อัศวินดำ - ตอนที่ 63
◆ ราชาปีศาจโมเดส
ข้าไปพบกับเฮย์บอสซึ่งเป็นช่างตีเหล็กที่ห้องหนึ่งในปราสาทราชาปีศาจ
[ ดูเหมือนนัคจะกลับมาอย่างปลอดภัย ถ้างั้นก็ดีแล้วล่ะโมเดส ]
เฮย์บอสรินไวน์สีทองลงในแก้วสองใบ ซึ่งเป็นไวน์ที่เฮย์บอสเอามาจากเอลีอัส
มันเป็นไวน์สีทองที่ทำจากผลไม้สีทองของต้นทองคำ
เป็นไวน์ที่เนคเทอร์-เทพแห่งหล้าและอาหารให้มา
เมื่อดื่มเข้าไปก็รู้สึกถึงอาการเมา รสชาติของไวน์กระจายไปในปาก
[ อา เฮย์บอส แด่ความสำเร็จของเซอร์ไดร์ฮาร์ด ]
เซอร์ไดร์ฮาร์ดไล่ตามไปจนกระทั่งในเขาวงกต
จากที่นัคเล่ามา ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ต่อสู้กับผู้กล้า
ข้าเองก็พอใจกับผลลัพธ์ดี
หลังจากนั้น นัคเคลื่อนย้ายกลับมาที่ปราสาทและมาหาข้าทันที
และเขาก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
[ แต่มันก็เป็นการช่วยผู้กล้าด้วยจะดีงั้นเหรอ? ]
[ เอาน่า ความปลอดภัยของนัคถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แค่นี้ก็ดีแล้วล่ะ ]
มีเสียงตำหนิเพราะเขาไปช่วยผู้กล้าไว้
แต่ข้าก็จัดการปิดปากทั้งหมดไว้แล้ว
เพราะเซอร์ไดร์ฮาร์ดพยายามชวยนัคอย่างสุดความสามารถ
ดังนั้นการกระทำของเขาไม่ควรถูกตำหนิเลย
[ ไม่เป็นไร … เรื่องนี้ต้องขอบคุณอัศวินดำล่ะนะ ]
ต้องขอบคุณพลังของเซอร์ไดร์ฮาร์ด ทำให้ตอนนี้เขาวงกตแห่งนั้นกลายเป็นของเฮย์บอสแล้ว
มิโนทอร์ที่อยู่ในเขาวงกตเองก็หนีไปกันหมดทันทีที่เลวิลรุสหายไป
เขาวงกตแห่งนั้นจะต้องถูกเหล่าคนแคระปิดผนึกไว้
เพื่อไม่ให้มีปีศาจเข้าไปอาศัยอยู่หรือออกไปข้างนอก
[ พอกลับมาต้องขอบคุณเซอร์ไดร์ฮาร์ดสักหน่อย แต่ตอนนี้เขาออกไปข้างนอกสักพัก ]
ดูเหมือนเซอร์ไดร์ฮาร์ดจะไปที่ไหนสักแห่งกับคุนะ
ข้าได้รับรายงานจากนัคมา ซึ่งก็มีข้อความที่ฝากมาจากเซอร์ไดร์ฮาร์ด ว่าเขารีบไปหาคุนะทันที
ข้าคิดว่าเซอร์ไดร์ฮาร์ดเป็นคนไว้ใจได้
แทบไม่คิดเลยว่าเซอร์ไดร์ฮาร์ดจะทรยศได้ ทุกคนกังวลมากเกินไปแล้ว
[ ถึงอย่างนั้นก็ไม่นึกเลยนะว่าเรน่าจะร่วมมือกับอัศวินดำเพื่อช่วยคนรักของตัวเองออกมา ]
อย่างที่เฮย์บอสบอก ข้าเองก็ไม่นึกว่าเซอร์ไดร์ฮาร์ดจะร่วมมือกับเรน่าเพื่อช่วยนัคออกมา
เรน่าถึงขนาดยอมจับมือกับศัตรูเพื่อให้เซอร์ไดร์ฮาร์ดช่วยผู้กล้าแห่งแสงที่เป็นคนรัก
ตอนที่ข้าได้ยินครั้งแรก ข้าก็คิดว่าหูฝาดไปรึเปล่านะ แต่นั่นคงเป็นปฏิกิริยาของหญิงสาวที่อยู่ในห้วงความรัก
[ เทพธิดาที่หยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างเรน่าถึงขนาดยอมก้มหัวให้เซอร์ไดร์ฮาร์ดเชียวนะ… ข้าล่ะไม่เข้าใจผู้หญิงคนนั้นเลย… เฮย์บอส… ]
[ ใช่แล้ว… ]
เฮย์บอสพยักหน้า
[ แต่ยังมีเรื่องที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้นอยู่อีก ]
[ หมายถึงราชินีอสรพิษเดียดอนน่ารึ? ]
ข้าพยักหน้า
ข้อมูลที่ได้จากเฮย์บอส
บอกข้าว่าเดียดอนน่าเป็นคนที่มาพาเลวิลรุสหนีไป
[ ใช่ เดียดอนน่าที่ซ่อนตัวมาจนกระทั่งถึงตอนนี้ แต่จู่ๆ กลับปรากฏตัวขึ้น เห็นได้ชัดเลยว่าเธอพยายามจะดึงเหล่าเทพที่เป็นกลางไปอยู่ข้างเดียวกัน… นี่พวกนั้นมีแผนการอะไรกันแน่… ? ]
เดียดอนน่าผู้มีสายเลือดของเทพแห่งการทำลายล้างเคยบอกไว้ว่าจะฆ่าลูกหลานที่มีสายเลือดของมิน่าให้หมด
ซึ่งเหล่าเทพเกือบทั้งหมดต่างมีสายเลือดของมิน่า
ดังนั้นเธอจึงถือเป็นศัตรูของข้าโมเดส
เดียดอนน่าคงคิดจะก่อสงครามกับเอลีอัสอีกครั้งก็ได้
[ แต่เทพธิดาแมงมุมก็โดนอัศวินดำจับมาได้ไม่ใช่เหรอ? เป็นไปได้ว่าเธออาจจะรู้อะไรบ้างอย่างก็ได้? ]
ข้าส่ายหัวให้คำพูดของเฮย์บอส
[ แต่อโทรันคัวกลับไม่รู้อะไรเลย… ดูเหมือนแผนการใหญ่ๆ พวกนั้นจะไม่ได้บอกเธอ ]
ตอนนี้อโทรันคัวถูกขังอยู่ในห้องหนึ่งในปราสาท ข้าเองก็ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับเธอหลังจากนี้
ซึ่งเรื่องของสามีที่หายไปของอโทรันคัวที่หายไป ข้าเองก็พอจะรู้แล้วว่าเขาอยู่ที่ไหน
สามีของเธอคือเทพแห่งทะเลทรายผู้มีหางเป็นพิษ หากเขาไม่ได้ย้ายไปที่ไหน ตอนนี้ก็น่าจะอยู่ที่วิหารทะเลทราย
จากข้อมูลของอโทรันคัวตอนนี้ดูหมือนเธอจะหย่ากับสามีแล้ว
อาจเป็นเรื่องที่ดีกว่าหากไม่บอกอะไรเธอ
[ ไม่รู้อะไรเลยงั้นสินะ… ]
[ ใช่ ข้าคิดว่าอย่างนั้น… เธอคงไม่รู้อะไรจริงๆ ]
ข้าเองก็นึกไม่ออกว่าพวกนั้นมีแผนการอะไร
จากนั้นข้าก็ดื่มไวน์ผลสีทองกับเฮย์บอสไปอย่างเงียบๆ
[ ถ้างั้นมาเปลี่ยนเรื่องคุยกันเถอะ จะว่าไปแล้วโมเดส เนคเทอร์บอกว่าอยากได้ผลอัญมณีนะ ]
เฮย์บอสพูดขณะที่ดื่มไวน์
[ เพราะอย่างนั้นถึงเอาไวน์ซึ่งทำจากผลสีทองเพื่อแลกผลอัญมณีสินะ? ]
[ ก็คงอย่างนั้น ]
เฮย์บอสหัวเราะขณะที่ยกแก้วขึ้น
ผลอัญมณีเป็นผลไม้ที่มีผลเหมือนอัญมณีและหาได้เพียงที่นากอลเท่านั้น
แต่มันก็เป็นผลไม้ไม่ใช่อัญมณีจริงๆ
มันถูกเรียกว่าผลอัญมณีก็เพราะความสวยงามและโปร่งใส
ผลอัญมณีไม่ค่อยออกผลนักหรอก แต่ก็ยังดีที่มันไม่เน่าเสียจึงเก็บไว้ได้ตลอดกาล
ที่ปราสาทข้าเองก็เก็บผลอัญมณีไว้มากมาย
[ งั้นข้าจะเอาผลอัญมณีที่เก็บอยู่ในปราสาทให้แล้วกันและจะให้ราชินีแซลมอนรมควันด้วย ]
[ ราชินีแซลมอนรมควัน? ]
[ ใช่แล้ว เซอร์ไดร์ฮาร์ดทำด้วยตัวเองเลยนะ มันอร่อยมากและเข้ากันกับเหล้าได้อย่างดีเลยล่ะ ]
[ อืมม งั้นคงต้องระวังอย่าให้ฟานาเคียรู้เข้าล่ะ เพราะหากฟานาเรียรู้เรื่องนี้เฟย์เรียก็คงจะรู้ด้วย ]
ฟาราเคียคือเทพธิดาแห่งการรักษาและสมุนไพรซึ่งเป็นภรรยาของเนคเทอร์
นอกจากนี้ฟาราเคียยังเป็นลูกสาวของเทพธิดาเฟย์เรีย-เทพธิดาแห่งการแต่งงานและบุตร อีกทั้งยังเป็นพี่สาวของโทโทน่าเทพธิดาแห่งความรู้และหนังือ
และเฟย์เรียก็เกลียดข้า
เพราะฟานาเคียใกล้ชิดกับแม่ดังนั้นถ้าเธอรู้ แม่ของเธอก็รู้ด้วย
ถ้ารู้ว่าได้ผลอัญมณีและราชินีแซลมอนรมควันจากข้าคงแย่แน่
และเฟย์เรียก็จะไปตำหนิเนคเทอร์
แบบนั้นคงน่าสงสารเนคเทอร์
[ เข้าใจแล้ว ข้าจะบอกกับเนคเทอร์ว่าอย่าไปบอกเฟย์เรีย ไม่งั้นเทพธิดาทั้งสองคนอาจจะอาละวาดก็ได้ ]
เฮย์บอสพูดขณะที่ขมวดคิ้ว
[ เหล่าเทพของเอลีอัสนี่ยุ่งยากจังนะ… ]
[ มันก็ทุกคนนั้นแหละ ]
จากนั้นข้ากับเฮย์บอสก็หัวเราะ
สงสัยจริงๆ ว่าจากนี้จะเป็นยังไง
เดียดอนน่าเกลียดเทพของเอลีอัสมาก
บางทีในอนาคต เอลีอัสอาจจะต้องเจอเรื่องยากลำบากเข้าแล้วก็ได้
ข้าคิดเช่นนั้นขณะที่มองไปยังทิศที่เอลีอัสตั้งอยู่
◆ เทพธิดาแห่งปัญญาและชัยชนะ
[ กลับมาแล้วค่ะท่านเรน่า ]
เนียร์หัวหน้าของเหล่าวาลคีเรียกลับมาหลังจากที่เพิ่งไปหาฟานาเคียมา
เพราะเหล่าวาลคีเรียกลายเป็นหินกันจึงต้องฝากให้ฟานาเคียช่วย
[ ขอโทษด้วยนะที่ก่อปัญหาให้นะเนียร์ แล้วเด็กพวกนั้นพอจะรักษาได้มั้ย? ]
ฟานาเคียเป็นเทพธิดาแห่งการรักษาและสมุนไพร
ด้วยพลังในการรักษาของเธอจึงน่าจะทำให้เหล่าวาลคีเรียที่กลายเป็นหินกลับเป็นปกติได้
[ ค่ะ จากที่ท่านฟานาเคียเล่ามา ดูเหมือนเพราะแสงจากโล่ของท่านเรน่าทำให้พอมีความเป็นไปได้ที่จะรักษาให้หายเป็นปกติได้ค่ะ ]
เนียร์ก้มหัวขณะที่รายงาน
[ ถ้ารู้อย่างนั้นก็ค่อยโล่งใจหน่อย ]
ฉันนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องกว้างขวางและเหม่อมองไปยังท้องฟ้า
[ นี่ … ท่านเรน่าคะ… ]
เนียร์มองมาที่ฉันอย่างจดจ้อง
[ มีอะไรเหรอเนียร์? ]
[ เอ่อ… ร่างกายท่าน… ]
สายตาของเนียร์หันไปมองที่ท้องของฉัน
ฉันมองที่ท้อง
ท้องของฉันเริ่มโตขึ้นนิดหน่อยแล้ว
ถ้าจะปิดบังด้วยการใส่เสื้อผ้าหนาๆ ก็ยังได้อยู่ แต่ตอนนี้ก็เริ่มจะยากแล้ว
[ ไม่เป็นไรหรอกเนียร์ แต่ตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะที่จะออกไปข้างนอกนะ ]
[ พวกเราไม่เป็นไรหรอกค่ะท่านเรน่า โปรดรักษาสุขภาพเถอะค่ะ ]
[ ฮะฮะ งั้นฉันฝากที่เหลือด้วยนะเนียร์ ]
[ ค่ะ ท่านเรน่า ที่เหลือให้พวกเราจัดการเองเถอะค่ะ ]
เนียร์ก้มหัวและออกจากห้อง
คงเป็นการดีกว่าหากฉันอยู่ในห้องเงียบๆ
แต่ฉันก็ยังกังวลถึงการเคลื่อนไหวของราชินีอสรพิษเดียดอนน่าอยู่
แต่ร่างกายแบบนี้ คงทำอะไรไม่ได้แน่
อย่างน้อยตอนนี้ก็รายงานเรื่องของเดียดอนน่าให้โอดิสรู้ไปแล้ว
ที่เหลือก็ให้โอดิสจัดการ
แต่โอดิสเองก็ใช่ว่าจะทำอะไรตามใจได้
เพราะยุ่งกับการปกป้องเอลีอัสอยู่
หวังว่าโทรุสเทพแห่งพลังและการต่อสู้จะช่วยเราอีกสักแรงนะ
แต่แค่พลังของโทรุสคงจะเอาชนะเดียดอนน่าไม่ได้
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเทพของเอลีอัสหยุดเดียดอนน่าไว้ไม่ได้แล้ว
จังหวะไม่ดีเลยนะ
แม้ว่าจะยังมีเรย์จิอยู่แต่ก็หวังพึ่งอะไรไม่ได้มาก
[ อา… คิดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ]
ฉันสัมผัสที่ท้อง
หวังว่าเด็กคนนี้จะเกิดมาเร็วๆ นะ
เพราะเด็กคนนี้จะต้องเป็นผู้กล้าที่แข็งแกร่งและก้ามข้ามเรย์จิไปได้แน่นอน
เพราะเป็นลูกของฉันกับคุโรกิไม่มีทางอ่อนแออยู่แล้ว
หากเด็กคนนี้เกิดมาและเติบโตขึ้น แม้จะเป็นเดียดอนน่าก็ไม่ใช่ศัตรูหรอก
[ เกิดมาเร็วๆ นะ ผู้กล้าที่น่ารักของแม่ ]
◆ นักปราชญ์ผมดำจิยูกิ
[ หืม… แม่มดสีขาวเป็นคนที่ควบคุมเขาอยู่งั้นสินะ ]
จากนั้นฉันก็ฟังเรื่องที่เกิดขึ้นในอาณาจักรเวรอสและอาณาจักรอัลโกลี่จากชิโรเนะ
[ ใช่แล้วค่ะคุณจิยูกิ ดูเหมือนคุโรกิเสียสติไปเพราะโดนแม่มดสีเงินควบคุมอยู่… ที่คุโรกิอยู่ฝ่ายเดียวกับราชาปีศาจก็เพราะผู้หญิงคนนั้นค่ะ ]
ชิโรเนะพูดโดยใส่ความรู้สึกไปด้วย
ฉันไม่รู้เลยว่ามีแม่มดอยู่ด้วย
และดูเหมือนเธอจะเป็นลูกสาวของราชาปีศาจอัปลักษณ์นั้น ดังนั้นเธอจะต้องน่าเกลียดแน่นอน
พวกเรากลับมาที่อาเรียดิน่าและได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติจากนายพลคลาส
เรย์จิช่วยผู้คนที่ถูกลักพาตัวในเขาวงกตออกมาได้และถูกเรียกว่าผู้กล้าแห่งอาเรียดิน่า แน่นอนในฐานะที่เรย์จิได้ช่วยคนมากมายไว้ พวกเราจึงได้รับสถานะพลเมืองกิตติมศักดิ์ของอาเรียดิน่ามา
หากมีสถานะพลเมืองก็จะสามารถเข้าออกอาเรียดิน่าได้ตามสบาย
และเรย์จิก็ได้รับฉายาผู้กล้าอย่างเป็นทางการแล้ว
ชื่อเสียงของเรย์จิ ผู้กล้าแห่งแสงได้รับการรับรองจากอาเรียดิน่าและดังไปทั่วทวีปแถบตะวันตก
จากนี้ไปการทำอะไรต่อมิอะไรในฝั่งตะวันตกคงจะง่ายขึ้นเยอะ
แต่ฉันยังกังวลเรื่องของเทราบอส รองประธานสมาคมผู้ใช้เวทอยู่นิดหน่อย
เพราะเขาหายตัวไป
บางทีเพราะเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับอโทราน่าจึงได้หนีไป
แต่ด้วยเหตุนั้น เราจึงไม่ได้รางวัลอะไรจากสมาคมผู้ใช้เวทเลย
นอกจากนี้เรย์จิยังถูกร้องขอให้เป็นสามีของราชินียูเลียและขึ้นเป็นราชาแห่งอาณาจักรพิซิเพียร์
แน่นอนว่าเรย์จิปฏิเสธ มีอีกหลายประเทศที่อยากให้เรย์จิเป็นราชา
แต่หากเป็นราชาก็จะไปไหนจากประเทศนั้นไม่ได้
นั่นคือเหตุผลที่ปฏิเสธ เพราะการเป็นราชามันมีแต่ปัญหาเต็มไปหมด
เรย์จิปฏิเสธข้อเสนอของยูเลียและกลับไปที่วิหารเรน่าในอาเรียดิน่าเพื่อพูดคุยกันต่อว่าจะทำยังไงต่อจากนี้
แน่นอนว่าเป็นเรื่องของคุโรกิ เพื่อนสมัยเด็กของชิโรเนะ
[ แต่คุณชิโรเนะ คุณคุโรกิเองก็มาช่วยพวกเราพร้อมกับเรน่า ดังนั้นเขาเองก็ยังไม่ได้ถูกควบคุมอย่างสมบูรณ์ใช่มั้ยคะ? ]
ริโนะพูดถูก
ดูเหมือนเขาจะยังไม่ได้โดนควบคุมโดยสมบูรณ์แบบ
ด้วยเหตุนั้นเขาถึงได้ช่วยเรจิน่า
นอกจากนี้ดูเหมือนความจำจะยังไม่ได้ถูกลบไป
แบบนี้ก็ยังพอมีทางช่วยได้อยู่
[ มันก็ใช่อยู่หรอก… ]
[ ต้องไม่เป็นไรแน่ค่ะคุณชิโรเนะ ถึงตอนแรกจะเป็นศัตรูกัน งั้นทำไมเขาถึงมาช่วยพวกเรากันล่ะคะ นั่นก็เพราะในใจของเขาก็คงอยากเป็นเพื่อนกับเราอยู่ สุดท้ายแล้วคุณคุโรกิจะต้องมาอยู่ฝ่ายเดียวกับเราแน่ค่ะ ไม่มีอะไรต้องห่วงหรอก ] (คิดว่านี่เป็นดราก้อนบอลที่สุดท้ายตัวร้ายจะมาเป็นพวกเดียวกันรึไงห๊ะ!)
นาโอะพูดเข้าข้างตัวเอง แต่ฉันก็ไม่เข้าใจเหตุผลนั้นอยู่ดี
[ แต่ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะคะ… เพราะเขาทำร้ายเรย์คุง ]
ซาโฮโกะพูดเพราะไม่ชอบใจในตัวเขา
แน่นอนว่าเรย์จิเคยเกือบตายมาแล้ว ดังนั้นสำหรับซาโฮโกะการที่จะให้ยอมรับเขาคงเป็นไปไม่ได้
[ คุณซาโฮโกะ! แต่นั่นเป็นเพราะแม่มดสีเงินนะคะ! ฉันเชื่อว่าที่จริงแล้วคุโรกิเองก็ไม่อยากทำแบบนั้นแน่ๆ !! ]
ชิโรเนะพยายามเถียงกลับ
ชิโรเนะเชื่อว่าเขาไม่ได้ตั้งใจคิดจะทำร้ายเรย์จิเลย
แน่นอน มันอาจจะจริงก็ได้
แต่เรย์จิล่ะคิดยังไงกับเขา?
จะยอมรับเขาเป็นพวกเดียวกันได้งั้นเหรอ?
ถ้าเรย์จิไม่ยอมรับเขา การที่พวกเราจะช่วยเขาก็จะยากยิ่งขึ้นไปอีก
[ ใจเย็นลงก่อนค่ะคุณชิโรเนะ… มันเป็นธรรมดาของคุณซาโฮโกะที่จะรู้สึกแย่กับเขา เพราะเรย์จิคุงเกือบถูกเขาฆ่านี่ค่ะ แต่นั่นมันก็เพราะเขาถูกควบคุมอยู่นะคะ]
[ ก็จริงค่ะ… ต้องขอโทษด้วยค่ะคุณชิโรเนะ ]
[ ไม่หรอก ยังไงเรื่องที่คุโรกิทำให้เรย์จิเกือบตายก็เป็นเรื่องจริง… ]
ทั้งสองคนก้มหัวให้กัน
ซาโฮโกะเป็นคนที่อ่อนโยน แต่บุคลิกของเธอจะเปลี่ยนไปนิดหน่อยถ้าเป็นเรื่องของเรย์จิ
และชิโรเนะเองก็เหมือนกัน ที่บุคลิกจะเปลี่ยนไปหากเป็นเรื่องของเพื่อนสมัยเด็ก
[ หืม ไม่รู้มาก่อนเลยว่าราชาปีศาจมีลูกสาวด้วย คงต้องตรวจสอบเรื่องของราชาปีศาจด้วยแล้ว ]
แม่มดสีเงินคนนั้นเป็นลูกสาวของราชาปีศาจ
แต่จากข้อมูลไม่เห็นจะรู้มาก่อนเลยว่าราชาปีศาจมีลูกสาว เพราะเขาไม่น่าจะมีภรรยาด้วยซ้ำ
[ ไม่คิดเหมือนกันว่าราชาปีศาจจะมีลูกสาว… ]
เรย์จิทำหน้าขยะแขยง
เราเคยเห็นราชาปีศาจมาแล้วครั้งนึงจากภาพเวทมนตร์
ตัวเขาทั้งน่าเกลียดน่ากลัว
ลูกสาวของราชาปีศาจจะหน้าตาน่าเกลียดขนาดไหนกันนะ?
อย่างน้อยที่สุดเรย์จิก็คิดไปแล้วว่าเธอคงน่าเกลียดมากแน่
แน่นอน ฉันไม่คิดว่าจะมีเด็กสาวน่ารักที่เกิดมาจากราชาปีศาจอัปลักษณ์ขนาดนั้นได้หรอก
ที่รู้จากชิโรเนะ เธอยังเป็นคนไม่ดีด้วย
นั่นคือเหตุผลที่เราสรุปว่าเธอต้องน่าเกลียดแน่นอน
[ แล้วฉันยังมีเรื่องที่อยากรู้อีกค่ะ คุณชิโรเนะ ]
[ เรื่องอะไรเหรอนาโอะจัง? ]
[ เรื่องแม่มดสีเงินคนนั้นก็น่ากังวล แต่คนที่มาช่วยคุณวัวออกไป คนที่ขี่นกตัวนั้นอยู่ เราเคยเจอกับเขามาก่อนที่ห้องใต้ดินของอาณาจักรร็อกค่ะ ]
นาโอะพูดด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว
ทั้งฉันและนาโอะต่างจ้องไปที่ชายสวมหน้ากากที่อยู่บนนกยักษ์ร็อก
[ ฉันเองก็สงสัยเหมือนกัน… พวกเขาเป็นใครกันแน่? แล้วเทพปีศาจเลวิลรุสไม่ใช่คนของกองทัพราชาปีศาจไม่ใช่เหรอ? ]
ฉันถามชิโรเนะ
เพราะปีศาจทั้งโลกนี้น่าจะอยู่ใต้การควบคุมของราชาปีศาจ ถ้างั้นแล้วเทพปีศาจเองก็อยู่ใต้อาณัตของราชาปีศาจด้วยล่ะสิ
[ เอ่อ.. ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน… แต่เทพปีศาจดูจะไม่ใช่คนของกองทัพราชาปีศาจหรอกนะ เพราะได้ยินจากเรน่าว่า เมื่อก่อนเขาเคยต่อสู้กับราชาปีศาจจนหนีเข้าไปในเขาวงกต ]
ฉันประหลาดใจกับคำพูดของชิโรเนะ
[ เรื่องนั้นจริงเหรอคะ คุณชิโรเนะ!? ]
ฉันเอาหน้าไปใกล้ชิโรเนะ
[ ก็ได้ยินมาแบบนั้นล่ะนะ… จะทำอะไรนะคะคุณจิยูกิ? ]
ชิโรเนะดูเหมือนจะไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองพูดเรื่องที่ร้ายแรงออกมา
[ ราชาปีศาจกับเทพปีศาจไม่ใช่พวกเดียวกัน! นี่เป็นข้อมูลสำคัญมากเลยนะคะรู้มั้ย!! ]
เมื่อฉันอธิบาย ชิโรเนะก็ทำสีหน้าประหลาดใจ
ในที่สุดดูเหมือนเธอเองก็จะรู้ตัวแล้ว
ตามที่ฉันได้รู้มา ผู้สร้างโลกนี้ก็คือเทพโอกิสกับเทพธิดามิน่า
เทพผู้สร้างโอกิสและเทพธิดามิน่าได้ร่วมมือกันสร้างโลกที่สวยงามและส่องประกาย
แต่ในตอนนั้นราชาปีศาจก็ปรากฏตัวขึ้นและพยายามจะครองโลก
โอกิสและมิน่าต่อสู้กับราชาปีศาจจนเสียชีวิต
ราชาปีศาจได้ทำให้โลกตกอยู่ความมืดมิดและส่งปีศาจไปทั่วโลก
เหล่าลูกหลานของโอกิสและมิน่าได้รอบตัวกันด้วยการนำของโอดิสเพื่อต่อสู้กับราชาปีศาจ
โอดิสสามารถชนะราชาปีศาจได้ทำให้ได้โลกครึ่งนึงกลับคืนมา
เพราะการได้โลกครึ่งนึงคืนมาทำให้แสงสว่างไสวได้เพียงครึ่งวัน
โลกนี้จึงถูกแบ่งออกเป็นกลางวันและกลางคืน
แม้ว่าราชาปีศาจจะแพ้ แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่และยึดถิ่นฐานในนากอลเป็นที่อาศัยอยู่
และแม้ว่าโอดิสจะชนะ แต่ก็ต้องเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่มากมายทำให้ตามไปจัดการราชาปีศาจไม่ได้
เมื่อถึงทางตันจึงกลายเป็นเช่นนี้
นี่คือสถานการณ์ของโลกในตอนนี้
เราจึงถูกอัญเชิญมาเพื่อฟื้นคืนโลกใบนี้ให้กลับมาดั่งเดิม
และในตอนนี้ก็ได้รู้ว่าเทพปีศาจไม่ได้เชื่อฟังราชาปีศาจแต่แรกแล้ว
นอกจากนี้มันยังเป็นครั้งแรกที่เราต่อสู้กับมาร
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คืออาจจะมีบุคคลกลุ่มที่สามนอกจากเทพเอลีอัสและราชาปีศาจอยู่ก็ได้?
[ ชักเป็นเรื่องยุ่งยากแล้วสิ… ]
เรย์จิทำหน้าราวกับไม่ชอบ
แน่นอนว่ามันยุ่งยากแน่
เพราะเดิมทีเราคิดเพียงแค่ว่านี่เป็นการต่อสู้ของเทพเอลีอัสกับราชาปีศาจแห่งนากอลเท่านั้น
[ ใช่แล้ว มีเรื่องต้องตรวจสอบอีกมากมาย เห็นทีคงต้องไปถามหลายๆ เรื่องจากเรน่าซะแล้ว… ]
คงต้องถามเรน่าอีกหลายเรื่องเลยล่ะ
แต่เรื่องตำนานของโลกนี้ ก็ใช่ว่าไปถามเรน่ามาถึงได้รู้หรอกนะ
แต่ไปอ่านจากหนังสือมาต่างหาก
ยังไงซะถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มก็ต้องไปถามจากเรน่าเท่านั้น
[ ใช่แล้ว ต้องไปถามเรน่าอีกหลายเรื่องเลยล่ะเนอะ ]
เมื่อพูดชื่อของเรน่าขึ้นมา เรย์จิก็ยิ้มแย้ม
พอมองไป หัวใจฉันก็รู้สึกเจ็บปวด
ไม่คิดเลยว่าเรน่าซึ่งเป็นเทพธิดาจะหลงรักเรย์จิ
เรย์จิเองก็หล่อนี่นะและยังมีบุคลิกดูดี
จมูกและใบหน้าที่ดูเนียน เส้นผมสดใสดูเปล่งประกาย
หน้าตาดูดีและตัวก็เรียวสูง
นอกจากนั้นเรย์จิยังหัวดีและยังแข็งแกร่ง
ไม่มีอะไรบอกได้เลยว่าเขาจะมองแค่ฉันคนเดียว
ไม่เลยสักนิด
เพราะเรย์จิเป็นคนที่ดูดีทำให้ถูกสาวๆ มากมายรายล้อม
สักแห่งในใจฉันเองก็อยากจะอยู่เคียงข้างเขา
แต่มันก็เป็นเพียงความหวังอันน้อยนิดเท่านั้น
จนกระทั่งเรน่าปรากฏตัวและมาอยู่เคียงข้างเรย์จิ
เพราะเรน่าทำให้ความหวังนั้นของฉันหายไปอย่างสิ้นเชิง
เรน่าช่างห่างไกลจากสาวสวยธรรมดา ดังนั้นเรื่องที่จะเป็นเบอร์หนึ่งให้ได้ไม่ต้องพูดถึงเลยล่ะ
ทำไมเทพธิดาที่งดงามขนาดนั้นต้องมาหลงรักเขาด้วยนะ?
ฉันเองก็มั่นใจในความสวยของตัวเองอยู่พอตัวนะ แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเรน่าเลยสักนิด
เมื่อเรย์จิถูกบอกรักจากเรน่า เขาก็อารมณ์ดีมาก
ฉันแทบจะวีนแตก
และยังหงุดหงิดมาก
ฉันมองเรย์จิด้วยสายตาเย็นชา
แต่ใบหน้าอันเจิดจรัสของเรย์จิก็ไม่สังเกตถึงสายตานั้นของฉันเลย
ผู้ชายคนนี้นี่ช่างไม่รู้อะไรเลยนะ
[ แต่ดูเหมือนนายพลคราสบอกว่าจะจัดงานเลี้ยงให้พวกเรา งั้นก็ไปกันเถอะ ]
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเล็กน้อย
เพราะเราช่วยผู้คนที่ติดในเขาวงกตมาได้ นายพลคลาสจึงได้จัดงานเลี้ยงในอาเรียดิน่าให้พวกเรา
[ งานแลี้ยงเหรอ… ก็ดีนะคะ เพราะในเขาวงกตไม่ค่อยได้อะไรอร่อยๆ เลย อยากกินอาหารอร่อยๆ จะแย่แล้วค่ะ ]
นาโอะพูดออกมา
[ ใช่แล้ว! ต้องถูกขังอยู่ข้างในตั้งนาน อยากจะพักผ่อนบ้างแล้ว! ]
ริโนะพูดด้วยเสียงกระตือรือร้น
[ ฉันเองก็อยากพักผ่อนเหมือนกัน ]
เรย์จิก็เห็นด้วยกับคำพูดของริโนะ
ทุกคนต่างเข้าสู่อารมณ์งานเลี้ยงเต็มที่
เมื่อเห็นพวกเขายิ้มแย้ม ฉันเองก็ยิ้มแย้มไปด้วย
[ งานเลี้ยงเหรอ… งานเลี้ยงที่ไม่มีคุโรกิ… ]
ชิโรเนะพูดด้วยสีหน้ามืดมน
แน่นอนว่าเขาควรได้รับการชื่นชมที่สุด
แต่ตอนนี้กลับไม่อยู่
[ ที่จริงคือเขาต่างหากที่ช่วยพวกเราออกมาจากเขาวงกตไม่ใช่เรย์จิ ดังนั้นควรเป็นเขามากกว่าที่ได้รับการยกย่อง ]
ฉันพูดขณะที่มองไปยังเรย์จิ
ใบหน้าของเรย์จิดูแทบจะอารมณ์ไม่ดีจนมองเห็นได้ชัดเจน
เรย์จิไม่ตอบอะไรหรือเพราะไม่รู้จะพูดอะไรกันแน่ล่ะ
ฉันมองไปอย่างเบื่อหน่าย
เรื่องในอาณาจักรร็อก ฉันก็ต้องขอบคุณเขาด้วย
เพราะเขาช่วยเอาไว้ ทำให้ฉันรอดตายมาได้
ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากช่วยเขา อย่างที่ชิโรเนะต้องการ
แม้เรย์จิกับซาโฮโกะจะไม่ชอบใจ แต่เขาก็สมควรจะถูกเรียกว่าเพื่อนของเราเหมือนกัน
ตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่กันนะ?
◆สาวมังกรเรจิน่า
[ ถ้างั้นคุณเรจิน่า ขอบคุณมากนะ ]
ท่านคายะขอบคุณฉัน
[ เอ่อ แล้วข้าจะเป็นยังไงต่อไปรึครับ? ]
[ ไม่ต้องห่วงหรอกโทรุนมาคุส เราจะช่วยเอง ]
[ ขอบคุณมากครับท่านเรจิน่า ]
ชายอ้วนที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉัน ก้มหัวให้ขณะที่กำลังถูมือไปมา
คฤหาสน์หลังนี้แต่เดิมเป็นของเขา
อโทราน่าภรรยาของโทรุสมาคุสนั้นที่จริงแล้วเป็นคนเลวที่หลอกลวงผู้กล้า
แต่ดูเหมือนตัวเขาจะเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา เพียงแค่ถูกหลอกใช้เท่านั้น
และยังไม่รู้ตัวสักนิดเลยว่าจริงๆ แล้วอโทราน่ามีการแผนอะไร
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าท่านคายะจะยกโทษให้
ดังนั้นทรัพย์สินทั้งหมดของเขาและธุรกิจตอนนี้จึงกลายเป็นของท่านเคียวกะไปแล้ว
คฤหาสน์หลังนี้ ตอนนี้ก็กลายเป็นของท่านเคียวกะและกลายเป็นสาขาอาเรียดิน่าของบริษัทมิโด โชวไคไปแล้ว
และท่านคายะก็ได้ให้ฉันเป็นหัวหน้าสาขาอาเรียดิน่าของบริษัทมิโด โชวไค
[ ไว้ฉันจะเรียกคนจากลีนาเรียมาช่วยอีกแรง แต่อย่างคุณเรจิน่าคงไม่เป็นไรหรอก เพราะเคยได้รับการศึกษามาแล้ว ]
ท่านคายะพูดออกมา แต่ฉันส่ายหัว
[ เรื่องนั้น… มันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ ฉันไม่เคยทำธุรกิจมาก่อนเลยนะคะ!! ]
ทำไมถึงให้ฉันรับตำแหน่งนี้ล่ะ? น่าจะมีคนที่ดีกว่าฉันอยู่นี่นา
[ ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณเรจิน่า เพราะคุณคุโรกิเองก็รับรองมาแล้ว ว่าหากเป็นคุณไม่มีปัญหาแน่ ]
ท่านเคียวกะพูดและยิ้มให้ฉัน
เห็นได้ชัดเลยว่า ความเคารพของท่านเคียวกะที่มีต่อนายท่านสูงแค่ไหน
มันก็เป็นเรื่องดีหรอกนะ ที่มีคนนับถือนายท่านเพิ่มขึ้น
เพราะคำพูดนั้นทำให้ฉันมีกำลังใจขึ้น
หากมีชื่อของนายท่านรับรองอยู่ ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้(ขอเอาชื่อคุณปู่เป็นเดิมพัน!)
[ อย่างคุณเรจิน่ามีคุณสมบัติเพียงพออยู่แล้วค่ะ การขนส่งทางน้ำเองก็สั่งการโดยใช้พวกลิซาร์ดแมนได้ ทำให้สามารถทำธุรกิจได้ดีกว่าพ่อค้ารายอื่นๆ ซะอีก มั่นใจเลยค่ะว่าคุณจะต้องทำกำไรได้มหาศาลแน่ ]
ท่านคายะพูดออกมา ในความคิดของท่านคายะดูเหมือนจะคิดถึงแต่เรื่องกำไร แตกต่างจากฉันโดยสิ้นเชิง
ทั้งสองคนจ้องมองฉัน
ถ้าเป็นไปได้อยากหนีไปจากที่นี่จังอ่ะ
[ นี่ถือเป็นการทดสอบของนายท่าน… ]
ฉันเงยหน้ามองเพดานและนึกถึงภาพของนายท่าน
◆ อัศวินดำคุโรกิ
เมื่อเข้าสู่เทือกเขากลาง ผมก็เจอกับคุนะ
[ คุโรกิ!! ]
เมื่อคุนะเห็นผมก็วิ่งมาหาทันที
ตาของคุนะชื้นขึ้น
ดูเหมือนคุนะจะอาการดีขึ้นแล้วนะ
มีเด็กผู้หญิงน่ารักมากอดนี้ดีจัง
หากในโลกเดิมคงไม่มีทางเป็นไปได้แน่
น้ำตาของผมไหลออกมาเพราะความดีใจ
ทำตัวเองแท้ๆ !!
[… ขอโทษนะคุนะ ผมรู้สึกเหงามากเลย…และยังโกเรียสด้วย ]
ผมลูบหัวโกเรียส
เมื่อลูบหัวโกเรียส โกเรียสก็ส่งเสียงเคลิ้ม
[ คุนะเองก็เหงาเหมือนกัน… คุโรกิ กลับกันเถอะนะ ]
แต่ผมส่ายหัวให้กับคำพูดของเธอ
[ นี่ คุนะ ไปเที่ยวสาธารณรัฐอาเรียดิน่ากันหน่อยมั้ย? ]
[ สาธารณรัฐอาเรียดิน่า? ]
คุนะเอียงหัว
[ ใช่แล้ว สาธารณรัฐอาเรียดิน่า ผมอยากไปกับคุนะน่ะ ]
ผมเองก็ไปเที่ยวกับเรน่ามาแล้วครั้งนึง
แต่คงดีกว่าหากได้ดูโอเปร่าสักครั้ง
[ ถ้ามีคุโรกิอยู่ด้วย ไม่ว่าที่ไหนคุนะก็จะไป ]
คุนะยิ้ม ช่างเป็นรอยยิ้มของนางฟ้าจริงๆ
รอยยิ้มนั้นเหมือนกับข้าวที่ได้รับมาถึงสามเท่า
แน่นอน จนเต็มชามเลยล่ะนะ
[ นิฟุฟุฟุฟุ ]
ผมหัวเราะเสียงประหลาดออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
นอกจากนี้น้ำลายยังไหลออกมา
[ เกิดอะไรขึ้นเหรอคุโรกิ? ]
คุนะที่เห็นท่าทางประหลาดของผมถามขึ้น
[ ไม่… ไม่มีอะไรหรอก เราไปกันเลยดีมั้ย? ]
ผมใช้หลังมือเช็ดน้ำลาย จากนั้นก็ทำใจให้สงบเหมือนปกติ
จากนั้นเราบินไปด้วยโกเรียส
ปลายทางคืออาเรียดิน่าซึ่งอยู่ตรงข้ามกับนากอล
นี่มันก็ดึกแล้ว
ดวงจันทร์ยามราตรีส่องแสงสว่างไสว
ดวงจันทร์เองก็ส่องแสงสว่างไสวได้ไม่แพ้ดวงอาทิตย์หรอก(คงเปรียบเทียบตัวเองกับเรย์จิมั้ง)
ผมบินภายใต้แสงจากดวงจันทร์บนหลังของโกเรียส
และมุ่งหน้าไปยังอาเรียดิน่า