อัศวินดำ - ตอนที่ 49
◆นักปราชญ์ผมดำจิยูกิ
[ อาณาจักรพิซิเพียร์ถูกปีศาจโจมตี? ]
เรย์จิถามคลาส
ในตอนเช้าเราถูกคนใช้ของคลาสมาเรียก ฉันและเรย์จิจึงต้องไปสำนักงานใหญ่รัฐบาลกัน
ที่นั่นเขาได้บอกว่าประเทศพันธมิตรถูกโจมตีโดยปีศาจ
อาณาจักรพิซีเพียร์ตั้งอยู่ในเขตของที่ราบมินอนทางตอนเหนือของอาเรียดิน่า
เราได้รับข่าวว่าประเทศนั้นถูกโจมตีเมื่อวานตอนเช้าและประชากรมากกว่าครึ่งประเทศถูกปีศาจพาตัวไป
[ ครับ นั่นเป็นเรื่องจริง…. ]
คลาสดูเหมือนจะเพิ่งรู้เรื่องนี้ในตอนเช้าและเรียกพวกเรามาทันที
[ จะว่าไปทำไมถึงมีแค่พวกเราล่ะ? แล้วผู้กล้าคนอื่นๆ ล่ะคะ? ]
ฉันถามไปด้วยความสงสัย
ในห้องมีเพียงห้าคน ฉัน เรย์จิ คลาส ยูเลียเจ้าหญิงของอาณาจักรพิซิเพียร์และคนแคระที่รอดชีวิตมาได้
มันต้องมีผู้ชายคนอื่นด้วยสิ ทำไมถึงมีแค่พวกเราที่โดนเรียกล่ะ
[ เรื่องนั้นเป็นเพราะเจ้าหญิงยูเลียแนะนำให้เรียกท่านผู้กล้าแห่งแสงมาครับ ]
คลาสพูดอย่างนั้นแล้วมองไปทางยูเลีย
ที่ตรงนั้นมีผู้หญิงอวบอ้วนอยู่คนหนึ่ง ใบหน้านั้นดูจะพยายามจะสงบอารมณ์ไว้อยู่ หน้าอกใหญ่เหมือนกับซาโฮโกะ แต่ฉันรู้สึกว่าเธอจะอ้วนกว่าซาโฮโกะซะอีก เรียกได้ว่าผ่านช่วงอวบเข้าสู่ระยะอ้วนแล้ว
น่า ก็ยังมีผู้ชายที่ชอบผู้หญิงอ้วนอยู่นี่นา
ดูเหมือนยูเลียกับคลาสจะเป็นญาติกัน เธอจึงมีอำนาจในอาเรียดิน่าและได้รับการปฏิบัติเหมือนกับกับราชวงศ์ประเทศอื่นๆ
ยูเลียเป็นเจ้าหญิงของอาณาจักรพิซิเพียร์ผู้ซึ่งอพยพเข้ามาในอาเรียดินา แต่สีหน้าเธอดูไม่ทุกข์ร้อนเลย และดูเหมือนเมื่อวานเรย์จิจะช่วยเธอเอาไว้ด้วย
ถ้าเป็นฉันล่ะก็… หากรู้ว่าประเทศตัวเองกำลังเดือดร้อนคงใบเครียดไปแล้ว
[ นอกจากนี้ข้าคิดว่าผู้กล้าแห่งแสงมีความน่าเชื่อถือกว่าผู้กล้าคนอื่นค่ะ… จากที่ได้รับรายงานมาดูเหมือนผู้กล้าคนอื่นๆ จะแพ้พวกปีศาจกันหมด ทั้งแพ้เมอร์แมน เซนทอร์ ดังนั้นผู้กล้าแห่งน้ำและลมคงใช้ไม่ได้ค่ะ ]
จะว่าไปดูเหมือนผู้กล้าแห่งดินเองก็แพ้ซาโฮโกะไปนี่นะ
[ ครับ นั้นคือเหตุผลที่เราเรียกท่านเรย์จิมา ]
คลาสส่งรอยยิ้มให้กับเรย์จิ
ฉันยังไม่ถามเรื่องการทำงานของผู้กล้าคนอื่นเลย แต่ดูเหมือนจะมีทหารรับจ้างชื่อดังบางคนมาที่นี่ด้วย แต่ก็ยังไม่ได้ยินข่าวว่าพวกเขาสร้างผลงานอะไร
[ จิยูกิ ยังไงก็ลองฟังสักหน่อยเถอะ ดูเหมือนประเทศของยูเลียกำลังลำบากน่ะ ]
เรย์จิพูดขณะที่มองไปยังยูเลีย เสื้อของยูเลียเปิดหน้าอกเห็นชัด ซึ่งฉันรู้สึกได้ว่าสายตาของเรย์จิกำลังมองไปที่ไหน
ผู้ชายคนนี้นี่มัน….
[ ค่ะ… ถ้างั้นช่วยบอกรายละเอียดให้หน่อยได้มั้ยคะ? ]
ยอมแพ้ๆ ฉันยอมฟังก็ได้
[ ถ้างั้นช่วยบอกรายละเอียดให้ฟังได้มั้ยโพลอม? ]
คลาสมองไปยังคนแคระซึ่งอยู่บนโต๊ะ
คนแคระคนนั้นรู้สึกจะชื่อโพลอม
เขาเป็นคนแคระประเภทพิกมาโยย(คนแคระของกรีก)
มีความสูงประมาณ 35 ซม. ซึ่งแม้จะเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ยังตัวเล็กอยู่
ดังนั้นเขาถึงได้นั่งบนโต๊ะ
โดยพวกเขามีความสามารถพิเศษในการฝึกและขี่นกได้
นอกจากนี้ยังเป็นประเภทที่ย้ายประเทศไปเรื่อยๆ เหมือนนกย้ายถิ่นตามฤดูกาล
แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้าง
คนแคระบางคนจะอาศัยอยู่ในกำแพงของมนุษย์และทำการส่งจดหมายให้
ที่สาธารณรัฐลีนาเรียเองก็มีพิกมาโยยอาศัยอยู่เช่นนั้น เราให้พวกเขาส่งจดหมายไปยังประเทศเพื่อนบ้านให้บ้าง
ดูเหมือนพิกมาโยยคนนี้จะอาศัยอยู่ในกำแพงของอาณาจักรพิซีเพียร์และเป็นคนส่งจดหมายเช่นกัน
[ นั่นเป็นช่วงเวลาที่ข้าคิดจะนอนพอดี… และตอนนั้นจู่ๆ ข้าก็ได้ยินเสียงร้องของทหาร…. เมื่อข้ามองออกไปจึงเห็นก็อบลินกับออร์คที่โอบล้อมประเทศไว้ ข้ากับภรรยาจึงขี่นกหนีมา ]
โพลอมอธิบายอย่างเงียบๆ ตามที่เล่าดูเหมือนจะมีปีศาจกลุ่มใหญ่ไปล้อมอาณาจักรพิซีเพียร์ไว้
เป็นจำนวนที่มากพอจะล้อมอาณาจักรได้
[ ทั้งฝูงออร์คและก็อบลินเหรอ… พวกมันมาจากไหนกันนะ? ]
ทุ่งราบมินอนควรจะมีปีศาจน้อยสิ
หรือว่ามันจะมาจากอีกซีกทวีปทางเหนือ?
[ ท่านนักปราชญ์ ข้าเองก็ไม่รู้หรอกว่าออร์คมาจากไหน แต่หากเป็นก็อบลินก็พอจะคาดการณ์ได้อยู่ บางทีพวกมันอาจจะเป็นทาสก็อบลินจากฟาร์มของอาณาจักรพิซิเพียร์ที่หลุดออกมาและโจมตีอาณาจักรพิซิเพียร์ก็ได้ครับ ]
คลาสอธิบายอยู่ข้างๆ
ฉันเงียบไปสักพัก
อาณาจักรพิซิเพียร์เป็นอาณาจักรที่อยู่ทางเหนือของอาเรียดิน่าจึงมีพื้นที่ในการทำฟาร์มทาสใหญ่มาก
โดยทั่วไปแล้วก็อบลินจะไม่ตื่นในเวลากลางวันและทำงานฟาร์มในเวลากลางคืน
แต่ตามจริงก็อบลินก็ไม่ค่อยเหมาะใช้ทำฟาร์มทำมนุษย์หรอกนะ แต่ถ้าเป็นการเพาะปลูกอะไรง่ายๆ ก็พอเป็นไปได้ หากใช้ปลอกคอควบคุมมันและให้ก็อบลินปลูกพืชราคาถูกๆ ก็พอทำได้
ซึ่งมันจะเป็นการทุ่นแรงให้แก่ประชาชนในพื้นที่
แต่ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีนักกับการให้ทาสมาทำฟาร์มหรอกนะ
แต่การบอกให้พวกเขาเลิกก็จะเป็นปัญหากับชีวิตของผู้คนที่มีรายได้น้อย
การจะบอกให้พวกเขาเลิกใช้แรงงานทาสซะ นั่นล่ะจะเป็นปัญหา
หรือฉันจะควรปกป้องสิทธิมนุษยชนของพวกก็อบลิน?
ที่จริงแล้วทำไมฉันต้องมาหนักใจกับเรื่องแบบนี้ด้วยล่ะ? ทั้งที่เกลียดแท้ๆ
ถ้าเป็นเรย์จิก็คงให้ความสำคัญแค่ชีวิตของผู้หญิงน่ารักเท่านั้น อย่าว่าแต่การปกป้องสิทธิของก็อบลินเลย แค่เขายอมเป็นผู้กล้าเพื่อมนุษยชาติก็ดีถมไปแล้ว
[ ค่ะ เข้าใจแล้ว… ไม่มีเผ่าอื่นอยู่ที่นั้นเลยเหรอคะ? ออร์คปกติแล้วไม่น่าอยู่รวมกันเป็นฝูง ดังนั้นอาจจะมีใครบางคนสั่งการอยู่ พอจะมีคนแบบนั้นบ้างมั้ยคะ? ]
ฉันถามโพลอม
มันน่าแปลกที่ไม่มีคนสั่งการเลย
ที่จริงตอนสู้กับก็อลินหรือออร์คในนากอล พวกมันก็โจมตีเป็นกลุ่มเหมือนกัน
แต่ตอนนั้นคงจะโดนสั่งด้วยเวทมนตร์อะไรบางอย่าง
ดังนั้นต่อให้ไม่ใช่ออร์คระดับสูง ก็ควรจะมีคนสั่งการพวกมันอยู่
[ ครับ… มีมิโนทอร์อยู่ด้วย ดูเหมือนมิโนทอร์จะเป็นคนสั่งการครับ ]
[ มิโนทอร์? ]
[ ครับ…. ]
โพลอมพยักหน้า
ฉันได้ยินว่าพิกมาโยยมีความสามารถในการมองเห็นตอนกลางคืนได้ ดังนั้นคงเห็นไม่ผิดแน่
ตั้งแต่ฉันมาที่โลกนี้ก็ยังไม่เคยเจอมิโนทอร์เลย เลยไม่รู้ว่าเป็นปีศาจแบบไหน
[ มิโนทอร์บางครั้งก็จะออกจากเขาวงกตและมาโจมตีประเทศพันธมิตรของเราครับ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นำทัพมาใหญ่ขนาดนี้…. ]
[ งั้นเองเหรอคะ… ]
แม้ว่าจะมีคนโดนทำร้ายบ้าง แต่มันก็แค่บริเวณใกล้เมืองและดูเหมือนจะไม่ได้มาเป็นกลุ่มใหญ่ จึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับประเทศกลุ่มพันธมิตรอลาร์ด
แต่หากมันเป็นการโจมตีประเทศก็จะต่างกันออกไป นี่ถือเป็นวิกฤตที่ชี้เป็นชี้ตายของประเทศกลุ่มพันธมิตรอลาร์ดเลยก็ได้
[ ถ้างั้นโพลอมช่วยบอกท่านจิยูกิ่อด้วย ]
คลาสบอกกับโพลอม
[ ครับ… ]
[ มีอะไรที่น่ากังวลเหรอคะ? ]
[ ใช่ครับ เพราะพวกปีศาจมันทำลายกำแพงและลักพาตัวคนในประเทศออกไป ]
[ ลักพาตัวไป? ]
[ ครับ หลังจากที่ข้าพาภรรยาไปอยู่ที่ประเทศอื่นก่อน ข้าก็เฝ้าติดตามเส้นทางที่พวกปีศาจมุ่งหน้าไป…. ซึ่งดูเหมือนพวกเขาจะมุ่งหน้าไปยังเขาวงกตครับ ]
[ เขาวงกตเหรอคะ? ]
[ ครับ เขาวงกต ]
คลาสกับโพลอมพูดขึ้น ที่แถบนี้อาจจะมีปีศาจไม่มากแต่ก็มีจุดที่มีปีศาจมากมายอาศัยอยู่ด้วย
นั่นคือเขาวงกตที่อยู่ตรงกลางของที่ราบมินอน
บางครั้งพวกมันพวกปีศาจก็จะดักทำร้ายมมนุษย์แล้วลักพาตัวเข้าไปในเขาวงกต
แต่นั่นมันก็แค่ทำร้าย จึงมีขนาดเล็กและมีความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่มากเหมือนครั้งนี้
นี่เป็นการโจมตีครั้งใหญ่จนไม่อยากเชื่อเลยก็ว่าได้
และพวกมิโนทอร์ก็พาคนของอาณาจักรพิซิเพียร์ไปในเขาวงกต
[ บางทีคราวนี้อาจจะไม่ใช่ฝีมือของแค่มิโนทอร์ก็ได้? ]
เมื่อฉันพูดขึ้น คลาสก็พยักหน้า
[ อาจเป็นไปได้ครับ…. ข้าเองก็ไม่รู้ทำไมพวกมันถึงได้ทำการโจมตีครั้งใหญ่ขนาดนี้ น่า ยังไงพวกมันก็เป็นปีศาจคงจะไม่มีความคิดเรื่องเหตุผลอยู่แล้ว …. ได้โปรดช่วยพวกเราด้วยทีเถอะครับ? ]
คลาสขอร้องเรย์จิ
เพราะคนในอาเรียดิน่าเองก็มีสายเลือดของอาณาจักรพิซิเพียรือยู่ บางทีคงปฏิบัติกับพวกเขาในฐานะพลเมืองทั่วไปนั้นล่ะ
[ ท่านเรย์จิ! ได้โปรด… ช่วยผู้คนในประเทศของฉันด้วยเถอะค่ะ! ]
ยูเลียที่เงียบมาจนถึงตอนนี้คุกเข่าขอร้องเรย์จิ
[ ได้เลยยูเลีย ฉันจะช่วยคนในประเทศของเธอให้ได้แน่นอน ]
เรย์จิจับมือยูเลียเพื่อให้ลุกขึ้น
[ อา… ท่านเรย์จิคะ… ]
ยูเลียร้องไห้
[ ก็ตามนี้ล่ะจิยูกิ เราไปที่เขาวงกตของเจ้ามิโนทอร์นั้นกันเถอะ ]
เรย์จิพูดแล้วมองมาทางฉัน
ฉันเองก็อยากจะรีบไปหรอกนะ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าเขาวงกตนั้นเป็นยังไง?
นี่มันเป็นกรณีของเรน่าเลยนะ แค่มีสาวน่ารักขอร้องก็ยอมทำตามซะแล้ว
แต่ถ้าเรย์จิ ซาโฮโกะ ริโนะ นาโอะจะไป ฉันเองก็ต้องไปด้วยอย่างไม่มีทางเลือก
[ เข้าใจแล้วค่ะคุณคลาส แต่เรายังไม่รู้เรื่องเขาวงกตนั้นดีนัก ยังไงช่วยแนะนำที่พอจะรู้จักเขาวงกตนั้นมาหน่อยได้มั้ยคะ? ]
[ เรื่องนั้นแน่นอนครับ …. ผมขอแนะนำคนที่เมืองเรสซาเคียครับ เขาคนนั้นรูจักกับเขาวงกตดี ]
[ เมืองเทสซาเซีย? ]
[ ครับ เมืองเทสซาเซียคือเมืองแห่งทหารรับจ้างที่สร้างขึ้นโดยอาเรียดิน่าเพื่อการรับมือกับเขาวงกตปีศาจ ]
คลาสอธิบาย
ดูเหมือนเมืองเทสซาเซียจะเป็นเมืองรัฐของอาเรียดิน่า ซึ่งเป็นเมืองที่รวบรวมทหารรับจ้างไว้เพื่อการรับมือกับเขาวงกตปีศาจ
[ แน่นอน เราจะขอร้องให้ทหารรับจ้างให้ความร่วมมือกับท่านเรย์จิด้วย ได้โปรดเถอะท่านเรย์จิ! ช่วยอาณาจักรพิซิเพียร์ …. ไม่สิ ช่วยกลุ่มประเทศพันธมิตรอลาร์ดด้วยเถอะครับ ]
คลาสก้มหัวอีกครั้งให้เรย์จิ
ฉันมองด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก
◆ ทหารรับจ้างหญิงชิสุเฟย์
หลังจากพาอโทราน่าไปยังสาธารณรัฐอาเรียดิน่า ฉันกับพี่สาว-เคย์น่า ก็กลับมายังเมืองเทสซาเซีย
เพื่อสมทบกับเพื่อนคนอื่นๆ
ตอนนี้ทุกคนกำลังรวมตัวกันในห้องประชุมเพื่อประชุมกันอยู่
[ เป็นยังไงบ้าง? ]
[ ใช่แล้วค่ะคุณลีเรีย ผู้กล้าแห่งแสงน่ะสุดยอดและเท่มากเลยล่ะ ]
ฉันคุยกับลีเรียซึ่งเป็นเพื่อนของฉัน
ลีเรียเป็นนักบวชที่ทำหน้าที่คอยรับใช้เทพธิดาเรน่า
ในตอนที่ฉันอายุ 20 เด็กผู้หญิงอ่อนแออย่างฉันก็สามารถต่อสู้กับพวกปีสาจได้แล้ว แต่ลีเรียนั้นกลัวมากที่จะต้องไปต่อสู้
และในตอนนั้นเธอก็ได้ยินเสียของนาง้าและสามารถใช้เวทรักษาได้
ลีเรียนั้นชอบเรื่องราวกับผู้กล้าผู้ถูกรักโดยเทพธิดาเรน่ามาก
เธอฟังเรื่องของผู้กล้าไปขณะที่ยิ้มกรุ้มกริ่ม
[ ชิสุเฟยฺน่าจะมาเยี่ยมฉันบ้างนะ ]
มาเดียรู้สึกเศร้า
[ ก็ช่วยไม่ได้นี่นา เพราะมาเดียอยู่ที่สมาคมผู้ใช้เวทไม่ใช่เหรอ ]
ฉันคุยกับมาเดีย เธอเป็นก็เป็นหนึ่งในเพื่อนสมัยเด็กของฉันเหมือนกัน
เธอเป็นผู้ใช้เวทและเป็นคนในสมาคมผู้ใช้เวท
เธอได้รับคำสั่งจากสมาคมผู้ใช้เวทให้ค้นหาปีศาจของสนามต่อสู้ที่หนีไป ฉันเองก็ไม่อยากรับงานคุ้มกันหรอกนะ
เพราะงานของสมาคมผู้ใช้เวทดูเหมือนจะไม่ได้เงิน แต่เพราะมาเดียอยู่ลำดับล่างสุดของสมาคมจึงเลี่ยงภารกิจนี้ไม่ได้
เบาะแสเองก็มีเพียงนิดเดียว ดังนั้นเป็นธรรมดาที่จะไม่รู้อะไรเลย
[ แหม หน้าตาดูท่าทางแข็งแรงแบบนี้! แปลว่าจะต้องคลอดลูกที่แข็งแรงได้แน่เลยจ๊ะ ]
[ พี่เคย์น่านี่ล่ะก็… ฉันยังไม่ได้แต่งงานเลยนะ จะมีลูกได้ยังไง! พี่เคย์น่าเองก็เป็นผู้ศรัทธาท่านเฟย์เรีย ดังนั้นอย่าพูดออกมาพล่อยๆ สิ ]
ไม่ไหวเลยพี่สาวฉันนี่ล่ะก็นะ… ฉันกับพี่เคย์น่าเป็นผู้ศรัทธาเทพธิดาเฟย์เรียผู้เป็นภรรยาของราชาแห่งเทพโอดิน
คำสอนของท่านเฟย์เรียบอกไว้ว่า การทำเด็กเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรพูดออกมาพล่อยๆ
พี่เคย์น่าถูกเก็บมาเลี้ยงจากพ่อของฉันและถูกพาตัวไปที่วิหารเฟย์เรีย ซึ่งแม่ฉันทำงานอยู่ที่นั้น
จะว่าไปตอนที่ฉันเกิดพ่อกับแม่ยังไม่ได้แต่งงานกันด้วยซ้ำ
ฉันไม่รู้หรอกนว่าใครเป็นพ่อแม่ของพี่เคย์น่า
แต่ฉันคิดว่าพ่อของพี่เคย์น่าน่าจะเป็นเซนทอร์
ด้วยเหตุนี้เธอเลยมีอารมณ์ทางเพศมากกว่าคนทั่วไป ฉันจำได้ว่าตอนคุยเรื่องนี้กับท่านนักบวช เขาบอกว่าเด็กผู้หญิงไม่ควรพูดเรื่องไม่เหมาะสมแบบนี้ด้วย
เพราะพี่เคย์น่ามีสายเลือดของเซนทอร์เข้มกว่าเลือดของมนุษย์ เลยเป็นธรรมดาที่พี่เคย์น่าเป็นทหารรับจ้างได้
พี่เคย์น่า ฉันและมาเดียเติบโตขึ้นมาในประเทศเดียวกัน แต่ยังไงก็เถอะ ประเทศนั้นก็ไม่มีอยู่อีกแล้ว
กำแพงมากกว่าครึ่งถูกปีศาจทำลายและการบุกของปีศาจทำให้ผู้รอดชีวิตกระจัดกระจายกันไป ตอนที่ยังเด็กฉันเลยต้องลี้ภัยมายังประเทศนี้กับพ่อแม่ ในตอนนั้นพ่อแม่ของมาเดียเองก็เป็นผู้ใช้เวทเหมือนเธอในตอนนี้ จากนั้นพี่เคย์น่าที่เป็นพี่ใหญ่สุดได้ไปช่วยงานแม่ในตอนที่มาถึงประเทศนี้
[ ใช่แล้ว มันออกจะหยาบคายต่อท่านเฟย์เรียนะ ถ้าอีกฝ่ายเป็นเด็กก็ว่าไปอย่าง ]
คุณนอร่าซึ่งเป็นเอลฟ์พูดและ เธอก็หันมา
[ คุณนอร่าคะ ถึงจะเป็นเอลฟ์ก็ใช่ว่าหาเด็กผู้ชายได้ง่ายๆ หรอกนะคะ ]
คุณนอร่าชอบเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ แต่เพราะไปทำเรื่องอะไรผิดเข้าเลยโดนเนรเทศจากป่าและถูกปิดผนึกพลังในการสื่อสารกับสปิริต
ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอไปทำเรื่องอะไรเข้า แต่เธอเองก็ดูจะไม่คิดมาก ดังนั้นฉันเลยไม่ได้ถามว่าเธอไปทำอะไรมา
ถึงคุณนอร่าจะสื่อสารกับสปิริตไม่ได้ แต่ก็ยังคงมีประสาทสัมผัสคมกว่ามนุษย์และมีความสามารถด้านการยิงธนูอยู่ด้วย
มีเรนเจอร์ไม่กี่คนในเมืองเทสซาเซียหรอกนะ ที่เอาชนะคุณนอร่าได้
เธอกับลีเรียเป็นเพื่อนที่รู้จักกันที่เทสซาเซียแห่งนี้
ฉันกับพี่เคย์น่าเป็นนักรบ มาเดียเป็นผู้ใช้เวท ลีเรียเป็นนักบวช คุณนอร่าเป็นเรนเจอร์
ทั้งห้าคนคือสมาชิกของปาร์ตี้เราตอนนี้ ที่จริงยังมีเพื่อนคนอื่นๆ อีกแต่มันก็แล้วแต่สถานการณ์
[ จะว่าไปชิสุเฟย์อยากจะลองไปมั้ย? ]
[ หมายถึงอะไรเหรอ? ]
เมื่อฉันถามมาเดีย เธอก็เอาตั๋วออกใบออกมาจากอก
[ ฉันมีตั๋วเข้าโรงละครด้วยนะ ว่าไงล่ะ ]
ทุกคนจับมือกัน
สามีของคุณอโทราน่า มีร้านค้าชั้นนำในประเทศนี้ดังนั้นการทำงานให้พวกเขาจึงได้ประโยชน์หลายอย่าง
ฉันเองก็พอจะรู้จักกับหัวหน้าโรงละครของโอเปรร่า ทำให้ได้ส่วนลดนิดหน่อยด้วยนะ
และเพราะคุณอโทราน่าเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เลยคิดว่าในอนาคตเองก็จะจ้างงานพวกเราด้วย
การแสดงที่โรงละครวันนี้จะเป็น ‘อัล เฟย์เลีย’ เป็นเรื่องราวของเจ้าหญิงที่ไปช่วยเจ้าชายจากแม่มดชั่วร้าย
ตัวละครหลักของอัลเฟย์เลียจะเป็นเจ้าหญิงผู้เป็นอัศวินและเป็นปรมาจารย์ดาบ
และนักแสดงหญิงวันนี้ก็เป็นเชนน่า แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ยังทำให้ฉันตกหลุมรักได้เลยล่ะ
ละครเรื่องนี้ดังมากในหมู่สาวๆ
ด้วยเหตุนี้ตั๋วจึงขายหมดอย่างรวดเร็ว แต่ที่พวกเราได้มาก็เพราะคุณอโทราน่า
[ งั้นหลังจากดูละครเสร็จ เราจะไปไหนกันดีล่ะ? ]
[ งั้นไปโรงอาบน้ำกันดีมั้ย? จะได้อาบน้ำล้างเหงื่อกันด้วย ]
คุณนอร่าตอบแนะนำลีเรีย
เพราะคุณนอร่าชอบอาบน้ำนี่นะ
ปกติแล้วเอลฟ์จะใช้สปิริตน้ำทำความสะอาดร่างกายให้ ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีนิสัยชอบอาบน้ำ
แต่คุณนอร่ากลับเป็นเอลฟ์ที่ชอบอาบน้ำยิ่งกว่ามนุษย์ซะอีก
แต่ฉันคิดว่าที่คุณนอร่าชอบอาบน้ำมันก็มีสาเหตุอื่นอยู่
เพราะจริงๆ แล้วคุณนอร่าเป็นยูริต่างหาก เธอก็แค่อยากเห็นร่างเปลือยเปล่าของสาวๆ เท่านั้นเอง
ฉันตกลงที่จะไปโรงอาบน้ำสาธารณะแล้วกัน
แม้ว่าโรงอาบน้ำจะไม่ใหญ่เท่าอาเรียดิน่า แต่ที่เมืองเทสซาเซียก็มีโรงอาบน้ำเหมือนกัน
สำหรับทหารรับจ้างหญิง การทำความสะอาดสิ่งสกปรกในร่างกายเป็นสิ่งสำคัญมากนะ
แม้ว่าบางคนจะไม่ชอบอาบน้ำ แต่สำหรับลูกผู้หญิงแล้วมันขาดไปไม่ได้
เมื่อวานฉันเองก็อาบน้ำในห้องแล้วล่ะ แต่ยังไงก็อยากแช่ในน้ำร้อนอยู่ดี
[ รอเดี๋ยว!! ]
ตอนที่ฉันกำลังจะลุกขึ้นก็ถูกหยุดเอาไว้
โดยชายร่างใหญ่
ฉันรู้จักชายคนนั้น ชายคนนั้นคือโกดอล ผู้กล้าแห่งดิน
เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองเทสซาเซีย
และยังคอยรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของสมาคมพันธมิตรด้วย
ถึงจะเรียกว่าผู้กล้า แต่ฉันก็ไม่ค่อยชอบเขานักหรอก เพราะเขาเป็นพวกชอบใช้กำลัง
[ เอ่อ… อะไรเหรอคะ? ]
[ เธอคือ… ชิสุเฟย์เรียใช่มั้ย? ]
โกลดอลถามและมองมาทางฉัน
[ ค่ะ ใช่แล้ว… ]
[ ท่านประธานเรียกเธอ ตามฉันมา ]
ฉันมองไปยังกลุ่มเพื่อน
ประธานที่โกดอลบอกก็คือประธานสมาคมทหารรับจ้าง คุณสเนโฟต
ว่าแต่ทำไมประธานถึงได้เรียกฉันล่ะ
[ เอ่อ… ทำไมประธานถึงได้เรียกฉันเหรอคะ? ]
[ ดูเหมือนจะเป็นคำขอที่สำคัญมาก ฉันเลยมาที่นี่เพื่อตามเธอนี่ไง ]
โกลดอลพูดแบบข่มขู่
แต่การที่จะต่อต้านประธานสมาคมทหารรับจ้างที่ครองเมืองนี้อยู่ก็ไม่ได้
ถ้าทำแบบนั้นอาจจะโดนคนของเทสซาเซียตามล่าและหายไปอย่างไร้ร่องรอยเลยก็ได้ คงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องไปสินะ
[ ทุกคน เดี๋ยวมาสักเดี๋ยวนะ… ]
เหล่าเพื่อนของฉันมองดูอย่างใจจดใจจ่อ
ฉันยืนขึ้นแล้วตามโกดอลไป
ว่าแต่ประธานมีธุระอะไรกันนะ
เดิมทีทหารรับจ้างหญิงก็มีอยู่ไม่เท่าไหร่ ถ้าเป็นงานที่ยากก็สมควรจะให้ผู้ชายที่เป็นทหารรับจ้างทำสิ หรือเพราะต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้น?
ตัวฉันเองก็ต่อต้านผู้กล้าแห่งดินที่แข็งแกร่งที่สุดในเทสซาเซียไม่ได้ด้วย
เพราะตัวฉันอยู่ระดับล่างสุดของสมาคม
มีเรื่องอะไรกันแน่นะ? น่ากังวลจัง
◆ นักปราชญ์ผมดำจิยูกิ
เมืองปกครองอิสระ เทสซาเซีย
เทสซาเซียเป็นเมืองรัฐของอาเรียดิน่า เหตุผลที่สร้างเมืองนี้ขึ้นมาก็เพื่อรับมือกับเขาวงกตปีศาจในที่ราบมินอน
โดยบางทีจะมีปีศาจที่ออกมาจากเขาวงกต ทหารรับจ้างที่เมืองนี้จึงถูกรวบรวมมาเพื่อจัดการมัน
เพราะถูกตัดสินแล้วว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าการจัดตั้งอัศวินหรือทหารขึ้นมา
ดังนั้นคนในเมืองนี้ส่วนใหญ่จึงเป็นทหารรับจ้างกัน
นอกจากนี้ชาวเมืองส่วนใหญ่ของเทสซาเซียไม่มีสิทธิ์ในการเป็นพลเมืองของอาเรียดิน่า จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะอาศัยอยู่เมืองอื่น
แต่เทสซาเซียจะอนุญาตให้ทหารรับจ้างมาอาศัยอยู่ได้ตามสบายแม้จะไม่มีสิทธิ์การเป็นพลเมือง นี่เองคือวิธีที่อาเรียดิน่ารวบรวมทหารรับจ้างไว้
โดยปกติแล้วจะเรียกว่ารัฐที่ปกครองตัวเองจะดีกว่า
ซึ่งที่เทสซาเซียนี้เป็นเมืองอิสระที่ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าออกได้
จริงๆ แล้วก็มีเหล่าอาชญากรมากมายเลยล่ะที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้
จริงๆ แล้วฉันไม่คิดว่าเทสซาเซียคือเมืองที่สร้างขึ้นเพื่อรับมือเขาวงกตเลยสักนิด แต่ถูกสร้างมาเพื่อรองรับผู้ลี้ภัยที่มายังอาเรียดิน่าต่างหาก
คงเพราะคนผู้ลี้ภัยเยอะจนไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหนดี
โดยเมืองเทสซาเซียถูกครอบครองโดยสมาคมทหารรับจ้างซึ่งประกอบด้วบทหารรับจ้างมากมาย
และพวกเขายังคงดูแลรักษาความปลอดภัยของอาเรียดิน่าด้วย
แม้ว่าจะเป็นเมืองรัฐของอาเรียดิน่า แต่เรื่องความปลอดภัยนั้นไม่ใช่ เพราะรัฐบาลของอาเรียดิน่าให้เทสซาเซียปกครองตัวอย่างเลยด้วยซ้ำ
ตอนแรกสมาคมทหารรับจ้างก็ใช่ว่าจะถูกสร้างมาเพื่อช่วยเหลือกันและกันเหมือนสมาคมผู้ใช้เวทหรอกนะแต่เพราะต้องมีใครคอยควบคุมทหารรับจ้างเท่านั้นเอง
โดยจะควบคุมตั้งแต่การรับฝากเงิน ห้ามไม่ให้ทหารรับจ้างไปก่อกวนผู้อื่น และทำงานอย่างขาดสะอาด
ก็สมกับเป็นเมืองอิสระดี
และตอนนี้พวกเราก็อยู่ที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมทหารรับจ้าง
[ นี่คือชิสุเฟย์เรีย เธอเป็นทหารรับจ้างเช่นกันครับ ท่านผู้กล้าแห่งแสง ]
ประธานสมาคมทหารรับจ้าง เชอร์เน่โฟตแนะนำผู้หญิงคนที่อยู่ข้างๆ
[ ชิสุเฟย์เรียค่ะ ยินดีที่ได้พบอีกครั้งค่ะ ท่านผู้กล้าแห่งแสง ]
เด็กสาวที่ชื่อชิสุเฟย์เรียเอามือวางไว้ที่หน้าอกแล้วก้มหัวให้
พวกเราเคยพบกับชิสุเฟย์เรียมาก่อน ตอนที่เธอโดนออร์คโจมตีนั้นเอง
ชิสุเฟย์เรียจะเป็นคนนำทางให้พวกเรา
ที่จริงแล้วดูเหมือนเชอร์เน่โฟตจะขอร้องโกดอล
เพราะเขาเป็นทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองนี้และยังเคยเข้าไปในเขาวงกตมาหลายครั้งแล้ว ดังนั้นจะให้นำทางจึงไม่น่ามีปัญหา
แต่เพราะวันก่อนเขาดันไปทำเรื่องเสียหายกับซาโฮโกะ
เรย์จิเลยโกรธและบอกให้เปลี่ยนคนจะดีกว่า สำหรับฉันถ้าเป็นสาวน้อยน่ารักก็ดีเหมือนกันล่ะนะ
ทหารรับจ้างสวยๆ ย่อมดีกว่าผู้ชายบ้ากล้ามอยู่แล้ว
ดังนั้นฉันถึงได้เลือกชิสุเฟย์เรีย
ฉันมองไปที่ชิสุเฟย์เรีย ผมยาวสีน้ำตาลอ่อนและมีใบหน้างดงาม ตัวไม่สูงนัก ร่างกายเรียวบาง เป็นสาวสวยเลยล่ะ
หากเป็นเธอ เรย์จิก็ดูจะพอใจด้วย
แต่แขนของชิสุเฟย์เรียบางกว่าทหารรับจ้างหญิงคนอื่นซะอีก แบบนี้จะเหวี่ยงดาบไหวเหรอ?
เธอดูเหมือนเด็กที่เล่นเป็นทหารรับจ้างซะมากกว่า
ชื่อเองก็ไม่เหมาะที่จะเป็นทหารรับจ้างด้วยล่ะ
ชิสุเฟย์เรียหมายถึงความสงบ เฟย์เรียนั้นมาจากชื่อของเทพธิดาเฟย์เรีย แม่ของเธอคงจะเป็นผู้ศรัทธาเทพธิดาเฟย์เรียแน่ๆ
เทพธิดาเฟย์เรียเป็นภรรยาของราชาแห่งเทพโอดินและเป็นเทพธิดาแห่งการแต่งงานและการมีครอบครัว ดังนั้นเทพธิดาเฟย์เรียจึงพยายามอยู่ให้ห่างเรื่องการต่อสู้ซะมากกว่า
ดังนั้นหากมีพ่อแม่เป็นทหารรับจ้างก็ไม่ควรตั้งชื่อลูกว่าชิสุเฟย์เรียสิ
น่า ถึงจะพูดแบบนั้นแต่เธออาจจะเคยเป็นขุนนางของประเทศที่ถูกทำลายหรือลูกสาวของตระกูลอัศวินก็ได้
การที่ประเทศโดนทำลายโดยปีศาจจนต้องลี้ภัยมาที่นี่ มันเป็นเรื่องที่คนจากอีกโลกอย่างฉันพบเจอได้ยากล่ะนะ
[ ขอบคุณมากชิสุเฟย์เรีย ]
เรย์จิจับมือของชิสุเฟย์เรีย
จากนั้นเธอก็หน้าแดง ดูแล้วคงไม่มีประสบการณ์ด้านผู้ชายมากนัก
หากดูภายนอกเรย์จิก็ดูเหมือนเจ้าชาย ที่ทั้งแข็งแกร่งและมีการศึกษา ดังนั้นผู้หญิงส่วนใหญ่ถึงได้ตกหลุมรักทันที
แต่เนื้อในนั้นเป็นสัตว์ป่าชัดๆ เลยล่ะ
เด็กคนนี้เองก็คงหลงเสน่ห์ของเรย์จิเข้าแล้ว ถ้าฉันไม่จับตาดูอยู่คงก็ไม่เลิกจับมือกันแน่ เฮ้อ นี่ฉันต้องคอยระวังไม่ให้ผู้หญิงตกเป็นเหยื่อของผู้ชายคนนี้อีกกี่คนกันเนี่ย
นี่ถึงเขาจะรู้ว่าฉันเองก็รู้ดี แต่ก็ยังไม่หยุดอยู่ดี
ทั้งที่คิดว่าเรย์จิน่าจะมีความจำดีจนเตือนทั้งเดียวก็ได้แท้ๆ
ตอนที่เดินทางด้วยกัน ฉันมักจะได้ยินเสียงครางของซาโฮโกะช่วงกลางคืน
ฉันมักจะนอนห้องเดียวกับชิโรเนะ แต่ไม่อยากเชื่อเลยว่าชิโรเนะจะหลับได้ลง นี่เธอไม่สนใจเลยเหรอว่า เรย์จิกำลังทำอะไรกับผู้หญิงคนอื่นนะ
แม้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันมานาน แต่ฉันก็ไม่เข้าใจชิโรเนะเลยจริงๆ (จิยูกิคิดว่าชิโรเนะรักเรย์จิล่ะนะ)
[ โปรดเรียกฉันว่าชิสุเฟย์เถอะค่ะ ท่านเรย์จิ ]
ชิสุเฟย์ก้มหัวให้
ซึ่งวันพรุ่งนี้เราจะไปที่เขาวงกตกันแล้ว
◆ ผู้กล้าแห่งไฟ โนวิค
เพราะเรื่องเมื่อวันก่อน ทำให้ข้าต้องนอนฝันร้ายเลยก็ว่าได้
ข้าสมเพซตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้
ปีศาจต่างถูกผู้กล้าแห่งแสงจัดการไปหมด
ทำให้ข้าผู้กล้าแห่งไฟไม่มีผลงานใดๆ เลย
ชายที่ชื่อโกลดอลดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บน้อยกว่าข้า ตอนนี้เลยกลับไปที่เทสซาเซียตั้งแต่เมื่อวานตอนบ่ายๆ
ตอนนี้ข้ากำลังเดินในเมืองเทสซาเซีย แต่เพราะมันเป็นเมืองเล็กๆ จึงไม่มีอะไรให้ทำมากนัก
ชิสุเฟย์จะยังแข็งแรงดีอยู่มั้ยนะ?
ข้าถูกทางอาเรียดิน่าขอร้องให้ไปช่วยแต่ตอนนี้ไม่มีอะไรให้ข้าทำแล้ว จึงได้กลับมาที่นี่
[ ลั๊ล ลัล ล๊า~ ♪ ]
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังจากข้างหลังข้า
[ พะ พี่เคย์น่า!? จู่ๆ ก็โผล่มาแบบนี้มันตกใจนะ! ]
เธอคือพี่สาวที่โตมาด้วยกัน เราไม่ได้เจอกันนานแล้ว
เพราะมีคนเสนอชื่อของข้าให้ไปทางเหนือกับเพื่อนๆ คนอื่น ข้าจึงเดินทางไปที่ทางเหนือและไม่ได้กลับมาเทสซาเซียซะนาน
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เจอพี่เคย์น่าในรอบหนึ่งเดือนก็ว่าได้
[ หยาบคายจังนะ มาพูดกับคนที่เลี้ยงดูมาแบบนี้นะ? ]
พี่เคย์น่ายิ้มให้ข้า
[ เอ่อ… ]
ข้าพูดไม่ออก
พี่เคย์น่ามีนิสัยเสียตรงที่ชอบแฉเรื่องชาวบ้านนี่ล่ะ
ข้ากับพี่เคย์น่าเติบโตขึ้นมาในวิหารของท่านเฟร์เรีย
ข้าเองก็ไม่รู้ว่าพ่อแม่ของตัวเองเป็นใคร
โดยพี่เคย์น่านั้นถูกพ่อของชิสุเฟย์เลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังทารกในวิหารเฟย์เรีย
ดังนั้นพี่เคย์น่ากับชิสุเฟย์จึงเหมือนพี่น้องที่เติบโตขึ้นมาด้วยกันของข้า
แถมพี่เคย์น่ายังรู้เรื่องน่าอายสมัยยังเด็กที่ข้าทำไว้เกือบหมดเลยด้วย
[ พี่เคย์น่า… อย่าบอกชิสุเฟย์นะ…. ]
ข้ากระซิบเบาๆ
มันเป็นความทรงจำที่น่าอับอายเพราะพี่เคย์น่าคอยเลี้ยงดูข้ามานี่นา
แต่พี่เคย์น่าเองก็สั่งสอนอะไรข้ามาหลายอย่าง ดังนั้นข้าไม่เสียใจหรอก
แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เธอเก็บไว้เป็นความลับล่ะนะ
[ ไม่ต้องห่วงน่า พี่ไม่บอกชิสุเฟย์หรอก ]
พี่เคย์น่าหัวเราะแล้วตีหลังของข้า
[ จะว่าไปชิสุเฟย์กลับมาที่เทสซาเซียแล้วเหรอครับ? ]
[ อา กลับมาพร้อมกันนะ แต่ตอนนี้เธอน่าจะไปที่สมาคมอยู่ ]
[ ไปที่สมาคม? ]
ในการที่ทำอาชีพทหารรรับจ้างที่เทสซาเซียต้องเข้าร่วมกับสมาคม และทุกๆ สามปีจะต้องไปต่ออายุการจดทะเบียน แต่ชิสุเฟย์ไม่น่าจะต้องต่ออายุตอนนี้นี่นา งั้นทำไมต้องไปที่สมาคมล่ะ?
[ นั่นสิ ดูเหมือนผู้กล้าแห่งดินจะพาเธอไปที่สมาคม พี่เองก็ไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไรเหมือนกัน ]
พี่เคย์น่าพูดขึ้นขณะที่กำลังกังวล
[ ดะ เดี๋ยวก่อนนะ! โกดอลงั้นเหรอ!? งั้นชิสุเฟย์ก็ตกอยู่ในอันตราย!!]
ข้าเคยเจอกับโกดอลมาเมื่อวานก่อน เขาเป็นคนที่ชอบใช้กำลัง ดังนั้นจะต้องพาชิสุเฟย์ไปอะไรสักอย่างแน่
ข้าต้องรีบไปที่สมาคมแล้ว
[ เฮ้ คิดจะทำอะไรนะโนวิค? ยังไงโกดอลก็เป็นคนของสมาคมระดับแนวหน้านะ ถ้าไปทำเรื่องเสียมารยาทเดี๋ยวจะเกิดเรื่องยุ่งเข้านะ ]
พี่เคย์น่าห้ามข้าไว้
[ แต่ว่าพี่เคย์น่า… ถ้าชิสุเฟย์ตกอยู่ในอันตรายล่ะ? ]
[ ยังไงหากนับแค่ฝีมือดาบเธอเองก็เก่งกว่าฉันหรือโนวิคซะอีกนะ ]
อย่างที่พี่เคย์น่าบอก ชิสุเฟย์มีวิชาดาบเหนือกว่าข้าซะอีก
แต่ปัญหาคือเรื่องแรงต่างหาก ด้วยพลังของชิสุเฟย์กระทั่งฟันก็อบลินก็ยังไม่เข้าด้วยซ้ำ แต่ปัญหานั้นถูกแก้ไขด้วยการใช้ดาบเวทแล้ว
ถ้าเป็นเรื่องดาบเธอไม่น่าจะแพ้โกดอลได้หรอก
[ เอาน่า ที่พี่อนุญาตให้ชิสุเฟย์ไปก็เพราะทางผู้กล้าแห่งแสงจะมีธุระด้วย และพี่ก็ไม่คิดว่าชิสุเฟย์จะเสร็จโกดอลแล้วหรอกนะ ]
พี่เคย์น่าพูดขึ้นแล้วหัวเราะ
ข้ารู้จักผู้กล้าแห่งแสง เมื่อวันก่อน ข้าได้เจอกับนักบุญหญิงที่เป็นสมาชิกในปาร์ตี้ของผู้กล้าแห่งแสงเข้า
จากที่ได้ยินมา ดูเหมือนผู้กล้าแห่งแสงจะแข็งแกร่งกว่านักบุญหญิงคนนั้นซะอีกและยังหล่ออีกด้วย
ทั้งปาร์ตี้ของผู้กล้าแห่งแสงมีแต่สาวสวยระดับเดียวกับนักบุญหญิงคนนั้นทั้งนั้น
ข้านึกถึงหน้าอกของนักบุญหญิงคนนั้น
ช่างน่าอิจฉาจริงๆ ที่มีสาวสวยหน้าอกสะบึ้มขนาดนั้นอยู่ข้างกาย
ชิสุเฟย์เองก็น่าจะใหญ่ขนาดนั้นบ้างก็ดีนะ
แต่ทำไมพี่เคย์น่าถึงได้พูดถึงผู้กล้าแห่งแสงล่ะ? เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่รู้
โกดอลเป็นหัวกล้าม ข้าได้แต่หวังว่าร่างกายของชิสุเฟย์คงไม่กลายเป็นของโกดอลไปแล้วหรอกนะ
[ จริงด้วยสิครับ ]
ข้าต้องเชื่อมั่นใจตัวเธอ แต่ก็ยังกังวลอยู่นิดหน่อย
นอกจากนี้การที่ผู้กล้าจะทะเลาะกันเองที่สมาคมมันไม่ดีนัก
พี่เคย์น่าถึงได้ห้ามข้าไว้
ถึงข้าจะเป็นห่วงชิสุเฟย์แต่ก็ไม่อยากให้พี่เคย์น่ากังวลเหมือนกัน
[ เอาน่า โนวิค อุตส่าห์ไม่ได้เจอกันซะนาน ไปหาอะไรดื่มกันเถอะ ]
พี่เคย์น่าเอาข้าเอากอด จนใบหน้าจมลงไปในหน้าอกนุ่มๆ
สุดท้ายข้าเลยถูกเธอลากไปดื่มด้วยจนได้