CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อัศวินดำ - ตอนที่ 65

  1. Home
  2. อัศวินดำ
  3. ตอนที่ 65
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

◆ วาลคีเรียชิสุเฟย์

แสงแดดที่สาดส่องบนทะเลสีครามและส่องผืนน้ำจนเปล่งประกายระยิบระยับ

เรือลำใหญ่มากมายกำลังลอยอยู่ในอ่าวอลาร์ดอันงดงาม

เรือขนาดใหญ่เชื่อมโยงกันด้วยสะพานจนดูเหมือนเกาะขนาดใหญ่

มีอาหารมากมายเรียงรายบนเรือและผู้คนมากมายกำลังทานอาหารและคุยกัน

ฉันมองไปที่คนบนเรือ

ทุกคนต่างสวมเสื้อผ้าดูงดงาม

ทั้งยังเครื่องประดับสวยๆ

เมื่อฉันมองไปก็ได้แต่ถอนหายใจ

[ นี่ ชิสุเฟย์…. เรามาอยู่ในที่แบบนี้จะดีเหรอ? ]

มาเดียที่อยู่ข้างๆฉัน ถามด้วยความสงสัย

มาเดียเองก็คิดแบบเดียวกับฉัน

[ มันก็ไม่เป็นไรหรอก… แต่เรามาที่นี่จะดีจริงๆ เหรอ… ]

ฉันพูดไปแบบไม่สบายใจ

ตอนนี้เราอยู่ในงานฉลองที่จัดขึ้นให้ท่านผู้กล้าแห่งแสง

และท่านเรย์จิก็เชิญเรามาด้วย

เป็นธรรมดาที่พวกเราจะดีใจ เพราะได้ยินว่าจะมีอาหารหรูๆ มากมาย

แต่เมื่อมาถึงที่ห้องโถงจัดงานก็ต้องรู้สึกเศร้าใจ

เพราะมีทั้งราชวงศ์จากประเทศเพื่อนบ้านมาเข้าร่วมมากมาย

ไม่เป็นไรแน่เหรอ? ให้คนชั้นต่ำอย่างเรามาเข้าร่วมงานอย่างนี้นะ?

[ ฉัน…. ไม่ได้ดูแปลกใช่มั้ยชิสุเฟย์? ]

ฉันมองไปยังชุดที่มาเดียสวมอยู่

วันนี้มาเดียไม่ได้ใส่ชุดผู้ใช้เวทตามปกติ แต่เป็นเสื้อผ้าดูสวยงาม

นี่เป็นเสื้อผ้าพวกนี้ที่ยืมมาจากคุณจิยูกิ

ฉันเองก็สวมชุดสีฟ้าดูสวยมาก แต่ก็ยังไม่มั่นใจเลย

[ ถึงจะถามแบบนั้น …. แต่ฉันก็ไม่มั่นใจในตัวเองเหมือนกัน ]

ฉันตอบไป

เสื้อผ้าที่ฉันสวมอยู่ดูหรูหรามาก

แต่ว่ารู้สึกไม่เข้ากับที่นี่เลย เพราะที่นี่มีแต่ขุนนางทั้งนั้น

อย่างฉันเหมาะกับจะใส่เสื้อผ้าถูกๆ มากกว่าอีก

ดังนั้นเลยคิดว่าชุดพวกนี้มันไม่เหมาะกับฉัน

[ ไม่หรอก ฉันคิดว่าชิสุเฟย์มั่นใจในตัวเองหน่อยเถอะ ตอนนี้ชิสุเฟย์เหมือนสาวขุนนางเลยนะตอนนี้ชิสุเฟย์เหมือนสาวขุนนางเลยล่ะ ]

พี่เคย์น่าพูด

พี่เคย์น่าก็ใส่ชุดดูหรูหราเหมือนกัน

เป็นชุดสีแดงที่เข้ากัน แต่มันดูเหมือนพวกสาวโสเภณีเลยนะ พี่อย่าเปิดเผยเนื้อหนังขนาดนั้นสิ

[ ใช่แล้ว ฉันคิดว่าคุณชิสุเฟย์ดูดีอยู่แล้วล่ะ ]

คุณลีเรียชมฉัน

[ นี่ ชิสุเฟย์ควรมั่นใจหน่อยนะ ไม่สังเกตเลยเหรอ? ว่ามีผู้ชายตั้งมากมายมองมาที่ชิสุเฟย์น่ะ ]

[ เอ๊ะ จริงเหรอ?! ]

เมื่อได้ยินคำพูดของคุณนอร่า ฉันก็หันไปมองรอบๆ

ดูเหมือนจะมีผู้ชายบางคนกำลังจ้องมองฉันอยู่จริงๆ

น่าอายจังอ่ะ

ในตอนนั้น

ดวงตาของฉันก็ไปหยุดที่ชายหนุ่มดูดีคนหนึ่ง

ชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้

หัวใจของฉันเต้นระรัวเมื่อชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้จนถึงระยะหนึ่ง

ฉันเคยพบเขามาก่อน

[ นั่นคุณชิสุเฟย์ไม่ใช่เหรอครับ? ไม่เจอกันนานนะครับ ]

ชายคนนั้นทักทายฉันอย่างสุภาพ

[ เอ่อ ท่านเดคิอัสเองเหรอคะ… ไม่เจอกันนานนะคะ ฉันไม่ได้สังเกตเลยเพราะว่าคุณใส่ชุดที่ผิดจากธรรมดา ]

ฉันชมเขา

ท่านเดคิอัสคืออัศวินคือรับใช้ท่านราชาเทพโอดิสและเขายังเป็นผู้รักษากฏ(ตำรวจ)

ฉันเคยพบเขาครั้งนึง ตอนที่เขามาเทสซาเซียเพื่อสืบคดีหนึ่ง

ในตอนนั้นเราได้ให้ความร่วมมือในการสืบสวนกับเขาตามคำขอร้องของวิหารเฟย์เรีย

ปกติแล้วเขาจะใส่ชุดอัศวิน แต่ตอนนี้เขาอยู่ในชุดหรูหราเหมือนขุนนางหนุ่ม

ฉันเลยไม่ทันสังเกต

เดิมทีเขาก็เป็นขุนนางจริงๆ นี่นะ

ท่านเดคิอัสมาจากตระกูลขุนนางของสาธารณรัฐอาเรียดิน่า

ปกติแล้วขุนนางไม่ได้เป็นมิตรกับคนทั่วไปหรอก

แต่ท่านเดคิอัสไม่ว่าจะกับใครก็สุภาพอ่อนน้อม แม้จะในระหว่างสืบสวนคดีด้วยกัน ฉันก็พูดอะไรได้แบบไม่ต้องเกรงใจ

ทั้งใบหน้าและนิสัยก็ดี นี่ล่ะคือท่านเดคิอัส

โนวิคน่าจะหัดเรียนรู้เอาอย่างท่านเดคิอัสบ้างนะ

[ คุณชิสุเฟย์เองก็ต่างไปจากปกติเหมือนกัน ตอนแรกผมก็นึกว่าคุณเป็นสาวขุนนางที่ไหนซะอีก เสื้อผ้านั้นทำเองเหรอครับ? ]

ท่านเดคิอัสถามและมองที่ชุดของฉัน

[ ไม่… ไม่ใช่หรอกค่ะ เพราะแต่เดิมฉันก็เป็นผู้ศรัทธาท่านเฟย์เรีย เรื่องชุดแบบนี้คงทำเองไม่ได้อยู่แล้ว เป็นชุดที่ยืมมานะคะ แต่ดูไม่เหมาะใช่มั้ยคะ? ]

ฉันเอามือจับที่ชุดและตอบ

เฟย์เรียเป็นเทพธิดาแห่งผ้าด้วย

ผู้ศรัทธาของท่านเฟย์เรียถูกสอนว่าต้องตัดชุดด้วยตัวเอง

เพราะประเทศบ้านเกิดของฉันถูกทำลายไปแล้ว ดังนั้นชุดที่ทำมาก็หายไปด้วย ฉันเองก็เคยทำชุดเจ้าสาวสำหรับตัวเองไว้ด้วยนะ

เพราะได้เรียนการตัดเย็บมาจากแม่ แม้กระทั่งเสื้อผ้าที่ใส่ปกติก็ยังตัดเย็บเองทั้งหมด

แต่ชุดนี้น่ะเป็นชุดที่ยืมมา

บางทีท่านเดคิอัสคงคิดว่าไม่เหมาะกับฉันล่ะนะ 

[ ไม่หรอก เหมาะมากเลยครับคุณชิสุเฟย์ และผมไม่คิดเลยว่าจะได้เจอคุณที่นี่ ]

ท่านเดคิอัสหัวเราะ

และใบหน้าของฉันก็เปลี่ยนเป็นสีแดง

ท่านเดคิอัสเป็นหนุ่มหล่อ

ใบหน้าที่ดูดีกับผมสีทองช่างเข้ากันได้อย่างดี

การที่ได้รับคำชมจาเขาทำให้ฉันเขิลมาก

[ ค่ะ ต้องขอบคุณท่านผู้กล้าแห่งแสงที่เชิญมานะคะ ]

ฉันเอียงหน้าเพื่อซ่อนสีแดงที่อยู่

[ หืม คุณชิสุเฟย์รู้จักผู้กล้าแห่งแสงด้วยเหรอ ผมยังไม่เคยเจอเขาเลย แต่คงเป็นคนที่ยอดเยี่ยมน่าดู ]

[ ค่ะ เป็นคนที่เป็นสุภาพบุรุษและยังหล่อมาก ฉันไม่เคยเจอคนที่สุดยอดขนาดนั้นมาก่อนเลยค่ะ ]

ท่านเดคิอัสก็หล่ออยู่นะ แต่ท่านเรย์จิน่ะยอดยิ่งกว่า

เพราะเป็นเทพพระบุตรแห่งแสงสว่าง

[ หืม ท่านผู้กล้าแห่งแสงดูเหมือนจะเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ น่าดูเลยนะครับ ]

ท่านเดคิอัสพูดแล้วหัวเราะ

เขาดูท่าทางจะอารมณ์ดีมากจริงๆ

ไม่มีความอิจฉาอยู่เลย

แปลกนิดหน่อยนะ เพราะท่านเดคิอัสไม่มีความรู้สึกเชิงลบอยู่เลยสักนิด

[ จะว่าไปคุณชิสุเฟย์ เห็นผู้หญิงผมสีเงินอยู่แถวนี้บ้างมั้ยครับ? ]

ท่านเดคิอัสถาม

มันเป็นความรู้สึกเหมือนจะตายให้ได้ขณะที่เขามองหาไปทั่ว

[ ผู้หญิงผมสีเงินเหรอคะ? เป็นคนมีอายุที่มีผมสีเงินอย่างนั้นเหรอคะ? ]

ถ้าเป็นคุณย่าผมสีเงินก็น่าจะเห็นอยู่หรอกนะ

[ ผมคิดว่าเธอคนนั้นน่าจะอายุประมาณชิสุเฟย์นะ และคิดว่าเธอน่าจะเป็นขุนนางของสักประเทศ… ]

[ ไม่ค่ะ ไม่เห็นเลย ]

[ งั้นเหรอ… ? เพราะดูเหมือนเธอเป็นแฟนคลับของผู้กล้าแห่งแสง ผมเลยคิดว่าจะมาที่นี่ซะอีก…. แต่ไม่ได้มาสินะ ]

ท่านเดคิอัสทำท่าทางผิดหวัง

[ เธอคนนั้นสวยมากเลยเหรอคะ? ]

[ ครับ… ดั่งเทพธิดาแห่งแสงจันทร์… ถ้าเป็นไปได้ผมอยากเจออีกสักครั้งจังน้า ]

ท่านเดคิอัสพูด ขณะที่มองดูไปยังสถานที่อันห่างไกล

พวกเราทุกคนต่างตกใจที่เห็นเขาเป็นอย่างนั้น

เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ท่านเดคิอัสกลายเป็นแบบนี้

ท่านเดคิอัสมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะอัศวินชั้นยอดของท่านโอดิส

ไม่คิดเลยว่าท่านเดคิอัสจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้

[ น่าตกใจจริงๆ … ดูเหมือนท่านเดคิอัสจะตกหลุมเธอคนนั้นเข้าแล้วสินะ…]

[ ค่ะ น่าตกใจจริงๆ … ]

พี่เคย์น่าและมาเดียพูดขณะที่มองดูท่านเดคิอัส

ฉันเองก็มีความรู้สึกเหมือนกับทั้งสองคน

บางทีท่านเดคิอัสคงตกหลุมรักเด็กสาวผมสีเงินคนนั้นเข้าแล้ว

เมื่อเขาเห็นว่าเด็กสาวคนนั้นไม่ได้มาที่นี่ ท่านเดคิอัสก็เหม่อลอย

แต่ฉันได้ยินว่าท่านเดคิอัสได้รับคำขอแต่งงานจากสาวงามตั้งมากมายเลยนี่นา

แต่ดูเหมือนท่านเดคิอัสจะปฏิเสธจนหมด ด้วยเหตุผลว่ากำลังอยู่ในระหว่างฝึกฝนตัวเอง

เด็กสาวที่ท่านเดคิอัสตกหลุมรักเป็นคนแบบไหนกันนะ?

[ อ่ะ… ขอโทษด้วยครับคุณชิสุเฟย์ ที่ให้เห็นสภาพน่าอาย ]

ท่านเดคิอัสกลับมาได้สติอีกครั้งและใบหน้าก็กลับเป็นเหมือนเดิม

[ ไม่หรอกค่ะ… จริงด้วยค่ะ ถ้าฉันเห็นเด็กสาวคนนั้น ไว้จะไปเรียกนะคะ ]

[ ขอบคุณมากคุณชิสุเฟย์ งั้นผมคงต้องไปทักทายท่านผู้กล้าสักหน่อย ไม่งั้นจะเป็นการเสียมารยาท ] 

[ งั้นเหรอคะ? จะว่าไปพวกเราเองก็ยังไม่ได้ไปทักทายท่านเรย์จิเหมือนกัน ไว้ไปด้วยกันมั้ยคะ? ไปด้วยกันมั้ยทุกคน? ]

ฉันมองไปที่ด้านหลังเพื่อถามความเห็นเพื่อนๆ ทุกคนต่างตกลงกันหมด

[ งั้นก็ดีเลยครับ ไปด้วยกันเลยแล้วกัน ]

 จากนั้นพวกเราก็เดินไปหาพวกท่านผู้กล้า

 

 

 

 

◆ นักปราชญ์ผมดำจิยูกิ

จุดเริ่มต้นของอาณาจักรอาเรียดิน่าเริ่มขึ้นที่เพยียร์ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ตรงปากแม่น้ำคิช

แต่ปีศาจในทะเลนั้นไม่ค่อยเข้ามาในอ่าวอลาร์ดเพราะน้ำตื้นมาก

และพวกปีศาจก็ไม่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาหรอก

จึงมีผู้คนมารวมกันในป้อมปราการซึ่งสร้างจากธรรมชาติเหล่านี้ แต่ละประเทศต่างเชื่อมโยงกันด้วยสะพานและสร้างประเทศขึ้นมา

นั่นคือจุดเริ่มต้นของสาธารณรัฐอาเรียดิน่า

จากนั้นอาเรียดิน่าก็ขยายเมืองจนขนาดใหญ่ขึ้น

อาเรียดิน่ากลายเป็นศูนย์กลางของการขนส่งการค้าระหว่างทวีปตะวันตกและตะวันออก ทำให้การค้าส่งระหว่างแม่น้ำคิชและอ่าวอลาร์ดเจริญรุ่งเรือง จนกลายเป็นประเทศซึ่งมีอิทธิพลในโลกนี้

และตอนนี้เราก็อยู่บนเรือขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ในกลางน้ำของอ่าวอลาร์ด

เป็นดั่งเกาะเทียมขนาดใหญ่ที่ถูกสร้าง เรือแต่ละลำต่างถูกเชื่อมต่อกันด้วยสะพาน

แม้จะมีผู้คนมากมายบนเรือ แต่เรือก็ไม่จมหรอก

เพราะถึงจะตกไปยังทะเลด้านล่างก็ไม่เป็นไร

เพราะน้ำในระแวกนี้ตื้นมาก

บนเรือแต่ละลำต่างมีอาหารหรูหรามากมายวางบนโต๊ะ

ชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งเดินมาหาฉันและรินเครื่องดื่มให้

มันคือเหล้าผลไม้ที่มีสีสัน

[ ขอบคุณค่ะ ]

ฉันขอบคุณชายที่รินเหล้าให้

[ ข้าไม่สมควรกับคำขอบคุณหรอกครับ ท่านจิยูกิ นักปราชญ์ผมดำ ]

ชายคนนั้นพูดยกย่องฉันและจากไป

บางทีเขาคงเป็นผู้ศรัทธาของอคลิโอ้ซึ่งขึ้นตรงกับเทพแห่งเหล้า

เพราะที่หน้าอกของเขามีตราประทับศักดิ์สิทธิ์เครื่องหมายขวดแก้วอยู่

เทพอคลิโอ้เป็นเทพที่คอยบริการเครื่องดื่มและอาหารบนโต๊ะบนสวรรค์ 

เขาเป็นเทพที่เป็นที่นับถือของเหล่าบริกรชาย นอกจากนี้ภรรยาของเขายังเป็นไมโดเรียซึ่งขึ้นตรงกับเทพธิดาเฟย์เรีย

นอกจากนี้เขายังทำหน้าที่เป็นเลขาของเทพเนคเทอร์

มีความสามารถหลากหลายเพราะเป็นลูกของเฟย์เรีย

นอกจากนี้อคลิโอ้ยังถูกนับถือเป็นเทพของเหล่าพ่อบ้านด้วย

และอคลิโอ้ยังเป็นเทพที่รู้จักกันดีเพราะมีหน้าตาหล่อเหลาระดับเดียวกับพิสทิส ซึ่งเป็นรองเพียงเทพอัลฟอสและเทพธิดาอิชเทีย

ตรงหน้ามีเด็กสาวและชายหนุ่มหน้าตาดีมากมายกำลังพูดคุยกันอย่างสนุก

[ ค่อนข้างเป็นหนุ่มหล่อเลยนะคะ เนอะ คุณจิยูกิ ]

นาโอะพูดออกความเห็นจากข้างๆ ฉัน

[ ก็แน่ล่ะนะคุณนาโอะ นี่เป็นงานเลี้ยงเพื่อพวกเรานี่นา ]
 
ฉันตอบกลับขณะที่ถือแก้ว

[ แต่เรย์จิคุงดีกว่าเยอะเลยนะคะ ]

ยูเลียที่เดินมาด้วยกันพูด

และออกความเห็นกับพวกเรา

[ ไหงยูเลียถึงมาอยู่กับพวกเราล่ะ? ]

ฉันมองด้วยสายตาเย็นชาเล็กน้อย

[ อะไรกัน… อย่าเย็นชานักสิค่ะท่านจิยูกิ ฉันก็แค่อยากอยู่กับท่านเรย์จิเท่านั้นเอง ]

ยูเลียพูดขณะที่เกาะแขนเรย์จิ

[ ฉันไม่ใส่ใจหรอกนะ มีสาวๆ อยู่รอบๆ มากกว่ามันดีกว่าอยู่แล้ว ]

เรย์จิพูดด้วยรอยยิ้ม

น่า อย่างเรย์จิคงไม่ใส่ใจหรอก แต่ไม่ใช่แค่ยูเลียนะสิ เพราะผู้หญิงคนอื่นๆ ก็ตามเขามาด้วย

ริโนะและซาโฮโกะกำลังมองด้วยสายตาน่ากลัวมา

[ แล้วคุณชิโรเนะจะไม่เป็นไรเหรอคะ? ]

เคียวกะที่เดินมาด้วยกันเป็นห่วงชิโรเนะ

ชิโรเนะดื่มจนเมาและถูกเรจิน่าพาไปพักแล้ว

หายากมากเลยล่ะ

เพราะปกติแล้วชิโรเนะจะไม่เมา

เห็นได้ชัดว่าหากจิตใจผิดแปลกไป พลังเวทก็จะสั่นคลอนไปด้วย

ดังนั้นเคียวกะที่ไม่สามารถใช้เวทได้ ปกติจึงเมาได้ง่ายมาก

ตลอดมาที่ชิโรเนะไม่เคยเมาก็เพราะยังควบคุมพลังเวทได้ จึงไม่รู้สึกถึงอาการเมา

เธอคงจะช็อคที่จู่ๆ เพื่อนสมัยเด็กก็หายตัวไป

[ คือว่า… ปกติแล้วคุณเคียวกะต้องเมาไปแล้วนี่คะ? ]

นาโอะพูดขณะที่มองแปลกๆ ไปทางเคียวกะ

ตามปกติแล้ว ทั้งๆ ที่เคียวกะไม่ได้ดื่มเหล้า แต่แค่ได้กลิ่นก็เมาแล้ว แต่ตอนนี้มันแปลกไป

[ ต้องขอบคุณคุณคุโรกิค่ะ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากพบอีกครั้งจัง ]

เคียวกะพูดด้วยความรู้สึกชื่นชม

ตอนนี้เคียวกะใช้เวทมนตร์ได้แล้ว นี่แหละที่น่าแปลก

ทั้งที่ฉันจะสอนไปขนาดไหน เธอก็ใช้เวทไม่ได้เลยแท้ๆ

ดูท่าว่าฉันจะไม่เหมาะจะสอนคนอื่นล่ะนะ

ในความรู้สึกฉันเองก็ยอมรับไปแล้วนิดนึง แต่มันก็น่าเศร้าเพราะเหมือนตัวเองโดนเยาะเย้ย

ขนาดนาโอะกับคายะที่เคมีไม่เข้ากัน ยังพูดอย่างพร้อมพรียงกันเลย

นี่จริงงั้นเหรอ?

คายะบอกว่าเขาใจดีกับเคียวกะมาก แม้ว่าเธอจะล้มเหลวกี่ครั้งก็ไม่ตำหนิอะไรสักนิด

ทำให้ตอนนี้เคียวกะชื่นชมเขามาก

ฉันเองก็ไม่ได้ตำหนิเคียวกะสักหน่อย ออกจะใจดีนะ

[ อย่าดีกว่าเคียวกะ ถึงพี่จะจำหน้าเขาไม่ได้นักหรอก แต่เจ้านั้นมันพวกลามกนะ ]

เรย์จิพูดเพราะรู้สึกแย่กับเขา

แล้วยังเรื่องของคุณชิโรเนะอีก

[ นั่นสินะคะ… ]

เคียวกะเองก็ยืนยันด้วย

เมื่อฉันได้ยินก็รู้สึกแปลกๆ

นี่เธอกล้าพูดว่าร้ายผู้มีพระคุณที่สอนเวทมนตร์ให้เชียวเหรอ?

[ บางทีเขาอาจจะทำเรื่องไม่ดีกับน้องก็ได้ ดังนั้นควรจะระวังไว้ด้วย แต่เป็นไปได้พี่ไม่อยากให้ไปเข้าใกล้เขาจะดีกว่า ]

เรย์จิพูดขณะที่พยักหน้า

[ ค่ะ พี่ ถ้าพี่พูดแบบนั้นล่ะก็… ]

เคียวกะพูดขณะที่พยักหน้าซ้ำๆ

เมื่อกี้ไม่ได้บอกว่าอยากเจอเขาอีกครั้งรึไงนะ?

ฉันคิดอยู่ในใจ

[ แต่ถึงอย่างนั้นคุณชิโรเนะก็ไม่ร่าเริงเลยนะคะ ทั้งที่เป็นงานเลี้ยงแท้ๆ ]

ริโนะพูดแบบเศร้าๆ

[ ไม่หรอกค่ะท่านริโนะ แบบนี้สำหรับท่านชิโรเนะอาจจะดีกว่าก็ได้ ]

คายะที่อยู่ด้านหลังเคียวกะพูดขณะที่มองไปยังสถานที่ที่ชิโรเนะนอนพักอยู่

มันเป็นเรือลำหนึ่งที่ห่างจากเรือใหญ่และเชื่อมต่อกันด้วยสะพาน

ที่เรือมีหลังคาและมองไม่เห็นข้างในเพราะมีผ้าบางๆ กั้นอยู่

แถวนั้นมีลิซาร์ดแมนอยู่ด้วย

เรจิน่าเป็นคนพาพวกลิซาร์ดแมนที่ถูกจับที่เขาวงกตมาด้วย

แต่หากอยู่ในบริเวณงานเลี้ยง ผู้คนจะแตกตื่นกันได้จึงต้องให้ไปอยู่บนเรือห่างๆ หน่อย

[ ทำไมถึงบอกว่าดีกว่าล่ะคะ คุณคายะ? ]

ฉันเองก็สงสัยเหมือนกับริโนะ

สงสัยนิดหน่อย ว่าทำไมเธอถึงบอกแบบนั้น?

[ เอาไว้คุยกันทีหลังดีกว่าค่ะ เพราะพวกนายพลดูเหมือนจะมาทางนี้แล้วค่ะ ]

เมื่อคายะพูด นายพลคลาสก็เดินมา

[ เป็นยังไงบ้างครับพวกท่านผู้กล้า? สนุกกับงานเลี้ยงรึเปล่าครับ? ]

นายพลคลาสทักทาย

[ ค่ะ กำลังสนุกกันอยู่เลยค่ะ ว่าแต่คนที่อยู่ตรงนั้นใครเหรอคะ? ]

นายพลคลาสไม่ได้มาคนเดียว

แต่มีอีกสองคนข้างหลังด้วย

คนหนึ่งคือหญิงสาววัยกลางคนที่อ้วนท้วมที่สวมชุดและเครื่องประดับหรูหรา

อีกคนหนึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่ผอมเรียวและค่อนข้างดูดี

[ ครับ งั้นข้าขอแนะนำให้รู้จัก ทั้งสองคนคือผู้ยืนอยู่บนจุดสองสุดของการเมืองและการค้าของประเทศเราครับ ]

คลาสเดินมาข้างๆ และแนะนำตัวทั้งสองคน

[ ยินดีที่ได้พบค่ะท่านเรย์จิ ผู้กล้าแห่งแสง ฉันคือทูเรียเป็นประธานหอการค้าของประเทศนี้ค่ะ ]

หญิงอ้วนเข้ามาทักทาย

ถ้าพูดถึงประธานหอการค้างั้นก็เป็นคนของวิหารเฮย์บอสอย่างเป็นทางการ

เธอมีสัญลักษณ์ค้อนเล็กๆ ที่แสดงถึงว่าเป็นผู้ศรัทธาของเทพเฮย์บอส

เหล่าพ่อค้านั้นปกติแล้วจะนับถือเทพเฮย์บอสกัน

แต่เดิมเทพเฮย์บอสเป็นเทพของเหล่าคนแคระและเทพแห่งช่างฝีมือ ในขณะเดียวกันก็เป็นเทพที่เกี่ยวกับการค้าเลย

แต่ว่าเหล้าพ่อค้ามากมายนั้นอยากเป็นมิตรกับเหล่าคนแคระ เพราะเหล่าคนแคระเป็นผู้คอยควบคุมเหมืองแร่คุณภาพดีจากทั่วโลก จึงกลายเป็นว่าผู้ที่มีอาชีพเป็นพ่อค้าจะต้องนับถือเทพเฮย์บอส

ถูกกล่าวว่าเมื่อเทพเฮย์บอสใช้ค้อนทุบจะมีสมบัติและเงินออกมามากมาย

เหล่าพ่อค้าและร้านค้าจึงตกแต่งตราสัญลักษณ์ค้อนไว้กับตัว

[ ประธานหอการค้า? งั้นคุณก็เป็นผู้นับถือเทพเฮย์บอสสินะคะ? ]

[ ใช่แล้วค่ะท่านนักปราชญ์ ฉันเป็นผู้รับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของท่านเซเวเลียซึ่งเป็นนางฟ้าที่ขึ้นตรงกับท่านเทพเฮย์บอส เทพแห่งสมบัติที่หลับใหลใต้ผืนดินค่ะ ]

ทูเรียหัวเราะจนอัญมณีที่ติดกับตัวเธอสั่นไปมา

เทพธิดาเซเลเลียเป็นเทพที่คอยจัดการวัสถุดิบและงานก่อสร้างให้กับเทพเฮย์บอส

เป็นเทพที่ถูกกล่าวได้ว่าเป็นนางฟ้า แต่แรกเริ่มนั้นเป็นมนุษย์

การเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าและจัดการวัสดุและสิ่งของให้ รวมถึงการจัดการทองคำและเงินด้วย

เทพเซเวเลียนั้นเป็นเทพที่ให้เทพอื่นคอยกู้และคอยจัดการงาน

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเทพธิดาเซเวเลียคือเทพแห่งธนาคารและการเงินนั้นเอง

วิหารเซเวเลียส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ใกล้กับวิหารเฮย์บอส

นอกจากนี้วิหารเซเวเลียยังทำหน้าที่คอยรับฝากเงินด้วย

ในโลกนี้แต่ละประเทศ มีเงินที่แทนตัวของแต่ละประเทศ

ดังนั้นพ่อค้าจึงจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนเงินตราในประเทศนั้นๆ

แต่ค่าเงินตราก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ซึ่งบางครั้งก็จะมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง เช่นการแลกเปลี่ยนเหรียญทูคัมของอาเรียดิน่า

และจะต้องมีเครื่องสำหรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและคอยแยกเหรียญที่ไม่ดีออกไปด้วย ซ้ำยังมีเทคนิคการประเมินทองคำและเงินซึ่งเป็นมาตรฐาน เพื่อกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนของแต่ละสกุลเงิน

แน่นอนว่าเครื่องแลกเปลี่ยนเงินตรา คนแคระเป็นคนทำขึ้นอยู่แล้ว

เหล่าคนแคระทุกคนต่างชอบทองคำและเงิน ขอเพียงได้สัมผัส

ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าเหล่าคนแคระและเทพเซเวเลียมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมาก

[ ท่านจิยูกิครับ ทูเรียยังเป็นสมาชิกวุฒิสภาของประเทศเราอีกด้วยครับ ]

คลาสที่อยู่ข้างๆ แนะนำตัวเธอ

สมาชิกวุฒิสภานั้นก็เหมือนในญี่ปุ่น ต่างกันก็คือจะไม่มีวาระการดำรงตำแหน่ง

เพราะที่นี่เป็นต่างโลกจึงไม่แบ่งแยกศาสนา

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนสำคัญทางศาสนาจะมาเข้ารับตำแหน่งการเมืองสำคัญ

นอกจากนี้นักการเมืองหญิงยังไม่ใช่เรื่องแปลก

เพราะในโลกนี้ก็มีประเทศที่ปกครองด้วยราชินีอยู่หลายประเทศ

ในโลกนี้หน้าที่การงานทางสังคมของฝ่ายหญิงจะสูงกว่าและเข้าร่วมงานเลี้ยงต่างๆ ก็อย่างไม่มีปัญหาใดๆ

แต่มันไม่ใช่แนวคิดที่เพราะความเสมอภาคทางเพศหรอกนะ แต่เพราะอัตราการตายของผู้ชายสูงต่างหาก

ในโลกนี้ผู้ชายจะต้องเป็นนักรบและคอยต่อสู้กับปีศาจมากมาย

ในขณะที่ผู้ชายต้องต่อสู้อยู่นอกกำแพงเมือง ผู้หญิงเองก็ต้องทำงานอยู่ในกำแพงเมือง

ที่นอกกำแพงเมืองมีปีศาจอยู่มากมายจึงอันตราย ทำให้มีอัตราการตายสูงมาก

ผู้ชายครึ่งนึงที่เกิดมาโดนปีศาจฆ่าตาย

ดังนั้นอัตราส่วนของชายหญิงในโลกนี้จึงเป็น 1 ต่อ 2 และในแถบพื้นที่ที่มีปีศาจมาก จำนวนผู้หญิงจะเยอะกว่าปกติ ประมาณ 1 ต่อ 3 

เพราะผู้ชายไม่สามารถจัดการงานในประเทศได้ ความก้าวหน้าทางสังคมของผู้หญิงจึงก้าวกระโดดมาก

อย่างไรก็ตาม คำสอนของเทพธิดาเฟย์เรียบอกไว้ว่าอย่ามาปรากฏตัวให้ผู้อื่นเห็นก่อนหน้าสามี

ที่ทูเรียมาอยู่ตรงนี้ ก็แปลว่าเธอไม่ใช่ผู้ศรัทธาของเฟย์น่า

[ ข้าคือผู้รับใช้ของท่านราชาเทพโอดิส มีนามว่านาคิอัสครับ ท่านผู้กล้าแห่งแสง ]

ชายวัยกลางคนอีกคนทักทาย

[ นาคิอัส… หรือว่าจะเป็น นาคิอัส · เพริเคทอส ที่เป็นสมาชิกวุฒิสภาที่หนึ่งเหรอคะ? ]

สมาชิกวุฒิสภาที่หนึ่งนั้นหมายถึงผู้นำวุฒิสภา

โดยนั้นเป็นเพียงฉายา แค่ฉายาของเขาก็ดูมีอำนาจแล้ว นาคิอัสเป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองชั้นสูงในประเทศนี้

และนาคิอัสยังเป็นลูกหลานของเพริเคทอส ซึ่งเป็นหนึ่งในทั้ง 12 คนที่ก่อตั้งอาณาจักรนี้

จริงๆ แล้วที่โลกนี้ก็ไม่ได้มีนามสกุลในโลกนี้ไม่ได้บ่งบอกอะไรหรอก

ยกตัวอย่างเช่นคุณชื่อ ○○ เวลาที่คนอื่นๆ เรียกจะต่อท้ายด้วยนามสกุลของพ่อ △△ 

เพราะคุณเป็นลูกของ △△ ดังนั้นจึงโดนเรียกว่าเป็นลูกหลานของ△△ ต่อท้ายด้วย ○○  

นอกจากนี้บางคนยังมีหลายชื่อและยังมีฉายาอีก

ตัวอย่างเช่นเพราะมีผมสีดำ ○○ จึงถูกเรียกว่า △△ แบบนี้ก็ได้

อย่างฉัน นักปราชญ์ผมดำก็เป็นชื่อหนึ่งเหมือนกัน

ถ้าผมสีดำมันก็จะเป็นตัวกำหนดนามสกุลให้ว่าสีดำไป ถ้าผมสีน้ำตาลก็จะมีนามกุลที่เกี่ยวกับสีน้ำตาล

แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงขั้นเป็นนามสกุลของฉันหรอกนะ

นอกจากนี้ยังมีกรณีนามแฝงที่ได้จากอย่างลักษณะภายนอกและสถานที่เกิดด้วย

แต่ก็ยังพูดไม่ได้ว่ามันเป็นนามสกุลเช่นกัน

ในกรณีของนาคิอัส · เพริเคทอสนั้นเป็นข้อยกเว้น

เพริเคทอสไม่ใช่ชื่อของพ่อเขา แต่เป็นชื่อของรุ่นแรกที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน

มันจะไม่เป็นไรงั้นเหรอ?

และบรรดาเหล่าผู้ที่มีนามสกุลนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่สืบทอดตระกูล

ตามที่ฉันได้ยินว่า ตระกูลของเพริเคทอสนั้นส่วนใหญ่จะทำหน้าที่กงศุล

และยังเป็นตระกูลที่สืบทอดสายเลือดของมหานักบวชที่คอยรับใช้เทพโอดิสมาหลายชั่วอายุคน

ที่หน้าอกของเขามีตราประทับศักดิ์สิทธิ์ของเทพโอดิสอยู่

ตราประทับศักดิ์สิทธิ์โอเทพโอดิสนั้นมีรูปร่างกางเขน รูปร่างเหมือนตระกูลโคมอนในแคว้นซัตสึมะ

เป็นสัญลักษณ์ของกงล้อดวงอาทิตย์ที่อยู่ในญี่ปุ่น

ตราประทับศักดิ์สิทธิ์ของโอดิสเองก็เหมือนกับแบนนั้น

[ น่าแปลกใจ ที่คนที่สวยอย่างท่านนักปราชญ์ผมดำรู้จักข้า ใช่แล้วข้าคือนาคิอัส · เพริเคทอส ขอบคุณมากที่ช่วยประเทศของเราไว้ครับ ]

นาคิอัสหัวเราะและก้มหัวให้

เมื่อเห็นมองนาคิอัสก็คิดว่าเขาแปลกเพราะเป็นผู้ศรัทธาของเทพโอดิส

เพราะผู้ศรัทธาของเทพโอดิสปกติแล้วจะไม่พูดอะไรอย่างการชมคนอื่น

เพราะถือเป็นการเอาใจคนอื่นมากเกินไป

อัศวินกับเจ้าหน้าที่การเงินเหรอ บรรดาผู้คนเหล่านี้ต่างเป็นผู้ที่ขับเคลื่อนอาเรียดิน่า

[ ท่านพ่อ!! ]

มีคนส่งเสียงเรียกเขาจากข้างหลัง

เมื่อมองไป ฉันก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งและหญิงสาวอีกมากมายตามหลังมา

ฉันเพิ่งเคยเห็นชายหนุ่มคนนั้นเป็นครั้งแรก แต่เหล่าหญิงสาวพวกนั้นฉันรู้จักดี

[ อ่ะ นั่นพวกคุณชิสุเฟย์นี่นา ว่าแต่มากับใครนะ? ]

[ จริงด้วย ใครกันนะ? ท่าทางหล่อซะด้วย ]

ชิสุเฟย์มาพร้อมกับเด็กหนุ่มคนนั้น

[ อา เดคิอัสมาแล้วเหรอ? ข้าจะแนะนำให้รู้จักครับ ทางนี้คือลูกชายของข้าชื่อว่าเดคิอัส ]

เนคิอัสแนะนำลูกชายของตัวเอง

ชายคนนั้นชื่อเดคิอัสเป็นชายผมสีทอง ดวงตาสีน้ำตาล

ใบหน้าเรียวดูมีภูมิฐาน

หล่อมาก เป็นคนล่ะสไตล์กับเรย์จิ

[ ผมชื่อเดคิอัสครับท่านเรย์จิ ผู้กล้าแห่งแสง ขอขอบคุณที่ช่วยอาเรียดิน่าของเราไว้ในครั้งนี้ ]

เดคิอัสกล่าวคำทักทาย

[ นี่ ชิสุเฟย์จังเองก็สวยมากเลยนะ เสื้อผ้าแบบนี้เหมาะมากเลย อย่างกับเจ้าหญิงตัวจริงเลยล่ะ ]

แต่เรย์จิเมินเดคิอัสแล้วไปคุยกับชิสุเฟย์

[ ค่ะ… ขอบคุณมากค่ะ!! ]

จากนั้นชิสุเฟย์ก็ไปซ่อนที่ด้านหลังเดคิอัส

ดูท่าทางเธอจะอายที่ได้รับคำชมจากเรย์จิ

เหล่าหญิงสาวที่อยู่รอบข้างฉัน อย่างยูเลีย นาโอะ ริโนะ ต่างจ้องมองชิสุเฟย์ด้วยสายตาอาฆาต แต่ไม่รวมฉันหรอกนะ 

เด็กพวกนี้น่ากลัวจริงๆ

[ นี่… คุณชิสุเฟย์ มีความสัมพันธ์แบบไหนกับท่านเรย์จิเหรอคะ? ]

ยูเลียมองชิสุเฟย์ด้วยสายตาน่ากลัว

คงเพราะได้รับผลจากพ่อมา สายตาของเธอถึงได้น่ากลัวมาก อย่าบอกนะว่าเธอเป็นปีศาจ แต่แค่ไม่มีเขานะ?

[ ไม่… ไม่มีอะไร… ]

ชิสุเฟย์ที่ตัวหดเล็กลงพยายามตอบขณะที่เอาเดคิอัสมาบัง

[ ฮะฮะ สมกับในข่าวลือจริงๆ ท่านผู้กล้านี่เป็นที่นิยมกับสาวๆ จังนะครับ ]

เดคิอัสที่อยู่ด้านหน้าชิสุเฟย์กำลังยิ้ม

มันเป็นรอยยิ้มที่สดใส รอยยิ้มที่ทำให้สงบใจนั้นคอยปกป้องชิสุเฟย์จากยูเลีย

ยูเลียที่ได้เห็นรอยยิ้มนั้นหายโกรธในทันที

ผลลัพธ์ได้ผลดีจังแฮะ

[ จะว่าไปเดคิอัส เจ้าน่าจะหัดเรียนรู้จากท่านผู้กล้าสักหน่อยนะ ตอนนี้เจ้าเองก็ยังโสดอยู่ไม่ใช่เหรอ? ถ้าท่านผู้กล้าไม่รังเกียจช่วยแนะนำใครสักคนให้ลูกชายข้าหน่อยได้มั้ยครับ? ]

นาคิอัสพูดขณะที่ถอนหายใจ

ในโลกนี้ปกติแล้วจะแต่งงานกันตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นกลางๆ

เดคิอัสนั้น ดูจากตอนนี้ดูถ้าจะอายุ 20 ต้นๆ และนับเป็นวัยรุ่นปลายๆ แล้ว

ในโลกของเราอาจจะยังไม่ช้าไปหรอก แต่ในโลกนี้ถือว่าช้ามาก

แต่เขาเองก็เป็นพวกหน้าตาดีนี่นา น่าจะหาคนดีๆ ได้ไม่ยาก หรือว่าจริงๆ แล้วเขาจะเป็นพวกโฮโม(วาย)?

[ ท่านพ่อ… ตอนนี้ผมกำลังฝึกฝนตัวเองอยู่นะ เรื่องคู่แต่งงานน่ะ… ยัง… ]

เดคิอัสมีสีหน้าลำบากใจ

[ ใครสักคนเหรอคะ? จะว่าไปท่านเดคิอัสก็เห็นว่ามีผู้หญิงที่สนใจอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ? ]

[ เดี๋ยวเถอะ พี่เคย์น่า!! ]

ชิสุเฟย์พูดเตือนผู้หญิงอีกคนขณะที่หลบอยู่ด้านหลังเดคิอัส

[ เรื่องจริงงั้นรึเดคิอัส? ]

นาคิอัสถาม

[ ไม่คือ… มันก็จริง แต่ถ้าจะพูดก็น่ากังวลอยู่… ]

เดคิอัสดูเหมือนจะพูดออกมาลำบาก

[ ผิดปกตินะ ข้าคิดว่าไม่น่ามีสาวคนไหนปฏิเสธเดคิอัสหรอก ]

[ เห็นด้วยท่านทูเรีย เพราะเสมอว่าเซอร์เดคิอัสก็ปฏิเสธคำขอแต่งงานจากสาวๆ แทบทุกคนเลยนี่นา… ]

ทูเรียและคลาสแสดงท่าทีประหลาดใจ

[ แล้วสาวคนไหนล่ะที่เจ้าตกหลุมรักเข้านะ? ]

เดคิอัสส่ายหัวให้กับคำพูดของพ่อเขา

[ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันท่านพ่อ เพราะเราเพิ่งเคยเจอกันเมื่อคืนเท่านั้นเอง… ]

เดคิอัสเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

[ หืม รักแรกพบกับเด็กสาวที่มีผมสีเงินงั้นเหรอคะ? ]

นาโอะพูดด้วยท่าทางมีความสุข

[ นี่ เธอคนนั้นสวยขนาดนั้นเลยเหรอคะ? ]

ริโนะถามด้วยท่าทางสนุก

[ ครับ ยังกับเทพธิดาแห่งแสงจันทร์ ]

เดคิอัสเงยหน้ามองท้องฟ้า

แต่เวลาตอนนี้ ยังมองไม่เห็นดวงจันทร์หรอกนะ

[ เฮ้ๆ งั้นที่นายมาหาฉันก็เพราะอยากเจอกับผู้หญิงคนนั้นเองสินะ? ]

เรย์จิหัวเราะ

หมดคำจะพูดจริงๆ

นี่นายคิดจะตอกย้ำจุดยืนของเดคิอัสรึไงกัน?

ถึงแม้เรย์จิจะมีสาวสวยอย่างเรน่าอยู่ข้างกาย แต่เขาก็ยังไม่พอใจอีกงั้นเหรอ?

งั้นคงดีกว่าสินะ หากกลับไปที่ลีนาเรียแล้วปิดผนึกประตูเคลื่อนย้ายซะ

[ ว๊ากกกก!! ]

มีเสียงร้องดังขึ้นจากไกลๆ

ที่นั้นมีนักแสดงที่ถูกเรียกมาร่วมงานเลี้ยงอยู่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

[ เกิดอะไรขึ้น!? ]

คลาสมุ่งตรงไปยังทิศที่เสียงร้องดังขึ้น

แน่นอนว่าเราเองก็ตามไปด้วย

ดูเหมือนว่าจะเกิดเรื่องผิดปกติขึ้นแล้ว

 

 

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 65"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์