CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อัศวินดำ - ตอนที่ 38

  1. Home
  2. อัศวินดำ
  3. ตอนที่ 38
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

◆ เจ้าชายก็อบลินโกสุ

[ งั้นเองเหรอ โอมิรอสกำลังตามหาเรจิน่า งั้นคงดีกว่าสินะ ถ้าคุนะจะไปหาโอมิรอสเองเลย ]

เมื่อข้ารู้สึกตัวอีกที ข้าก็อยู่ต่อหน้าแม่มดสีเงินไปแล้ว

ข้าจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่มดสีเงินฟัง

แต่ทำไมเธอถึงอยากรู้เรื่องของเรจิน่า?

แล้วนี่ตัวข้าจะเป็นยังไงบ้างล่ะเนี่ย

มันจะไม่ง่ายกว่าเหรอถ้าแม่มดสีเงินไปเอาตัวเรจิน่ามาถามเองเลยนะ?

[ เอาล่ะ คุนะเข้าใจแล้ว ขอตัว ]

เมื่อแม่มดสีเงินรู้ทุกอย่างหมดแล้ว เธอกำลังจะเดินออกจากห้องไป

[ รอเดี๋ยวครับท่านคุนะ!! ]

ข้าเรียกเธอไว้ แม้ตัวข้าจะหมดประโยชน์แล้ว แต่มันยังไม่จบ

[ อะไรล่ะโกสุ? หรือยังมีเรื่องอะไรอีก? ]

แม่มดสีเงินรอฟังข้า ใบหน้าสวยๆ ของเธอกำลังทำหน้าไม่พอใจ

[ หรือบางทีท่านจะชอบ… เรจิน่า? ]

[ เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับนาย ]

แม่มดสีเงินตอบมาอย่างเย็นชา

[ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว คุนะขอตัว ]

เธอกำลังจะออกจากห้องอีกครั้ง

ข้าไปขวางหน้าแม่มดสีเงินไว้

[ เอ่อ ช่วยรอเดี๋ยวก่อนท่านคุนะ! ช-ใช่แล้ว! ที่จริงข้ามีเหล้าผลไม้ชั้นดีของอาณาจักรนี้! ท่านอยากจะลองดื่มสักแก้วมั้ยครับ! หรือจะเอาไปเป็นของฝากกลับไปก็ได้นะครับ! ]

ข้าพูดออกไปด้วยความหวาดกลัวและเอามือจับที่หน้าอกไว้

ในกระเป๋าหน้าอกของข้ามียาโด๊ปอยู่

ถ้าข้านำยานี้ให้แม่มดสีเงินดื่มได้ล่ะก็… ไม่ว่าจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ต้องตกเป็นของข้า

ข้าล้วงมือที่กระเป๋าที่หน้าอก

แต่นัยน์ตาของแม่มดสีเงินช่างเย็นชา

[ แล้วเหล้าผลไม้อะไรล่ะที่นายอยากดื่ม? ]

เหงื่อเย็นๆ ไหลผ่านหลังข้าหลังจากได้ยินคำพูดนั้น

[ ว่าไง!? เป็นอะไรไปล่ะโกสุ!!? ]

เธอเร่งเร้าถามข้า

[ โง่เง่า… จะโง่เง่าเกินไปแล้ว แม้แต่สติปัญหาหรือเสน่ห์ก็ไม่ได้เศษเสี้ยวของคุโรกิด้วยซ้ำ ทีแรกคุนะคิดว่าจะปล่อยไปแล้วแท้ๆ แต่สงสัยต้องให้สำนึกด้วยร่างกายซะแล้ว ]

บางทีเธออาจจะรู้แล้วเหรอว่าข้าจะคิดจะทำอะไร?

[ เอ่อ… ไม่เอาเหล้าผลไม้เหรอ… ]

[ โกหกสินะ ด้วยพลัวเวทของคุนะ นายมาหลอกกันไม่ได้หรอก ที่หน้าอกนั้นคงมียาโด๊ปที่ได้จากราชินีก็อบลินอยู่ล่ะสิ ]

เมื่อได้ยินคำพูดนั้นดวงตาของข้าก็ตกใจจนเปิดกว้าง

แม่มดสีเงินรู้เรื่องยาโด๊ป?

[ มองตาของคุนะ ]

เมื่อข้ามองไปที่ดวงตาอันงดงามของแม่มดสีเงิน ร่างกายก็ขยับไม่ได้

[ เอายาโด๊ปออกมา ]

เมื่อได้ยิน มือข้าก็เคลื่อนไหวไปหยิบขวดเล็กๆ ในกระเป๋าไปเองและกำลังจะกรอกปากตัวข้าเอง

ข้าไม่ควรดื่มเข้าไป

ถึงแม้จะเป็นยาโด๊ปแค่หยดสองหยดก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าดื่มไปทั้งขวดแบบนี้แย่แน่

ข้าต้องต่าต้านแต่มือกลับขยับไปแบบสบายและนำข้ากรอกเข้าปากข้า

ยาโด๊ปนี้ทำจากน้ำผึ้งจากป่าอันมืดมิดในนากอล รสหวานแพร่กระจายไปในปากข้า

เมื่อข้าดื่มได้ประมาณครึ่งขวด ร่างกายช่วงร่างก็กระตุกอย่างรุนแรง

[ อ-อึก…. อ-อึก.. ]

มีเสียงแปลกๆ ส่งออกมา

ช่วงล่างแข็งโด่ขึ้น

แม่มดสีเงินข้างหน้าข้าส่งกลิ่นหอมหวานออกมา

อยาก… ข้าอยาก…

จากนั้นข้าก็โจมตีแม่มดสีเงิน

[ อ๊า~ …อ๊าฟุ๊~ ]

แต่เท้าที่ก้าวไปกับหยุดเคลื่อนไหวกลางคัน ขณะที่ก้าวไปได้เพียงครึ่งก้าว

[ ใบหน้าน่าเกลียดกว่าเดิมซะอีกนะ… น่าสะอิดสะเอียนซะจริง ]

ข้าถูกดวงสีเงินนั้นจ้องมองอย่างเย็นชา

ช่วงเวลาที่ได้เห็นดวงตานั้น ช่วงล่างของข้าก็กระตุก

ข้าพยายามกุมเป้าด้วยทั้งสองมือและตัวสั่นกลัวไปหมด

[ อ้า…. ]

มันไหลออกมา

ของเหลวไหลออกมาจากเป้าข้า จนพื้นสกปรกไปหมด

[ จงทนทุกข์ทรมานแบบนี้ไปจนจบงานเต้นรำซะเถอะ ]

จากนั้นเธอก็ออกไปโดยไม่สนใจใยดี

[ รอ… ท่านคุนะ… อ้า… อ้า… ]

แต่ข้าทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนนิ่งและน้ำลายไหลยืด

 

◆ เจ้าชายแห่งอาณาจักรอัลโกลี่ โอมิรอส

เมื่อเจ้าหญิงชิโรเนะจากไป ตัวข้าก็ไม่มีคู่เต้นก็เหลือเพียงคนเดียว บางทีเจ้าหญิงชิโรเนะอาจจะไม่ชอบเต้นก็ได้ แต่สำหรับราชาอีคาราสคงไม่มีปัญหาใดๆ หรอก

เพราะจากท่าทีของราชาอีคาราสเองก็อยากจะสานสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรเรากับอาณาจักรเวรอสอยู่แล้ว ดังนั้นข้าคงไม่ต้องฝืนเต้นก็ได้

เริ่มรู้สึกหิวสักหน่อยแล้วสิ ข้าเดินไปที่ราชวัง

จะว่าไปยังไม่ได้กินอะไรตั้งแตเมื่อกลางวันเลย ข้าเดินไปที่ห้องอาหาร

ในห้องมีอาหารอยู่หลากหลายชนิด

ขนมปังที่มีเนื้อแกะอยู่ข้างใน ปลาไหลอบ ปลาย่างซอส ห่านอบ ที่มีกระเทียม สมุนไพร และน้ำซุปหัวหอม

ทั้งหมดต่างน่ากินไปหมด

[ สมกับเป็นอาณาจักรเวรอสร่ำรวยจริงๆ ]

ในอัลโกลี่ไม่มีอาหารมากมายขนาดนี้หรอก

เมื่อสมัยเด็กข้าก็ได้กินแค่ซุปถั่วเท่านั้น ถึงตอนนี้จะยังไม่เปลี่ยนก็เถอะ

ข้านึกขึ้นมาได้

[ อยากเอาไปฝากเฮนเรียที่จังนะ ]

มันเป็นการเสียมารยาท แต่ที่อัลโกลี่ไม่มีอาหารมากมายขนาดนี้หรอก 

ตอนที่พวกเราบอกว่าจะมาที่เวรอส เฮนเรียเองก็อยากมาด้วยแต่เพราะเธอยังเด็กและข้าเองก็ไม่ได้มาเล่นหรอกนะ ดังนั้นเลยไม่ได้พามาด้วย

ข้าเอาผ้าออกมา เพราะยังไม่ได้ใช้มันเลยยังสะอาดอยู่ อย่างน้อยก็เอาขนมอบกลับด้วยดีกว่า

ข้ามองไปมุมขนมหวาน

เมื่อมองไปๆ ก็เจอ ข้าหยิบขนมชิ้นหนึ่งที่ดูดีขึ้นมา

มันเป็นขนมอบที่ตกแต่งด้วยผลเวรุสที่หวาน ข้าหยิบขนมขึ้นมาและใช้ผ้าห่อไว้

[ ดีล่ะ ได้ชิ้นนึงแล้ว ]

ที่จริงข้าอยากเอาอย่างอื่นไปด้วยแต่ก็ต้องยอมแพ้ เพราะไม่รู้ว่าจะเก็บอาหารพวนี้กลับไปยังไง

ในตอนนั้นข้าก็สังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง

ผู้หญิงคนนั้นหยิบอาหารใส่ในจาน

ข้าเห็นชัดเจนเลยว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่

[ อ่ะ ชิ้นนั้นก็น่ากิน… ]

เธอหยิบขนมอบชิ้นเล็กๆ หลายชิ้นมาใส่จานของตัวเอง นี่เธอจะกินหมดนั้นเลยเหรอ?

บางทีเธออาจจะมาจากอาณาจักรที่ยากจนเหมือนข้าล่ะนะ

แต่ข้าสงสัยเรื่องภาชนะที่เธอใช้ใส่นะสิ

มันเป็นภาชนะที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน

ผิวโปร่งใสและดูนุ่ม และสามารถมองผ่านภาชนะนั้นได้

คนในอาณาจักรยากจนมีภาชนะมหัศจรรย์ขนาดนั้นลยเหรอ?

นี่เธอเป็นใครกันแน่?

ข้ามองไปที่หน้าผู้หญิงคนนั้น

แต่เห็นใบหน้าแค่เพียงลางๆ เท่านั้น เพราะมีผ้าบางๆ ที่ประดับติดผมอยู่

[ เอ๊ะ!? ]

เมื่อผมพยายามขยับเข้าไปดูหน้าเธอใกล้ๆ อีกนิดก็เห็นเข้า…

ใบหน้านั้น… ใบหน้าของคนที่ผมอยากเจอที่สุดในโลกใบนี้

ข้ารีบหันไปที่ผู้หญิงคนนั้น

[ เรจิน่า ]

ผู้หญิงคนนั้นหันมาตามเสียงเรียกของข้า

หน้าตาของเธอดูประหลาดใจและปากก็ค่อยๆ เปิดออก

[ โอมิรอส… ]

เธอพึมพำ

ทั้งที่เธอน่าจะอยู่ที่รังก็อบลินนี่นา

 

◆ เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรอัลโกลี่ เรจิน่า

ฉันไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้มาที่อาณาจักรเวรอสแบบนี้

อาณาจักรเวรอสก็คือบ้านเกิดของแม่ฉัน

คุณยายเคยเล่าให้ฟังว่า คุณแม่เป็นเจ้าหญิงของอาณาจักรนี้และถูกเรียกว่าอัญมณีแห่งเวรอส ดูเหมือนว่าคุณแม่จะเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในอาณาจักรนี้เลยก็ว่าได้ 

เพราะการเต้นของคุณแม่ที่เคยเต้นที่เวรอสนั้นงดงามมาก

ตั้งแต่ยังเด็กๆ ฉันคิดว่าสักวันอยากก็อยากเต้นรำที่นั้นเหมือนกัน ถึงได้ขอให้คุณแม่สอนการเต้นรำให้

แต่พอคิดดูแล้วคงจะเป็นไปไม่ได้ 

แม่ของฉันเป็นคู่หมั้นของเจ้าชายประเทศนี้ แต่ถูกพ่อของฉันที่เป็นราชาของอัลโกลี่แย่งไป

ตัวฉันที่เกิดจากลูกของทั้งสองคงมาเหยียบที่นี่ไม่ได้

ตัวฉันถูกเนรเทศออกจากอัลโกลี่ อย่าว่าแต่การเต้นเเลย หากไปที่งานเลี้ยงเต้นรำต้องอันตรายแน่ แต่ก็อยากไปสักครั้ง

ดังนั้นถึงได้ขอร้องท่านคุนะให้พาฉันไปด้วย

[ สวยงามมากค่ะท่านคุนะ… ]

ตอนนี้ฉันกำลังเฝ้ามองทั้งสองคนนเต้นรำอยู่กลางงานเต้นรำ

ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากเต้นรำกับนายท่านเหมือนกัน 

หัวใจของฉันรู้สึกเจ็บปวดเมื่อนึกถึงภาพของนายท่าน

ครั้งแรกที่ฉันได้พบกับนายท่าน ฉันรู้สึกตกใจมาก

ทำไมอัศวินดำถึงได้เป็นมนุษย์? 

ไม่ว่าจะพยายามคิดเท่าไหร่ ก็ไม่น่าจะมีมนุษย์ที่สวมชุดเกราะดำได้

นายท่านดูเหมือนจะเป็นมนุษย์ แต่ก็ไม่ใช่มนุษย์

กระทั่งเทพธิดา เทพธิดาพิทักษ์แห่งอัลโกลี่เองก็มีรูปร่างเหมือนมนุษย์แต่ก็ไม่ใช่มนุษย์เช่นกัน ดังนั้นฉันเลยคิดว่านายท่านคงไม่ใช่มนุษย์แน่ๆ

นายท่านแข็งแกร่งมาก

เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังเวทมนตร์ของนายท่าน ไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร์หรือปีศาจที่น่ากลัวก็ต้องยอมก้มหัวศิโรราบ

จากที่ข้าได้ยินมาดูเหมือนนายท่านจะเอาชนะผู้กล้าได้ ผู้กล้าที่ทำให้ตระกูลของฉันต้องล้มสลาย

ดังนั้นสำหรับฉัน นายท่านจึงเป็นเหมือนผู้มีพระคุณ

ฉันอยากตอบแทนนายท่าน ไม่ว่าเขานายท่านจะขอเรื่องอะไรข้าก็พร้อมตอบรับ

แต่เรื่องนันมันช่างยากลำบาก เพราะท่านคุนะโกรธมากที่เห็นฉันพยายามเข้าใกล้นายท่าน

แน่นอน ฉันเองก็ไม่รู้ว่าท่านคุนะเป็นใครเหมือนกัน

มีข่าวลือว่าท่านคุนะเป็นเจ้าหญิง-ลูกสาวของราชาปีศาจ

ท่านคุนะเองก็มีรูปร่างเป็นมนุษย์เหมือนนายท่าน แม้ว่ามนุษย์จะเข้าใกล้ท่านคุนะก็ไม่ได้สนใจอะไร

แต่เมื่อโดนใบหน้าอันงดงามนั้นจ้องเข้า ร่างกายกลับหนาวสั่นไปหมด

ตอนนี้ท่านคุนะกำลังเต้นรำกับนายท่าน

เมื่อได้เห็นชุดของท่านคุนะที่แต่งเพื่อมางานเต้นรำแล้ว ฉันก็ได้แต่ถอนหายใจ

สวยจนน่าตกใจ ความงามที่เปรียบได้กับเทพธิดา

นายท่านเองก็ดูจะมีความสุขที่ได้เต้นกับเธอ

ฉันเองก็แต่งตัวเต็มที่เพื่อมางานเต้นรำเหมือนกันนะ แต่มันช่างแตกต่างราวฟับกับเหว

หลังจากท่านคุนะเต้นเสร็จ ไปลองขอนายท่านดูดีมั้ยนะ

ฉันได้แต่คิดและส่ายหัว แค่คิดก็น่าเศร้าแล้ว เลิกคิดเรื่องนั้นดีกว่า

ยังไงฉันเองก็ได้ซ้อมเต้นกับนายท่านแล้วนี่นะ

ไปหาของอร่อยๆ กินเพื่อเปลี่ยนอารมณ์สักหน่อยดีกว่า

ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องอาหารที่แยกจากโถงของงานเต้นรำ

อาหารที่ไม่เคยเห็นเรียงรายอยู่ตรงหน้าเต็มไปหมด

ฉันใส่อาหารลงไปในกล่องเก็บอาหาร(กล่องพาสติกเก็บอาหารนะครับ) 

ภาชนะที่ชื่อว่ากล่องเก็บอาหารนี้คืออุปกรณ์เวทที่นายท่านขอให้คนแคระทำให้

กล่องเก็บอาหารสุดยอดเลยล่ะ ทั้งช่วยเก็บรักษาอุณหภูมิอาหารและเก็บไว้ได้นานขึ้น

[ หวังว่าทุกคนคงชอบนะ ]

เพราะในนากอลมีอยู่หลายเผ่าพันธุ์

และมีอาหารไม่กี่อย่างเท่านั้นที่มนุษย์กินได้ที่นากอล

เพราะส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอาหารที่มีแต่ปีศาจเท่านั้นที่กินได้ เมื่อมนุษย์กินเข้าไปก็จะตายทันที 

ตอนที่ฉันอยู่กับพวกปีสาจก็มีแค่กินของเหลือเท่านั้น

นายท่านจึงได้แบ่งอาหารมาให้ แต่หากท่านทำแบบนั้นจะยิ่งทำให้โดนปีศาจเกลียดมากขึ้น แม้ว่าพวกเราจะเป็นผู้ลี้ภัยของนายท่านแต่ก็มีความรู้สึกต่อต้านอยู่ หากเรายิ่งรับความใจดีของนายท่านไว้เราจะยิ่งอาศัยอยู่นั้นได้ยากยิ่งขึ้น จึงได้แต่ปฏิเสธไป

แต่คราวนี้ล่ะ ฉันจะเอาอาหารใส่กล่องเก็บอาหารแล้วเอาไปฝากทุกคน

ฉันขยับมือตักอาหารไปเรื่อยๆ

ทันใดนั้นฉันก็เพิ่งสังเกตว่ามีคนอยู่ข้างๆ

บางทีเขาอาจจะเป็นคนของอาณาจักรเวรอส ที่เห็นท่าทางเสียมารยาทของฉัน

ฉันก็รู้ตัวดีว่ามันเสียมารยาท แต่เดิมฉันก็ไม่ใช่แขกอย่างถูกต้องของงานเต้นรำนี้อยู่แล้ว จะรักษามารยาทก็น่ารำคาญ

ฉันคว้าไปที่ใต้กระโปรง ข้างใต้กระโปรงนี้มีดาบที่ฉันได้รับจากนายท่านซ่อนเอาไว้อยู่

ดาบที่เป็นสิ่งสำคัญที่นายท่านมอบให้

ซึ่งนายท่านเป็นคนตีมันขึ้นมาด้วยตัวเอง

ถ้ามีอะไรเกิดขึน ฉันก็จะใช้ดาบนี้ป้องกันตัวล่ะ

ฉันขยับมือและคิดจะจัดการคนของอาณาจักรเวรอสคนนั้น

แต่การช้ดาบที่นี่จะไม่ค่อยดีนัก บางทีเขาอาจจะหนีไปได้และไปบอกคนอื่นๆ ก็ได้

[ เรจิน่า ]

คนๆ นั้นเรียกชื่อของฉัน

ทำไมถึงรู้ชื่อของฉันได้?

ฉันรู้สึกตกใจมากเมื่อได้เห็นใบหน้าของคนๆ นั้น

นั่นเป็นใบหน้าของคนรู้จักของฉัน

[ โอมิรอส…. ]

นั่นคือใบหน้าของเพื่อนสมัยเด็กที่เดินทางไปฝึกการต่อสู้เมื่อหนึ่งปีก่อน

ฉันเองก็สงสัยอยู่ว่าเมื่อไหร่เขาจะกลับมากันนะ

ตอนนี้ใบหน้าของโอมิรอสดูสมชายและห้าวหาญขึ้นกว่าเมื่อก่อนเอยะ

[ เรจิน่า…. ตัวจริงเหรอ? ทำไมเธอถึงได้มาอยู่ที่นี่… นี่มันเรื่องอะไร… ]

เขาทำสีหน้าเหมือนกับไม่อยากเชื่อตาตัวเอง

สายตาของเขาจ้องมองไปทั่วร่างของฉันและหยุดลงที่มือ

เขากำลังมองกล่องเก็บอาหารอยู่

ฉันอายเลยซ่อนกล่องเก็บอาหารไว้ข้างหลังแทบจะทันที

[ นี่มันไม่ใช่… ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ … ]

นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เหมือนคุยกันคนละเรื่องเหรอ?

ก็ฉันไม่อยากให้เพื่อนสมัยเด็กมาเห็นสภาพน่าอายนี่นา

[ ขอโทษนะโอมิรอส!!! ]

ฉันพูดแล้วจากนั้นก็วิ่งหนีไปที่ข้างหลังโอมิรอส

[ รอก่อนเรจิน่า!! ]

โอมิรอสวิ่งตามมา

ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงหนีเหมือนกัน

แต่เท้าของฉันกลับวิ่งหนีไปหานายท่าน

แต่ฉันก็ไปชนอะไรบางอย่างใหญ่ๆ เข้าที่ประตูก่อนจะออกไป

ทั้งที่มันไม่น่ามีของใหญ่ขนาดนี้วางอยู่ที่ประตูสิ

ฉันเงยหน้าขึ้น

[ เอ๊ะ…? ]

เป็นบางอย่างที่สูงกว่าฉันถึงสองเท่า

บางสิ่งบางอย่างที่เหมือนมนุษย์ แต่ก็มีขนาดที่ต่างกัน

ฉันมองไปยังเขี้ยวที่งอกออกมา ดวงตาของเขาจับจ้องมาที่ฉัน

[ ว๊ายยยย!! ]

ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นจากห้องโถงจัดงาน

[ โอเกอร์!! ]

[ ทำไมโอเกอร์ถึงมาอยู่ที่นี่ได้! ]

[ ช่วยด้วย! ]

ฉันได้ยินเสียงร้องมากมาย

พอได้ยินคำว่าโอเกอร์ ฉันก็มองไปยังชายตรงหน้าของฉันอีกครั้ง

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นตัวจริง แต่ถึงอย่างนั้นก็มั่นใจเลยว่าชายตรงหน้าเป็นโอเกอร์

พวกเขาเป็นปีศาจร้ายที่ชอบกินมนุษย์ ถ้าไม่รีบหนีตอนนี้ฉันมีหวังโดนกินแน่

[ ดูท่าจะกำลังสับสนอยู่สินะ ]

โอเกอร์พูดออกมาด้วยเสียงอันน่ากลัว

[ ถอยไปห่างๆ เรจิน่านะ!!! ]

โอมิรอสรีบวิ่งมาช่วยฉัน แต่ไม่มีทางหรอก อีกฝ่ายเป็นโอเกอร์เชียวนะและโอมิรอสยังไม่มีอาวุธอีก

[ อ-อะไรนะ? ]

เพียงโอเกอร์เหวี่ยงแขน โอมิรอสก็ถูกจัดการจนปลิวไปอย่างง่ายดาย

นัยต์ตาของโอเกอร์มองหน้าโอมิรอส

โอมิรอสกำลังตกอยู่ในอันตราย

เมื่อฉันคิดได้อย่างนั้น ร่างกายของฉันก็ขยับไปเอง ฉันยืนขึ้นและดึงดาบที่อยู่ใต้กระโปรงออกมา

เมื่อดึงดาบออกมา ใบมีดสีดำก็ปรากฏขึ้นและมีเปลวไฟสีดำออกมา

[ ออกไปห่างๆ โอมิรอสนะ!! ]

ฉันแกว่งดาบและฟันไปที่เท้าของโอเกอร์

[ ก๊าซซซ!!! ]

โอเกอร์กุมเท้าที่ฉีกขาด

[ โอมิรอส!! ]

ฉันรีบไปหาโอมิรอส

[ เรจิน่า… ]

โอมิรอสมองฉันด้วยสีหน้าซีดเซียว

[ หนีไปซะโอมิรอส!! ]

ฉันจับมือโอมิรอสและพาเขาวิ่งออกไป

[ รอก่อน! แก…. !! ]

ฉันไม่ยินเสียงร้องของโอเกอร์

แต่ฉันไม่สนใจแล้ววิ่งหนี

 

◆ อัศวินดำคุโรกิ

ผมรู้สึกสับสนไปหมดที่จู่ๆ โอเกอร์ก็โผล่มา

[ ฉันต้อง …… รีบไปหาราชา นี่คุณน่ะมาด้วยกันหน่อยสิ!! ]

มิโดริ เคียวกะพูดแล้วเริ่มเดิน

[ เอ่อ… เรื่องอะไรกัน? ]

นี่เธอไม่ได้ยินเสียงผมเหรอ? มิโดริ เคียวกะโดยไปโดยไม่สน

ผมถูกเธอลากไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้

จะดีเหรอที่จะให้คนอย่างไปยืนอยู่ตรงนั้นนะ

เราพบราชาเวรอสอย่างง่ายดาย เพราะมีคนคุ้มกันอยู่หลายคนรอบๆ จึงมองออกได้ง่าย

และตรงนั้นก็มีราชาที่นั่งอยู่

[ สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือไปปกป้องแขกต่างหาก ]

[ แต่ว่าฝ่าบาท… ]

เมื่อเริ่มเข้าใกล้ ผมก็ได้ยินพวกเขาคุยกัน

จากนั้นราชาก็สังเกตเห็น

[ ท่านเคียวกะ ข-ข้า…. ต้องขอโทษที่มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วย ]

ราชาขอโทษขณะที่ยังนั่งอยู่

[ เรื่องนั้นฉันไม่สนใจหรอกค่ะ สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือพาคุณหนีต่างหาก ]

[ ฮะฮะฮ่า เราคงหนีโดยทิ้งแขกไว้ไม่ได้หรอก… ร่างกายอ้วนๆ นี้คงจะหนีไปไม่ทันแน่… ฮะฮะฮ่า น่าสมเพซใช่มั้ยล่ะ? อย่างน้อยแค่โคฟิน่า ท่านช่วยพาเธอหนีไปที่ปลอดภัยทีจะได้มั้ย? ]

[ คุณคะ… ]

ราชินีดูเหมือนจะร้องไห้

พวกเขาเป็นคู่รักที่รักกันจริงๆ

ราชาดูมีบุคลิกอ่อนโยนผิดกับร่างกายที่ใหญ่โตของตัวเอง

ราชาบอกให้ราชินีหนีไปและสั่งให้ทหารไปปกป้องคนรอบข้าง

โดยปล่อยเขาทิ้งไว้

สิ่งที่ราชาสั่ง ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันถูกต้องแล้วรึไม่

แต่เหล่าทหารไม่ยอมทำตามคำสั่งของราชาและพยายามปกป้องราชาไว้ หากพิจารณาว่านี่เป็นการทำเพื่ออาณาจักร นี่ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว

แต่ดูเหมือนว่าจะสายเกินไป

พวกเขาโดนโอเกอร์เจอตัวแล้ว

โอเกอร์สามตัวกำลังมาทางนี้

เหล่าคนคุ้มกันต่างพยายามปกป้องราชา ดวงตาของพวกเขามองว่าราชาเป็นคนสำคัญจริงๆ

โอเกอร์มาแล้ว

[ แกคือราชางั้นเหรอ? ]

ผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงกลางของโอเกอร์ทั้งสามมองไปยังราชาแห่งเวรอส เสียงนั้นดูน่ากลัวมาก

บางทีคงเป็นผู้นำของกลุ่มโอเกอร์

[ โอ้! ปกป้องราชาเอาไว้!! ]

คนคุ้มกันตรงหน้าพูดเมื่ออยู่ต่อหน้าโอเกอร์

[ ไอ้พวกปลาซิวปลาสร้อย! ]

โอเกอร์ทางด้านซ้ายและขวาสบัดมือ

คนคุ้มกันโดนจัดการอย่างง่ายดาย

[ ฮี๊!!!!! ]

เสียงร้องของราชา

[ คุณคะ!! ]

ราชินีไปยืนอยู่ข้างหน้า

[ ไม่ได้นะโคฟิน่า!! อย่างน้อยแค่เจ้าหนีไปแค่คนเดียวก็พอ! ]

แม้ว่าราชาจะพูดออกไป แต่ราชาก็ไม่อาจหนีไปได้

[ โอเกอร์พวกนี้มันอะไร… มันคือใครกันแน่? ]

ผมได้สินเสียงราชากำลังสั่น

[ ข้าคือคุจิค น้องสาวของผู้กล้าอยู่ที่อาณาจักรนี้สินะ!! ]

จากคำพูดของโอเกอร์ ทำให้ผมรู้ว่าเป้าหมายของโอเกอร์พวกนี้ก็คือมิโดริ เคียวกะ แต่ทำไมถึงต้องเพ่งเล็งไปที่เธอล่ะ?

ถ้าทำอะไรกับเธอ เรย์จิไม่หยุดอยู่เฉยๆ แน่ งั้นทำไมโอเกอร์พวกนี้ถึงได้พยายามจะทำให้เขาโมโหอีกล่ะ?

[ ฉันไม่วิ่งและไม่ซ่อนทั้งนั้น ปล่อยคนอื่นๆ ไปซะ!! ]

มิโดริ เคียวกะปรากฏตัวตรงหน้า

[ หน้าอกใหญ่ดีนี่นา? เจ้าเองน่ะเหรอที่ฆ่าน้องชายของข้า ]

โอเกอร์ด้านซ้ายพูดด้วยเสียงน่ากลัว

[ ถ้ามาแตะต้องตัวฉัน พวกเพื่อนของฉันต้องมาแน่ ]

มิโดริ เคียวกะพูดออกมา

แต่โอเกอร์กลับหัวเราะ

[ โทษทีนะ แต่เพื่อนของเจ้าน่ะไม่มาหรอก ]

ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงกลางพูดแล้วหัวเราะ

[ เพื่อนของเจ้าทั้งสองคนตอนนี้ถูกขังอยู่ในบาเรียเวทของข้าแล้ว แม้จะเป็นเทพก็หนีออกมาไม่ได้ง่ายๆ หรอก อย่าว่าแต่มนุษย์ด้วยซ้ำ ]

ผู้หญิงคนนั้นยิ้มแสยะ

[ อะไรนะ!? คายะกับคุณชิโรเนะ…! ]

มิโดริ เคียวกะพูดด้วยเสียงหวาดกลัว

[ เวทมนตร์ของท่านแม่แข็งแกร่งที่สุด แม้จะเป็นเพื่อนของผู้กล้าก็เถอะ ไม่พอเป็นคู่มือให้เราได้หรอก!! ]

โอเกอร์ด้านซ้ายและขวาหัวเราะ จากนั้นโอเกอร์ตัวอื่นๆ ก็เริ่มหัวเราะไปด้วย

[ เพราะแบบนี้นี่เอง… ฝีมือพวกแกเองสินะที่ทั้งสองคนหายไป แต่อย่าคิดว่ามันจะง่ายล่ะ ยังไงฉันก็เป็นน้องสาวของผู้กล้า แค่พวกแกไม่คณามือฉันหรอก! ]

มือของมิโดริ เคียวกะเรืองแสง ผมรู้สึกถึงพลังเวทมหาศาลจากตัวเธอ

[ โอ๊ะ จะดีงั้นเหรอ? ได้ยินว่าเจ้าควบคุมพลังเวทไม่ได้ นี่คิดจะฆ่าผู้คนที่นี่ไปด้วยงั้นเหรอไง? ]

โอเกอร์หญิงแสยะยิ้ม

[ ทำไมแกถึงได้รู้!! ]

[ ถ้าเข้าใจแล้วก็ทำตัวเป็นเด็กดีซะ ไม่คิดว่าแบบนั้นเหรอ? ]

โอเกอร์หญิงพูดราวกับว่าตัวเองชนะแล้ว

พวกโอเกอร์ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

จนมาอยู่ตรงหน้ามิโดริ เคียวกะ

ดังนั้นผมเลยไปขวางหน้าไว้

[ อะไร? แกเป็นใคร? ]

โอเกอร์จ้องมองมาที่ผม

[ เอ่อ… ก็แบบว่า… ]

ผมเองก็ไม่อยากยุ่งหรอกนะ แต่ต้องให้ราชากับคนอื่นๆ หนีไปให้ได้ก่อน

[ นี่คุณคิดจะทำอะไรนะ อย่างคุณจะไปทำอะไรพวกมันได้! รีบหนีไปซะ มันอันตรายนะ! ]

มิโดริ เคียวกะพูดด้วยความโกรธ แต่ผมไม่อาจห้ามตัวเองได้

[ ฮะฮะฮ่า! คิดจะเป็นอัศวินที่ปกป้องเจ้าหญิงงั้นเหรอ? น่าชื่นชมดี! ได้ ข้าจะกินแกก่อน! ]

โอเกอร์ด้านซ้ายพูดแล้วหัวเราะและพยายามจับผม

ผมจึงคว้ามือของโอเกอร์ตัวนั้น จากนั้นก็หมุนตัวและโยนมันไปกระแทกกับพื้น

[ [ [ เอ๊ะ?!!! ] ] ]

ผู้คนรอบๆ ต่างส่งเสียงตกใจออกมา

[ เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น… ]

[ เขาคว่ำโอเกอร์ตัวใหญ่ขนาดนั้นได้… ]

เสียงจากคนรอบข้าง

[ ร-ริง! ]

โอเกอร์หญิงเรียกชื่อโอเกอร์ที่โดนโยนไป ดูเหมือนจะชื่อว่าริงสินะ

[ อะไรกัน นี่มันเรื่องอะไร… ? ]

ราชาที่อยู่ข้างหลังทำเสียงตกใจ

[ ท่าแบบนั้น… ฉันเคยเห็นมาก่อน… ในวันนั้น… ]

ดูท่าว่ามิโดริ เคียวกะจะรู้ตัวแล้ว

ผมเองก็ไม่ได้คิดจะปกปิดความจริงกับเธอไว้จนถึงขนาดไม่ทำอะไรหรอกนะ แล้วถ้าเกิดเธอใช้เวทมนตร์ขึ้นมา…

เพราะเธอก็ควบคุมเวทมนตร์ไม่ได้ด้วย ถึงได้มีสมญานามแปลกๆ ว่า เจ้าหญิงล่ะนะ

[ แกเป็นใคร! ทำไมถึงต้องสอดมือมายุ่งกับคุจิคผู้นี้ด้วย!! ตอบมาซะ!! ]

โอเกอร์หญิงที่คุจิตตะโกนออกมา 

เพราะถ้าผมไม่เข้ามายุ่งมิโดริ เคียวกะก็มีหวังถูกฆ่านะสิ

[ ก็ไม่ได้คิดจะมายุ่งหรอกนะ … แต่ว่า… ถือว่าขอร้องแล้วกัน ช่วยปล่อยเธอคนนี้ไปได้มั้ย แล้วผมจะทำทีเหมือนว่าไม่มีอะไรก็แล้วกัน ]

ผมก้มหัวแล้วพูดและพูดกับโอเกอร์

[ ห๊ะ… นี่แกหมายความว่ายังไง? ]

คุจิคดูเหมือนจะสับสนที่ผมก้มหัวให้

น่า ทางนี้เองก็สับสนพอๆ กันนั้นแหละ

ทำไมมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้กันนะ? ทั้งที่วันนี้ผมควรจะได้เต้นรำแบบสนุกสนานกับคุนะ แต่มันกับพังไม่เป็นท่าซะได้ 

[ นี่คุณเอาจริงเหรอ…? ]

มิโดริ เคียวกะถาม ผมเองก็ตอบไม่ได้หรอกว่า ’เอาจริง’ นะ

[ ที่นี่ให้ผมจัดการเอง ]

ผมมองย้อนกลับไปและพูดกับเหล่าคนที่อยู่ข้างหลัง

ก็ลังเลอยู่หรอกนะ แต่ไม่มีทางเรื่องเพราะต้องมีใครทำอะไรสักอย่าง

ผมมองไปที่โอเกอร์

[ ถ้าไม่ยอมถอยกันไปดีๆ … ก็ช่วยไม่ได้นะ คงต้องสั่งสอนกันสักหน่อย ]

เมื่อผมพูดอย่างนั้น เปลวไฟสีดำก็พุ่งออกมาจากร่าง

[ ฮี๊!!!! ]

โอเกอร์ที่เห็นเปลวไฟสีดำต่างส่งเสียงกลัว

และมีสายตาน่าสังเวช

เหล่าโอเกอร์ดูท่าจะกลัวกันอยู่นิดหน่อย

[ ฮี๊… ]

ดูเหมือนไม่ใช่แค่โอเกอร์ที่กลัว

แต่คนที่อยู่รอบข้างก็กลัวไปด้วย

ว่าตามมุมมองของพวกเขา ก็เหมือนเห็นปีศาจที่น่ากลัวกว่าโผล่ออกมาล่ะนะ

และที่จริงผมแค่คิดจะขู่โอเกอร์เท่านั้นเอง

จากนั้นผมก็เดินไปหาพวกโอเกอร์

[ ถ้าแกมาขวางทาง! งั้นข้าจะฆ่าแกก่อนซะ! ]

โอเกอร์หญิงที่ชื่อคุจิตพูดขณะที่กำลังสั่นกลัว

ผมไม่ได้วางแผนจะทำให้กลัวขนาดนั้นหรอก

จากนั้นบนแขนของคุจิคก็มีงูสาวฟ้าปรากฏออกมา

[ จงไปจัดการศัตรูของข้าซะ! งูสายฟ้า!! ]

ทันใดนั้นงูสายฟ้าก็พุ่งจากมือของเธอเข้ามาโจมตีผม

แต่ว่าแค่งูเองเหรอ แค่นี้ไม่คณามือผมหรอก

ด้วยพลังของมังกรสายฟ้าในร่างของผมตอนนี้ ความเสียหายระดับนี้ทำอะไรไม่ได้หรอก

นี่เป็นมาตรการเผื่อต้องสู้กับริสะ ซาซากิอีกครั้งล่ะนะ 

มีเกาะใกล้ๆ กับนากอลทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเกาะนั้นมีฝนตกฟ้าคะนองตลอดเวลา

และบนเกาะแห่งนั้นก็มีมังกรสายฟ้าอาศัยอยู่ ผมและคุนะจึงได้ขี่โกเรียสเพื่อไปขอร้องมังกรสายฟ้า

ตอนแรกคิดว่าต้องสู้กันซะอีก แต่ดูท่ามังกรสายฟ้าจะเป็นมิตรและยอมให้พลังผมอย่างง่ายดาย

ดังนั้นงูสายฟ้าจึงทำอะไรผมไม่ได้

งูสายฟ้าที่เริ่มรัดร่างกายผมแน่นขึ้นเรื่อยๆ 

[ แค่นี้ไม่เจ็บไม่คันหรอกนะ ]

ผมพูดออกมา จากนั้นก็ปล่อยเปลวไฟไปทั่วร่างกายจนงูสายฟ้าไหม้ไปหมด

[ ถ้างั้น… แล้วเจ้านี้ล่ะ! ]

เริ่มมีบอลสีแดงปรากฏขึ้นที่มือของคุจิคและกำลังโตขึ้นเรื่อยๆ

ที่จริงผมก็รู้อยู่แล้วล่ะว่าคุจิคกำลังใช้เวทอะไร เป็นเวทที่ยุ่งยากเล็กน้อยนะ

[ ระเบิดกัมปนาท!! ]

[ สลายระเบิดกัมปนาท!! ]

ผมลบล้างเวทที่คุจิคคิดจะใช้ สำหรับผมถึงโดนเข้าไปก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ที่นี่มีคนอยู่มากเกินไป ดังนั้นผมถึงได้ลบเวททิ้งซะ

[ เวทที่แข็งแกร่งที่สุดของข้า…. พวกเจ้า! มัวแต่มองอะไรกันอยู๋! รีบไปเอาคนรอบๆ มาเป็นตัวประกันซะ!! ]

คุจิคตะดกนออกมา

จากนั้นโอเกอร์รอบๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหว

น่าจะแย่แล้วสิ

ผมไม่มีเวทที่ใช้โจมตีแบบระบุตัวซะด้วย เวทที่มีมันทรงพลังเกินไป คนที่นี่จะโดนลูกหลงไปด้วย ถึงจะใช้ดาบแต่ก็จัดการพวกมันทุกตัวไม่ทันการแน่ 

ในขณะที่ผมกำลังคิดว่าจะทำยังไงดี ก็มีบางอย่างลอยผ่านไป

[ บ้าเอ้ย!! ]

[ นั่นมัน…!! ]

จู่ๆ ก็มีเสียงร้องของพวกโอเกอร์ดังขึ้น

เท้าและมือของโอเกอร์พวกนั้นต่างขาดกันไปหมด ถึงจะยังไม่ตายกัน แต่คงสู้ยากแล้วล่ะ

[ โอเกอร์ บังอาจมาทำให้งานเต้นรำเละไม่เป็นท่าได้นะ ]

เสียงหนึ่งดังขึ้น

ทุกคนต่างหันไปมองเจ้าของเสียงนั้น คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็คือคุนะที่ถือเคียวอยู่

เคียวของคุนะมีพลังที่เน้นจุดโจมตีได้ ทำให้สามารถฟันในจุดที่กำหนดได้ตามที่ต้องการได้

ดูเหมือนคุนะจะเน้นจุดโจมตีของเคียวไปที่แขนกับขา

[ ต้องฆ่า ]

ผมรู้สึกได้ถึงพลังเวทอันทรงพลังของคุนะ 

เสียงกรีดร้องของผู้คนต่างดังไปทั่ว สงสัยพวกเขาคงจะรู้สึกถึงพลังเวทนั้นได้

[ ไม่ได้นะคุนะ! เดี๋ยวทุกคนที่นี่ก็ตายหรอก! ]

คลื่นพลังเวทของคุนะหายไปเมื่อได้ยินเสียงของผม

[ อะไรกัน นี่พวกแกเป็น…. ]

โอเกอร์หญิงพูดแบบตัดๆ ขัดๆ … 

[ กลับ… เจ้าพวกนี้อันตราย! ]

จากนั้นเหล่าโอเกอร์รอบๆ ก็ไปรวบตัวรอบคุจิค

[ บ้าเอ้ย นี่พวกเราต้องหนีกันงั้นเหรอ! ]

จากนั้นพวกโอเกอร์ก็หนีไป

เพราะผมไม่รู้สึกอยากจะฆ่าพวกโอเกอร์จริงๆ ผมเลยปล่อยพวกเขาหนีไป

เมื่อเห็นว่าพวกโอเกอร์หนีไปแล้ว คุนะก็เดินมาทางผม

[ ช่วยไว้ได้พอดีเลยนะคุนะ ]

[ คุโนกิ งานเต้นรำมัน… ]

คุนะพูดด้วยเสียงเศร้าเล็กน้อย

[ ไม่เป็นไรหรอกคุนะ… ไว้คราวหน้าค่อยมาเต้นกันอีกก็ได้ ]

ผมพูดขึ้นแล้วลูบหัวคุนะ

ทำให้คุนะหายซึมไปได้

[ งั้นพร้อมจะกลับกันรึยังล่ะคุนะ? ]

ผมอยากกลับไปที่นากอลเร็วๆ และพวกโอเกอร์คงไม่กลับมาแล้ว คงไม่ต้องระวังอะไรแล้วล่ะ

[ อือ เข้าใจแล้วคุโรกิ ]

คุโรกิใช้เวทเคลื่อนย้าย

แต่ในขณะที่ผมกำลังจะกลับนั้น

[ รอเดี๋ยวก่อน!! ]

มิโดริ เคียวกะก็ตะโกนขึ้นมา

[ จำได้แล้ว นายคือคนที่จับหน้าอกของฉันที่ลีนาเรียเองสินะ! ]

มิโดริ เคียวกะพูดแล้วชี้มาที่หน้าของผม

[ คุโรกิจับหน้าอกของผู้หญิงคนนั้น… นั่นมันหมายความว่ายังไงคุโรกิ? ]

เพราะประโยคนั้นทำให้คุนะยกเลิกเวทไปกลางคัน และดูเหมือนกำลังโกรธอยู่ด้วย

[ แล้วก็… ชื่อคุโรกิเองก็คุ้นหูมาก! ยังไงฉันก็ปล่อยให้นายหนีไปไม่ได้! ]

มิโดริ เคียวกะพูดแล้วเดินมาทางเรา

[ อะไร! นี่เธอกับคุโรกิมีความสัมพันธ์กันแบบไหนกันแน่!? ]

คุนะจู่ๆ ก็ไปยืนประจันหน้ากับมิโดริ เคียวกะซะแล้ว

และดูเหมือนกำเคียวไว้ซะแน่นด้วย

ผมต้องไปห้ามคุนะแล้วสิ

[ ไม่ใช่นะคุนะ… ตอนนี้พวกโอเกอร์ก็หนีไปแล้ว เรารีบกลับกันก่อนเถอะ ]

[ คุณหนูคะ―――――!!!]

ตอนที่ผมกำลังคุยกับคุนะ จู่ๆ ก็มีเสียงกระโกนดังขึ้น

[ ชิโรเนะ!! ]

ชิโรเนะดิ่งลงมาจากบนฟ้า จากนั้นก็มีสาวในชุดเมดตามมา บางทีนั้นคงเป็นเวทที่ใช้ควบคุมลม

ต้องรีบไป ผมไม่ควรอยู่ที่นี่นานๆ แล้วสิ ต้องรีบหนีแล้ว! 

[ คุณหนู!! ]

เมดคนนั้นวิ่งไปกอดมิโดริ เคียวกะ

[ คายะ!! ]

ทั้งสองคนกอดกัน

[ ทุกคนปลอดภัยดีสินะคะ!! ]

จากนั้นชิโรเนะก็หันมามองรอบๆ

และมองมาทางผม

[ เอ๊ะ คุโรกิ… ]

ถูกเห็นซะแล้ว

[ ทำไม… คุโรกิถึง… ? ]

ชิโรเนะพูดขึ้นแล้วเดินมาทางนี้

จากนั้นก็ลดสายตาไปต่ำลงเล็กน้อย

ซึ่งตอนนี้ผมกำลังกอดคุนะอยู่

และสายตาของชิโรเนะจ้องมองไปที่คุนะอย่างชัดเจน

[ คุโรกิ… เด็กคนนั้นเป็นใครงั้นเหรอ? ]

ใบหน้าของเธอเหมือนกำลังยิ้ม แต่ตาไม่ได้ยิ้มไปด้วย

โกรธอยู่แน่นอน

[ เธอนั้นแหละเป็นอไรกับคุโรกิ!!! อย่ามาใช้สายตาแบบนั้นมองคุโรกิของฉันนะ!! ]

คุนะหันเคียวไปทางชิโรเนะ

[ ฉันกับคุโรกิเป็นอะไรกัน? …. เธอต่างหากที่เป็นคุโรกิเป็นอะไร? ถึงได้บอกว่าคุโรกิของฉันนะ? ]

ชิโรเนะใช้ดาบกันเคียวของคุนะไว้

[ ไม่ได้นะคุนะ! เรารีบกลับนากอลกันเถอะ ]

ผมกอดคุนะไว้เพื่อหยุดเธอ

[ เข้าใจแล้วคุโรกิ… ]

คุนะยอมเชื่อฟังผมแต่โดยดี

จากนั้นคุนะก็ใช้เวทเคลื่อนย้าย

[ เดี๋ยวก่อนคุโรกิ!! ]

ชิโรเนะวิ่งมาเพื่อจับเราไว้

แต่ผมไม่ยอมหรอก

[ เปลวไฟสีดำ! ]

ผมกันชิโรเนะที่คิดจะมาหาด้วยเปลวไฟสีดำ

[ รอก่อนคุโรกิ!! ]

แต่ผมรอไม่ได้

จากนั้นเวทเคลื่อนย้ายก็ทำงาน

และพวกเราก็กลับไปที่นากอล

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 38"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์