CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อัศวินดำ - ตอนที่ 27

  1. Home
  2. อัศวินดำ
  3. ตอนที่ 27
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

◆ อัศวินดำคุโรกิ

[ เฮ้ย แกน่ะเป็นใครกันแน่!! ]

ชายสวมหน้ากากส่งเสียงออกมา

ผมเองก็อยากพูดประโยคเดียวกันนั้นล่ะ

ชายสวมหน้ากากคนนี้เป็นใคร?

[ แล้วทำไมแกถึงได้ขยับได้ในพื้นที่ของข้า! ในพื้นที่หมอกนี้น่าจะมีเพียงท่านเลโกลผู้นี้ที่ได้รับการปกป้องสิ! ]

ผมเองก็อยากพูดอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้อะไรไป

เจ้าเวทมนต์หมอกสีดำนี้ เมื่ออยู่ด้านในหมอกจะทำให้พลังอ่อนแอลง เพราะแบบนี้โอรุจิ จิยูกิ กับ โทโดโรกิ นาโอมิถึงได้ถูกจับ

และในตอนที่ชายคนนี้กำลังจะฆ่าทั้งสองคน ผมก็ปรากฏตัวแล้วออกมาช่วยไว้ได้ทันโดยไม่ได้ตั้งใจ

ทั้งสองคนหนีออกจากห้องนี้ไปแล้ว

ผมมองไปที่ชายสวมหน้ากาก

ตอนนี้ผมก็ยังปิดบังใบหน้าไว้ไม่ให้ใครเห็นอยู่ อาจจะดูเป็นคนน่าสงสัยล่ะนะ แต่ชายสวมหน้ากากน่าขนลุกตรงหน้าผมดูน่าสงสัยกว่าเยอะ

บางทีชายคนนี้คงเป็นคนที่สร้างหมอกสีดำขึ้นมา

[ หรือแกจะเป็นเพื่อนของผู้กล้า แต่จากที่ข้าดูรอบตัวผู้กล้าก็ไม่เห็นคนที่ว่า! ตอบมาซะ! แกเป็นใครกัน!? ]

ผมจำไม่ได้ว่าไปเป็นเพื่อนของเรย์จิตอนไหน มันเป็นไปไม่ได้หรอก

ค่อนข้างรู้สึกแย่เลยล่ะที่ถูกมองว่าเป็นเพื่อนของเรย์จิ

แต่เพราะผมมาช่วยพรรคพวกของเรย์จินี่นะ การจะคิดแบบนั้นมันก็ช่วยไม่ได้

ชายข้างหน้าผมกำลังจะทำลายอาณาจักรนี้ ถึงผมจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ต้องหยุดให้ได้

ผมเรียกชุดเกราะออกมาด้วยเวทมนตร์ จากนั้นชุดเกราะก็สวมใส่เข้ากับตัวผม รูปลักษณ์แบบเดิมของผมเปลี่ยนไปเป็นอัศวินดำ

[ อัศวินดำ! ]

ชายสวมหน้ากากสีหน้าเปลี่ยน

[ ทำไม! ทำไมพรรคพวกของเจ้าคนทรยศถึงมาอยู่ที่นี่!? ]

ชายสวมหน้ากากพูดด้วยสีหน้ากังวล

[ คนทรยศ? หมายถึงอะไร? ]

ผมถามชายสวมหน้ากาก

[ ข้าเองก็ไม่อยากพูดนักหรอก แต่เข้าโมเดสมันทรยศข้ากับลูกชายที่รักของข้า! ]

เขาพูดออกมา

คำพูดของชายสวมหน้ากากเต็มไปด้วยความตกใจ

ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยแฮะ เอาไว้กลับไปที่นากอลลองไปถามโมเดสดูแล้วกัน

[ งั้นทำไมอัศวินดำถึงต้องมาช่วยผู้หญิงของผู้กล้าด้วย? เจ้าพวกนั้นเป็นศัตรูนี่ ]

ผมก็ไม่ได้คิดจะช่วยอะไร ก็แค่อารมณ์ไปตามสถานการณ์

[ ไม่ได้ช่วย ก็แค่เพราะนายเป็นศัตรูของโมเดส ดังนั้นก็ถือว่าเป็นศัตรู มีเหตุผลอะไรล่ะที่ฉันต้องไปช่วยศัตรู? ]

เหตุผลที่แท้จริงก็คือเพื่อช่วยอาณาจักรนี้ แต่ขอเงียบไว้ดีกว่า

[ ถึงข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าพูดถึงอะไร แต่ถ้ามาขวางทางก็ตายซะ ]

จริงๆ มันก็แค่เรื่องบังเอิญ เพราะดูเหมือนมันจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องมาที่นี่

เพราะพลังเวทมนตร์ที่ผมรู้สึกได้จากชายสวมหน้ากากนั้นแหละน่ะ

[ ฮึ เจ้าอัศวินดำที่บังอาจบางมาทำลายแขนท่านแห่งเทพนากอล แต่อย่าคิดว่าแค่นี้จะหยุดข้าได้! ]

ดูเหมือนชายคนนี้จะชื่อซัลคิซิส เนโกลนั้นดูเหมือนจะเป็นนามสกุล

[ คุกต้องห้ามแห่งน้ำแข็งที่พันธนาการคนตายไว้เอ่ย จงตอบขานการเรียกของข้า! ]

อุญหภูมิในห้องลดลงไปหลังจากซัลคิซิสร่ายคาถา

ผมรู้จักเวทมนตร์ที่เขากำลังจะใช้

ที่โลกนี้มีนรกที่เป็นสิ่งเกรงกลัวสำหรับพระเจ้าและดวงวิญญาณอยู่ คนที่ตายแล้วก็มีแต่ต้องไปปอยู่ในนรกเท่านั้น ดังนั้นจึงถูกเรียกว่าโลกหลังความตาย

และในส่วนลึกของนรกนั้นดูเหมือนจะมีคุกน้ำแข็งที่ขังคนตายมากมายเอาไว้

ซัลคิซิสกำลังเรียกคนตายเหล่านั้นออกมาจากน้ำแข็งจากโลกแห่งความตาย นั่นคือเวทมนตร์น้ำแข็งขั้นสุงสุดที่ลูคัสสอนผมมา

แต่เวทมนตร์นี้ผมก็ใช้ไม่ได้หรอก

[ เปลวไฟสีดำที่เผาผลาญทุกสิ่ง! จงเป็นโล่ให้แก้ข้า! ]

เมื่อผมร่ายคาถา กำแพงเปลวไฟสีดำก็ปรากฏขึ้น

เกล็ดน้ำแข็งที่ปล่อยออกมาจากซัลคิซิสปะทะเข้ากับกำแพงเปลวไฟสีดำ จากนั้นผมมันก็หักล้างกันจนสลายไป

[ เปลวไฟสีดำ… ไม่จริง… รันฟิว… ไม่ ไม่ อา.. ข้ารู้แล้ว แกคงเป็นอัศวินดำไดร์ฮาร์ดสินะ ]

ผมรู้สึกตกใจที่ชายชื่อซัลคิซิสเรียกชื่อผมออกมา จากข่าวลือ? ผมไม่ค่อยเป็นข่าวลือให้ชาวบ้านด้วยสิ….

[ คนที่มีพลังถึงขนาดจัดการผู้กล้าได้คนนั้นนี่เอง… ออโรร่านี่ไม่มีโชคเลยนะ ]

ซัลคิซิสถอนหายใจ

ผมชักดาบออกมา

[ จบแล้วเหรอ? ถ้างั้นก็ช่วยลบเจ้าหมอกดำนี้ทิ้งไปซะซัลคิซิส แล้วฉันก็มีอะไรจะถามอีก ช่วยตอบมาได้มั้ย? ]

ผมอยากรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับโมเดส 

[ อา จบแล้วล่ะ! ออมาซะอันเดดที่แข็งแกร่งที่สุด!! ]

เมื่อซัลคิซิสพูดจบ ก็มีบางอย่างที่มีขนาดใหญ่โผล่ออกมา

[ นี่มัน… มังกร? ]

มีมังกรออกมา มันตัวใหญ่เทียบเท่าได้กับโกเรียสและดูเหมือนมันจะไม่ใช่มังกรธรรมดา เพราะมีกระดูกและสิ่งอื่นๆ โผล่มาจากตัวมันด้วย

[ มันคือมังกรซอมบี้ซึ่งสร้างขึ้นจากมังกรไฟที่เคยปกป้องห้องนี้อยู่และเจ้านี้มันยังมีความต้านทานไฟ จึงไม่แพ้ง่ายๆ หรอก ด้วยสิ่งนี้ข้าจะทำลายประเทศนี้แล้วฆ่าผู้กล้าซะ ]

ผมมองไปที่มังกรซอมบี้

[ มันเหมือนกับโกเรียสเลยนะ… ]

แม้มังกรจะตายไปแล้ว แต่มันกลับไม่ได้นอนหลับอย่างเป็นสุข

[ ไปเลยมังกรซอมบี้! จัดการอัศวินนั้นซะ! ]

มังกรซอมบี้เคลื่อนไหวตามคำสั่งของซัลคิซิส

ผมใช้ร่างกายเข้ารับการโจมตีนั้นตรงๆ

แต่ก็ไม่ได้ขยับจากที่เดิมเลย

[ คึก!! ]

มีเสียงดังออกมาเมื่อเราปะทะกัน

[ ดีมาก! จัดการอัศวินดำนั้นเลย!! ]

ซัลคิซิสหัวเราะ

ผมไม่สนใจเสียงหัวเราะนั้น จากนั้นเอาจับหัวของมังกรไว้ หลับตาและตั้งสมาธิ

ข้างในนั้นผมเห็นด้ายสีดำที่กำลังพ้นรอบดวงจิตของมังกรอยู่ ผมส่งพลังเข้าไปเพื่อตัดด้ายนั้นให้ขาด

[ มังกรที่น่าภูมิใจ ตอนนี้ผมได้ตัดด้ายที่พันธนาการให้แล้ว ดังนั้นนอนหลับอย่างสงบเถอะ… ]

เมื่อผมพูดจบ มังกรซอมบี้ก็เงียบไป

[ บ้าน่า! จัดการมังกรซอมบี้ได้งั้นเรอะ!! ]

ซัลคิซิสพยายามจะหนีออกจากห้องแต่ก็ถูกมังกรจับตัวไว้ จนเขาส่งเสียงตกใจ

มังกรที่ตายแล้วกำลังคำราม

ดูเหมือนวิญญาณของมังกรจะอยากเข้าไปอยู่ข้างในด้วยตัวเอง

[ นั่น… คือความปรารถนาของนายเองงั้นเหรอ? ]

แน่นอน ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธหากเขาอยากจะอยู่ในร่างนั้นเอง

ร่างกายของมังกรกำลังหายไป

[ แกเป็นตัวอะไรกัน!? ทั้งที่แกเป็นมนุษย์ไม่ใช่เทพแท้ๆ ]

เสียงโกรธของซัลคิซิส

[ อี๊! เข้าใจนะ! ออโรร่าถอยเร็วเข้า! รีบหนีซะ!!  ]

ร่างกายของซัลคิซิสจางลงเรื่อยๆ

[ คิดจะหนีไปไหน! เชือกเปลวไฟ! ]

ผมจับเขาไว้ด้วยเชือกไฟซึ่งเป็นพลังที่ผมได้มาจากการเข้าไปดูข้างในจิตใจของมังกรไฟ

แต่เจ้านั้นมันก็หายตัวไปซะก่อนที่จะจับตัวเอาไว้ได้

[ นี่ผมน่าจะใช้เวทมนตร์ปิดกั้นการสลายมากกว่าสินะ… ]

น่าเสียดาย มีอีกหลายเรื่องที่อยากจะถามแท้ๆ เลยแฮะ แต่ถ้าอยากรู้ไว้กลับไปนากอลค่อยไปถามจากโมเดสก็ได้ล่ะนะ

ก่อนอื่นก็ต้องหาทางทำให้หมอกสีดำนี้หายไปก่อน

ผมตามหาของที่ซัลคิซิสเหลือเอาไว้

เพราะผมรู้สึกได้ถึงพลังเวทมนตร์อันแข็งแกร่งจากที่ไหนสักแห่งและตรงนั้นผมก็เจอวงเวทเวทมนตร์ขนาดใหญ่ที่กำลังส่องแสงสีแดง

เส้นพลังเวทจากตรงกลางเชื่อมไปเรื่อยๆ เขียนราวกับเส้นใบของแมงมุม

และข้างในวงเวทนั้น มันเหมือนมีหมอกสีดำกำลังพัดไปมาอยู่

[ บางทีเจ้านี้คงเป็นตัวตนของหมอกสีดำ… ]

ผมจับดาบขึ้นมาแล้วฟันไปที่วงเวท

จากนั้นแสงสีแดงก็หายไปและพลังเวทที่ผมรู้สึกเมื่อกี้ก็หายไปด้วย

[ หมอกสีดำน่าจะหายไปแล้วสินะ ]

 

◆ สาวบริสุทธิ์แห่งดาบ ชิโรเนะ

[ ไม่ไหว…. อย่างน้อยเธอคนเดียวก็หนีไปเถอะ… ]

กาลิอุสพูดด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า ฉันยังแข็งแรงดีอยู่นะ จนทำลายบ้านไปหลายครั้งเพื่อเอามาขวางพวกพวกซอมบี้ไว้ แต่พูดตรงๆ เลย ฉันอาจจะถึงขีดจำกัดแล้วก็ได้

[ ใช่ครับ อย่างน้อยถึงพวกเราจะหนีไปไม่ได้ แต่ท่านชิโรเนะรีบหนีไปเถอะ ]

นิมริพูด

[ พวกนาย… ]

ฉันรู้สึกขอบคุณจากใจ แต่ฉันเองก็หนีไม่ได้ เพราะปีกมันไม่ยอมออกมาเหมือนคราวก่อนแล้ว

และดูเหมือนที่อาณาจักรนี้จะมีบาเรียที่ป้องกันไม่ให้เราหนีไปได้อยู่ คงจะหนีไปไม่ได้หรอก

[ ไม่ ฉันไม่หนี… ไม่ต้องห่วงมันต้องไม่เป็นไรแน่ เรย์จิคุงต้องหาทางทำอะไรสักอย่างแน่! ]

ฉันไม่มีทางเลือกนอกจากเชื่อในตัวเรย์จิ

[ ถ้ารู้แบบนี้…. ตอนนั้นไม่น่าไปทะเลาะกับคุโรกิเลยนะ ]

แม้จะเป็นช่วงเวลาคับคันแบบนี้ แต่ฉันกลับนึกถึงเพื่อนสมัยเด็กของฉัน

เขามักจะโกรธเรื่องเรย์จิเสมอ

ถึงมันจะน่าเบื่อ แต่ก็ดูสงบและอบอุ่น

หัวใจของฉันรู้สึกเหมือนมีแรงกระตุ้นเมื่อรู้สึกถึงเรื่องในตอนนั้น

ใครมันจะมายอมตายในที่แบบนี้กัน?!

[ ทุกคนอดหน่อยหน่อย อีกนิดเดียว! ]

ฉันส่งเสียงออกไป

ฉันพยายามจะทำให้ทุกคนมีกำลังใจขึ้นมา

ร่างกายมันหนัก แต่ฉันต้องจับดาบแล้วลุกขึ้นสู้สิ

ทหารรับจ้างบางคนตอนนี้แน่นิ่งไปซะสนิทแล้ว

ทุกคนพยายามเข้า ทางฉันเองก็จะมาล้มลงตอนนี้ไม่ได้

ฉันจับดาบขึ้น

[ เบาจัง! ]

ทันใดนั้นก็มีเสียงของใครบางคน

ในตอนนั้นฉันก็รู้สึกถึงความอบอุ่นข้างบนหัว

[ หมอกสีดำหายไปแล้ว ]

เมื่อมองไปรอบๆ ก็เห็นหมอกสีดำหายไปแล้ว

และเหนือหัวพวกเรายังมีแสงแดดส่องอยู่

ใช่แล้ว แสงนั้นคือแสงจากเวทมนตร์ของเรย์จิ

เพราะหมอกสีดำหายไปแล้วแสงจึงส่องไปทั่วทั้งอาณาจักร

ราวกับแสงนั้นไปปลุก เหล่าคนที่ล้มลงเมื่อกี้ต่างลุกขึ้นมาอีกครั้ง

และแสงนั้นก็ทำให้เหล่าซอมบี้หายไป

ดูเหมือนฉันจะถูกช่วยไว้อีกแล้วสิ

[ เรย์จิคุงช่วยชีวิตฉันเอาไว้อีกแล้วสินะ ]

 

◆ นักปราชญ์ผมดำ จิยูกิ

[ ขอโทษนะคะ แต่ฉันไม่มีพลังเลย… ]

ซาโฮโกะขอโทษฉัน

[ แม้จะพยายามเรียกเท่าไหร่ มันก็ไม่ยอมออกมา… ]

ริโนะพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า

[ ถ้าอย่างนั้น… ]

ฉันพึมพำ

โดยมีนาโอะที่กำลังหมดสติอยู่ข้างๆ

ฉันกลับมาร่วมกลุ่มกับซาโฮโกะ

และขอให้เธอช่วยรักษานาโอะ แต่ซาโฮโกะก็ใช้พลังไม่ได้แล้ว

บางทีคงเพราะหมอกสีดำนี้

ถ้ามีเจ้าหมอกสีดำนี้อยู่ พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้เลย

มีเพียงครั้งเดียวที่ฉันต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ยากลำบากขนาดนี้ นั้นก็คือตอนที่ได้พบกับไดร์ฮาร์ด

พอนึกถึงตอนนั้นขึ้นมา บางทีนี่ตัวฉันอาจจะโชคดีมาจนถึงตอนนี้เลยสินะ

[ ทั้งสองคนขอร้องล่ะช่วยดูแลนาโอะด้วย ]

ฉันลุกขึ้น

[ จะไปไหนนะคุณจิยูกิ? ]

[ ฉันจะกลับไปที่ทางใต้ดิน บางทีอาจจะมีวิธีที่ทำให้หมอกสีดำหายไปก็ได้ ]

ฉันไม่เหมือนทั้งสองคน ฉันยังพอใช้เวทมนตร์ได้อยู่
นี่คือเหตุผลที่ฉันต้องไป

[ จะไปคนเดียวในที่อันตรายแบบนั้นไม่ได้นะคะ! เจ้านั้นที่คนที่ทำให้นาโอะจังเป็นแบบนี้นะ ]

ซาโฮโกะพูด

[ ที่นั้นมีคนๆ นึงกำลังต่อสู้ด้วยตัวคนเดียวอยู่ ฉันต้องไปช่วยเขา ]

[[ เอ๊ะ? ]]

ซาโฮโกะและริโนะส่งเสียงตกใจ

[ มีใครบางกำลังต่อสู้…. เพื่อช่วยทุกคนอยู่ ]

[ ริโนะปล่อยเถอะ ]

แต่ซาโฮโกะกับริโนะดูจะไม่เชื่อ

[ บางที…. คนๆ นั้นอาจจะเป็นคนโรคจิตที่เรากำลังตามหาก็ได้… ]

ฉันคาดเดา เพราะเขาเองก็อยู่ในอาณาจักรนี้อยู่เหมือนกัน

และพลังที่ฉันเห็นในห้องใต้ดินก็ทำให้เชื่อว่าเขาคือเจ้าคนโรคจิตคนนั้น

ฉันไม่รู้ว่าำไทมเขาต้องปกปิดตัวตน ในสถานการณ์แบบนี้เนี่ยนะ?

แต่คนๆ นั้นกำลังต่อสู้อยู่คนเดียว และชายสวมหน้ากากคนนั้นก็อันตรายมาก 

ดังนั้นฉันถึงต้องกลับไป

[ นั่นมันแสง… ]

ฉันได้ยินเสียงของริโนะจากข้างหลัง

เมื่อเงยหน้าขึ้นบนท้องฟ้า หมอกดำนั้นก็หายไปและเห็นเพียงดวงอาทิตย์ที่เป็นเวทมนตร์ของเรย์จิ แสงนั้นกำลังส่องไปทั่ว

ถ้าหมอกดำหายไปแล้วก็หมายความว่า…

เขาจัดการทำอะไรสักอย่างแล้วสินะ

ฉันคิดได้แค่นั้น

[ ทำได้แล้วนะ คุณคนโรคจิต… ]

 

◆  อัศวินแห่งอาณาจักรร็อก เร็มเบอร์

[ ท่านเรย์จิ… ]

อัลมีนากำลังเฝ้าดูการต่อสู้ของผู้กล้ากับออโรร่าที่ราวกับโกหกนั้นอยู

ใบหน้าของอัลมีนาทรมาน

บางทีตอนนี้ใบหน้าของผมคงเป็นใบหน้าของคนที่กำลังจะตาย

ผู้กล้าเองตอนนี้ก็เคลื่อนไหวช้าลง

จนลำบากมากที่จะโจมตีใส่ออโรร่าและแคลคูลัส

[ ฮืมม!! ถึงจะเจอการโจมตีอย่างบ้าคลั่ง ก็ยังจะต่อสู้ได้สูสีอีกนะผู้กล้า ]

ไม่เหมือนที่ต่อสู้กันครั้งแรก ตอนนี้แคลคูลัสดูแปลกและการเคลื่อนไหวยังดูเหมือนสัตว์ป่า

[ โอ๊ะ ขอบคุณที่ชม ถ้าจะมัวแต่ทำตัวน่ารังเกียจแล้วสั่งการอยู่ข้างหลังสิ ออกมาสู้กันอย่างยุติธรรมหน่อยเป็นไง? ]

ผู้กล้าหัวเราะแล้วพูด ถึงจะเป็นแค่ผิวเผินแต่ช่องว่างว่าผู้กล้ากำลังเสียเปรียบก็กำลังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ออโรร่าคอยใช้เวทมนตร์อยู่ข้างหลังโดยให้แคลคูลัสเป็นโล่และต่อสู้กับผู้กล้าให้

[ ใครจะไปต่อสู้อย่างยุติธรรมกัน? แค่ข้ามองก็รู้แล้วว่าเจ้าน่ะเก่งและยังมีคุณสมบัติธาตุแสงอีก ถ้าข้าเข้าไปต่อสู้ตรงๆ คงโดนเจ้าจัดการนะสิ  ดังนั้นป้องกันไว้ดีกว่าแก้ ข้าเหลือแรงไว้สู้ในกรณีที่เกิดเรื่องไม่คาดคิดดีกว่า]

ออโรร่าล้อเลียนผู้กล้า

[ น่ารำคาญจริงๆ แน่จริงก็เข้ามาสู้เองหน่อยเซ่? ]

[ จะปากดีก็ปากดีไปเถอะ แต่ป่านนี้แล้วเจ้าจะทำอะไรได้!! ]

[ ถึงฉันจะทำอะไรไม่ได้ แต่สาวๆ ของฉันต้องหาทางทำอะไรได้แน่! ]

ผู้กล้าหัวเราะ ดูเหมือนเขาจะเชื่อมั่นในพวกพ้อง

[ ฮึ เจ้างี่เง่า…  ไปจัดการมันซะ !! ]

ออโรร่าสั่งให้แคลคูลัสจัดการผู้กล้า

การต่อสู้ระหว่างผู้กล้าและแคลคูลัสเริ่มขึ้น โดยที่ออโรร่าคอยโจมตีผู้กล้าอยู่ในเงามืด

ข้าทำได้แต่เพียงดูเท่านั้น

เมื่อเวลาผ่านไปดูเหมือนผู้กล้าจะเริ่มเสียเปรียบ

แต่ผู้กล้าก็ยังสู้ต่อไป

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น สมดุลการต่อสู้ก็พังลง

อัศวินแห่งวิหารคนอื่นๆ ก็ลุกขึ้นมาต่อสู้ช่วยแคลคูลัส

ถ้าคนพวกนั้นทุกคนโจมตีผู้กล้าพร้อมกันละก็…

[ เป็นไงล่ะ! เจ้างี่เง่า! ]

ออโรร่าพูด

แน่นอน ตอนนี้ผู้กล้าเริ่มถูกดันไปเรื่อยๆ แล้ว

[ นี่มันบ้าอะไรกัน… ? ]

จู่ๆ ออโร่าก็ส่งเสียงตกใจ

[ หมอกสีดำ…. ]

อัลมีนาพึมพำ

ท่าทางที่เสียขวัญของอัลมีนากลับมามีกำลังใจอีกครั้ง

เมื่อข้ามองไป หมอกสีดำที่เคยลอยเต็มไปหมดในห้อง ตอนนี้มันได้หายไปแล้ว

[ งี่เง่าน่า! นี่มันเกิดอะไรขึ้น!! ]

เสียงของออโรร่า

[ นี่คงเป็นฝีมือของจิยูกิแน่! สมกับเป็นสาวๆ ของฉันยอดจริงๆ ]

ผู้กล้าหัวเราะ

ออโร่ามองราวกับไม่เชื่อสายตา

[ บ้าบอสิ้นดี…. ท่าน… ซัลคิ… ซิส… นี่มันเรื่องโกหก ]

ออโรร่าส่ายหัวเพราะไม่อยากเชื่อ

[ รุ่นพี่เรย์จิ ! ]

[ เรย์คุง !! ]

มีเสียงเรียกผู้กล้ามาจากไกลๆ

เสียงนี้คงเป็นพรรคพวกของผู้กล้า

[ ได้เวลาเอาคืนแล้ว ]

ผู้กล้าหัวเราะแล้วพูด

[ หน๊อย… ! ]

ออโรร่าร้องด้วยความเจ็บใจ

[ ยัง… มันยังไม่จบหรอก… ]

ออโรร่าเอาขวดบางอย่างออกมาจากอกขณะที่เดินถอยหลัง

[ ข้าเองก็ไม่อยากใช้มันนักเพราะจะไม่สามารถกลับมาร่างเดิมได้… ]

[ ตอนนี้พลังฉันกลับมาแล้ว ไม่รู้หรอกนะว่าคิดจะทำอะไร แต่เธอน่ะแพ้แล้ว ]

ผู้กล้าหันดาบเข้าใส่

[ ไปเลย! ศรขนนก!! ]

ศรขนนกจำนวนมากถูกปล่อยจากตัวออโรร่าแต่เป้าหมายไม่ใช่ผู้กล้า

มันกำลังตรงเข้าไปหาอัลมีนา

[ อุ๊บ!! ]

แต่ว่าด้วยการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วของผู้กล้าทำให้ป้องกันไว้ได้หมด

ระหว่างนั้นออโรร่าก็ดื่มยาเข้าไป

เมื่อเธอดื่มยาเข้าไป ส่วนต่างๆ ของนกก็ปรากฏขึ้นมาที่รอบคอของออโรร่าจนถึงส่วนเท้า นี่คงจะเป็นร่างจริงของเธอ จากนั้นร่างของออโรร่าก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

[ กรุ๊วฮะฮะฮะ!! ]

ออโรร่าเกาะที่เพดานแล้วบินหายไปในท้องฟ้า

[ ไม่เป็นไรนะอัลมีนา? ]

ผู้กล้ายิ้มให้อัลมีนาโดยไม่สนใจออโรร่า

อัลมีนาที่ฟื้นตัวได้พยายามลุกขึ้นมา

[ เรย์จิ!! ]

อัลมีนาโอบกอดผู้กล้า

[ เรย์จิ… เจ้าปีศาจนั่น… ]

[ ได้เลยอัลมีนา… ฉันไม่รู้หรอกว่ามันคิดจะทำอะไร แต่ตอนนี้มันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันอีกแล้ว ]

มือของผู้กล้าโอบไปที่ด้านหลังของอัลมีนา

[ เรย์คุง!!! ]

[ รุ่นพี่เรย์จิ! ]

มีเสียงส่งออกมาจากด้านหลังของผู้กล้า

เพื่อนของผู้กล้าที่มาถึง ดูจะโกรธมากที่เห็นผู้กล้ากับอัลมีนากอดกัน

[ ซาโฮโกะ ริโนะ ฉันจะไล่ตามเจ้าปีศาจนั้นไป ฝากดูแลอัลมีนาด้วย! ]

เมื่อเขาพูดจบ เขาก็ผละตัวออกจากอัลมีนาและกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า

[ เดี๋ยวสิรุ่นพี่เรย์จิ!! ]

[ อีกแล้วนะเรย์คุง!!! ]

ทั้งสองคนบ่นแล้วมองไปบนท้องฟ้า

[ อุ๊~ ]

ข้าพยายามดันตัวเองขึ้น

ดูเหมือนเพราะเสียง พวกเขาเลยสังเกตเห็นแล้ว

[ คุณซาโฮะโกะผู้ชายคนนั้นบาดเจ็บนี่คะ? ]

[ เอ่อ…. ใช่แล้ว เร็มเบอร์? ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ? ]

ข้าก็บอกได้ว่าไม่เป็นไรได้ไม่เต็มปากหรอก

ดูเหมือนข้าจะถูกผู้กล้าและอัลมีนาลืมตัวตนไปแล้วด้วยซ้ำ นี่ข้าน่าจะตายไปซะคงจะดีกว่าสินะ

ด้วยเวทมนตร์ของนักบุญสีขาว

ทำให้บาดแผลของข้าหายไปในทันที

ดูเหมือนข้าจะรอดตายมาได้

 

◆ นักปราชญ์ผมดำ จิยูกิ

[ คุณนาโอะไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ? ]

นาโอะหยักหน้า

เมื่อหมอกสีดำหายไป นาโอะก็ตื่นขึ้น

ด้วยเวทมนตร์ของซาโฮโกะทำให้เธอฟื้นฟูได้ในระดับนึง แต่ก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่

ตอนนี้ซาโฮโกะกับริโนะกำลังไปที่ราชวัง ซึ่งดูเหมือนที่นั้นยังต่อสู้กันอยู่

ฉันและริโนะเข้าไปในทางใต้ดิน

ได้พบกับเขาคนนั้น และเขาก็ต่อสู้กับชายสวมหน้ากากเพื่อให้เราหนีไป

และทั้งฉันกับนาโอะก็มีหนี้บุญคุณที่ต้องขอบคุณกับเขาด้วย

ที่จริงฉันอยากเข้าไปในห้องใต้ดินนั้นอีกครั้ง แต่ฉันคงจะพานาโอะที่ยังไม่ฟื้นตัวดีไปไม่ได้และถึงฉันไปคนเดียวก็ทำอะไรไม่ได้

แน่นอน ถ้าต้องรอมันอาจจะใช้เวลานานเกินไป ฉันเลยคิดจะไปคนเดียว

[ คุณจิยูกิ…. ]

นาโอะเรียกชื่อฉัน

จากนั้นเธอก็มองไปบนฟ้า

บนท้องฟ้าที่นาโอะมอง พวกเเราเห็นนกตัวหนึ่งกำลังบินอยู่

[ นั่นมันนก? ไม่สิ นั่นคงเป็นสคิเกอร์…? ]

ฉันไม่มั่นใจว่ามันใช่สคิเกอร์รึเปล่า

แต่ร่างกายของมันดูใหญ่มากคล้ายกับสคิเกอร์ยักษ์

[ อะไร… ]

นาโอะพึมพำ

ฉันและนาโอะจับจ้องไปที่บนท้องฟ้า

ร่างของสคิเกอร์นั้นบนขึ้นไปสูงและมีขนาดใหญ่จนสุดท้ายก็ใหญ่เท่ากันอาณาจักรนี้ไปแล้ว

และรูปร่างมันแตกต่างจากสคิเกอร์ทั่วไป ถึงมันจะมีร่างกายเป็นนกแต่หน้ากลับเป็นสิงโต

[ นั่นมันปีศาจที่อาศัยอยู่ทางทะเลทรายตะวันตก…. ]

ฉันเคยเห็นในหนังสือ มันคือปีศาจที่บินบนท้องฟ้าได้ซึ่งเป็นปีศาจที่อาศัยอยู่ทางทะเลทรายทางตะวันตก แค่เพียงลมที่พัดจากปีกมันก็ก่อให้เกิดภัยพิบัติได้แล้ว

ปีศาจนกกำลังบดบังดวงอาทิตย์ที่เรย์จิสร้างขึ้นและทำให้ทั้งอาณาจักรมีแต่เงามืด

[ เคี๊ยกก!!! ]

ปีศาจนกคำรามและกระพือปีกจนเกิดลมแรง อาคารรอบๆ ต่างพังเพราะแรงลมนั้น

[ ขืนเป็นแบบนี้อาณาจักรนี้พังพินาศแน่… ]

ฉันพยายามบินไปด้วยเวทมนตร์บิน

[ อ่ะ นั่นมันรุ่นพี่เรย์จิ! ]

นาโอะชี้

ในที่ที่ปีศาจนกนั้นอยู่มีใครบางคนกำลังส่องแสงอยู่ ไม่ผิดแน่ นั่นต้องเป็นเรย์จิแน่ๆ

เรย์จิกำลังต่อสู้กับเจ้านั้น

[ แกจงเป็นฝุ่นไปพร้อมกับอาณาจักรนี้ซะเถอะ― ] 

เสียงร้องของนกปีศาจคำถามเสียงดังกังวาน

เสียงดังวานนั้นทำให้ผู้คนในอาณาจักรต่างตกอยู่ในความสิ้นหวัง

[ ตราบที่ฉันยังอยู่ที่นี่ ไม่ยอมให้ทำหรอกเว้ย!! ]

เสียงของเรย์จิร้องตระโกนก้องกังวาล ฉันเองก็เคยคิดล่ะนะ แต่เสียงเรย์จินี้ดังจริงๆ

[ เอานี้ไปกิน — !! ]

ขนนกขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นกลายเป็นห่าฝนใส่เรย์จิ

[ แล้วถ้าเป็นเจ้านี้ล่ะ!! ]

บอลแสงจำนวนมากรายล้อมเรย์จิ

บอลแสงพวกนั้นคอยยิงลูกศพจนนกให้หล่น นั้นคือกระสุนแสงซึ่งเป็นเวทมนตร์ของเรย์จิ

[ ถึงตาฉันบ้างล่ะ!! ]

เรย์จิตระโกน จากนั้นก็มีวงเวทขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นที่บนหัวเรย์จิ

[ นั่นมัน…. ]

ไม่ได้การ เวทที่เรย์จิกำลังจะใช้นั้นมัน ‘เทพแห่งการชำระล้าง’ ซึ่งเป็นเวทที่แม้แต่เหล่าเทพแห่งเอลีอัสก็ยังใช้ไม่ได้ ยกเว้นแค่โอดิน ราชาเทพเพียงคนเดียว ตอนที่เรย์จิเคยใช้เวทนั้นครั้งแรก เรน่าตกใจมากจนต้องมาอธิบายกันยาวเลยล่ะ

[ ไปเลย!! ]

แสงมากมายปรากฏขึ้นจากมือของเรย์จิและกลืนกินปีศาจนั้น

[ เคี๊ยกก――――!!!]

เสียงคำถามของปีศาจนกดังออกมา จากนั้นร่างของปีศาจก็หายไปพร้อมกับแสง

แสงได้กลืนกินปีศาจนกไปแล้วเหลือแต่เพียงดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงในท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ยาวสุดลูหูลูกตา

มีเพียงดวงอาทิตย์ของเรย์จิและเรย์จิเท่านั้นที่เหลืออยู่ ปีศาจนกที่อยู่บนฟ้าได้หายไปแล้ว

ความเงียบได้ปกคลุมไปทั่วอาณาจักร จากนั้นทุกคนก็ส่งเสียงดีใจกันขึ้น

รอบตัวฉันกับนาโอะไม่มีใครอยู่เลย แต่กลับได้ยินเสียงดีใจของชาวเมืองมาถึงที่นี่

เสียงเชียร์ที่ส่งให้เรย์จินั้นดังไปทั่วอาณาจักร

 

 

 

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 27"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์