CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อัศวินดำ - ตอนที่ 64

  1. Home
  2. อัศวินดำ
  3. ตอนที่ 64
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

◆ อัศวินดำคุโรกิ

พวกเราบินผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวมายังเมืองเขาวงกตของเลวิลรุส

แต่ตอนนี้ไม่มีเทพปีศาจเลวิลรุสอยู่ที่นี่อีกแล้ว

เทพปีศาจถูกราชินีอสรพิษพาตัวไปที่ไหนสักแห่ง

มิโนทอร์เองก็ตามเลวิลรุสไป จึงไม่เหลือมิโนทอร์อยู่เลยสักตัว

ผมมายังเขาวงกตที่ไร้เจ้าของ และให้โกเรียสร่อนลงที่จตุรัสกลางเมือง

เพราะที่นี่เหมาะจะให้โกเรียสที่ร่างกายใหญ่โตอยู่

[ งั้นคุนะ เราออกไปกันเลยมั้ย? ]

เมื่อได้ยินที่ผมพูด คุนะก็พยักหน้า

[ อือ คุโรกิ ]

ผมก้าวลงจากโกเรียส จากนั้นก็มีเงามากมายออกมาจากอาคารรอบๆ

[ ท่านคุนะ นายท่านกำลังรออยู่เลยค่ะ ]

เจ้าของเงานั้นก้มหัวให้ผม

เงานั้นก็คือเรจิน่านั้นเอง

[ ขอบคุณนะเรจิน่าที่มา ]

เรจิน่าเป็นสาวกของผม ทั้งจิตวิญญาณและจิตใจจึงเชื่อมโยงกันและสาวกสามารถติดต่อกับเจ้านายได้ทุกเมื่อ

ผมคิดจะไปเที่ยวชมเมืองอาเรียดิน่ากับคุนะ ดังนั้นเลยฝากโกเรียสให้เรจิน่าคอยดูแล

นั่นคือเหตุผลที่ผมมาที่นี่

ที่นี่เหมาะสมแล้วที่จะให้โกเรียสหลบซ่อนตัว

รอบข้างเรจิน่า มีพวกลิซาร์ดแมนมาด้วย

[ ตราบใดที่เป็นคำขอร้องของนายท่าน ไม่ว่าที่แห่งใดก็จะไปค่ะ ]

เรจิน่าพูดด้วยสายตาเปล่งประกายสีทอง

เมื่อเห็นดวงตานั้น ผมกลับรู้สึกผิด

อันที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจจะติดต่อเรจิน่าไปหรอก

เรื่องหาที่ซ่อนโกเรียสเองก็คงหาได้

แต่มันจะเย็นชาไปหน่อยหากไม่ติดต่ออะไรไปเลยทั้งที่อยู่ใกล้ๆ กัน

ดังนั้นผมเลยคิดว่าติดต่อเรจิน่าไปคงดีกว่า เธอยื่นข้อเสนอว่าจะคอยดูแลพวกเราให้ขณะที่เราอยู่ที่เมืองอาเรียดิน่า

ผมเองก็ลังเลเรื่องข้อเสนอนั้นเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ยอมแพ้เพราะคำพูดของเธอ

นอกจากนี้มันก็ยากล่ะนะที่จะได้ที่พักดีๆ หากไม่มีสถานะพลเมือง

ดังนั้นผมเลยตกลงยอมรับข้อเสนอของเธอ

[ ผมรู้สึกผิดจริงๆ นะเรจิน่าและยังมาขอร้องให้เธอคอยดูแลโกเรียสอีก ]

ผมก้มหัวให้เรจิน่ากับพวกลิซาร์ดแมน

เขาวงกตนี้ควรอยู่ในการควบคุมของเทพเฮย์บอส แต่ในตอนนี้จนกว่าการเตรียมการจะเสร็จสิ้น เขาวงกตนี้จึงอยู่ในการจัดการของพวกผู้กล้าแห่งแสง

มันก็ดีล่ะนะ ที่คนคอยควบคุมดูแลเป็นเคียวกะที่เป็นน้องสาวของผู้กล้าแห่งแสง

และเรจิน่าเองก็เป็นผู้จัดการคนสำคัญที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลเขาวงกตนี้ตามคำสั่งของเคียวกะ

ดังนั้นหากไม่ได้รับอนุญาตจากเรจิน่า ใครก็เข้ามาที่นี่ไม่ได้

จึงไม่มีปัญหา หากจะซ่อนโกเรียสไว้ที่นี่

พวกลิซาร์ดแมนเองก็เคารพนับถือมังกรอยู่แล้วและยังเทิดทูนโกเรียสมาก

[ ค่ะ นายท่าน เรื่องของโกเรียสปล่อยให้เราจัดการเถอะค่ะ… ]

จากนั้นเรจิน่าก็มองไปทางลิซาร์ดแมนและลิซาร์ดแมนก็เอากล่องขนาดเล็กมาให้

เรจิน่าเปิดกล่องนั้นและในนั้นก็มีชุดสวยงามมากมายอยู่

[ นี่มัน? ]

[ ชุดของนายท่านและท่านคุนะค่ะ และยังมีเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับเพื่อท่านคุนะด้วยค่ะ ]

[ งั้นเหรอ… ขอบคุณนะเรจิน่าที่คอยจัดการทุกอย่างให้ งั้นคุนะช่วยใส่ชุดพวกนี้ทีนะ ]

ผมรับเสื้อผ้าไว้และมอบให้กับคุนะ

คุนะเองก็ดูสงบลงกว่าเมื่อก่อน

ตอนนี้ไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านเรจิน่าอีกแล้ว

ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้นนะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? 

[ นี่คืออะไรเหรอคุโรกิ? ]

[ มันเป็นชุดสำหรับปลอมตัวนะ เพราะคุนะสวยมาก หากเดินกับผมคงจะเป็นจุดเด่นมากถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากเดินเที่ยวอาเรียดิน่าอย่างสงบและไม่อยากให้คนแปลกหน้ามามองคุนะหรอก ]

เช่นเดียวกับเรน่า คุนะเองก็น่ารักมากเพราะงั้นต้องปิดหน้าไว้ขณะที่เดินเที่ยวในอาเรียดิน่า

นี่คือเหตุผลที่เรจิน่าเตรียมชุดไว้ให้

[ คุนะสวยเหรอ… เข้าใจแล้วล่ะคุโรกิ งั้นคุนะจะใส่ชุดพวกนี้นะ ]

คุนะพูดด้วยความดีใจจากนั้นก็ใส่ชุดพวกนั้นโดยให้เรจิน่าช่วย

ซึ่งชุดที่คุนะใส่นั้นเป็นเครื่องแต่งกายของผู้ศรัทธาเทพธิดาเฟย์เรียนั่นเอง

หากเป็นชุดนี้ก็จะปิดได้กระทั่งหน้าของคุนะ

[ เคลื่อนไหวตัวยากจัง… ]

คุนะส่งเสียงบ่น

[ ขอโทษด้วยคุนะ เดี๋ยวผมจะให้จับมือตอนเดินแล้วกัน อดทนหน่อยนะ ]

หากเดินแบบไม่ปิดหน้าไว้ก็จะลำบากและเดินปิดหน้าเองก็เดินลำบากเหมือนกัน

[ ได้จับมือคุโรกิเหรอ? อือ ถ้างั้นก็ไม่มีปัญหา ]

คุนะพูดออกมาด้วยความเชื่อมั่น

[ เอาล่ะ… ผมเองก็ต้องเปลี่ยนชุดด้วย ]

ผมถอดเกราะอัศวินดำออกและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ให้

ไม่เหมือนเสื้อผ้าของคุนะ ชุดของผมเป็นชุดของคนรับใช้

ถ้าสวมชุดนี้ก็จะเข้ากับคุนะเพราะจะเสมือนว่าผมเป็นคนรับใช้ของคุนะ

[ รู้สึกไม่ชอบรึเปล่าคะ? ]

เรจิน่าถามด้วยความไม่สบายใจ

[ ไม่หรอก ผมเองก็ไม่ได้ชอบชุดสีฉูดฉาดด้วย ]

ผมไม่ชอบเป็นจุดเด่นน่ะนะ

ชุดที่เรจิน่าเลือกให้ก็ดีแล้ว

ตอนที่อยู่นากอล เรื่องชุดเรจิน่าก็คอยจัดการให้ผม

จึงรู้ว่าผมชอบชุดแบบไหน

[ แล้วเรจิน่า พวกเขายังอยู่ที่อาเรียดิน่างั้นเหรอ? ]

ผมถามเรจิน่า

[ ค่ะ ผู้กล้าแห่งแสงยังอยู่ที่อาเรียดิน่าค่ะ ฉันคิดว่าอย่างน้อยก็คงอยู่จนถึงวันงานฉลองพรุ่งนี้นะคะ… ]

เพื่อเป็นเกียรติแด่ผู้กล้า ดูเหมือนจะจัดงานฉลองให้อย่างยิ่งใหญ่ให้ผู้กล้าที่ช่วยเหล่าคนที่ถูกลักพาตัวไปในเขาวงกตและยังมีการปรับตารางเวลาก็เพราะมีบุคคลสำคัญจากประเทศต่างๆ จะมาร่วมงานฉลองด้วย จึงทำให้ล่าช้าเล็กน้อย

แปลว่าเรย์จิยังอยู่ในประเทศนี้

[ งั้นเหรอ… เอาเถอะ จะกังวลไปก็ไม่ช่วยอะไร… แล้วปกติก็ใช่ว่าจะได้เจอกันง่ายๆ อยู่แล้ว ลืมมันไป แล้วไปเที่ยวเมืองอาเรียดิน่าดีกว่า ]

สาธารณรัฐอาเรียดิน่าเป็นประเทศใหญ่ ผมไม่คิดว่าจะเจอกันได้ง่ายๆ หรอก

[ ค่ะ นายท่าน และฉันยังได้เตรียมคฤหาสน์แยกต่างหากของโทรุนมาร์คุสไว้ให้แล้วในอาเรียดิน่าค่ะ หากเป็นที่นั้นพวกท่านชิโรเนะคงไม่สังเกตเห็นแน่ ]

[ ขอบคุณมากนะเรจิน่า ]

และแล้วพวกเราก็มุ่งหน้าสู่สาธารณรัฐอาเรียดิน่า

 

 

◆ นักเต้นเซนน่า

[ ไปเมาอยู่ที่ไหนกันละเนี่ย?!! ]

ฉันเดินอยู่บนถนนตอนกลางคืนเพื่อตามหามัลเชียส

มัลเชียสเป็นคนในคณะการแสดงของ [ หูลา ] ซึ่งอยู่คณะเดียวกับฉัน

พรุ่งนี้ฉันต้องไปเต้นต่อหน้าผู้กล้า

แต่เจ้าบ้านั้นยังไม่กลับมาเลย

ดังนั้นมิดัส-หัวหน้าคณะเลยสั่งให้ฉันออกตามหามัลเชียส

[ เซนน่า ออกไปตามหาตัวมัลเชียสซะ ]

ฉันนึกถึงคำพูดของมิดัส

ฉันคิดว่ามันผิดพลาดมาตั้งแต่ที่ให้มารุสเชียสมาอยู่ในคณะแล้วล่ะ

แต่เพราะเจ๊ไอนอยเป็นคนแนะนำมัลเชียสให้มิดัสด้วยตัวเอง เขาถึงได้ร่วมคณะเราหรอกนะ

มัลเชียสเป็นคนมีปัญหา

เพราะเคยเป็นโจรมาก่อน

ชอบเล่นการพนันและดื่มเหล้าจนเมาเสมอ

ดังนั้นน่าจะไล่เขาออกจะยังดีซะกว่า

แต่มิดัสก็หัวแข็งไม่ยอม

เพราะคณะเรากำลังขาดคน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะของนักร้องประสานเสียงและนักดนตรีเบื้องหลังน่ะกำลังขาดคนมาก

ซึ่งมัลเชียสมีพรสวรรค์เรื่องขลุ่ยจนไม่มีใครจากคณะไหนจะเอาชนะเขาได้

มัลเชียสคุยโวว่าตัวเองเก่งยิ่งกว่าเทพอัลฟอสซะอีก

แม้ว่าฉันจะบอกเขาว่าให้กลับคำพูดจะดีกว่า แต่เขาก็ไม่ได้แก้ไขเลย

ยังไงฝีมือขลุ่ยของมัลเชียสก็ไม่ถึงขนาดท่านเทพอัลฟอสหรอก

นี่เป็นเหตุผลที่มิดัสทำเป็นมองไม่เห็นการกระทำของมัลเชียส

ฉันถอนหายใจ

มิดัสเป็นคนที่รักในเสียงเพลงและการเต้นมาก

เขานับถือท่านเทพธิดาอิชเทียซุ่งเป็นเทพแห่งการเต้นรำและท่านเทพอัลฟอสก็คือเทพแห่งเสียงดนตรีเป็นดั่งอาจารย์

ขอแค่มีพรสวรรค์ก็พอ นี่ล่ะปัญหาหนึ่งของหัวหน้าคณะ

เพราะหากมัลเชียสไปก่อปัญหา อาจจะทำให้โรงละครถูกแบนก็ได้

ฉันเข้าใจดีว่าเรากำลังขาดคน แต่ทำไมหัวหน้าไม่คิดถึงปัญหาที่จะตามมาสักหน่อยนะ?

นอกจากนี้เจ๊ไอนอย-ภรรยาของเขา ไปพามัลเชียสมาจากไหนล่ะเนี่ย?

ขณะที่ฉันคิดเรื่อยเปื่อยก็เดินไปถึงปลายทาง

นี่คือโซนที่ห่างจากจุดกลางเมืองค่อนข้างไกล

มีทั้งผู้อพยพ พวกอาชญากรมากมาย ความปลอดภัยจึงต่ำมาก

ไม่เหมาะให้ผู้หญิงมาเดินที่นี่เลย

ฉันเดินไปจนถึงร้านที่มีป้ายรูปแก้วแขวนอยู่มากมาย

เครื่องหมายแก้วนั้นคือตราประทับศักดิ์สิทธิ์ของเทพแห่งเหล้า

ซึ่งสัญลักษณ์นั้นปกติแล้วจะแขวนอยู่ในผับไม่ก็โรงแรม

มัลเชียสน่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในร้านแถวนี้แน่

คงกำลังดื่มเหล้าอยู่ในร้านไหนสักร้านนี่ล่ะ

ฉันเดินตามถนนที่มีผู้คนสัญจรไปมามากมาย

หน้าร้านต่างๆ มีบริกรหญิงคอยชักชวนนักเดินทางอยู่

พวกเธอเป็นบริกรของร้านในขณะเดียวกันก็เป็นโสเภณีด้วย

ที่ชั้นหนึ่งนั้นจะเป็นโรงอาหารและที่ชั้นสองจะเป็นห้องนอนเพื่อเอาไว้ใช้นอนกับลูกค้า

โสเภณีเป็นเรื่องต้องห้ามในประเทศนี้ จึงต้องทำแบบแอบซ่อน

แน่นอน ไม่ได้หมายถึงว่าฉันส่งเสริมการกระทำของพวกเขาหรอกนะ

ถึงเราจะเป็นผู้ศรัทธาท่านเทพธิดาอิชเทียเหมือนกัน แต่ก็ต่างกัน

ท่านเทพธิดาอิชเทีย เปิดเสรีเรื่องความรักและยังเป็นเทพแห่งการเต้นรำ ขณะเดียวกันก็เป็นเทพของเหล่าโสเภณี

ฉันคิดขณะที่ตามหามัลเชียสในซอยด้านหลัง

บางทีเขาเองก็ง่วงจนพล็อยหลับในซอยเหมือนกัน

เมื่อฉันเข้าไปในซอย ด้านหน้าก็เจอชายสามคนยืนอยู่

ฉันเริ่มเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีและพยายามกลับไปทางเดิม

แต่เมื่อมองย้อนกลับไปก็เจอกับชายร่างใหญ่ยืนขวางอยู่

[ ไงน้องสาว กำลังตามหาใครอยู่ล่ะ? ]

ชายร่างยักษ์ถาม

[ ตามหาคนอยู่ก็ใช่หรอก แล้วมันยังไงเหรอ? ]

ฉันจ้องมองชายร่างยักษ์

[ แหม ข้าก็แค่จะช่วยอีกแรงแค่นั้นเอง ]

[ ไม่เป็นไรค่ะ… ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือหรอก ]

[ อย่าพูดอย่างนั้นสิ ]

ชายคนนั้นยื่นมือมาออกมา

[ อย่ามาแตะนะ!! ]

ฉันปัดมือเขาออกไป

[ หืม เป็นผู้หญิงที่แข็งแรงดีนี่ ดีเลย…. ไปเดทกันสักหน่อยจะเป็นไรไป ]

ชายคนนั้นแสยะยิ้ม

ฉันถอนหายใจ

และแตะที่ดาบตรงเอวซ้าย

ฉันเองก็มั่นใจในฝีมืออยู่พอตัวและคนพวกนี้ยังไม่น่าจะเก่งเท่าไหร่ คงเอาชนะได้

แต่มันจะมีปัญหาตามมาทีหลังได้

[ ขอโทษด้วยนะ แต่อย่างเธอทำอะไรเราไม่ได้หรอก ]

บางทีคนพวกนี้คงเป็นทหารรับจ้างแต่ดันไม่มีเงินจ่ายค่าจ้างโสเภณีในผับ

เพราะพวกเขาเคยต่อสู้กับปีศาจมาบ่อยครั้ง สำหรับการต่อสู้กับมนุษย์จึงไม่คณามืออีกแล้ว

งั้นคงลำบากหน่อยถ้าจะสู้กันล่ะนะ

ฉันวิ่งไปที่ผนังด้านข้าง

[ คิดจะทำอะไร!? ]

เพื่อนของชายคนนั้นตะโกน แต่ฉันไม่สนใจ

ฉันเตะกำแพงจากนั้นก็อาศัยจังหวะตีลังตาข้ามหลังชายร่างใหญ่

จากนั้นก็วิ่งหนีไป

[ รอเดี๋ยว!!! ]

ใครจะไปรอให้โง่ล่ะยะ

ฉันวิ่งไปตามถนนของเมืองตอนกลางคืนและหนีไป

ถ้ามาจนถึงที่นี่คงปลอดภัยแล้ว ฉันพักหายใจ

[ เซนน่า ]

จู่ๆ ก็มีเสียงคนเรียกฉัน

ที่ตรงนั้นมีชายคนหนึ่งยืนอยู่

ชายคนนั้นสวมเกราะและที่หน้าอกของเกราะมีตราสัญลักษณ์ของท่านเทพโอดิสอยู่

เขาเป็นอัศวินของวิหารโอดิส เป็นอัศวินที่ขึ้นตรงตามกฏหมายและเป็นคนที่คอยสืบสวนอาชญากรและรักษาความปลอดภัยของเมือง

[ พี่เดคิอัส ]

อัศวินคนนั้นคือพี่ชายของฉัน เดคิอัส

 

 

 

 

◆ นักเต้นเซนน่า

ฉันเดิมไปตามถนนบริเวณคลองน้ำกับพี่เดคิอัส

เรื่องการตามหามัลเชียสคงต้องยอมแพ้แล้วล่ะ

โซนนี้จะมีความปลอดภัยมากกว่าเมื่อกี้อยู่มาก

ฉันนึกถึงโซนเมื่อกี้

มีทั้งโรงแรมรายล้อมอยู่เต็มไปหมด

อาเรียดิน่าเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมต่อระหว่างทวีปตะวันออกและตะวันตกจึงมีนักเดินทางมากมายจากประเทศต่างๆ

โดยเฉพาะช่วงนี้จะมีนักเดินทางมาเยอะมาก

เหตุผลก็เพราะผู้กล้าแห่งแสง ชาวเมืองจากประเทศเพื่อนบ้านของอาเรียดิน่าต่างมาที่นี่เพราะอยากเห็นผู้กล้าแห่งแสงกันสักครั้ง

ดังนั้นเหล่านักเดินทางจึงกลายเป็นเป้าของพวกโจร

ด้วยเหตุนี้พี่ชายของฉันซึ่งเป็นอัศวินจึงต้องเดินทางไปมา

ถนนและทางน้ำที่มีไฟอยู่กี่ดวง แต่เพราะวันนี้มีพระจันทร์เต็มดวงทำให้มองเห็นรอบๆ ได้อย่างชัดเจน แม้จะไม่ต้องใช้เวทแสงสว่างก็มองเห็น

[ พี่เหมาะกับชุดนั้นดีนะคะ ฉันเองก็อยากเป็นอัศวินของท่านโอดิสจัง ]

ฉันมองที่ชุดของพี่

ฉันและพี่เดคิอัสเติบโตมาในวิหารอิชเทียของเทสซาเซีย

แม่ของฉัน-อิทพาเซียเป็นนักเต้นที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นผู้ศรัทธาของท่านเทพธิดาอิชเทีย

ในตอนนั้นแม่ได้พบกับพ่อ นาคิอัส ・เพริเคทอส ซึ่งเป็นอัศวินของท่านโอดิสและตกหลุมรักกัน

แต่ว่าก็ไม่ได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการ เพราะเป็นอัศวินของท่านโอดิสกับผู้ศรัทธาของท่านอิชเทีย ทั้งสองจึงตัดสินใจเลิกกัน

แต่แล้วพ่อของฉันก็เลิกเป็นอัศวิน พี่ชายของฉันจึงกลายเป็นผู้สืบทอดของพ่อแทน

เราไม่ค่อยได้พบหน้ากันนักหรอก แต่บางครั้งเขาก็จะมาที่วิหารเพื่อมาหาฉันเหมือนกัน

[ ฮะฮะ พี่เองก็ยังอยู่ในระหว่างการฝึกฝนตัวเองนะ…. ชอบชุดแบบนี้งั้นเหรอ? แต่เซนน่าไม่ควรทำอะไรอันตรายหรอกนะ? ]

พี่เตือนฉันเพราะเรื่องก่อนหน้านี้

[ ฉันไม่ได้ทำเรื่องอันตรายขนาดนั้นสักหน่อย ]

ฉันถอนหายใจ

ผู้ศรัทธาของท่านโอดิสแตกต่างจากท่านอิชเทียตรงที่ห้ามโกหก

[ เป็นความจริงเหรอ? ที่ว่าเซนน่าขายตัวนะ…. ]

[ ไม่ใช่สักหน่อยค่ะ พี่เองก็น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอว่าฉันอยู่ในคณะโรงละคร และในอนาคตก็น่าจะได้เป็นนักแสดงนำแล้วนะ ]

ฉันหันหลังกลับไปตอบพี่

เด็กๆ ที่เติบโตที่วิหารอิชเทีย เมื่อโตขึ้นต้องออกไปทำมาหากินเองข้างนอก

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นโสเภณีกัน แต่ก็ใช่ว่าต้องเป็นโสเภณีเท่านั้น

ตัวฉันเลือกเส้นทางนักแสดง

ท่านเทพธิดาอิชเทียเป็นเทพแห่งการเต้นด้วย ดังนั้นการที่ฉันเลือกเส้นทางของนักแสดงก็ถือเป็นการส่งเสริมท่านเทพธิดาอิชเทียเช่นกัน

ฉันเข้าร่วมคณะ [ หูลา ] ด้วยความสามารถในการเต้นจึงได้รับการยอมรับจากมิดัส

ตอนนี้เลยยังได้รับมอบหมายบทนำการแสดงในอาเรียดิน่า นี่ถือเป็นโอกาสครั้งใหญ่

มันไม่ดีต่อเจ๊ไอนอย แต่ฉันอยากจะได้รับบทนำครั้งนี้

[ รู้แล้วล่ะ เรื่องอัลเฟเรียสินะ ไว้จะไปดูนะ ]

โดยครั้งนี้เราจะเล่นละครเรื่องอัลเฟเรีย

เป็นเรื่องราวของเจ้าหญิงผู้กล้าหาญซึ่งไปช่วยคนรักที่ถูกแม่มดลักพาตัวไป

แต่การแสดงถูกเลื่อนไปเพราะงานฉลองของผู้กล้า แต่ฉันเองก็อยากให้พี่มาดูอยู่นะ

[ ค่ะ ต้องมาให้ได้นะคะพี่ ]

พี่ชายพยักหน้า

[ แต่เซนน่า ช่วยบอกคำตอบก่อนหน้านี้หน่อยได้มั้ย? ]

ฉันมองพี่

[ เรื่องนั้นอีกแล้วเหรอคะ? ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอกค่ะ ฉันยังเคารพบูชาท่านอิชเทีย ดังนั้นฉันยังไม่คิดจะแต่งงานหรอกค่ะ ]

พี่เป็นห่วงฉันในฐานะที่ฉันเป็นผู้ศรัทธาท่านเฟย์เรีย

แต่ว่าฉันไม่ได้วางแผนที่จะแต่งงาน

ฉันเองก็เหมือนแม่ ฉันภูมิใจที่ตัวเองได้เป็นผู้ศรัทธาของท่านอิชเทีย

นั่นคือเหตุผลที่ฉันไม่คิดจะแต่งงานอย่างจริงจัง

[ แต่ขืนเป็นแบบนี้… น้องอาจจะโสดไปตลอดชีวิตก็ได้… ]

พี่ของฉันดูท่าทางจะไม่สบายใจ

เพราะพี่เป็นผู้ศรัทธาของท่านโอดิสจึงไม่รู้ ชายหญิงน่ะไม่ได้ขึ้นอยู่กับการแต่งงานเสมอไปหรอกนะ

ฉันถึงพูดได้

[ พี่บอกแค่ฉัน แล้วพี่ไม่แต่งงานบ้างเหรอ? ได้ยินว่ามีคนส่งคำขอแต่งงานมาเยอะเลยนี่ ]

ฉันถามพี่

พี่ชายของฉันเองก็หล่อใช่ย่อย ถึงแม้จะเป็นในมุมมองของน้องสาวอย่างฉันก็เถอะ

มีเจ้าหญิงจากหลายๆ ประเทศส่งคำขอแต่งงานมาหาพี่เยอะมากเลยล่ะ

แต่พี่ดูเหมือนจะปฏิเสธทุกคนจนหมด

[ เรื่องนั้นไม่เอาหรอก…. พี่ยังอยู่ระหว่างการฝึกฝนน่ะนะ ดังนั้นตอนนี้ยังไม่คิดถึงเรื่องการแต่งงานหรอก ]

เมื่อได้ยินฉันก็ถอนหายใจ

อย่างพี่ฉันคงเป็นไปไม่ได้สินะ 

ดูเหมือนว่าหลายๆ สิ่งจะเพราะสภาพแวดล้อมและได้รับผลกระทบจากแม่

นั่นคือเหตุผลที่พี่ไปเป็นผู้ศรัทธาของท่านโอดิส

นอกจากนี้ฉันเองก็คิดว่าพี่ชายที่เงียบขรึมเหมาะกับเป็นเทพโอดิสด้วย

ฉันล่ะอยากเห็นคนที่พี่คนนี้ตกหลุมรักจริงๆ เลย

น่า ก็แค่คิดล่ะนะ

ฉันเดินไปตามถนนบริเวณคลองน้ำ

และมองไปตรงหน้า

ที่ตรงนั้นมีชายและหญิงอยู่คู่หนึ่ง

เดิมทีก็คิดว่าพวกเขาเป็นคนรักกัน แต่ฝ่ายหญิงนั้นน่าจะเป็นผู้ดี แต่ฝ่ายชายน่าจะเป็นคนใช้ ดูจากชุดที่ใส่ล่ะนะ

พวกเขาคงเป็นคนที่ประเทศอื่นที่มาเพื่อดูผู้กล้าแห่งแสง

[ เป็นนักเดินทางจากประเทศอื่นรึเปล่านะ? งั้นแล้วพวกเขามาทำอะไรในที่แบบนี้? ถึงโซนแถวนี้จะปลอดภัย แต่ตอนกลางคืนมันก็ยังอันตรายอยู่ดี ]

ฉันพูดขึ้นขณะที่มองไปยังพวกเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ

เพราะที่แถวคลองน้ำนี้อันตรายมากหากจะมาเดินเล่นตอนกลางคืนแบบนี้ เพราะผู้คนที่สัญจรไปมาจะน้อยกว่าตอนกลางวัน

บางทีเธอเป็นลูกสาวขุนนางของสักประเทศซึ่งอาศัยอยู่แต่ในสถานที่หรูหราแน่ๆ 

เพราะบรรยากาศมันบอกแบบนั้น

คงไม่ใช่ว่าเป็นเจ้าหญิงของสักประเทศที่หนีมาเที่ยวข้างนอกหรอกนะ

แต่นี่มันก็ดึกมาแล้ว ยังไงก็ควรจะไปเตือนบ้าง

[ บางทีคงต้องไปเตือนพวกเขาสักหน่อย… เซนน่ารออยู่ที่นี่ได้มั้ย? ]

พี่หันกลับมาถามฉัน ฉันเองก็คิดแบบเดียวกัน

[ เข้าใจแล้วค่ะพี่ ]

จากนั้นพี่ก็เดินเข้าไปใกล้สองคนนั้น

ทั้งสองเดินอยู่ริมทางขณะที่จ้องมองดวงจันทร์

[ คนตรงนั้นนะ ขอถามนิดหน่อยได้มั้ย? ]

เมื่อพี่เข้าใกล้สองคนนั้นก็เรียกพวกเขา

ผู้หญิงคนนั้นหันหน้ามาตามเสียงเรียก

[ เอ๊ะ…? ]

ฉันส่งเสียงประหลาดใจ

เพราะผู้หญิงคนนั้นสวยมาก

เพราะแสงจันทร์ส่องไปที่ใบหน้าของเธอ ทำให้ฉันเห็นหน้าเธอได้อย่างชัดเจน

ผิวสีขาวอมชมพู ใบหน้าที่สมส่วนและดูดี

ริมฝีปากสีแดงอวบอิ่ม

ดวงตาที่งดงามเหมือนดวงดาว

และผมสีเงินที่งดงามสะท้อนแสงจันทร์

ทำเอาฉันละสายตาไม่ได้เลย

[ อะไร…? ]

หญิงสาวที่ปิดหน้าพูดและจากนั้นชายที่ดูเหมือนคนรับใช้พยายามปกป้องเธอคนนั้น

[ มีเรื่องอะไรเหรอครับ? ]

ชายที่เหมือนคนรับใช้ถามขึ้น

พี่จับจ้องไปที่เธอคนนั้น

[ เอ่อ… คือ… ]

พี่พยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ดูจะพูดไม่เป็นประโยค

เพราะมีสาวสวยขนาดนั้นอยู่ตรงหน้า คงกำลังตะลึงอยู่ล่ะนะ

ฉันเข้าใจความรู้สึกของพี่

[ เอ่อ… คุณอัศวินงั้นเหรอ? แต่เราแค่มาเพื่อดูผู้กล้าแห่งแสง ไม่ใช่คนน่าสงสัยหรอกครับ ]

คนที่ดูเหมือนคนใช้พูดออกมาแต่พี่ก็ยังอ้ำๆ อึ้งๆ พูดไม่ออกเหมือนเดิม

คงละสายตาจากเธอคนนั้นไม่ได้

เขามองเธอคนนั้นมองด้วยสีหน้าแปลกๆ

บางทีในใจคงฟุ้งซ่านไปหมดแล้ว

[ พี่คะ!! ]

ฉันตะโกนใส่หูของพี่

ในที่สุดเขาก็กลับมาได้สติสักที

[ เอ่อ.. อ่ะ ]

[ เรื่องที่จะเตือนพวกเขาล่ะ! ]

[ อา… ใช่แล้ว! ตอนกลางคืนมันอันตราย ดังนั้นโปรดอย่าออกมาเดินเล่นข้างนอกจะดีกว่าครับ! ]

เสียงของพี่ดังขึ้น

และมองดูปฏิกิริยาจากเธอ

เธอมองกลับมาสายตาเย็นชา ฉันล่ะไม่มีอะไรจะพูดกับผู้ชายคนนี้เลยจริงๆ

[ งั้นเหรอครับ… ขอบคุณมากสำหรับคำเตือนครับ ]

ชายคนนั้นพูด จากนั้นก็กลับไปพร้อมกับเด็กสาวผมสีเงินคนนั้น

[ เธอสวยสุดยอดไปเลยเนอะพี่ ขนาดฉันยังเผลอหลงไปแว่บหนึ่งเลยล่ะ… ]

ฉันพูดกับพี่จากด้านหลัง

แต่เขาไม่ตอบ

[ นี่ พี่คะ? ]

แม่ว่าฉันจะเรียกยังไง เขาก็ยังเฝ้ามองทิศทางที่สองคนนั้นเดินจากไป

[ เทพธิดา…. เทพธิดาแห่งแสงจันทร์… ]

พี่พึมพำ

ด้วยใบหน้าหลงใหล

ดูเหมือนพี่ชายฉันจะตกหลุมรักเธอคนนั้นเข้าแล้วสินะ

 

 

 

◆ อัศวินดำคุโรกิ

[ ยินดีต้อนรับกลับค่ะ นายท่าน ท่านคุนะ ]

เมื่อผมกลับไปที่คฤหาสน์ ที่นั้นก็มีเรจิน่ายืนต้อนรับอยู่

ผมไปเดินดูเมืองตอนกลางคืนกับคุนะมา

เพราะมันยังเร็วไปที่จะนอนล่ะนะ เลยไปออกเดินเล่นสักหน่อย

[ ลำบากหน่อยนะเรจิน่า ]

คุนะพูดออกมา

เธอดูเป็นสุภาพสตรีขึ้นเยอะ

[ ขอบคุณที่อุตส่าห์มาต้อนรับนะเรจิน่า ]

แม้จะดึกแล้วเรจิน่าก็ยังมาคอยต้อนรับผม

[ แล้วนายท่านคะ ไปเดินเล่นตอนกลางคืนเป็นยังไงมากคะ? ]

[ ก็ดีนะเรจิน่า เทียบกับประเทศอื่นแล้ว อาเรียดิน่าดีกว่าเยอะเลยล่ะ ]

สาธารณรัฐอาเรียดิน่า เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดของมนุษย์ที่ผมเคยเห็นเลยล่ะ

ในประเทศเล็กๆ นั้นตอนกลางคืนจะมืดสนิท แต่อาเรียดิน่ากลับมีแสงสดใสแม้จะเป็นตอนกลางคืนอยู่หลายแห่ง

แต่มันก็มีเรื่องต้องห้ามอย่างสถานที่ไม่ดีอยู่ ผมเลยไม่กล้าพาคุนะไป

จากที่ผมพบกับตัว โรงแรมในโลกนี้ชั้นหนึ่งจะเป็นห้องอาหาร

เจ้าของโรงแรมส่วนมากจะเป็นผู้ศรัทธาเทพเนคเทอร์-เทพแห่งเหล้า โดยมีเครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์ของเนคเทอร์ติดอยู่ที่หน้าร้าน

ที่ชั้นหนึ่งจะเป็นสถานที่สำหรับให้ลูกค้าดื่ม ทานอาหาร และเล่นการพนัน

ส่วนชั้นสองนั้นบริกรหญิงจะคอยชวนไปนอนด้วยกัน บริกรหญิงส่วนใหญ่จึงเป็นโสเภณี

ในโลกนี้ความบันเทิงของผู้ชายส่วนใหญ่จึงเป็นการดื่มเหล้าและการซื้อบริการ

แต่ว่าเพราะประเทศนี้มีความศรัทธาต่อเทพธิดาเฟย์เรียอย่างมาก จึงไม่อาจทำแบบเปิดเผยได้

แต่มันก็ระงับความอยากของมนุษย์ไม่ได้อยู่ดีล่ะนะ การพนันและการค้าประเภณีจึงต้องทำแบบลับๆ

และผมก็พาคุนะไปที่นั้นไปไม่ได้ด้วย เลยเดินผ่านไป

ดวงจันทร์วันนี้สวยมาก ดังนั้นมองดูดวงจันทร์ก็ดีเหมือนกัน

เมื่อแสงจันทร์ส่องมาที่คุนะทำให้คุนะยิ่งสวยขึ้นไปอีก

ดูเหมือนคุนะจะดูเป็นประกายกว่าที่แล้วๆ มา

ทำให้ผมจับจ้องคุนะ

จนตัวเองไม่ได้ทันสังเกตอะไรเลย

ในตอนนั้นผู้ชายที่ดูเหมือนอัศวินก็ร้องเรียกพวกเรา คุนะในสภาพน่าหลงใหลมองพระจันทร์อยู่ หันไปมองเขา

ผมจำไม่เห็นได้เลยว่าเคยรู้จักเขามาก่อน

คุนะจ้องเขม็งไปที่อัศวินคนนั้น

อัศวินคนนั้นคงไม่ได้สังเกตเลย ว่าคุนะกำลังคิดจะใช้เวทฆ่าเขา

เขาคงตายไปแล้ว ถ้าผมไม่ห้ามเอาไว้

อัศวินคนนั้นพาสาวสวยคนนึงมาด้วย

เขาคงจะเป็นพี่ชายของเธอรึเปล่านะ? เพราะผมได้ยินเธอเรียกเขาว่าพี่ชาย

เพราะดูไม่เหมือนพวกเขาเป็นคนรักกันเลย

[ จะว่าไปเรจิน่า… พร้อมรึยัง? ]

จู่ๆ คุนะก็ถามเรจิน่าขึ้น

[ ค่ะ ท่านคุนะ ฉันเตรียมอ่างอาบน้ำไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ ]

[ เหรอ งั้นคุโรกิไปด้วยกันนะ ]

จากนั้นคุนะก็ดึงผม 

[ ไม่… ไม่ดีหรอกนะรู้มั้ย และยังมีเรจิน่าอยู่ด้วย ]

ขืนเป็นแบบนี้แย่แน่ เพราะร่างกายส่วนล่างของผมมันจะตื่นเอานะสิ

[ ถ้ากับคุโรกิไม่เป็นไรหรอก วันนี้คุนะอารมณ์ดี จะยอมให้เรจิน่าร่วมด้วย ดังนั้นไม่มีปัญหาแล้วล่ะ ]

คุนะพูดออกมาขณะที่หัวเราะ

ดูเหมือนนี่จะเป็นความคิดของคุนะ แต่มันจะเป็นปัญหา

เดิมทีเรจิน่าอาจจะไม่ชอบก็ได้

[ ขอบคุณมากค่ะ! ขอบคุณจริงๆ ท่านคุนะ! งั้นฉันจะร่วมด้วยนะคะ!! ]

ขัดกับความคาดหวังของผม เรจิน่าดูดีใจซะอย่างนั้น

แม้กระทั่งเรจิน่าก็ดึงมือผมไปอาบน้ำด้วย

ผมที่โดนคุนะและเรจิน่าดึงไปต้องปล่อยตัวไปตามแรง

ถึงผมจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ต้านทานไม่ได้เลย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

◆ ชายผู้เป็นวายร้ายคนหนึ่ง มัลเชียส

ข้าเดินในถนนใต้ดินมืดๆ

ไม่ว่าจะมากี่ครั้งก็ยังรู้สึกแย่ไม่เปลี่ยน

หลังจากเดินมาสักพัก ข้าก็มาห้องยังห้องที่ถูกเปิดไว้

ที่นั้นมีหญิงสาวอยู่หลายคน

พวกเธอแต่งกายด้วยชุดสีดำ

สุดทางของห้องมีรูปปั้นที่มีหัวเป็นแพะอยู่

ที่นี่ก็คือแท่นบูชาและพวกเธอกำลังบูชาสิ่งนั้นอยู่

[ มาแล้วรึมัลเชียส ]

ผู้หญิงคนหนึ่งมองมาที่ข้า

เธอเป็นสาวสวยที่อายุประมาณ 20

แต่ข้ารู้ว่าเธอไม่ได้ดูดีเหมือนภายนอก

[ ฮะฮะ เจ๊ไอนอย จู่ๆ ก็เรียกมาในที่แบบนี้มีอะไรรึ? พรุ่งนี้ข้าต้องไปแสดงต่อหน้าพวกผู้กล้านะ ]

ข้ายิ้มแบบแข็งๆ

[ มันก็เรื่องนั้นแหละมัลเชียส วันพรุ่งนี้เจ้ากับยัยนั่นต้องไปแสดงต่อหน้าพวกผู้กล้าใช่มั้ยล่ะ? ดังนั้นข้าถึงได้เรียกมาที่นี่ไงล่ะ ]

ไอนอยพูด

น่าจะเป็นเรื่องของเซนน่า

เธอเป็นคนที่คอยเอาใจเจ้าของคณะ

ไอนอยเกลียดเซนน่ามาก

จนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ เซนน่าถูกยกย่องให้เป็นดอกไม้แห่งคณะละคร [ หูลา ]

ตัวเซนน่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

แต่มีเพียงตัวเซนน่าคนเดียวเท่านั้นที่ไม่คิดว่าตัวเองจะถูกผู้กล้าเรียกไปให้แสดงต่อหน้าพรุ่งนี้

ข้าเองก็ถูกเรียกตัวไปเหมือนกัน แต่ข้าก็แค่ตัวแถม

พรุ่งนี้เซนน่าต้องไปเต้นรำ ส่วนข้าก็แค่คนเป่าขลุ่ย เหมือนเป็นตัวตลกนั้นแหละ

[ ไม่มีทางเลือก แล้วนั่นมันเป็นงาน ]

ข้ายกมือทั้งสองข้างขึ้นและส่ายหัว

[ งั้นก็ดี เอาล่ะมัลเชียสรับสิ่งนี้ไปสิ ]

ไอนอยเอาบางอย่างออกมา

[ นี่มัน… ขลุ่ย? ]

ข้ามองของสิ่งนั้นและพูดออกมา

[ ใช่แล้ว เมื่อเจ้าเป่าขลุ่ยั้นเจ้าจะสามารถควบคุมปีศาจได้ ข้าอยากให้เจ้าฆ่ายัยเด็กนั้นซะ ]

ไอนอยพูดออกมาโดยไม่ลังเล

[ ฆ่าเซนน่า….?? ]

ข้าไม่คิดเลยว่าไอนอยจะเกลียดเซนน่าถึงขนาดนั้น

[ ทำเหมือนเป็นลูกหลงไปก็ได้… แสร้างทำเป็นว่าพวกปีศาจเล็งเป้าหมายไปที่แขกที่มาร่วมงานฉลอง แค่นั้นก็ไม่มีใครเอาผิดได้แล้ว ]

คำพูดของไอนอยทำให้ข้าตะลึง

เธอเสียสติไปแล้ว

หญิงสาวที่อยู่รอบๆ ต่างหัวเราะคิกคัก

พวกเธอทุกคนที่นี่คือแม่มด

พวกเธอต่างเป็นผู้บูชาเซเทอร์-เทพจึงได้มาร่วมมือกัน

ส่วนตัวข้าก็คือแกะที่ถูกบูชายัญ

ข้ามองไปที่ขลุ่ยนั้น

มันมีตราประทับสีดำของแพะสีดำสลักอยู่ตรงนั้น

 

 

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 64"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์