร์ฮาร์ดกำลังเอาเขาของราชันย์มังกรศักดิ์สิทธิ์เพื่อสร้างโคลนนิ่งของฉันขึ้นมา

เพื่อการนั้น ฉันต้องทำลายแผนการของพวกเขาให้ได้

แต่ไดร์ฮาร์ดแข็งแกร่งเกินไป คงยากที่จะหยุดเขา แม้ฉันจะมีวาลคิเรียที่เป็นลูกน้องของฉันก็ตาม

พลังต่อสู้ของพวกเธอก็ยังด้อยกว่าอัศวินศักดิ์สิทธิ์อยู่มาก ดังนั้นคงไม่พอจะไปต่อสู้กับไดร์ฮาร์ดที่จัดการภาคีอัศวินศักดิ์สิทธิ์ได้หรอก

ฉันจึงใช้ได้เรย์จิ

นั่นล่ะแผนดั่งเดิมของฉัน

ฉันทำการสร้างบาเรียปกคลุมทางเข้าของถ้ำราชันย์มังกรศักดิ์สิทธิ์เพื่อที่จะได้รู้เมื่อไดร์ฮาร์ดเข้าไปในถ้ำ

และหลังจากที่ไดร์ฮาร์ดตัดเขาจากราชันย์มังกรศักดิ์สิทธิ์ได้

ก็ต้องถูกเรย์จิที่รออยู่ที่ปากถ้ำหยุดเอาไว้

ในช่วงชลมุล วาลคิเรียของฉันก็จะไปขโมยเขามังกรมาจากเขาซะ

กระดิ่งที่ฉันมอบให้เรย์จินั้นจะเคลื่อนย้ายพวกเขาไปที่ถ้ำทันทีที่กระดิ่งดังขึ้น

จากนั้นฉันก็ได้รับการติดต่อจากวาลคิเรียว่า ไดร์ฮาร์ดมาถึงอาณาจักรร็อกแล้ว เราจึงมุ่งหน้าไปที่ดินแดนนี้ด้วยเรือบิน

ฉันได้รับการติดต่อว่าพวกเขามาถึงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ในช่วงเวลานั้นพวกเขาทำอะไรกันอยู่นะ

ฉันรู้ถึงพลังของพวกเขาดี ดังนั้นถึงได้รีบบอกให้มากันโดยเร็ว

เรย์จิเป็นคนที่มาจากต่างโลกและยังแข็งแกร่งมาก พลังของเขาคงจะพอจะต่อกรกับเทพของเอลีอัสได้เลยล่ะนะ

ถึงตอนนี้จะปฏิบัติกับพวกเขาเหมือนมนุษย์ แต่ก็ยังลังเลว่าจะไม่เป็นไรเหรอ ถ้าให้พวกเขาอยู่กับพวกมนุษย์?

ซึ่งการจะปฏิบัติกับพวกเขาเหมือนเทพก็ไม่ได้ซะทีเดียว เพราะการจะเป็นเทพต้องมีผู้เสนอชื่อมาและมีเทพจำนวนหนึ่งของเอลีอัสยอมรับจึงจะถูกได้รับการยินยอมว่าเป็นเทพของเอลีอัส

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ถูกปฏิบัติเป็นเผ่าพันธุ์ที่เหนือกว่านางฟ้าหรือเอลฟ์ เพราะพวกเขาไม่มีลักษณะพิเศษเหมือนทั้งสองเผ่าพันธุ์นั้น สุดท้ายจึงต้องปฏิบัติกับพวกเขาเช่นเดียวกับมนุษย์ที่เป็นเผ่าพันธุ์ที่ชั้นต่ำกว่า ถึงแม้พวกเขาจะมีพลังเหมือนเทพแต่ก็ยังเป็นมนุษย์ อา เป็นเรื่องน่าปวดหัวจริงๆ ว่าจะปฏิบัติตัวกับพวกเขายังไงดี

เอาล่ะ คราวนี้มานึกถึงสาเหตุที่ทำให้พวกเขาอึดอัดใจกัน จิยูกิปฏิเธไอเดียของเรย์จิที่จะไปต่อสู้กับไดร์ฮาร์โ ถึงขนาดทำให้การเดินทางล่าช้า

ฉันน่ะสิที่จะมีปัญหาถ้าพวกเขาไม่ต่อสู้กัน งั้นจะมีเหตุผลอะไรให้ฉันต้องอัญเชิญพวกเขามาด้วย?

ถ้าเธอกลายเป็นก้างขวางคอ คงไม่มีทางเลือกแล้วสินะ … ฉันหยิบขวดๆ ออกมาจากหน้าอก

ยาเสน่ห์

คนที่ดื่มยาขวดนี้จะทำให้ตกหลุมรักคนๆ แรกที่เจอ มันเป็นยาเวทมนตร์ที่มีฤทธิ์แรงมากจนแทบจะไร้เหตุผล ฉันจะให้จิยูกิดื่มยาขวดนี้ซะ

นี่เป็นยาที่อันตรายมากถึงขั้นเปลี่ยนคนที่ดื่มให้กลายเป็นทาสได้ทีเดียว

แม้ว่าจะมีเวทมนตร์ที่ทำให้กลายเป็นทาสได้อยู่ แต่ผลข้างเคียงของมันคือทำให้พลังเวทมนตร์ของอีกฝ่ายลดลงเป็นค่าตอบแทน… เพราะต้องใช้งานเธออยู่ จึงไม่อยากลดความสามารถของเธอลงล่ะนะ

ซึ่งเจ้ายาเสน่ห์นี้จะทำให้ควบคุมคนได้โดยไม่ลดความสามารถลง

ที่จริงฉันเตรียมยานี้เอาไว้ใช้กับเรย์จิ เพราะคนที่ถูกอัญเชิญจริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องทำตามคำสั่งของผู้อัญเชิญก็ได้

ฉันจึงเตรียมยาเสน่ห์ไว้ใช้ในกรณีนั้น

แต่สุดท้ายก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ยานี้กับเรย์จิ เพราะเขายอมทำตามที่ฉันขออย่างง่ายดาย ดังนั้นเอายานี้ไปใช้กับจิยูกิแทนตั้งแต่เริ่มเลยดีกว่า

แต่ยาเสน่ห์เองก็มีข้อจำกัดอยู่

ประการแรก จะต้องให้เป้าหมายเห็นเป็นคนแรกที่พบหลังดื่มยาและยาจะไม่มีผลหากรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายผิดแปลกเกินไป เช่นหากให้ลิงดื่มยานี้เข้าไปก็จะไม่ตกหลุมรักหมา แต่อาจมีผลข้างเคียงแปลกๆ เกิดขึ้นบ้าง หากคนที่พบนั้นผิดแปลกจากที่ควรเกินไป  แต่สุดท้ายพวกเขาก็จะกลายเป็นเพื่อนสนิทกันนั้นล่ะ

ฉันควรจะหยุดการขัดขวางของจิยูกิโดยให้เธอดื่มเจ้านี้ซะ เพราะตราบใดที่ไม่มีใครหยุดเรย์จิ เท่านี้ฉันก็สบายแล้ว

ประการที่สอง ยานี้จะไม่มีผลหากเป้าหมายตกหลุมรักอีกฝ่ายอยู่แล้ว กล่าวก็คือการเอายานี้ไปให้คู่รักที่รักกันดีดื่มมันใช้ไม่ได้ผล ในขณะเดียวกันทำให้เป้าหมายไม่รักคนอื่นนอกจากผู้ที่ดื่ม ดังนั้นสำหรับคนที่รักเดียวใจเดียวอยู่แล้วยานี้จะไม่มีผล

นอกจากนี้ผลของยาจะขึ้นอยู่กับปริมาณที่ดื่มเข้าไปและการต้านทานเวทมนตร์ของอีกฝ่ายด้วย ยาจะไม่มีผลหากอีกฝ่ายมีพลังต้านทานเวทมนตร์เพียงพอ

เอาล่ะ สงสัยจังนะว่าต้องให้จิยูกิดื่มยานี้ไปมากแค่ไหน ยาในมือฉันตอนนี้เป็นของพิเศษที่มีประสิทธิภาพอย่างเหลือเชื่อ แค่หยดเดียวก็สามารถทำให้มนุษย์ธรรมดารักใครสักคนไปได้ตลอดชีวิตเลยล่ะ

แล้วในกรณีที่อีกฝ่ายถึงขนาดต้านทานเวทมนตร์ของเทพได้นะ ต้องให้ดื่มไปขนาดไหนดีนะ?

นี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ฉันใช้ยาเสน่ห์ ยานี้เป็นสิ่งต้องห้ามที่เอลีอัสเพราะมันเป็นยาที่มีผลรุนแรงมาก

และเพราะไม่สามารถยกเลิกผลของยาได้เมื่อเป้าหมายดื่มเข้าไป จึงมีแต่ต้องพึ่งพาความต้านทานเวทมนตร์ของอีกฝ่าย เพื่อทำให้ยาไร้ผลเท่านั้น

ถ้ามีใครรู้เข้าละก็คงไม่จบแค่ถูกเนรเทศแน่ และหากรู้อีกว่าเทพแห่งเอลีอัสเป็นผู้ใช้ยานี้กับมนุษย์ล่ะก็…. อันตรายจริงๆ เลย

และยังไม่รู้ว่ายาเสน่ห์จะมีผลยังไงกับคนที่มีพลังเวทมหาศาลเหมือนเทพด้วย เพราะเดิมทีก็ไม่เคยใช้กับเทพด้วยสิ

แต่การต่อสู้ของเรย์จิกับไดร์ฮาร์ด ฉันจะต้องทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้

แน่นอน ฉันไม่ยอมให้เขาตัดเขาของราชันย์มังกรศักดิ์สิทธิ์ไปได้หรอก

แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้ไดร์ฮาร์ดก็ยังไม่เคลื่อนไหว ขนาดเขามาที่อาณาจักรนี้ก่อนหน้าแต่ก็ยังไม่ได้ตัดเขามังกรไป แถมเรย์จิยังมาช้ากว่ากำหนดการณ์อีก แต่สถานการณ์ตอนนี้มันก็ยังไม่สายเกินแก้

แต่ฉันไม่อาจรู้ได้ว่าไดร์ฮาร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่ไหน

เพราะลูกน้องของฉันไม่ค่อยเก่งเรื่องการตามหาใครเท่าไหร่ จึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักถ้าจะให้พวกเธอออกค้นหา

ตอนนี้พวกเธอเลยอยู่ที่เรือบินเพื่อซ่อนตัวไม่ให้ไดร์ฮาร์ดเห็น ซึ่งนอกเหนือจากนี้ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

ด้วยเหตุนี้ฉันจึงแอบลอบเข้าไปในอาณาจักรร็อกเพื่อดูสถานการณ์และให้จิยูกิดื่มยาเสน่ห์

แม้ว่าเหล่าไมเดรนจะอยากติดตามไปด้วย แต่พวกเธอตามมาด้วย มันก็ไม่ใช่การเคลื่อนไหวแบบลับๆ นะสิ ดังนั้นฉันจึงมาคนเดียว อย่างน้อยก็ทำให้ไม่เด่นล่ะนะ

แม้ฉันจะไม่เก่งเรื่องการแอบลอบเข้าไป แต่อย่างน้อยก็คงไม่ถูกมนุษย์เจอตัวหรอก

ปัญหาก็คือไดร์ฮาร์ด ฉันไม่รู้ว่าความสามารถด้านการตรวจจับของเขาดีขนาดไหน ถ้าเขามีพลังมากเท่ากับนาโอะที่เป็นเพื่อนของเรย์จิ อาจจะค้นหาฉันเจอได้ง่ายๆ เลยก็ได้

ถึงความสามารถการตรวจจับของเขาจะดีไม่ถึงระดับนาโอะก็ยังหาฉันเจอได้ง่ายๆ อยู่ดี ถ้าสามารถตรวจจับพลังเวทมนตร์ได้ระดับเดียวกับชิโรเนะหรือคายะ เพราะที่ฉันปิดบังไว้ก็มีแค่พลังเวทมนตร์เท่านั้น

ฉันเข้ามาในอาณาจักรร็อกอย่างระมัดระวัง

เดินตรงไปโดยรับรู้จากกระดิ่งที่มอบให้เรย์จิเป็นตัวนำทาง

แต่และตรงหน้าฉันก็มีคนยืนขวางอยู่

ฉันรู้สึกตกใจมากที่ได้เห็นใบหน้าของคนๆ นั้น

ใบหน้าที่ฉันเคยเห็นที่วิหาร

ดวงตาสีน้ำตาลเหมือนคริสตัลและผมสีดำ คนๆ นั้นกำลังจ้องมองมาที่ฉัน

[ ด… ไดร์ฮาร์ด!!? ]

คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันก็คือไดร์ฮาร์ด

ไม่จริง นี่เขาหาฉันเจอได้ง่ายๆ เลยงั้นเหรอ?

[ ไม่พบกันนานนะครับ ท่านเทพธิดาเรน่า ]

ไดร์ฮาร์ดพูดทักทายให้กับฉัน

◆ ปราชญ์ผมดำ จิยูกิ

บ่อน้ำพุร้อนที่คฤหาสน์ช่างกว้างขวางและสะดวกสบาย

แม้ว่าบ่อน้ำพุร้อนที่คายะได้รับมาจะมีขนาดเล็ก ในระดับที่แช่ได้ไม่กี่คน แต่ก็เพียงพอสำหรับลงแช่พร้อมกัน 6 คนและกว้างพอจะว่ายน้ำได้

[ มีอะไรงั้นเหรอนาโอะ? ]

จู่ๆ นาโอะก็จ้องมองมาที่ฉัน ขณะที่กำลังแช่น้ำอยู่

[ แค่คิดนะคะ ว่าผมของคุณจิยูกิสวยจังเลยน้า ]

[ งั้นเหรอ ขอบคุณนะ ]

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนชมเรื่องผมของฉัน ใครจะรู้สึกไม่ดีบ้างล่ะ ถ้ามีคนชมน่ะ

ในทางกลับกัน เส้นผมคงเป็นอย่างเดียวแล้วล่ะที่คนเดียวชมฉันล่ะ

[ อย่างที่คิดเลย สมกับผู้มีสมญานามว่านักปราชญ์ผมดำเลยนะคะ ]

นักปราชญ์ผมดำ นั่นคือสมญานามของฉัน แต่ไม่ใช่ฉันคนเดียวหรอกนะที่มีสมญานามแบบนี้

ชิโรเนะเป็น ‘สาวบริสุทธิ์แห่งดาบ’ ริโนะก็เป็น ‘นางฟ้าเริงระบำ’

ทั้งสองคนตอนนี้กำลังแช่น้ำอยู่ พวกพวกเธอปล่อยผมออกมาให้บรรยากาศเปลี่ยนไปเลยนะ และผิวขาวอมชมพูนั้นอีก

ฉันมองไปพวกเธอที่อยู่ข้างๆ ฉัน

[ นี่ กำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่เหรอคะ? ]

ริโนะอยากจะเข้าร่วมด้วย

[ กำลังพูดถึงเส้นผมของคุณจิยูกิน่ะ เพราะมันสวยมากเลยล่ะ ]

[ ใช่แล้วค่ะ ผมของคุณจิยูกิสวยจนน่าอิจฉาเลยอ่ะ ]

[ มาคิดดู ผมของคุณชิโรเนะเองก็สวยเหมือนกันนะคะ ]

ฉันเปลี่ยนความสนใจไปที่ผมชิโรเนะ ตอนนี้เธอกำลังรวบหางม้าแบบลวกๆ อยู่

[ เห็นด้วยเลยค่ะ เวลาหางม้าของชิโรเนะสบัดไปมายิ่งดูสวย สมเป็นสาวบริสุทธิ์แห่งดาบเลยน้า ]

นาโอะพูดชมจนทำให้ชิโรเนะลนลาน

[ สาวบริสุทธิ์แห่งดาบเหรอ… เป็นชื่อที่ดีนะคะ ]

ริโนะดูจะอิจฉาอยู่

[ ค่า!!! ชิโรเนะกับคุณริโนะมีสมญานามที่เท่ดีจัง ฉันเองก็อยากมีบ้างจังอ่ะ… ]

ที่จริงนาโอะไม่มีสมญานามเลย แน่นอน ฉันคงไม่บอกหรอกว่าสมัยที่เธอยังอยู่นอกเดิมมีสมญานามว่ายัยเด็กเถื่อนน่ะ

[ ดีออกเนอะ? อย่างน้อยก็ไม่มีสมญานามแปลกๆ นั้นแหละค่ะ ]

ริโนะมองไปทางทั้งสองคนที่อยู่ไกลๆ 

นั่นก็คือคายะกับเคียวกะนั้นเอง

สมญานามของเคียวกะก็คือเจ้าหญิงระเบิด เป็นชื่อที่เธอได้รับเพราะไปใช้เวทระเบิดกลางเมือง เจ้าตัวเองก็ดูจะไม่ชอบชื่อนี้

[ ใช่แล้วค่ะ… ]

นาโอะเห็นด้วย

[ พูดถึงสมญานามแล้ว ท่านนักบุญสีขาวกับผู้กล้าแห่งแสงไปไหนแล้วล่ะคะ? ]

ริโนะถามหาทั้งสองคนที่ไม่อยู่ที่นี่

[ นักบุญสีขาวกำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่นะ ]

คนที่มีสมญานามว่านักบุญสีขาวก็คือซาโฮโกะนั้นเอง เนื่องจากในคฤหาน์นี้ยังมีเมดอยู่เพียงไม่กี่วัน เราจึงปล่อยให้ซาโฮโกะจัดการเรื่องทำอาหารไป ได้ยินว่าพ่อครัวของราชวังยังมาช่วยเธอเลยนะ

ในหมู่พวกเราคนที่ทำอาหารเป็นก็มีแค่คายะกับซาโฮโกะเท่านั้น

ซาโฮโกะเก่งเรื่องการทำอาหาร ขณะที่คายะเองก็สามารถทำอาหารที่จัดเลี้ยงในงานระดับงานเลี้ยงใหญ่ๆ ได้

แม้ว่าฝีมือฉันจะไม่ถึงขั้นพวกเธอ แต่ก็พอทำอาหารเป็นบ้างนะ

แต่ทางริโนะ นาโอะ และเคียวกะนั้นเซนส์ด้านการทำอาหารเป็นศูนย์

ชิโรเนะไม่สนใจเรื่องการทำอาหาร เป็นธรรมดาที่ฉันจะบอกว่าเธอทำอาหารไม่เป็น

แต่จำได้ว่าเคยเห็นเธอทำคุกกี้เค็มๆ ให้ไม่นานนี้นะ

แม้เธอจะอุตส่าห์ทำมาให้เรย์จิ แต่เรย์จิก็กินไม่ลงอยู่ดี เป็นธรรมดาล่ะนะเพราะปกติเรย์จิกินอาหารฝีมือซาโฮโกะที่อร่อยๆ เป็นประจำ

แต่ฉันเคยได้ยินว่าชิโรเนะเคยอบคุกกี้ให้เพื่อนสมัยเด็กของเธอลองกินดู แล้วก็ได้ยินว่าเขากินมันด้วยความสุขเลยนะ

นี่ท้องของเขาจะไม่เป็นไรแน่เหรอ?

แม้ว่าฉันจะไม่เคยเจอเพื่อนสมัยเด็กของเธอ แต่ก็ได้ยินจากริโนะว่าเขาหล่อมาก

เพื่อนสมัยเด็กคนนั้นหลงรักชิโรเนะแต่ฉันกลับรู้สึกไม่ดีเลยที่ชิโรเนะกลับไปหลงรักเรย์จิซะได้

ว่าแต่เรย์จิไปอยู่ทีไ่หนกันนะ

[ เรื่องผู้กล้าแห่งแสง ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปอยู่ที่ไหน ]

แม้จะเตรียมห้องน้ำให้เรย์จิไว้ต่างหาก แต่ดูเหมือนตอนนี้เขาจะไม่ได้อยู่ในห้องน้ำ

[ เอาเถอะ ตราบเท่าที่ไม่แอบมองพวกเราก็ดีไป ]

ฉันติดตั้งเวทบาเรียที่ช่วยป้องกันไม่ให้ใครแอบมองได้ไว้แล้ว

ถึงแม้จะเป็นเรย์จิก็แอบเข้ามาในบาเรียนี้โดยพวกเราไม่สังเกตไม่ได้หรอก

ปัญหาคือเวทบาเรียนี้ไม่สามารถทำให้ตรวจจับนอกระยะบาเรียได้ ฉันจึงไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก็คงดีล่ะนะตราบใดที่เรย์จิไม่ไปทำอะไรแปลกๆ เข้า

ว่าแต่ไดร์ฮาร์ดกับเรน่ากำลังทำอะไรกันอยู่นะตอนนี้

ต้องถามว่าพวกเขาสองคนอยู่ที่ไหนดีกว่า

ฉันยังคงแช่น้ำต่อไปขณะที่ขบคิดเรื่องพวกนั้น

◆ อัศวินดำคุโรกิ

ในตอนเที่ยง ร้านแผงลอยที่เรียงรายติดกันในถนนสายหลักและผู้คนที่เดินไปมามากมาย

เมื่อมองไปที่ร้านแผงลอยพวกนี้กลับทำให้ผมนึกถึงงานเทศกาลที่ญี่ปุ่น

แม้ว่าช่วงไม่กี่ปีมานี้ผมจะไม่ได้ไปร่วมงานเทศกาลเลย แต่สมัยเด็กๆ ผมมักจะไปกับชิโรเนะบ่อยๆ

การไปงานเทศกาลถ้าไม่มีชิโรเนะไปด้วย มันก็ไม่มีความหมาย

อา มันเป็นความโรแมนติกของลูกผู้ชายล่ะนะที่อยากไปเที่ยวงานเทศกาลกับเด็กผู้หญิงน่ารัก

ด้วยเหตุนี้ สถานการณ์ในตอนนี้จึงน่ายินดีสำหรับผมอย่างยิ่ง

ผู้หญิงที่กำลังเดินข้างๆ ผม แต่เพราะเธอเอาฮู้ดปิดบังไว้จึงทำให้ไม่เห็นใบหน้า

แต่เพียงแค่ใบหน้าส่วนล่างก็ทำให้รู้แล้วว่าเธอสวยขนาดไหน

เธอคือเทพธิดาเรน่า

ผู้ที่อัญเชิญชิโรเนะมายังโลกนี้

นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมเจอเธอ สงสัยจริงๆ มาเธอมาทำอะไรที่นี่

อย่าบอกนะว่าเธอวางแผนจะทำบางอย่างกับชิโรเนะ?

แต่ผมเองก็คิดว่าเธอไม่น่าจะไปทำอะไรไปชิโรเนะหรอก

เดิมทีผมเองก็ถูกขอร้องให้มาเป็นคนคุ้มกันของผู้กล้า ผมจึงออกค้นหาคนที่จะเป็นอันตรายต่อผู้กล้าตามหน้าที่อยู่

ความจริง ตอนรับงานนี้ผมผมก็ไม่ได้จริงจังอะไรหรอกนะ เพราะแค่พลังของเรย์จิก็เพียงพอจะขู่ได้แล้ว

สวนเรื่องที่สอง งานคุ้มกันที่เหลือก็ปล่อยให้อัศวินของวิหารจัดการกันไปแล้วกัน

ผมถึงได้ตกใจมากเมื่อเห็นเธอจากบนกำแพง แม้เธอจะสวมฮู้ดอยู่แต่ผมก็รู้ว่าเธอคือเรน่า

ผมไม่สามารถปล่อยเธอไปเฉยๆ ได้

เพราะเธอเป็นตัวอันตรายที่สุดสำหรับผู้กล้าและพรรคพวกของเขา

ผมจึงโผล่มาตรงหน้าเธอ

แต่ติดที่ผมไม่รู้ว่าหลังจากนั้นจะทำยังไงต่อดีนะสิ

จะว่าไป ถ้าผมอยากรู้เป้าหมายของเธอละก็ควรปล่อยเธอไปดีมั้ยนะ แล้วให้เธอหนีไปเรียกพวกเรย์จิมา

[ ตกใจจังนะคะที่คนเป็นพวกชอบบังคนอื่นแบบนี้? ]

หลังจากนั้นพักหนึ่งเรน่าก็พยายามใส่ร้ายผม ขณะที่เราเริ่มเดินด้วยกัน

เพราะสิ่งที่เธอพูดออกมาทำให้ผมนึกถึงการพบกันครั้งที่แล้วของเรา

ถึงเธอจะบอกว่ามาที่นี่เพื่อเที่ยวชมงานเทศกาล ตอนถามเหตุผลว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ก็เถอะ แต่ดูก็รู้ว่ามันโกหกชัดๆ ผมจึงบีบบังคับให้เธอไปเที่ยวงานเทศกาลกับผมซะเลย ถ้าเธอบอกว่าอยากจะมาเที่ยวงานเทศกาลเฉยๆ ล่ะนะ

ผมไม่มีทางเลือกนอกจากบีบบังคับเธอให้ไปด้วยกันตราบเท่าที่ยังไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริงของเธอ เอ๊ะ… แบบนี้ก็เหมือนผมไปชวนสาวเที่ยวนะสิ?

[ ยังไงผมก็ปล่อยคุณไว้คนเดียวไม่ได้หรอก… ]

ผมไม่ได้พูดโกหกนะ

[ หืมม งั้นเหรอคะ? ]

เรน่าใช้มือเปิดฮู้ดขึ้นเล็กน้อยราวกับกำลังประเมินความตั้งใจจริงของผม

ดวงตาที่งดงามของเธอกำลังจ้องมองมาที่ผม 

ทำให้หัวใจผมเต้นแรง

[ ถ้างั้นก็ฝากเรื่องเป็นคนคุ้มกันให้ด้วยแล้วกันนะคะ ]

เรน่าเริ่มเดินโดยที่มีผมเดินอยู่ข้างๆ

นี่ผมกำลังเที่ยวงานเทศกาลกับสาวสวย

หรือว่านี่มันจะเป็น…. เดท?

◆ อัศวินดำคุโรกิ

[ มีมนุษย์เดินไปมากันเยอะจังนะคะ ]

เรน่าพูดหลังจากเดินไปได้พักนึง

[ ก็เป็นงานเทศกาลนี่นะ… ถึงได้มีคนเยอะขนาดนี้ เพราะทุกคนก็มาที่นี่เพราะอยากสนุกกับงานเทศกาลเหมือนกัน… ]

ผมตอบเรน่ากลับไป

[ งั้นเหรอ ]

เรน่าเป็นเทพธิดาที่ไม่ค่อยมีความอดทนสักเท่าไหร่

ผมจึงต้องคอยเป็นโล่ป้องกันไม่ให้คนอื่นๆ มาชนกับเรน่า

[ อ๊ะ ]

ผมดึงเรน่าเข้ามาตัว ทำให้หน้าอกของเธอมามาโดนตัวผม

ถึงจะพยายามปกป้องเธอเต็มที่แล้ว แต่ก็ช่วยไม่ได้หรอก เพราะคนบนถนนมันมีเยอะเกินไปนี่นา

[ อุ๊บบ!! ]

เรน่าตะโกนด้วยเสียงโกรธ

[ ขอโทษด้วยเรน่า ]

ผมขอโทษเรน่าไป

[ ไม่มีผู้ชายคนไหนเคยจับตรงนั้นของฉันมาก่อนเลยนะ ]

เรน่าบอกเพราะไม่อยากให้ผู้ชายคนไหนมาแตะต้องตัว

[ อา ต้องขอโทษด้วยเรน่า แต่าอย่าไปลบคนพวกนั้นทิ้งด้วยพลังซะล่ะ ]

เพราะที่นี่มีคนอยู่เยอะมาก จึงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่จะแตะต้องตัวกัน

[ เอาน่า ไม่เป็นไร ปล่อยฉันได้แล้ว ]

เมื่อเธอพูดดังนั้นผมจึงปล่อยเรน่า

[ ชิ งั้นฉันจะไม่ลบเจ้าหมอนั้นให้หายไป แค่นี้ก็พอแล้วใช่มั้ย? ]

เรน่าบอกผมแล้วชี้ไปยังร้านแผงลอยริมถนน

[ ไม่ได้นะ พวกอัญมณีมันไม่ใช่ของจำเป็นสำหรับงานเทศกาลหรอก… ]

ความจริง ของบางอย่างในร้านแผงลอยก็แพงมากจนไม่อาจซื้อได้เลย มันไม่จำเป็นสำหรับผมด้วยสิ เศร้าแฮะ

[ อืมมม ]

เรน่าตอบมาอย่างน่าเบื่อ

จากนั้นผมก็เดินต่อไปพร้อมกับผู้หญิงที่กำลังอารมณ์เสียคนนี้

ถ้านี่เป็นเดทจริงๆ ผมคงจะเศร้าไปแล้วถ้าคู่เดทมีสายตาแบบนี้

แล้วเดิมทีถนนไม่ใช่ว่าจะเน้นไปที่ร้านแผงลอยสิ?

เพราะเรน่าบอกว่ามาเที่ยวงานเทศกาลนี่นา แต่ดูเธอจะไม่ค่อยสนใจงานเทศกาลด้วยซ้ำ งั้นที่พูดมาก็คงโกหกสินะ

ทันใดนั้นขาของเรน่าก็หยุดลง

[ นั่นอะไรนะ? ]

ผมมองไปยังทิศที่เรน่ามองอยู่

ตรงนั้นมีธงที่มีรูปของซาซากิ ริโนะชูขึ้นอยู่

ผมรู้สึกตกใจนิดหน่อย พูดตามตรงนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงควรไปเห็นเข้าหรอกนะ

[ นั่นมัน… ริโนะ ]

ผมหยุดเดินหลังจากที่เรน่าหยุดลง

คนที่ยืนรอมากกว่าที่ผมเคยก่อนหน้านี้ซะอีก

เรน่ามองไปยังแผงลอยที่มีชายยืนถือธงอยู่

เมื่อผมมองไปยังแผงนั้น ผมก็เห็นภาพของชิโรเนะ…

ภาพที่เธอกำลังใส่ชุดคอสเพลย์วันนี้อยู่ นี่มันอันตรายสุดๆ

งานดีสุดๆ ผมอยากจะจ้องมองมันอีกสักพักด้วยซ้ำ ถ้าเรน่าไม่หันกลับมา

[ ไดร์ฮาร์ด พวกเขากำลังบูชาริโนะกันอยู่เหรอ? ]

เสียงของเรน่าดูตึงเครียด

[ อืมม.. ก็คงเรียกแบบนั้นได้ล่ะมั้ง ]

พูดตามตรงผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดี

จะเรียกว่าแฟนคลับไอดอลดีมั้ย?

[ แต่เธอไม่ได้เป็นเทพสักหน่อยนี่… ]

สิ่งที่เรน่าคิดต่างจากที่ผมคาดหมายไว้มาก สำหรับเทพธิดาอย่างเรน่าการที่เห็นคนธรรมดาถูกเคารพบูชาคงเป็นเรื่องแปลกนิดหน่อย

[ ไดร์ฮาร์ดเองก็อยากได้ภาพพวกนั้นด้วยเหรอ? ]

เรน่าพูดขณะที่ชี้ไปยังภาพๆ หนึ่ง

ภาพที่เธอชี้ไปคือภาพของชิโรเนะ ไม่รู้ทำไม แต่เสียงของเธอเต็มไปด้วยจิตสังหาร

เอาตามตรงผมก็อยากได้ล่ะนะ

แต่คงไม่มีวันตอบไปว่า “ใช่แล้ว” ต่อหน้าเด็กผู้หญิงคนอื่นแน่นอน ดังนั้นคงได้แต่ตอบเธออยู่ในใจเท่านั้น

ผมแก้ปัญหาโดยเบือนสายตาหนีโดยไม่มองภาพนนั้น ขณะที่เรน่ากำลังจ้องมองอยู่ตรงหน้าผม

ผมล่ะไม่อยากให้เธอได้ยินเรื่องนั้นเลย แม้ว่าจะอุตส่าห์ได้เป็นคนคุ้มกันของเพื่อนสมัยเด็กแต่มันก็แค่ภาพลวงตา แล้วผมก็พูดเรื่องพรรค์นั้นออกไปต่อหน้าผู้หญิงไม่ได้ด้วย

[ ไม่ล่ะ ขอแค่เธออยู่กับผมที่นี่ก็พอใจแล้ว ]

ผมบอกเธอขณะที่มองไปที่เรน่า ใช่แล้ว ตอนนี้ผมเลือกที่จะไม่สนใจผู้หญิงคนอื่น

[ เอ๊ะ?! ]

เรน่าส่งเสียงตกใจเมื่อได้ยินที่ผมพูด

เรน่าเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยจากนั้นก็เหลือบมองที่ใบหน้าของผม

ใบหน้าของผมสะท้อนเข้าไปในดวงตาของเธอ กรุณาอย่ามองผมด้วยสายตาแบบน๊านนนน

รู้บ้างมั้ย ว่าเธอสวยขนาดไหนนะ ถ้าโดนสาวสวยขนาดนี้จ้องหัวใจของผมมันปวดร้าวนะ

เรน่าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเธอก็พยักหน้าราวกับเข้าใจบางอย่างแล้ว

[ ใช่แล้ว เป็นธรรมดาล่ะนะ เพราะฉันสวยกว่าพวกนั้นอยู่แล้ว ]

เรน่ากำลังยิ้ม

[ ใช่แล้วล่ะ พวกนั้นมันก็แค่ของปลอม(รูป) ]

ผมพยักหน้าให้กับคำพูดของเธอ ถึงจะไม่รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร

[ ไปกันเถอะไดร์ฮาร์ด ]

ผมกลับไปเที่ยวกับเธอต่อไป ขอบคุณท่านเทพ… เอ่อ ที่จริงเธอก็เป็นเทพนี่หว่า

แต่จนกระทั่งก่อนหน้านี้เธอยังอารมณ์เสียอยู่เลยนะ

[ อา มาคิดดูแล้ว ]

จู่ๆ เธอก็หยุดเดินแล้วหันมาหาผม

[ อยากเห็นฉันโพสท่าแบบเดียวกับในภาพนั้นใช่มั้ยล่ะ? ]

[ ง่ะ!? ]

ทำไมเธอ- !!!

ผมกรีดร้องอยู่ในใจ ซึ่งมันเป็นเสียงร้องที่ดังที่สุดในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้

ก็เรน่าในท่าโพสแบบนั้น หน้าอกเรน่าก็ใหญ่มากจนมองเห็นแม้จะมีเสื้อคลุมปกปิดอยู่

แต่ถ้าถามว่าใครแจ่มที่สุดก็…

ชิโรเนะเหรอ? หรือจะน้องสาวของเรย์จิ? ไม่สิ!! ต้องเป็นบันนี่เกิร์ลสีขาวโยชิโนะ ซาโอะ-…

แต่จู่ๆ ความคิดนั้นของผมก็ถูกขัดจังหวะกลางคัน

ผมเพิ่งกลับมารู้สึกตัวอีกทีหลังจากเห็นเรน่า เธอกำลังมองผมด้วยสายตารังเกียจ

[ ล้อเล่นนะ… แต่คุณ… เป็นคนที่ดูออกง่ายจังนะ.. ]

 เรน่าพูดด้วยเสียงตกใจ

[ หืมม… ]

ผมล่ะอยากร้องไห้ สุดท้ายผมก็ถูกจูงจมูกจนเผยสิ่งที่คิดออกไปจนหมดซะได้ ถึงผมจะอยากทำเท่ต่อหน้าผู้หญิง แต่สุดท้ายก็ล้มไม่เป็นท่าเพราะผมไม่มีประสบการณ์นี่นา

หลังจากเธอพูดจบ เธอก็เดินไปโดนแกล้งทำเป็นไม่เห็นผม

ผมจึงไล่ตามเธอไป

เธอเดินเข้าไปในซอยที่คนเล็กๆ ที่คนเดินน้อยลง จนเกือบจะไร้ผู้คน

เมื่อผมเดินเข้าไปหาเรน่า แต่เดินไปได้ไม่ไกลนักเธอก็หยุดลง

เมื่อผมมองไปที่ด้านหน้าก็เห็นคนสวมชุดเกราะอัศวิน

อัศวินที่สวมชุดเกราะเต็มรูปแบบประดับด้วยดอกไม้สีขาวและเถาวัลย์เย็บติดที่เครื่องแบบ

นั่นคือเหล่าอัศวินของสาธารณรัฐศักดิ์สิทธิ์ลีนาเรีย อัศวินศักดิ์สิทธิ์ของเรน่านั้นเอง

ซึ่งดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นคือดอกไม้ตระกูลสไรราอี หมายถึง ‘จิตใจอันบริสุทธิ์’ ในภาษาดอกไม้และเป็นตัวแทนของเรน่า

ผมรู้จักอัศวินพวกนั้นดี เพราะพวกเขาคือคนที่คุ้มกันพวกเรย์จิมายังที่นี่

และตอนนี้พวกเขากำลังปิดทางของเราไว้ นี่พวกเขาคิดจะทำอะไร?

[ คนพวกนั้นเป็นอัศวินของคุณใช่มั้ย? ]

ผมถามเรน่าระหว่างที่มองดูอัศวินพวกนั้น

[ พวกนั้นไม่ใช่อัศวินของฉัน แต่เป็นอัศวินของวิหารต่างหาก เจ้าพวกนี้ไม่เหมาะจะมาเป็นอัศวินของฉันหรอก ]

เรน่าถ่มน้ำลายหลังจากพูดคำพูดโหดร้ายออกมา แม้ว่าความจริงเหล่าอัศวินที่วิหารจะสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเรน่า แต่นั้นคงเป็นความรักแต่เพียงฝ่ายเดียว

เป็นเหล่าคนที่น่าสงสารจังเลยนะ ผมคิด

[ งั้นอัศวินคนเดียวของคุณก็คือเรย์จิงั้นเหรอ? ]

ผมถามคำถามที่ความหมายเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ผมคิดว่าการถามคำถามเธอในระหว่างที่คุ้มกันถือเป็นเรื่องเสียมารยาท แต่นี่ถือเป็นการเอาคืนเรื่องก่อนหน้านี้

ดูเหมือนเรน่าจะรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่

[ ฟุฟุ อย่างเรย์จิไม่สามารถมาเป็นอัศวินของฉันได้หรอก เพราะอัศวินคือคนที่เคารพและสาบานตนและมีมารยาทต่อผู้เป็นนาย แต่ลักษณะของเรย์จิมันไม่ใช่เลย เพราะเขาเป็นพวกรักอิสระ หยาบคาย และเย่อหยิ่ง ]

เรน่ายิ้มแล้วตอบกลับมา

หืมม แปลว่าเข้าใจตัวเรย์จิขนาดนั้นเลยเหรอ ดูท่าเธอเองก็เป็นคนที่ไม่เลวเลยนะ

[ แต่ฉันว่า… คนที่เหมาะจะเป็นอัศวินให้ฉันน่ะคือคุณมากกนะไดร์ฮาร์ด แล้วคุณล่ะว่ายังไง? ]

เรน่าถามขณะที่จ้องมองมาที่ผม

ผมเองก็จ้องมองไปที่เรน่ากลับ

หัวใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะหลังจากได้ยินคำพูดนั้น

พูดตามตรง ผมดีใจมากเลยล่ะที่ได้ยินคำพูดนั้นจากปากเธอ

มันราวกับหนามในใจของผมหายไปก็ว่าได้

บางทีผมคงถูกคาดหวังไว้มากกว่าเรย์จิซะอีก แต่เพราะการดวลกับงี่เง่ากับเรย์จิทำให้ผมมีแผลใจ เมื่อไหร่กันนะที่แผลใจนี้จะหายสักที?

จนผมคิดว่าตัวเองเป็นพวกขี้แพ้ ตั้งแต่วันนั้นผมถึงได้ขัดเกลาฝีมือดาบ เริ่มให้ความสนใจกับหน้าตา เพื่อเอื้อมไปให้ถึงเขา แม้สักนิดก็ยังดี

แต่ไม่ว่าทำยังไง ผมก็ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง

นั่นคือเหตุผลที่คำพูดของเรน่าทำให้จิตใจผมสับสน

แต่ว่า—

ผมส่ายหัวเพื่อขจัดมันออกไป

ผมทำแบบนั้นไม่ได้

ผมจะปล่อยให้ตัวเองเชื่อใจเรน่าไม่ได้

แม้ว่าเธอจะสวยแค่ไหน แต่ผมจะปล่อยลดการป้องกันลงเพราะคำพูดหวานๆ ของเธอไม่ได้เด็ดขาด

ผมส่ายหัวปฏิเสธเธอ

[ ผมรู้สึกดีใจมากกับคำเชิญชวนนั้น แต่โชคร้ายหน่อยนะ ที่ผมเป็นอัศวินให้คุณไม่ได้ เพราะถ้าผมทรยศก็เหมือนกับผมไม่มีศักดิ์ศรีของอัศวินใช่มั้ย? ]

ผมปฏิเสธคำเชิญของเรน่าอย่างง่ายดาย

[ แน่นอน ผู้ทรยศไม่สมควรเป็นอัศวิน ]

ดูเหมือนเรน่าจะเชื่อมั่นในคำตอบของผม

ผมรู้สึกโล่งใจ นึกว่าเธอจะโกรธซะอีก แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้โกรธอะไร

เดิมทีผมก็ไม่คิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติเป็นอัศวินได้หรอก

เธอเชื่อใจผม แม้ผมจะไม่ใช้โมเดสมาเป็นเหตุผลในการปฏิเสธ

[ เฮ้ พวกแกกำลังมองอะไร!! ]

มีใครบางคนกำลังเรียกพวกเรา

พอผมค้นหาแหล่งที่มาของเสียง อัศวินของวิหารก็ตรงดิ่งเข้ามาทางพวกเรา

พวกเขาคืออัศวินของวิหารที่ผมเห็นเมื่อก่อนหน้านี้ที่บนกำแพงเมือง

ซึ่งะเลาะกับชาวเมืองนั้นล่ะ

แต่ผมไม่เห้นผู้หญิงคนนั้นอยู่แถวนี้เลย หรือเธอจะหนีไปแล้ว?

อัศวินของวิหารมองหน้าผมแล้วมองไปยังคนที่อยู่ข้างๆ ผม

อ๊ะ!? ดูเหมือนพวกเขาจะเห็นเรน่าที่อยู่ข้างๆ ผมแล้วสิ

ถึงเรน่าจะใช้เวทมนตร์ล่องหนอยู่ แต่ชายคนนี้กลับมองเห็น แปลว่าเขาเองก็มีพลังเวทอยู่พอควร

[ พาผู้หญิงมาด้วยเหรอ เป็นคนรักกัน? ]

อัศวินถามผม

ผมถามเรื่องน่ารำคาญกับผม อีกอย่างนี่ไม่ใช่อาณาจักรของพวกนายสักหน่อยนะ ทำไมถึงมาสอบสวนคนอื่นกันแบบนี้ล่ะ

[ ไม่ เธอไม่ใช่คนรักของผมหรอก… ]

[ โฮ่~ งั้นการพาผู้หญิงที่ไม่ใช่คนรักเข้ามาในซอยเปลี่ยวๆ แบบนี้นี่มันหมายความว่ายังไง? ]

ผมคิดว่านี่เป็นซอยปกติทั่วไป แต่ดูบรรยากาศมันจะต่างกันหน่อย

ดูเหมือนเราจะเดินมาในเส้นทางที่ไม่ควรแล้วสิ

[ เอ่อ ความจริง… ]

[ หืม กำลังคิดจะโกหกสินะ แต่น่าเสียหายที่ฉันรู้ไต๋หรอกน่า ]

อัศวินของวิหารเลือกที่จะสู้

ตอนนี้เขายังมองไม่เห็นหน้าของเรน่า

บางทีตอนนี้ในหัวเธอคงกำลังคิดว่า ‘สั่งสอนเจ้างี่เง่านี้ให้รู้บทเรียนซะเลยสิ’ 

คงเพราะเรน่ากำลังปกปิดตัวจริงโดยใช้เวทมนตร์ล่องหนอยู่ เธอเลยไม่พูดอะไร

เรน่ามองมาที่ผมโดยไม่พูดอะไรตอบกลับมา

[ ตอนนี้พวกเรากำลังลาดตระเวนเพื่อหาคนน่าสงสัยที่พยายามจะทำร้ายท่านผู้กล้า!! แกคงไม่ใช่เจ้าคนงี่เง่านั้นหรอกใช่มั้ย? ]

[ ไม่ครับ… ไม่ใช่ผมหรอก ]

ผมปฏิเสธไปอย่างสุภาพ

[ และยังดูเหมือนจะมีเจ้าโรคจิตคนนึงไปทำเรื่องแปลกๆ กับพรรพวกของท่านผู้กล้า!! แต่ตอนนี้ช่างมันไปก่อน เอาล่ะ รีบไปได้แล้ว!! ]

ชายคนนั้นโบกมือราวกับไล่ผมให้ไปไกลๆ

[ แล้วที่นี่มันก็อันตรายสำหรับผู้หญิง…. ]

อัศวินคนนั้นพยายามจะแตะตัวเรน่า

ผมเริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วสิ

ผมจับมือของอัศวินคนนั้นก่อนที่เขาจะจับตัวเรน่าและโยนเขาไป

เขาถูกโยนไปได้แบบสบายๆ

[ แก… ไอ้บัดซบ… แกคิดจะทำอะไร!! ]

อัศวินคนนั้นชักดาบออกมาแล้วตะโกนคำพูดนั้นออกมา

ผมทำอย่างนั้นเพื่อปกป้องคุณนะ ผมอยากจะพูดออกไปอยู่หรอก

เมื่อกี้ ผมรู้สึกได้ถึงจิตสังหารจากตัวเรน่า ถ้าเขาแตะตัวเธอไป เขาคงตายไปแล้วแน่ๆ

ผมรู้ดีว่าถึงเป็นอัศวินแห่งวิหาร เธอก็ฆ่าได้อย่างไม่ลังเล

ป่านนี้เขาคงเป็นขี้เถ้าไปแล้วล่ะมั้ง ถ้าไปเผลอแตะตัวเธอเข้า

อัศวินคนอื่นๆ วิ่งมาหาพวกเราหลังจากได้ยินเสียงนั้น

พวกเขาต่างชักดาบออกมา

ผมไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะบานปลายถึงขนาดนี้

ปกติ ถ้าเป็นสถานการณ์แบบนี้ผมคงจะหนีไปแล้ว แต่ตอนนี้ทำไม่ได้เพราะมีเรน่าอยู่ข้างๆ

ควรจะพูดว่าขืนเป็นแบบนี้เรน่าฆ่าพวกเขาแน่ต่างหาก ดังนั้นผมก็แค่คนที่พยายามเลี่ยงเหตุการณ์นั้นเท่านั้น

[ ไม่จำเป็นต้องให้มือเธอเปื้อนเลือดหรอก อยู่ข้างหลังผมไว้นะเรน่า ]

ผมพูดประโยคนั้นที่ด้านหน้าเรน่า

[ เหรอ? ]

แม้คำตอบของเธอจะเป็นเพียงคำสั้นๆ แต่ผมก็ดีใจที่เธอตอบกลับมาเช่นนั้น

[ ฟุมุ ถ้าแกอยากจะขอโทษนี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วนะ ]

เป็นไปได้ว่าพวกเขาคงคิดว่าผมกำลังกลัว ถึงได้ชี้ดาบมาทางผม?

แม้ว่าเรน่าจะปฏิเสธตัวตนของพวกเขา แต่ยังไงนั่นก็เป็นอัศวินของเธอนะ

แล้วทั้งที่ผมเป็นอัศวิน มันจะดีเรอะ ที่มาเป็นอัศวินให้เรน่าในสถานการณ์แบบนี้?

อัศวินพวกนั้นถึงจะแต่งตัวดูดี แต่การกระทำไม่ต่างจากพวกออร์คที่เจอเมื่อวานเลยแฮะ

ผมไม่ฆ่าพวกเขาหรอกเพราะนี่เป็นงานเทศกาลที่ไม่สมควรจะเปื้อนเลือด ดังนั้นให้พวกเขาลิ้มรสความเจ็บปวดสักนิดแล้วกัน

ผมมองไปที่อัศวินของวิหาร

ความรู้สึกอยากฆ่าก็ค่อยๆ จางออกไปจากหัวใจของผม

[ ก-แก!! คิดจะสู้กับพวกเราสินะ!! ]

ดูเหมือนเขาจะตกใจที่ผมคิดจะสู้

แม้ว่าผมจะไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของอาณาจักรในโลกนี้ แต่ไม่มีทางที่เรื่องแค่นี้จะทำให้เกิดเรื่องบานปลายถึงปัญหาระดับประเทศได้หรอก

พวกเขาชักดาบออกมาเพื่อขู่ผม

[ เอ่อ… ช่วยทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นได้มั้ย? ]

ผมเสนอแผนการที่จะดีต่อทั้งสองฝ่าย

ตรงกันข้าม มันกลับยิ่งเพิ่มเชื้อไฟเข้าไปอีก ใบหน้าของเหล่าอัศวินถูกย้อมด้วยสีแดง

[ แกล้อกันเล่นรึไงวะ!! ]

บางทีพวกเขาคงคิดว่าผมไปล้อเล่น อัศวินคนหนึ่งฟันเข้ามาจากตรงหน้าผม

ช้าเกินไปแล้ว

ผมจับใบดาบที่เหวี่ยงลงมาด้วยนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้

อัศวินส่งเสียงตกใจราวกับไม่เชื่อสิ่งที่เห็น

[ ไม่จริง… ]

[ ปะ… เป็นไปม่ได้ ]

อัศวินคนอื่นๆ ต่างพึมพำคำพูดเหล่านั้น ด้วยใบสีที่ซีดจากสีแดงเปลี่ยนเป็นสีเงินซีดๆ 

โถ่เอ้ย เอาเถอะ รีบจัดการให้มันจบๆ ไปแล้วกัน

[ เอาล่ะนะ… ]

หลังพูดจบ ผมก็ทำให้อัศวินพวกนั้นล้มกันไม่เป็นท่า

[ กลุ๊ก!! ]

[ อ๊า! ]

[ว๊าก! ]

เหล่าอัศวินต่างล้มกลิ้งกันไปหมดพร้อมกับส่งเสียงดัง ตอนนี้พวกเขาไปนอนวัดพื้นกันหมดแล้ว

น่า พวกเขาคงไม่ตายกันง่ายๆ เพราะเรื่องแค่นี้หรอก

จากนั้นเรน่าก็เดินไปยังเส้นทางที่แต่เดิมพวกอัศวินขวางไว้

[ แล้วไม่ฆ่าพวกเขาเหรอ? ]

เรน่าพูดคำพูดที่น่ากลัวออกมาด้วยใบหน้าอันสงบ

[ พวกเขาเป็นอัศวินที่วิหารของคุณไม่ใช่เหรอ …. งั้นคงจะดีกว่าถ้าผมปล่อยไปซะ ]

ที่จริงแล้วโกหก

[ งั้นแบบนี้ฉันก็ต้องพูดขอบคุณแล้วสินะ? ]

ผมไม่คิดเลยว่าเรน่าจะรู้สึกสำนึกบุญคุณ

เพราะเธอรู้สึกว่าชีวิตของอัศวินพวกนั้น…. ไร้ค่าสำหรับเธอเลยก็ว่าได้

แต่ตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจเธอนิดหน่อยแล้ว

เพราะอัศวินพวกนั้นอ่อนแอเกินไป

นี่ผมคงต้องหัดควบคุมพลังให้มากกว่านี้หน่อยแล้ว ไม่งั้นหากจะเผลอฆ่าคนโดยไม่รู้ตัวก็ได้

การฆ่าคนสำหรับมันง่ายเหมือนกับการเหยียบแมลงตัวเล็กๆ 

ทางด้านเรน่าอาจจะบดขยี้มันอย่างไร้ปราณีเลยก็ได้ เพราะนั่นคงเป็นทัศนคติของเทพ

มนุษย์ไม่มีค่าอะไรไปมากกว่าแมลงในสายตาของเทพ

เอาล่ะ แล้วทางผมล่ะ?

ที่โลกนี้ตัวผมอยู่ในฐานะของมนุษย์รึเปล่า?

ถ้าไม่ใช่ แล้วผมเป็นอะไร?

ในช่วงเวลานั้น ผมรู้สึกถึงความโดดเดี่ยว ผมคือคนที่มีฐานะการดำรงอยู่เหมือนกับเรย์จิ แต่ผมเป็นเพื่อนกับเขาไม่ได้หรอก แล้วเดิมทีทำไมผมต้องไปเป็นเพื่อนกับเรย์จิด้วยล่ะ?

ถ้าหากไม่ใช่เพื่อตัดเขาราชันย์มังกรศักดิ์สิทธิ์ แล้วผมมาที่นี่เพื่ออะไร? เพื่อเป็นเพื่อนกับพวกเขา?

ไม่มีใครตอบคำถามนั้นได้

[ ไม่เป็นไรหรอก ไปกันเถอะเรน่า ]

ผมเดินออกจากซอยพร้อมกับเรน่า

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 22"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์