CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อัศวินดำ - ตอนที่ 51

  1. Home
  2. อัศวินดำ
  3. ตอนที่ 51
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

◆ นักปราชญ์ผมดำจิยูกิ

[ เจอทางไปแล้ว ]

ฉันพูดขณะที่อยู่บนทางเดินแคบๆ

พวกเราหลบกับดักด้านหน้าและเดินเข้าไปในทางลับที่ซ่อนอยู่บนกำแพงด้านข้าง

[ มันสะดวกดีนะคะ นี่แปลว่าคงเคยมีคนผ่านเส้นทางนี้แล้วหลายคนแน่เลยค่ะ ]

นาโอะหันหลังกลับมาแล้วพูดขึ้น

ตอนนี้ที่หูของนาโอะมีหูสัตว์อยู่และยังมีหาด้วย นี่คือร่างครึ่งสัตว์ หากนาโอะกลายร่างเป็นสัตว์เต็มตัวก็จะเป็นเสือดำดูสง่าและมีปีกด้วย(ต่างโลกไม่มีเปรมชั*นะครับ)

ซึ่งเมื่อเธออยู่ในร่างกายประสาทสัมผัสจะเฉียบคมขึ้นและพลังกายยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่มันก็จะทำให้จับอะไรได้ยากขึ้น เกราะที่สวมอยู่ก็ลดลงทำให้การป้องกันต่ำลงและพลังต้านทานต่อเวทสปิริตยังลดลงอีกด้วย

พูดได้ว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นการจะใช้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย

ตอนนาโอะเลยอยู่ในร่างครึ่งสัตว์เพื่อสำรวจเขาวงกต เมื่อกลายเป็นครึ่งสัตว์แล้วรัศมีการตรวจจับก็จะมากขึ้น จากที่คาดเดาผู้คนที่ถูกลักพาตัวไปคงต้องผ่านเส้นทางนี้มาแน่

[ ไม่ต้องสงสัยเลยค่ะว่ามีคนเคยผ่านเส้นทางนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังตรวจจับไม่พบอะไรเลยค่ะ ]

[ มันไม่มีอะไรเลยเหรอ น่าเบื่ออ่า ]

[ โถ่ เรย์คุง ริโนะจัง! มันไม่มีอะไรก็ดีแล้วนะ! ]

ซาโฮโกะพูดออกมา ใช่แล้ว ไม่มีอะไรนี่ล่ะดีแล้ว

ไม่รู้ว่าทำไมมิโนทอร์ถึงได้ทำการลักพาตัวครั้งใหญ่ขึ้นหรือมันจะทำไปโดยไม่มีเหตุผลกันนะ?

มันคงง่ายอยู่นี้เยอะเลยนะถ้าพวกเขาอยู่ชั้นบนกัน 

ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ชั้นใต้ดินชั้นที่สองแล้ว ถึงชั้นแรกจะเต็มไปด้วยกับดักแต่ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษนักหรอก

กว่าคนจะมาพบทางไปต่อ เหล่าทหารรับจ้างที่มาสำรวจเขาวงกตนี้ต้องสังเวยชีวิตไปเท่าไหร่แล้วนะ

เหล่าทหารรับจ้างไปกันได้ถึงแค่สี่ชั้น หากเราเดินไปตามเส้นทางปลอดภัยมันก็ง่ายอยู่หรอก แต่หลังจากชั้นห้าขึ้นไปนี่ก็บอกอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีใครเคยรอดกลับมาจากชั้นห้าเลยสักคน

บางทีเราคงจะต้องไปต่อเองตั้งแต่ชั้นห้าล่ะนะ

จากนั้นชิสุเฟย์ก็หยุดลง

[ เกิดอะไรขึ้นชิสุเฟย์? ]

[ ท่านเรย์จิ จากตรงนี้ไปจะเป็นชั้นใต้ดินชั้นสามค่ะ จากนี้จะมีปีศาจที่ทำให้ต้องลำบากสักหน่อย ฉันเลยจะบอกไว้ก่อนนะคะ ] 

ข้างหนัาชิสุเฟย์คือบันไดลงไปที่ชั้นใต้ดินชั้นสาม

[ งั้นเหรอ? มันเป็นปีศาจแบบไหนล่ะ? ]

[ แอซพาลี่กับอีวิลอายส์ค่ะ ปีศาจพวกนี้จะคอยเดินวนอยู่ที่ชั้นสามและชั้นสี่ ]

แอซพาลี่เป็นมอนสเตอร์ที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์แต่ไม่มีคอ ไม่มีหัว แต่มีตาอยู่ที่หน้าอกสองข้างและมีปากอยู่ที่ท้อง คล้ายกับโยไค(ปีศาจ,ภูติผี)ของจีน

แอซพาลี่มีร่างกายแข็งเหมือนเหล็กจึงรับมือกับอาวุธที่ฟันเข้ามาได้และดูเหมือนจะสามารถพ่นกรดจากปากได้อีกด้วย

ส่วนเอวิลอายส์เป็นปีศาจที่มีแต่เส้นหนวดและดวงตาขนาดใหญ่ลอยอยู่ แสงที่ถูกปล่อยออกมาจากตาขนาดใหญ่ของมันสามารถทำให้เป็นอัมพาต ดึงดูด และกลายเป็นหินได้

โดยมันจะจับเหยื่อด้วยหนวดรอบๆ เพื่อหยุดการเคลื่อนไหว

ปีศาจทั้งสองตัวอันตรายมากสำหรับคนธรรมดา

ว่ากันว่าเคยมีทีมสำรวจพบแอซพาลี่เข้าในอดีต

ในตอนนั้นทหารรับจ้างครึ่งนึงต่อสู้เพื่อเสียสละชีวิต ทำให้ที่เหลือหนีออกมาได้

ซึ่งในนั้นมีโกดอลอยู่ด้วย

ทำให้โกดอลไม่ค่อยสบายใจเวลาเจอชิสุเฟย์ เพราะทำให้นึกถึงเรื่องตอนที่เจอกับแอซพาลี่

[ ไม่ต้องห่วงชิสุเฟย์ ถ้าอยู่กับพวกเราก็หายห่วง ]

[ ท่านเรย์จิ…. ]

เรย์จิดูเหมือนจะพูดเพื่อให้ชิสุเฟย์มีกำลังใจขึ้น

ส่วนโนวิคที่อยู่ข้างๆ ดูจะไม่ได้สนใจอะไรนัก

[ พวกโกดอลจะเป็นอะไรมั้ยนะ เพราะพวกเขาล่วงหน้ามาก่อน ]

 

 

◆ ทหารรับจ้างหญิงชิสุเฟย์

[ ระเบิดอากาศ!! ]

มาเดียใช้เวทที่มีคุณสมบติเหมือนเวทคลื่นโซนิค แต่เป็นเวทที่เบากว่า

ทำให้ค้างคาวยักษ์บินหลงทิศทางและหล่นลง

เมื่อเห็นมันร่วงลงมา ฉันและพี่เคย์น่าก็รุมจัดการมัน

ถ้าปีศาจแค่นี้พวกเราจัดการได้สบายมาก

แถมข้างหลังเรายังมีท่านเรย์จิอยู่

เจ้าพวกปลาซิ่วปลาสร้อยพวกนี้ พวกเราต้องพยายามรับมือเองไม่ให้ไปถึงมือท่านเรย์จิ อย่างน้อยก็จนกว่าจะถึงชั้นสี่

โนวิค ลีเรีย และคุณนอร่าจัดการซอมบี้ที่มาจากทางด้านขวา

[ หยุดก่อน! ชิสุเฟย์! ]

ฉันหยุดทันทีตามเสียงของท่านนาโอะที่อยู่ในร่างครึ่งสัตว์

[ มีบางอย่างกำลังมา… ]

ท่านนาโอะชี้ไปยังส่วนของตำแพงที่แตก จากนั้นก็มีดวงตาขนาดใหญ่โผล่ออกมา

[ เอวิลอายส์!! ]

ปีศาจที่มีหนวดล้อมรอบและมีดวงตาขนาดใหญ่

[ แสงจงปกป้องทุกคน! ]

เมื่อท่านนักบุญร่ายเวท จากนั้นดวงตาของอีวิลอายส์ก็เรืองแสง

ฉันเอามือขึ้นมาปิดหน้าไว้

แต่เมื่อลืมตาดูอีกที กลับยังไม่เป็นไร แสงจากอีวิลอายส์ถูกสะท้อนออกไปหมด

ดูเหมือนท่านนักบุญจะปกป้องเราเอาไว้ ยอดไปเลย

[ หลบไปชิสุเฟย์ ]

ท่านนักปราชญ์ผมดำก้าวออกมาข้างหน้า

[ ท่านนักปราชญ์คะ! อีวิลอายส์มีพลังเวทที่สูงมากทำให้ไม่แพ้เวทมนตร์นะคะ! ]

มาเดียแนะนำท่านนักปราชญ์ ใช่แล้ว อีวิลอายส์เป็นปีศาจที่มีพลังเวทแข็งแกร่งมาก ดังนั้นควรต่อสู้ด้วยดาบแทนที่จะเป็นเวทมนตร์จะดีกว่า

[ หืม งั้นก็ลองดูนี่หน่อย กระสุนระเบิด!! ]

จากนั้นบอลสีแดงก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าท่านนักปราชญ์และตรงเข้าหาอีวิลอายส์

ทันทีที่โดนตัวอีวิลอายส์ ตัวมันก็ระเบิดและหายไปอย่างไร้ร่องรอย

[ โกหกน่า…. จัดการอีวิลอายส์ได้ด้วยเวทมนตร์… ]

ฉันเองก็ทำหน้าตกใจไม่แพ้มาเดีย

[ เอ่อ มาอีกแล้วค่ะ ]

ท่านนาโอะชี้ไปอีกมุมหนึ่ง

[ งั้นคราวนี้ถึงตาริโนะบ้างล่ะน้า รบกวนด้วยค่ะคุณซาลาแมนเดอร์  ]

จากนั้นก็มีมนุษย์กิ้งก่าไฟที่ร่างกายมีเมือกออกมา

เมือกสีแบบนั้น ฉันเคยเห็นมาก่อนครั้งนึงเมื่อก่อน มันเป็นศัตรูที่ร้ายกาจมากและมีกรดที่อันตรายมาก

ท่านริโนะจัดการมอนสเตอร์ที่โผล่มาคนละฝั่งด้วยการโจมตีครั้งเดียว

[ งั้นไปกันต่อเถอะ ]

ท่านเรย์จิพูดแล้วเราก็เริ่มเดินต่อ

เขาทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

[ จัดการปีศาจพวกนั้น….. ได้อย่างง่ายดาย… ]

โนวิคพึมพำ
ฉันได้ยินแล้วก็พยักหน้า

นักปราชญ์ผมดำท่านจิยูกิ ผู้ใช้เวทฝีมือฉกาจ

ท่านซาโฮโกะ นักบุญผู้ขาวบริสุทธิ์

ท่านริโนะ ผู้ใช้สปิริต

ท่านนาโอะ ผู้มีความสามารถในการตรวจจับอันยอดเยี่ยม

และท่านเรย์จิ ผู้กล้าแห่งแสงซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งปาร์ตี้

พวกเขาต่างมีทั้งหน้าตาและความแข็งแกร่ง

แต่รู้สึกจะขาดใครไปอยู่ คนที่มีฉายาว่าสาวแห่งดาบ คนๆ นั้นเองก็ต้องสุดยอดมากแน่

ไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่เก่งขนาดนี้อยู่ตั้งมากมายในโลกนี้ คนที่ชนะพวกเขาได้คงจะไม่มีอยู่แล้วในโลกนี้ก็ได้

ท่านเรย์จิและสหายเดินไปอย่างองอาจ ไม่มีปีศาจตัวไหนเลยที่จะหยุดพวกเขาได้

[ พวกเราก็ไปกันบ้างเถอะ ]

เมื่อฉันพูดขึ้น ทุกคนก็พยักหน้า

จากนั้นเราก็ก้าวเดินตามพวกเขาไป

 

 

◆ นักปราชญ์ผมดำจิยูกิ

[ ย๊ากกก!! ]

เมื่อเราลงไปที่ชั้นสี่ก็เจอกับโกดอลที่กำลังต่อสู้กับแอซพาลี่

โล่ของแอซพาลี่และขวานของโกดอลปะทะกัน

แอซพาลี่ดันขวานของโกดอลกลับจากนั้นก็โจมตีด้วยดาบ

โกดอลโดดหลบไปข้างหลัง

ค่อนข้างสูสีกันดี แต่ดูโกดอลจะเสียเปรียบอยู่นิดหน่อย

ร่างของโกดอลอยู่ห่างจากแอซพาลี่ประมาณ 2 เมตร

โดยรอบๆ ที่พวกเขากำลังสู้กันมีทหาารรับจ้างล้มอยู่มากมายเพราะการต่อสู้ของโกดอลและแอซพาลี่

เมื่อเห็นโกดอลถอยออกมา มันก็อ้าปาก

[ บัดซบ! ]

โกดอลใช้โล่ขนาดใหญ่กันเอาไว้

แอซพาลี่พ่นน้ำกรดจากปากจนกระจายไปทั่ว

[ อ๊ากกก!! ]

แม้โกดอลจะปลอดภัยเพราะมีโล่อยู่ แต่ทหารรับจ้างที่ล้มลงอยู่ต่างโดนกรดของแอซพาลี่กันหมด

เมื่อร่างของทหารรับจ้างโดนกรดก็เกิดควันขึ้นและกัดกร่อนได้ชุดเกราะของพวกเขา

อาจจะเพราะโล่ของโกดอลคือโล่เวทมนตร์ถึงได้ปลอดภัย

ซึ่งเป็นโล่ที่เหล่าทหารรับจ้างขอร้องให้คนแคระสร้างให้โกดอล

[ นี่มันแย่แล้วไม่ใช่เหรอคะ…. ]

นาโอะพูดขึ้นเพราะเห็นว่าเขาท่าทางจะแพ้

นี่คงเพราะฝีมือต่อสู้ของเขาต่างจากทหารรับจ้างคนอื่นๆ รึเปล่านะ ถึงได้ถูกเรียกว่าผู้กล้าแห่งดิน?

แล้วฉันคิดว่าตอนนี้เขาไม่น่าจะต่อสู้ไหวอีกแล้ว ดังนั้นควรจะรีบช่วย

[ ฉันจัดการเองแล้วกัน เพราะฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ]

เรย์จิเดินไปข้างหน้าพร้อมกับชักดาบออก

ถ้าเรย์จิเป็นคนลงมือก็คงจะจบในดาบเดียว

[ เอาล่ะนะ ประกายแสง!! ]

จากนั้นความเร็วของเรย์จิก็เร็วขึ้นและฟันใส่แอซพาลี่อย่างรวดเร็ว

แอซพาลี่ถูกฟันจนขาดเป็นสองท่อนและล้มลง

[ ยอดเลย… ]

[ ไม่เห็นแม้แต่ใบดาบด้วยซ้ำ ]

[ นี่คือพลังของผู้กล้าแห่งแสง… ]

เหล่าทหารรับจ้างที่ได้เห็นต่างส่งเสียงชื่นชม

[ ขอโทษที่ต้องให้เจ้ามาลำบาก ผู้กล้าแห่งแสง ]

โกดอลก้มหัวให้

จากนั้นเขาก็ไปรักษาคนที่บาดเจ็บ

ทหารรับจ้างส่วนใหญ่ที่เป็นแนวหน้าร่างกายไปต่อไม่ไหวแล้ว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่พอจะเดินได้

[ แบบนี้ดูท่าจะแย่ งั้นที่เหลือพวกเราไปกันเองจะดีกว่า ]

ฉันบอกกับชิสุเฟย์และโกดอล

ที่เราให้เธอนำทางให้ก็เพราะอยากเลี่ยงห้องที่มีกับดักจะมาผ่านมาอย่างปลอดภัย

แต่ทว่าตั้งแต่ชั้นห้าซึ่งอยู่ตรงหน้านี้เป็นต้นไป ไม่มีใครที่สามารถจะนำทางได้แล้ว แม้ว่าจะพาพวกเขาไปด้วยก็คงไม่ดีนัก

ดังนั้นพวกเราไปกันเองจะดีกว่า

[ ขอโทษด้วยนะคะท่านเรย์จิ ที่นำทางไม่ได้จนถึงสุดทาง… ]

ชิสุเฟย์ขอโทษเรย์จิ

[ ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก ไว้ฉันกลับมาไปดื่มหรือไปเดทด้วยกันดีมั้ย? ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะอยู่ด้วยกันแค่สองคนนะ ได้มั้ย?   ]

เรย์จิพูดแล้วหัวเราะขึ้น

[ ค่ะ ด้วยความยินดี ]

ชิสุเฟย์ดูมีความสุขมาก ขณะที่ฉันแอบมองจากข้างหลัง

จากนั้นชิสุเฟย์และโกดอลก็กลับไปในทางเดิม

เหลือเพียงพวกเรา

[ จากตรงนี้เหลือแค่พวกเราแล้ว คุณนาโอะทางนี้แน่นอนใช่มั้ยคะ? ]
[ ไม่ผิดแน่ ได้กลิ่นของมนุษย์ที่ไม่ใช่ทหารรับจ้างเคยผ่านที่นี่ไปอยู่ด้วย ]

นาโอะดมกลิ่นรอบๆ และให้คำตอบ

[ แปลว่าคนที่ถูกลักพาตัวไปเคยผ่านเส้นทางนี้สินะ? ]

[ บางทีล่ะนะ แต่ปัญหาคือไปไกลแค่ไหนนี่สิ? ]

เรย์จิพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ฉันเองก็ไม่รู้หรอกว่าพวกเขาโดนพาตัวไปไว้ไกลแค่ไหน

ถ้ามันกินเวลามากเกินไป ฉันว่าเราควรกลับจะดีกว่า

[ อยากกลับเร็วๆ แล้วอ่ะ ในนี้มันมืดเกินไปแล้ว ]

[ อดทนอีกนิดนะคุณริโนะ มันเริ่มจะสว่างขึ้นนิดหน่อยแล้วล่ะ ]

ตลอดทางของเขาวงกตมีแสงจากเวทมนตร์อยู่เล็กน้อย

ดูเหมือนว่าแม้ผู้ที่ไม่ได้มีความสามารถมองเห็นในความมืดก็เข้ามาในนี้ได้

[ จะต้องไปอีกไกลแค่ไหนเนี่ย? ]

[ ก็ไกลจนกว่าจะพบคนที่โดนลักพาตัวไปนั้นแหละค่ะ… ถ้าหาพบเร็ว เราก็จะได้กลับไปเร็วด้วยค่ะ ]

อย่างน้อยที่ชั้นห้าก็เป็นชั้นที่ไม่เคยมีใครรอดกลับมา ดังนั้นเลยไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

[ เอาล่ะ ไปกันเถอะทุกคน ]

เมื่อได้ยินเสียงเรย์จิ พวกเราก็เริ่มเดินต่อ

 

 

◆ ทหารรับจ้างหญิงชิสุเฟย์

[ เฮ้อ… ออกมาได้สักที ]

เมื่อกลับมาที่ผิวดิน ฉันก็สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด

เพราะไม่มีท่านเรย์จิ เวลากลับจึงยากกว่ามาก แต่ยังไงก็กลับขึ้นมาได้แล้ว

เหล่าทหารรับจ้างเองก็รู้สึกแบบเดียวกันกับฉันคือความรู้สึกโล่งอกที่รอดมาได้

เขาวงกตชั้นสี่มันอันตรายมาก

ราวกับปาฏิหาริย์ที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเลยในชั้นนั้น เรื่องนี้คงต้องขอบคุณท่านเรย์จิ

[ ถึงอย่างนั้น คนพวกนั้นก็สุดยอดเลยนะ… ]

มาเดียพูดขณะที่มองไปยังบันไดที่เข้าสู่เขาวงกตชั้นแรก

[ สุดยอดจริงๆ นั้นแหละ… ถึงฉันจะสื่อสารกับสปิริตได้ แต่ก็ควบคุมสปิริตไม่ได้ขนาดนั้นหรอกค่ะ ]

คุณนอร่ากำลังพูดถึงท่านริโนะ

[ ท่านนักบุญเองก็ยอดเหมือนกัน ที่ใช้เวทปกป้องพวกเราได้ ]

[ ท่านนาโอะเองก็ไม่แพ้กัน ขนาดในที่แคบแบบนั้นยังเคลื่อนไหวได้ขนาดนั้น ]

ลีเรียและพี่เคย์น่าต่างชื่นชมท่านนักบุญและท่านนาโอะ

[ เวทมนตร์ของท่านนักปราชญ์ก็ยอดไปเลย แม้ว่าฉันจะเรียนเวทมนตร์ไปขนาดไหนก็ใช้เวทแบบเธอไม่ได้แน่ ]

มาเดียชมท่านนักปราชญ์

ทุกคนต่างชื่นชมวีรกรรมของพรรคพวกท่านเรย์จิ

มันอาจจะไม่ดีต่อโนวิค แต่ท่านเรย์จินี่ล่ะคือผู้กล้าตัวจริง

เขาแตกต่างกับผู้กล้าคนอื่นราวฟ้ากับเหว

ฉันมองไปยังผู้ที่ถูกเรียกว่าผู้กล้าแห่งไฟ โนวิคกำลังทำท่าทางอึดอัด

บางทีโนวิคคงจะไม่ค่อยชอบท่านเรย์จิเท่าไหร่นัก

ฉันอยู่ด้วยกันกับโนวิคมาตั้งแต่เด็กจึงรู้ว่าตอนที่เขาเกลียดใครเป็นยังไง แต่ฉันคิดว่าจะไปเป็นศัตรูกับท่านเรย์จิก็ไม่ได้หรอกนะ

เพราะท่านเรย์จิคือคนที่ท่านเทพธิดาได้เลือกแล้ว อาจจะมีคนอื่นที่เป็นผู้กล้าอยู่ก็จริง แต่ท่านเรย์จิเป็นผู้กล้าเพียงคนเดียวที่ท่านเทพธิดามอบความรักให้

ดังนั้นจะไปมีความรู้สึกต่อต้านผู้เรย์ที่เป็นคนพิเศษน่ะไม่ได้หรอกนะ

[ โนวิค ทำไมทำหน้าไม่พอใจล่ะ? ]

[ ไม่มีอะไรสักหน่อย… ก็แค่อารมณ์ไม่ดี ]

ฉันถอนหายใจกับท่าทางอารมณ์บูดของโนวิค

[ นี่คงไม่ได้คิดจะเป็นศัตรูกับท่านเรย์จิอยู่ใช่มั้ย!! อย่าพยายามคิดจะไปสู้กับเขาเลยเชียวนะ!! ]

[ น๊ะ!! ]

โนวิคส่งเสียงประหลาดแล้วจ้องมองมาที่ฉัน

แค่มองหน้าเขาฉันก็รู้แล้วว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ คิดจะไปสู้กับท่านเรย์ล่ะสิ น่าจะเอาอย่างท่านเรย์จิแล้วเป็นผู้ใหญ่ซะบ้างนะ

[ น่า พูดแบบนั้นไม่ได้น้า~ ชิสุเฟย์♪ ]

พี่เคย์น่าจับฉันไว้จากด้านหลัง

[ พี่เคย์น่า!? ]

เมื่อหันหน้าไปก็เห็นพี่เคย์น่าที่กำลังหัวเราะและยิ้มอยู่

[ เขาน่ะสนใจเรื่องที่ผู้กล้าแห่งแสงชวนชิสุเฟย์ในตอนท้ายต่างหาก ใช่มั้ยล๊า~ ] 

[ พี่เคย์น่า!!! ]

โนวิคตะโกน

[ ถึงฉันจะถูกท่านเรย์จิชวนไปดื่มด้วย… แล้วมันยังไงเหรอคะ? ]

[ นั่นก็เพราะชิสุเฟย์… อุ๊บ ]

โนวิครีบไปปิดปากพี่เคย์น่า ทำให้ฉันไม่รู้ว่าพี่เคย์น่าพยายามจะบอกอะไร

[ ยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ถึงท่านเรย์จิจะชวนฉันไปดื่มด้วย แต่เขาก็คงไม่ทำอะไรฉันหรอกน่า ]

เพราะอย่างท่านเรย์จิมีสาวสวยอยู่ข้างกายตั้งขนาดนั้นแล้วคงไม่สนใจตัวฉันหรอก

[ เฮ้อ…. ชิสุเฟย์นี่ไม่รู้อะไรเลยนะ… นี่ชักจะแย่แล้วสิ ]

โนวิคพูดขณะที่ส่ายหัว

ถึงท่านเรย์จิจะชวนฉันแล้วยังไง? 

โนวิคก็ไม่เห็นจะต้องเป็นเดือดเป็นร้อนที่ฉันถูกเชิญไปนี่?

[ ไม่เห็นเข้าใจเลยสักนิด! เรื่องที่เหลือไว้คุยกันหลังกลับไปที่เทสซาเซียแล้วกัน! ]

ฉันพูดอย่างนั้นแล้วเริ่มเดิน

และได้ยินเสียงถอนหายใจจากเพื่อนร่วมปาร์ตี้จากข้างหลัง

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่นะ? 

 

 

◆ นักปราชญ์ผมดำจิยูกิ

พวกเราไปเจอพื้นที่ห้องกว้างๆ เข้า

และที่ด้านหลังของห้องนี้มีประตูบานใหญ่อยู่

ดูเหมือนว่าหากจะลงไปที่ชั้นห้าจะต้องผ่านประตูบานนั้น

แต่ในห้องขนาดใหญ่นั้นมีผู้พิทักษ์อยู่

เรามองไปที่กลางห้อง

ที่ตรงนั้นมีโกเล็มขนาดมหึมาอยู่

[ นั่นคงเป็นผู้พิทักษ์ของประตูชั้นห้า ]

ที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถไปที่ชั้นห้าได้ก็เพราะมีผู้พิทักษ์ประตูอยู่ นั่นคือสิ่งที่ชิสุเฟย์บอกมา

แต่เคยได้ยินว่ามีคนเคยรอดอาศัยจังหวะช่องว่างของโกเล็มและเข้าไปที่ชั้นห้าได้ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้กลับออกมาอีกเลย

[ ทำยังไงดีล่ะเรย์จิคุง? จะจัดการโกเล็มหรือเลี่ยงการต่อสู้กับมัน? ]

การเลี่ยงการต่อสู้อาจจะดีกว่า แต่หากคำนึงถึงว่าต้องพาผู้คนกลับออกมา การจัดการมันก่อนคงจะดีกว่า

[ ไม่ล่ะ เราจะสู้กับมัน จิยูกิหากเราจะต้องพาคนที่โดนลักพาตัวไปกลับมาจากชั้นห้าก็ควรจัดการอุปสรรคไว้ก่อน ]

เรย์จิชักดาบ

ดาบของเรย์จิคือดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงที่ได้มาจากเรย์น่า เมื่อดึงมันออกมาแสงสีทองจึงออกมาจากใบดาบด้วย

[ ก็จริงล่ะนะ ]

ฉันจับที่ไม้เท้า

[ เอาล่ะน้า ]

นาโอะถือบูมเมอแรง

[ แล้วใครจะเริ่มก่อนล่ะ? ]

[ ฉันเอง คุณริโนะอย่าใช้เวทสปิริตล่ะเข้าใจนะ ]

ฉันบอกกับริโนะเอาไว้ล่วงหน้าก่อน

ริโนะอาจจะเป็นผู้ใช้สปิริตที่เก่ง

แต่เวทสปิริตมันไม่เหมาะกับพื้นที่ปิดแบบนี้หรอกนะ

หากริโนะเรียกซาลามานเดอร์หรือสปิริตที่ไม่ใหญ่กว่านี้ก็คงพอได้อยู่หรอก แต่หากเป็นสปิริตระดับสูงเกินไปคงไม่ไหวแน่

และเพราะอีกฝ่ายเป็นโกเลมด้วยยิ่งไม่เหมาะกับเวทสปิริต

เป็นศัตรูที่ไม่เข้ากันกับริโนะเลยสักนิด

ฉันจึงจะเริ่มก่อน

โกเลมมันจะไม่ขยับหากไม่เข้าไปใกล้จนถึงระยะหนึ่งก่อน

มันเป็นโกเลมรูปร่างประหลาด ที่เหมือนเอาคนสองคนมาเชื่อมต่อกัน มีสี่มือและสี่ขา ในมือทั้งสี่ข้างถือดาบเวทขนาดใหญ่อยู่

ร่างกายเป็นโลหะส่องประกายหมองๆ ขนาดตัวประมาณ 5 เมตร

ฉันเริ่มร่ายคาถา จากนั้นบอลสีแดงขนาดเท่าตัวฉันก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

[ กระสุนระเบิดแบบเต็มกำลัง!! ]

ลูกไฟสีแดงกระทบเข้ากับโกเลมยักษ์และระเบิด

เวทกระสุนระเบิดเป็นเวทต้นฉบับของฉันเองเพราะมันไม่ต้องใช้พลังเวทมากนัก แม้ว่าะเป็นโกเลมยักษืที่เสริมความแข็งแกร่งมาขนาดไหน โดยเข้าไปก็ต้องเสียหายหนักแน่

ควันจากระเบิดเริ่มหายไปและมองเห็นชัดขึ้น หนึ่งในแขนของยักษ์หักลงและมีรอยแตกตามร่างของมันเต็มไปหมด

[ แข็งจังนะ ดูท่าว่าจะทำลายไม่ได้ง่ายๆ … ]

ฉันคงต้องใช้เวทที่มีพลังทำลายมากกว่านี้ ความคิดของฉันคงอ่อนหัดเกินไปที่คิดว่าเวทแค่นั้นก็จัดการมันได้

นอกจากนี้โกเลมยักษ์ดูเหมือนจะสร้างมาจากโลหะชนิดพิเศษจึงแข็งแรงมาก

แต่ยังไงมันก็ยังมีรอยแตกอยู่ดี ถ้าโจมตีอีกครั้งมันจะต้องแตกเป็นเสี่ยงๆ แน่

ดวงตาทั้งสี่ของโกเลมส่องแสงสีแดง ดูเหมือนว่ามันจะรับรู้ถึงพวกเราแล้ว

จากนั้นบนพื้นห้องและผนังก็มีแสงขึ้น

[ เอ๊ะ? อะไรนะ? นี่มันอะไรกันคะ? ]

ซาโฮโกะส่งเสียงตกใจ

ร่างของโกเลมยักษ์เองก็ส่องแสงแบบเดียวกับกำแพงและพื้นห้อง จากนั้นแขนที่หักก็กลับคืนสู่สภาพเดิม รอยแตกที่ร่างของมันก็ค่อยๆ หายไป

[ โกหกน่า รักษาตัวเองได้? แปลว่าทั้งห้องนี้มีอุปกรณ์เวทที่ช่วยทำให้มันรักษาตัวเองอยู่งั้นเหรอ? ]

ค่อนข้างเป็นศัตรูที่น่ารำคาญ

โกเลมยักษ์เคลื่อนไหวและยกดาบขึ้นขณะที่ตรงมาหาเรา

เรย์จิก้าวไปข้างหน้า

[ งั้นเจอเจ้านี้หน่อย! ประกายแสง! ]

การเคลื่อนไหวของโกเลมยักษ์ถูกหยุดไว้ด้วยการโจมตีอันรวดเร็วของเรย์จิ

[ เรย์จิคุงหลบไป! กระสุนระเบิดใหญ่เต็มกำลัง!! ]

ฉันปล่อยการกระสุนระเบิดสามลูกเสริมการโจมตีของเรย์จิ ขณะที่เขาหลบไปข้างๆ

โกเลมยักษ์โดนเข้าก็กระเด็นออกไป

[ สำเร็จมั้ยคะ? ]

[ ไม่ แค่นี้ยังหรอก ]

ฉันปฏิเสธคำพูดของซาโฮโกะ

เมื่องมองไปก็เห็นมันกำลังใช้ดาบทั้งสี่ป้องกันไว้ ไม่เหมือนกับในตอนนี้

ดูเหมือนความเสียหายแค่นั้นจะยังเอาชนะมันไม่ได้

ห้องเริ่มเปล่งแสงอีกครั้ง และโกเลมยักษ์ก็เคลื่อนไหว มันกำลังฟื้นตัว

การโจมตีแค่ครึ่งๆ กลางๆ เอาชนะมันไม้ได้ แต่ถ้าใช้เวทที่มีพลังสูงกว่านี้ห้องอาจจะเละไปเลยก็ได้

[ นาโอะจัดการเอง! ]

นาโอะโยนบูมเมอแรงใส่มัน

เมื่อบูมเมอแรงเข้าใกล้โกเลมยักษ์ก็เกิดพายุหมุน

และเข้าปะทะกับโกเลมยักษ์

แต่ห้องก็เกิดแสงประกายขึ้นอีกครั้ง

บูมเมอร์แรงที่อ่อนแรงลงและถูกโกเลมยักษ์ปัดทิ้งด้วยดาบ

[ อะไรกัน?! จะแข็งเกินไปแล้ว ]

นาโอะชื่นชมต่อความแข็งของเกราะมัน

นาโอะมีพลังตรวจสอบยอดเยี่ยม แต่พลังโจมตีเบามาก

ดูเหมือนการที่นาโอะจะสร้างความเสียหายให้โกเลมยักษ์ได้ คงเป็นไปได้ยาก

[ คุณนาโอะ คุณริโนะถอยไปค่ะ! ที่นี่ให้ฉันกับเรย์จิคุงจัดการเอง!! ]

มันคงจะยากเกินไปสำหรับนาโอะและริโนะ ดังนั้นที่นี่ควรให้ฉันกับเรย์จิจัดการดีกว่า

[ ไม่ จิยูกิก็หลบไปก่อนเถอะ ที่นี่ให้ฉันคนเดียวก็พอ ]

เรย์จิพยายามบอกว่าอย่าให้ฉันไปขวาง

[ ก็ได้เรย์จิคุง แต่โกเล็มนั้นมันแข็งแกร่งมากเลยนะ ]

[ ไม่เป็นไรจิยูกิ ฉันจะหาทางทำอะไรสักอย่างเอง ]

จากนั้นเรย์จิก็ส่งรอยยิ้มสดใสมา

และดึงดาบออกจากด้านหลังเล่มหนึ่งออกจากข้างหลัง นอกจากดาบที่ได้จากเรน่า เรย์จิยังมีดาบอีกเล่มที่ได้มาจากคนแคระ

เรย์จิใช้ดาบสองเล่มและคิดจะใช้กระบวนท่าดาบคู่

ความจริงแล้วเขายังไม่ได้ให้ชิโรเนะรู้เรื่องนี้หรอก เพราะนี้อาจจะทำให้เขาเอาชนะเพื่อนสมัยเด็กของชิโรเนะได้ก็ได้

เรย์จิฟันใส่โกเลมยักษ์

เขาผ่านร่างของโกเลมยักษ์ไปและร่างของโกเลมยักา์ก็มีรูขนาดใหญ่และรอยแตกมากมาย จากนั้นโกเลมก็แตกออก

ห้องเริ่มเปล่งแสงอีกครั้ง แต่ดูเหมือนโกเลมจะฟื้นตัวไม่ได้แล้ว

มันกลายเป็นชิ้นๆ จนประกอบเข้าด้วยกันใหม่ไม่ได้อีกแล้ว

[ สำเร็จจนได้นะคะ! ]

[ คุณเรย์จิ! ]

[ เรย์คุง! ]

ทั้งสามคนรีบวิ่งไปหาเรย์จิ และกอดแขนเรย์จิจากทั้งสามมุมพล่างชมว่าเขาสุดยอดแบบนี้ แบบโน้นบ้าง

ฉันเองก็คิดว่าเขาเก่งล่ะนะ ที่สามารถทำลายเจ้าโกเลมยักษ์นั้นได้

นอกจากนี้ดูเหมือนเรย์จิจะยังไม่ได้เอาจริง

ฉันเองก็วิ่งไปหาเรย์จิด้วย แต่ฉันไม่ได้ไปกอดหรอกนะ ก็แค่ชมเท่านั้นเอง

[ สำเร็จแล้วนะเรย์จิคุง! ]

[ แน่นอน แล้วตกหลุมรักฉันอีกครั้งแล้วรึไงนะ? ]

เรย์จิมองมาที่ฉันขณะที่หัวเราะ

ฉันคิดว่าคงดีกว่าหากปล่อยให้เขาพูดตามใจไป

ก็เพราะเขาคือเรย์จิ มันก็ช่วยไม่ได้

[ โถ่ พูดอะไรไร้สาระอยู่ได้ รีบไปกันต่อได้แล้ว ]

ฉันพูดขณะที่มองไปยังประตูที่โกเลมยักษ์ปกป้องอยู่

จากตรงนี้ไปไม่รู้ว่ามีอะไรคอยพวกเราอยู่

พวกเราเปิดประตูเข้าไป

และเจอกับบันไดทางลง

เมื่อลงไปก็เจอกับห้องขนาดใหญ่อีกห้อง

แต่มันก็เล็กกว่าห้องเมื่อกี้อยู่ มันเป็นห้องที่ค่อนข้างกว้างและมีวงเวทอยู่ตรงกลาง

[ บางทีนี่คงเป็นเวทเวทสำหรับเคลื่อนย้าย? แต่มันดูเหมือนมันจะพาไปที่ไหนสักแห่ง ]

ฉันมองที่วงเวทแล้วพูด

[ คุณจิยูกิ มีรองเท้าตกอยู่ด้วยค่ะ ]

ดูเหมือนนาโอะจะพบบางอย่างเข้า

ทุกคนมองไปทางนาโอะ

[ ดูเหมือนรองเท้าเด็กเลยนะ ]

ริโนะพูด

[ ก็แปลว่าเป็นของเด็กที่ถูกลักพาตัวไปสินะคะ? ]

[ ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกันซาโฮโกะ บางทีคงถูกเคลื่อนย้ายไปที่ไหนสักแห่ง ]

ความเห็นของเรย์จิมีความเป็นไปได้สูง แต่จะพาคนที่ลักพาตัวไปไว้ที่ไหนกันล่ะ?

[ คิดจะทำอะไรนะเรย์จิคุง เราไม่รู้นะว่ามันเชื่อมต่อกับที่ไหน… ]

[ มันก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องไปไม่ใช่เหรอไง? ตราบใดที่พวกมันพาตัวมนุษย์ธรรมดาไป ก็ไม่น่าจะใช่สถานที่ที่มนุษย์อยู่ไม่ได้หรอก ]

[ เรื่องนั้นก็ใช่อยู่ แต่ว่า… ]

พวกมันต้องการมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นเป็นไปได้ว่าไม่น่าจะกับดักอันตรายที่ทำให้มนุษย์นั้นตายในทันที ยกตัวอย่างเช่น จุดหมายในการเคลื่อนย้ายคงไม่ใช่ในบ่อลาวาหรอก

หากตรวจสอบวงเวทเคลื่อนย้ายนี้ก็คงจะเปลี่ยนแปลงเส้นทางได้อยู่ แต่มันจะทำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้

และยิ่งไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเจอกับอะไร

ปล่อยให้เรย์จิไปคนเดียวจะดีกว่ารึเปล่านะ เพราะยังไงเรย์จิก็แข็งแกร่งอยู่แล้ว คงจะไม่เป็นไร

แต่ข้างหน้าอาจจะมีกับดักเวทอยู่ จึงจำเป็นที่ฉันต้องไปด้วย

และเรายังต้องการพลังในการตรวจสอบของนาโอะ

เวทรักษาของซาโฮโกะก็ขาดไปไม่ได้

ริโนะเองก็เป็นผู้ใช้สปิริตและยังไม่ชอบที่ถูกทิ้งไว้แน่

ดังนั้นคงต้องไปกันหมดทุกคนอยู่ดี

พวกเรามองหน้ากันและพยักหน้า

จากนั้นทุกคนก็ไปอยู่กลางวงเวท

วงเวทเปล่งแสงออกมา

ทิวทัศน์เริ่มบิดเบี้ยวและเราก็ถูกพาไปยังห้องๆ หนึ่ง

มันเป็นห้องปิดที่และมีแสงเล็ดลอดออกมาจากข้างนอก

[ แสง? ที่นี่มันที่ไหนกันนะ? ]

พวกเราออกไปข้างนอกพร้อมกับคำพูดของซาโฮโกะ

[ กว้างจนเหลือเชื่อไปเลย… ไม่อยากเขื่อเลยว่าที่นี่จะเป็นข้างในเขาวงกต ]

อย่างที่คุณานาโอะบอก ที่นี่กว้างใหญ่มาก เพดานที่สูงยิ่งกว่าตึก 10 ชั้นซะอีก

และบนเพดานมีคริสตัลขนาดใหญ่ยื่นออกมา แสงจากคริสตัลนั้นสะท้อนไปทั่ว

แสงส่องไปจนทั่วพื้นที่กว้างขนาดนี้ได้จนหมด จนเราไม่คิดว่าที่นี่เป็นข้างในเขาวงกต

[ มีทั้งป่าไม้ ทะเลทราบ เหมือนกับข้างนอกเลยนะ ]

ริโนะส่งเสียงประหลาดใจ

ฉันเองก็ประหลาดใจเหมือนกัน เพราะไม่นึกว่าข้างในเขาวงกตจะมีสถานที่แบบนี้อยู่

[ ที่ตรงทุ่งหญ้าตรงนั้น ดูเหมือนจะมีคนอาศัยอยู่นะ ]

เรย์จิพูดขณะที่มองไปยังสถานที่ไกลๆ 

มันเป็นอาคารที่เหมือนวิหาร วิหารนั้นตั้งอยู่บนเนินเขาทำให้มองเห็นได้จากตรงนี้

และที่นี่ยังมีทุ่งนา ป่า และทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่ด้วย

[ ที่อยู่ไกลๆ ตรงนั้นดูเหมือนจะเป็นเมืองนะคะ… ]

นาโอะพูดขณะที่มองไปข้างหน้า

เรามองเห็นอาคารบ้านเรือนหลายแห่งจากตรงนี้

[ ไม่มีทางเลือกคงต้องไปกันสินะ ไม่แน่ว่าบางทีคนที่ถูกลักพาตัวไปอาจจะอยู่ที่นั้นก็ได้ ไปกันเถอะทุกคน ]

พวกเราพยักหน้าให้คำพูดของเรย์จิ

ไม่รู้ว่าอะไรกำลังรอคอยพวกเราอยู่ข้างหน้า แต่ก็ต้องก้าวเดินต่อไป

เราเริ่มเดินไปยังเมืองแห่งนั้น

 

◆ อโทราคัว

ในคฤหาสน์ของข้าที่สาธารณรัฐอาเรียดิน่า เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรพิซิเพียร์-ยูเลียกำลังนั่งมองนอกหน้าต่างไปยังที่อันแสนไกล

[ ฟุฟุ ท่านเรย์จิน่ะสุดยอดไปเลยล่ะค่ะ ตอนนั้นที่ฉันกำลัง…. ท่านเรย์จิก็…. ไม่คิดว่างั้นเหรอคะอโทราน่า? ]

ยูเลียพึมพำขณะที่มองไปยังทิศที่เขาวงกตตั้งอยู่

[ ท่านยูเลีย… ซัลคิซิสต้องการพลังของผู้กล้านะคะ ]

[ แบบนั้นก็เสียของสิค่ะ ให้เขาเป็นของฉันดีกว่า ]

ข้ารู้สึกปวดหัวเมื่อได้ยินคำพูดของยูเลีย

เธอเป็นลูกสาวของราวิลรุสกับราชินีของอาณาจักรพิซิเพียร์ซึ่งเป็นมนุษย์

ถึงพ่อของเธอคือเทพ-เลวิลรุส แต่เด็กคนนี้ก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ไม่มีพลังมากมายอะไร

แต่ถึงเธอจะเป็นมนุษย์ แต่หากแสดงท่าทีหยาบคายก็จะอันตรายเพราะยังไงพ่อของเธอก็คือเลวิลรุส

ข้าจึงก้มหัวให้เธอ

เจ้าหญิงสวยมากและคล้ายกับแม่ นี่คือความโชคดีที่เธอไม่ได้เศษเสี้ยวของพ่อมาเลยแม้แต่นิดเดียว ทำให้หน้าตาไม่แย่แบบเลวิลรุส

[ งั้นสัญญาล่ะคะ… ]

[ ช่างมันสิ ขอแค่ฉันขอกับท่านพ่อ สัญญาอะไรนั้นของซัลคิซิสก็ไม่เห็นจะต้องแคร์ ]

ยูเลียหัวเราะ รอยยิ้มของเธอดูคล้ายกับเลวิลรุสที่ตรงไหนสักแห่ง

พ่อของเธอ-เลวิลรุสเป็นชายที่ทรยศได้ทุกคน ดูถูกผู้หญิง และยังมีความปรารถนาที่คลุ้มคลั่ง ลูกสาวของเธอถึงได้หยิ่งและมีความโลภเหมือนพ่อของเธอเอง

แน่นอน เรื่องนี้ฉันก็เข้าใจดี

เลวิลรุสเป็นคนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้และฉีกสัญญาที่ให้ไว้ได้อย่างง่ายๆ หากเป็นคำขอของลูกสาวของเลวิลรุสย่อมมีน้ำหนักกว่าซัลคิซิสและซัลคิซิสก็จะดูดพลังชีวิตจากผู้กล้าไม่ได้

ยูเลียยิ้มอย่างไร้เดียงสา ช่างโลภมากทั้งพ่อแม่เลยนะ

[ ที่สำคัญเป้าหมายของคุณคือเรน่าไม่ใชหรอ คิดดูสิหากคนรักของเธอถูกฉันแย่งไป เรน่าจะต้องรู้สึกเศร้าใจขนาดไหน ]

ยูเลียพูดขณะที่แก้มย้อมด้วยสีแดง

ในตอนนั้นเธอกับผู้กล้าแห่งแสงก็ได้มีอะไรกันแล้วและเธอก็ชอบผู้กล้าแห่งแสงมาก

ยูเลียพูดถูก

ข้าต้องการเพียงแค่จัดการเรน่า ยัยเทพธิดาเวรนั้น อาจจะไม่ดีต่อซัลคิซิสแต่ข้าไม่สามารถเปลี่ยนความรู้สึกนี้ได้

เธอคงจะยอมทำตามทุกอย่างตามที่ข้าสั่ง

หากข้าไปหาเรน่าและบอกว่าข้าจับผู้ชายคนสำคัญของเจ้าไว้แล้ว คงจะดีไม่น้อย

อย่างเจ้าน่ะมันเหมาะกับเลวิลรุสที่หน้าอัปลักษณ์นั้นแล้ว

พอข้าคิดอย่างนั้นก็เผลอหัวเราออกมานิดหน่อย

เมื่อข้าคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเรน่า จิตใจข้าก็ตื่นเต้นไปหมด

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 51"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์