CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อัศวินดำ - ตอนที่ 58

  1. Home
  2. อัศวินดำ
  3. ตอนที่ 58
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

◆ สตรีแห่งดาบชิโรเนะ

[ แบบนี้มันจะดีจริงๆ เหรอ… ? ]

ฉันพูดออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

[ มีอะไรงั้นรึคะคุณชิโรเนะ? ]

คุณเคียวกะที่นั่งอยู่ข้างๆ ถามฉัน

คุณเคียวกะตอนนี้กำลังนั่งอยู่ในเก้าอี้ชายหาดในชุดวายน้ำบนดาดฟ้าเรือ

ราวกับคุณหนูที่มาพักร้อนในวันหยุดหน้าร้อน

ถึงจะบอกแบบนั้น แต่ฉันเองก็อยู่บนเก้าอี้ชายหาดและสวมชุดว่ายน้ำเช่นกัน นี่มันจะดีจริงๆ เหรอเนี่ย

ตอนนี้

ฉันอยู่ที่แม่น้ำคิช

พวกเรามาที่นี่ก็เพื่อสำรวจเขาวงกตกัน

พวกเรากำลังล่องเรือขณะที่พวกลิซาร์ดแมนกำลังทำงานกันอยู่

ที่จริงก็อยากจะช่วยงานสำรวจเขาวงกตกับพวกลิซาร์ดแมนล่ะนะ 

เพื่อตรวจสอบรายละเอียดรอบๆ ของเขาวงกต

คุโรกิได้ขอร้องให้พวกลิซาร์ดแมนช่วยเราสำรวจเขาวงกตไปด้วย

โดยมีเรจิน่าคอยออกคำสั่งพวกลิซาร์ดแมน

ไม่รู้เพราะอะไร แต่พวกลิซาร์ดแมนกลับเรียกเรจิน่าว่าท่านสาวกมังกร

สุดท้ายก็ไม่รู้และกลายเป็นว่าการตรวจสอบได้กลายเป็นของเรจิน่าไปแล้ว

แต่มันก็ยังไม่แน่ชัดอยู่ดี

เพราะปกติแล้วลิซาร์ดแมนไม่ทำตามคำสั่งหรอกนะ ถ้าเราไม่มีคุโรกิอยู่ด้วย เดิมทีก็ว่าจะช่วยตรวจสอบด้วยหรอกนะ

แต่หากพวกเราลงมือก็จะทำให้อีกฝ่ายรู้ตัว ดังนั้นให้พวกลิซาร์ดแมนออกหน้าดีกว่า

แถมถ้าไม่มีทหารรับจ้างหรืออัศวินเข้ามาปราบปราม พวกลิซาร์ดแมนก็จะไม่ก่อความเดือดร้อนโดยไม่จำเป็นด้วย

สุดท้ายเราเลยไม่มีงานให้ทำและมาล่องเรือตามแม่น้ำคิชอยู่นี่ล่ะ

แม่น้ำคิชเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่เรือเล็กและใหญ่ใช้แล่นไปมา เป็นดั่งเส้นเลือดแดงของที่ราบมินอน

โดยที่ปากแม่น้ำคิชมีสาธารณรัฐอาเรียดิน่าอยู่

นี่เป็นเรือจัดส่งสินค้าของคุณคายะ ทำให้ทั้งกว้างและสะดวกสบาย

ใหญ่กว่าเรือลาดตระเวนของบ้านเรย์จิที่ฉันเคยนั่งซะอีก

เรือแล่นไปที่ริมฝั่งใกล้ๆ กับเขาวงกต

พวกเราเพลิดเพลินกับการล่องเรือขณะที่นอนแผ่ราบและชมวิว

ที่ราบมินอนที่แม่น้ำคิชไหลผ่านนั้นมีธรรมชาติสวยงามรายล้อม โลกนี้อุดมสมบูรณ์ยิ่งกว่าประเทศญี่ปุ่นที่พวกเราเกิดและโตมาซะอีก

[ คุณหนู ท่านชิโรเนะ เครื่องดื่มค่ะ ]

คุณคายะเอาเครื่องดื่มจากครัวบนเรือมาให้

คุณคายะสวมชุดเมดไม่ใช่ชุดว่ายน้ำหรอกนะ ฉันคิดว่าคงดีนะหากเธอจะพักผ่อนซะบ้างนะ

[ ขอบคุณนะ คุณคายะ ]

ฉันรับถ้วยที่ทำมาจากเครื่องปั้นดินเผาและยกดื่ม

เครื่องแก้วไม่ใช่ของธรรมดาที่จะหาได้ในโลกนี้ ส่วนใหญ่แล้วพาชนะจึงเป็นเครื่องปั้นดินเผา โลหะ ไม่ก็ไม้

[ ค่ะ ]

เมื่อฉันขอบคุณ คุณคายะก็ก้มหัวให้

น้ำผลไม้ที่คุณคายะเอามาเสิร์ฟมันทั้งสดชื่นและชุ่มคอดีมากเลยล่ะ 

[ คายะเรื่องการสำเร็จเป็นยังไงบ้างคะ? แบบนี้มันน่าเบื่อจะตายไป…. เพราะไม่มีคนให้โชว์ชุดว่ายน้ำ ]

คุณเคียวกะพูดออกมาเพราะความเบื่อ

เราทั้งคู่ต่างใส่ชุดว่ายน้ำบิกินี่แบบเดียวกัน

แต่เพราะหุ่นของคุณเคียวกะค่อนข้างดีทำให้ดูเย้ายวน ถ้าฉันเป็นผู้ชายก็คงจ้องตาเขม็งเลยล่ะนะ

โดยวัสดุของผ้าทำจากผ้าไหมชนิดพิเศษ ที่ไม่ซึมซับน้ำ

คนที่ทำงานทางทะเลส่วนใหญ่ก็สวมชุดว่ายน้ำที่ทำจากผ้าไหมนี้ทั้งนั้น

โดยฝั่งตะวันตกของทวีปนั้นจะอุ่นกว่าฝั่งทวีปตะวันออก

เหล่าหญิงสาวจึงใส่ชุดที่โชว์ผิวหนังกัน จะมียกเว้นก็แค่ผู้ศรัทธาของเทพธิดาเฟย์เรีย

เพราะหลักคำสอนของเทพธิดาเฟย์เรียบอกไว้ว่าไม่ควรให้ชายอื่นเห็นผิวพรรณนอกจากสามีตัวเอง

ดังนั้นทางตะวันออกที่มีผู้ศรัทธาเทพธิดาเฟย์เรียอยู่มากจึงไม่ค่อยโชว์ผิวหนังกัน

แต่สำหรับเรา คำสอนของเทพธิดาเฟย์เรียที่ห้ามโชว์ผิวพรรณมันออกจะไร้สาระ

เพราะเราไม่ใช่ผู้ศรัทธาเทพธิดาเฟย์เรีย ดังนั้นถึงจะแต่งตัวแบบนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร

ถึงที่จริงในใจฉันจะไม่อยากโชว์ให้ใครเห็นก็เถอะ แต่คุณเคียวกะน่ะดูท่าจะไม่ใช่ล่ะมั้ง?

[ พวกคุณสุภาพบุรุษตรงนั้นนะ คงรู้นะคะว่าหากมองจะเกิดอะไรขึ้น? ]

คายะพูดขณะที่มองไปยังด้านหลังเรือ

ที่ด้านหลังเรือมีเรจิน่าและโนวิคอยู่

มีทั้งโนวิค ผู้กล้าแห่งน้ำเนฟิมและผู้กล้าแห่งลมเซฟาร์อยู่

[ ไม่เอาน่าคายะ ผู้ชายที่อ่อนแอกว่าท่านพี่น่ะไม่เอาหรอก เดิมทีทำไมคนพวกนั้นถึงมาอยู่บนเรือได้ล่ะ ]

คุณเคียวกะพูดจาอย่างเย็นชาและยังบอกว่าต้องแข็งแกร่งกว่าเรย์จิเท่านั้น

 ที่โนวิคมาอยู่บนเรือลำนี้

ก็เพราะเขาขอร้องเราว่า [ ได้โปรดพาข้าไปด้วยเถอะ ตัวข้าจะทำประโยชน์ให้ได้แน่ ]

เดิมทีก็ไม่ได้เต็มใจนัก แต่ก็ให้เขาขึ้นเรือมาด้วยเพราะต้องมีคนคอยคุมเรือหลายคนล่ะนะ

[ อีกสองคนไม่รู้หรอกค่ะ แต่เห็นว่าโนวิคยังไม่ยอมแพ้และอยากให้ท่านชิโรเนะสอนดาบให้ได้นะคะ ]

คุณคายะมองมาทางฉัน

[ เอ๋ แทนที่จะให้ฉันสอน ไปเรียนกับคุโรกิจะดีกว่าล่ะมั้งนะ ]

อยากให้หยุดตื้อสักทีนะ ฉันเองก็สอนไม่เก่งด้วยสิ เรื่องให้สอนดาบน่าจะให้คุโรกิจะดีกว่า

[ ถึงท่านชิโรเนะจะพูดอย่างนั้นก็เถอะค่ะ แต่ลืมไปแล้วเหรอคะว่าท่านคุโรกิกำลังปกปิดตัวจริงอยู่ จะไปสอนดาบได้ยังไงกันล่ะคะ? ]

[ น่า มันก็จริง… ]

คุโรกิตอนนี้กำลังรออยู่ที่เมืองเทสซาเซีย

ขณะเดียวกันลิซาร์ดแมนที่เป็นลูกน้องของคุโรกิก็กำลังทำงานอย่างเต็มที่

แต่เรน่าเห็นว่ามีเรื่องจะคุยกับคุโรกิที่เทสซาเซียสักหน่อย

ดังนั้นเลยให้เรจิน่าคอยสั่งพวกลิซาร์ดแมนไป

เรจิน่าดูเหมือนจะสามารถใช้เวทบางอย่างติดต่อกับคุโรกิได้ขณะที่ยังอยู่ที่แม่น้ำคิช

ทั้งล่องเรือและยังติดต่อกับลิซาร์ดแมนได้อีกด้วย

ทำไมถึงมีแค่เรจิน่าที่ทำได้ล่ะ? ให้ฉันบ้างสิ อย่ามาทำเหมือนฉันเป็นคนนอกนะ

[ จะว่าไปคุณชิโรเนะคิดว่ายังไงคะ? ]

คุณเคียวกะพูดขณะที่มองมาทางฉัน

[ อะไรงั้นเหรอคะคุณเคียวกะ? ]

[ ฉันได้ยินว่าคุณคุโรกิไม่เพียงแต่มีฝีมือดาบที่ยอดเยี่ยม แต่ด้านเวทมนตร์ก็ไม่แพ้กัน คิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้คะ? ]

[ ฟังดูก็ยอดไปเลยนะ… ว่าแต่ทำไมเหรอ? ]

ฉันไม่เข้าใจความหมายที่คุณเคียวกะกำลังถาม

[ ที่จริงฉันก็คิดอยากจะเรียนวิชาดาบบ้าง แต่คิดว่าอยากให้คุณคุโรกิสอนวิธีใช้เวทมนตร์ให้จะดีมั้ยคะ? ]

คุณเคียวกะพูดออกมาด้วยสายตาจริงจัง

[ คุณหนู… ]

คุณคายะมองคุณเคียวกะด้วยสีหน้าแปลกใจ

[ พอฉันมองโนวิค ฉันเองก็คิดว่าอยากแข็งแกร่งขึ้นบ้าง ไม่อยากเป็นตัวถ่วงอยู่แบบนี้ตลอดไป… ]

คุณเคียวกะพูดออกมาแบบช้าๆ

คนที่ไม่มีพรสวรรค์ในหมู่พวกเราก็มีแต่คุณเคียวกะ

แม้ว่าคุณจิยูกิจะสอนวิธีใช้เวทมนตร์ให้ แต่ก็ไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย

เป็นผลทำให้เธอมักจะมีหน้าที่แตกต่างจากพวกเราเสมอ

ฉันไม่คิดเลยว่าคุณเคียวกะจะทุกข์ใจเรื่องนี้ถึงขนาดนี้

[ อย่างนี้นี่เอง แต่ทำไมต้องคุโรกิล่ะคะ? ]

น่าจะเรียนกับคุณจิยูกิอีกรอบไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงคุโรกิล่ะ?

[ เพราะฉันได้ยินจากคุณชิโรเนะว่าคุณคุโรกิสอนเก่ง ดังนั้นก็เลย… ]

[ อืมมม ที่ว่าคุโรกิสอนเก่งกว่าฉัน แต่นั้นหมายถึงเรื่องดาบนะ ]

บางครั้งก็จะมีเด็กๆ มาที่สำนัก

โดยให้ฉันและคุโรกิคอยสอนดาบให้

แต่สุดท้ายเด็กๆ ที่ฉันสอนก็หนีไปหาคุโรกิกันหมดเลย

ฉันเองก็ช็อคอยู่นิดนึงนะ ในตอนนั้น

[ หากยังมีโอกาสที่พอจะทำอะไรสักอย่างได้บาง ฉันก็อยากลองดูค่ะ! ]

คุณเคียวกะจับมือฉันแล้วพูดออกมา

แบบนี้มันยากจะปฏิเสธแล้วสิ

[ เข้าใจแล้วคุณเคียวกะ… จะลองคุยกับคุโรกิให้นะ ]

[ ขอบคุณมากค่ะคุณชิโรเนะ! พึ่งพาได้จริงๆ ]

คุณเคียวกะยิ้มอย่างมีความสุข

ถึงจะไม่รู้ว่าจะบอกคุโรกิว่ายังไงดี แต่คุโรกิก็เป็นคนอ่อนโยนตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว คงจะยอมสอนล่ะมั้งนะ

แต่ตอนนี้คุโรกิกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ?

ฉันนึกถึงคุโรกิซึ่งกำลังอยู่กับเรน่าที่เทสซาเซีย

 

 

 

 

◆ วาลคีเลียชิสุเฟย์

[ บัดซบ! ทำไมข้าถึงไปตรงนั้นไม่ได้กันล่ะ? ]

เซฟาร์ ผู้กล้าแห่งลมกำลังบ่น

ที่ด้านหน้าเรือมีท่านชิโรเนะและท่านเคียวกะในชุดว่ายน้ำอยู่

[ อย่าพูดอะไรงี่เง่าสิ … นี่นายอยากจะโดนท่านคายะฆ่ารึไง ]

พี่เคย์น่าเยาะเย้ยเซฟาร์

ท่านคายะเป็นคนที่น่ากลัวมากและได้ยินว่าเธอแข็งแกร่งพอๆ กับท่านจิยูกิ

ถ้าไปทำเธอโกรธเข้าศพไม่สวยแน่

ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องตลกหรอกนะ

ท่านชิโรเนะช่วยฉันไว้จากลิซาร์ดแมน

ถึงในตอนนั้นเราจะยังไม่ได้เจอกับลิซาร์ดแมนเลยก็เถอะนะ

ดังนั้นฉันจึงยอมไม่ได้ที่เซฟาร์จะมองผู้มีพระคุณของฉันด้วยสายตาน่ารังเกียจ

[ แต่การที่สาวสวยแต่งตัวแบบนั้น มันก็เหมือนจะบอกให้มองเลยไม่ใช่เหรอ นายเองก็ไม่คิดเหมือนกันงั้นเหรอผู้กล้าแห่งไฟ? ]

เซฟาร์คุยกับโนวิคที่อยู่ข้างๆ

[ มันก็… ต้องแน่อยู่แล้ว… ]

โนวิคพยักหน้า

[ โนวิค… นี่นาย… คิดจะทำให้ท่านชิโรเนะโมโหอีกครั้งงั้นรึไง? ]

ฉันพูดแบบโมโหใส่โนวิค

[ ถึงอย่างนั้นก็เถอะชิสุเฟย์… แต่การที่ไม่ได้เห็นผิวพรรณของท่านเคียวกะกับท่านชิโรเนะนี่มันเหมือนชีวิตเสียเปล่าเลยนะ… ]

โนวิคตอบขณะที่จมูกยื่น

[ พูดอะไรออกมา รู้ตัวบ้างไหมเนี่ย….? ]

ฉันกุมหัว เจ้าพวกบ้านี้น่าจะหัดสำนึกกันได้สักทีนะ

แน่นอนว่าฉันเข้าใจความรู้สึก

ท่านเคียวกะมีหน้าอกที่ใหญ่ เอวที่บางและหุ่นที่แสนจะสมส่วน

และถึงท่านชิโรเนะจะมีหน้าอกเล็กกว่าท่านเคียวกะ แต่ก็ใหญ่กว่าคนธรรมดาทั่วไป ขาเองก็เรียวยาว เป็นหุ่นที่ยอดเยี่ยมพอๆ กับท่านเคียวกะก็ว่าได้

ฉันล่ะอิจฉาพวกเธอจริงๆ ฉันเข้าใจความรู้สึก ฉันเองก็อยากดูเหมือนกัน

แต่ฉันจะปล่อยให้เจ้างี่เง่าพวกนี้ไปทำเรื่องเสียมารยาทกับท่านชิโรเนะที่เป็นผู้มีพระคุณของฉันไม่ได้เด็ดขาด

ฉันถูกช่วยชีวิตเอาไว้ ได้ยินว่าตอนที่ท่านชิโรเนะไปเจอฉันในเขาวงกตแต่ในตอนนั้นอัศวินดำก็หายไปแล้ว

ฉันไม่รู้เลยว่าจะเป็นยังไงถ้าเกิดท่านชิโรเนะมาช้ากว่านี้ นอกจากนี้ยังต้องขอบคุณท่านชิโรเนะที่ขอร้องให้เทพธิดาช่วยรักษาให้ฉัน

ฉันนี่ช่างโชคดีจริงๆ ที่มีเทพธิดาที่สวยขนาดนั้นมารักษาให้

ช่างเป็นเทพธิดาที่บริสุทธิ์ ผุดผ่อง ใจดีมีเมตา เมื่อได้เห็นความงามนั้น ฉันก็เชื่อว่าเธอเป็นตัวจริงไม่ผิดแน่

มันช่างสุดยอดที่เกิดมาได้เห็นเทพธิดาตัวจริงเสียงจริง

เรื่องนี้ฉันต้องขอบคุณท่านชิโรเนะจริงๆ

ดังนั้นฉันจึงอยากจะตอบแทนให้ได้

อย่างน้อยก็หยุดโนวิคไม่ให้ไปรบกวนท่านชิโรเนะด้วยการทำอะไรงี่เง่านี่ล่ะ

ที่จริงฉันคิดจะมาคนเดียว แต่พี่เคย์น่ายืนกรานว่าจะมาด้วย

แต่ฉันคำนวณผลาด เพราะไม่นึกว่าผู้กล้าแห่งลม-เซฟาร์และผู้กล้าแห่งน้ำ-เนฟิมจะมาด้วย ดูเหมือนพวกเขาจะคาดหวังบางอย่างจากพวกท่านชิโรเนะอยู่

จนสุดท้ายโนวิคก็มาด้วยกันซะอย่างนั้น

[ ย๊ากกก!! ]

ทันใดนั้นก็มีเสียงน้ำสาดกระเซ็น

ชายคนหนึ่งโดดลงไปจากดาดฟ้าเรือทำให้น้ำกระเซ็น

เขาคือผู้กล้าแห่งน้ำเนฟิม แม้ว่าจะอยู่ในน้ำเนฟิมก็ยังทำหน้าที่ได้ ราวกับเขากำลังร่ายรำกับเหล่าลิซาร์ดแมน

เนฟิมสบัดน้ำจากผม ผมสีฟ้าอ่อนของเนฟิมส่ายไปมาขณะที่สบัดน้ำและน้ำก็กระจายไปทั่ว

เพราะต้องอยู่ในแม่น้ำ เขาจึงอยู่ในชุดว่ายน้ำเช่นกัน เขามีร่างกายที่ดูหล่อเหลาไม่น้อยไปกว่าท่านเรย์จิ ก็เป็นพวกเด็กหนุ่มหน้าสวยนี่นะ ยังไงก็ดีกว่าโนวิคหรือเซฟาร์เยอะ

[ ฟู่… ]

เนฟิมหายใจออก ที่ตรงบริเวณเข่าของเนฟิมมีบันไดที่สามารถลงไปที่แม่น้ำได้อยู่

จากนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่มาจากเหนือผิวน้ำใกล้บันได

เธอคือคุณเรจิน่าที่เป็นหนึ่งในผู้รับใช้ของท่านเคียวกะและท่านชิโรเนะ

เธอกำลังดำน้ำเพื่อคอยสั่งการลิซาร์ดแมนในนามของท่านชิโรเนะอยู่

และดูเหมือนว่าคุณเรจิน่าจะเป็นเจ้าหญิงของประเทศไหนสักแห่ง

แล้วไหงถึงกลายเป็นคนรับใช้ได้? เจ้าหญิงตัวจริงเหรอ?

อย่างไรก็ตาม เธอก็ได้รับแต่งตั้งให้คอยเป็นคนออกคำสั่งพวกลิซาร์ดแมน ต้องเก่งต่างจากชายที่โดนโนวิคซัดหมอบไปแน่

ซึ่งที่จริงเธอยังมีความสามารถในการอยู่ใต้น้ำเหมือนกับเนฟิมอีกด้วย

คุณเรจิน่าเอื้อมมือไปที่บันไดอย่างช้าๆ

[ เรจิน่า จับมือข้าสิ ]

เนฟิมเอื้อมมือให้เธอ แต่เรจิน่าเมินเขาและจับบันไดและขึ้นไป

ไม่สนใจเนฟิมที่ยืนยิ้มแบบขมขื่นอยู่ตรงนั้นเลย

โนวิคและเซฟาร์ต่างหัวเราะเมื่อเห็นเนฟิมหน้าแตก พวกผู้ชายพวกนี้นี่มัน…. 

[ ใช้นี้สิค่ะ… ]

ฉันเอาผ้าเช็ดตัวให้เธอ

[ ขอบคุณ… ]

คุณเรจิน่าก้มหัวอย่างอ่อนน้อมให้ฉัน ดูจะใจดีเฉพาะกับฉันนะ

คุณเรจิน่ารับผ้าเช็ดตัวจากฉันและเช็ดร่างกาย เธอเป็นคนที่สวยจริงๆ 

ผิวสีขาวกับผมสีเกาลัด แม้จะไม่ถึงขนาดท่านเคียวกะกะกับท่านชิโรเนะแต่หน้าอกก็ดูเต่งตึ้งและใหญ่พอควร

เพราะเธอใส่ชุดว่ายน้ำจึงเห็นเรือนร่างได้อย่างชัดเจน

ท่านเรย์จิมีคนที่สวยขนาดนี้เป็นคนรับใช้เชียวเหรอ?

เหมือนสูญเสียความมั่นใจในฐานะลูกผู้หญิงเลย

เพราะในเรือลำนี้ฉันมีขนาดหน้าอกเล็กที่สุด ถึงฉันจะไม่ใช่ผู้ศรัทธาของท่านเฟย์เรีย แต่ก็ไม่มั่นใจถึงขนาดกล้าใส่ชุดว่ายน้ำหรอก

[ นี่มันออก… ]

[ อืมม ]

เซฟาร์และโนวิคจมูกยื่น ขณะที่จ้องมองคุณเรจิน่าในชุดว่ายน้ำขณะกำลังเช็ดตัว

ฉันล่ะอยากโยนเจ้าพวกนี้ลงแม่น้ำจริงๆ แต่ต้องอดทนไว้

[ พวกนายหยุดมองเรจิน่าของฉันด้วยสายตาหื่นๆ ได้แล้ว ]

เนฟิมมายืนขวางตรงหน้าคุณเรจิน่าเพื่อบังจากสายตาของพวกโนวิค

[ อ๊าก! ถอยไปสิเนฟิม! กำลังถึงช็อตเด็ดเลยแท้ๆ ! ]

[ ก่อนอื่นเลย! คุณเรจิน่ากลายเป็นของนายตั้งแต่เมื่อไหร่กันฟะ! ]

ทั้งสองคนบ่นอุบอิบ

เนฟิมหัวเราะและมองทั้งสองคน

[ จะว่าไปเรจิน่า สนใจมาร่วมทานมื้อค่ำคืนนี้ด้วยกันมั้ยครับ? ]

เนฟิมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

เนฟิมเองก็ดูจะถูกเสน่ห์ของคุณเรจิน่าดึงดูดเช่นกัน

แต่คุณเรจิน่ามองเนฟิมกลับด้วยสายตาเย็นชา

[ เอ่อ… ต้องขอโทษด้วยค่ะแต่ฉันมีสามีคนสำคัญอยู่แล้วค่ะ คงตอบรับคำเชิญของคุณไม่ได้ ]

เมื่อเนฟิมได้ยินคำพูดของคุณเรจิน่าก็ทำหน้าหดหู่ทันใด

ไม่เพียงแต่โนวิคหรือเซฟาร์ที่ตกใจในคำพูดนั้น แม้แต่พี่เคย์น่าเองก็ด้วย

และฉันเองก็ด้วย

[ เอ๋… มีสามีอยู่แล้ว? คงเป็นคนที่สุดยอดมากเลยสินะครับ ]

พี่เคย์น่าและฉันต่างอึ้งขณะที่มองไปทางคุณเรจิน่า

นี่คุณเรจิน่าแต่งงานแล้วเหรอ? ทั้งๆ ที่ดูอายุเท่ากันแท้ๆ

ตกใจไปเลยนะเนี่ย

[ คุณเรจิน่า! สามีของคุณเรจิน่าเป็นคนแบบไหนเหรอคะ!? ]

ฉันถามเธอด้วยความตั้งใจของตัวเอง

เพราะท่านเรย์จิยังไม่ได้แต่งงาน ดังนั้นเป็นไปได้ว่าสามีของเธอจะไม่ใช่ท่านเรย์จิ แล้วเป็นใครกันล่ะ?

เพราะในฐานะผู้ศรัทธาเทพธิดาแห่งการแต่งงาน ฉันจึงกังวลเรื่องการแต่งงานมาก

[ เป็นคนที่อบอุ่นและใจดีมากค่ะ… ]

คุณเรจิน่าตอบด้วยรอยยิ้ม

เป็นรอยยิ้มที่สดใสมาก

ฉันพึมพำออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ น่าอิจฉาจังเลยอ่ะ

เมื่อเหลือบมองเนฟิมที่อยู่ข้างๆ ก็เห็นเขาซึมไปแล้ว

คิดว่าคงจะเศร้าล่ะนะ แต่ก็ทำให้เงียบไปได้ล่ะนะ

แต่ว่าสามีของคุณเรจิน่างั้นเหรอ? น่าสนใจจัง จะเป็นคนแบบไหนกันนะ?

อยากเจอสักครั้งจัง

 

 

 

◆ อัศวินดำคุโรกิ

[ แบบนี้มันจะดีจริงๆ เหรอ… ? ]

ผมพูดออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

[ มีอะไรงั้นเหรอคุโรกิ? ]

เรน่าถามผมขณะที่กำลังควงแขน

ตอนนี้เรน่ากำลังปิดหน้าอยู่

ก็แน่ล่ะนะ บนถนนสายหลักของอาเรียดิน่า ถ้าคนสวยๆ อย่างเรน่ามาเดินในที่โจ่งแจ้งแบบนี้มีหวังเกิดเรื่องเอะอะแน่

แต่ถึงแม้เธอจะปิดหน้าไว้ ในโลกนี้มีผู้ศรัทธาของเทพธิดาเฟย์เรียอยู่มาก การที่เรน่าปิดซ่อนใบหน้าขณะที่เดินไปมาอยู่มาก จึงไม่แปลกอะไร

[ ก็แบบ… ผมสงสัยว่าเรามาที่แบบนี้จะดีเหรอ ทั้งที่พวกชิโรเนะกำลังออกไปตรวจสอบพื้นที่กันอยู่นะ? ]

ตอนนี้พวกชิโรเนะน่าจะไปตรวจสอบที่แม่น้ำคิชอยู่

แล้วพวกเรามาเที่ยวเล่นแบบนี้มันจะดีจริงๆ เหรอ? 

นอกจากนี้ผมยังกังวลเรื่องลิซาร์ดแมน ด้วยการบังคับ ผมบอกให้พวกลิซาร์ดแมนเลิกไปแก้แค้นมนุษย์

แต่มันก็ยังคาใจ

พวกเขานับถือผมเหมือนกับเทพ แต่ผมก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เมื่อคิดดูก็เจ็บปวดอยู่

ผมรู้ดีว่าไม่ควรไประแวงพวกเขา แต่ก็รู้สึกไม่ดีที่เขาเปลี่ยนท่าทีไปถนัดตา

[ ไม่เป็นไรหรอกน่า ปล่อยให้พวกชิโรเนะจัดการไปเถอะและที่นั้นก็มีสาวกของคุโรกิอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ? ]

เรน่าพูดขณะที่หัวเราะ

แล้วนี่เรน่ารู้ว่าเรจิน่าเป็นสาวกของผมได้ยังไง? ขนาดชิโรเนะยังไม่ทันสังเกตเลยนะ ผมชักกังวลเรื่องนี้นิดหน่อย

เรจิน่าตอนนี้กำลังสั่งการพวกลิซาร์ดแมนในนามของสาวกของผม

[ หืม… มันจะไม่เป็นไรจริงเหรอ? ที่เรน่าออกมากลางฝูงชนแบบนี้นะ ]

ตามปกติแล้วเรน่าจะมีคนคอยอารักขาตลอด แต่ตอนนี้ไม่มี

ทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี่น่ะเหรอ ก็เพราะเรน่าบอกว่าอยากเห็นโลกมนุษย์น่ะสิ

นอกจากนี้หากมีคนคุ้มกันจะทำให้ยิ่งเด่นขึ้น

แม้ว่าจะคนคุ้มกันแค่คนหรือสองคนจะกำลังดีในสถานการณ์นี้ แต่เรน่ากลับปฏิเสธ

แน่นอนว่าเหล่าคนคุ้มกันไม่ยอมรับแน่ เรน่าจึงแอบออกมาแบบเงียบๆ แทน

[ เอาล่ะ ในเมื่อวันนี้ฉันไม่มีคนคุ้มกันใช่มั้ยล่ะ? ถ้างั้นก็ฝากเป็นอัศวินให้ฉันวันนี้ด้วยนะ ]

เรน่าเอาตัวมาแนบชิดผมขณะที่พูดออกมา

ตอนนี้ผมไม่ได้สวมเกราะดำอยู่ แต่เป็นเพียงเสื้อผ้าธรรมดา ทำให้รู้สึกถึงหน้าอกอันอ่อนนุ่มของเรน่าที่กระทบแขนซ้าย

[ ก็เข้าใจหรอกว่าวันนี้ผมต้องเป็นอัศวินให้… แต่จะไม่ดีกว่าเหรอที่เอาคนคุ้มกันมาด้วยนะ? ]

เรน่าแอบมาโดยไม่พูดอะไรกับคนคุ้มกันเลยสักนิด

ถ้าไปคุยกันให้ถูกต้องมันจะไม่ดีกว่าเหรอ

และเพราะผมไปขอร้องเรน่าให้ช่วยเด็กสาวที่ชื่อชิสุเฟย์

ทำให้ต้องมีการแลกเปลี่ยน โดยการไปเดินเที่ยวถนนในเมืองมนุษย์ในฐานะคนคุ้มกันให้เธอแทน

ไม่รู้หรอกนะว่าเรามาอยู่กันสองต่อสองได้ยังไง แต่ผมก็ไม่ได้เกลียดอะไรหรอกที่ต้องมาอยู่กับเรน่า ด้วยเหตุนี้เองเราต้องคนเลยมาเดินเที่ยวด้วยกัน

[ ดีแล้วน่า ทางเดินมันผิดกับเมื่อกี้นะ ที่นี่มีอะไรเหรอ? ]

เรน่าถามผมด้วยความสงสัย

ผมพูดไม่ได้นะถ้าเธอเอาหน้าอกกดแขนผมอยู่นะ

เพราะหน้าอกที่กดทับแขนส่วนหนึ่งทำให้ร่างกายผมแข็งเหมือนหินและเดินยาก…

[ ไม่มีอะไรหรอก… ว่าแต่จะไปไหนเหรอ? ]

อาเรียดิน่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงมีสถานที่ให้เที่ยวเล่นอยู่หลายที่ แล้วเรน่าอยากไปที่ไหนกันล่ะ?

[ อืมมม นั่นสิ ให้คุโรกิตัดสินใจแล้วกันนะ คงตรวจสอบมาแล้วใช่มั้ยล่ะ? ]

[ เอ๋… ทำไมล่ะ? ]

แน่นอนว่าเมื่อผมมาที่อาเรียดิน่าก็ต้องตรวจสอบไว้ก่อน

เพราะมันเป็นเมืองใหญ่ต้องมีสถานที่เที่ยวเล่นอยู่เยอะแน่ ดังนั้นผมเลยมีหนังสือเล่มนี้ นี่เป็นหนังสือที่สร้างจากคนแคระที่อาศัยอยู่ในอาเรียดิน่า เป็นหนังสือคู่มืออย่างง่าย

แต่ทำไมเรน่าถึงรู้ว่าผมมีหนังสือนำเที่ยวล่ะ?

[ ทำไมถึงรู้สินะ? ก็ตอนที่ฉันเดินเข้าไปในห้องของคุโรกิ บังเอิญไปเจอหนังสือนำเที่ยวเข้านะ ]

เรน่าพูดออกมาราวกับเป็นเรื่องธรรมดา

[ เอ๊ะ งั้นเหรอ…. เดี๋ยวนะเข้าไปในห้องของผมเหรอ? ]

[ ใช่แล้ว เข้าไปไม่ได้เหรอ? ]

[ ปกติแล้วมันไม่น่าได้… ]

นี่ผมไม่มีความเป็นส่วนตัวเลยเหรอ? ไม่คิดเลยว่าเธอจะแอบเข้าในห้องตอนที่ผมเผลอ

[ น่า ไม่จำเป็นต้องไปกังวลเรื่องรายละเอียดยิบย่อยหรอก… แล้วจะไปที่ไหนกันก่อนดีล่ะ? ]

เรน่าพูดด้วยเสียงอ่อนหวาน

เมื่อนึกถึงใบหน้าสวยๆ ของเรน่า ผมก็รู้สึกตื่นเต้นไปด้วยเลยไม่มีอะไรจะบ่น

ลองเข้าไปในซอยมืดแล้วทำอะไรลามกกันดีมั้ยล่ะ

… แน่นอนผมล้อเล่น เลิกคิดเรื่องงี่เง่าดีกว่า

[ นั่นสินะ… ไปไหนดีล่ะ? ]

หากตามความคิดของผม

สถานที่แรกที่นึกถึงก็คือโรงอาบน้ำสาธารณะ

โรงอาบน้ำสาธารณะที่อาเรียดิน่า ไม่ใช่แค่จะได้อาบน้ำเท่านั้นแต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและมีสิ่งบันเทิงต่างๆ คอยให้บริการด้วย 

แต่มันมีปัญหาอยู่ก็เพราะโรงอาบน้ำนั้นเป็นสิ่งที่อุทิศให้กับเทพธิดาเฟย์เรีย จึงมีการแยกเพศอย่างเคร่งครัด แม้ว่าจะไป ผมก็ต้องแยกชายหญิงกับเรน่า ดังนั้นจึงเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะที่ชายหญิงจะไปกัน

นอกจากนี้สนามต่อสู้ก็ยังปิดและโรงละครก็ยังไม่เปิด

จะไปไหนดีล่ะคราวนี้?

[ น้ำพุไทรส์เป็นยังไง? ]

[ น้ำพุไทรส์? ]

[ ใช่แล้ว มันเป็นน้ำพุที่สร้างขึ้นเหมือนกับตาน้ำของประเทศนี้ ว่ากันว่ามีรูปปั้นประติมากรรมของเทพแห่งท้องทะเลไดรเด็นที่งดงามรายล้อมด้วยเหล่าเมอร์เมดอยู่ด้วย ]

มันคือนำพุที่เป็นเป็นดั่งประปาของอาเรียดิน่าที่สร้างโดยเหล่าคนแคระ

น้ำพุไทรส์จะนำน้ำนั้นไหลไปสู่ปลายทาง

ซึ่งเป็นสิ่งที่อุทิศให้แก่เทพแห่งท้องทะเลไทรเด็น

[ หืม น้ำพุที่อุทิศให้ไทรเด็นเหรอ… ที่จริงก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอกนะ… แต่ถ้าได้ไปกับคุโรกิก็ไม่รังเกียจหรอก ]

จากนั้นเราสองคนก็เริ่มเดิน จนกระทั่งถึงน้ำพุไทรส์

น้ำพุไทรส์สวยงามมาก นี่คือน้ำพุที่เป็นแหล่งน้ำดื่มของเมืองอาเรียดิน่า ใจกลางน้ำพุมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10 เมตรและรอบๆ น้ำพุก็รายล้อมไปด้วยรูปปั้นของเทพแห่งท้องทะเลไทรเด็น

เป็นประติมากรรมที่ออกแบบโดยเหล่าคนแคระและสร้างโดยคนแคระชื่อดัง

มีผู้คนมากมายที่ไม่ใช่คนของอาเรียดิน่ามาชมน้ำพุไทรส์กันมากมาย แม้แต่คนของประเทศข้างเคียงก็ยังมา

[ นี่คุโรกิ… คนพวกนั้นกำลังทำอะไรนะ? ]

เรน่ามองไปยังกลุ่มนักเดินทาง

นักเดินทางกำลังขวางปาอะไรบางอย่างเข้าไปในน้ำพุ

[ อ่อ นั่นคงเป็นการขอพรนะ? ]

[ ขอพร? ]

[ เขาเชื่อกันว่าความปรารถนาจะเป็นจริงหากโยนเงินเข้าไปในน้ำพุนะ ]

ผมพูดจบ จากนั้นก็เอาเหรียญทองแดง 1 ทูคัมออกมาจากอก

เงินทูคัมเป็นสกุลเงินที่ออกโดยอาเรียดิน่า ซึ่งไม่ใช่เพียงใช้ได้ในประเทศนี้ แต่ลีนาเรียที่เป็นพันธมิตรของอาเรียดิน่าก็ใช้ได้เหมือนกัน

และยังมีประเทศอื่นๆ ที่ใช้สกุลเงินทูคัมอยู่ด้วย

[ มนุษย์นี่แปลกจังนะ ที่อยากให้ความปรารถนาของตัวเองสมหวังด้วยการขว้างปาเหรียญแบบนั้นนะ ]

เรน่าดูเหมือนจะเกิดความสงสัย

สำหรับเรน่าการมีตัวตนของเงินถือว่าเป็นเรื่องแปลก

เพราะเทพไม่ใช้เงินซื้อขายกัน

ดังนั้นถ้าเป็นการขอพรจากเทพจะง่ายกว่าหากไม่ใช้เงิน แถมอีกอย่างเทพก็ไม่ได้มีราคาถูกขนาดนั้น

[ ผมคิดว่ามันก็น่าสนใจดีนะ อย่างผู้ชายกับผู้หญิงตรงนั้นขอพรว่าขอให้ได้อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ ]

เมื่อได้ยินที่ผมพูด เรน่าก็ส่งเสียงประหลาดใจ

[ ไม่เคยได้ยินเวทมนตร์แบบนั้นมาก่อนเลย… ]

เรน่าส่ายหัวราวกับไม่เชื่อ

[ มันไม่ใช่เวทมนตร์หรอก จะว่ายังไงดีล่ะ…. ก็เป็นคำพูดที่มนุษย์พูดกันนะ ]

ผมไม่รู้จะอธิบายออกมายังไง คำพูดเลยดูแปลก

[ ไม่เห็นเข้าใจเลย… ]

เรน่าดูเหมือนจะไม่เข้าใจ

[ เอ่อ ก็… มันเป็นความเชื่อของมนุษย์นะ น่า จะพูดว่ามันเป็นไปไม่ได้ก็ไม่ใช่ซะทีเดียวหรอก ]

ฉันเก็บเหรียญใส่กระเป๋า ผมเองก็ไม่ได้อยากบังคับอะไรเธอหรอก แต่รู้สึกเศร้านิดหน่อย

[ เดี๋ยวคุโรกิ ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะ แต่ลองดูก่อนแล้วกัน ]

เรน่าจับมือผมไว้

[ งั้นเหรอ… ]

ผมหัวเราะนิดหน่อยและหยิบเหยียญออกมา ที่จริงก็ไม่คิดจะเธอจะสนใจ

ควรทำยังไงดีล่ะ

[นี่ ไม่ใช่ว่าถ้าโยนโดยใช้เหรียญทองมันจะดีกว่าเหรอ? ]

[ เอ๊ะ? ]

ผมแปลกใจ เพราะคำอธิบายเมื่อกี้เหรอ?

เรน่าถึงได้มีแรงกระตือรือร้นผิดปกตินะ?

ผมเปลี่ยนเป็นเหรียญทองแทน

[ โยนมันไปด้วยกันนะคุโรกิ ]

มือของเรน่าจับเหรียญทองร่วมกับผม

[ เอ่อ เรน่า…? ]

แม้ผมจะสับสนแต่ก็โยนเหรียญออกไปพร้อมกับเรน่า

เหรียญทองตกในบริเวณใจกลางน้ำพุและเกิดวงน้ำขึ้น

[ ฟุฟุ เลียนแบบมนุษย์นี้ก็สนุกดีเหมือนกันนะ ]

ผมมองไปที่ใบหน้าของเรน่า ดูท่าทางเธอจะกำลังสนุก

รู้สึกโล่งใจไปล่ะนะ

เพราะผมไม่มั่นใจเธอจะสนุกมั้ยที่มากับผม เมื่อเห็นเธอยิ้มผมก็ค่อยโล่งใจหน่อย

แต่ถึงยังไงเรน่าก็เป็นคนรักของเรย์จิไม่ใช่เหรอ? 

ถึงแม้จะกังวลอยู่นิดหน่อย แต่เธอพอใจผมก็พอแล้ว อย่าไปคิดถึงเรื่องนั้นเลยดีกว่า

[ งั้นคุโรกิ… ต่อไปไปที่ไหนดี? ]

[ อืม นั่นสิ… ]

จากนั้นผมก็นึกถึงสถานที่ที่จะไปแห่งถัดไป

 

◆ อัศวินดำคุโรกิ

[ เรน่า จู่ๆ ก็ทำอะไรนะ? ]

หลังจากดูน้ำพุไทรส์ พวกเราก็ไปที่ท่าเรือของอาเรียดิน่า

ที่ท่าเรือมีคลังเก็บความเย็นขนาดใหญ่ซึ่งใช้เวทมนตร์เพื่อเก็บวัถุดิบที่ขนส่งมาจากทางเรือ

หลังจากกินไอศรีมกันสองลูก เรน่าก็พาผมเข้าไปในซอยที่ไร้ผู้คน

เมื่อเข้าไปในซอยเรน่าก็ถอดฮู้ดออก

[ ฟู่… ก็ใช้ฮู้ดปิดหน้าอยู่ตลอดมันอึดอัดนี่นา ]

เพราะตั้งแต่เรน่ามาที่นี่ก็ต้องใช้ฮู้ดปิดหน้าอยู่ตลอดเวลา มันคงจะอึดอัดล่ะนะ

แต่ถ้าเธอไม่ปิดหน้าไว้เดี๋ยวมันจะมีปัญหาตามมาหรอก

ทั้งที่ปกติซ่อนใบหน้าไว้ เรน่าก็ยังเป็นจุดเด่นเพราะอะไรบางอย่างอยู่แล้ว

สงสัยว่าแค่การใช้ฮู้ดปิดหน้าไว้มันจะไม่พอ

เพราะเป็นเทพธิดาเลยมีตัวตนที่เด่นกว่าคนอื่นรึไงนะ

[ จะไม่เป็นไรเหรอเรน่า? ]

ที่ผมเป็นห่วงเรน่าก็เพราะวันนี้ผมต้องทำหน้าที่เป็นอัศวินให้เธอ ก็คือต้องปกป้องเธอนั้นล่ะ

[ ฟุฟุ มันเหนื่อยนิดหน่อยนะ ]

ดังนั้นเรน่าถึงได้มาหลบที่นี่

ดวงตาที่ชื้นของเรน่า ริมฝีปากสีชมพู ลมหายใจร้อนๆ ที่หายใจออกมา

ท่าทางของเรน่าดูไม่ดีเลย

ไม่ดีจริงๆ นั้นล่ะ…

ใบหน้าแบบนั้นยิ่งทำให้เหมือนกระตุ้นผมเป็นร้อยเท่า

และที่นี่ยังเป็นซอยเปลี่ยว มันเป็นโอกาสแล้ว!!

ปีศาจและนางฟ้าในตัวผมกำลังทะเลาะกัน

ปีศาจในตัวคุโรกิ [ ดีไม่ใช่รึไง ที่นี่ไม่มีใครเห็นด้วย เธอมาในซอยเปลี่ยนแบบนี้ก็เหมือนเธอต้องการเอง ถอดเสื้อเธอออกเลยเพื่อนเอ่ย !! ] 

นางฟ้าในตัวคุโรกิ [ อย่าไปเชื่อเจ้าปีศาจนะ ห้ามไปถอดเสื้อผ้าเด็กผู้หญิงเด็ดขาด เราต้องถอดเสื้อผ้าก่อนสิเฟ้ย!! ]

นี่มันนางฟ้าตกสวรรค์รึไง ทุกคนครับนางฟ้าในตัวผมตกสวรรค์ซะแล้ว!!

สามัญสำนึกของผมกำลังเตือนภัย นี่มันอันตราย

ถ้าผมปล่อยตัวไปตามอารมณ์ รู้สึกได้เลยว่ามันต้องแย่แน่

เดิมทีเรน่าก็เชื่อไม่ได้อยู่แล้ว

เรน่าหัวเราะ

ยิ่งทำให้ความเหตุผลของผมปั่นป่วน ไม่ได้ ผมจะปล่อยตัวเองไปตามความปรารถนา(เงี่ยน)ไม่ได้

ในตอนนั้นเอง

อากาศก็สั่นไหว

[ นี่มันบาเรีย… ]

พื้นที่รอบๆ นี้ถูกปิดกั้นไว้ด้วยบาเรีย

และผมยังรู้สึกได้ว่ามีใครกำลังเดินเข้ามาใกล้

[ มาในที่ที่ไม่มีใครเลยแบบนี้… แปลว่าอยากโดนฉันฆ่ามากเลยสินะ เทพธิดาเรน่า ]

เธอคนนั้นเดินเข้ามา

ทั้งผมและเรน่าต่างตกใจกับเสียงพูดของเธอคนนั้น เธอคงเป็นคนที่ขังผมกับเรน่าไว้

และผมยังจำได้อีกว่าเธอคนนั้นเป็นใคร

[ คุณรู้สึกว่าจะเป็นคุณอโทราน่า? ]

ผู้หญิงคนนั้นคืออโทราน่า ภรรยาของโทรุนมาร์คุส ซึ่งคอยส่งอาหารให้กับวิหารเรน่าที่ผมเคยเจอมาแล้วครั้งนึง

และเธอยังเป็นผู้จัดการของโรงแรมที่ผมพักอยู่

[ ฮุฮุ ฉันต้องคอยปิดบังหน้าไว้ เธอจะต้องเสียใจเรน่าที่ทำให้ฉันเจ็บปวดมาตลอดหลายปี ]

อโทราน่าชี้ไปที่เรน่าขณะที่แสยะยิ้ม อโทราน่ารู้ถึงตัวตนของเรน่า

เธอเป็นใครกันแน่?

[ เรน่า… เธอคนนั้นเป็นใครกันแน่? แล้วคิดจะทำอะไร? ]

ดูจากคำพูดแล้ว แปลว่าเธอจะต้องไม่พอใจอะไรสักอย่างกับเรน่าอยู่

[ ไม่รู้เหมือนกัน เธอเป็นใครกันแน่? ]

เรน่าส่ายหน้าให้ผมและถามอโทราน่า

[ ฟุฟุ… จำฉันไม่ได้งั้นเหรอ…. ถ้าเป็นรูปลักษณ์จะยังกล้าพูดแบบนั้นได้อีกมั้ยเรน่า! ]

ร่างกายส่วนล่างของอโทราน่าเปลี่ยนไปพร้อมกับเสียงคำราม

[ แมงมุม! ]

ผมตะโกนออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

ส่วนล่างของอโทราน่ากลายเป็นแมงมุมตัวใหญ่ แม้แต่ปากของเธอก็มีเขี้ยวงอกออกมาและใบหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเหมือนหนอนผีเสื้อ

อโทราน่าไม่ใช่มนุษย์

ผมเหงื่อแตกพลั่ก

ผมไม่ได้สังเกตมาก่อนเลยว่าเธอไม่ใช่มนุษย์

เธอสามารถปลอมตัวได้อย่างแนบเนียนมาก เลยไม่มีใครสังเกตการปลอมตัวที่สมบูรณ์แบบนั้นได้

[ ไม่จริง… นี่เธอ… ]

เรน่ารู้สึกตกใจหลังจากเห็นอโทราน่าเปลี่ยนร่าง ดูเหมือนจะเป็นใครสักคนที่เรน่ารู้จัก

[ ดูจะตกใจมากเลยสินะเรน่า ใช่แล้ว ฉันเอง ]

[ …. ใครอ่ะ? ]

เราทั้งคู่ต่างสะดุดกับคำพูดของเรน่า

อโทราน่าถึงกับลื่นล้มทีเดียว

[ นี่เธอจำฉันไม่ได้รึไง… เทพธิดา! เทพธิดาไงล่ะ! นี่เธอคงไม่ได้ลืมอโทราคัวผู้นี้ไปแล้วหรอกนะเรน่า! ]

อโทราน่าที่กลับตัวขึ้นมา บอกว่าตัวเองแท้จริงแล้วชื่ออโทราคัวกับเรน่า

[ แค่มุขตลกเองน่าอโทราคัว ถึงอยากลืมฉันก็ไม่ลืมเธอหรอก…. แล้วมีอะไรจะบ่นอีกล่ะ? ]

เรน่ากับอโทราคัวดูเหมือนจะรู้จักกัน เป็นความสัมพันธ์แบบไหนกันนะ?

[ อะ ไอ้ท่าทางแบบนั้นมันอะไรกัน! ทั้งที่เธอบังอาจล่อลวงสามีของฉัน! ]

อโทราคัวตะโกน

[ สามีของเธอ…? อา พวกเทพน่ารำคาญนั้นน่ะเหรอ ที่จริงฉันก็ไม่ได้จำมาตั้งแต่แรกหรอกนะ เพราะเจ้าพวกนั้นมันจูจี้น่ารำคาญจะตายไป ]

เรน่าพูดออกมาราวกับเคยชินกับเรื่องแบบนี้แล้ว

[ สามีของฉันไม่ทำเรื่องพรรค์นั้นแน่! เธอจะต้องล่อลวงเขา! ด้วยหน้าตาสวยๆ นั้นล่ะสิ! ]

ใบหน้าของอโทราคัวเหมือนกับแมลงผสมกับมนุษย์ ถ้าเป็นผู้ชายก็คงจะชอบแบบเรน่าซะมากกว่า

และสเป็คของสามีเธอนี่มันยังไง? ผมชักจะสังหรณ์ไม่ดี

[ ถ้าจะพยายามเอาชนะฉันก็ให้มันใสสะอาดกว่านี้สักหน่อยสิ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามยังไงฉันก็ไม่แพ้หรอก ]

[ ว่าไงนะยะ!! ]

เรน่าหัวเราะขณะที่อโทราคัวกำลังหัวเสีย

สรุปเรื่องราวก็คืออดีตสามีของอโทราคัวดูเหมือนจะนอกใจไปหาเรน่าทำให้อโทราคัวโกรธ

ยิ่งฟังยิ่งปวดหัวแฮะ

ที่สำคัญเลย…. ผมสนที่ไหนเล่า

[ แบร่ แบร่!! ]

[ หน๊อยยย!!! ]

เรน่ามาแอบที่ข้างหลังผมหลังจากทำท่าล้อเลียนอโทราคัว

การต่อสู้ระดับต่ำตรงหน้าผมนี่มันอะไร

แล้วมันน่าเศร้านะที่เห็นอิมเมจแบบนี้ของเรน่านะ

[ ฟังให้ดีเรน่า! ฉันนี่แหละที่เป็นคนหลอกหล่อผู้กล้าแห่งแสงของเธอไปที่เขาวงกต!!! ฮุฮุฮุ ตอนนี้เขาคงกำลังมีความสุขกับลูกสาวของเลวิลรุสในเขาวงกตไปแล้ว ต้องขอโทษด้วยนะเรน่า! ]

อโทราคัวหัวเราะราวกับชนะแล้ว

[ งั้น… เรจิก็… ]

น้ำเสียงของเรน่าราวกับมีจิตสังหาร เธอยักคิ้วขึ้นขณะที่มองไปยังอโทราคัว

หัวใจของผมรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็นเรน่าแสดงออกแบบนั้น(โกรธเพื่อเรย์จิ)

ทุกครั้งเวลาที่เรน่าพูดถึงเรย์จิ… 

บางทีเธออาจจะเป็นห่วงเรย์จิมาตลอด แต่เพียงอดทนไว้ อดทนไว้ได้ดีเลยไม่ใช่เหรอ?

ผมนี่มันช่างน่าสมเพซที่ไม่ทันรู้สึกตัว ยังไงผมก็เป็นพวกรับรู้ความรู้สึกของผู้หญิงไม่เก่งอยู่แล้ว

ในกรณีนี้คงดีกว่าหากทำให้เรน่าสงบลง

[ โฮะ โฮะ โฮะ เสียใจเข้าไปสิเรน่า เสียใจให้มากกว่านี้อีก… อย่างเธอมันก็เหมาะกับเจ้าคนธรรมดาถือสัมภาระนั้นแล้ว!! ]

อโทราคัวชี้มาทางผมขณะที่หัวเราะ

เธอพูดและบอกว่าผมเป็นคนธรรมดา

ธรรมดา…? งั้นเหรอ? ก็นะ ผมมันเป็นพวกไร้ค่าที่ไม่รู้จักจิตใจผู้หญิงนี่นา

[ แล้วมันยังไงต่อ! บอกมาสิยะ!! ]

เรน่าตะโกนออกมา

[ โฮะโฮะโอะ ก็ได้ ฉันจะพูดให้ฟังอีกครั้ง! เธอน่ะเหมาะสมกับเจ้าคนอ่อนแอนั้นดีแล้ว แม้เจ้านั้นจะแต่งตัวดูดียังไงก็ยังสะบักสะบอม จงใช้ชีวิตที่เหลือกับเจ้าคนถือกระเป๋านั้นก็ถือว่าดีถมไปแล้วยะ!! ]

อโทราคัวชี้มาทางผม

ไม่เห็นต้องพูดกันขณะนั้นก็ได้

ผมอาจจะไม่ได้รู้ตัว แต่พอมาโดนพูดตรงหน้ามันก็เจ็บชะมัด

ผมเองก็พยายามแต่งตัวให้ดูดีแล้วนะ

ทั้งที่ทำความอาบน้ำสม่ำเสมอ สระผมก็แล้ว หมั่นฝึกร่างกายเพื่อไม่ให้อ่อน แต่แค่นั้นมันยังไม่พออีกเหรอ?

[ เธอบอกว่าเราเหมาะสมกัน… ?]

ไหล่ของเรน่ากำลังสั่น

ดูท่าเธอคงจะไม่ชอบที่โดนจับคู่กับผม ถึงจะอยู่ห่างไกลจากเรย์จิ แต่เธอก็ยังมีสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับเขาสินะ

ผมเป็นห่วงเลยมองไปที่ใบหน้าของเรน่า

…. เธอกำลังหัวเราะ?

[ เอ่อ… เรน่า? ]

ทำไมถึงได้ดูมีความสุขล่ะ

[ เดี๋ยวก่อนสิเรน่า! ทำไมเธอถึงได้หัวเราะกัน! รู้ตัวมั้ยว่าฉันลักพาตัวชายที่รักของเธอไป!! ]

[ อา ฉันเองก็เสียใจกับเธออยู่หรอกนะ แต่อโทราคัว… เธอยังกำลังเข้าใจผิดมหันต์ เสียใจจริงๆ ที่ตัวเองเกิดมาสวยและสามีเธอยังนอกใจด้วย ]

เรน่าพูดออกมาอย่างเย็นชาและหัวเราะ

 [ หน๊อยย! งั้นก็ได้! ฉันจะฆ่าเธอในตอนนี้ที่เธอไม่มีผู้คุ้มกันอยู่นี่ล่ะ! ]

[ ไม่มีคนคุ้มกัน…. เธอแน่ใจเหรอ? ถ้าเป็นอัศวินประจำตัวของฉันละก็อยู่ตรงนี้แล้วนี่ไง ]

เรน่าชี้มาที่ผม

ทั้งๆ ที่ผมไม่อยากมีส่วมร่วมกับการทะเลาะงี่เง่านี้เลยแท้ๆ

[ เฮอะ เจ้าคนคุ้มกันที่ดูอ่อนแอนั้นน่ะเหรอ! งั้นฉันจะฆ่าชายคนนั้นก่อนให้เธอดูเป็นขวัญตา! จงออกมา! ]

อโทราคัวยกมือขึ้น

จากนั้นก็มีเงาสองเงาโผล่มาจากด้านหลังของอโทราคัวและด้านหลังของพวกเรา

[ โกเล็ม? ]

มันเป็นโกเล็มเหล็ที่มีดาบถือไว้ในแขนทั้งสี่ข้าง ขนาดตัวประมาณ 2 เมตร

[ ใช่แล้ว นี่คือโกเล็มสำหรับต่อสู้ที่เทพเฮย์บอสสร้างขึ้นในฐานะผู้พิทักษ์เขาวงกต แต่โกเล็มพวกนี้แข็งแกร่งกว่าแม้จะใช้วัสดุแบบเดียวกันกับโกเล็มในเขาวงกตซะอีก ไม่ว่าพวกเธอสองคนจะดิ้นรนยังไงก็ไม่มีทางชนะแล้ว เทพธิดาแห่งสงคราม ]

อโทราคัวหัวเราะ

[ คิดว่าแค่นี้จะชนะฉันแล้วเหรออโทราคัว? ]

ใบหน้าของเรน่าไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย

[ ทำไม! ทำไม! ทำไมเธอถึงได้ไม่กลัว! ทั้งที่ไม่มีคนคุ้มกันสักคน มีแต่ชายที่ดูท่าทางไร้ประโยชน์อยู่คนเดียว แม้กระทั่งจะเรียกให้คนช่วยก็มีบาเรียอยู่! ทำไมถึงได้ไม่กลัวเลย ก็ช่างมันเถอะ พวกแกฆ่าผู้หญิงคนนั้นซะ! ]

โกเล็มสี่ตัวพุ่งเข้ามา

[ ช่วยไม่ได้นะ… ]

ผมบ่นอุบอิบขณะที่เรียกเกราะและดาบออกมา เกราะดำและดาบต้องสาปเชื่อมโยงกับตัวผมอยู่

ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนผมก็เรียกมันมาได้

[ อะไรกัน! อัศวินดำ!? ]

เมื่ออโทราคัวเห็นผมในเกราะอัศวินดำก็ส่งเสียงตกใจ

ผมตรงไปหาศัตรูตรงหน้าโดยไม่สนใจ

ผมใช้ดาบต้องสาปฟันโกเล็มตัวนึงแล้วจัดการอีกตัวต่อมา

ความแข็งของโกเล็มจะขึ้นอยู่กับวัสดุและความสามารถของผู้สร้าง ถึงนี่จะเป็นโกเล็มที่สร้างโดยเทพเฮย์บอสแต่ผมกลับไม่รู้สึกถึงความแข็งของมันเลย

นอกจากนี้โกเล็มยังเชื่องช้าทำให้อ่านการเคลื่อนไหวของดาบได้ง่าย จึงจัดการได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อยืนยันแล้วว่าโกเล็มตรงหน้าสองตัวคงขยับไม่ได้ไปสักพัก ผมก็กระโดดไปที่ด้านหลังอย่างรวดเร็วและจัดการโกเล็มที่ด้านหลังอีกสองตัว

โกเล็มใช้ดาบทั้งสี่ฟันจากด้านทะแยงมุมด้านบน

นั่นคงจะเป็นดาบเวทมนตร์แต่สำหรับดาปีศาจที่ได้มาจากโมเดส ตัดมันได้สบายๆ อยู่แล้ว

จากนั้นผมก็ขยับตัวไปที่โกเล็มที่ข้างหลังด้านขวาของเรน่า

โกเล็มใช้ดาบทั้งสี่ของมันฟันใส่เมื่อเห็นผม ผมตัดแขนทั้งสี่ข้างและหัวของมันออก

จากนั้นโกเล็มจากด้านหน้าสองตัวก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง

เพื่อหลีกเลี่ยงการเปลืองแรงเลยใช้ดาบฟันกวาดมันรวดเดียวสองตัว

และแล้วโกเล็มทั้งสี่ตัวก็กลายเป็นเศษโลหะ

โดยเรน่านั้นไม่ได้ขยับแม้แต่ก้าวเดียว นี่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมไม่คอยปกป้องเธอล่ะเนี่ย?

บางทีเธออาจจะไว้ใจผม แต่อย่างน้อยก็น่าจะขยับสักหน่อยนะ

[ บ้าน่า… จัดการโกเล็มได้ในพริบตา… โกหก ]

เสียงของอโทราคัวกำลังสั่น

ถึงจะไม่ดีต่ออโทราคัว แต่พวกโกเล็มมันอ่อนแอเกินไปจริงๆ

[ น่าเศร้าจังนะอโทราคัว แต่อัศวินของฉันน่ะแข็งแกร่ง ]

เรน่าหัวเราะฟุฟุฟุ

[ บัดซบ! งั้นเจอเส้นใยของฉันที่ตัดได้แม้แต่เหล็กหน่อยเป็นไง! ]

ขณะที่อโทราคัวแกว่งแขน กำแพงจากอาคารรอบๆ ก็แตกออกเป็นชิ้นๆ 

ผมเข้าใจดีว่าเธอใช้ใยแบบพิเศษดักเอาไว้

[ โกหกใช่มั้ย!? แม้แต่เส้นใยของฉัน?!! ]

[ ขอโทษด้วยนะ พอดีมันขวางทางนะ … ]

ผมตัดเส้นใยเพื่อไม่ให้เรน่าได้รับบาดเจ็บ

ถึงเรน่าจะขยับเส้นใยที่มือยังไง ก็ทำไม่ได้หรอก

[ อะไรกัน… ผู้ชายที่ดูอ่อนแอคนนั้น จะเป็นอัศวินดำไปได้ยังไง! ]

จะบอกอ่อนแอก็ไม่ได้หรอกนะ แต่เราก็รอดมาได้เพราะความเข้าใจผิดของเธอ

อโทราคัวคงไม่เห็นผมเป็นศัตรูเลยสักนิด เธอเลยไม่ระวังตัวคิดว่าผมไม่ใช่คนที่ต้องระมัดระวังอะไร

แต่มันสายไปแล้ว ผมใช้เปลวไฟสีดำ

เผาเส้นใยจนหมด

อโทราคัวดูเหมือนกำลังจะหนี

[ ขอโทษด้วยนะ! แต่ไม่ยอมให้หนีได้หรอก! พันธนาการโลหิตดำ!! ]

จากนั้นก็มีเวทมนตร์กุหลาบสีดำปรากฏขึ้นและรัดร่างกายของอโทราคัวไว้

[ บ้าน่า! นี่มันเวทมนตร์ของซัลคิซิส!! ]

อโทราคัวบอกว่านี่เป็นเวทมนตร์ที่ซัลคิซิสเคยใช้ตอนที่อยู่ในอาณาจักรร็อก

แต่ผมเรียนเวทนี้มา

และยิ่งอโทราคัวรู้จักซัลคิซิสผมยิ่งปล่อยให้เธอหนีไปไม่ได้เด็ดขาด

[ ฉันชนะแล้วอโทราคัว ]

เรน่าก้มลงมองอโทราคัว

[ นี่มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด… อย่างเธอจะไปร่วมมือกับราชาปีศาจ… ]

แม้อโทราคัวจะคร่ำครวญยังไงก็หนีไปจากหนามกุหลาบของผมไม่ได้

แน่นอนเรน่าไม่ได้รวมมือกับโมเดสหรอก แต่มันออกจะอธิบายลำบากหน่อย

[ โชคไม่ดีเลยนะอโทราคัว ตอนนี้การคุ้มกันตัวฉันน่ะปลอดภัยยิ่งกว่ามีนางฟ้านับพันรายล้อมซะอีก ]

เรน่าหัวเราะ

 

 

 

 

 

◆ สตรีแห่งดาบชิโรเนะ

เมื่อเราพบกับพวกคุโรกิ เราก็ได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในอาเรียดิน่า

[ นั่นมันเรื่องจริงเหรอ… ที่ว่าเธอไม่ใช่มนุษย์… ไม่ทันสังเกตเลยสักนิด ]

[ ค่ะ ดูเหมือนผู้หญิงคนนั้นจะปลอมตัวมาค่ะคุณหนู… ]

[ งั้นก็แปลว่า… เรื่องของพวกเราโดนอีกฝ่ายรู้ทันหมดเลย… ]

เราพยักหน้าให้กับคำพูดของคุณเคียวกะ

อโทราคัวปลอมตัวได้อย่างแนบเนียนมาก จนไม่ได้สังเกตเลยว่าเธอไม่ใช่มนุษย์

เป็นอันตรายหากจะปล่อยเธอไว้ จึงดีกว่าหากจับตัวไว้

[ แต่เรน่ารู้สินะ? ถึงได้บอกให้คุโรกิอยู่ด้วยกันที่เทสซาเซีย? ]

เรน่าไม่เหมือนเรา เธอคงจะรู้ตัวอยู่แล้ว เลยบอกให้คุโรกิอยู่ด้วยกัน

ใช้ตัวเองเป็นตัวล่อเพื่อหลอกล่ออโทราคัวที่ซ่อนตัวอยู่ออกมา เป็นแผนที่ดีจริงๆ

ถ้าไม่ทันสังเกตอโทราคัวก็จะแอบซ่อนตัวอยู่ต่อไป

ถ้ารู้ตัว อโทราคัวก็อาจจะหนีไปก่อนก็ได้

ดังนั้นเพื่อหลอกศัตรูจะต้องหลอกพรรคพวกให้ได้ก่อน อย่างนี้เองสินะ

[ เอ๋? ]

เมื่อฉันพูดอย่างนั้น เรน่าก็ทำสีหน้าแปลกใจ

[ เอ๊ะ? ]

หรือมันจะไม่ใช่? แล้วทำไมเรน่าถึงอยากอยู่กับคุโรกิสองต่อสองล่ะ?

[ ชะ ใช่แล้วค่ะ! ถูกต้องที่สุดเลยชิโรเนะ! ]

[ ว่าแล้วเชียว ]

ฉันพยักหน้า

เท่านี้เหตุผลที่คุโรกิกับเรน่าอยู่ด้วยกันก็ไขกระจ่างแล้ว

ก็คนสวยอย่างเรน่าไม่มีทางไปออกเดทกับคุโรกิได้หรอกเนอะ

ฉันนี่งี่เง่าจัง ที่เผลอคิดแบบนั้นไปนิดหน่อย

[ แล้วผลการตรวจสอบเป็นยังไงบ้างล่ะ? ]

[ เรื่องผลการตรวจสอบคงต้องไปฟังกับคุณเรจิน่าค่ะ แต่ตอนนี้เธอน่าจะอยู่กับคุโรกิกับพวกลิซาร์ดแมนน่ะ ]

ตอนนี้คุณเรจิน่ากำลังรายงานผลการตรวจสอบให้คุโรกิในห้องแยกกับพวกลิซาร์ดแมน

ลิซาร์ดแมนทำตามคำสั่งของคุโรกิเท่านั้น

จึงยากที่จะมารายงานตอนที่อยู่กับพวกเรา ดังนั้นพวกเขาเลยไปคุยกันในห้องที่แยกออกไป

ฉันไม่ได้ยินรายละเอียดจากเรจิน่าหรอก แต่ดูเหมือนเธอจะพบวิธีเข้าไปในเขาวงกตได้แล้ว

คนมากมายกำลังออกเคลื่อนไหวเพื่อช่วยพวกเรย์จิ แม้แต่เรย์น่าที่เป็นเทพธิดาก็พยายามเต็มที่เพื่อช่วยเรย์จิ

และคุโรกิเองยังมา แบบนี้พวกเรย์จิจะต้องปลอดภัยแน่

[ รอก่อนนะทุกคน ฉันจะไปช่วยเดี๋ยวนี้แล้ว ]

 

◆  อัศวินดำคุโรกิ

[ พยายามได้ดีมากเรจิน่า พวกนายด้วยนะ ]

[ ไม่เลยค่ะ แม้จะยากลำบากเพียงใดก็ขอแค่ได้รับใช้นายท่านก็พอแล้ว ]

[ เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ ]

เรจิน่าและลิซาร์ดแมนก้มหัวให้ผม

ต้องขอบคุณเรจิน่าที่ทำให้ผมเข้าใจภูมิศาสตร์รอบๆ เขาวงกตแล้ว

เขาวงกตชั้นที่ห้านั้นไม่สมบูรณ์เพราะไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นคุกตั้งแต่แรก

ถ้าเอามารวมกับแบบแปลนที่ได้จากเทพเฮย์บอสและข้อมูลที่ได้จากอโทราคัวก็พอจะจับทางได้แล้ว

[ นี่ อัศวินดำ! ฉันเองก็บอกเรื่องที่รู้ไปหมดแล้ว ปล่อยฉันไปได้แล้ว! ]

อโทราคัวตะโกนเพื่อขู่ผม

อโทราคัวเองก็บอกอะไรมาจนหมดเปลือกแล้ว

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ให้คำสัญญาว่าจะจงรักภักดีกับเทพที่คุมเขาวงกตนี้อยู่เลย

[ ต้องขอบคุณที่บอกข้อมูลมาอย่างซื่อตรงแล้วกัน แต่ผมปล่อยคุณไปไม่ได้หรอก เพราะต้องส่งคุณไปที่นากอล ]

เมื่อได้ยินคำพูดของผม อโทราคัวก็ดูกังวล

ผมไม่ส่งตัวเธอให้เรน่าหรอก จงขอบคุณซะเถอะ ไม่งั้นอโทราคัวอาจจะต้องเจอกับเรื่องโหดร้ายก็ได้

และผมก็ไม่คิดว่าโมเดสจะทำอะไรโหดร้ายหรอก ดังนั้นจึงตัดสินใจจะส่งเธอไปที่นากอล

ดีล่ะ รวบรวมข้อมูลเสร็จแล้ว พรุ่งนี้เข้าไปในเขาวงกตกันเลย

ถึงในใจผมจะไม่อยากช่วยเรย์จิเลยก็ตามเถอะ

ผมคิดอยู่ในใจ

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 58"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์