อัศวินดำ - ตอนที่ 68
◆ อัศวินดำคุโรกิ
[ เรื่องเป็นแบบนี้เองเหรอ… ]
[ ครับ ถูกต้องแล้ว…. ใต้เท้าไดร์ฮาร์ด ข้าไม่เคยคิดจะทรยศเลยครับ ]
ผมซึ่งอยู่ในเกราะอัศวินดำกำลังฟังรายงานจากเซียรูด้า ผมไม่รู้อะไรเท่าไหร่ แต่ดูท่าว่าผมจะมีชื่อเสียงมากทีเดียว
เซียรูด้าคุกเข่าให้ผม
เซเทอร์ปกติแล้วจะมีสีน้ำตาลอ่อน แต่บางครั้งก็จะมีเซเทอร์สีดำเกิดมาเหมือนกัน
เซเทอร์นั้นจะมีลักษณะคล้ายแพะ
พวกเขาเป็นญาติของลูคัสซึ่งเป็นคนสนิทของโมเดส เซเทอร์ส่วนใหญ่แล้วจะอาศัยอยู่ในนากอล
ลูคัสถึงปกติจะมีร่างมนุษย์เป็นชายแก่มีเขา แต่ร่างจริงก็คือแพะที่มีปีก
เซเทอร์สีดำจะมีพลังกายและพลังเวทสูงกว่าเมื่อเทียบกับสีขาวและสีน้ำตาล จึงนับเป็นปีศาจระดับสูงเพราะความแข็งแกร่ง
บางครั้งจึงถูกเรียกว่าปีศาจระดับเลซเซอร์ รองลงมาจากคือเผ่าเคลและลิซาร์ดแมน
ซึ่งเซเทอร์ส่วนใหญ่จะอยู่ภายใต้อาณัติของลูคัสและอัลบาลที่เป็นลูกศิษของลูคัส บางครั้งก็จะถูกส่งไปสืบสวนนอกนากอลบ้าง
ซึ่งเซียรูด้าก็ถูกส่งมายังที่นี่เพื่อตรวจสอบเทพปีศาจเลวิลรุสตามคำสั่งของอัลบาล
เซียรูด้ามาที่นี่โดยรู้อะไรไม่มาก
แต่หลังจากเซียรูด้ามาที่นี่ก็หายการติดต่อไปชั่วเวลาหนึ่ง
นั่นเพราะเขาถูกอโทราคัวซึ่งเป็นพวกเดียวกันกับเทพปีศาจเลวิลรุสจับได้
แม้ว่าเซียรูด้าจะค่อนข้างแข็งแกร่งหากเทียบในหมู่ลูกน้องของอัลบาล แต่ความสามารถในการแฝงตัวของเขาต่ำมากจึงถูกอโทราคัวพบเข้า
อโทราคัวที่สังเกตถึงตัวตนของเซียรูด้าได้เข้าหาเขา
ในตอนนั้นเซียรูด้ายังไม่รู้ว่าอโทราคัวเป็นพวกเดียวกับเลวิลรุส จึงได้บอกข้อมูลของนากอลกับเธอ
ด้วยเหตุนั้นเลวิลรุสจึงสามารถสังเกตการณ์โมเดสได้
หลังจากนั้นเซียรูด้าที่รู้ว่าอโทราคัวเกี่ยวข้องกับเลวิลรุสก็กลัวมากและตื่นตระหนก
เซียรูดาหนีไปหาอโทราคัว
แน่นอนว่าโมเดสก็ส่งกลุ่มคนไปออกค้นหา แต่ก็หาไม่พบ
และในตอนนั้นดินแดนนากอลต้องพบกับการต่อสู้อันดุเดือดกับเรน่า(ผู้กล้าบุกนากอล) จึงทำการค้นหาต่อไม่ได้ จึงไม่รู้ที่เหลือของเซียรูด้า
เพราะจับตัวอโทราคัวได้ ทำให้ผมได้รู้ว่าเซียรูด้าอยู่ที่ไหน
อัลบาลทีรู้ว่าเซียรูด้าทรยศคราวนี้จะต้องโกรธมากแน่
ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไร ลูกน้องที่ทรยศอัลบาลก็ต้องถูกจัดการ
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรกับผมเลย
ผมอาจจะเป็นคนของนากอล แต่ก็ใช่ว่าต้องภักดี
บางทีเขาก็คงไม่รู้หรอกว่าเซียรูด้าอยู่ที่นี่
ปัญหาคือก็คาคินอสที่ออกอาละวาด คนที่อยู่เบื้องหลังก็คือเซียรูด้านะสิ
เซียรูด้าเป็นคนทำให้ปีศาจที่สนามต่อสู้หนีไป
และในตอนนั้นเขายังเป็นคนควบคุมคาคินอสให้อาละวาด
ดังนั้นเพราะผมอยู่ที่นี่เลยอยากจะแก้ปัญหาไปเลย
และได้ยินจากอโทราคัวเรื่องที่นี่มา แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าฐานนี้จะถูกทิ้งเพราะอโทราคัวจับตัวได้แล้วล่ะนะ
ผมเลยมาที่นี่กับคุนะ
ตอนนี้คุนะอยู่ที่ร้านค้าด้านบน เพราะใต้ดินของร้านมันค่อนข้างสกปรก
ผมไม่อยากให้คุนะมาอยู่ในที่แบบนี้นักหรอก
กว่าจะมาถึงชั้นใต้ดินได้ก็ยากพอควร
แม้ว่าผมจะรู้เรื่องที่ซ่อนจากอโทราคัวมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้รู้รายละเอียดนัก
จะใช้เวทปกปิดแทรกซึมเข้าไปก็ทำไม่ได้
อีกทั้งด้านหลังร้านยังมีชายหญิงมากมายเข้าออก
ถ้าเป็นผู้หญิงสวยๆ ก็คงผ่านไปได้สบาย แต่จากภายนอกผมโดนมองเป็นตาลุงและร้านนี้ยังเป็นร้านที่ด้านหลังคอยให้บริการโสเภณีด้วยสิ
ผมออกมาจากร้านเพื่อสงบใจและจากนั้นก็มีชายที่ชื่อมัลเชียสมาคุยกับผม และเล่าให้ฟังว่าจะเข้าไปได้ยังไง
ดังนั้นผมถึงเข้ามาที่นี่ได้
ต้องขอบคุณชายที่ชื่อมัลเชียสจริงๆ
[ เอ่อ ใต้เท้า… กรุณาขอร้องท่านอัลบาลให้ข้าด้วยเถอะ ]
เซียรูด้าก้มหัวและขอร้องผม
ตอนแรกเซียรูด้าก็ไม่ได้ตั้งใจจะทรยศอยู่แล้ว
จะถูกมองว่าเป็นการทรยศก็ช่วยไม่ได้แม้ที่จริงแล้วเขาจะไม่ได้ตั้งใจเลยก็ตาม
ถ้าเป็นโมเดสก็อาจจะช่วยเขาอยู่ แต่อัลบาลคงไม่ยกโทษให้แน่
[ ขอโทษด้วยนะ แต่มันเป็นไปไม่ได้ ผมเองก็พยายามคิดแล้ว ]
ผมทำทั้งหมดได้เพียงเท่านี้
และผมไม่คิดว่าอัลบาลจะยกโทษให้เขาได้
[ งั้นรึครับ…. ]
เซียรูด้าดูจะเศร้า
[ บางทีอาจจะช่วยไม่ได้… แต่ก็ดีกว่าต้องหลบซ่อนอยู่ที่นี่… ผมจะบอกให้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจและยังเป็นศัตรูกับผู้กล้าอยู่ก็ได้ ]
จากนั้นผมก็มองไปยังไอนอย แม่มด และมัลเชียสที่อยู่ด้านหลังเซียรูด้า
พวกเขาต่างตัวสั่นกันไปหมด
ดูเหมือนเวททำให้กลัวที่ใช้ก่อนหน้านี้จะยังมีผลอยู่
อีกคดีหนึ่งก็เกิดจากไอนอยที่อิจฉาเซนน่า
พวกเรย์จิไม่ได้เป้าหมายหรอก
ไอนอยเป็นคนรักของเซียรู้ด้า
เซเทอร์สีดำ แต่ก็ไม่เปลี่ยนแปลงเรื่องที่เซเทอร์ชอบมนุษย์ผู้หญิงเหมือนกัน
เซเทอร์สีดำที่ออกมาจากนากอลนั้นได้มีความรักแบบลับๆ กับมนุษย์ผู้หญิงมากมาย
และผู้หญิงที่เป็นคนรักจะได้รับพลังเวทเป็นสิ่งตอบแทน จึงกลายเป็นแม่มด
พลังนี้คล้ายคลึงกับการคุ้มครองของเทพและนางฟ้าที่มอบให้แก่มนุษย์นั้นแหละ
เหล่าเทพของเอลีอัสเองก็ต้องการเพิ่มคนที่คอยช่วยเหลืองานได้เช่นกัน
นอกจากนี้เผ่านางฟ้านั้นแค่การควบคุมดูแลท้องฟ้าและงานเบ็ดเตล็ดก็ล้นมือแล้ว จึงไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องบนพื้นดิน
ดังนั้นจึงต้องหามนุษย์มาทำงานนี้ให้
แต่มนุษย์นั้นอ่อนแอ การจะใช้ประโยชน์ได้จะต้องทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นก่อน
อย่างการใช้ไปกำจัดปีศาจ กล่าวก็ถือการทำให้เป็นสาวก แต่การทำให้เป็นสาวกได้มันต้องใช้เวลาและปัญหาก็คือมันไม่สืบทอดไปยังลูกหลาน
โดยไม่สนใจปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่มนุษย์ที่จะใช้พลังได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
โดยการเพิ่มความแข็งแกร่งให้จะถูกเรียกว่าพร
พรของเทพจะแล้วแต่เทพแต่ละคนที่ให้พร
ตัวอย่างเช่นหากเป็นนักรบของเรน่าก็จะเป็นการเพิ่มพลังต่อสู้และการต่อสู้โดยตรง
เวทที่เรียกว่าพรถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้กับมนุษย์ แต่ความสามารถก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนักหากเทียบกับพรที่ให้กับเหล่านางฟ้า แต่แค่จะให้ผลนานกว่าเท่านั้น
แต่สำหรับเผ่านางฟ้านั้นมีเวทที่ให้พลังมากกว่านี้จึงไม่น่าพอใจนัก แต่สำหรับมนุษย์ก็มีประโยชน์ดีล่ะนะ
นอกจากนี้พรยังมีหน้าที่อื่นอยู่ อย่างพรจากนางฟ้าของเทพธิดาเฟย์เรียซึ่งเป็นเทพแห่งการสมรสและการคลอดนั้นจะคุ้มครองมนุษย์และทำให้มีโอกาสได้ลูกมากขึ้น
พรทุกอย่างก็ต่างความสามารถ
และเซียรูด้าก็ให้พรกับไอนอยเหมือนกับเผ่านางฟ้า
ไอนอยแต่เดิมเป็นเพียงนักเต้นแต่ก็เพราะเป็นคนรักของเซียรูด้าจึงได้รับพลังเวทมา
ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าเซียรูด้าให้พรอะไร แต่น่าจะเป็นการเพิ่มพลังเวทและเสน่ห์
เพราะพรจากเซียรูด้า ไอนอยจึงกลายเป็นนักแสดงที่ดีที่สุดในอาเรียดิน่า
ผู้ชายมากมายต่างอยากใกล้ชิดกับไอนอยและมีของขวัญเป็นกองภูเขา ถูกเชิญไปร่วมงานเลี้ยงต่างๆ แทบทุกวัน เป็นผู้หญิงที่เป็นหัวข้อพูดคุยกัน
ไอนอยยืนอยู่บนจุดยอด ทำให้นักแสดงคนอื่นแทบจะไม่ได้รับการผลักดัน
แต่ว่าก็มีภัยคุกคามต่อไอนอยเกิดขึ้น นั่นก็คือเซนน่า
เริ่มแรกไอนอยก็ใจดีกับเธอ แต่พอเธอเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มเกลียดเซนน่า
จึงต้องหาทางกำจัดเซนน่า
จึงได้บอกให้มัลเชียสใช้คาคินอสไปฆ่าเธอซะ
นี่คือความจริงของเรื่องทั้งหมด
เพราะไอนอยเป็นคนรักของเซียรูด้าจึงได้มอบขลุ่ยให้กับไอนอยไป
ปวดหัวชะมัด นี่ทำอะไรลงไปกันเนี่ย…
[ ใต้เท้า ข้ามีเรื่องอยากจะขอร้อง ]
ทาราบอสพูดขณะที่ก้มหัวและตัวสั่น
ผมมองไปทางทาราบอส
ทาราบอสเป็นชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างอวบเล็กน้อย
หากมองภายนอกก็ดูจะเป็นคนดีอยู่หรอก แต่ผมรู้สึกได้ว่าผู้ชายคนนี้อันตราย
[ มีอะไร…? ]
[ ได้โปรดยกเด็กสาวคนนั้นให้เราได้รึไม่ครับ? เพราะเด็กสาวคนนั้นบังอาจทำร้ายดรากร์ที่น่ารักของข้า ]
ทาราบอสพูดขณะมองไปยังเซนน่าที่นอนอยู่ข้างๆ
ดรากร์ที่ทาราบอสบอกก็คือเหล่าคนในชุดคลุมและสวมหน้ากากสีขาวที่อยู่ข้างหลังเขา
ดรากร์เป็นอันเดดประเภทผีดิบชนิดหนึ่ง
มนุษย์ที่จะกลายเป็นดรากร์ได้จะต้องมีพละกำลังมหาศาลในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ทำให้ตอนนี้พอจะมีสติปัญญาอยู่นิดหน่อยและสามารถตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ และเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว
ปกติมักจะสร้างจากทหารที่เป็นยอดฝีมือ
ผมจำได้ว่าในนากอล นายพลเกเดก็ใช้ดรากร์เป็นทหารเหมือนกัน
แต่ว่ามันสร้างยากมากเมื่อเทียบกับซอบบี้เพราะต้องใช้มนุษย์ที่แข็งแกร่งเท่านั้น
หากไม่ใช่ผู้ที่มีพลังเวทสูงก็ทำไม่ได้และต้องใช้วัตถุดิบหายากอีก
ในการสร้างผีดิบพวกนั้นต้องมี [ ผงผีดิบ ] และยังต้องมี [ เศษดาวตก ] จึงจะสร้างดรากร์ได้
การจะหามาได้ก็ยากแล้ว
หากเป็นนากอลก็หาได้ง่ายมาก แต่ในพื้นที่อื่นนั้นจะยากมาก
ซึ่งทาราบอสเก็บเศษดาวตกมาจากมังกร
นั่นถือเป็นการนำเศษดาวตกมาใช้ใหม่
[ คิดจะทำอะไรกับผู้หญิงคนนี้ล่ะ? ]
ผมเองก็รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร แต่ก็ห้ามไม่ให้ถามไม่ได้
[ แน่นอนครับ เพราะเธอคนนั้นมีฝีมือการต่อสู้ระดับสูง หากข้านำมาสร้างเป็นดรากร์จะต้องได้ดรากร์ที่ยอดเยี่ยมแน่ ]
ทาราบอสพูดพร้อมกับหัวเราะ
ชายคนนี้คงเป็นผู้ใช้เวทสายความตาย
ได้ยินว่ามีมนุษย์ไม่กี่คนหรอกที่ใช้เวทนี้ได้
ไม่ใช่ว่าคนที่เกิดมาพร้อมพลังเวทเพียงพอแล้วจะใช้ได้ เพราะจำเป็นต้องมีคุณสมบัติในตอนที่เกิดอีก
ยกตัวอย่างเช่นมนุษย์ที่เกิดมาจากสคิเกอร์นั้นจะได้รับคุณสมบัติในการใช้เวทความตายได้
แม้กระนั้นก็ไม่มีใครอยากจะตายหรอกนะ
เหล่าดรากร์ด้านหลังเองก็ใช่ว่าอยากจะเป็นดรากร์ด้วยความต้องการของตัวเอง
แต่ชายคนนี้กลับพูดมาได้ว่าจะฆ่าเธอคนนี้และทำให้กลายเป็นดรากร์
นี่เขาเป็นปีศาจที่หุ้มหนังมนุษย์ชัดๆ
แต่ถึงจะไม่ต้องกลายเป็นดรากร์ เด็กสาวที่ชื่อเซนน่าเองก็เก่งงอยู่แล้ว
การกลายเป็นดรากร์จะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายแต่ก็ไม่ได้ดีนัก
ดาบของเธอคนนี้มีอยู่เพื่อต่อสู้กับมนุษย์
เป็นดาบสังหาร หากกลายเป็นดาร์กร์แล้วจะมีประโยชน์อะไร
และผมก็ไม่คิดว่าเธอจะหนีไปได้ตลอดหรอก
ถ้าผมไม่จับเธอมา มีหวังเธอถูกฆ่าแน่
[ เรื่องนั้นไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้ข้าจะปล่อยไป ]
ผมพูดจาเย็นชาใส่ทาราบอส
[ พูดอะไรกันครับใต้เท้า!! การจะปล่อยคนสวยขนาดนี้ไปเฉยๆ มันบ้าชัดๆ ! ปกติแล้วจะโลมเลียในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่สิครับ!! ใต้เท้า!! ]
ขณะที่เซียรูด้าคอยฟังอยู่ ทาราบอสก็พูดออกมา
[ แฮ่ม ]
ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นกับเธอเลย
ไม่คิดเลยว่ามนุษย์จะเลวซะยิ่งกว่าปีศาจซะอีก
ชายคนนี้ดูเหมือนปีศาจที่หุ้มหนังมนุษย์ยิ่งกว่าปีศาจเองซะอีก
[ เช่นนั้นรึครับฝ่าบาท ขอโทษด้วย ]
ทาราบอสก้มหัวอย่างผิดหวัง
ดูเหมือนเขาจะเข้าใจผิดบางอย่าง
ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นเลยสักนิด ผมมีความรู้สึกยุ่งยากในใจเล็กน้อย
ผมไม่ได้ตั้งใจให้เธอคนนี้เป็นคนรักของเซียรูด้าหรอก
หรือกระทั่งปล่อยให้เธอตายก็ไม่ได้
[ ทาราบอส อย่างที่ผมบอกไป… ผมจะพาเธอคนนี้กลับ เข้าใจมั้ย ]
จากนั้นผมก็แบกเซนน่าไป
เพราะผมต้องกลับไปแล้ว
มีรายงานมาจากเรจิน่าว่าชิโรเนะกำลังจะตื่นแล้ว
ตอนนี้ชิโรเนะเมาและถูกพาไปยังคฤหาสน์หลังอื่นอยู่
แต่หากเจอกับคุนะ อาจจะต่อสู้กันอีกครั้งก็ได้
[ เข้าใจแล้วครับใต้เท้า! แต่ได้โปรดช่วยนำสิ่งนี้ไปด้วยเถอะครับ!! ]
เซียรุด้าเอากล่องบางอย่างออกมา
[ นี่คือ? ]
เมื่อผมดูข้างในกล่อง
ก็เจอเสื้อผ้าและอุปกรณ์บางอย่าง
[ มันเป็นเสื้อผ้าที่ช่วยทำให้หญิงสาวดูสวยขึ้นและอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้หญิงมีความสุขทางเพศมากขึ้นครับ หวังว่าจะทำให้ใต้เท้าพอใจนะครับ ]
เซียรูด้ายื่นกล่องให้
บางทีคงอยากจะขอโทษที่ทรยศถึงได้ยกมันให้ผมล่ะนะ
ถึงผมจะไม่ได้อยากได้เลยก็ตาม
เมื่อผมมองไปในกล่องก็ถอนหายใจ
มีทั้งกระโปรงบางๆ เสื้อผ้าแบบสตริงและชุดเกราะที่เหมือนชุดชั้นใน
ปวดหัวชะมัด นี่คิดจะให้ผมเอาไปทำอะไรล่ะเนี่ย?
เซียรูด้าเองก็เหมือนเซเทอร์ดำตัวอื่นๆ ที่จะมีการจัดพิธีกรรมกับแม่มดที่แท่นบูชาใต้ดินนี้แทบทุกวัน
นี่นายกำลังถูกไล่ลาอยู่นะ หัดสำนึกผิดหน่อยเซ่
นั่นล่ะที่ผมอยากจะบอก
[ ขอบคุณมาก งั้นผมขอรับไปแล้วกัน ]
ผมรับกล่องนั้นไปและกลับไปอย่างรีบร้อน
◆ สตรีแห่งดาบชิโรเนะ
ฉันฝันถึงเรื่องเมื่อสมัยก่อน
ตอนที่ครอบครัวของฉันกับครอบครัวของคุโรกิไปเที่ยวกัน
ที่นั้นเต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงาม
จากนั้นก็แอบชวนคุโรกิแอบไปเล่นบนเขาด้วยกัน
ฉันปีนขึ้นไปบนต้นไม้ที่สูงมาก แม้คุโรกิจะห้ามแต่ก็ไม่ฟัง
สุดท้ายก็ตกลงมาจนบาดเจ็บ
ทำให้ขาเจ็บจนขยับไม่ได้และกลับไปหาพ่อแม่ไม่ได้
คุโรกิพยายามจะไปเรียกพ่อแม่ให้ แต่ฉันก็ห้ามเอาไว้เพราะไม่อยากถูกทิ้งเอาไว้คนเดียว
ดังนั้นคุโรกิจึงไม่มีทางเลือก ต้องอุ้มฉันกลับไป
ถึงแม้จะหนักแต่คุโรกิก็ไม่ได้บ่นอะไรสักคำ
[ ไม่เอานะ… ]
ฉันตื่นขึ้นมา
ทำไมถึงได้ฝันถึงเรื่องในอดีตกันนะ
ในความฝันฉันถูกคุโรกิอุ้ม
ในท่าเจ้าหญิงและพาไปนอน มันน่าอายจนบอกใครไม่ได้
แม้จะเป็นในฝันคุโรกิก็ยังใจดี
ใช่แล้ว คุโรกิใจดีกับฉันเสมอ
แต่ฉันกลับไม่อ่อนโยนกับคุโรกิเลย
สำหรับฉันคุโรกิเปรียบเสมือนครอบครัวคนหนึ่ง คุโรกิที่อ่อนแอจะคอยตามฉันไปไหนมาไหนเสมอ
และในตอนที่ฉันได้พบกับเรย์จิ ก็หลบหน้าเขา
ฉันทำเรื่องเย็นชากับเขาไว้มาก
ความรู้สึกนั้นมันติดอยู่ในใจ
ในตอนที่มาถึงโลกนี้ก็คิดเรื่องนี้มาตลอด ว่าจะต้องกลับไปที่โลกเดิมและพบกับเขาอีกครั้งให้ได้
และก็เจอกับคุโรกิอีกครั้งในโลกนี้
แต่ว่าคุโรกิกลับไปอยู่ฝ่ายเดียวกับราชาปีศาจ
มันช่างเป็นเรื่องตลกร้าย คุโรกิที่ใจดีคนนั้นไม่มีทางไปร่วมมือกับราชาปีศาจหรอก
คุโรกิใจดีมากถึงขนาดเข้าไปในเขาวงกตกับฉัน งั้นทำไมคุโรกิถึงไม่กลับมาล่ะ?
ต้องเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้น
แม่มดสีเงินคุนะ
ผู้หญิงคนนั้นใช้เวทมนตร์ควบคุมคุโรกิอยู่ทำให้คุโรกิกลายเป็นคนรับใช้ของเธอ ดังนั้นเขาถถึงไม่ออกมาจากนากอล
ไม่สบอารมณ์เลย จะต้องมีแค่ฉันสิที่คุโรกิมาอยู่ข้างๆ นะ จะต้องทำให้เขากลับมาให้ได้
ฉันพยายามลุกขึ้น
และกุมที่หัว ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะเมาค้างเลยเจ็บหัวอยู่
แต่นี่ฉันหลับไปนานแค่ไหนกันนะ? นี่มันดึกแล้วด้วย
ฉันมองไปรอบๆ
ในห้องมืดสลัวๆ เพราะแสงเล็กน้อยจากดวงจันทร์ที่สองออกมาในห้อง
[ ที่นี่ที่ไหน… ]
ที่นี่เป็นห้องที่ฉันไม่รู้จัก
ฉันอยู่บนเตียงและมีเสื้อผ้าอยู่กลางห้อง
เป็นเตียงที่นุ่มสบาย
และใหญ่ประมาณ 4 ถึง 5 คนจะนอนได้ เหมือนกับเตียงที่เรย์จิใช้อยู่
[ ตื่นแล้วเหรอคะท่านชิโรเนะ ]
มีคนเข้ามาในห้อง
[ คุณเรจิน่า… ขอบคุณที่ช่วยอุ้มฉันมาที่นี่นะคะ ]
แต่คุณเรจิน่าส่ายหัว
[ ไม่ค่ะ ไม่ใช่ฉันหรอก ]
[ เอ่อ… แล้วใคร? ]
บางทีคงเป็นเรย์จิล่ะมั้ง? คงต้องไปขอบคุณทีหลัง
[ แล้วตอนนี้พวกเรย์จิคุงอยู่ที่ไหนเหรอ? ]
[ ค่ะ คิดว่าคงอยู่กลางงานเลี้ยงนะคะ ]
[ งั้นเหรอ… ]
ฉันลุกขึ้นจากเตียงและเพิ่งสังเกต
นี่ฉันหลับทั้งๆ ที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้างั้นเหรอ? คงต้องเปลี่ยนชุดก่อนล่ะนะ
[ นี่ คุณเรจิน่าไม่มีชุดแบบอื่นแล้วเหรอ ถ้าเป็นไปได้อยากได้ชุดอย่างอื่นนะ ]
เมื่อฉันถาม คุณเรจิน่าก็พยักหน้า
[ อืมม ฉันว่าชุดนี้ก็เหมาะกับท่านชิโรเนะดีนะคะ ]
คุณเรจิน่าพูดขณะที่ไปหยิบชุดในห้องมา
ที่คุณเรจิน่าเอามาก็คือชุดเกราะแบบชุดชั้นใน หรือก็คือชุดเกราะบิกินี่
[ เอ๋… ทำไม…? ]
ฉันพึมพำออกไป
ฉันกุมหัว ทำไมก๊านน!! เป็นไปได้ฉันไม่อยากใส่ชุดนั้นอ่า
ชุดเกราะนี้เป็นชุดของนักรบหญิงที่นับถือในเทพธิดาอมาซอน เทพแห่งการล่าสัตว์และการต่อสู้ซึ่งเป็นลูกสาวของเทพโทรุส
เพราะความสัมพันธ์ของเทพโทรุสกับเทพเฮย์บอสไม่ดีนัก จึงไม่สามารถสร้างชุดเกราะดีๆ ได้
ในตอนนั้นโทรุสก็กล่าวว่า “เกราะอะไรนั้นไม่จำเป็น” และให้เปลือยกายเพื่อล่าสัตว์แทน
เพราะโทรุสไม่ใส่เสื้อผ้าเวลาต่อสู้ เหล้านักรบที่ศรัทธาจึงต่อสู้โดยไม่ใส่เกราะเช่นกัน แต่สวมเพียงชุดขนสัตว์เท่านั้น
และเทพธิดาอมาซอนซึ่งเป็นลูกสาวของโทรุสจึงตัดสินใจไม่สวมเกราะและต่อสู้ทั้งๆ ที่ร่างเปลือยเปล่าเช่นั้น
แน่นอนว่าเทพธิดาเฟย์เรียโกรธทั้งสองคนมาก และบอกว่าอย่างน้อยก็ใส่ชุดชั้นในซะ
เทพธิดาอมาซอนจึงใส่ชุดชั้นในทำให้เกิดเป็นชุดเกราะบิกินี่ขึ้น
ชุดเกราะบิกินี่ถูกส่งต่อไปยังโลกมนุษย์และนักรบที่นับถือในเทพอมาซอน หรือที่เรียกว่าชาวอมาซอนต่างก็ใส่ชุดเกราะบิกินี่กัน ด้วยความเชื่อและศรัทธา
คุณเรจิน่ายิ้มออกมาและยื่นชุดเกราะบิกินี่ห้
รอยยิ้มของคุณเรจิน่าไม่มีความคิดเชิงลบอยู่เลย
เธอตั้งใจจะมอบให้ด้วยความจริงใจ
ถ้าเป็นเรย์จิหรือนาโอะฉันคงคิดว่าเป็นการล้อเล่น แต่อีกฝ่ายคือคุณเรจิน่านี่สิ
สำหรับเธอที่เป็นคนของโลกนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแน่ๆ
เธอคงจะเห็นผู้หญิงแต่งกายด้วยชุดนี้มามากมายแล้ว
แต่ทำไมในห้องนี้ถึงได้มีชุดเกราะบิกินี่อยู่ได้กันล่ะ?
[ ขอโทษด้วยค่ะ …. แต่ฉันใส่ชุดนั้นไม่ได้จริงๆ ]
เมื่อได้ยินคำพูดของฉัน คุณเรจิน่าก็มองด้วยสีหน้าแปลกๆ
[ เหรอคะ? แต่เมื่อก่อนท่านชิโรเนะก็เคยใส่ชุดเกราะนี้แล้วไม่ใช่เหรอคะ… ตอนนั้นนายท่านบอกว่าเข้ากันมากเลยค่ะ ]
เหมือนกับมีลูกระเบิดลง
หากอยากพบกับคุโรกิอีกครั้งก็ต้องใส่ จะ… ได้พบกันอีกครั้ง ถ้าฉันไม่ใส่ล่ะก็
มีความรู้สึกว่าจะไม่ได้เจอคุโรกิอีกเลยก็ได้
ที่คุณเรจิน่าเอาชุดนี้มาให้ แปลว่าจะให้ฉันทุ่มสุดตัวเพื่อพาเขากลับมาเหรอ
[ ไม่เอา… ถ้าเป็นไปได้ขอชุดอื่นเถอะ ]
ฉันตอบออกไป
[ งั้นเหรอคะ… ที่จริงก็มีชุดอื่นอยู่นะคะ ]
คุณเรจิน่าวางชุดเกราะบิกินี่ไว้
[ เดี๋ยวค่ะ คุณเรจิน่า… ]
ฉันห้ามคุณเรจิน่าไว้
[ อะไรเหรอคะ? ]
[ ยังไม่ใส่ตอนนี้… แต่ขอเก็บไว้ใส่ทีหลัง… ]
ฉันรับเอาชุดเกราะบิกินี่มา
บางทีถ้าฉันใส่ชุดนี้ คุโรกิอาจจะกลับมาหาฉันก็ได้
ฉันรู้ดีว่ามันออกจะงี่เง่า แต่วิธีแบบนี้ล่ะได้ผลกับอีตาคุโรกิ
◆ นักปราชญ์ผมดำจิยูกิ
[ คุณจิยูกิ ทางนี้อร่อยมากเลยค่ะ ]
นาโอะพูดขณะที่กำลังกินอาหารข้างๆ ฉัน
ที่นาโอะกินก็คือดอร์มอร์สราดน้ำผึ้ง
ดอร์มอร์สก็คือหนูภูเขา
หนูภูเขานี้ไม่ใช่ว่าจะหาได้จากป่าทั่วไป
ถึงจะบอกว่าหนูนี้กินได้ก็เถอะ แต่ตอนที่จะกินครั้งแรก ฉันก็มีอาการต่อต้านบ้าง แต่เมื่อกินเข้าไปก็อร่อยจนน่าแปลกใจเหมือนกัน
แม้กระนั้นคนที่เหมือนแมวอย่างนาโอะคงกินเนื้อหนูได้อย่างไม่แคร์อยู่แล้ว
ตรงหน้าเราไม่ได้มีแค่เนื้อหนูเท่านั้น แต่ยังมีอีกมากมาย
อย่างเนื้อของคาคินอสที่ได้มาเพิ่มทำให้งานเลี้ยงยังคงจัดต่อไป
อาจจะเพราะพวกคาคินอสถูกเก็บกวาดอย่างรวดเร็ว ทุกคนเลยไม่ได้คิดมากอะไร
ทุกคนต่างคิดว่าหากมีพวกเราอยู่ก็ไม่มีอะไรต้องห่วง
นี่ก็ดึกแล้ว
แสงจันทร์สาดส่องบนเรือทำให้สว่างเหมือนกับตอนกลางวัน
เหล่านักเต้นที่เต้นผาดโผนเพื่อความบันเทิง
ไม่ว่าจะนักกวี นักเต้น นักแสดงต่างก็เป็นผู้ศรัทธาของเทพธิดาอิชเทีย
ถ้าไม่ทำอะไรขัดต่อคำสอนของเทพธิดาเฟย์เรีย ทุกคนที่นี่ก็ยอมรับได้
เดิมที ฉันก็ได้ยินว่าเทพธิดาเฟย์เรียก็ชอบเต้นนี่นา
พูดอีกอย่างก็คือแม้จะไม่เป็นโสเภณีหรือไปเล่นการพนัน ก็ยังเป็นผู้ศรัทธาของเทพธิดาอิชเทียได้
แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองเรื่องนั้นเป็นเรื่องต้องห้าม หากอยู่ในสถานที่สาธารณะ
แม้จะบอกว่าโสเภณีแต่ก็มีอยู่หลายประเภท โสเภณีชนชั้นสูงเหมือนในกรีซโบราณเองก็มี
บางคนก็เป็นถึงราชินีของประเทศที่มีรูปร่างงดงาม
และไม่ต่างจากคำสอนจากเทพธิดาเฟย์เรีย
เหล่าผู้ศรัทธาของเทพโอดิสเองก็ต้องซื่อสัตย์และทำตัวให้เหนือกว่าความปรารถนา
การจะไปตหลุมรักกับโสเภณีของเทพธิดาอิชเทียจะถือมีความผิด
แม้จะพยายามห้ามยังไง แต่ก็หยุดความต้องการของมนุษย์ไม่ได้ นี่ล่ะคือความยุ่งยากของโลกนี้
เสียงเชียร์ของกลุ่มคนที่ดูเหล่านักเต้นดังขึ้น
ในตอนนั้นริโนะเองก็กระโดดและไปเต้นด้วย
ริโนะเรียนการเต้นมาตั้งแต่สมัยโลกเดิมแล้ว ทำให้เต้นได้เก่งมาก
เหล่าผู้ชายเฝ้ามองริโนะด้วยสายตาหื่นกระหาย
ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อย
ดวงตาของพวกผู้ชายพวกนั้นอันตรายมากและยังชุดที่ชะโลมด้วยโลชั่นของริโนะก็เร้าอารมณ์ขึ้นไปอีก
ฉันไม่อยากให้เพื่อนของตัวเองถูกมองด้วยสายตาแบบนั้นเลย
เรย์จิเองก็ดูจะไม่ได้ใส่ใจ ที่พวกผู้ชายมองริโนะด้วยสายตาหื่นกระหาย ทั้งกำลังสนุกกับการเต้นรำของริโนะ ไปพร้อมๆ กับซาโฮโกะและพวกผู้หญิงซะอย่างนั้น
เคียวกะกับคายะก็เฝ้ามองจากไกลๆ ตรงข้ามกับเรย์จิก็เพราะมีผู้หญิงไปล้อมรอบเธอเต็มไปหมด
ดูเหมือนพวกเขาพยายามจะชวนเคียวกะ แต่เคียวกะดูจะไม่สนใจ
เคียวกะใช้เหตุผลว่าต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่าเรย์จิจึงจะยอมไปด้วย
แต่ว่าคนที่แข็งแกร่งกว่าเรย์จิในโลกนี้มีเพียงไม่กี่คนหรอก
ที่ฉันรู้ก็มีเพียงคนเดียวที่จะเข้าข่าย จะใช่รึเปล่านะ?
แต่คงจะไม่ใชหรอกมั้ง
[ อ่ะ คุณชิโรเนะกลับมาแล้ว ]
นาโอะเงยหน้ามองท้องฟ้า
ในทิศนั้นที่เรากำลังมองอยู่ เห็นชิโรเนะที่กำลังบินมาด้วยปีกสีขาว
ชิโรเนะบินตรงมาทางนี้
[ ทุกคน กลับมาแล้ว ]
ชิโรเนะร่อนลงและปีกก็หายไป
เหล่าผู้ชายที่มองริโนะ ต่างมองไปที่ชิโรเนะด้วยความสนใจ
[ อาการเป็นยังไงบ้างคะคุณชิโรเนะ? ]
[ ค่ะ! ไม่เป็นไรแล้ว! ไม่ปวดหัวแล้วล่ะค่ะ! ]
ดูท่าว่าเธอจะหายเมาแล้ว
และสีหน้าของชิโรเนะก็ดีขึ้น คงจะอาการดีขึ้นแล้วล่ะ
[ ดูเหมือนกำลังดีใจ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ? ]
เมื่อได้ยินฉันถาม ชิโรเนะก็ส่ายหัว
[ ไม่ค่ะ ไม่มีอะไรหรอก แค่ฝันน่ะ แค่ตอนนี้หายเศร้าแล้วค่ะ ]
เธอตอบด้วยเสียงหัวเราะ
ตอนที่รู้ว่าเพื่อนสมัยเด็กหายตัวไปเธอดูเศร้ามาก แต่ตอนนี้ก็อาการดีขึ้นแล้ว
[ โถ่ คุณชิโรเนะแย่งความเด่นไปหมดเลยค่ะ ]
ริโนะเดินมาด้วยน้ำเสียงโกรธเล็กน้อย
แต่ดูจะไม่ได้โกรธจริงๆ หรอก
[ ขอโทษนะริโนะจัง ]
ชิโรเนะขอโทษเธอ
[ มาเต้นรำไถ่โทษเลยนะคะ ]
ริโนะดึงชิโรเนะไป
[ เดี๋ยวสิ ริโนะจัง!! ]
ชิโรเนะพยายามต่อต้าน
เพราะชิโรเนะไม่เคยเต้นมาก่อนเลย น่า คาเล็คเตอร์เธอก็ให้ความรู้สึกแบบนัน้ล่ะ ถ้าเป็นเรื่องการเต้นริโนะไม่แพ้ใครหรอก
ยอมแพ้แล้วไปเต้นกับริโนะซะเถอะ
ทั้งสองคนเต้นรำใต้แสงจันทร์ ทำให้ทั้งสองคนยิ่งดีสวยมากขึ้น
[ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูความเศร้าของเธอจะหายไปหมดแล้วนะ ]
เรย์จิเดินมาหาฉัน
[ คงงั้นล่ะนะ ]
ฉันพยักหน้า
ชิโรเนะสบายดีก็ดีแล้วล่ะ
[ ทั้งที่คิดว่าจะไปปลอบเธอสักหน่อย… ]
ฉันมองไปเรย์จิที่อยู่ข้างหลัง
ดูเหมือนเขาจะไปปลอบชิโรเนะ ถ้าเธอไม่ดีขึ้น?
ดูเรย์จิจะกังวลเรื่องของชิโรเนะมากทีเดียว
[ เรย์จิคุง พรุ่งนี้เราต้องไปสืบสวนคดีต่อ จะพักผ่อนก็ให้พอเหมาะแล้วกันนะ ]
เรย์จิดูจะแปลกใจเมื่อได้ยินที่ฉันพูด
[ … จริงด้วยสิ สืบสวนคดี… ลืมไปซะได้ ]
ไม่ไหวเลยจริงๆ
แต่ก็นะ เขาคือเรย์จินี่นะ แม้จะรู้สึกให้อภัยไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ได้จำอะไรซะด้วย
คงจะลืมไปแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเหมือนกัน
[ นอกจากนี้หมอนั่นก็บอกเองว่าจะสืบสวนให้นี่นะ ]
เรย์จิพูดแบบสบายๆ
อัศวินผู้ตรวจการของเทพโอดิส เดคิอัสตอนนี้ไม่อยู่ที่นี่ บางทีเขาคงกำลังลงมือสืบสวนไปแล้ว
[ จะรอรายงานจากเซอร์เดคิอัสก็ได้หรอกนะ แต่ว่า… ]
ผู้ตรวจการออาจจะมีอำนาจในการสืบคดี แต่อำนาจนั้นก็ไม่ได้มากมายอะไร
ไม่ว่าจะเป็นอัศวินที่ยอดเยี่ยมขนาดไหนก็ใช่ว่าจะสืบได้ทุกเรื่อง
การสืบสวนจะคืบหน้ามั้ยนะ
ฉันมองไปที่เรย์จิ เขาดูท่าทางสบายๆ ไม่ใส่ใจอะไร ก็เขาไม่ชอบเรื่องงานตรวจสอบนี่นะ
เซอร์เดคิอัสจะเป็นอะไรมั้ยนะ? หวังว่าจะเจอเบาะแสอะไรบางอย่างนะ…
แล้วคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ทำไปเพื่ออะไรกันแน่?
ฉันเงยหน้ามองดวงจันทร์ขณะที่ขบคิด
◆ อัศวินดำคุโรกิ
[ นายท่าน ท่านชิโรเนะกลับไปแล้วค่ะ ]
เรจิน่ารายงานผม
[ อา ขอบคุณมากนะเรจิน่า ]
เพราะมีคุนะอยู่ด้วย ผมเลยไปพบเธอไม่ได้
[ คุโรกินี่อะไรเหรอ? เหมือนหางแมวเลย ]
คุนะหยิบของบางอย่างออกมาจากกล่องของเซียรูด้า
คุนะหญิบหางแมวขึ้นมา ซึ่งที่หางแมวมีข้อโลหะทรงกลมอยู่ (เอาไว้เสียบก้น)
คุนะจดจ้องไปที่หางแมว
[ บางที… นั่นคงเอาไว้ใส่… ]
ผมตอบไปด้วยคำพูดคลุมเครือ
[ ยังไงเหรอ! จะใส่ยังไงอ่ะ! ติดไว้ตรงไหนเหรอ? ]
คุนะถามด้วยความไร้เดียงสา
ผมเองก็รู้วิธีใส่หรอกนะ แต่จะบอกกับคุนะไปไม่ได้เด็ดขาด
[ อืมม นั่นสิ จะติดมันไว้ตรงไหนกันน๊า? ผมเองก็ลืมไปแล้วล่ะ ฮะฮะฮะ ]
ผมพยายามหัวเราะกลบเกลื่อน
ไหงในกล่องของเซียรูด้าถึงมีของแบบนี้อยู่ด้วยฟะ? เสียงกระซิบของเหตุผลในใจบอกผม
แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงกระซิบของปีศาจที่ข้างหูด้วย
[ เอาล่ะ คืนให้ผมเถอะ ]
ไม่มีทางเลือก
ชุดและอุปกรณ์พวกนี้เป็นสิ่งต้องห้าม
เป็นการดีกว่าหากผมจะวางไว้ให้พ้นมือของคุนะ
เอามันไปเก็บไว้ในห้องเก็บของแล้วกัน
แต่ว่าชุดเกราะบิกินี่ในกล่องนี้ ผมก็ฝากเรจิน่าเอาไปให้ชิโรเนะไปแล้วสิ
เหตุผลน่ะเหรอ ก็เพราะมันเหมาะกับชิโรเนะไงเล่า
ชุดเกราะบิกินี่กับชิโรเนะเนี่ย ช่างเป็นการจับคู่ที่ลงตัวสุดๆ
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากไปมองใกล้ๆ จัง แต่คงเป็นไปไม่ได้
[ นายท่าน แล้วเด็กสาวที่พามาด้วยจะทำยังไงกับเธอดีรึคะ? ]
เรจิน่าถาม
เด็กสาวคนนั้นก็คือเซนน่า
ตอนที่คุนะเห็นผมอุ้มเซนน่ามา เธอดูจะอิจฉามาก
แต่ผมก็ปล่อยเซนน่าไว้ที่นั่นไม่ได้หรอก
ไม่งั้นมีหวังเธอโดนฆ่าแน่
[ จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย… ]
อันที่จริงผมไม่ได้คิดอะไรไว้เลย
จะทำยังไงดีล่ะ
แบบไหนถึงจะดี
และเรื่องที่เซียรูด้าไม่ได้เป็นอันตรายกับประเทศนี้
คงต้องไปรายงานให้ทูเรียรู้ด้วย
และผมก็ต้องรายงานความตั้งใจไปด้วยว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะร่วมมือกับพวกเขา
ปัญหาก็คือทาราบอสที่อยู่กับเซียรูด้า เพราะผมรู้สึกได้ถึงอันตรายจากตัวเขา
ได้ยินว่าบาเรียเมืองอาเรียดิน่าทำขึ้นแบบพิเศษด้วยวัสดุหายากด้วยฝีมือคนแคระ คงทำอะไรไม่ได้ง่ายๆ หรอก
แต่ถ้าเขาร่วมมือกับเทพแห่งความตายซัลคิซิส อาจจะทำอะไรบางอย่างกับบาเรียได้ ยังไงก็ดูอันตรายแฮะ
ผมเริ่มปวดหัว
[ คุโรกิ! เหมาะมั้ย?! ]
คุนะติดหางแมวกับเสื้อผ้าและส่ายก้น
นี่มันโมเอะสุดๆ !!
[ น่ารักมากเลยล่ะ ]
ผมลูบหัวคุนะ คุนะมีสีหน้าดีใจ
น่า จะคิดมากไปก็ไม่ได้อะไร
เดี๋ยวความคิดดีๆ ก็คงลอยเข้ามาเอง
ตอนนี้ผมไปเที่ยวอย่างสนุกกับคุนะดีกว่า