CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อัศวินดำ - ตอนที่ 43

  1. Home
  2. อัศวินดำ
  3. ตอนที่ 43
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

◆ เจ้าชายแห่งอาณาจักรอัลโกลี่ โอมิรอส

ข้าป้องกันดาบของโกสุด้วยโล่

[ ไปเลย กระสุนไฟ!! ]

โกสุเดินมาขณะที่มือข้างหนึ่งถือดาบและมีลูกไฟออกมาจากมืออีกข้าง

แต่โล่นี้ก็ป้องกันไว้ได้ ถ้ามีโล่เวทนี้อยู่แม้จะถูกลูกไฟโจมตีก็ไม่รู้สึกถึงความร้อนเลยสักนิด

[ เร่งความเร็ว!! ]

โกสุร่ายเวทแต่ไม่มีอะไรออกมา จากนั้นความเร็วของโกสุก็เพิ่มขึ้น

โล่ของข้ามันขยับไปเองอัตโนมัติ

เคร้ง!! เสียงนั้นดังขึ้นจากการใช้โล่ป้องกันดาบจากข้าง

หากข้าไม่ตั้งท่าให้ดีๆ มีหวังกระเด็นแน่

โกสุใช้เวทอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังผ่านไปไม่ได้จากนั้นก็โดดถอยไป

ข้าลุกขึ้นยืนและตั้งโล่

[ ไอ้โล่นั้น! ]

โกสุร้องออกมาด้วยความเจ็บใจ

อย่างที่โกสุพูด โล่นี้มันสุดยอดจริงๆ มันขยับแขนข้าไปป้องกันเองด้วยซ้ำ

ข้าจำคำพูดของนักดนตรีที่ให้โล่นี้ได้

[ อย่ายกมันให้พาซัส ]

เขาพูดอย่างนั้น

ดูเหมือนเขาจะรู้อยู่แล้วว่าต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น? เขาเป็นใครกันแน่?

แต่ข้าไม่มีเวลามากพอจะคิดถึงเรื่องนี้ โกสุโจมตีมาอีกครั้ง

[ บัดซบ! ขอแค่เจ้าไม่มีโล่นั้นก็เสร็จข้า— ]

แน่นอน ถ้าโล่นี้หลุดจากมือ ร่างกายของข้าคงถูกฟันกลายเป็นสองท่อน

ข้ารู้สึกเจ็บใจที่ตัวเองอ่อนแอกว่าโกสุ

วันนั้นที่ข้าได้เจอกับโกสุครั้งแรก ข้าทำอะไรเขาไม่ได้เลย ได้แต่เพียงร้องและมองไปที่เรจิน่า

ตั้งแต่วันนั้นข้าจึงฝึกฝนตัวเอง คราวนี้ล่ะข้าจะปกป้องเรจิน่าให้ได้

แต่โกสุก็ยังเก่งกว่าอยู่ดี ถ้าข้าไม่มีโล่นี้ข้าก็คงเทียบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

น่าเศร้า  มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ตัวข้าคนเดียวจะปกป้องเรจิน่าได้ เหมือนตอนนั้น

น่าสมเพซจริงๆ

โกสุโจมตี แต่โล่นั้นก็ป้องกันไว้

อย่างไรก็ตามมันถึงขีดจำกัดแล้ว

จนถึงตอนนี้ข้าอาจจะเป็นผู้จับโล่ แต่ก็ไม่ใช่คนที่ใช้โล่ ขืนเป็นแบบนี้ข้าต้องโดนโกสุฆ่าแน่

แต่ข้าจะปล่อยให้มันได้ตัวเรจิน่าไปไม่ได้

[ คนเลวอย่างแก! ข้าไม่มีวันยกเรจิน่าให้แน่!! ]

 ข้าประกาศออกไปแล้วใช้โล่ดันโกสุกลับ

ตั้งแต่วันที่เรจิน่าได้พบกับโกสุ เธอก็เริ่มกลัวการออกไปข้างนอก ข้าได้แต่เพียงเฝ้ามองเรจิน่าด้วยความเศร้ามาตลอด

สักวัน ข้าจะแข็งแกร่งและพาเรจิน่าออกไปข้างนอกอย่างอุ่นใจให้ได้ แต่มันก็ไร้ประโยชน์ แค่พลังของข้าเพียงคนเดียวปกป้องเรจิน่าไว้ไม่ได้

ข้ากับโกสุที่กำลังต่อสู้กัน ขณะที่เรจิน่าอยู่ข้างๆ

[ เรจิน่าในตอนที่ข้าหยุดการคลื่นไหวของโกสุ ในจังหวะนั้นไปเรียกขอความช่วยเหลือซะ ]

ข้าไม่สามารถเอาชนะโกสุด้วยตัวคนเดียวได้จึงต้องขอให้ใครสักคนช่วย

[ อือ… เข้าใจแล้ว… โอมิรอส… ฉันจะเรียกใครสักคนมา ระวังตัวด้วยนะ ]

[ โอ้ ไว้ใจได้เลย ]

โกสุตอนนี้อยู่หน้าบันไดเพื่อไม่ให้ใครหนีไปได้

[ จะต้านข้าเอาไว้งั้นเหรอ? ]

ทำไมเขาถึงได้ยินกันนะ โกสุที่ได้ยินหัวเราะออกมา

[ ที่จริงแล้วข้าอาจจะไม่ใช่ศัตรูของเจ้าเลยด้วยซ้ำ! แต่ข้าจะหยุดเอาไว้ให้ได้!! ]

ข้าหันดาบไปทางโกสุ เรจิน่าค่อยๆ เคลื่อนไหวจากด้านข้าง

[ มันยากไปหน่อยนะ… ที่จะจัดการข้าได้นะ ]

[ เจ้าหมายถึงอะไรโกสุ! ]

[ ไม่มีใครมาช่วยเจ้าหรอก! มองดูข้างล่างซะสิ!! ]

เมื่อข้าได้ยินก็ลองมองลงไป

ข้าได้ยินเสียงกรีดร้อง

[ แย่แล้ว เจ้าพวกน้นมันก็อบลินโอมิรอส! ก็อบลินบุกมาที่อัลโกลี่แล้ว! ]

เรจิน่าตะโกน ข้าเริ่มเข้าใจสิ่งที่โกสุพูดได้อย่างชัดเจนแล้ว

ถึงจะเป็นตอนกลางคืน แต่เพราะไม่มีเมฆและแสงจันทร์ยังส่องสว่าง ทำให้มองเห็นข้างล่างได้

[ โกสุ!! นี่เจ้า!! ]

ข้าจ้องเขม็งไปทางโกสุ

[ ฮ่าฮ่า เผอิญข้าเอาพวกก็อบลินมาที่อัลโกลี่ด้วยล่ะนะ! นี่คงจะช่วยหักเหความสนใจจากอัศวินดำได้แน่! ]

โกสุหัวเราะเบาๆ

[ วันนี้คือจุดจบของอาณาจักรอัลโกลี่! จงสิ้นหวังซะเถอะ! เจ้าชาย— !! ]

 

◆ อัศวินดำคุโรกิ

[ ร้อยหมัดย่างก้าว!! ]

ผู้หญิงที่ชื่อคายะยิ่งคลื่นกระแทกที่ส่งจากหมัดมาจากระยะไกล

ผมรับมันเอาไว้

ทั้งที่จริงๆ แล้วผมอยากรีบไปหาคุนะ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ปล่อยให้ผมทำแบบนั้น

ทำไมกันนะ ทั้งที่นี้เป็นการต่อสู้ที่ไร้ประโยชน์แท้ๆ

[ หยุดได้ด้วย… แต่ถึงอย่างนั้นก็ตลกดีนะคะ… นั่นมันทิศตรงข้ามกับที่ท่านเรจิน่าอยู่ไม่ใช่เหรอไงคะ? ]

[ ขอโทษทีนะ ที่จริงแล้วผมน่ะ… ส่งกองกำลังแยกไปหาเรจิน่าแล้วล่ะ ]

แน่นอนว่าโกหก

ไม่มีกองกำลังแยกอะไรทั้งนั้น ถึงผมจะได้ตำแหน่งมาจากโมเดส แต่ก็ยังไม่มีใครที่เรียกได้ว่าเป็นลูกน้องเลย

[ งั้นเองเหรอ… แต่ถึงยังไงเหตุผลที่เรามาที่นี่ก็เพราะท่านคุโรกิ ถึงแม้ท่านเรจิน่าจะถูกพาตัวไปแต่ก็ต้องรั้งคุณไว้ตรงนี้ให้ได้ค่ะ ]

แผนใช้ไม่ได้ผล

[ คิดว่าแค่ตัวคนเดียวจะรั้งผมได้เหรอ? ]

คายะพยักหน้าให้

[ เพราะฉันไม่รู้สึกว่าคุณจะโจมตีเข้ามาเลย ถึงแม้คุณจะแข็งแกร่งกว่าฉันมาก แต่ถ้าไม่โจมตีแบบนี้ฉันก็ชนะแน่ค่ะ ]

เธอพูดอย่างนั้นและชูหมัดมาข้างหน้า

ถึงการโจมตีแต่ละครั้งของเธอจะไม่ได้กะฆ่าผม แต่ก็เล็งตรงข้อพับตรงแขนหรือซี่โครงเพื่อเลี่ยงไม่ให้ถึงชีวิต แต่หากโดนเข้าไปก็น่าจะเจ็บจนร้องไห้เลยนะ

ผมหลบการเตะขณะเดียวกันก็หลบหมัดไปด้วย นี่มันยากพอควรเลยนะ

คงต้องจัดการอีกฝ่ายให้ได้ก่อนที่ตัวเองจะโดนจัดการซะแล้ว

เริ่มหมดความอดทนแล้วสิ ผมอยากไปหาคุนะให้เร็วที่สุด

ไม่มีช่องว่างเลยเหรอ? ตามที่คาดไว้ คงยากที่จะเลี่ยงแล้วล่ะ

ในเมื่อผมตัดสินใจได้แล้ว

[ คลื่นสวรรค์! ]

เด็กสาวคายะใช้ฝ่ามือซ้ายและปล่อยคลื่นกระแทกออกมาเพื่อสร้างช่องโหว่

ผมยอมโดนคลื่นกระแทกและไปพุ่งไปจับมือซ้ายของเธอแล้วบิดจากนั้นจึงโยนไป

[ อะไรกัน!! ]

แต่ในจังหวะที่ถูกโยนเด็กสาวคายะก็เตะกลับมาด้วย

ผมเบนร่างกายส่วนบนหลบ เป็นการโจมตีที่เฉียบคมมาก ผมขอชื่นชม

แต่ตอนที่เตะกระโปรงมันเปิดนะสิ ผมเลยมองเห็นกางเกงในลูกไม้สีดำข้างใน นี่เองก็ยอดเยี่ยมจนน่าชื่นชมเหมือนกัน

เด็กสาวคายะปะคองตัวเองขึ้นขณะที่กุมแขนซ้าย

แขนซ้ายคงจะเคล็ดไปแล้ว คงจะใช้ไม่ได้สักพัก

ขอโทษจริงๆ นะ ผมเองก็เจ็บปวดจากใจเลยล่ะ

[ โดนเข้าซะแล้วสิค่ะ… แต่แขนนี้มันก็แค่เคล็ดนิดหน่อยเท่านั้นเอง นี่กำลังเป็นห่วงฉันอยู่เหรอ? เป็นคนที่ใจดีจริงๆ เลยนะคะ ]

ในตอนนี้แขนของเธอเคล็ดไปแล้ว ที่จริงผมคิดจะใช้เทคนิคบิดด้านซ้ายแล้วบิดกลับด้านขวา แต่กลับทำไม่ได้

จนทำให้เธอแขนเคล็ดเพราะมัวแต่เอาตาไปมองที่กางเกงใน อ๊า แม้ปากจะฉีกก็บอกไปไม่ได้

ขอโทษจริงๆ คร๊าบบบ ผมขอโทษออกมาจากใจ

[ ดูท่าว่าแค่การโจมตีธรรมดาจะหยุดคุณเอาไว้ไม่ได้… ถ้างั้นนี่ล่ะ!! ]

เธอพูดอย่างนั้นและจู่ๆ ก็คลายมันออก กางมือออกและกระโดดมา

[ คิดจะทำอะไรนะ?! ]

ปากของผมมันพูดไปเอง

คงเพราะเห็นว่าเธอมีช่องว่างมากเกินไป เธอเปิดช่องว่างจนอาจจะโดนฆ่าเอาได้ง่ายๆ

แต่ว่าเพราะมันน่าสงสัยเกินไป ผมเลยไม่ได้บุกเข้าไปโจมตี

เธอคิดจะทำอะไรกันแน่? 

[ เอาล่ะนะ! ถุงมือทัวว์มาลีน!! ]

เมื่อเธอพูดคำนั้นกระแสพลังเวทก็เพิ่มขึ้น
หลังจากนั้นเธอก็หยุดตั้งท่า

[ ตอนนี้ฉันได้ใส่พลังสายฟ้าที่ถุงมือไว้แล้ว ถ้าคุณจับโยนแบบเมื่อกี้อีกระวังจะเสียใจได้นะคะ ]

เธอชูหมัดแล้วพูดขึ้น

[ หากโดนเข้าไปร่างคงจะมึนจนเคลื่อนไหวไม่ได้แน่ แต่ไว้จะขอให้ท่านซาโฮโกะรักษาให้ทีหลังเอง ดังนั้นขืนยังลังเลที่จะโจมตีฉันอีกก็เอาชนะฉันไม่ได้หรอกค่ะ ]

เด็กสาวคายะประกาศออกราวกับเป็นผู้ชนะแล้ว แต่มันมีช่องว่างนะ

ผมอาศัยโอกาสนั้นจับหัวของเด็กสาวคายะ

[ เอ๊ะ?! ]

ผมจับหัวเด็กสาวคายะไว้แน่น

[ จงหลับซะ!! ]

ผมใช้เวทใส่เธอ

[ อา….. ]

ร่างของเด็กสาวคายะโยกเยก

แต่ผมคงปล่อยให้เธอนอนอยู่ตรงนี้ไม่ได้ คงต้องหาที่ไหนสักแห่งสินะ

แต่ดูเหมือนเธอจะทนเวทของผมได้อยู่ ตอนนี้เลยพยายามยันตัวเองไว้ไม่ให้หลับ

เธอยังคงสติอยู่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ผลเลย

[ ทำไม…. ]

เด็กสาวคายะจับที่หัวและเข่า

ดูเหมือนเธอจะสงสัยว่าทำไมสายฟ้าถึงไม่ได้ผลกับผมล่ะมั้ง

[ ขอโทษด้วยนะ… แต่ไฟฟ้าไม่ได้ผลกับผมหรอก ]

เพราะผมเตรียมแผนการรับมือกับไฟฟ้าเอาไว้แล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ผลกับผมเลยก็แค่เจ็บนิดหน่อย

ผมถึงได้จับตัวของเด็กสาวคายะได้แบบไม่ลังเล

เด็กสาวคายะโยกเยกไปมา ดูท่าคงจะเคลื่อนไหวตัวไม่ได้ไปสักพัก

ตอนนี้ล่ะเป็นโอกาสของผมแล้ว 

[ รอ… เดี๋ยวสิ… ]

เด็กสาวคายะพยายามฝืนตัวเอง แต่ร่างกายกลับไม่เชื่อฟัง

ขอให้ยังปลอดภัยเถอะ ผมวิ่งขณะที่ภาวนาอยู่ในใจ

 

◆ สตรีแห่งดาบ ชิโรเนะ

[ เงาบิน!! ]

ใบมีดมากมายถูกส่งมาจากเคียวและกำลังตามล่าฉัน

ฉันสะบัดดาบและทำให้ใบมีดพวกนั้นหายไป

 [ ไม่เลวชิโรเนะ!! ถ้านี่ล่ะ คมมีดอากาศ!! ]

คราวนี้เป็นใบมีดเวท แต่เวทนี้มันหลบได้ง่ายกว่าเพราะช้ากว่าและระยะที่แน่นอน

แต่ตอนนี้ฉันทำได้แต่ถอยและหนีไปมา

แม่มดสีเงินมีความสามารถในการป้องกันสูงมาก การโจมตีจึงไม่ได้ผลกับเธอเลย แต่ขืนฉันโจมตีไม่ได้แบบนี้มีหวังแพ้แน่

แต่หากการโจมตีไม่โดนเธอก็ไม่มีทางเอาชนะได้

ผลคือตอนนี้ฉันเลยกำลังถูกไล่ล่า 

[ คมมีดเพลิง!! ดาบเปลวเพลิง!! ]

ฉันฟันใส่ แต่มันไปถูกป้องกันด้วยโล่อันหนึ่งของแม่มดสีเงิน

ความแข็งแกร่งของโล่เวทจะขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ใช้ ถึงโล่เวทของเธอจะไม่แข็งแกร่งขนาดเรน่า แต่ก็ค่อนข้างแข็งแกร่งเลยทีเดียว

[ แข็ง… ถ้าเป็นเรย์จิคุงน่าจะทำลายได้ แต่สำหรับฉันคงทำไม่ได้แน่ ]

ดาบของเรย์จทั้งแรงและรวดเร็ว แม้แต่โล่เวทของเรน่าก็ยังทำลายได้ง่ายๆ แต่การโจมตีของฉันยังไม่ถึงระดับนั้นในตอนนี้

แต่ในเรื่องความเร็วดาบ ฉันเร็วกว่าของเรย์จิแต่พลังมันก็น้อยกว่าอยู่ดี ดังนั้นจึงทำลายโล่เวทไม่ได้

[ การโจมตีแบบนั้นไม่ได้ผลหรอกชิโรเนะ! ]

แม่มดสีเงินพูดขึ้นขณะที่ส่ายหัวไปมา จากนั้นก็ใบมีดเวทอีกหลายอันถูกยิงมาอีก

ใบมีดนั้นตามติดฉันเหมือนเงา ดังนั้นจึงใช้วิธีหลบไม่ได้

ฉันฟันใบมีดเวท

แต่แม่มดสีเงินโยนใบมีดเวทขัดขวางไว้ ทำให้ฉันต้องรีบร้อนและหลบก่อน

แต่ยังไงก็หลบไม่พ้น แบบนี้คงต้องจัดการใบมีดเวททีละอันซะก่อน

[กำลังเข้าจนมุมทีละน้อยแล้วชิโรเนะ คุโรกิจะต้องเป็นของคุนะ ตัวตนของเธอน่ะมันไม่จำเป็น ดังนั้นคุนะจะทำให้เธอหายไปเอง ]

แม่มดสีเงินพูดขณะที่โจมตีด้วยเคียว

[ คุโรกิไม่ใช่ของเธอ! ]

ฉันตอบไปขณะที่รับไว้ด้วยดาบ

นั่นไม่ใช่การปฏิบัติแบบคนรัก เธอน่ะมันแย่ที่สุดที่ควบคุมคนด้วยยาเสน่ห์

[ จะบอกว่าคุโรกิเป็นของเธองั้นรึไง! ]

[ ไม่ใช่ของฉัน! ]

[ ถ้าอย่างนั้นก็เงียบปากแล้วหายไปจากหน้าของคุโรกิซะ! มันรกหูรกตา! ]

พวกเราปะทะกันและจ้องกันเขม็ง

[ ฟุฮาฮ่าฮ่า ]

ฉันหัวเราะออกมา

[ หัวเราะอะไร? ]

[ เข้าใจล่ะ… งั้นเอง.. หรอกเหรอ ดูท่าคุโรกิจะยังไม่ได้กลายเป็นของเธออย่างสมบูรณ์แบบสินะ? ]

เมื่อแม่มดสีเงินได้ยินเข้าก็ทำหน้าแก้มป๋องน่ารัก

ดูเหมือนว่าจะเดาถูก

ฉันมั่นใจได้เลยว่าคุโรกิยังไม่โดนควบคุมอย่างสมบูรณ์แบบ ถ้างั้นก็ยังมีโอกาสอยู่

[ บางครั้งคุโรกิก็แอบไปมองก้นของเรจิน่า… ]

แม่มดสีเงินพูดออกมาแบบเบาๆ

และฉันประหลาดใจมากกับคำพูดของเธอ

นี่คุโรกิยังทำสายตาลามกเหมือนเคยอยู่อีกเหรอ แต่เดี๋ยวต้องไปดุเรื่องนิสัยนั้นทีหลัง

[ แต่ว่า!! คุโรกิเองก็มองหน้าอกกับก้นของคุนะเหมือนกัน ดังนั้นคุนะชนะขาดลอย!! ไม่ผิดแน่นอน!! ]

เธอพูดจบและโจมตีเข้ามาอีกครั้ง

มันเป็นการโจมตีที่เร็วกว่าครั้งก่อนซะอีก

ตอนนี้จะกันเอาไว้ก็ยากแล้ว

ฉันใช้วิชาเพื่อหลบการฟันของเคียว

[ ใบมีดฟันปีก!! ]

[ อุ๊ก!! ]

แม่มดสีเงินใช้โล่เวทของทั้งเก้าออกมาเพื่อป้องกัน

แต่โล่เวทมันช้ากว่าเล็กน้อย และแม่มดสีเงินหยุดเคลื่อนไหวไป

ตอนนี้ล่ะ!!

เมื่อเห็นว่าเธอคงโดนเข้าไปเต็มๆ และกำลังเจ็บอยู่ ฉันพลาดโอกาสนี้ไปไม่ได้

ฉันใส่พลังเวทให้ดาบที่อยู่ด้านหลัง

ใบมีดฟันปีกนี่คือวิชาที่สืบทอดมาในสำนักของฉัน อาจจะเกินไปหน่อย แต่ถ้าไม่ทำขนาดนี้ก็เอาชนะแม่มดสีเงินไม่ได้

[ ฮา!! ]

ฉันฟันดาบจากด้านบนพร้อมเสียงตะโกน

ดาบที่เคยถูกปกป้องด้วยโล่เวท ผ่านมาได้แล้ว

[ อะไรกัน!? ]

ถึงจะไม่มีโล่เวทอยู่แล้ว แต่แม่มดสีเงินก็รับมันไว้ได้ด้วยเคียว

และอยู่ในสภาพที่ฉันกำลังกดดาบใส่แม่มดสีเงินจากด้านบน

[ ถ้าเป็นแบบนี้… เธอเองก็ใช้โล่เวทหรือใบมีดเวทที่เธอถนัดไม่ได้ล่ะสิ ]

ฉันพูดขณะที่กดดาบใส่แม่มดสีเงิน

ไปได้สวย แบบนี้ถึงจะมีโล่เวทอยู่ก็ไร้ค่า

ดีล่ะ ขอเรียกว่าวิชานี้ว่าดาบปีกสังหารแล้วกัน เท่ดีเหมือนกันนะ

[ คุ๊…. ]

แม่มดสีเงินดูจะพยายามดันดาบไว้ด้วยเคียวยักษ์

แต่ฉันไม่ยอมหรอกน่า ฉันใส่แรงเน้นไปที่ดาบ

[ ฟุฟุ แรงแขนของเธอน่ะสู้ฉันไม่ได้หรอก ]

ถึงฉันจะไม่อยากทำร้ายเด็กผู้หญิง แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาคิดในกรณีแบบนี้

ฉันใส่แรงลงไปในดาบ

[ แค่นี้คุโรกิก็จะได้เป็นอิสระ! ]

[ อื๊อ— … เรื่องอะไรจะยอม ]

[ ถ้ายอมแพ้แล้วก็ยกเลิกเวทควบคุมที่ใช้กับคุโรกิไปซะ! ]

ไม่งั้นแล้ว คุโรกิผู้แสนอ่อนโยนคนนั้นไม่มีทางทำตามคำสั่งของราชาปีศาจหรอก

แค่ฉันจัดการแม่มดสีขาวซะก็จบเรื่องแล้ว

ถ้าฉันยอมปล่อยเธอไปล่ะก็นั้นจะถือเป็นความพ่ายแพ้ของฉัน

ถึงเธอจะเก่งและใช้เวทที่แข็งแกร่งได้หลายอย่าง แต่เรื่องแรงน่ะสู้ฉันไม่ได้หรอก

ฉันจ้องมองเธอจากข้างบน

[ เอ๊ะ!! ]

[ อ่ะ!! ]

จู่ๆ ฉันก็ถูกโยนออกมาจากตัวของแม่มดสีขาวด้วยพลังอันมหาศาลจากข้างหลัง

ฉันถูกดึงและถูกโยนไปจนชนกับสุดห้องซึ่งอยู่ทางประตูทางเข้า ในจังหวะนั้นฉันเห็น

อัศวินดำที่กำลังจับมือแม่มดสีเงินเพื่อดึงเธอขึ้นมา

[ คุโรกิ!! ]

เมื่อฉันเห็นอัศวินดำ ร่างกายฉันก็ราวกับขยับไม่ได้

แม่มดสีเงินตะโกนอะไรบางอย่าง จากนั้นทั้งสองคนก็คุยกัน อะไรน่ะ นี่ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาเลยเหรอไง มันน่าเจ็บปวดใจนะยะ

หลังจากนั้นก็แม่มดสีเงินออกไปและคุโรกิก็เดินมาทางนี้ เขาไม่ได้ดึงดาบออกมาและฉันไม่รู้สึกถึงจิตสังหารจากตัวเขาเลย

[ ผมอยากคุยด้วยกันที่นอกปราสาท! ]

 

◆ อัศวินดำคุโรกิ

ดูเหมือนผมจะพอเลี่ยงสถานการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดไปได้ โชคดีที่ฝึกให้คุนะไว้ก่อน ผมมองไปทางชิโรเนะ

นี่… เธอกำลังโกรธสุดๆ เลยนี่?

เมื่อผมมองไปที่ชิโรเนะและจ้องมองมาที่ตัวเอง

เหงื่อเย็นๆ ก็ไหลออกมา

ผมควรทำยังไงดี

ตอนนั้นคุนะกำลังถูกชิโรเนะฆ่า ผมจึงโยนชิโรเนะออกไป แต่ก็ไม่ได้คิดว่าหลังจากนั้นจะทำยังไงต่อเอาไว้

[ ชิโรเนะ เท่านี้ก็เป็น 2 ต่อ 1 แล้ว!! ]

คุนะจับเคียวแล้วตะโกนเสียงดังใส่ชิโรเนะที่อยู่ไกลออกไป แต่ในใจผมตัดสินใจแล้ว

ว่าไม่ควรปล่อยให้ทั้งสองคนสู้กัน

[ คุนะ ทีเหลือให้ผมจัดการเอง คุนะออกจากปราสาทนี้ไปและออกไปจากอัลโกลี่ซะ ]

[ มู่ ทำไมล่ะคุโรกิ? ถ้าเราสองคนร่วมมือกันต้องฆ่ายัยนั้นได้แน่ๆ เลยนะ! ]

ผมส่ายหัวให้กับคำพูดนั้น ไม่… ผมไม่ได้ต้องการแบบนั้น ดังนั้นผมถึงคิดจะไปจัดการด้วยตัวเอง…

[ เข้าใจมั้ย คุนะกลับไปรอที่นากอลซะ ส่วนทางนี้ให้ผมที่เก่งกว่าจัดการเอง ]

[ ขอปฏิเสธ!! ]

ผมตกใจมากกับท่าทีของคุนะ

เพราะไม่นึกว่าคุนะจะกล้าปฏิเสธผม

[ คุนะ… ]

[ คุนะไม่ยอมให้คุโรกิอยู่กับผู้หญิงคนนั้นแน่ ผู้หญิงคนนั้นอันตราย…. เธอจะเอาคุโรกิไปจากคุนะ… ]

คุนะมองไปยังชิโรเนะด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าเป็นศัตรูชัดเจน

[ ผมไม่ไปไหนหรอก…. คุนะ ผมขอสัญญาว่าผมจะอยู่กับคุนะตลอดไป ]

ผมรู้ความหมายของคำพูดนั้นดี แต่ที่พูดออกไปเพราะมันช่วยไม่ได้

คุนะมองมาที่ผมและผมก็มองไปที่คุนะ

[ เข้าใจแล้ว… คุนะจะไปรออยู่ที่นากอล ]

นี่เธอยอมฟังด้วยงั้นเหรอ? คุนะพูดพร้อมกับถือเคียวยักษ์ไปด้วย

หลังจากยืนยันว่าเธอไปแล้ว ผมก็เดินตรงไปหาชิโรเนะ ชิโรเนะไม่ขยับแต่ยังคงถือดาบอยู่

[ ผมอยากคุยด้วยกันที่นอกปราสาท! ]

เมื่อผมพูดแบบนั้น ชิโรเนะก็จับดาบมั่น

[ ถอดหมวกเกราะนั้นออกซะ คุโรกิ!! ]

ผมถอดหมวกเกราะออก

เธอมองมาที่ใบหน้าที่แท้จริงของผมแบบจ้องไม่กระพริบตา

[ ใช่…. ก็รู้อยู่แล้วล่ะ อย่าหนีล่ะคุโรกิ!! ]

เธอพูดอย่างนั้นแล้วก็พังกำแพงปราสาทออกไปและบินด้วยปีก

ผมใช้เวทบินตามหลังชิโรเนะไป

เมื่อพวกเราออกจากปราสาท ปราสาทขนมก็เริ่มเคลื่อนไหว ดูเหมือนว่าคุนะจะสั่งให้มามิดอลกลับไป ช่างเป็นเด็กดีจริงๆ คุนะ

จากนั้นผมก็หันหน้าไปหาชิโรเนะที่อยู่กลางอากาศ

[ เจ้าคนงี่เง่านี้!! ]

ทันใดนั้นชิโรเนะก็พุ่งเข้ามาชกผม

[ ทำไมถึงไม่หลบ!? ]

ที่ผมไม่หลบก็เพราะอยากรู้ว่ามีเหตุผลอะไรอยู่ เลยรับไว้เท่านั้นเอง

[ หือ… เรื่องอะไรล่ะ? … ]

ผมลูบจมูกที่ถูกชก

[ เจ้าบ้า เจ้าบ้า เจ้าบ้า!! คุโรกิคนงี่เง่า—! ]

แต่ชิโรเนะไม่หยุดต่อยผมสักที

[ ชิโรเนะ… หยุดเถอะ… ]

เพื่อห้ามเธอ ผมเลยจับมือเธอไว้

[ ระ … รู้มั้ยว่าฉันเป็นห่วงขนาดไหนกัน!!! ]

ชิโรเนะมองผมด้วยสีหน้าโกรธ

[ หืม… เป็นห่วงผม? ]

[ ไม่เห็นต้องมีเหตุผลเลย!! เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ?!! ]

[ ก็… ถ้าจะมาห่วงผม ชิโนเนะควรจะเป็นห่วงตัวเองบ้างจะดีกว่า… ]

ผมมักจะเป็นห่วงเธอเสมอ เธอน่ะไม่สนใจตัวเองเลย

ชิโรเนะน่ะเก่ง รักความยุติธรรมและไม่กลัวไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับใคร ถึงจะเป็นผู้ชายที่ตัวใหญ่กว่าผมเธอก็ยังไม่กลัว

ผมกลัวว่าความไม่ห่วงตัวเองของเธอจะทำให้เธอต้องเจออันตรายเข้าสักวัน

[ ทำไม… ทำไมคุโรกิต้องมาห่วงฉันด้วย!! ]

ชิโรเนะยังคงโกรธอยู่

[ เพราะ… ชิโรเนะน่ะชอบเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตราย… เพื่อช่วยคนอื่นเสมอ ผมน่ะเป็นห่วงมาตลอดเวลาชิโรเนะจะเจอกับอันตรายเข้าสักวัน… ]

เมื่อได้ยินคำพูดของผม ชิโรเนะก็ทำสีหน้าว่างเปล่า

[ ทะ ที่หมายถึงนั้น… คือเป็นห่วงฉันจริงๆ เหรอ? ]

ผมหยักหน้า

[ ผมน่ะคอยเตือนเสมอว่าให้เลิกทำเรื่องอันตรายแบบนั้น… ]

แต่ชิโรเนะก็ไม่เคยฟังเลย…. 

[ เรื่องนั้นไม่เห็นเป็นไรนี่ ก็เพราะมีเรย์จิคุงคอยช่วยอยู่แล้ว ดังนั้นไม่เห็นว่าคุโรกิจะต้องมาเป็นห่วงอะไรฉันเลยไม่ใช่เหรอ! ]

ชิโรเนะตอบออกมา จากนั้นผมก็ปล่อยมือเธอ

คำตอบของเธอเองก็เป็นคำตอบที่ผมคิดเอาไว้อยู่แล้ว

แน่นอนว่าเรย์จิน่ะแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะสถานการณ์แบบไหนก็ยังไปช่วยสาวน่ารักไว้ได้ทัน และเพื่อนสมัยเด็กของผมเองก็สวยมาก แน่นอนถึงชิโรเนะจะต้องเจออันตรายเข้าสักวันแต่เรย์จิก็ต้องช่วยเธอไว้ได้แน่

ในตอนนั้นที่ลีนาเรียขนาดเรย์จิบาดเจ็บจนทำอะไรไม่ได้แต่เขาก็ยังพยายามมาช่วย

ดังนั้นเธอถึงได้ไม่เป็นห่วงตัวเองเลย

เพียงแต่…

[ ถ้าชิโรเนะไม่หัดเป็นห่วงตัวเองแบบนี้… ผมก็สบายใจไม่ได้ ]

แล้วอะไรกันที่ทำให้ผมเป็นห่วงเหรอ? เพราะโมเดสเองก็เป็นคนดีและผมยังได้เพื่อนที่ชื่อคุนะมาด้วย แต่ยังไงผมก็ยังเป็นห่วงชิโรเนะที่อยู่ฝั่งเรน่าอยู่ดี

[ อะไรล่ะนั้นน่ะ!! แล้วทางฉันล่ะใครมันจะไปสบายใจได้ที่เห็นคุโรกิอยู่ฝ่ายเดียวกับราชาปีศาจน่ะ!!! ]

เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธ

แน่นอน เมื่อคิดแบบทั่วไปล่ะก็นะ…. นี่ผมควรจะอธิบายยังไงดีล่ะ เธอถึงจะเข้าใจ?

[ ไปหาเรย์จิคุงกับฉันเถอะนะ! คุโรกิไม่เห็นต้องอยู่ที่นากอลเลย! ]

แม้ชิโรเนะจะยื่นมือออกมาให้ แต่ผมส่ายหัว

[ ไม่ได้… ผมต้องกลับไปที่นากอล ]

ผมให้สัญญากับคุนะไว้แล้วว่าต้องกลับไปให้ได้ ดังนั้นถึงต้องกลับไป

เดิมทีผมก็ไม่คิดว่าเรย์จิจะยอมรับผมหรอก เรย์จิน่ะยอมรับแค่เด็กผู้หญิงเท่านั้นแต่ถ้าเป็นผู้ชายมันก็อีกเรื่อง ชิโรเนะที่เป็นเด็กผู้หญิงคงไม่ได้สังเกตเลย

นอกจากนี้ผมไม่อยากเห็นภาพที่เธออยู่กับเรย์จิ ดังนั้นผมไปหาเรย์จิพร้อมกับเธอไม่ได้

[ เพราะอะไรกันล่ะ… หรือจะเพราะเด็กผู้หญิงที่ชื่อคุนะคนนั้น! ]

[ มันก็ใช่หรอก แต่ว่า… ]

เมื่อผมพูดอย่างนั้น ชิโรเนะก็นิ่งและตัวสั่นไปหมด

[  ถ้างั้นมันก็เป็นความจริงสินะ! เหมือนกับที่คุณจิยูกิคาดการณ์ไว้! คุโรกิน่ะก็แค่เป็นคนแลามกนิดหน่อยแต่ถึงอย่างนั้น… แค่มีเด็กน่ารักมาขอให้ทำเรื่องชั่วๆ น่ะอย่างคุโรกิไม่ทำแน่! แบบนี้คงมีแต่ต้องไปจัดการราชาปีศาจและนังแม่มดสีเงินที่บังอาจมาหลอกลวงและทำให้ผู้คนต้องเดือดร้อนซะแล้ว!! ]

เธอกรีดร้อง

[ โมเดสไม่ใช่คนเลว… ]

ชิโรเนะกำลังเข้าใจผิด ผมเลยพยายามแก้ความเข้าใจผิดนั้น

[ ไม่ไหว! ตอนนี้คุโรกิเสียสติไปแล้ว! ]

แต่กลับถูกปฏิเสธแบบทันควัน

นี่เธอยังได้ยินที่ผมพูดอยู่มั้ย

ดูเธอจะไม่ฟังที่ผมพูดแล้ว ทำไมกันล่ะ ผมไม่รู้เลยว่าจะทำให้เธอฟังได้ยังไง

แน่นอนว่า ตัวผมก็ใช่ว่าจะเป็นคนที่มีความยุติธรรมในตัว

แต่มีคนเคยบอกผมว่า หากจะเชื่อก็ควรมีเหตุผลอันสมควร ดังนั้นผมเลยสงสัยตลอดว่านี่ผมเป็นคนไม่ดีรึเปล่า?

ผมต้องรีบแก้ไขสถานการณ์แย่ๆ ตอนนี้แล้ว ถึงจะไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ขืนไม่รีบสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงกว่าเดิมแน่

[ ดึงดาบออกซะคุโรกิ! ฉันจะทำให้นายตาสว่างเอง!! ]

ผมดึงดาบออกมาตามที่เธอบอก

และก็ได้แต่ถอนหายใจ

[ ขอโทษด้วยนะ แต่… ผมน่ะแพ้ชิโรเนะไม่ได้ ]

เมื่อผมดึงดาบออกและสวมหมวกเกราะ นี่ก็เพื่อตัวผมเอง

[ จะไปล่ะนะคุโรกิ! หากมาดูถูกความสามารถการต่อสู้กลางอากาศของฉัน! เตรียมใจเสียแขนไปได้เลย!! ]

ชิโรเนะบินเข้ามาด้วยความเร็วสูงและเคลื่อนไหวดั่งการหมุน

ผมตั้งดาบไว้กลางอากาศ

ชิโรเนะหมุนตัวและไปอยู่ข้างหลังของผมด้วยความเร็วสูงแต่ผมกันเอาไว้

จากนั้นเธอก็โจมตีด้วยความเร็วสูงอีกครั้ง ผมยกดาบขึ้นและกันเอาไว้อีกครั้ง

ชิโรเนะโจมตีจากนั้นก็ถอยอย่างต่อเนื่องซ้ำไปมาด้วยความเร็วสูง ดูท่าผมคงต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง

มันยากที่จะรับมือกับชิโรเนะกลางอากาศที่ไม่มีอะไรเลย ชิโรเนะอาจจะเก่งเรื่องการต่อสู้ทางอากาศ แต่ผมชนะแล้วล่ะ

[ หลุมดำ! ]

ผมใช้เวทสร้างหลุมออกมาสองแห่งพร้อมกัน

[ นี่มัน! ]

โดยให้คลุมดำเคลื่อนไหวเพื่อปิดชิโรเนะไว้

เพราะช่องว่างที่จะบินเพื่อหลบหลุมดำน่ะมันแคบนิดเดียว จึงง่ายที่จะรู้ว่าเธอจะโผล่มาจากทางไหน

ชิโรเนะบินออกมาจากช่องว่างนั้น

ผมสะบัดดาบเพื่อรับดาบเธอไว้

เคร้ง!! เสียงดาบของผมและชิโรเนะปะทะกัน

[ ว๊ายยยย!! ]

เสียงของชิโรเนะที่ปลิวไปเพราะแรงปะทะของดาบ

[ โกเรียส!! ]

ผมเรียกชื่อโกเรียส

จากนั้นมังกรตัวใหญ่ก็ออกมาและจับชิโรเนะที่กำลังจะร่วงไว้ได้ทัน

โกเรียสพาชิโรเนะร่อนลงพื้นอย่างปลอดภัย

จากนั้นผมก็ลงไปที่พื้น

[ ไม่เป็นไรใช่มั้ย? ชิโรเนะ? ]

ชิโรเนะยังคงอยู่บนหลังของโกเรียส

คงเพราะแรงปะทะกับดาบของผมตอนนี้ชิโรเนะเลยกำลังมึนหัวอยู่

[ ทำไมถึงช่วยฉัน? ]

[ ผมไม่ได้อยากเป็นศัตรูกับชิโรเนะหรอกนะ ]

[ งั้นทำไมถึงต้องไปอยู่ที่นากอล? ]

[ ที่ผมไปอยู่ที่นากอลก็ไม่ใช่ว่าผมจะอยากสู้กับชิโรเนะ ]

[ แปลว่าแค่ปกป้องราชาปีศาจงั้นเหรอ? ]

ผมพยักหน้า

[ ถ้าผู้กล้ามาที่นากอลเพื่อปราบราชาปีศาจ ผมก็คงจะต้องขวางเอาไว้ในฐานะอัศวินดำ ]

ผมพูดออกไปตรงๆ กับชิโรเนะ

[ ทำไมกัน…. ไม่เห็นเข้าใจเลย…. ]

ชิโรเนะร้องไห้ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าชิโรเนะหมายถึงอะไร

[ เอาล่ะ… ผมคงต้องไปหาเรจิน่าแล้ว… ]

ขณะที่ผมจะไปหาโกเรียส เสื้อคลุมก็ถูกดึงเอาไว้

เมื่อมองย้อนกลับไปก็เห็นชิโรเนะที่นิ่งเงียบและกำลังโกรธอยู่

[ อะไรล่ะ! นี่เห็นฉันร้องไห้แล้วไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเหรอ!! ]

[ ก็นั้นมันแกล้งร้องไห้ไม่ใช่เหรอ! ]

เมื่อสมัยเด็กผมจำได้ว่าชิโรเนะมักจะร้องไห้อ้อนหากต้องการอะไรจากผม

และตัวผมเองเวลาได้เห็นเธอร้องไห้ก็เผลอใจอ่อนต่อน้ำตาของเธอซะทุกอย่าง ดังนั้นผมเลยให้ชิโรเนะไปเกือบทุกอย่างที่เธอต้องการ

[ นึกแล้วเชียว แต่เรื่องนี้ไม่ได้หรอกนะ ]

[ ไม่นะ ขอร้องล่ะอย่ากลับไปที่นากอลเลยนะ! คุโรกิ ไปหาเรย์จิคุงพร้อมกับฉันเถอะ ]

ชิโรเนะไม่ยอมปล่อยปลายเสื้อคลุม

[ ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ]

ผมพยายามสลัดมือของชิโรเนะจากเสื้อคลุม แต่เธอก็ไม่ยอมปล่อย

[ บู่! คุโรกิคนขี้งก! ]

ชิโรเนะทำหน้าโกรธแก้มป๋อง

เธอพูดขณะที่ดึงเสื้อคลุมอยู่ 

[ ก๊าซซซซซซซซ!!  ]

ทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงร้องดังมาจากบนฟ้า

ผมและชิโรเนะที่ได้ยินเสียงตะโกนจึงรีบมุ่งหน้าไปที่อัลโกลี่

[ นั่นมันอะไร—? ]

ชิโรเนะส่งเสียงตกใจ

มันคือมือขนาดยักษ์

มือนั้นใหญ่กว่ากำแพงเมืองอัลโกลี่ซะอีก แม้ว่าพวกเราจะอยู่ในระยะที่ห่างไกลก็ยังมองเห็นได้ชัดเจน

และดูเหมือนเจ้ามือยักษ์นั้นกำลังโจมตีเมืองอัลโกลี่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 43"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์