CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อัศวินดำ - ตอนที่ 67

  1. Home
  2. อัศวินดำ
  3. ตอนที่ 67
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

◆ ชายวายร้าย มัลเชียส

[ บัดซบ… ข้าพลาด ]

ข้าบ่นพึมพำขณะที่เดินอยู่ในถนนยามค่ำคืนที่มีแสงจันทร์สาดส่อง

ข้าน่าจะโยนเซนน่าลงไปในทะเล แต่ในตอนนั้นเธอก็หลบได้และข้าก็ตกลงไปแทน

ในตอนนั้นข้าได้ทำขลุ่ยของเจ๊ไอนอยหล่น

[ ทำควรทำยังไงดี… ขืนเป็นแบบนี้ข้ามีหวังโดนฆ่าแน่… ]

จริงๆ ข้าอยากหนีไปให้พ้น

แต่มันก็การ

การจะหนีจากแม่มดให้พ้นนั้นยากมาก

นอกจากนี้ข้ายังไม่มีที่ให้ไป

ข้าไม่อยากกลับไปเป็นโจรอีกแล้ว

คงมีแต่ต้องยอมรับผิดและขอให้เธอให้อภัยเท่านั้น

ถ้าขบคิดขณะที่เดินทางไปถึงจุดหมายปลายทาง

สถานที่ที่มืดมิดที่สุดในสาธารณรัฐอาเรียดิน่า

ที่อาเรียดิน่านั้นมีกำแพงล้อมรอบ

และเพราะเมืองที่ใหญ่ขึ้นทำให้มีการขยายกำแพงออกไปมากมาย

แต่ทว่าการขยายเมืองก็หยุดลงเมื่อหลายสิบปีก่อน

ตอนนี้ข้าอยู่ที่นอกกำแพง กล่าวก็คืออีกเมืองหนึ่ง

ไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่ได้

แน่นอนแม้แต่อาชญากรที่ถูกเนรเทศจากประเทศๆ อื่นๆ ก็มี

มีทั้งองค์กรที่รวบรวมอาชญากรจากประเทศอื่นๆ อยู่มากมาย

บางครั้งก็เป็นอาชญากณอย่างนักบุญที่บูชาปีศาจก็มี

กลุ่มศาสนาผิดกฏหมายนี้ได้ครอบงำอาเรียดิน่า เป็นเหมือนเงาของอาเรียดิน่า

ตัวข้าที่ไม่มีทั้งสถานะพลเมืองและภูมิหลัง เป็นได้เพียงทหารรับจ้างไม่ก็โจรเท่านั้น

ข้าต้องเลือกอย่างหลัง อย่างไม่มีทางเลือกเพราะไม่มั่นใจในฝีมือของตัวเอง

ข้าเดินไปจนกระทั่งเห็นตึกขนาดใหญ่ตรงหน้า

เป็นอาคารไม้ที่ถูกสร้างมาอย่างดี

มีการบังหน้าด้วยโรงอาหารสำหรับคนธรรมดาๆ และโรงแรม แต่ที่จริงแล้วเป็นองค์กรอาชญากรรมผิดกฏหมาย

ที่ใต้ดินของโรงแรมแห่งนี้มีแท่นบูชาซึ่งมีไว้เพื่อบูชาปีศาจแพะสีดำอยู่

บางทีเจ๊ไอนอยคงอยู่ที่นั่น

[ หืม? ]

ข้าสังเกตเห็นที่ประตูทางเข้า

มีชายคนนั้นยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า

แต่ไม่เห็นเหมือนว่าเขาจะเป็นนักเดินทาง ที่มาเที่ยวประจำเลย ชายคนนั้นส่วมใส่เสื้อผ้าดูธรรมดา

นี่เขามาทำอะไรที่นี่?

จะมาซื้อบริการของสาวโสเภณีเหรอ?

ผู้หญิงที่ห้องอาหารและที่พักโรงแรมนี้ต่างเป็นโสเภนีกันทุกคน

บางทีในนั้นอาจจะคนที่เขาถูกใจอยู่

เขามีใบหน้าเหนียมอาย แต่ถ้าเป็นลูกผู้ชายก็อย่าขี้เหนียวแล้วลุยไปเลย

การซื้อบริการนั้นเป็นเรื่องปกติทำให้ข้าไม่รู้สึกอะไรไปแล้ว

แต่จนถึงเดี๋ยวนี้ข้าก็เคยเห็นพวกปลอมตัวเป็นผู้หญิงแล้วมาขายบริการก็หลายคนแล้ว

ข้าสงสัย ทำไมเขาถึงยังไม่เข้าไปกันนะ? 

ดูจากท่าทาง ชายคนนี้คงเป็นพวกเวอร์จิ้น

นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขามาซื้อบริการโสเภณี คงเพราะเหตุนั้นถึงยังไม่กล้าเข้าไป

ถ้ามองดูดีๆ หน้าตาของชายคนนั้นก็ดีใช้ได้เลย

ในตอนนั้นข้าก็ฉุกคิดขึ้นมา

ถ้าข้าพาตัวชายคนนี้ไป เธออาจจะให้อภัยก็ได้

ยังไงเขาก็คิดจะซื้อบริการโสเภณีอยู่แล้ว

งั้นก็ปล่อยให้เขากลายเป็นแกะบูชายัญให้ข้าซะ

สำหรับแม่มดนั้นจะนำเหล่าชายหนุ่มหน้าตาดีมาทำเป็นยา

แต่อาจจะมีครอบครัวออกตามหาเขา

อย่างไรก็ตาม การที่พยายามจะเข้าร้านแบบนี้ก็แปลว่าข้อมูลทั้งหมดจะถูกปกปิดไว้

ดังนั้นคงสืบสวนมาไม่ถึงข้าแน่

คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร

[ ไง พี่ชายตรงนั้น กำลังทำอะไรอยู่? ]

ข้าเรียก

จากนั้นชายคนนั้นก็หันหน้ามา

เขามีใบหน้าแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าๆ จะถูกเรียก

[ เอ่อ ไม่ใช่อย่างที่คิด… ]

ชายคนนั้นตอบด้วยท่าทีลำบากใจ

เป็นไปตามที่ข้าคิด เขาคงอยากซื้อบริการสาวโสเภณีแต่มันก็เป็นเรื่องต้องห้าม

เลยเกิดความลังเลว่าจะทำเรื่องผิดกฏหมายดีมั้ย

เขาคงยังมีความรู้สึกอยาก แต่ก็ยังมีความถูกต้องอยู่ในใจ

นี่คือสิ่งที่ข้าคิดจากท่าทางของเขา

[ ไว้ข้าจะแนะนำให้เอามั้ยล่ะ ข้าเป็นรู้จักร้านนี้ดี ไว้จะแนะนำสาวคนไหนให้ก็ได้นะ ]

เมื่อได้ยินคำพูดของข้า ชายคนนั้นก็เปิดตาโพล่งและมองมาทางนี้

อย่างที่ข้าคิดไว้เลย

[ ถ้างั้นก็ขอบคุณมากครับ ]

ชายคนนั้นยิ้ม

จากรอยยิ้มนั้นคงไม่มีความระวังอยู่เลย

[ มันเป็นกฏนะพี่ชาย ตามข้ามาแล้วกัน ]

ข้าพาเขาเข้าไปในร้าน

ชั้นแรกของร้านเป็นห้องอาหารและบาร์

เพราะข้างนอกดวงอาทิตย์เริ่มตกดินแล้ว ในร้านจึงเปิดไฟให้สว่าง

คนมากมายมาที่นี่เพื่อดื่ม

บางคนที่นี่เองก็มีสถานะพลเมือง

เพราะมีบุคคลที่มีสถานะพลเมืองสนับสนุนอยู่เบื้องหลังของร้าน ร้านโสเภณีแห่งนี้จึงได้รับการยอมรับ

ไม่ว่าจะมีสถานะพลเมืองหรือไม่ แต่ธรรมชาติของมนุษย์ก็ไม่เปลี่ยนไป

แม้จะตรงกันข้ามกับคำสอนของเทพธิดาเฟย์เรีย แต่เทพธิดาทิชเทียก็นับเป็นเทพทั้ง 12 จึงเป็นตัวตนที่มิอาจปฏิเสธได้

ขนาดราชาเทพโอดิสก็ยังยอมรับอิชเทียให้เป็น 1 ใน 12 เทพ

ข้าเดินไปด้านหลังร้านโดยเลี่ยงเหล่าคนเมาและเหล่าบริกรหญิงชาย

ชายที่เดินตามข้ามาไม่ได้สงสัยอะไรเลย

นี่เขาโง่รึไงนะ ถึงได้ไม่รู้ว่ากำลังมีชะตากรรมอันแสนโหดร้ายรอคอยอยู่

ข้ามเดินตามทางเดินด้านหลังของร้านจากนั้นก็เข้าไปที่ประตูบานหนึ่ง

ที่นั้นเป็นเพียงคลังสินค้า

[ ที่นี่คือ? ]

ชายคนนั้นดูจะสับสนเล็กน้อยเพราะถูกพาตัวมาที่คลังสินค้า

[ ดูให้ดีล่ะ ]

ข้าหัวเราะจากนั้นก็ขยับตู้หนึ่งออก

เมื่อตู้นั้นเลื่อนออก ก็ปรากฏบันไดที่ลงไปสู่ชั้นใต้ดิน

[ โฮ่! ]

ชายคนนั้นส่งเสียงประหลาดใจ

[ ตกใจใช่มั้ยล่ะ? ที่เหลือก็ลงไปข้างล่างนี้ก็พอ ข้างล่างนี้มีสาวสวยอยู่เพียบเลยล่ะ ]

ข้าไม่ได้พูดโกหก

แม่มดพวกนั้นสวยจริงๆ

แต่บางทีนั่นอาจจะเป็นเวทมนตร์เปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกก็ได้

[ ครับ ผมไม่รู้เลยว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วย ช่วยไว้ได้จริงๆ ครับ ]

ชายคนนั้นพูดขอบคุณ

นี่เขาจะโง่ไปถึงไหนกันนะ?

โดยปกติแล้ว น่าจะคิดว่าไม่มีผู้หญิงมาอยู่ในห้องใต้ดินแบบนี้หรอก

แต่เขาดูจะไม่สะกิดใจว่ามันแปลกเลย?

บางทีอาจถูกเลี้ยงดูมาในสภาพแวดล้อมอย่างดีและมีชีวิตอยู่โดยไม่เคยสงสัยใครเลยก็ได้

ข้ารู้สึกถึงความแค้นในใจที่กำลังลุกโชก

ข้าต้องเป็นคนที่ทรมานตั้งแต่เกิดมา อยู่ล่างสุดของคนอื่น

แต่ในตอนนี้นายจะต้องถูกบูชายัญเจ้าหนุ่ม

ข้าหัวเราะอยู่ในใจ

จากนั้นก็เดินลงไปใต้ดินพร้อมกัชายคนนั้น

แต่บันไดชั้นใต้ดินไม่ใช่แบบขุดดินหรอกนะ

มันเป็นพื้นหอนและเพดานที่ถูกสร้างมาอย่างประณีตและไม่ได้สัมผัสดินเลย

ข้าเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนสร้างชั้นใต้ดินนี้ แต่คงใช้เทคโนโลยีชั้นสูงมากน่าดู

แต่หากนึกถึงการมีอยู่ของปีศาจที่ให้พลังเวทกับไอนอย มันก็อาจจะไม่แปลกก็ได้

ข้าเดินลงไปยังบันไดที่กว้างกันสองคน เพราะมีแสงอยู่บนผนังทำให้ไม่มืด

ชายคนนั้นเดินตามข้ามาอย่างเชื่อฟังโดยไม่ได้พูดอะไร

จนมาถึงโถงห้องกว้างๆ

ในห้องนั้นมีเหล่าแม่มดที่สวมชุดคลุมอย่างปกติ

แต่มีชายคนหนึ่งที่สวมชุดคลุมที่ข้าพึ่งเคยเห็นเขาครั้งแรก

ชายคนนั้นยืนอยู่ด้านบนและสวมหน้ากากสีขาว

หน้ากากนั้นถูกออกแบบมาแบบง่ายๆ ดวงตาและส่วนปากมีช่องว่างเล็กน้อย

เขาเป็นใคร?

ข้ารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีจากชายสวมหน้ากาก

เมื่อข้าไปถึง เจ๊ไอนอยก็มองมาทางพวกเรา

[ ดูเหมือนเจ้าจะไม่ได้หนีไปสินะมัลเชียส เอาเถอะ จะหนีไปก็ไร้ค่าอยู่ดีเพราะเจ้าจะโดนคำสาปเล่นงานทีหลังอยู่ดี ]

เจ๊ไอนอยพูดขณะที่มองมาทางนี้

[ หนีอะไรกัน…. จะว่าไปเจ๊ไอนอยชายคนนั้นเป็นใคร? ]

ข้ามองไปยังชายสวมชุดคลุมที่ยืนอยู่ข้างบน

[ เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้หรอก เอาเถอะ ข้าจะบอกให้เอาบุญ นั่นก็คือเทราบอสรองประธานสมาคมผู้ใช้เวท ซึ่งเป็นหนึ่งในพรรคพวกของเรา ]

เจ๊ไอนอยบอกถึงตัวตนของชายที่สวมชุดคลุมและสวมหน้ากาก

แน่นอน ข้าก็นึกอยู่แล้วว่าต้องเป็นผู้ใช้เวท

แต่ไม่นึกว่ารองประธานสมาคมผู้ใช้เวทจะมาร่วมมือด้วย

[ ไอนอย เจ้าพูดมากเกินไปแล้ว… ]

ทาราบอสพูดออกมา

มันไม่ใช่เรื่องที่สมควรพูด คงเป็นเรื่องใหญ่แน่หากมีใครรู้ว่ารองประธานสมาคมผู้ใช้เวทร่วมมือกับแม่มด

อย่างไรก็ตาม เจ๊ไอนอยก็พูดออกมาแบบไม่ทุกข์ร้อน นอกจากนี้ยังไม่สนใจเลย

แต่เทราบอสพูดด้วยความจริงจัง

[ อ่ะ โทษทีแล้วกันเทราบอส จะว่าไปชายคนนั้นล่ะเป็นใคร หน้าตาดีใช้ได้เลยนี่? ]

เจ๊ไอนอยมองไปยังชายหนุ่มข้างหลังข้า

[ อะ อ่า ข้าแค่ใส่ใจพวกเจ๊เลยพาเขามาด้วยนะ ]

เมื่อข้าพูดอย่างนั้นก็รีบหันไปทางชายด้านหลังและดึงกริชออกมา

หากเป็นชายคนนี้พวกเธอจะต้องอภัยให้ข้าแน่

[ อย่าขยับล่ะพี่ชาย ]

ข้าดึงกริชออกมาและพูดด้วยเสียงโทนต่ำ

ชายคนนี้เองก็รู้ตัวแล้วว่าถูกหลอก แต่มันก็สายไปแล้ว ข้าไม่ให้หนีไปได้หรอก

ข้ามองปฏิกิริยาของชายคนนั้น

แต่เขาไม่ตอบสนองเลย

มันมีอะไรแปลกๆ

[ เซียรูด้า! ผมมีเรื่องอยากจะถาม!! ]

ทันใดนั้น ชายคนนั้นก็ตะโกนขึ้น

เมื่อได้ยินชื่อของเซียรูด้า แม่มดทุกคนก็ส่งเสียงประหลาดใจ

เพราะเซียรู้ด้าคือปีศาจที่มอบพลังและทำให้เจ๊ไอนอยเป็นแม่มด

ทำไมชายคนนี้ถึงได้รู้?

สายตาของเขาหันไปทางเจ๊ไอนอย

แต่ก็ไม่เชิงว่าจ้องมองเธอ

เขากำลังมองไปด้านหลังของเจ๊ไอนอยที่ไม่มีอะไรอยู่

[ โฮ่… เจ้ามองเห็นข้างั้นเหรอ? แกเป็นใครกัน? ]

เสียงที่ทำให้เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีดังขึ้นในห้อง

ในตอนนั้นเองก็มีเงาขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเจ๊ไอนอย

ลักษณะของมันคล้ายกับเซเทอร์ แต่แตกต่างจากเซเทอร์ มันมีขนสีดำและมีหัวคล้ายแพะ กล้ามแขนที่ค่อนข้างใหญ่กว่าเซเทอร์ที่ข้าเคยเห็นมาก่อนมากนัก

เซเทอร์สีดำปรากฏตัวออกมา

[ เอ๊ะ? ]

ข้าที่ทนรับแรงกดดันไม่ไหวจากสายตานั้น นั่งคุกเข่าลงกับพื้น

สงสัยว่าเทราบอสเองก็คงตกใจ เพราะเขามองไปที่เซเทอร์สีดำด้วยใบหน้าประหลาดใจ

แต่เหล่าแม่มดตรงหน้านั้นไม่มีสีหน้าตกใจใดๆ อยู่เลยย

ข้ามองไปยังชายข้างๆ เขาเองก็ไม่มีท่าทีใดๆ แม้เซเทอร์สีดำจะปรากฏร่างออกมา

มีเพียงความเงียบเฉียบ

[ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกันเซียรู้ด้า ผมเองก็ได้ยินเรื่องของนายจากเซอร์อัลบาลมาแล้วครั้งนึง ]

ชายคนนั้นคุยกับเซเทอร์สีดำ

ชายคนนี้เป็นใครกันแน่?

เขามองไปที่เซเทอร์สีดำโดยไม่แปลกใจและมองตรงไปได้

คงเป็นข้าเองก็คิดว่าชายคนนี้เป็นพวกโง่เขลา

[ เจ้ารู้จักกับท่านอัลบาลรึ! แกเป็นใครกันแน่? ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาสินะ! ]

เซเทอร์สีดำตะโกน

[ ใช่แล้ว… แต่หากดูร่างนี้ของผมเลย จะเข้าใจได้ง่ายกว่าใช่มั้ย? ]

เมื่อชายคนนั้นพูดจบ ก็มีเปลวไฟสีดำห่อหุ้มทั่วร่างของเขา

และเมื่อเปลวไฟสีดำหายไป ก็มีอัศวินที่สวมชุดเกราะสีดำยืนอยู่แทนที่

[ บ้าน่า?! อัศวินดำงั้นเรอะ! ไม่จริงหรือว่าจะ?! …. ท่านจะเป็น… ]

ทันใดนั้นเซเทอร์สีดำก็คุกเข่าลง

[ ใช่แล้วเซียรู้ด้า! อย่างที่คิดนั้นแหละ และผมมีเรื่องอยากจะถาม! ผมคำถามผมมาเซียรูด้า!! ]

ชายอัศวินดำพูดออกมา

จากนั้นก็มีแรงกดดันแผ่พุ่งออกมาจากร่างของเขา

[ อุ๊…. ]

แรงกดดันนั้นทำให้เซียรู้ด้าล้มลงกับพื้น

ในร่างกายข้ามีความกลัวอยู่เต็มไปหมด

เท้ามันสั่นจนหยุดไม่ได้

เมื่อข้ามองไปยังเจ๊ไอนอยและเทราบอสก็เห็นพวกเขากำลังตัวสั่นบนอยู่บนขณะที่มองหน้ากัน

ปีศาจที่ชื่อว่าเซียรู้ด้ายังไม่ถึงกับล้มไปนอน แต่ตัวก็สั่นอยู่

มีเพียงชายสวมหน้ากากด้านหลังเทราบอสที่ยืนอยู่ได้ปกติ

[ อา…. ]

ข้าได้ยินเสียงจากประตูทางเข้า

มีใครคนหนึ่งกกำลังคุกเข่าอยู่ที่ตรงนั้น

บางทีเท้าของคนๆ นั้นคงสั่นไปด้วยความกลัวจนขยับไม่ไหว

ข้ามองไปที่ใบหน้านั้นอย่างประหลาดใจ

[ เซนน่า…. ]

คนที่อยู่ที่ประตูทางเข้าก็คือเซนน่า

 

 

◆ นักเต้นเซนน่า

[ เขาจะไปที่ไหนกัน? ]

มัลเชียสฟื้นตัวจากการจมน้ำได้อย่างรวดเร็วเพราะเวทรักษาของท่านซาโฮโกะ

และในคืนนั้นในตอนกลางคืนเขาก็ออกไปจากหอพักที่โรงละคร

การออกจากหอพักตอนกลางคืนก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร

มิดัสเองก็ให้อิสระหากไม่ไปทำร้ายใครเข้า

ในวันพรุ่งนี้ไม่มีการฝึก

การเล่นละครให้พวกท่านผู้กล้าของเราถูกเลื่อนออกไปก่อน

ดังนั้นบางคนจึงไปที่บาร์ด้านนอกและดื่มเหล้าบ้าง

และดูเหมือนเจ๊ไอนอยเองก็จะไปไหนสักแห่งเหมือนกัน

บางทีอาจจะเป็นบ้านของคนรัก

ข้าตามหลังมัลเชียสไป

มัลเชียสเดินออกจากกำแพงเมืองและเดินไปยังย่านบันเทิง

บางครั้งเขาเองก็จะมาที่นี่

แต่เมื่อวานข้าก็ไม่เห็นเจอเขาเลย เขาไปดื่มที่ร้านไหนกันนะ?

[ มัลเชียส นายหนีจากเซนน่าคนนี้ไม่พ้นหรอน่า ]

ฉันลบรอยเท้าและตามเขาไป

สำหรับฉันที่ฝึกทักษะการเดินไร้เสียงมาแล้ว การแอบตามมันง่ายนิดเดียว

มัลเชียสเดินเข้าไปในร้านที่ใหญ่ที่สุดในเมือง

เมื่อวานฉันก็ไปที่ร้านนั้น แต่กลับไม่เจอมัลเชียส

[ ชายคนนั้น…. ]

มัลเชียสคุยกับชายคนหนึ่งหน้าร้าน

ข้าจำใบหน้าของชายคนนั้นได้

ชายที่อยู่หญิงสาวที่พี่เดคิอัสเรียกว่าเทพธิดาแสงจันทร์

ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่? หรือเขาจะเป็นพวกเดียวกันกับมัลเชียส? 

จากตำแหน่งตรงนี้ฉันไม่ได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกันอยู่

มัลเชียสและชายคนนั้นเดินเข้าไปในร้าน

จากนั้นฉันก็เดินเข้าไปในร้านตามสอนคนนั้นไป

คนในร้านจ้องมองเมื่อเห็นฉันเข้าไปในร้าน จากนั้นก็หมดความสนใจและหันหน้าไป

ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ในชุดนักเต้น ฉันสวมผ้าคลุมยาวที่ปกปิดร่างกายและปิดหน้าไว้

คนในร้านบางคนก็จะปกปิดใบหน้าไว้

ดังนั้นถึงฉันจะปิดหน้าและเข้ามาในร้านก็ไม่ได้แปลกอะไร

ภายใต้เสื้อคลุมนี้มีดาบเล่มโปรดของฉันอยู่สองเล่มและอาวุธอีกมากมาย

เพราะคงไม่ใช่แต่มัลเชียสคนเดียวแน่ที่ควบคุมคาคินอสอยู่ ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังแน่

ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าคนๆ นั้นจะต้องเป็นบุคคลอันตราย

ดังนั้นต้องระวังตัวไว้ก่อน

ฉันเห็นทั้งสองคนเดินเข้าไปในร้านและไปที่หลังร้าน

ตรงส่วนหลังร้านปกติแล้วจะห้ามไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้า

ทำไมมัลเชียสถึงผ่านมาได้?

แต่ฉันไม่มีเวลามากพอจะคิดถึงเรื่องนั้น

ทั้งสองคนนั้นเดินไปต่อ

แต่สำหรับฉันมันยากเพราะมีสายตาของพนักงานจับจ้องอยู่

ควรทำยังไงดี

ฉันถือดาบเล่มเล็กๆ เพื่อไม่ให้ใครเห็น

เป็นดาบเล่มเล็กที่พอดีกับฝ่ามือ

ฉันโยนดาบเล่มนั้นไปด้วยการขยับมือ

ดาบเล่มนั้นไปชนเข้ากับลูกค้าคนหนึ่ง

ลูกค้าคนนั้นล้มลงในทันที

ดูจากมุมมองคนนอกก็จะเห็นว่าเขาเมาจนล้มลงไปเอง

จากนั้นเขาก็อ้วกออกมาทำให้เศษอาหารกระจายไปทั่วโต๊ะและพื้น

เกิดเสียงดังขึ้นและสายตาของลูกค้าและพนักงานก็จับจ้องไปที่เขา

ฉันอาศัยจังหวะนั้นค่อยๆ แอบตามมัลเชียสไปโดยไม่ส่งเสียงดัง

นี่เองก็เป็นเทคนิคเดียวกับการเล่นมายากล ให้ทุกคนมุ่งความสนใจไปมือขวา ทั้งๆ ที่มีของอยู่ในมือซ้าย

แต่การที่จะทำได้จำเป็นต้องมีความรวดเร็วและไม่ให้เกิดเสียง

พนักงานที่ยืนอยู่ทางเข้าดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตเห็นฉัน

ฉันแอบตามมัลเชียสไป

ที่ทางเดินอยู่ประตูอยู่หลายบาน

เขาเข้าห้องไหนไปกันนะ?

ฉันพยายามเงี่ยหูฟังและถอดฮู้ดที่คลุมหัวอยู่

จากนั้นก็รู้สึกถึงเสียงจากห้องหนึ่ง

เสียงนั้นได้ยินอย่างชัดเจนและดังขึ้นเรื่อยๆ 

[ ตกใจใช่มั้ยล่ะ? ที่เหลือก็ลงไปข้างล่างนี้ก็พอ ข้างล่างนี้มีสาวสวยอยู่เพียบเลยล่ะ ]

มันคือเสียงของมัลเชียส

[ ครับ ผมไม่รู้เลยว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วย ช่วยไว้ได้จริงๆ ครับ ]

ชายคนนั้นขอบคุณ

จากนั้นก็ได้ยินเสียงของพวกเขากำลังเดิน

เมื่อเสียงจากข้างในหายไปแล้ว

ฉันจึงเข้าไปข้างใน

ภายในห้องดูเหมือนคลังสินค้าธรรมดาๆ และฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะมีทางลงไปใต้ดินเลย

[ ห้องนี้มันแปลกๆ นะ? ]

ฉันตรวจสอบที่พื้นและผนัง

จนในที่สุดก็พบร่องรอยการขยับของตู้ๆ หนึ่ง

[ นี่สินะ ]

ฉันตรวจสอบตู้นั้นและเลื่อนมันไปด้านข้าง จากนั้นก็เห็นบันไดที่ลงไปที่ชั้นใต้ดิน

[ จะมีอะไรรออยู่กันนะ… ]

ฉันเดินลงไปยังชั้นใต้ดินและไล่ตามมัลเชียสไป

เมื่อเดินผ่านก็เจอกับห้องโถงขนาดใหญ่ด้านหน้า

กลางห้องมีมัลเชียสและชายที่อยู่กับเทพธิดาแสงจันทร์

ฉันแอบมองโดยซ่อนตัวอยู่หลังทางเข้า

คนในห้องคนอื่นนอกจากมัลเชียสดูเหมือนจะเป็นผู้ใช้เวทกันหมด

จากนั้นเมื่อมองไปยังสุดห้องก็ทำให้ฉันตกใจ

[ โกหกน่า… เจ๊ไอนอย ]

ที่สุดปลายห้องนั้นก็คือเจ๊ไอนอย

แต่มีเรื่องน่าแปลกใจกว่านั้น

เพราะมีแพะสีดำกำลังยืนอยู่ข้างๆ กับเจ๊ไอนอย

เซเทอร์คุยอะไรบางอย่างกับชายที่อยู่กับเทพธิดาแสงจันทร์

จากนั้นเปลวไฟสีดำก็ปกคลุมร่างของชายคนนั้น

และเมื่อเปลวไฟสีดำหายไป อัศวินเกราะสีดำก็ยืนอยู่ตรงนั้นแทน

ฉันเผลอส่งเสียงออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

และได้ยินเซเทอร์สีดำเรียกเขาว่าอัศวินดำ

จากนี้ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

จากนั้นแรงลมก็พัดมาจากอัศวินดำคนนั้น

[ เอ๊ะ… ]

เมื่อตัวฉันกระทบกับลมนั้น เท้าก็สั่นไปหมด

ฉันไม่สามารถแม้แต่จะลุกขึ้นยืนได้ ได้เพียงแต่คุกเข่าอยู่กับพื้น

ในตอนนั้นเอง

ก็มีสายตามากมายจ้องมองมาทางฉัน

สีหน้าของมัลเชียสดูแปลกใจ

[ เซนน่า… ]

มัลเชียสเรียกชื่อฉัน

ฉันถูกรู้ซะแล้ว ต้องรีบหนี

ฉันพยายามตีเท้าตัวเองเพื่อฝืนให้ลุกขึ้น

ถึงขาจะยังไม่กลับมาฟื้นตัวมาเต็มร้อย แต่ก็พอจะวิ่งหนีได้

ฉันรีบร้อนวิ่งกลับไปในทางเดิม

และรู้สึกว่ามีคนกำลังตามมา

ต้องรีบหนี!! 

จากนั้นจึงถอดเสื้อคลุมที่ใช้ปกปิดใบหน้าเพื่อให้ขยับตัวได้ง่ายขึ้น

หลังจากวิ่งขึ้นบันไดและกลับไปถึงชั้นแรกก็รีบไปที่ด้านหลังร้าน

พนักงานของร้านดูจะตกใจที่เห็นฉัน แต่ก็ช่างเถอะ

ฉันรีบออกจากร้านทันที

จากนั้นก็ได้ยินเสียงเอะอะในร้าน

บางทีคนที่ตามมาคงกำลังต่อสู้กันอยู่

จากนั้นจึงหาเส้นทางไปต่อ

ฉันมั่นใจในฝีเท้าของตัวเองพอตัว คิดว่าจะจับได้ง่ายๆ เรอะ?

ฉันวิ่งผ่านฝูงชน

และมาถึงสถานที่ที่ไร้ผู้คน

และจู่ๆ ชายที่สวมหน้ากากสีขาวก็มาปรากฏตัวตรงหน้าฉัน

[ โกหกน่า! ตั้งแต่เมื่อไหร่!! ]

ชายสวมหน้ากากถือดาบไว้ในมือ

เร็วมาก

ฉันพยายามหลบดาบ

การหันหลังให้ศัตรูที่เคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้มันอันตรายมาก

ฉันตัดสินใจอย่างรวดเร็วและใช้ฝีเท้าหนีดาบของอีกฝ่ายและฟัน

ชายสวมหน้ากากล้มลงยังพื้นขณะที่อยู่ในท่าฟัน

ฉันใช้จังหวะนี้หนีไป

ในขณะที่หนีก็ออกมองไปด้านหลังเล็กน้อย

ชายหน้ากากขาวยืนขึ้นราวกับไม่รู้สึกเจ็บปวด

ในตอนนั้นฉันก็ได้เห็น

ใบหน้าที่แท้จริงที่มองเห็นจากหน้ากากที่แตก มันไม่ใช่ใบหน้าของคนที่ยังมีชีวิตอยู่

ฉันรีบวิ่ง

แต่ก็รู้สึกถึงคนกำลังตามมาจากข้างหลัง

เป็นความเร็วที่ผิดปกติและไม่ใช่การเคลื่อนไหวของมนุษย์

[ ไม่มีทางเลือก… ]

ฉันเอามือสัมผัสที่ดาบบนเอวซ้ายและขวา

จากนั้นก็หยิบถุงน้ำขนาดเล็กออกมา

ในถุงน้ำนี้มีมียาสปิริตอาซาชูด้าอยู่ ถ้าดื่มจะได้พละกำลังมหาศาลในช่วงเวลาหนึ่ง

เดิมมันเป็นยาเวทที่ดื่มเพื่อเพิ่มพลัง เคยได้ยินว่าผู้กล้าแห่งอาเทริคเคยดื่มมันและเอาชนะปีศาจขนาดใหญ่ได้

แต่ว่ายาอาซาชูด้าเป็นยาอันตราย

เพื่อแลกกับพลังอันยิ่งใหญ่ มันจะทำลายอวัยวะภายในหากควบคุมไม่ได้

แต่เพราะฉันฝึกฝนมาแล้วจึงดื่มยานี้ได้อย่างปลอดภัย

แม่เป็นคนฝึกให้ล่ะนะ แต่ทั้งพ่อและพี่ไม่รู้เรื่องนี้หรอก

แม่น่ะเป็นนักฆ่า

เพื่อปกป้องเหล่าผู้ศรัทธาของท่านอิชเทียเราจำเป็นต้องมียาอาซาชูด้า

เหล่าผู้ศรัทธาของท่านอิชเทียปกติจะเป็นคนที่ผิดกฏหมายทำให้ไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฏหมายในประเทศ

ดังนั้นจะต้องมีคนที่คอยปกป้องเหล่าผู้ศรัทธา

ผลที่ได้ก็คือนักฆ่า

แต่ว่าเราไม่ใช่นักรบจึงไม่เหมาะกับการต่อสู้ตรงหน้า

จึงต้องใช้ยาอันตรายอย่างอาซาชูด้าเข้าช่วย

ศัตรูของผู้ศรัทธาของท่านอิชเทียไม่จำเป็นต้องเป็นปีศาจเสมอไป แม้แต่มนุษย์ก็เป็นศัตรูด้วย

นักฆ่าจะคอยกลบฝั่งผู้คนเหล่านั้นไปสู่ความมืดมิดโดยไม่มีใครสังเกตราวกับหมาป่า

เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนทหารของประเทศจับ เมื่อถูกจับได้จะฆ่าตัวตายทันที

พวกเราจะฆ่าเหล่าคนที่ทำร้ายผู้ศรัทธาของท่านอิชเทีย

ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครกล้าทำอันตรายใดๆ กับผู้ศรัทธาของท่านอิชเทียเลย

เพราะไม่งั้นจะโดนนักฆ่าสังหารเอาก็ได้

ฉันดื่มยาลงไป

พี่จะทำยังไงนะ ถ้าเขารู้ว่าฉันดื่มยาอันตรายขนาดนี้?

คงจะพยายามห้ามแน่

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องแบบนั้น

ฉันรู้สึกถึงพลังขาที่มากขึ้นและพลังเอ่อล้นไปทั่วร่างกาย

ราวกำลังพลังกำลังห่อหุ้ม

อีกฝ่ายใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

ฉันบินขึ้นไปบนฟ้า

ด้วยพลังขาที่มากขึ้นจึงสามาระกระโดดเพียงครั้งเดียวก็สูงถึงสองชั้นได้แล้ว

แต่อีกฝ่ายเองก็ตามขึ้นมาบนหลังคาเช่นกัน

พลังกายนั้นสุดยอดเลยแฮะ

ฉันมองไปยังกลุ่มคนที่ไล่ตามมาบนหลังคา

ทุกคนต่างสวมเสื้อคลุมผู้ใช้เวทและมีหน้ากากสีขาวบนใบหน้า

การเคลื่อนไหวของพวกเขาเร็วพอๆ กับฉัน

แม้จะเดินบนหลังคาที่ไม่สม่ำเสมอ

แต่ละคนต่างถืออาวุธอยู่

มีกระทั้งเมซที่ค่อนข้างหนัก ถึงอย่างนั้นก็ยังเคลื่อนไหวได้เร็วอยู่เลย

ฉันดึงดาบทั้งสองเล่มออกมาจากข้างเอว

[ เข้ามาเลย ฉันจะแสดงวิชาดาบของผู้รับใช้ท่านอิชเทียให้ได้ชม ]

เหล่าคนสวมหน้ากากพุ่งตรงเข้ามา

ฉันฟันใส่คนสวมหน้ากากที่ใกล้ที่สุดจากนั้นก็ใช้ดาบศัตรูหัวอีกฝ่าย

จากนั้นฉันก็หลบเมซของคนสวมหน้ากากอีกคนที่อยู่ด้านหลังและใช้เท้าเตะหนีไปด้านหลัง

ทันใดนั้นชายสวมหน้ากากที่ถือกริซสองเล่มในมือซ้ายและขวาก็โจมตีมาจากด้านบน

ฉันหมุนตัวและใช้ดาบฟันแนวแขยงไปโดนแขนซ้าย

ถึงฝ่ายยังไม่ตายแม้แขนซ้ายจะบาดเจ็บและพยายามโจมตีด้วยแขนขวาแทน

ดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกเจ็บเลย

และยังเร็วมาก

ขณะที่กำลังป้องกันการโจมตีของชายถือกริซ คนสวมหน้ากากสองคนที่ถือดาบใหญ่และหอกก็พุ่งเข้ามา

ฉันตั้งสมาธิกับชายถือกริซด้านหน้า

ดาบใหญ่และหอกโจมพยายามโจมตีฉัน

แต่การโจมตีของชายดาบใหญ่ไม่โดนฉันและไปโดนชายถือกริซแทน

ชายถือกริซที่ร่างถูกแทงด้วยดาบและหอกขยับไม่ได้

ใช่แล้ว ภาพลวงตา

ผู้ศรัทธาของท่านอิชเทียสามารถใช้เวทลวงตาได้ ฉันได้รับพรมานิดหน่อย จึงใช้เวทลวตาได้นิดหน่อย

เพราะดื่มยาอาซาชูด้าเข้าไปทำให้พลังเวทมากขึ้นด้วย

ฉันแทนที่ตัวเองด้วยเวทลวงตา

ชายดาบใหญ่และหอกที่หลุดจากเวทลวงตาของฉันดึงดาบออกจากชายกริซ

แต่ดูเขาจะไม่มีอาการเจ็บปวดเลย ฉันไม่ปล่อยไปอย่างนั้นหรอก

ฉันไปตัดคอเขาจากด้านหลังขณะที่ใช้ชายถือหอกและชายถือดาบใหญ่กำลังดึงดาบออก

แม้ว่าอาซาชูด้าจะทำให้แข็งแกร่งขึ้นแต่ก็ยังไม่มีแรงพอจะตัดคอได้ ทำให้เขายังไม่ตาย

และเลือดไม่สาดกระเซ็นออกมา

ชายสวมหน้ากากที่ถือดาบใหญ่และหอกเคลื่อนไหวตามร่างของฉัน

และฉันยังรู้สึกได้ว่ามีคนใหม่กำลังมาอีก จึงหนีไปอีกหลังคาหนึ่ง

มีคนสวมหน้ากากเพิ่มเข้ามา

ชายสวมหน้ากากที่ฉันใช้ดาบตัดคอไปแล้วและชายสวมหน้ากากที่ถือเมซเองก็อยู่ด้วย

เดาว่าคนพวกนี้คงไม่ใช่มนุษย์

ชายสวมหน้ากากมี 13 คน

สถานการณ์คับขันมาก

แม้ว่าอาซาชูด้าจะทำให้ได้พละกำลังมหาศาลมาแต่การใช้เป็นเวลานานๆ ร่างกายก็จะแย่เอา

การต่อสู้เมื่อกี้ การที่ฉันจะควบคุมพลังได้ก็ยากพอควร

ทำยังไงดี?

ฉันพยายามคิด

[ ยอดเยี่ยม… เป็นการเคลื่อนไหวที่สวยงามมาก ]

ทันใดนั้นฉันก็ได้ยินเสียงจากบนหัว

เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไปก็เห็นอัศวินดำลอยอยู่บนท้องฟ้าใต้แสงจันทร์

[ คุณคือ… ]

การปรากฏตัวของเขาน่าอัศจรรย์มาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าหลงใหล

เพราะเขาคืออัศวินดำในห้องใต้ดิน ฉันจะประมาทไม่ได้

อัศวินดำลงมาบนหลังคา

[ จากนี้ไปผมจัดการเอง ]

อัศวินดำกวัดแกว่งมือขวา จากนั้นชายสวมหน้ากากก็ปลิวไปหมด

ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อกี้เป็นเวทมนตร์อะไร?

ฉันมองไปที่อัศวินดำคนนั้น

เหลือเพียงชายคนนี้คนเดียว แต่รู้สึกสถานการณ์คับขันกว่าเมื่อกี้วะอีก

อัศวินดำคนนี้อาจจะแข็งแกร่งกว่าชายสวมหน้ากากพวกนั้นซะอีก

[ ผมคิดว่าจะช่วยให้เร็วกว่านี้อยู่… แต่เพราะเห็นท่วงท่าอันงดงามเลยเผลอจ้องมากไปหน่อย ]

อัศวินดำพูดกับฉัน

ช่วย? ฉันไม่เข้าใจความหมายที่เขาจะบอก

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคิด ถ้าสู้กับอัศวินดำคนนี้ฉันคงไม่รอดแน่

ต้องหนี

ฉันสร้างดาบภาพลวงตาและให้มันพุ่งเข้าใส่อัศวินดำ

ดาบลวงตาพุ่งตรงเข้าใส่เขา

แต่อัศวินดำเพียงแค่ขยับมือขวาเบาๆ

ในภาพลวงตาพวกนั้นมีดาบของจริงซ่อนอยู่ 2 เล่ม

[ ไอ้สัตว์ประหลาด!! ]

ฉันจะพูดไปแบบนั้นก็ช่วยไม่ได้

ฉันใช้ดาบทั้งสองเล่มเล็งไปที่คอของอัศวินดำ

[ อะไรกัน? ]

ไม่มีอะไรอยู่เลย

อัศวินดำหายไปจากตรงหน้าฉัน

[ รู้สึกจะมีการเคลื่อนไหวที่เปล่าประโยชน์อยู่เยอะเกินไป คล้ายกับการเคลื่อนไหวของเรย์จิ แต่เรย์จิดูจะเฉียบคมกว่านี้รึเปล่านะ? ]

ฉันได้ยินเสียงสบายๆ ของอัศวินดำจากข้างๆ 

[ หรือว่าจะมองเห็น? ]

ฉันมองย้อนกลับไปและถาม

[ อา แม้จะไม่ใช้วิชาแยกร่าง แต่การเคลื่อนไหวของคุณอย่างเดียวก็ใช้ได้แล้ว ]

อัศวินดำพูดอย่างใจเย็น

คำพูดนั้นทำให้ฉันหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง

นี่ภาพลวงตาของฉันหลอกเขาไม่ได้เลยเหรอ

ขนาดเป็นภาพลวงตาของฉันที่ดื่มอาซาชูด้าไปแล้วนะ

ฉันหันหลัง

ไม่รู้สึกเลยว่าจะชนะอัศวินดำได้

มีเพียงอย่างเดียวที่ทำได้

เพราะอีกฝ่ายดูจะไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าฉันในทันที

ต้องเดิมพันหน่อยแล้ว

ฉันเอาขวดเล็กๆ ออกมาจากอก

อัศวินดำดูจะสนใจเจ้าสิ่งนี้

เป็นไปตามที่คาด ในตอนที่อีกฝ่ายไม่ระวังตัวนี้ล่ะคือโอกาสของฉัน

ตอนนี้ล่ะมีช่องว่างแล้ว

ฉันเขียนอะไรบางอย่างลงไปในดาบซ้าย

จากนั้นก็ตั้งสมาธิ

และแล้วก็มีร่างของฉันปรากฏขึ้น

เวทลวงตาทำให้มีฉันปรากฏขึ้นอีกหลายคน

[ หืมม… ]

อัศวินดำส่งเสียงประหลาดใจ

[ จะเอาล่ะนะ!! ]

ฉันให้ภาพลวงตาวิ่งไปหาอัศวินดำ

ในขณะที่ตัวเองวิ่งไปจากตรงข้ามกับอัศวินดำ

[ เปล่าประโยชน์ โทษทีแล้วกัน ]

อัศวินดำบินมาปรากฏตัวตรงหน้าฉัน

[ เอ๊ะ!! ]

ฉันจ้องมองไปที่อัศวินดำ

[ คิดจะหนีขณะที่ให้ภาพลวงตาโจมตีเหรอ… ไม่เลว ]

แต่คำพูดของอัศวินดำไม่ได้ส่งมาถึงในหัวฉันเลย

เพราะกำลังกังวลเรื่องอื่นอยู่

หลังจากนี้พี่คงสังเกตเห็นข้อความนี้แน่ ฉันหัวเราะในใจด้วยความสิ้นหวัง

[ เมื่อกี้ดูเหมือนจะเขียนข้อความบางอย่างไว้ก่อนจะเข้ามาต่อสู้ด้วยสินะ… ]

ด้วยคำพูดของอัศวินดำ ทำให้ฉันถึงกับหมดหวัง

ดูเหมือนเขาจะดูออกหมดเลย

แต่ในตอนนั้นฉันก็ส่งขลุ่ยให้พี่แล้ว

ไม่มีทางเลือกแล้วนอกจากเดิมพันกับสิ่งนั้น

[ คงต้องขอให้เธอไปกับผมแล้วล่ะ ]

ฉันสั่นกลัว

ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้หรอกนะ ว่าผู้หญิงที่ถูกจับตัวไปจะต้องเจอเรื่องแบบไหน

บางทีอาจจะกลายเป็นที่สนองตัณหาของพวกผู้ชาย

แถมฉันยังเห็นใบหน้าที่แท้จริงของอัศวินดำแล้วก็ยิ่งซ่อนความรังเกียจในสีหน้าไว้ไม่ได้

ฉันนึกภาพตัวเองต้องไปเต้นเปลือยต่อหน้าผู้คนมากมาย เพราะเดิมฉันก็เป็นนักเต้น

มันน่ารังเกียจจนบรรยายเป็นคำพูดไม่ได้

อัศวินดำยกมือขวาขึ้น

จากนั้นเขาก็ฟาดลงที่หลังคอฉัน

[ พี่คะ… ]

ฉันพึมพำ ขณะที่สติจางหายไปในความมืดมิด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 67"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์