อัศวินดำ - ตอนที่ 52

◆

แรกเริ่มนั้นโลกใบนี้โกลาหลมาก

ในโลกแห่งความโกลาหลก็ได้มีเทพเสด็จมาจากโลกอื่น

เทพผู้บุกเบิกนั้นได้สร้างสวรรค์ พื้นดิน ทะเลเพื่อให้โลกนี้รอดพ้นจากความโกลาหล จากนั้นจึงสร้างภูติ(สปิริต)แห่งพื้นดินใต้พิภพ  สร้างมังกรและไททันซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ดั่งเดิม

สุดท้ายจึงมอบให้แก่เทพซึ่งเป็น 2 เสาหลักเป็นผู้ดูแล

นั่นคือเทพธิดาแห่งความมืดนากอลและเทพโอกิสผู้มีปีกแห่งแสงอันงดงาม

เมื่อเทพผู้บุกเบิกได้มอบโลกนี้ให้แก่สองเสาหลักแล้ว เทพผู้บุกเบิกจึงได้เดินทางไปยังโลกอื่น

แต่เพราะในฐานะเทพ นากอลกลับแข็งแกร่งกว่า นากอลจึงได้เป็นผู้ปกครองโลกและโอกิสเป็นรองผู้ปกครองโลกเท่านั้น

เทพทั้งสองปกครองโลกนี้ร่วมกัน

นากอลและโอกิสกลายเป็นสามีภรรยากัน นากอลได้ให้กำเนิดเทพและสร้างสิ่งมีชีวิตมากมาย

เป็นผลทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตมากมาย

แต่ทว่าโอกิสกลับไม่พอใจ

นากอลแข็งแกร่งกว่าโอกิส ทำให้โอกิสต้องทำตามคำสั่งของนากอลอย่างต่อต้านไม่ได้

โนกอลเป็นคนที่อารมณ์ร้ายและฆ่าคนที่ไม่ชอบแบบไม่สนใจใยดีแม้แต่ลูกตัวเอง

ทำให้โอกิสกลัวนากอลมาก

นอกจากนี้เหล่าเด็กที่เกิดมานั้น

ส่วนใหญ่แล้วอัปลักษณ์ทั้งนั้น จึงไม่น่าสบอารมณ์เลย

โอกิสเชื่อว่าเพราะหน้าตาของนากอลอัปลักษณ์ทำให้เป็นเช่นนั้น จึงได้อัญเชิญเทพธิดามาจากโลกอื่น

ผู้ที่ตอบสนองการอัญเชิญจากโลกอื่นของโอกิสก็คือเทพธิดาผู้งดงามมิน่า

โอกิสซ่อนตัวเธอไว้ให้พ้นจากนากอลและคอยมอบความรักให้มิน่า

จนมีเทพที่เกิดมาทีละคนๆ จากมิน่าและโอกิส

เทพผู้เปล่งประกายโอดิน เทพผู้ทรงพลังไทรเด็น เทพผู้ชำนาญการเฮย์บอส เทพธิดาผู้ฉลาดปราดเปรียวเมลฟิน่า เทพผู้สูงศักดิ์เฟย์เรีย เทพธิดาผู้งดงามอิชเทีย และอีกมากมาย

โอกิสรู้สึกยินดีมากที่มีเทพผู้งดงามเกิดขึ้นมามากมาย

และเพื่อปกป้องเหล่าเด็กๆ ของมิน่า โอกิสได้ใช้ส่วนหนึ่งของร่างกายตัวเองและมิน่าเพื่อสร้างเผ่านางฟ้าขึ้น

แต่ว่านากอลเองก็เริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรมน่าสงสัยของโอกิส

นากอลที่รู้ถึงการมีอยู่ของมิน่า โกรธมากที่โอกิสนอกใจและได้ผันตัวกลายเป็นเทพแห่งการทำลายล้าง

นากอลได้เข้าโจมตีและฆ่ามิน่า

โอกิสโศกเศร้ามากที่มิน่าถูกฆ่าตาย

แต่มันยังไม่จบเพียงแค่นั้น นากอลยังสร้างเผ่ายักษ์และสั่งให้ทำลายล้างและฆ่าลูกของมิน่าให้หมด

โอกิสเจรจากับนากอลเพื่อปกป้องลูกๆ ของมิน่าไว้

แต่นากอลก็ไม่ยอมถอย

ในที่นี่ลูกของนากอลแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคือฝ่ายที่เชื่อฟังของคำสั่งของนากอลผู้เป็นแม่และอีกฝ่ายคือเป็นกลาง

บรรดาเหล่าลูกๆ ของนากอลที่ติดตามแม่ไป ถูกเรียกว่า [ คนของนากอล ]

คนของนากอลมีทั้งราชินีแห่งงูเดียดอนน่า เทพแห่งความตายซัลคิซิส และเฟลิออนที่แห่งสัตว์อสูรและอีกมากมาย

เหล่าลูกๆ ของมิน่าถูกฆ่าตายจากคนของนากอล

โอกิสพยายามขอความช่วยเหลือจากเทพซึ่งเป็นกลางซึ่งไม่เชื่อฟังคำสั่งแม่ของพวกเขา-นากอล เพื่อขอให้พวกเขาช่วยปกป้องลูกๆ ของมิน่า

เทพผู้เป็นกลางที่ให้ความร่วมมือ

อันได้แก่คาซ่าขนนกนับพันและสามารทำนายอนาคตได้นับพัน โวลกาซเทพผู้เป็นยักษ์ตาเดียวและมีความสามารถด้านการช่างตีเหล็กอันยอดเยี่ยม ซาจิทาเรียสผู้มีสี่ขาเทพผู้มีความสามารถด้านการต่อสู้เป็นเลิศ

คาซ่าได้สอนวิธีใช้เวทมนตร์ให้ลูกๆ ของมิน่า ซาจิทาเรียสได้สอนการต่อสู้ให้ โวลกาซได้สอนการตีเหล็กให้กับเฮย์บอส

เหล่าลูกๆ ของมิน่าได้ต่อสู้กับคนของนากอลโดยการนำของโอดิน

แต่ว่าคนของนากอลยังเหนือกว่าอยู่ มีเพียงโอดินและไทรเด็นเท่านั้นที่พอจะต่อสู้ได้สูสี

เหล่าลูกๆ ของมิน่าถูกฆ่าตายไปทีละคน โอกิสจึงคิดจะเป็นโล่ให้และเข้าต่อสู้กับนากอล

ชายผู้นากอลไม่กล้าทำอะไรก็คือผู้เป็นพ่อ-โอกิส เขาทำเช่นนี้ก็เพื่อปกป้องเหล่าลูกๆ ของมิน่าไว้

นากอลหลงลืมตัวเองเพราะความโกรธที่โอกิสพยายามปกป้องลูกของมิน่า จึงได้ฆ่าโอกิส

เมื่อฟื้นคืนสติได้ก็ได้คร่ำครวญเพราะตนได้ฆ่าสามีไปแล้ว

เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงโอกิส นากอลได้ดูดร่างของโอกิสเข้าไปในร่างกายของเธอและให้กำเนิดลูกคนสุดท้ายที่มีพลังจะเอาชนะตนได้

ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ลูกชายที่เธอรักที่สุด ราชาปีศาจโมเดส

นากอลสั่งให้โมเดสและคนของนากอลทำลายโลกนี้และสร้างมันขึ้นใหม่

เพื่อทำลายล้างโลกตามคำสั่งของมิน่า เหล่าลูกๆ ของนากอลจึงได้เคลื่อนทัพตามคำสั่งของโมเดสผู้เป็นนายพล

แต่ลูกของมิน่าไม่ได้อยู่เฉยๆ รอวันตาย

เทพธิดาผู้ฉลาดปราดเปรียวเมลฟิน่านั้น…

เธอได้ใช้มารยาหญิงและความงามล่อลวงให้โมเดสไปอยู่ฝ่ายเดียวกับพวกตน

โมเดสโดนมารยาหญิงหลอก

นากอลที่รู้เรื่องนี้จึงโกรธมากและฆ่าเมลฟิน่าซะ

แต่ก่อนที่เมลฟิน่าจะตายได้มีฝาแฝดคู่หนึ่งเกิดขึ้นมา ฝาแฝดคู่นั้นก็คือเทพผู้หล่อเหลาอัลพอสและเทพธิดาผู้งดงามเรน่า

เพราะเมลฟิน่าถูกฆ่า โมเดสจึงโกรธนากอลผู้เป็นแม่และหันเข้าต่อสู้กับแม่ของตัวเอง

โมเดสร่วมมือกับโอดินเพื่อต่อสู้กับนากอลผู้เป็นแม่และคนของนากอล

นากอลที่ถูกทรยศจากลูกชายที่มีพลังเพียงพอจะเอาชนะตนได้ ได้ถึงจุดจนมุม

เทพแห่งความตายซัลซิซิสถูกฆ่า เทพแห่งสัตว์ป่าเฟลิออนถูกผนึก และเทพธิดาแห่งงูเดียดอนน่า กลัวโมเดสจึงได้หนีจากสนามรบ

เหล่าคนของนากอลคนอื่นๆ ถูกฆ่า หนีไป ไม่ก็ยอมจำนนต่อโมเดส

ในที่สุดนากอลก็ถูกปราบลงได้ด้วยฝีมือของโอดินและโมเดส ซึ่งแผ่นดินที่นากอลเสียชีวิตลงจึงถูกเรียกว่า ‘ดินแดนนากอล’

โอดินผู้กำชัยชนะได้สร้างราชวังบนเขาเอลีอัส ภูเขาที่สูงที่สุดในโลกและถูกเรียกว่าเทพผู้ปกครองโลก ซึ่งก็คือ [ เทพแห่งเอลีอัส ]

โอดินได้ให้เฟย์เรียเป็นภรรยาและยกตนขึ้นเป็นราชา เขายืนอยู่บนจุดสูงสุดของเหล่าทวยเทพแห่งเอลีอัส

ด้วยเหตุนี้โลกจึงเริ่มสงบสุขขึ้น

แต่ทว่าก็เกิดปัญหาขึ้น

ความเห็นแตกแยกกันเพราะความสัมพันธ์ระหว่างเทพผู้เป็นกลางซึ่งเป็นลูกของนากอล

โอดินยืนยันว่าควรต้อนรับโมเดสและโวลกาซที่เอลีอัส

แต่เฟย์เรีย อิชเทีย และเรน่าต่อต้าน เทพธิดาคนอื่นๆ ซึ่งเป็นลูกของมิน่าเองก็ต่อต้านเช่นกัน

โดยเฉพาะอิชเทียและเรน่าต่อต้านอย่างหนักมาก

อิชเทียนั้นกำลังถูกเทพแห่งทะเลผู้น่าเกลียดดารากอนตามจีบ เรน่าเองก็มีผู้คลั่งไคล้อย่างเลวิลรุสตามรังควาน

เป็นผลทำให้เทพแห่งเอลีอัสอยากให้มีแต่สายเลือดของมิน่าเท่านั้นที่เอลีอัสและไม่ยอมรับเทพผู้เป็นกลาง

ผลลัพธ์คือเกิดรอยแตกระหว่างเทพขึ้น เทพที่เป็นลูกของมิน่าและเทพที่เป็นลูกของนากอล

แต่โลกยังคงสงบสุขอยู่

และในวันหนึ่ง เฟย์เรียก็เกิดความรู้สึกอยากสร้างเผ่าพันธุ์ให้มากมายเหมือนอย่างที่นากอลเคยทำ

แต่ว่าในหมู่ลูกๆ ของมิน่าไม่มีใครรู้วิธีสร้างเผ่าพันธุ์ขึ้นมาเลย

เฟย์เรียจึงได้ไปปรึกษากับเฮย์บอส

เฮย์บอสได้ตอบกลับมาว่าเขาเองก็ไม่รู้วิธีสร้างเผ่าพันธุ์เช่นกัน

แต่เฟย์เรียยังคงไม่ยอมแพ้และบอกให้เฮย์บอสสร้างอุปกรณ์เวทที่สามารถสร้างเผ่าพันธุ์ใหม่ๆ ได้ขึ้นมา

เฮย์บอสที่โดนขอให้ทำเรื่องน่าหนักใจ จึงได้ไปขอความร่วมมือจากโมเดส

โมเดสนั้นมีความสามารถในการสร้างชีวิตยิ่งกว่าแม่ของตนซะอีก จึงให้ความร่วมมือกับเฮย์บอส

แต่เฟย์เรียนั้นเกลียดโมเดสมาก เรื่องมาขอความร่วมมือจากโมเดสคงต้องปิดไว้เป็นความลับ

เทพทั้งสองร่วมกันสร้างเตาพลังชีวิตซึ่งสามารถสร้างสิ่งมีชีวิตได้กระทั่งเทพเหมือนลูกของมิน่าก็ยังสร้างได้

แต่ตอนนี้มันยังไร้ประโยชน์ เพราะจำเป็นต้องใส่วัตถุดิบลงไป

วัตถุดิบในส่วนของร่างกายเทพและวัตถุดิบต่างๆ มากมายและพลังเวทที่มหาศาลยิ่งเป็นสิ่งจำเป็น

เฮย์บอสตัดสินใจใช้ส่วนนึงของร่างมิน่าผู้เป็นแม่เป็นวัตถุดิบ

วัตถุดิบมากมายถูกจัดเตรียมไว้โดยโมเดส

โมเดสได้ลองใช้เตาชีวิตสร้างเผ่าต่างๆ ขึ้น

จากนั้นก็มีปีศาจที่งดงามปรากฏออกมา

เฮย์บอสมองปีศาจตนนั้นด้วยความพอใจและมอบเตาชีวิตให้กับเฟย์เรีย

เฟย์เรียจึงได้ใช้ส่วนผสมจากโอดินและเหล่าลูกๆ ของมิน่าคนอื่นๆ เพื่อสร้างเผ่าพันธุ์ต่างๆ ขึ้น

เผ่าเอลฟ์ที่สามารถสื่อสารกับภูติ(สปิริต)ได้

เผ่าคนแคระที่มีฝีมือช่างอันยอดเยี่ยม

เผ่ามนุษย์ซึ่งเป็นวงศ์ต้นตระกูลของทุกเผ่า

เทพแห่งเอลีอัสดีใจมากที่มนุษย์ได้เกิดมา

จากนั้นจึงได้สร้างเผ่าพันธุ์อีกมากมายและส่งไปทั่วโลก

มนุษย์เริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ

แต่ปัญหาก็คือมีการต่อสู้กันเพราะจำนวนของเผ่าพันธุ์ที่เพิ่มขึ้นกับเผ่าพันธุ์ที่อาศัยอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว

เฟยเรียโกรธมากเมื่อเห็นจึงได้ส่งเทพแห่งสงคราม-โทรุส ผู้เกิดจากเฟย์เรียกับโอดินไปจัดการชนเผ่าพวกนั้น

แต่ทว่าเผ่าพวกนั้นก็คือญาติๆ ของเทพผู้เป็นกลางนั้นเอง

แต่เฟยเรียอ้างเหตุผลที่ใช้ต่อสู้กับเทพที่เป็นกลางและเรียกพวกเขาว่าเป็นภูติ(สปิริต)ชั่วร้าย

ยิ่งซ้ำกันเพราะมีเทพผู้เห็นด้วยมากมาย นั้นคือเหล่าลูกของมิน่ารวมถึงเรน่ากับโทรุสด้วย

ฝ่ายค้านนั้นได้แก่สายเลือดของนากอลรวมถึงโมเดสและโวลกาซ

เฟย์เรียคิดจะใช้เรน่าเพื่อกันไม่ให้โมเดสมายุ่ง ตอนนี้จึงเหลือเพียงโวลกาซที่เป็นศูนย์กลางของฝ่ายศัตรู

ขั้นแรกคือการแยกโมเดสเนรเทศ เพราะยังไงโมเดสก็ไม่กล้าทำอะไรเรน่าที่เป็นลูกสาวของเมลฟิน่าที่เขารักแน่ เธอขับไล่เขาไปยังดินแดนนากอลที่อยู่ทางเหนือซึ่งเป็นดินแดนของเหล่าปีศาจ

คราวนี้ก็ถึงคราวของโวลกาซ เฟย์เรียเองก็คิดจะขับไล่โวลกาซไปเช่นเดียวกับโมเดส

แต่เป็นแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขับไล่โวลกาซผู้รักความยุติธรรม

เพียงแต่ในการต่อสู้นั้นโวลกาซไม่มีประสบการณ์และต่อสู้โดยใช้สมองเท่านั้น เทพโทรุสจึงได้ฆ่าโวลกาซ

เหล่าเทพของเอลีอัสตกใจมาก เดิมทีพวกเขาคิดว่าตัวตนของโวลกาซเองก็กวนใจอยู่ แต่ไม่ถึงขนาดคิดจะฆ่าเขา

เหล่าผู้มีสายเลือดของนากอลต่างกระวนกระวายใจเพราะเทพของเอลีอัส

เฮย์บอสผู้นับถือโวลกาซเป็นดั่งอาจารย์จึงได้ถอนตัวไป

จากนั้นเทพบางส่วนที่มีสายเลือดของมิน่าที่มีหนี้บุญคุณต่อโวลกาซก็ได้ออกจากดินแดนแห่งเอลีอัสไป รวมถึงไทรเด็นด้วย

ด้วยเหตุนี้ทำให้เอลีอัสอ่อนแอลง

โอดินรู้สึกเสียใจมาก โวลกาซเป็นดั่งผู้มีบุญคุณและเป็นสหายที่ร่วมต่อสู้กับนากอล ไมน่าจะถึงขนาดจะฆ่าแกงกันเลย

แต่ยังไงโอดินก็ทำใจลงโทษลูกของตนไม่ลง

เป็นผลทำให้กฏสั่นครอนและเอลีอัสอ่อนแอลง ห่างไกลนักที่จะต่อสู้กับภูติ(สปิริต)ชั่วร้ายได้ (เทพผู้เป็นกลาง)

ดังนั้นหากไม่ไปสู้กับสปิริตชั่วร้าย โลกนี้ก็คงยังสงบสุขต่อไป

 

 

◆  อัศวินดำคุโรกิ

ผมนั่งอ่านจนถึงตรงนี้และหยุดกระดานคริสตัลไว้ 

ความรู้มากมายถูกบันทึกไว้ในกระดานคริสตัล หากต้องการอ่านบันทึกก็เพียงใช้มือสัมผัส รูปและตัวอักษรก็จะปรากฏขึ้น เข้าใจได้ง่ายใช่มั้ยล่ะ

ผมนั่งอ่านได้แบบไม่มีปัญหาอะไรเพราะตัวละครไม่ได้เปลี่ยนไปมามากนัก ตอนนี้ผมกำลังเรียนรู้ของนากอลอยู่

[ แตกต่างจากบันทึกของมนุษย์เลยนะ…. ]

ผมพึมพำออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

ในบันทึกของมนุษย์นั้น บอกไว้ว่าโมเดสไม่ใช่เทพด้วยซ้ำ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือไม่ใช่คนในหมู่เทพของเอลีอัส จึงไม่มีการพูดถึงเรื่องการเนรเทศ

เมื่อเทพแห่งเอลีอัสสร้างมนุษย์ขึ้นและเพิ่มสิ่งมีชีวิตขึ้นมาในโลก ทำให้โมเดสอิจฉาเทพแห่งเอลีอัสที่สร้างเผ่าพันธุ์ต่างๆ ได้ เขาจึงคิดจะทำลายมนุษย์ด้วยการปล่อยเหล่าปีศาจอย่างออร์คหรือก็อบลินไปทั่วโลก

แต่มันตรงข้ามกัน มนุษย์ต่างหากที่ไปอาศัยอยู่ในที่ที่มีก็อบลินและออร์คอยู่

พูดตามตรงก็คือบันทึกของมนุษย์ถูกเขียนขึ้นเพื่อความสะดวกของเทพแห่งเอลีอัส จึงเป็นไปได้ว่าเนื้อหาในบันทึกคงจะไม่ถูกต้องหรอก… 

และเตาพลังชีวิตก็คงเป็นอุปกรณ์เวทที่ใช้สร้างคุนะขึ้นมา

ดูเหมือนว่าเขาจะปรับแต่งนิดหน่อยตอนที่ใช้กับคุนะ แต่ก็คงเป็นอุปกรณ์เวทที่คล้ายๆ กันก็ได้

หรือบางทีโมเดสอาจจะเอาเตาพลังชีวิตมาด้วยหลังจากถูกเนรเทศมายังนากอล

เมื่อคิดถึงหน้าตาของเทพแล้ว

ผมไม่รู้ว่าหน้าตาของโอกิสและนากอลเป็นยังไง เพราะไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในกระดานคริสตัล

แต่มิน่าดูเหมือนน่าจะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์

ด้วยเหตุนี้สายเลือดของเทพที่เกิดจากมิน่าจึงมีหน้าตาเหมือนมนุษย์

ในทางกลับกันสายเลือดของนากอลห่างไกลจากคำว่ามนุษย์นัก

แต่ก็ใช่ว่าเทพที่มาจากสายเลือดของมิน่าจะหล่อและสวยไปซะทุกคน

อย่างเฮย์บอสก็ไม่ใช่หนุ่มหล่ออะไร

และสายเลือดของนากอลก็ใช่ว่าจะน่าเกลียดไปซะทุกคน อย่างคาซ่าที่เหมือนรูปวาดและซาจิทาเรียสผู้งดงาม

แต่เพราะทั้งสองคนเป็นลูกของนากอลจึงแตกต่างจากมนุษย์

คาซ่าเป็นสาวสวยที่มีเส้นผมยาวและลำตัวมีปีกอยู่นับไม่ถ้วนตามร่างกายจนถึงส่วนล่างของเธอ ซาจิทาเรียสมีรูปร่างเหมือนกับเซนทอร์ที่อยู่ในเทพนิยาย

นอกจากนี้ยังมีเผ่าพันธุ์ที่สวยงามที่ถูกสร้างจากนากอลและโอกิสอยู่ด้วย เช่นเมอร์เมดและไซเรนซึ่งเป็นสาวสวยทั้งสองเผ่าพันธุ์

ทำไมโลกนี้ถึงได้มีแต่สิ่งมีชีวิตในตำนานของโลกเดิมของผมเยอะนักนะ? ช่างลึกลับจริงๆ

ผมอ่านบันทึกจากกระดานคริสตัลต่อ

หลังจากเอลีอัสอ่อนแอลงทำให้ต้องตกอยู่ในสภาวะวิกฤตหลายต่อหลายครั้ง

ความขัดแย้งกับยักษ์แห่งท้องฟ้า แม้อีกฝ่ายจะไม่ใช่เทพแต่ก็เป็นการต่อสู้ที่หนักหนาพอควร

และยังทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเลวิลรุสพยายามโจมตีเอลีอัสโดยเล็งเป้าไปที่โอดิน เหล่าเทพคนอื่นๆ ต่างวิ่งหนีโดยไม่ทำอะไร

แต่เอลีอัสก็รอดมาได้ เลวิลรุสได้กลับไปยังที่ราบมินอนแต่เขาได้จับเฮย์บอสและเหล่าคนแคระข้างกายเฮย์บอสไปด้วย

โอดินพยายามต่อสู้กับเลวิลรุสเพื่อช่วยเฮย์บอสออกมา แต่ก็ทำไม่สำเร็จ

เลวิลรุสได้ให้เฮย์บอสและเหล่าคนแคระที่เป็นผู้ช่วยของเฮย์บอสสร้างสถานที่ใต้ดินขนาดใหญ่ให้

เลวิลรุสร้องขอว่า ‘หากต้องการตัวเฮย์บอสคืนก็ให้เรน่ามาเป็นภรรยาของข้าซะ’ 

เหล่าเทพของเอลีอัสไม่สามารถยกตัวเรน่าให้ได้ จึงตัดสินใจจะปล่อยให้เฮย์บอสตาย

ในขณะนั้นเอง เหล่าคนแคระที่เคารพในตัวเฮย์บอสได้ไปที่นากอลและขอความช่วยเหลือจากราชาปีศาจโมเดส

เมื่อโมเดสได้ฟังคำขอของเหล่าคนแคระจึงได้ส่งปีศาจและเข้าไปในเขาวงกต

พลังของโมเดสนั้นมหาศาลมาก กระทั่งเลวิลรุสเองก็ยังหนีลงไปใต้ดินกับเหล่ามิโนทอร์เพราะเกรงกลัวในพลังนั้น จากนั้นเลวิลรุสได้เปลี่ยนที่นั้นให้กลายเป็นเขาวงกตเพื่อไม่ให้ใครเข้าไปได้

โมเดสช่วยเฮย์บอสออกมาได้สำเร็จ แต่เหล่าคนแคระที่เคยอยู่กับเขาไม่มีใครรอดมาเลยสักคน

หลังจากเหตุการณ์นี้โมเดสและเฮย์บอสก็กลายเป็นเพื่อนกัน

ผู้คนเริ่มมาอาศัยอยู่ในที่ราบมินอนเพราะเห็นว่ามิโนทอร์ได้หายไปแล้ว

เพราะที่ดินแถบนี้อุดมสมบูรณ์ผู้คนจึงได้แห่มาที่นี่กันจากทั่วโลก

มนุษย์จึงกลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในโลก

เมื่อผมอ่านถึงตรงนี้ผมก็หยุดลง

ผมมองไปที่นาฬิกาที่ทำจากคริสตัล มันถึงเวลาแล้ว ผมคงจะต้องรีบกลับไปที่นากอลแล้ว

ผมนำกระดานคริสตัลไปให้เด็กผู้หญิงที่กำลังอ่านหนังสืออยู่

หนังสือที่เธออ่านอยู่เป็นเพียงหนังสือแบบธรรมดาไม่ใช่กระดานคริสตัลเหมือนผม

มันเป็นหนังสือธรรมดาที่ไม่ต่างจากโลกเดิมของผม

ดูเหมือนมนุษย์บางประเทศจะใช้กระดานไม้เขียนตัวอักษรกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ใช้กระดาษ

ดูเหมือนกระดาษจะหาได้ง่ายเพราะมีอุปกรณ์ที่สร้างกระดาษได้ซึ่งคนแคระทำขึ้น

ดังนั้นกระดาษจึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับโลกใบนี้

[ ขอบคุณมากนะคุณโทโทน่า ]

เมื่อผมเรียกชื่อ เธอก็หันมามองผม เธอเป็นเด็กสาวที่มีใบหน้างดงามและมีผมสีดำยาวถึงหลัง

ถึงจะค่อนข้างธรรมดาเมื่อเทียบกับเรน่าหรือคุนะ แต่เธอก็ถือเป็นสาวสวยเหมือนกัน

ชื่อของเธอคือโทโทน่าเป็นเทพธิดาแห่งความรู้และหนังสือ และเป็นผู้ที่คอยดูแลหอสมุดสวรรค์ของเอลีอัส

เธอเป็นลูกสาวของราชาเทพ-โอดินและเทพธิดาเฟย์เรีย กล่าวก็คือน้องสาวของโทรุสผู้คอยปกป้องเอลีอัส

และในกระดานมรกตเมื่อกี้ที่ผมอ่านอยู่ก็มีความรู้มากมายอยู่และรวมถึงตัวตนของเธอด้วย

แต่ผมไม่ค่อยจำนักหรอก นอกจากนี้หากไม่ได้เห็นจริงๆ ความรู้พวกนั้นก็อาจจะผิดพลาดก็ได้ ผมบอกตัวเองเช่นนั้น

เช่นเทพแห่งความตายซัลคิซิสที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งผิดกับที่กระดานมรกตบอกไว้

[ เป็นยังไงบ้างคะคุณอัศวินดำ? ]

เธอรับกระดานมรกตคืนจากผมโดยสีหน้าไร้อารมณ์

โทโทน่ามักจะไม่แสดงอารมณ์ออกมา

ตอนแรกผมนึกว่าเธอเกลียดผมซะอีก แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่

[ อืม ผมเข้าใจเรื่องต่างๆ แล้วล่ะ ]

ผมก้มหัวให้โทโทน่า

นี่เป็นวันถัดมาหลังจากผมไปรับเกราะจากเฮย์บอส

เมื่อผมบอกว่าอยากหาที่ที่มีหนังสือเยอะๆ ลูคัสก็เลยเสนอว่าที่หอสมุดสวรรค์ของเอลีอัสมีหนังสืออยู่มากมาย

แต่การที่จะเข้าไปในหอสมุดได้จะต้องมีจดหมายแนะนำตัว

ซึ่งดูเหมือนโทโทน่าที่เป็นคนดูแลหอสมุดจะเป็นลูกศิษย์ของลูคัส ในตอนที่โมเดสยังอยู่ที่เอลีอัส แต่เมื่อถูกเนรเทศทั้งสองจึงออกมาจากเอลีอัสด้วยกัน

แม่ของเธอเฟย์เรียแสดงความเป็นศัตรูชัดเจนต่อโมเดส

แต่โทโทน่ากลับอนุญาตให้ผมอ่านหนังสือในหอสมุดได้ตามใจชอบ ทันทีที่ผมเอาจดหมายแนะนำจากลูคัสให้ดู

นอกจากนี้หอสมุดสวรรค์ยังอยู่ใกล้กับบ้านของเฮย์บอส จึงไม่มีใครเจอผมได้ง่ายๆ

หนังสือของสวรรค์นี้มันน่าสนใจมากเลยนะ เพราะไม่ได้มีแต่หนังสือที่ทำจากกระดาษเท่านั้น

กระดานคริสตัลเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ดูเหมือนมันจะบันทึกเนื้อหาของหนังสือเอาไว้กว่าหมื่นเล่มในกระดานคริสตัล

ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากขอยืมไปอ่าน แต่เพราะกระดานคริสตัลเป็นของที่มีค่ามากในเอลีอัสจึงเป็นไปไม่ได้

ดังนั้นหากผมอยากอ่านอีกครั้ง คงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องมาที่นี่เท่านั้น

[ จะว่าไปแล้วคุณอัศวินดำคะ แล้วเด็กสาวผมเงินที่มาด้วยกันก่อนหน้านี้ล่ะคะ? ]

ผมเคยมาที่นี่กับคุนะและโทโทน่าก็ดูเหมือนจะจำเธอได้

[ คุนะเหนื่อยนิดหน่อยนะ…. ]

ตอนนี้คุนะหลับไปเพื่อรักษาร่างกาย สาเหตุที่คุนะเป็นแบบนี้ก็มาจากผมด้วย

ผลมันมาจากยาที่คุนะใส่ในชาของผมทำให้กระตุ้นผมอย่างรุนแรงและเข้าทำร้ายผู้หญิงรอบข้างรวมถึงคุนะ

เมื่อผมฟื้นขึ้นมาก็เห็นคุนะที่ชักกระตุก ตอนนี้คุนะเลยกำลังนอนหลับเพื่อพักฟื้นร่างกายอยู่

ร่างกายของผมก็มีปัญหาเหมือนกัน เพราะผลของยานั้นทำให้ผมถูกกระตุ้นและแข็งอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้จะพอทุเลาลงแล้ว แต่หากขยับนิดหน่อยก็กลับมาตั้งอีกแล้วนะสิ

กลิ่นของเทพธิดาโทโน่าเองก็หอมเหมือนกัน

[ ตัวฉันมีอะไรเหรอคะ? ]

โทโทน่าถาม

[ ไม่… ไม่มีอะไรหรอกครับ… ]

ผมตอบขณะที่มองอยู่ไกลๆ

เรื่องนั้นใครมันจะไปบอกได้ล่ะ

แต่โทโทน่ากลับไม่ถือโทษคุนะเลย

ทั้งที่ก่อนหน้านี้คุนะทำตัวหยาบคายกับโทโทน่า

ดูเหมือนว่าคุนะจะพยายามทำให้โทโทน่าไปห่างๆ ผมเหมือนกับที่เคยทำกับเรจิน่า

[ ใช่แล้วค่ะ…. มีเรื่องอยากจะคุยกับคุณอีกหลายเรื่องเลยค่ะ ]

โทโทน่าเหลือบมองมาทางผม

[ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ? ]

[ ก่อนที่คุณจะมาที่นี่เรน่ามาที่นี่นะคะ ]

[ เรน่า? ]

โทโทน่าพยักหน้า

[ เรน่าเตือนฉันว่าอย่าไปเข้าใกล้คุณนะคะ ดังนั้นบางทีที่นากอลอาจจะมีสปายอยู่ใกล้ตัวคุณก็ได้ค่ะ ]

ผมตกใจกับเรื่องที่เธอเล่าให้ฟัง ขณะที่ขบคิด

มีสปายคอยสอดแนมผมอยู่ที่นากอลเหรอ แต่ผมไม่รู้ว่าเป็นใครนี่สิ

เดิมทีโมเดสก็ไม่ค่อยรักษาความลับอยู่แล้ว เป็นไปได้ว่าข้อมูลอาจจะรั่วไหลก็ได้

เธอถึงได้รู้ว่าผมมาที่นี่

[ ขอโทษด้วยนะ คุณโทโทน่า ]

ผมก้มหัวลง

[ มีอะไรเหรอคะคุณอัศวินดำ? จู่ๆ ทำไมถึงขอโทษล่ะ? ]

[ เพราะการที่ผมมาที่นี่คงเป็นการรบกวนทำให้คุณโทโทน่ามีปัญหาสินะครับ? ดังนั้นคงดีกว่าหาผมไม่มีที่นี่อีก ]

ผมไม่อยากรบกวนโทโทน่า ซึ่งเป็นเพื่อนที่มีไม่มากนักในเลอีอัสของโมเดส

โมเดสกำลังต่อสู้กับเทพของเอลีอัสอยู่ มันคงจะไม่ดีเท่าไหร่นักหากผมที่เป็นอัศวินมาที่นี่

และสถานะของเธอก็จะเสียหายได้ จึงเลี่ยงไว้จะดีที่สุด

[ ไม่ใช่สักนิดค่ะ! ไม่ได้รบกวนเลยค่ะ! ]

จู่ๆ โทโทน่าก็ตะโกนเสียงดังออกมา

[ อา… ครับ? ]

ผมรู้สึกตกใจที่จู่ๆ เธอก็ตะโกนออกมา เพราะปกติโทโทน่าเป็นคนเงียบๆ

[ ฉันไม่สนใจเรน่าหรอกค่ะแล้วก็ไม่สนใจท่านแม่ด้วย ไม่รู้หรอกนะว่าเทพของเอลีอัสคนอื่นๆ จะว่ายังไง แต่ฉัน …. อยากให้คุณมาที่นี่อีกครั้ง…. ]

คำพูดสุดท้ายนั้นเสียงเบามากทำให้ผมไม่ได้ยิน

ใบหน้าของโทโทน่าเริ่มแดง

ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ โทโทน่าถึงตะโกนขึ้นมา แต่ก็ดีแล้วที่ผมมาที่นี่ได้

[ ครับ งั้นไว้ผมจะแวะมาใหม่นะ ]

ผมตอบไปด้วยรอยยิ้ม

[ ค่ะ ดีใจมากเลยค่ะ…. ]

เธอพูดออกมาและใบหน้าของโทโทน่าก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม ผมเพิ่งเคยเห็นรอยยิ้มของเธอเป็นครั้งแรก

มันดูน่ารักมากเลยล่ะ

[ งั้นคุณโทโทน่า ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ผมกลับก่อนแล้วกัน ]

[ เดี๋ยวก่อนค่ะคุณอัศวินดำ ]

โทโทน่าหยุดผมไว้

[ มีอะไรเหรอครับ? ]

ผมหันหลังกลับและมองไปที่โทโทน่า

[ ช่วยเรียกฉันว่าโทโทน่าเฉยๆ จะได้มั้ยคะ แล้วก็ฉันอยากเรียกชื่อจริงของคุณด้วยนะคะ ]

ใบหน้าของโทโทน่านิ่งเฉย แต่ผมกลับรู้สึกได้ว่าเธอกำลังกังวล

ผมยิ้มให้เพื่อทำให้เธอรู้สึกสบายใจ

[ แน่นอนครับ งั้นจากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะโทโทน่า ]

 

 

◆ อัศวินดำคุโรกิ

ผมเดินทางกลับไปที่นากอล

เมื่อกลับไปที่คฤหาสน์ก็มีแม่มดคอยต้อนรับ ปีศาจเมดที่ทำอาหารได้ซึ่งถูกสร้างจากชิ้นส่วนของเทพธิดามิน่าทำให้พวกเธอสวยมาก เมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ ในนากอล

จากที่รู้มา โมเดสยังบอกว่าได้สร้างปีศาจระดับล่างให้มาเป็นผู้ช่วยหลังจากมาอยู่ที่นากอล

ดังนั้นบางครั้งจึงถูกเรียกว่าปีศาจรุ่นพี่

[ ยินดีต้อนรับกลับค่ะฝ่าบาท ]

สาวปีศาจก้มหัวให้ผม

[ กลับมาแล้วเซอร์กุโน่ ]

ผมเองก็ก้มหัวให้เธอเช่นกัน เพราะกุโน่คือหัวหน้าของเหล่าอัศวินหญิงปีศาจ

[ โปรดเงยหน้าขึ้นเถอะค่ะฝ่าบาท อย่างนี้มันทำให้เราลำบากใจนะคะ! เราคือผู้รับใช้ของฝ่าบาท! ดังนั้นโปรดปฏิบัติกับเราดั่งข้ารับใช้เถอะค่ะ! ]

ดวงตาของกุโน่จริงจังมาก สายตาของปีศาจหญิงคนอื่นๆ ก็มองแบบนี้เหมือนกัน

แต่เมื่อมองไปที่พวกเธอผมกลับรู้สึกผิด

หลังจากดื่มชาของคุนะลงไป ผมก็จำอะไรไม่ได้เลย แต่จำได้ว่าผมคงทำอะไรพวกเธอไป

ตั้งแต่นั้นมาพวกเธอกลับสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อผมอย่างแท้จริง นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดจนเจ็บท้องน้อย

[ อา… ครับ ขอบคุณมากนะสำหรับความจงรักภักดี ]

ผมพูดขณะที่กุมท้องที่เจ้บ

เมื่อได้ยินคำพูดของผม เหล่าสาวๆ ปีศาจก็ดูท่าทางมีความสุข

[ ฮะฮะฮะ…. ]

ผมเดินเข้าไปในคฤหาสน์ขณะที่หัวเราะแห้งๆ

และเดินเข้าไปในห้องที่คุนะหลับอยู่

แต่ในตอนที่กำลังจะออกจากห้องกลับโดนคุนะโดดเข้าที่อก

[ ยินดีต้อนรับกลับคุโรกิ คุนะเหงามากเลยนะ ]

คุนะพูดด้วยดวงที่ชื้น

ด้วยท่าทางหม่นหมองและสั่น การจะลุกขึ้นมาก็ยากแล้วล่ะ

[ ขอโทษนะคุนะ ยืนได้แล้วเหรอ? ]

ผมถามจากนั้นเธอก็พยักหน้า

[ ไม่ต้องห่วง ครั้งหน้าถึงคุนะโดนไปก็ไม่เป็นไรแน่ ]

ทำไมพูดเหมือนจะมีครั้งต่อไปล่ะ? อย่าคิดถึงเรื่องนั้นเลยดีกว่า

[ อือ แต่ตอนนี้นอนพักก่อนดีกว่านะ ]

ผมพูดจากนั้นก็พาคุนะไปนอนบนเตียงที่มีหลังคาของเธอ

และอยู่ข้างๆ จนกว่าเธอจะหลับ

[ ฝ่าบาทอยู่มั้ยคะ? ]

ตอนที่ผมกำลังกล่อมคุนะอยู่ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูจากข้างนอก

[ มีอะไรงั้นเหรอเซอร์กุโน่? ]

[ มีคนใช้ขององค์เหนือหัวมาส่งข่าวให้กับฉันค่ะ บอกว่าต้องการให้ท่านไปที่ปราสาทรราชาปีศาจทันที ]

โมเดสเรียกผม? เกิดอะไรขึ้นกันนะ?

[ เข้าใจแล้ว งั้นเดี๋ยวผมจะรีบเตรียมตัวและไปทันที ]

ผมไปเตรียมตัวเพื่อไปที่ปราสาทราชาปีศาจ