CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อัศวินดำ - ตอนที่ 66

  1. Home
  2. อัศวินดำ
  3. ตอนที่ 66
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

◆ อัศวินดำคุโรกิ

งานเลี้ยงฉลองให้กับเรย์จิ ผู้กล้าแห่งแสงเริ่มขึ้นในช่วงบ่าย

ดังนั้นข้างนอกจึงยังสว่างอยู่

เมื่อมองไปข้างนอกก็มีหลังคาก็คุมบริเวณงานด้วยผ้าบางๆ 

เรือขนาดใหญ่หลาบลำเชื่อมต่อกัน ผมกับคุนะก็อยู่บนเรือที่ห่างไกลออกไปเล็กน้อย

[ มู่~~~~ ]

คุนะส่งเสียงร้องขณะที่อยู่ข้างผม

[ มีอะไรงั้นเหรอคุนะ? ไม่อร่อยเหรอ? ]

อาหารมากมายวางเรียงรายอยู่ตรงหน้า

ทุกจานต่างเป็นอาหารที่ถูกเสิร์ฟในงานเลี้ยง

ตัวอย่างเนื้อของฮากิสนี่ ผมพูดได้เต็มปากเลยว่าไม่อร่อย

อากิสเป็นนกที่อาศัยอยู่แถบที่ราบสูง ทั้งร่างปกคลุมด้วยขนมีรูปร่างกลมและมีจะงอยปากเหมือนเป็ด

อากิสนั้นจับตัวได้ยากมากเพราะเคลื่อนไหวตัวเร็วด้วยสามขา

ผมรู้สึกว่ามันผิดปกติที่เนื้อของฮากิสถูกเสิร์ฟในงานปาร์ตี้อย่างนี้

ดูเหมือนคนที่เผลอกินเนื้อฮากิสเข้าไปก็คงรู้สึกแย่เป็นธรรมดา

ดูท่าทางที่คุนะอารมณ์บูดก็เพราะเรื่องนี้แน่

[ ไม่ใช่สักหน่อยคุโรกิ! ทำไมชิโรเนะถึงอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ!!? ]

คุนะตอบขณะที่มองไปยังชิโรเนะที่อยู่ข้างๆ

ชิโรเนะกำลังเกาะติดแขนขวาผม

[ ขอโทษด้วยนะคะท่านคุนะ… พอดีท่านจิยูกิฝากให้ฉันคอยดูแลท่านชโรเนะน่ะค่ะ เลยต้องทำอย่างไม่มีทางเลือก ]

เรจิน่าก้มหัวขอโทษ

เดิมทีที่พวกเรามาที่นี่ก็เพราะได้รับคำเชิญให้ร่วมงานเลี้ยงจากเรจิน่า

ผมคิดแค่ว่าจะมาหาของอร่อยๆ กินกับคุนะเท่านั้นเอง

ตามกำหนดการ เรจิน่าจะมาพบเราหลังจากทักทายคนใหญ่คนโตของประเทศพร้อมกับเรย์จิก่อน

แต่ว่าก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เพราะชิโรเนะเมาไปแล้ว ดังนั้นจึงถูกขอร้องให้ช่วยดูแลและต้องพามาที่นี่โดยไม่มีทางเลือก

[ ตาบ้าคุโรกิ… หายหัวไปอยู่ไหนกันย๊าา~ ฉันเป็นห่วงนะรู้มั้ย~ ]

ชิโรเนะหายใจออกมาขณะที่มีกลิ่นเหล้าหึ่ง

เหม็นจริงๆ แฮะ

ผมเองก็อยากดื่มอยู่หรอก

แต่ตัดสินใจดื่มที่น้ำผลไม้ดีกว่า ในแก้วของผมจึงมีแค่น้ำผลไม้

ที่จริงมันก็มีเหล้าที่ทำมาจากผลไม้อยู่หรอก แต่ผมรู้สึกไม่อยากดื่ม

จะว่าไป ที่โลกนี้มีเหล้ากลั่นด้วยนี่นา

เหล้ากลั่นส่วนมากจะทำโดยผู้ศรัทธาของเทพเนคเทอร์ แต่จะทำในวิหารของฟานาเคียซึ่งเป็นเทพแห่งยาและสมุนไพร

เพราะเหล้ากลั่นเองก็สามารถใช้เป็นยาได้

จึงกล่าวได้ว่าการแพทย์และอาหารมีความเชื่อมโยงกันในโลกนี้

เพราะสมุนไพรต่างใช้ในการทำอาหารและดื่มได้ด้วย

ทุกอย่างมีข้อดี แต่ก็ไม่ควรจะมากเกินไป

ถึงเหล้าจะเป็นยา แต่ก็ใช่ว่าจะดื่มเหล้ามากๆ แล้วจะดีเสมอไป

[ เดี๋ยวสิชิโรเนะ! เอามือออกห่างคุโรกินะ! คุโรกิกำลังหนักใจนะรู้มั้ย!! ]

คุนะจ้องมองชิโรเนะด้วบสายตาเย็นชา

จริงๆ แล้วคุนะเองก็พยายามจะดึงชิโรเนะที่กอดแขนขวาของผมออกไป

แต่มันแน่นเกินจนดึงไม่ไหว(ชิโรเนะแรงเยอะกว่าคุนะครับ)

เลยต้องพึ่งพาผม

แต่ผมเองก็ใช่ว่าจะรังเกียจอะไรที่ชิโรเนะมาเกาะแขน

เพราะที่แขนขวามันรู้สึกนุ่มมากเลยล่ะนะ

แต่ตามที่คาดไว้ คุนะกำลังอารมณ์บูด ดังนั้นผมเลยต้องดึงชิโรเนะออกแล้วล่ะ

[ นี่ๆ ชิโรเนะช่วยปล่อยทีเถอะ เดี๋ยวชุดสวยๆ ก็ยับหมดหรอก ]

ผมพยายามทำให้ชิโรเนะปล่อยมือ

[ อืมม… ชุดเหรอ…. เข้าใจแล้ว…. ฉ๊านนจะถอด~ ]

จากนั้นชิโรเนะพยายามถอดเสื้อผ้าออก

[ เดี๋ยวก่อนเลยชิโรเนะ! ผมไม่ได้หมายถึงให้ถอดชุดออก!! ]

ผมพยายามหยุดชิโรเนะ

แต่ในใจก็อยากเห็นแฮะ

แต่จะปล่อยให้เด็กผู้หญิงที่เมาปลิ้นขนาดนี้มาทำเรื่องน่าอายแบบนี้ไม่ได้ ต้องหยุดไว้

[ อะไรล๊าา~ คุโรกิ ]

ชิโรเนะที่ถูกห้ามทำสีหน้าบูดบึ้ง

[ เดี๋ยวเถอะชิโรเนะ นอนอยู่เฉยๆ เถอะน่า เธอนี่จะดื่มมากเกินไปจนคิดอะไรแปลกๆ แล้วนะ ]

ผมวางชิโรเนะบนโซฟานุ่มๆ

แต่เพราะเธอคงนอนไม่หลับ ผมเลยเอามือให้จับไว้

[ สายรัดผมนั่นมัน… ] (ดูตัวอย่างได้จากหน้าปก ผ้าสีแดงๆ ที่ผูกผมชิโรเนะนั้นแหละครับ)

ผมมองไปที่สายรัดผม

สายรัดผมที่ชิโรเนะติดเอาไว้อยู่

ผมถอดออกให้เธอก่อนจะวางนอนลงไป

นี่คือสายรัดผมที่ผมให้กับชิโรเนะที่โลกก่อน

ดูเหมือนเธอจะดูแลรักษาอย่างดีเลย

[ อืมมม~ ]

ชิโรเนะขยับเท้า

ทำให้เห็นกางเกงในสีฟ้า

ซึ่งเป็นกางเกงในของโลกนี้ นอกจากนี้โลกนี้ยังมีบราด้วย

แต่ว่ามันก็ขึ้นอยู่กับแถบพื้นที่ว่าจะใส่หรือไม่ใส่

และกางเกงในในโลกนี้ดูเหมือนจะทำจากผ้าขาวม้าแบบคาดเอวและแบบจีสตริง และยังมีแบบอื่นอีก

 โดยส่วนมากผู้ชายจะใช้แบบผ้าขาวม้าและผู้หญิงจะใช้แบบจีสตริง

โดยจีสตริงนั้นจะเป็นแบบมีสายให้พันติดจากด้านข้าง

ชุดชั้นในที่เรน่าทำตกไว้น่าจะเป็นแบบมีเข็มกลัดไว้

และตอนนี้ก็ยังเก็บไว้อยู่

ที่ชิโรเนะใส่อยู่จะเป็นแบบสายรัดจากด้านข้าง

เพราะชิโรเนะอ้าข้าแบบไม่เกรงใจใคร ทำให้เห็นกางเกงในแบบเต็มตา

ผมล่ะอยากจะเข้าไปใกล้กว่านี้ แต่อดทนไว้

แม้ว่าเธอจะใส่ชุดดูสวย แต่มันก็ยับยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว

ปากเองก็เปิดแบบไม่เกรงใจ

ในโลกเดิมชิโรเนะไม่เคยแสดงด้านนี้ให้ใครเห็นเลย

ผมคิดว่าในโลกนี้ชิโรเนะเองก็คงเป็นเหมือนกัน

ดูท่าว่าการใช้ชีวิตของเธอจะไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย

[ ขอโทษด้วยนะเรจิน่า ช่วยหาอะไรมาห่มให้ชิโรเนะหน่อยสิ ]

[ ค่ะ นายท่าน ]

จากนั้นเรจิน่าก้เอาผ้าสีขาวมาห่มให้ชิโรเนะตั้งแต่ส่วนคอลงไปถึงส่วนล่าง

เท่านี้ก็ไม่เห็นกางเกงในแล้ว

[ มู่! จะอะไรกันนักหนา! ยัยผู้หญิงคนนี้!! ]

คุนะมองชิโรเนะด้วยสีหน้าโกรธ

หน้าตอนโกรธของเธอก็น่ารักมาก

ผมโอบกอดคุนะ

[ ขอโทษนะคุนะ ช่วยทนกับพฤติกรรมของชิโรเนะหน่อยเถอะ ]

ผมขอโทษเพื่อให้คุนะหายโกรธ

[ คุนะจะพยายาม… ถ้ามีคุโรกิอยู่ข้างๆ คุนะจะทำเป็นไม่สนใจชิโรเนะแล้วกัน… ]

คุนะพูดออกมา ทำให้ผมวางใจได้เยอะ

เหมือนมีลูกสาวเลย ทำเอาผมซึ้งจนอยากจะร้องไห้

ผมโอบกอดและลูบหัวคุนะอย่างมีความสุข

[ ว๊ากกกกก!! ]

มีเสียงร้องดังมาจากไกลๆ

[ เสียงร้อง? มันเกิดอะไรขึ้น… ]

ข้างนอกนั้นดูเหมือนจะเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น

 

 

 

 

◆ นักปราชญ์ผมดำจิยูกิ

เมื่อมาถึงสถานที่ที่มีเสียงร้อง ก็เห็นชายที่แต่งกายด้วยชุดของเซเทอร์

พวกเขาคือเหล่าคนที่ได้รับคำเชิญให้มาร่วมงานนี้

โดยชายที่เล่นดนตรีหลังการแสดงละครเองก็แต่งตัวเช่นั้น

หากพูดถึงว่าทำไมเขาถึงมีชุดนั้น คงเพราะแต่เดิมโรงละครแห่งนี้เป็นของเผ่าเซเทอร์แต่ต้นแล้ว

ถึงได้มีเครื่องแต่งกายของเผ่าเซเทอร์

เซเทอร์ว่ากันว่าเป็นคนของเผ่าที่ชื่นชอบการร้องเพลงและการเต้น

ไม่ได้มีความเป็นศัตรูถึงขนาดมิโนทอร์ แต่ก็มีพลังเวทและบทเพลงที่ทำให้หลงเสน่ห์ได้

ทุกคนในเผ่าชอบเด็กชายและเด็กาวที่หล่อเหลาและงดงาม

โดยจะโจมตีและเชื้อเชิญหญิงสาวให้มาติดกับด้วยเวทมนตร์ ดังนั้นควรระวังให้ดี

นอกจากนี้เซเทอรนั้นจะอาศัยอยู่เฉพาะที่นากอลและค่อนข้างน่ากลัว

ลักษณะของเซเทอร์เหมือนแพะแถมยังมีพลังเวทสูง

บางครั้งปีศาจพวกนี้ก็จะมาที่ประเทศของมนุษย์และเกลี้ยกล่อมหญิงสาวมนุษย์ว่าจะทำให้ความหวังเป็นจริง

ลักษณะดูเหมือนสะบาโต(พิธีกรรม)

ว่ากันว่าหญิงสาวที่ถูกเซเทอร์รักจะกลายเป็นแม่มด

แต่เพราะชายคนนั้นเป็นแค่ชายที่แต่งชุดเซเทอร์ จึงไม่น่าจะทำให้หญิงสาวเป็นแม่มดได้

[ จิยูกิ! ปู! นั่นมันปูยักษ์!! ]

เรย์จิตะโกน

ปูตอนนั้นกระโดดขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ

มันเป็นปูที่มีขนาดตัวถึง 5 เมตรและมีขาซ้ายและขวาเป็นกรรไกรที่ยาวถึง 1 เมตร

เจ้าปูนั้นถูกเรียกว่าคาคินอส

คาคินอสคายฟองอากาศออกมา

ซึ่งฟองอากาศพวกนั้นมีความเหนียวมากทำให้เมื่อโดนเข้าขยับไม่ได้

[ ย๊า!! ]

เรย์จิเรียกดาบมาและฟันคาคินอสตัวหนึ่ง

แต่คาคินอสมีอยู่ถึงห้าตัว

แต่ละตัวต่างพยายามโจมตีเรือลำอื่นอยู่

[ ใครก็ได้ช่วยด้วยค่ะ!! ]

ทันใดนั้นฉันก็ได้ยินเสียงร้องของผู้หญิงคนหนึ่ง

คิดว่าเธอน่าจะเป็นนักเต้น

เมื่อมองไปก็เห็นเธอคนนั้นยืนอยู่และชี้ไปทางทะเล

[ เกิดอะไรขึ้น?!! ]

เรย์จิและฉันรีบวิ่งไปหานักเต้นคนนั้น

[ เพื่อนฉันตกลงไปในทะเลค่ะ!! ]

เมื่อมองไปที่ทะเลก็เห็นชายที่สวมชุดเซเทอร์หล่นลงไปในทะเลแล้ว

[ อะไรกัน ผู้ชายเหรอ…. จิยูกิฝากเรื่องของเขาด้วย ฉันจะไปจัดการปูตัวอื่น ]

จากนั้นเรย์จิก็เปลี่ยนทิศไปจัดการปูตัวอื่น

[ อีกแล้วเหรอ…. เอาแต่ใจจริงๆ ]

ฉันใช้มือเวทมนตร์ดึงชายคนนั้นขึ้นมาขณะที่บ่น

ชายคนนั้นสลบอยู่ จากนั้นฉันก็เอาตัวเขาไปวางไว้บนดาดฟ้าเรือ

[ นี่! มัลเชียสทำใจดีๆ ไว้!! ]

สาวนักเต้นวิ่งไปหาชายคนนั้น

[ เซนน่า! ปลอดภัยใช่มั้ย!! ]

เดคิอัสที่วิ่งมาจากด้านหลัง รีบวิ่งไปหานักเต้นคนนั้น

[ พี่!! ]

นักเต้นคนนั้นเรียกเดคิอัสว่าพี่ชาย

เป็นมันเรื่องแปลกนะ นักบุญของท่านโอดิสกับนักเต้น เป็นพี่น้องกันงั้นเหรอ?

[ คุณจิยูกิบาดเจ็บรึเปล่าคะ? ]

ซาโฮโกะวิ่งมาทางนี้

[ ค่ะ ฉันไม่เป็นไรหรอก แต่ช่วยรักษาให้เขาทีค่ะ ]

จากนั้นซาโฮโกะก็ใช้เวทรักษาให้มัลเชียส

มัลเชียสลุกขึ้นด้วยใบหน้านิ่งเฉย

ฉันมองไปรอบๆ

เห็นเรย์จิจัดการคาคิทอสจนหมดแล้ว

[ ทำไมคาคินอสถึงได้โผล่มาแถวนี้… ? ]

เดคิอัสพึมพำ

[ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะคุณเดคิอัส… แต่ตอนนี้พูดได้อย่างเดียว ]

ทุกคนต่างมองมาที่ฉัน เมื่อได้ยินคำพูดนั้น

[ มื้อเย็นวันนี้เป็นปูค่ะ ]

 

 

 

◆ นักปราชญ์ผมดำจิยูกิ

เราเอาคาคินอสมาวางบนเรือ

แต่มันใหญ่มากคงกินกันไม่หมดแน่ น่าจะฝากพ่อครัวของเรือให้เก็บเอาไว้เผื่อทำอาหารคราวหน้าด้วยนะ

ปกติโลกในโลกนี้ก็กินอาหารทะเลกันเหมือนกัน

ดังนั้นการกินปู กุ้ง ปลาหมึกจึงเป็นเรื่องปกติบนโต๊ะอาหาร

ใบหน้าของพ่อครัวดูจะสนใจเจ้าปูยักษ์-คาคินอสมาก 

แต่โลกนี้ดันไม่มีซอสถั่วเหลืองนี้สิ

จะมีก็แค่น้ำปลา

ถ้าใช้น้ำปลาก็ยังสามารถได้รสชาติเหมือนอาหารญี่ปุ่นได้อยู่

ซาโฮโกะนั้นทำอาหารเก่ง ปกติแล้วจะใช้น้ำปลานี้ล่ะ ทำอาหารญี่ปุ่นให้พวกเรากิน

แต่ในโลกนี้ไม่มีวัตถุดิบแบบตะวันตกอย่างมันฝรั่งหรือมะเขือเทศเลย แต่ก็มีผักกาดที่รสชาติคล้ายมันฝรั่งอยู่

เนื้อผัดมันฝรั่งของซาโฮโกะน่ะอร่อยมากเลยล่ะ

คาคินอสเองก็น่าจะอร่อยหากเอาไปอบน้ำปลา

[ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? แล้วปูพวกนี้มาจากไหนกันคะ? ]

เคียวกะพูดขณะที่มองดูปูพวกนั้น

ที่นี่มีพวกชิสุเฟย์ ยูเลีย และเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ กระทั่งพี่น้องเดคิอัสกับเซนน่า แต่มีแค่ชิโรเนะที่ไม่อยู่

คลาสไปหาคนที่รับผิดชอบเรื่องความปลอดภัย

นาคิอัสไปดูพวกแขก

และทูเรียจู่ๆ ก็ออกจากงานไป

[ บางทีคาคิทอสพวกนี้อาจจะเป็นปีศาจที่หนีออกมาจากสนามต่อสู้ก็ได้ หากไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้ก็ไม่รู้แล้วล่ะว่าทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ]

ในรายชื่อปีศาจที่หนีออกจากสนามต่อสู้ก็มีคาคินอสอยู่ด้วย

จำนวนเองก็เท่านั้น

ดังนั้นต้องไม่ผิดแน่

แต่ว่าคาคินอสออกมาโจมตีตอนที่งานเลี้ยงเริ่มเนี่ยนะ

นี่มันน่าสงสัยว่าอาจจะเป็นแผนการของใครสักคน

[ ท่านเรย์จิ ข้าได้พาคนของวิหารไทรเด็นมาแล้วครับ ]

นายพลคลาสพานักรบที่คอยรับใช้เทพแห่งทะเลไทรเด็นมา

เขาเป็นชายวัยกลางคนที่ถือหอกและสมกับเป็นนักรบของไทรเด็น

ดูเหมือนกับเนฟิมที่ถูกเรียกว่าผู้กล้าแห่งน้ำ แต่นักรบของไทรเด็นหรือนักบุญนั้นปกติแล้วก็จะใช้หอกและตาข่ายเป็นปกติอยู่แล้ว

การต่อสู้จะเป็นการใช้ตาข่ายยับยั้งการเคลื่อนไหวของศัตรูจากนั้นก็ใช้หอกสามง่ามแทง นี่คือวิธีต่อสู้ของนักรบแห่งไทรเด็น

ชายคนนั้นถือตาข่ายมาพร้อมบนไหล่

จากที่คลาสบอก ดูท่าเขาจะเป็นคนที่คอยรักษาความปลอดภัยในงานคราวนี้

เพราะงานเลี้ยงนี้จัดขึ้นบนเรือ จึงต้องขอความร่วมมือจากนักรบของวิหารไทรเด็นมาช่วยคอยระวัง

[ ขอโทษด้วยครับ! ที่พวกเราเลินเล่อกันเกินไป!! ]

ชายคนนั้นก้มหัว

โดยนักรบของไทรเด็นนั้นแข็งแกร่งพอๆ กับนักรบของวิหารโทรุส 

[ ไม่ต้องใส่ใจหรอกค่ะ ฉันเข้าใจสถานการณ์ของพวกคุณดี ]

นักรบของวิหารไทรเด็นในอาเรียดิน่ากำลังขาดคน เพราะส่วนใหญ่ถูกเมอร์แมนฆ่าตายกันหมด

ดังนั้นจะเขาไม่ต้องสำนึกผิดหรอก

และถึงแม้จะมีคนเพียงพอ ก็ใช่ว่าจะทำอะไรคาคินอสได้

อีกฝ่ายคือคาคินอส ฉันไม่คิดหรอกว่ามนุษย์ธรรมดาจะทำอะไรมันได้

[ ไม่ได้หรอกครับท่านนักปราชญ์ผมดำ ]

ชายนักรบก้มหัวให้อีกครั้ง

[ งั้นช่วยเล่าเรื่องของคาคินอสให้ฟังได้มั้ยคะ? ที่ฉันรู้ก็แค่ว่ามันเป็นปูยักษ์เท่านั้นเอง ]

[ คาคินอสเหรอครับ? เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่รู้สักเท่าไหร่ แต่ในทะเลตะวันตกข้าได้ยินว่าเมอร์แมนสามารถควบคุมคาคินอสได้… ]

นักรบคนนั้นพูดออกมา

ได้ยินว่าเมอร์แมนถูกเรียกว่าชาวใต้ทะเลเพราะสามารถควบคุมสัตว์เวททรงพลังในทะเลได้

ในอดีต เมอร์แมนเคยควบคุมมอนสเตอรืนี้และทำลายอาณาจักรแอทตี้จนทะเลกลายเป็นสีเลือดมาแล้ว

[ ค่ะ ฉันเองก็คิดว่าปูพวกนี้อาจโดนควบคุม ถึงได้มาโจมตีตอนที่งานเลี้ยงเริ่มก็ได้? ]

[ ข้าคิดว่าอาจจะไม่ใช่ครับ…. เพราะข้าเองก็ดำน้ำจนถึงก้นทะเลแล้วแต่ก็ไม่เจออะไรเลย(ทะเลแถวนี้ตื้น) ]

นักรบคนนั้นส่ายหัว

[ งั้นเหรอคะ แต่ฉันคิดว่าไม่ผิดแน่ คาคินอสจะต้องถูกใครบงการอยู่ เป็นไปได้ว่ามันอาจจะไม่ได้ขยับตัวเลยไม่ได้สังเกตและซ่อนอยู่ใต้ทราย เมื่อถึงเวลาพวกมันถึงได้ปรากฏตัวออกมา ]

ฉันยืนยันออกไป

[ งั้นเหรอ เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นพวกที่เหลือของเทพปีศาจและเป็นศัตรูของเราก็ได้ ]

เรย์จิพยักหน้าขณะที่พูด

[ ไม่ต้องสงสัยเลย ดังนั้นพวกเขาถึงได้ใช้คาคินอสที่หนีออกมาจากสนามต่อสู้ ]

ถึงฉันจะไม่รู้เป้าหมาย แต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คนร้ายพยายามเล็งเป้าหมายมาที่พวกเรา

ฉันมองไปทางยูเลีย

[ เอ่อ… อะไรคะ? ]

ยูเลียมองฉันด้วยสีหน้าไม่สบายใจ

[ คุณยูเลียพอจะทราบอะไรมั้ยคะ? ]

ยูเลียส่ายหัว

[ ไม่รู้จริงๆ ค่ะ อาจจะเป็นฝีมือของอโทราน่าก็ได้นะคะ ]

ยูเลียพูดออกมา

อโทราน่าก็คือเทพธิดาคนหนึ่ง ชื่อที่แท้จริงของเธอคืออโทราคัวและมีร่างเป็นแมงมุม

แต่เธอก็โดนคุโรกิ เพื่อนสมัยเด็กของชิโรเนะจับตัวไปที่นากอลแล้ว

[ คายะ พอจะรู้อะไรมั้ยคะ? ]

คายะส่ายหัวให้กับคำถามของฉัน

[ ไม่เลยค่ะ… แต่เป็นไปได้ว่าท่านคุโรกิอาจจะปิดบังอะไรอยู่ถึงไม่ให้ตัวอโทราคัวกับพวกเรา ]

[ กำลังปิดบังอะไรงั้นเหรอ? ]

[ คงเป็นปีศาจที่สนามต่อสู้ค่ะ เพราะท่านคุโรกิเห็นใจพวกปีศาจพวกนั้นนะคะ ]

คายะตอบอย่างสุภาพ

[ อย่างนี้นี่เอง… ]

เพราะปีศาจบางส่วนหายตัวไปจากสนามต่อสู้ หากเราถามอโทราคัวก็อาจจะรู้ว่าอยู่ที่ไหน

เป็นไปได้ว่าเขาตั้งใจจะซ่อนปีศาจพวกนั้นไว้

[ ฟุฟุ นี่ก็เพราะคุณคุโรกิเป็นคนใจดีไงล่ะค่ะ ]

เคียวกะที่อยู่ข้างๆ พยักหน้า

นี่เคียวกะชื่นชมเขาขนาดไหนกันล่ะเนี่ย

[ แต่ว่าก็มีบางคนที่ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นไม่ควรปล่อยพวกปีศาจจากสนามต่อสู้ไว้ เพราะเป็นไปได้ว่าพวกมันจะก่อความเดือดร้อนที่อื่นๆ อีก ]

เรย์จิที่อยู่ข้างๆ พูด

ไม่น่าแปลกใจ เพราะหากก่อความเดือดร้อนก็จะเป็นภาระของเรย์จิ

แต่ถ้าชิโรเนะได้ยินจะเสียใจเอาได้

แต่ส่วนที่เรย์จิพูดก็มีส่วนถูกอยู่

พวกปีศาจที่หลบซ่อนตัวจะทำร้ายผู้คน ดังนั้นควรจะกำจัดมันซะให้หมดจะดีกว่า

[ น่า มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ช่วยอะไรไม่ได้หรอก แต่เรามีเรื่องสำคัญกว่าต้องทำอยู่ ]

ฉันเปลี่ยนหัวข้อคุย เพราะฉันเองก็ได้เขาช่วยชีวิตไว้ เลยไม่อยากไปว่าร้ายเขามากนัก

และถึงเขาจะอยู่ฝ่ายเดียวกับราชาปีศาจแต่ก็ยังมาช่วยฉันเอาไว้

บางทีเขาคงไม่ได้โดนควบคุมโดยสมบูรณ์แบบอย่างที่ชิโรเนะบอก ดังนั้นคงต้องดูสถานการณ์ของทางเขาซะก่อน

[ ก็จริงล่ะนะ เรื่องการจัดการพวกปีศาจที่เหลือไว้หลังจากงานเลี้ยงก็ได้ ]

เรย์จิหัวเราะ

แต่หลังจากนี้ฉันคงต้องเจอเรื่องปวดหัวอีกแล้ว

[ เรย์จิ แล้วจะหาคนร้ายได้ยังไงล่ะ? เพราะไม่มีเบาะแสอยู่เลยสักนิด ]

นาโอะและริโนะไปตรวจสอบพื้นที่ในทะเลแล้ว แต่ก็ไม่พบหลักฐานอะไรเลย

นอกจากนี้ฉันยังตรวจร่างกายของคนที่อยู่แถวงานหมดแล้ว ซึ่งพวกเขาก็เป็นมนุษย์กันหมด

ต้องขอบคุณริโนะและนาโอะที่เหน็ดเหนื่อยจริงๆ ซึ่งตอนนี้ซาโฮโกะกำลังคอยดูแลพวกเธออยู่

ถ้าตรวจสอบละเอียดเกินไป คนร้ายก็จะไหวตัวทันและหนีไปได้

และฉันก็ไม่คิดว่าอโทราคัวจะมีปีศาจมากมายนักหรอก

บางทีคนร้ายอาจจะหนีไปแล้ว หลังจากเคลื่อนย้ายคาคินอสมาที่นี่ก็ได้

ดังนั้นคนร้ายไม่น่าจะอยู่ที่นี่แล้ว

[ เป็นไปได้ว่าคนร้ายจะหนีจากอาเรียดิน่าไปแล้ว… ]

[ แต่อาเรียดิน่าเป็นประเทศใหญ่และมีประชากรเยอะ ฉันคิดว่าคนร้ายน่าจะซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งมากกว่า… ]

ฉันปฏิเสธคำพูดของเรย์จิทันที

บางทีในประเทศนี้หรือประเทศเพื่อนบ้าน อาจจะมีพรรคพวกที่เหลือของเทพปีศาจซ่อนตัวอยู่ก็เป็นได้

เพราะในกำแพงเมืองสามารถซ่อนตัวได้ง่ายกว่าจะไปข้างนอกอยู่แล้ว ถ้าแปลงร่างเป็นนนุษย์ได้น่ะนะ

โดยเฉพาะอาเรียดิน่ามีประชากรเยอะมากที่ไม่ได้มีสถานะพลเมืองก็สามารถเข้าไปอยู่ได้

ดังนั้นมันจึงง่ายหากจะซ่อนตัว

หากเป็นในประเทศเล็กๆ การที่มีคนน่าสงสัยเข้ามาในประเทศจะสังเกตได้ทันที แต่อาเรียดิน่าไม่ใช่

ลำพังแค่พวกเราไม่สามารถตรวจสอบทั้งอาเรียดิน่าได้

แน่นอนว่ายิ่งเป็นไปไม่ได้หากจะไปค้นหาจากประเทศโดยรอบ

นอกจากนี้หากเราพยายามสืบมากเท่าไหร่ คนร้ายก็อาจจะหนีไปเลยก็ได้

เรย์จิอยากจะรีบเร่งตรวจสอบ แต่ฉันก็อยากเลี่ยงปัญหากับประชาชนในประเทศนี้ล่ะนะ

[ รอเดี๋ยวครับ พวกท่านผู้กล้า ]

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้น

[ เซอร์เดคิอัส? มีอะไรงั้นรึคะ? ]

คนที่เรียกพวกเราก็คือเดคิอัส 

[ เรื่องการสืบสวนคดีนี้ปล่อยให้เราเป็นคนค้นหาคนร้ายได้มั้ยครับ? ]

เดคิอัสก้มหัว

โดยปกติแล้วผู้ตรวจการจะมีอยู่สองประเภท ผู้ตรวจการปกครองและผู้ตรวจการกฏหมาย

แต่ผู้ตรวจการประเทศอื่นๆ จะคอยป้องกันอาชญากรรมจนถึงรักษาความปลอดภัย สืบสวนคดี และอื่นๆ อีกมากมาย

แต่ผู้ตรวจการในประเทศนี้จะแบ่งเป็นกองกำลัง ซึ่งมีนายพลคลาสและวิหารเรน่าคอยชี้นำ

ทั้งกองกำลังดับเพลิงที่คอยป้องกันไฟไหม้ในวิหารไทรเด็นและกองกำลังที่คอยตรวจพฤติรรมน่าสงสัยยามวิกาลอย่างวิหารเคย์ร่า

และผู้ตัดสินการกระทำผิดที่เป็นคนของวิหารโอดิส ซึ่งมีทั้งนักบุญและอัศวินที่คอยรับใช้

ในญี่ปุ่นองค์กรศาสนาจะไม่มีอำนาจอะไรมากมาย แต่นี้ถือเป็นเรื่องปกติในโลกนี้

ดังนั้นการที่เดคิอัสเสนอว่าจะสืบคดีนี้ให้จึงเป็นเรื่องปกติ

นอกจากนี้เดคิอัสยังเป็นผู้รับใช้ของเทพโอดิส จะต้องสืบสวนคดีนี้อย่างเป็นธรรมแน่

[ เรื่องนั้นก็ได้หรอกค่ะ ถ้าเป็นอัศวินผู้ตรวจการกฏหมายคงง่ายจะสืบคดีนี้ และยังสามารถติดต่อวิหารโอดิสในแต่ละประเทศได้… เรย์จิคุง ฉันว่าเรื่องนี้ให้เดคิอัสจัดการเลยก็ได้นะ? ]

ฉันมองไปทางเรย์จิ

อันที่จริง ฉันก็อยากตรวจสอบด้วยตัวเองหรอก

[ แต่ว่า… ]

เรย์จิทำสีหน้าเย็นชา

[ แน่นอนว่าจะมีส่วนช่วยในการสืบสวนก็ได้อยู่ แต่ฉันคิดว่าคนที่ควบคุมคาคินอสได้ หากไม่ใช่พวกเราก็คงจัดการเขาไม่ได้ คุณคิดจะทำยังไงเหรอคะ? ]

ฉันพูดจากนั้นเดคิอัสก็พยักหน้า

[ ครับ เรื่องนี้เองก็ต้องคิดหนักเหมือนกัน เพราะศัตรูเป็นถึงคาคินอส… เมื่อถึงเวลานั้นคงต้องขอให้พวกท่านผู้กล้าช่วยครับ ]

เดคิอัสยอมรับ

เป็นเป็นคนที่ไม่ทำอะไรให้เกิดการสูญเสียโดยเปล่าประโยชน์ ทัศนคติแบบนี้เองก็น่าชื่นชม

[ ก็ตามที่ว่าล่ะเรย์จิคุง! ]

ฉันมองไปทางเรย์จิ

[ งั้นก็ช่วยไม่ได้… ]

เรย์จิเองก็เห็นด้วย

แต่การสืบคดีคงเป้นไปไม่ได้หากมีแค่เขาคนเดียว

[ งั้นพวกคุณชิสุเฟย์ ช่วยให้ความร่วมมือในการสืบสวนด้วยได้มั้ยคะ? แน่นอนว่าจะมีรางวัลให้ทีหลัง ]

ฉันมองไปทางชิสุเฟย์

[ ค่ะ คิดว่าทำได้ ทุกคนก็ตกลงใช่มั้ย? ]

ชิสุเฟย์มองไปที่ด้านหลังและทุกคนก็พยักหน้า

[ เท่านี้ก็สรุปได้แล้ว เราจะเริ่มการสืบสวนกันพรุ่งนี้เลยนะ? ]

 

 

◆ อัศวินดำคุโรกิ

[ คาคินอส…? ]

ผู้หญิงชื่อทูเรียพยักหน้า เมื่อได้ยินคำถามของผม

[ ค่ะ ถูกต้องแล้ว ท่านเทพพายุคุโรกิ ]

เธอเรียกผมว่าเทพพายุคุโรกิ

พักนี้พวกคนแคระเองก็เรียกผมด้วยชื่อนี้

ผู้หญิงที่ชื่อทูเรียมาที่เรือของพวกเราและรายงานให้ผมกับคุนะฟังว่าเกิดอะไรขึ้น

คุนะไม่สนใจและงีบหลับโดยใช้ตักของผมเป็นหมอน

ผู้หญิงที่ชื่อทูเรียคือคนที่คุ้นเคยกับคนแคระ-ดาริโอ้

และเธอได้รู้จักผมผ่านทางดาริโอ้

สามีของเธอเป็นคนแคระและเธอก็มีลูกสาวเป็นคนแคระด้วย

ผู้หญิงที่แต่งงานกับคนแคระนั้นจะได้รับทรัพย์สมบัติมากมายจากเหล่าคนแคระ

ตอนนี้เธอกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศเพราะธุรกิจ

นอกจากนี้เธอยังมีส่วนช่วยจัดการเขาวงกตกับพวกคนแคระด้วย

ผมไปติดต่อโมเดสผ่านทางเทพเฮย์บอส ว่าผมจะอยู่ที่อาเรียดิน่าสักพัก

ในตอนนั้นจึงได้รู้จักกับทูเรีย

ทูเรียรู้ว่าผมเป็นอยู่ในประเทศนี้ก็เพราะดาริโอ้ซึ่งเป็นผู้ช่วยของเทพเฮย์บอสเป็นคนบอกมา

จึงได้มาติดต่อกับผม

เพราะเธอทำให้การใช้ชีวิตในอาเรียดิน่าของผมสะดวกสบายขึ้นมาก

[ คาคินอสพวกนั้นเดาว่าคงหนีออกมาจากสนามต่อสู้สินะ ขอบคุณสำหรับข่าวนะทูเรีย เป็นปีศาจที่เหลืออยู่ของอโทราน่าสินะ ]

อโทราน่าเป็นคนปล่อยปีศาจพวกนั้นให้หนีจากสนามต่อสู้

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเหตุการครั้งนี้เกิดจากปีศาจที่เหลืออยู่ของอโทราคัว

[ ค่ะ ฉันเองก็ไม่เชื่อว่าอโทราน่าจะเป็นปีศาจและยังเป็นลูกน้องของเทพปีศาจ แถมยังมีพรรพคพวกเหลืออยู่ในอาเรียดิน่า… นี่มันน่ากลัวจังเลยนะคะ ]

ทูเรียส่ายหัวราวกับไม่อยากเชื่อ

อโทราน่าเป็นสมาชิกของสมาคมพ่อค้า

เป็นธรรมดาที่ทูเรียจะรู้จัก

แน่นอนว่าทูเรียไม่ได้รู้ตัวจริงของอโทราน่าเลยสักนิด

[ เกี่ยวกับพรรคพวกที่เหลืออยู่ของอโทราคัว ผมคิดว่าน่าจะพอมีเบาะแส ]

เมื่อได้ยินคำพูดของผม ทูเรียก็มองมา

[ เป็นความจริงเหรอคะท่านเทพพายุคุโรกิ? ]

ผมพยักหน้าให้คำพูดนั้น

เพราะจับตัวอโทราคัวได้ทำให้ได้ข้อมูลมามากมาย ในหมู่ข้อมูลพวกนั้นก็มีเรื่องที่ไม่ได้บอกพวกชิโรเนะไปด้วย

ที่ผมไม่พูดออกไปเพราะมันเกี่ยวข้องกับนากอล

[ อา ไว้ผมจะไปดูเองว่าพวกเขากำลังวางแผนอะไรกันอยู่ ]

[ ขอบคุณมากค่ะ ท่านเทพพายุคุโรกิ ]

[ มีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจจะทิ้งฐานไปแล้วก็ได้… แต่เรื่องนี้ปล่อยให้ผมจัดการเองเถอะคุณทูเรีย ]

เมื่อได้ยินคำพูดของผม ทูเรียก็ทำสีหน้าโล่งใจ

แต่แตกต่างจากทูเรีย ผมกำลังหนักใจ

พอคิดถึงคนที่ทำให้เกิดเรื่องแล้วก็ปวดหัวขึ้นมา

ผมถอนหายใจขณะที่ลูบหัวคุนะที่นอนอยู่บนตัก

 

 

 

◆ นักเต้นเซนน่า

เมื่ออำลาท่านผู้กล้า ฉันกับพี่ก็เดินไปหาท่านพ่อ

ท่านพ่อน่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่งบนเรือนี้

[ แต่พี่คะ การสืบสวนจะเริ่มวันพรุ่งนี้ไม่ใช่เหรอ? แล้วมีอะไรอีกเหรอคะ? ]

ฉันถามพี่ชาย

[ ไม่… ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก แต่เซนน่าล่ะเป็นยังไง พอจะสะกิดใจอะไรบ้างมั้ย? ]

ฉันไม่ตอบอะไร

ฉันเองก็พอจะสะกิดใจอะไรอยู่ แต่ก็บอกพี่ไปไม่ได้

เพราะมันอาจจะเกี่ยวข้องกับคณะโรงละคร

แม้ว่าจะไม่ดีต่อพี่ แต่ฉันก็ไม่อยากสร้างปัญหาให้มิดัส

[ เซนน่า… เห็นอะไรเข้างั้นเหรอ? ]

พี่ถามขณะที่มองมาทางฉัน

[ ไม่ค่ะ ไม่มีอะไรหรอก อย่าใส่ใจเลยค่ะ ]

ฉันพยายามเอาผ้ามาบังไว้

[ นี่มัน? ]

พี่พยายามจะแทรกผ้าพวกนั้นออก

[ รอเดี๋ยวคะพี่! อย่ามองเข้ามาข้างในนะ! ]

ฉันพยายามห้ามเขา

[ เซนน่า? ]

[ แค่อยากให้ช่วยปิดบังไว้ก่อนได้มั้ยคะ? ]

[ เข้าใจแล้วเซนน่า พี่ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ]

พี่ยอมรับท่าทางแปลกๆ ของฉัน

ที่ฉันบอกไม่ได้เพราะเป็นพี่นี่ล่ะ

[ ขอบคุณมากค่ะพี่ แต่ที่เหลือฉันอยากจัดการเอง ]

จากนั้นฉันก็แยกจากพี่ไป

[ เซนน่า! จะไม่ไปพบพ่อหน่อยเหรอ? ]

พี่พูดจากด้านหลังของฉัน

[ ขอโทษด้วยนะคะพี่ แต่ฝากทักทายพ่อล่วงหน้าด้วยค่ะ ]

จากนั้นฉันก็เรียบเรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ในตอนนั้นมัลเชียสแปลกไป

เขาเอาขลุ่ยสีดำที่มีตราสลักรูปแพะสีดำออกมาและได้ทำตกเอาไว้

ฉันมอบขลุ่ยนี้ให้พี่ชาย

แต่ว่าเพราะมันมีส่วนเกี่ยวข้องกับคณะโรงละคร บางทีโรงละครอาจจะโดนระงับไปเลยก็ได้

นั้นคือเหตุผลที่ฉันบอกอะไรพี่ไปไม่ได้ นอกจากส่งมอบไปเฉยๆ

ถ้าพูดไปหัวหน้ามิดัสอาจจะต้องลำบาก

[ เห็นทีต้องไปยืนยันให้แน่ใจ… ]

ฉันบ่นพึมพำและรีบกลับไปที่โรงละคร

 

ภาพของคาคินอส

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 66"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์