CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อัศวินดำ - ตอนที่ 71

  1. Home
  2. อัศวินดำ
  3. ตอนที่ 71
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ใกล้จะมืดแล้ว

บริเวณโดยรอบก็เริ่มจะมืดลงเรื่อยๆ

หากเป็นในประเทศปกตินี่ก็เป็นเวลาที่ผู้คนจะต้องกลับบ้านกันแล้ว

เพราะเชื้อเพลิงที่ใช้จุดไฟนั้นเป็นสิ่งที่ใช้เพื่อปกป้องประเทศจากเหล่าปีศาจ

แต่ว่าในอาเรียดิน่า เชื้อเพลิงอย่างน้ำมันราคาถูกมากแม้ในเวลากลางคืนก็ยังมีแสงไฟของโคมไฟเรียงรายตามถนน

แม้ไม่ต้องมีแสงจากเวทก็สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ตามปกติ

[ ฮาววว ~ พอจะพบเบาะแสของคุณน้องสาวแล้วค่ะ คุณจิยูกิ]

นาโอะมองไปรอบๆ

ที่นี่คือเมืองที่อยู่นอกกำแพง ฉัน นาโอะ และเดคิอัสกำลังอยู่นอกกำแพงกัน

ที่แถบนี้มีทั้งโรงแรม ร้านอาหารสำหรับผู้มีรายได้น้อย

สิ่งที่นาโอะกำลังมองไปก็คือโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งมีบริกรหญิงคอยบริการ

แต่ว่าขณะเดียวกันเหล่าบริกรพวกนั้นก็เป็นโสเภณีด้วย

ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าสินค้าในร้าน และค่าร่วมรักชั่วข้ามคืนก็เป็นหนึ่งในการหาเงินของโรงแรมเหล่านี้

[ โถ่ คุณนาโอะอย่าไปจ้องมากนักสิค่ะ ]

เสื้อผ้าของสาวๆ พวกนั้นโชว์ผิวพรรณเยอะมาก

เห็นได้ชัดว่าตั้งใจจะหว่านเสน่ห์

[ ขอโทษด้วยนะคะคุณจิยูกิ ถึงอย่างนั้น มุฟุฟุ ก็ไม่นึกว่านาโอะจะโดนผู้ชายจีบนี่นา ]

นาโอะดูดีใจมากที่โดนจีบ

นาโอะไม่ค่อยเป็นที่นิยมกับผู้ชายนักหากเทียบกับริโนะ ซาโฮโกะ หรือชิโรเนะ

ดังนั้นเลยดีใจมากที่โดนจีบ

ผู้หญิงที่อยู่แถวนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นโสเภณีทั้งนั้น

นอกกำแพงนั้นเต็มไปด้วยปีศาจ ผู้หญิงที่เดินเที่ยวน่ะไม่ค่อยมีหรอก

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในโรงแรมกัน มีเพียงโสเภณีที่เดินไปมาเท่านั้น

และนาโอะที่มาเดินในระแวกนี้ก็โดนเข้าใจผิดว่าเป็นโสเภณีเลยโดนผู้ชายมากมายชวนไปไหนมาไหนด้วย

ทั้งที่ฉันเองก็ไม่เหมือนโสเภณีสักหน่อย ไม่ได้โชว์ผิวพรรณเลย

ดังนั้นเลยทำให้เดินลำบากนี่ล่ะ

ทางฉันเองก็พยายามเดินให้ใกล้กับเดคิอัสมากที่สุด

แต่ทางนาโอะกลับดีใจซะอย่างนั้น นี่เธอดีใจที่ถูกชวนไปทำเรื่องอย่างว่าเหรอ/

ฉันมองไปที่ผู้คนรอบๆ แต่ก็ไม่มีใครหน้าตาดีอยู่เลยสักคน

ถ้าแค่หน้าตาล่ะก็ เรย์จิคงชนะขาดลอย

เดคิอัสเองก็เป็นหนุ่มหล่อ นอกจากนี้ยังเป็นคนจริงใจไม่เหมือนเรย์จิ

ทำไมคนที่หน้าตาดีและจริงใจถึงไม่มีมาทางฉันบ้างน้า

… อย่าคิดถึงมันเลยดีกว่า น่าเศร้าจริงๆ

แม้จะมีสาวสวยอยู่ข้างกายเดคิอัสถึงสองคนแต่เขากลับไม่ได้มองเราเลย แน่นอน เขาไม่ได้มองเหล่าโสเภณีรอบข้างเหมือนกัน

ให้ตายสิ ถ้ามองมาสักนิดก็คงดีนะ ไม่งั้นมันก็จะเกิดปัญหาขึ้นนะสิ

จากท่าทีของเดคิอัสที่เดินไปโดยไม่สนใจเหล่าโสเภณีทำให้คนรอบข้างสงสัยกันหมด

จริงๆ แล้วฉันอาจจะผิดเองก็ได้ที่พาเขามาด้วย

สำหรับอัศวินผู้ตรวจการ ที่นี่เป็นสถานที่ที่ไม่น่าอภิรมณ์เลยล่ะนะ แต่ขืนเป็นแบบนี้มัลเชียสคงรู้ตัวและหนีไปแน่

ฉันคิดขณะที่มองไปยังเดคิอัสที่อยู่ข้างๆ

และไปสะดุดตากับสิ่งของอย่างหนึ่งที่ตัวเดคิอัส

[ เซอร์เดคิอัส อาวุธนั่นคืออะไรเหรอคะ? ]

[ อ่อ นี่คือจู๊ตเตะ(กระบองตำรวจ)ครับ นี่เป็นอาวุธที่นิยมกันมากเลยนะครับท่านนักปราชญ์ พวกเราผู้ตรวจการเลยใช้อาวุธนี้มาใช้กันแบบเป็นทางการนะครับ ]

เดคิอัสเอาจู๊ตเตะออกมาจากเอว

มันใหญ่กว่าที่ฉันเคยเห็นมาก่อนซะอีก แต่แน่นอนว่านี่คือจู๊ตเตะเหมือนกัน

เคยเห็นมีคนใช้เจ้านี้สอนนักรบที่ลีนาเรียล่ะนะ

แต่ฉันไม่คิดเลยว่าประเทศนี้เองก็จะใช้ด้วย

[ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ว่ามันแพร่กระจายมาถึงที่นี่ได้ยังไง ]

[ งั้นเหรอคะ คุณนาโอะ… พอจะรู้อะไรมั้ยคะ? ]

เป็นไปได้ว่าความรู้แปลกๆ จากโลกเดิมของเราจะแพร่กระจายไปทั่วโลกนี้เลย ต้องระวังหน่อยแล้ว

เห็นทีต้องสังเกตเรย์จิกับริโนะให้รอบคอบกว่านี้

แต่อาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้…

[ ท่านนักปราชญ์ มัลเชียสน่าจะอยู่ในร้านแถวนี้ล่ะครับ ]

ตอนนี้ฉันกำลังเดินติดกับเขาอยู่ เดคิอัสมองไปรอบๆ

จากที่คนในคณะละครเล่ามา ดูเหมือนเดคิอัสจะชอบมาแถวนี้

[ เข้าใจแล้วค่ะ มัลเชียสปกติจะมาแถวนี้สินะคะ? คุณนาโอะไปเดินดูกันสักหน่อยมั้ยคะ? ]

ถึงนาโอะจะได้รูปวาดของมัลเชียสมาจากคนในคณะละคร แต่หากไม่ได้เห็นหน้าตรงๆ นาโอะก็ทำอะไรไม่ได้

[ เข้าใจแล้วค่ะ ]

เธอพูดขึ้น จากนั้้นร่างของนาโอะก็หายไป

[ อะไรนะ?]

เดคิอัสพยายามหันไปมาเพื่อมองหานาโอะ

ดูท่าว่าขนาดเดคิอัสก็รับรู้การเคลื่อนไหวของนาโอะไม่ได้

ฉันเองก็ทำไม่ได้เช่นกัน

แต่ชิโรเนะกับคายะนั้นถึงจะพอรับรู้ได้บ้าง แต่ก็ไม่สมบูรณ์

ถ้าเป็นเรย์จิจะสามารถตามการเคลื่อนไหวของนาโอะได้ทัน แต่ถ้าสองคนั้นเอาจริงก็ไม่มีใครตามได้ทันหรอก

จากนั้นสักพักนาโอะก็กลับมา

[ ขอต้อนรับกลับค่ะคุณนาโอะ เจอบ้างมั้ย? ]

นาโอะส่ายหัว

[ ไม่เลยค่ะ แต่พบร่องรอยการต่อสู้ค่ะ ]

[ ร่องรอยการต่อสู้? ]

[ ค่ะ ไปด้วยกันสักหน่อยสิค่ะ ]

ฉันพยักหน้า

[ ไปกันเถอะค่ะเซอร์เดคิอัส ]

เดคิอัสที่อยู่ข้างหลังพยักหน้าให้ฉันกับนาโอะ

และเราก็มาถึงยังสถานที่ที่ผู้คนไม่ค่อยผ่านนัก

[ จะขึ้นไปแล้วนะคะ ]

จากนั้นนาโอะก็โดดขึ้นไปบนหลังคา

[ เซอร์เดคิอัสใช้เวทบินได้มั้ยคะ? ]

[ ไม่ครับ ไม่ได้หรอก… ]

[ งั้นก็จับมือฉันไว้แล้วกัน ]

ฉันบินขึ้นไปบนหลังคาขณะที่คว้ามือของเดคิอัส

เดคิอัสส่งเสียงน่าสมเพซ แต่ก็ช่างเถอะ

[ ดูนี่สิค่ะ รูบนหลังคานี้ ]

เมื่อไปถึงบนหลังคา นาโอะก็เรียกมาดูรูบนหลังคา

หลังคาตรงนี้มีรูอยู่บางจุด

แต่จากร่องรอยการต่อสู้ก็ไม่ได้ทำให้รู้อะไรอยู่ดี

แต่รูนี้ดูเหมือนจะเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้

[ คุณนาโอะพอจะรู้มั้ยคะ ว่าใครต่อสู้กับใครนะ? ]

[ ไม่รู้ค่ะ แต่น่าจะไม่ใช่คนธรรมดาแน่ เพราะพวกเขาน่าจะมีฝีมือกันพอตัว ]

นาโอะพูดออกมา

[ คิดยังไงคะเซอร์เดคิอัส? คิดว่าคุณที่ต่อสู้อยู่เป็นน้องสาวของคุณรึเปล่าคะ? ]

เมื่อฉันถาม เดคิอัสก็ทำหน้าลำบากใจ

[ ผมเองก็ไม่รู้ครับ แต่ถ้านี่เป็นฝีมือเซนน่าก็น่าจะมีเบาะแสทิ้งไว้บ้างครับ ]

[ เบาะแสเหรอคะ? ]

[ ครับ อย่างของที่ตกอยู่ ]

[ อา เข้าใจแล้วค่ะ ]

[ งั้นผมจะลองใช้เวทค้นหาของดูนะครับ ]

ฉันชื่นชมเดคิอัสในใจ

เวทค้นหาของหรือค้นหาวัตถุ มันเป็นเวทที่ใช้หาของโดยเฉพาะ

แต่ว่าหากไม่นึกภาพของชิ้นนั้นไว้ดีๆ ก็หาไม่เจอ

เดคิอัสเก่งมากทีเดียว ไม่อยากเชื่อเลยว่าแค่พรของนางฟ้าเขาก็ใช้เวทได้ขนาดนี้แล้ว แม้ว่าจะไม่มีพร ฉันเองก็คิดว่าเขามีพรสวรรค์ทีเดียว

เหตุผลที่ฉันใช้เวทนั้นเองไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าของสิ่งนั้นที่เซนน่าทำตกไว้คืออะไร

[ ถึงจะใช้ได้ แต่ขอบเขตการค้นหาก็ไม่กว้างนัก …. แต่ผมจะพยายามครับ ]

เดคิอัสตั้งสมาธิและหลับตาลง

ฉันรู้สึกได้ถึงพลังเวทที่แผ่ออกมาจากร่างเดคิอัส

หลังจากนั้นไม่กี่นาที เหงื่อก็ไหลออกมาจากหน้าของเดคิอัสเต็มไปหมด ดูเหมือนเพราะเขาฝืนขยายวงค้นหาจะยากมาก

ฉันและนาโอะเฝ้าดูอย่างเงียบๆ เพื่อไม่ให้รบกวนเดคิอัส

ทันใดนั้นเขาก็ลืมตาขึ้น

[ ฮา… ฮา… พบแล้วครับ ]

เสียงหายใจหอบของเดคิอัส ขณะที่เขากุมเข่าไว้

[ เซอร์เดคิอัสไม่เป็นไรนะคะ? ]

[ ไม่เป็นไรครับท่านนักปราชญ์ ทางนั้นครับ ]

เราเดินไปข้างหน้ากับเดคิอัส

เดคิอัสดูจะเซไปมา เพราะใช้พลังเวทมากเกินไป

[ ตรงนั้นครับ ]

เดคิอัสชี้ไปที่ช่องว่างระหว่างสองอาคาร

[ คิดว่ากริซของเซนน่าน่าจะอยู่ในซอยนี้ครับ ]

ฉันมองเห็นซอยแคบๆ ตรงนั้น เป็นไปได้ฉันก็ไม่อยากผ่านไปในที่ที่มีขยะแบบนั้นหรอก

[ อี๊ สกปรกจัง ]

[ บางทีคงเป็นสถานที่ทิ้งขยะผิดกฏหมายนะ อย่าไปใส่ใจมากนักเลย ]

ฉันใช้มือเวทมนตร์ล้วงเข้าไปในช่องแคบๆ นั้น

จนในที่สุดก็เจอดาบ

[ อย่างที่คิด กริซของเซนน่า… ]

เดคิอัสพูดขณะที่มองไปยังกริซ

[ เข้าใจแล้วค่ะ… งั้นก็แปลว่าคนที่ต่อสู้กันบนหลังคาก็คือคุณเซนน่าจริงๆ …. หวังว่าเธอจะยังปลอดภัยนะ ]

ฉันพูดขณะที่ลดสายตา

[ ครับ… บางทีเธอคงโดนพวกลัทธิบูชาปีสาจไล่ตาม แต่ฝีเท้าของชิสุเฟย์ค่อนข้างเร็วคงจะหนีรอดได้ แต่น่าจะบาดเจ็บอยู่ เราต้องหาตัวเธอให้พบให้ได้ครับ ]

เดคิอัสพูดด้วยใบหน้าเครียด

เขายังคงเชื่อว่าน้องสาวของตัวเองต้องปลอดภัย ดังนั้นเธอน่าจะเก่งอยู่พอตัวนะ

ฉันเองก็อยากให้เธอปลอดภัยเหมือนกัน

[ นั่นสิค่ะ หือ? ]

ฉันมองไปที่ดาบและเห็นแสงที่ส่องออกมาจากดาบ

[ มีอะไรเหรอคะคุณจิยูกิ? ]

[ ดูสิค่ะคุณนาโอะ มีอะไรบางอย่างเขียนไว้ที่ใบมีดด้วย ]

ฉันเอากริซให้นาโอะดู

[จริงด้วย  มีเขียนไว้จริงๆ ด้วยค่ะ ]

[ มันเขียนไว้ว่าเทพธิดาแห่งแสงจันทร์ นี่มันหมายถึงอะไรกันนะ? พอจะรู้อะไรมั้ยคะเซอร์เดคิอัส? ]

ข้อความที่กริซเล่มนี้อาจจะเป็นสิ่งที่จะส่งไปถึงเดคิอัส

เพราะกลัวว่าศัตรูจะมาลบทิ้ง จึงไม่ได้เขียนไว้ชัดเจน

นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่เธอจะแค่ทำดาบตกไว้ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น

ฉันมอบดาบให้เดคิอัส

ถึงเราจะไม่เข้าใจสิ่งที่ข้อความนี้ต้องการบอก แต่เดคิอัสน่าจะเข้าใจได้

เดคิอัสมองไปที่ข้อความที่เขียนบนกริซ

[ นี่มันข้อความจากเซนน่า… เทพธิดาแห่งแสงจันทร์? ไม่จริงใช่มั้ย? ]

เดคิอัสขบคิดและขมวดคิ้ว

[ ทำให้นึกถึงอะไรเหรอคะ? ]

[ ครับ ในคืนก่อนงานเลี้ยง ขณะที่ผมกำลังเดินอยู่กับเซนน่า ผมได้เจอกับกับเด็กสาวแปลกๆ คนนึง เธอคนนั้นสวยมากครับ… เหมือนกับเทพธิดาแห่งแสงจันทร์ ทำให้ผมเผลอเรียกเธอไปว่าเทพธิดาแห่งแสงจันทร์นะครับ ]

เดคิอัสพูดขณะที่เงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ดูท่าว่าเขาจะตกหลุมรักเธอคนนั้น

นาโอะมองไปและผิวปากทำเสียงวี๊ดวิ๊ว 

ทั้งที่กับพวกเราเขายังไม่ได้ตอบสนองอะไรเป็นพิเศษหรือสีหน้าเปลี่ยนเลยแท้ๆ

ฉันก็ไม่ค่อยสนใจนักหรอกนะ แต่นี่เขาถึงกลับเหม่อเลยเหรอ

[ เซอร์เดคิอัสแล้วชื่อของเด็กสาวคนนั้นล่ะคะ? ]

[ ไม่ครับ เพราะผมพูดอะไรไม่ออกเลยนะ… แต่ตามที่ได้ยิน รู้สึกเธอจะมาเพื่อดูท่านผู้กล้าแห่งแสงนะครับ]

[ มาเพื่อดูเรย์จิ? ไอย๊า~ ]

ฉันเอามือกุมหน้าผาก

ในดวงตาของเดคิอัส ฉันเห็นหัวใจของเขากำลังแตกสลาย

[ งั้นเราก็ไม่รู้เลยนะสิ เพราะไม่มีเบาะแสว่าเธออยู่ที่ไหนเลย ]

[ ครับ ผมรู้เพียงว่าเธอเป็นขุนนางชาวต่างชาติ เรื่องชื่อหรือที่อยู่ไม่ได้ถามไว้เลย… ]

เดคิอัสพูดด้วยความเศร้าสร้อย

[ ไม่รู้ก็ทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ ดูเหมือนว่าเด็กสาวที่เทพธิดาแห่งแสงจันทร์คนนั้นจะเกี่ยวข้องด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เราจะทำยังไงดี? ถึงจะพบเบาะแสใหม่ ฉันก็คิดว่าเราควรไปหาตัวมัลเชียสจะดีกว่าค่ะ… ]

ฉันแนะนำทั้งสองคน

[ เพราะข้อมูลจากแค่รูปลักษณ์ภายนอกมันน้อยเกินไป ต้องหาข้อมูลเพิ่มก่อนสินะครับ ]

เราพยักหน้าให้คำพูดของเดคิอัส

เทพธิดาแห่งแสงจันทร์

บางทีเธออาจจะเป็นผู้ถือครองกุญแจที่จะไขคดีนี้

ฉันสลักชื่อนั้นไว้ในใจและเดินสำรวจเมืองตอนกลางคืน

 

 

 

 

◆ ลูกสมุน มัลเชียส

แสงไฟยามค่ำคืนที่สาดส่องในโรงแรม

ไม่ได้กลิ่นปลา แต่กลับมีกลิ่นของเหล้าอยู่ฟุ้งห้อง ควันสีชมพูที่กระจายไปทั่วห้อง

ควันนั้นสะท้อนแสงและทำให้ห้องกลายเป็นสีชมพู

[ นี่ มัลเชียส ไม่ใช่ว่าต้องกลับเหรอ? ]

ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขณะที่ข้ากอดและดื่มอยู่ข้างๆ เธอ

ข้ากำลังนั่งดื่มกับเพื่อนคนหนึ่งขณะที่กอดหญิงสาวคนหนึ่งไว้ข้างๆ

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ข้าคงแสยะยิ้มลามกไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย

[ ยังไม่จำเป็นต้องกลับหรอก เพราะตอนนี้ข้ายังกลับไปไม่ได้… ]

ข้าพูดพึมพำ

[ เหรอ ถ้างั้น… ฉันขอตัวล่ะ ]

ผู้หญิงคนนั้นกำลังจะเดินออกจากห้องไป

เพื่อนของข้าพยายามดึงมือเธอไว้

[ แมงมุม… ]

ข้าพึมพำ

ในพริบตานั้นข้ามองเห็นผู้หญิงคนนั้นเหมือนเป็นแมงมุมไปชั่วขณะ

ไม่ใช่แค่เธอคนนั้น แต่ผู้หญิงบางคนในร้านนี้ดูเหมือนจะเป็นปีศาจ

เธอเป็นทั้งโสเภณีและขณะเดียวกันก็เป็นบริกร

แม้จะไม่ใช่โสเภณีธรรมดา แต่ผู้หญิงที่นี่ก็สวยกว่าที่ซอยด้านหลังที่คอยชักชวนลูกค้า

ข้าก็แค่มาที่นี่เพราะอยากเจอสาวสวยเท่านั้น

โดยที่นี่ใช้โรงแรมเป็นฉากบังหน้า แต่ที่จริงเป็นแหล่งการพนันและซ่องผิดกฏหมายโดย [ แมงมุมแดง ] เป็นผู้คุมของที่นี่

ที่ข้ามาที่ร้านนี้ก็เพื่อลืมเรื่องไม่ดีไปซะ

อาหารของร้านนี้เองก็อร่อย สาวๆ เพื่อนดื่มก็สวย ถึงได้มาที่นี่

แต่กลับไม่รู้สึกสนุกเลย

เหตุผลนั่นก็เพราะการปรากฏตัวของอัศวินดำ

พอนึกถึงอัศวินดำ ร่างกายของข้าก็สั่นไปหมด

ความตัวต่อชายคนนั้นแม้แต่ตอนนี้ก็ยังคงอยู่

ในตอนนั้นข้านึกว่าตัวเองจะโดนฆ่าไปซะแล้ว

แต่อัศวินดำกลับไว้ชีวิตข้า เรื่องนั้นต้องขอบคุณจริงๆ

ข้าเอามือกุมหัวราวกับมันมีอะไรอยู่

ตั้งแต่ตอนนั้นมุมมองของตัวข้าก็เปลี่ยนไปนิดหน่อย รวมถึงการดื่ม

ทำไมข้าถึงไม่ดื่มน่ะเหรอ?

แต่ก่อนข้าก็รู้สึกว่าเหล้านี้มันหวานหรอกนะ แต่ทั้งที่เป็นเหล้าเดียวกัน ข้ากลับไม่รู้สึกว่ามันดีเลย

ข้าคิดว่าเหล้ามันรสชาติแปลกๆ

นี่มันแปลกไปตั้งแต่ข้าพบกับชายคนนั้นงั้นเหรอ?

[ มัลเชียส ]

ข้าได้ยินเสียงคนเรียกจากด้านข้าง ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่คนเดียวและเป็นใบหน้าของคนที่ข้าคุ้นเคย

[ อ เอ๋ มีอะไร? ]

ข้าหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก

[ ท่านเคียวชูเรียกเจ้า ตามข้ามา ]

[ ท่านเคียวชู? อา เข้าใจแล้ว ]

ข้าหัวเราะ เคียวชูเป็นอดีตรองหัวหน้าและเธอคนนี้ก็เป็นผู้สืบทอดของเคียวชู ข้าเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้เลือกเธอและเขาก็ไม่ได้บอกอะไรกับลูกสมุนอย่างข้าด้วย

ข้าเดินตามหลังผู้หญิงคนนั้น

ท่านเคียวชูเป็นคนที่ไว้ใจได้ หากข้าไปพบเขา ความวิตกกังวลของข้าอาจจะหายไปเลยก็ได้

ว่าแต่ข้าได้ยินว่าท่านเคียวชูไปทำธุระที่นอกประเทศพักนึงนี่นา นี่เขากลับมาเมื่อไหร่

และข้าก็มาถึงหน้าประตูห้องซึ่งดูเหมือนจะเป็นห้องของท่านเคียวชู

[ ท่านเคียวชูขออนุญาตค่ะ ]

[ เข้ามาได้ ]

เสียงของท่านเคียวชูที่อยู่ข้างในขานรับ

เป็นเสียงของชายหนุ่ม

ในห้องเต็มไปผู้หญิงและควันสีชมพู

ที่กลางห้องมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ ผิวขาว ผมสีทองและมีริมฝีปากสีแดงเข้ม

เป็นชายหนุ่มที่สวย ช่างผิดพลาดจริงๆ เขาน่าจะเกิดมาเป็นผู้หญิงนะ

[ เอ่อ? ]

เมื่อข้าเห็นหน้าของเคียวชู ข้าก็เผลอพูดออกมาเสียงดัง เขาให้ความรู้สึกแตกต่างจากที่ข้าเคยพบครั้งก่อน

ข้าดีใจมากที่ได้พบกับเขาหลังจากไม่ได้เจอมานาน ราวกับคงตายแน่ถ้าไม่ได้พบเขา

ข้าเป็นลูกของนักดนตรีและเขาก็ติดการพนันจนเสียบ้านไป

ชีวิตมันน่ากลัว ตัวข้าไม่สามารถเป็นนักรบได้เพราะอ่อนแอเกินไป จึงต้องขโมยเพื่อการมีชีวิตอยู่

ในตอนที่ข้ากำลังจนตรอก ไอนอยก็ได้เก็บข้ามา

และเข้าสู่องค์กรนี้ ข้าได้พบกับเคียวชู

ในครั้งแรกที่ได้เจอเขา เคียวชูเป็นคนที่ข้าไว้ใจมาก

แต่ตอนนี้ข้ากลับไม่รู้สึกอะไร ไม่สิ กลับรู้สึกค่อนข้างกลัว

ข้ามองไปรอบๆ ห้อง มันก็เหมือนเมื่อก่อน เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่ในห้องมีผู้หญิงมากมาย ทั้งหัวของเด็กผู้หญิงที่ตกแต่งตู้และสถานที่ต่างๆ

ตอนที่ข้าเข้ามาตอนแรก ข้าไม่ได้สงสัยอะไรเลย

แต่ตอนนี้ข้ารู้สึกตัวแล้ว ห้องนี้มันผิดปกติ

[ มัลเชียวสินะ? แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ ทำไมถึงได้ดูลุกลี้ลุกลน? ]

ท่านเคียวชูหัวเราะ

[ ไม่ครับ ไม่มีอะไรเลย แฮะแฮะ ]

ข้าหัวเราะกลบเกลื่อน แต่ที่ไหลของข้ามีเหงื่อไหลท่วมเต็มไปหมด

[ ข้ามีเรื่องบางอย่างอยากจะถาม เจ้าได้เจอเขาแล้วใช่มั้ย? เป็นยังไงบ้างล่ะ? ]

ท่านเคียวชูถามข้า แต่ข้าไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงใคร

[ เขา? ใครงั้นเหรอครับ? ]

เมื่อได้ยิน ท่านเคียวชูก็ทำสีหน้าบูดบึ้ง

[ ใครงั้นเหรอ ก็อัศวินดำไงล่ะ ]

ร่างกายของข้าสั่นไปหมด เมื่อพูดถึงชื่ออัศวินดำ

[ อัศวินดำเหรอครับ? ]

[ ใช่ อัศวินดำ เขามีชื่อเสียงมากเลยล่ะในหมู่พวกเรา ถ้าเปรียบก็เขาก็เหมือนกับผู้กล้าแห่งแสงในหมู่พวกเรา ดูเหมือนเจ้านั้นจะรบกวนแผนการของซัลคิซิสไปถึงสองครั้ง? เลยเป็นห่วงว่าเขาเป็นคนแบบไหน ]

ท่านเคียวชูหัวเราะไร้เดียงสาเหมือนเด็ก

[ ข้าเองก็ไม่รู้จะบอกว่ายังไงดี~ ….. เป็นประเภทที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้มนุษย์ แต่ก็บอกได้คำเดียวว่าน่ากลัว…. ]

ข้าพยายามอธิบาย แต่ก็สรรหาคำพูดดีๆ ออกมาไม่ได้

[ เซียรูด้าเองก็บอเหมือนกันเลย ท่าทางจะดีกว่าหากเจ้าซ่อนตัวไว้? แต่คงจะยุ่งยากสักหน่อย ]

ท่านเคียวชูพยักหน้า

[ น่ะ..? ]

ข้ารู้สึกถึงสายตาที่จ้องมอง

เมื่อมองไปก็เห็นสายตาของผู้หญิงที่มีแต่หัวกำลังจ้องมองข้า

ข้าเกือบจะร้องไห้

[ หืม เป็นอะไรไปล่ะมัลเชียสคุง? ]

ตัวข้ากำลังถูกจ้องมอง

และเมื่อข้าสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ ข้าก็ลุกขึ้นยืน

แต่ท่านเคียวชูก็หยิบหัวนั้น ที่กำลังจ้องมองข้าอยู่ขึ้นมา

[ นั่นมัน? หัวคนไม่ใช่เหรอครับ? ]

[ ฟุฟุ เจ้าจำได้สินะ เด็กสาวที่เจ้าพามาไงล่ะ ตอนนี้เธอได้กลายเป็นคอลเล็คชั่นของข้าไปแล้ว ]

ท่านเคียวชูหัวเราะอย่างมีความสุขขณะที่จับหัวนั้นด้วยความรักและทะนุถนอม

ข้าจำเด็กสาวคนนั้นได้ เธอเป็นเด็กสาวที่หนีออกจากบ้านและปรารถนาจะเป็นเหมือนไอนอย(นักแสดง) ถึงแม้เธอจะสวยแต่กลับไม่มีพรสวรรค์

แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้จนต้องเจ็บตัว คิดว่าเธอน่าจะชื่อคาเทีย

ข้าได้หลอกเธอว่าจะให้เธอนักแสดงเบื้องหลัง

ตอนนี้ร่างของหญิงสาวที่ไร้หัวกำลังเฝ้ามองข้า

[ ข้าอยากขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้ข้าได้พบกับท่านซันโด ]

หัวของเด็กสาวยิ้มอย่างอ่อนโยน

ข้าร้องไห้โดยไร้เสียง

และกลับตัวเพื่อพยายามหนีไปที่ประตู

แต่ก็มีหัวที่ตกแต่งตู่มาคอยปิดกั้นประตูไว้ไม่ให้ข้าออกจากห้อง

ผู้หญิงที่เป็นหัวหน้ากำลังเฝ้ามองข้า

[ อึ๊ก… ]

ขาของข้าอ่อนจนนั่งลง

[ ถึงจะกลัวแต่ก็หนีไปไม่ได้หรอก ข้าเองก็นึกแล้วว่าเจ้าจะต้องเสียสติแน่ๆ เอาล่ะ ข้าควรทำยังไงดีนะ? ]

ข้าได้ยินเสียงของท่านเคียวชูจากด้านหลัง

[ ท่านซันโด ฉันขอชายคนนี้มาทำเป็นอัศวินดูลาฮานได้มั้ยคะ? ]

เสียงของหญิงสาวดังขึ้น

[ จะดีเหรอ? เขาดูท่าทางอ่อนแอจะตายไปนะ ]

[ ไม่มีปัญหาค่ะ ]

[ ถ้าไม่มีปัญหาก็เชิญเลย จงดีใจเสียเถอะมัลเชียส เพราะจากนี้เจ้าจะได้เป็นอัศวินผู้ซื่อสัตย์ของเธอแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า ]

ในวินาทีที่ข้าได้ยินเสียงนั้น ก็รู้สึกเหมือนที่คอมันร้อนและในห้องก็บิดเบี้ยวไปหมด

จากนั้นข้าก็เห็นร่างกายของตัวเองที่ไร้หัวไปแล้ว

 

 

◆ เทพแห่งการหลับใหลและความฝัน ซันโด

[ นี่ อุ้มหน่อยสิค่ะ ขี้เกียจลอยแล้วอ่ะ ]

คาเทียพูดขณะที่มองร่างของมัลเชียสที่ไร้หัว

ข้าโอบกอดหัวของเธอไว้ด้วยความรัก

เพราะข้าไม่อาจวางหัวของเธอไว้ในที่แบบนี้ได้จึงได้โอบกอดราวเจ้าหยิง

เพราะข้าไม่อยากทำลายงานศิลปะของตัวเองล่ะนะ

พวกมนุษย์เองก้ต่อต้านข้าไม่ได้ด้วยล่ะนะ 

เอาเถอะ

ข้าไม่สนใจหัวของคนน่าเกลียดหรอก

[ ว่าแต่ทำไมต้องเอาคนอ่อนแอแบบนั้นมาเป็นอัศวินดูลาฮานด้วยล่ะคาเทีย? ]

[ จริงๆ เลยนะท่านพี่ น่าจะหาคนที่ดีกว่านี้หน่อยนะ ]

[ ใช่ๆ น่าจะหัดเลือกบ้างนะ อย่างเอาพวกอัศวินมาเลยกก็ได้ ]

พวกเธอหัวเราะกัน

พวกเธอเป็นนางฟ้าที่มีความสามารถทำให้ผู้ไร้หัวกลายเป็นข้ารับใช้

แต่ว่าก็มีข้อจำกัดและจำนวนคนที่ควบคุมได้อยู่

ดังนั้นนางฟ้าส่วนใหญ่จึงควบคุมเฉพาะผู้ชายอัศวินที่แข็งแกร่งเท่านั้น คนที่ถูกพวกเธอตัดหัวจะกลายเป็นอัศวินข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของพวกเธอไป

[ เอาล่ะ กลับไปหาเซียรูด้าได้ดีกว่า จะได้คุยกันให้จบๆ ]

ข้าออกจากห้องโดยทิ้งเหล่านางฟ้าที่น่ารักไว้

เซียรูด้าคือแพะดำที่อาศัยอยู่ในนากอล หรือจะเรียกว่าปีศาจชั้นรองดีล่ะ

เซียรูด้าเป็นปีศาจชั้นรองที่อโทราคัวอุปการะไว้เพราะทรยศราชาปีสาจ ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ห้องใต้ดินของที่นี่

ข้าเดินไปตามทางเดินและไปที่ทางเข้าชั้นใต้ดิน

ที่ชั้นใต้ดินข้าเห็นเงามากมายเรียงรายอยู่

ทั้งหมดที่อยู่ชั้นล่างนั้นไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นปีศาจซึ่งอาศัยอยู่ในนากอล

[ คุยกันจบรึยังล่ะ? อัลบาลคุง ]

ข้าหัวเราะขณะที่คุยกับปีศาจซึ่งยืนอยู่ตรงกลางในหมู่พวกเขา

ชื่อของปีศาจคนนั้นก็คืออัลบาล หนึ่งในสี่จตุรัสเทพแห่งกองทัพราชาปีศาจ เขามาที่นี่เพื่อจับกุมเซียรูด้าที่คนทรยศ

[ โอ๊ะ ท่านซันโด ต้องขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้ข้ารู้ว่าเจ้าคนทรยศมันไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ]

เซียรูด้ากำลังนั่งคุกเข่าและตัวสั่นอยู่บนพื้นตรงหน้าอัลบาล

[ ถ้าเป็นไปได้ข้าก็อยากให้อภัยให้เขาหน่อยล่ะนะ เพราะเขาทำให้ข้าได้พบกับอัลบาลคุงไงล่ะ ]

หากอัลบาลมาด้วยตัวเอง การจะจับเซียรูด้าก็ง่ายนิดเดียว

ข้าพยายามติดต่อพวกเขาและเจรจาขอเข้าร่วมด้วย แน่นอนว่าเป็นความลับกับท่านพ่อ

ข้าแตกต่างจากพ่อของข้า-ซัลคิซิส พ่อข้าไม่คิดจะเข้าร่วม แต่เป็นปฏิปักษ์กับราชาปีศาจ ข้าล่ะเศร้าใจจริงๆ

ความขัดแย้งมันไม่นำพาอะไรมาหรอก

ถ้าเป็นไปได้ข้าก็อยากเข้าร่วมกับราชาปีศาจ

ที่จริงก็อยากไปอยู่ฝ่ายเดียวกับเทพของเอลีอัสเลยต่างหาก

แต่เหล่าเทพธิดาที่งดงามเหล่านั้นเกลียดชังข้า ทำไมกัน ทั้งที่ข้าเองก็พยายามทำให้ตัวเองดูดีขึ้นขนาดนี้แล้วแท้ๆ ?

ข้าล่ะอยากได้หัวของเทพธิดาที่งดงามพวกนั้นมาจริงๆ

[ นา เรื่องจะยกโทษให้หรือไม่นั่นก็ขึ้นอยู่กับตัวเซียรูด้าเอง แต่หากเป็นท่านซันโดน่าจะไม่มีปัญหาใดๆ หวังว่าเราจะสานสันพันธ์อันดีต่อกันไว้แล้วกัน ]

อัลบาลพูดอย่างเย็นชา

[ ขอบคุณมากครับท่านอัลบาล ]

เซียรูด้าก้มหัวลงจนติดดินและขอบคุณ

[ ไม่เลยเซียรูด้า เพราะเจ้าเองก็พยายามมามากเช่นกัน ]

เขายิ้มอย่างเต็มอก

เซียรูด้าเองก็เหมือนกับข้าที่มีคนรักเป็นมนุษย์ ข้าคิดว่าเขาเหมือนกับข้าที่ไหนสักแห่ง จึงได้ถูกใจ

[ ไม่มีปัญหา ทำตามใจพวกเจ้าเถอะ ]

[ ขอบคุณมากอัลบาลคุง ข้าสาบานว่าจะต้องจัดการเจ้าผู้กล้าแห่งแสงและเทพของเอลีอัสให้ได้ ซึ่งนั่นเองก็เป็นความปรารถนาเดิมของพ่อข้าเช่นกัน ]

เพราะข้ารักพวกมนุษย์มาเกินไป ทำให้พ่อของข้าทอดทิ้งไป

เพราะพ่อไม่ได้สนใจ ข้าเลยไม่ได้รับอนุญาตให้ร่วมแผนการของเลวิลรุสด้วย

แต่วันนี้มันจะสิ้นสุดแล้ว ข้าจะกลับไปทำตามที่ท่านพ่อหวังไว้

ข้ารู้สึกเศร้ามาตลอด

แต่ต้องขอบคุณที่เลวิลรุสนั้นล้มเหลว ทำให้ข้ามีอิสระจะทำอะไรก็ได้แล้ว

ข้าจะพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวข้ามีประโยชน์ ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจร่วมมือกับอัลบาล

[ ข้าจะคอยดูผลงานแล้วกันท่านซันโด ]

[ ฟุฟุ ไว้ใจข้าได้เลย ข้าจะให้ผู้กล้าแห่งแสงและอัศวินดำมาเจอกันให้ได้ ต้องขอบคุณข้อมูลนี้จากสัตว์ส่งข่าวของเฟลิออนจริงๆ ]

ข้าหัวเราะ

ให้ผู้กล้าแห่งแสงและอัศวินดำต่อสู้และฆ่ากันเอง นั่นคือแผนของข้า

ซึ่งเฟลิออนก็คือเทพปีศาจที่ต่อสู้กับเทพแห่งเอลีอัสร่วมกับพ่อข้า

แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะปิดผนึกไว้โดยราชาปีศาจ ทำให้ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเขาถูกผนึกไว้ที่ไหน

แต่ข้อมูลนั้นข้าได้รู้มาจากอัลบาลแล้ว ดูท่าคงต้องรีบไปบอกพ่อซะแล้ว

[ อืม เป็นแผนการที่ดีเยี่ยม  แล้วคงรู้สินะ… ]

[ แน่นอน ข้าจะเก็บเงียบไว้ไม่ให้ราชาปีศาจรู้ หากราชาปีศาจรู้เข้ามีหวังโกรธแน่ จึงต้องเป็นความลับ ]

เรื่องที่ข้ากับอัลบาลร่วมมือกันเป็นความลับ

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ราชาปีศาจจึงไม่ได้อยากจะต่อสู้กับเทพของเอลีอัส

และดูเหมือนจะสั่งห้ามไม่ให้เหล่านูกน้องออกเคลื่อนไหว

แต่อัลบาลนั่นไม่ชอบใจกับคำสั่งนั้น แน่นอน เซียรูด้าก็เช่นกัน

อัลบาลจึงต้องการเก็บมันไว้เป็นความลับ

[ ขอบคุณมากท่านซันโด ข้าจะรอคอยผลงาน ]

[ แน่นอน ขอเอาหัวเป็นประกัน ]

จากนั้นอัลบาลและเหล่าลูกน้องก็ใช้เวทเคลื่อนย้ายไปทันที

ในระหว่างที่ผู้กล้าแห่งแสงไม่อยู่คงดีหากข้าเอาหัวพวกหญิงสาวที่อยู่กับเขามา

และหลังจากคืนชีพให้กับเฟลิออน ข้าก็จะไปบุกเอลีอัส

ต่อจากหัวของผู้กล้าแห่งแสงก็จะเป็นหัวของเทพธิดาของเอลีอัส

ในภาพสะท้อนเวทมนตร์ที่ข้าสร้างขึ้น

มีหัวของเทพธิดาผมสีเงินอยู่ด้วย

ช่างงดงาม ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

ตัวข้าเพิ่งรู้จักความรักเมื่อรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของเธอ

ข้าอยากจะได้หัวของเธอ ซึ่งตอนนี้เธอก็อยู่ในประเทศนี้ เป็นโอกาสอันดีทีเดียว

ดังนั้นอัศวินดำที่ขวางทางต้องหายไปซะ

แต่ก่อนอื่นข้าต้องเตรียมแผนการก่อน

[ ต้องไปติดต่อทาราบอสเพื่อแผนการคืนชีพบาดลด้วยสินะ? ]

บาดอลคือหนึ่งในสัตว์ร้ายที่ท่านแม่ผู้ยิ่งใหญ่-นากอล สร้างขึ้น

มันไม่เหมือนสัตว์อสูรตัวไหนๆ เพราะมีอำนาจที่ทรงพลัง

ศพของบาดอลตอนนี้อยู่ในห้องใต้ดินของโรงละครใหญ่ ศพของบาดอลถูกฝังไว้ที่แท่นบูชาของอัลฟอส และพวกมนุษย์ก็เป็นที่นั้นให้เป็นโรงละคร นั่นคือสิ่งที่ข้าได้ยินมาจากทาราบอส

ขณะที่ทาราบอสกำลังวิจัยเรื่องของนากอลอยู่นั้น เขาก็ได้รู้เรื่องของบาดอลเข้า

ต้นกำเนิดเป็นมายังไงไม่สำคัญ ปัญหาคือมันยังใช้การได้อยู่รึไม่

ในโรงละครนั้นยังมีแม่มดของเซียรูด้าหลงเหลืออยู่ มาร่วมงานกันเถอะ

หลังจากอัลบาลจากไป เซียรูด้าก็อยู่ในท่าทางสงบ

[ เซียรูด้า เจ้าจะต้องร่วมมือกับข้าในการกำจัดอัศวินดำ วะฮ่าฮ่าฮ่า ]

ข้าหัวเราะขณะที่คิดแผนการในอนาคต

 

 

◆นักเต้นเซนน่า

เทพธิดาแสงจันทร์กำลังร่ายรำอยู่ด้านหน้าของฉัน

สวยจัง

เพราะตอนนี้เป็นเวลากลางคืน

ทำให้แสงจันทร์สาดส่องมาจากหน้าต่างทำให้ผมสีเงินของเธอส่องสว่างสดใสยิ่งขึ้น

ราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด

[ เป็นยังไงบ้างเซนน่?  คุนะเต้นได้ตามที่สอนมั้ย? ]

เมื่อเทพธิดาหยุดเต้นลงเธอก็หัวเราะพิลึกออกมา

[ เก่งมากเลยค่ะท่านคุนะ ]

ฉันถอนหายใจ

แค่สอนเพียงนิดหน่อย เทพธิดาแสงจันทร์ก็เต้นได้ดีกว่าฉันที่ฝึกฝนมาตั้งนานได้แล้ว

น่าอิจฉา น่าอิจฉาความสามารถนั้นจัง

เธอเป็นเทพธิดาที่เกิดมามีพร้อมทุกสิ่งต่างจากฉัน

ฉันมองไปที่เธอด้วยความรู้สึกมืดมน บางทีเจ๊ไอนอยก็คงรู้สึกแบบนี้สินะ?

อัศวินดำบอกฉันว่าเจ๊ไอนอยพยายามประสบความสำเร็จขนาดนั้นได้เพราะทำสัญญากับปีศาจ

ต่างกับฉันที่ใช้ความพยายามเพื่อประสบความสำเร็จในชีวิต

ถ้าฉันเป็นในฐานะเดียวกับเจ๊ไอนอยจะรู้สึกยังไงนะ? จะรู้สึกมืดมนเหมือนในตอนนี้เลยรึเปล่า?

ทันใดนั้นฉันก็ฉุกคิดขึ้นมา

จะว่าไปแล้วโรงละครล่ะ?

เห็นว่าอัศวินดำจะไปดูพรุ่งนี้แล้วเป็นยังไงบ้าง…

ฉันมองไปยังอัศวินดำที่อยู่ข้างๆ

อัศวินดำที่ไม่ได้สวมเกราะดำนั้นไม่ต่างจากคนธรรมดาเลย

เขาจ้องเทพธิดาแสงจันทร์ด้วยสายตาหื่น

เทพธิดาแสงจันทร์ตอนนี้แต่งกายด้วยชุดนักเต้นของท่านเทพธิดาอิชเทีย ชุดที่ราวกับเป็นผ้าบางๆ เท่านั้นทำให้ดึงเสน่ห์ของเทพธิดาออกมาได้มากขึ้น

ตอนที่ฉันเต้น อัศวินดำก็จ้องมองด้วยสายตาไม่ต่างจากนี้เลย สายตาหื่นๆ นั้นนะ

ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกว่าจะเอาชนะเขาได้ง่ายๆ แต่ทำจริงๆ ก็คงไม่ได้อยู่ดี

ดูเหมือนอัศวินดำจะเก่งพอๆ กับผู้กล้าแห่งแสง แต่ดูตอนนี้ไม่เห็นเหมือนอย่างนั้นเลยด้วยซ้ำ ดูจากภายนอกดูอ่อนแอจะตายไป

ตรงหน้าฉันมีเครื่องดื่มอยู่

แต่ไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรอกนะ

เป็นชาที่ทำจากดอกไม้ที่เรียกว่าเมนตี้ นี่เขาคิดว่าฉันเป็นเด็กรึไงถึงได้เอาเครื่องดื่มที่ทำจากผลไม้นี้มาให้ เพราะปกติแล้วผู้ใหญ่ไม่ดื่มของแบบนี้หรอก

มันดูเป็นเครื่องดื่มที่ไม่เหมาะกับอัศวินดำเอาซะเลย

เขาหยิบขนมตรงหน้ามากิน

มันเป็นขนมอบที่มีผลไม้แห้งและถั่ว อร่อยและหวานเข้ากันได้ดีกับชาเมนตี้

แต่มันดูไม่เหมาะกับอัศวินดำเอาซะเลย ที่น่าแปลกคืออัศวินดำดันชอบของหวานเนี่ยนะ

ภาพในหัวฉัน เขาคือปีศาจจิตใจวิปริตซะมากกว่า รู้สึกปวดหัวเลย

ฉันมองไปที่อัศวินดำขณะที่คิดเช่นกัน

[ เอ๊ะ? ]

ฉันส่งเสียงออกไปแบบไม่ได้ตั้งใจ

จู่ๆ ใบหน้าของอัศวินดำก็เปลี่ยนจากสีหน้าปกติไปเป็นสีหน้าของนักรบ

เพราะจู่ๆ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเลยทำให้ฉันตกใจ

ทันใดนั้นอัศวินดำก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

เกิดอะไรขึ้นกันนะ?

[ มีอะไรเหรอคุโรกิ? เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ]

เพราะบรรยากาศของอัศวินดำเปลี่ยนไปทำให้เทพธิดาแสงจันทร์ถามขึ้น

[ มัลเชียส… ]

อัศวินดำใช้ดวงตาอันเฉียบคมและมองออกไปนอกหน้าต่าง

ทำให้ฉันรู้สึกกังวลอยู่ใจ

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 71"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์