ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 531
ตอนที่ 531 เกรงว่าฮ่องเต้จะเกิดเรื่องแล้ว
บางครั้งความรู้ใจกันไม่จำเป็นต้องพูดออกมา มีเฝิงเยี่ยไป๋อยู่ เว่ยหมิ่นไม่กังวลเลย นางรู้ว่าเฝิงเยี่ยไป๋จะต้องช่วยเหลียงอู๋เย่ว์ออกมาแน่นอน และก็รู้ว่าเขาต้องส่งคนมารับนางอยู่นอกป่า
ป่านี้เป็นที่ที่นางเคยมากับเฝิงเยี่ยไป๋และเหลียงอู๋เย่ว์ตั้งแต่ยังเด็ก มีน้อยคนนักที่จะรู้ แม้ว่านางจะไม่เคยมาที่นี่หลายปี เพียงแต่ภูมิประเทศที่นี่ก็อยู่ในความทรงจำของนางอย่างชัดเจน เดินอ้อมหลบสายตากององครักษ์แม้ว่าจะมีความลำบากอยู่บ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ก่อนหน้านี้ก็หลบมามากมายเช่นนี้แล้ว ปลายป่าอยู่อยู่ข้างหน้า ขอเพียงอ้อมหลบกององครักษ์กลุ่มสุดท้ายได้ก็หนีพ้นแล้ว!
ฝั่งพั่งไห่นี้ส่งคนไปเรียกนางกำนัลที่ปรนนิบัติอยู่ข้างกายท่านหญิง อยากจะถามสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในกระโจมเป็นเช่นไรบ้าง หากเรื่องของฮ่องเต้และท่านหญิงสำเร็จแล้วจริงๆ วันหลังพวกเราก็จะได้รู้ตัวต้องเอาใจใคร อย่าได้เอาใจผิดคนทำเอาตัวเองลำบาก
เขาให้ขันทีน้อยที่ยกน้ำชาไปเรียกตัว ผ่านไปอยู่นานก็ไม่มีข่าว ขณะกำลังโมโหอยู่นั้นขันทีน้อยคนนั้นก็กลับมาแล้ว เพียงแต่กลับมาคนเดียว เขาหยุดพักหายใจ สะบัดมือพูดว่า “ผู้ดูแลใหญ่ เมื่อครู่บ่าวไปห้องเตรียมตัวตามหาเสี่ยวชุ่ยเอ๋อร์ แต่ไม่เห็นตัวนาง ถามนางกำนัลที่อยู่ในห้อง บอกว่าไม่เห็นนางกลับมา เหมือนว่าท่านหญิงเรียกไปเลี่ยนชุดให้ หลังจากไปแล้วก็ไม่เห็นนางกลับมา บ่าวไปตามหาที่อื่นก็ไม่เห็นนาง”
ไม่เห็นนาง? คนตัวเป็นๆ ทั้งคนจะหายไปได้อย่างไร ในใจพั่งไห่กระตุกขึ้นมา เขายกขาแตะไปที่ขันทีน้อย “เมื่อครู่เจ้าก็ได้เจอกับนางอยู่ไม่ใช่หรือ ไม่เห็นนางไปทางใดหรือ”
ขันทีเกาศีรษะด้วยความน้อยใจ “บ่าวเห็นแล้ว กำลังไปที่ห้องเตรียมตัว เพียงแต่… เพียงแต่บ่าวไปตามหาแล้ว นางไม่อยู่!”
พั่งไห่ลุกขึ้นมาทันที เกือบแตะกระถางถ่านล้ม “คนที่ให้เจ้าไปเฝ้าอยู่หน้ากระโจมล่ะ ได้บอกหรือไม่ว่ามีใครออกจากกระโจม”
“ยามที่บ่าวกลับมาก็ถามแล้ว เขาว่าไม่มี นอกจากนางกำนัลของท่านหญิงก็ไม่มีใครออกมาเลย”
น่าประหลาดเหลือเกิน คนออกจากกระโจม เห็นว่ากลับไปที่ห้องเตรียมตัว เพียงแต่ยามนี้กลับไม่เห็นแล้ว กลางคืนยังมีผีออกมาอีกหรือ อย่างอื่นพั่งไห่ไม่กลัว กลัวเพียงฮ่องเต้เป็นอะไรขึ้นมา ใต้ฟ้านี้ยังต้องพึ่งพิงฮ่องเต้อยู่ หากตอนนี้ฮ่องเต้เป็นอะไรขึ้นมาก็เป็นดั่งมังกรไร้เศียร อ๋องซุ่มบุกตีเมืองหลวงไม่ช้าก็เร็ว ตอนนี้เขาเป็นถึงรองผู้ดูแลใหญ่แล้ว ถือได้ว่ามีฐานะอยู่ข้างพระกายฮ่องเต้ หากแผ่นดินนี้เปลี่ยนคนครอง เป็นฮ่องเต้คนใหม่มาครองแผ่นดิน เช่นนั้นแล้วพวกเขาที่เคยปรนนิบัติฮ่องเต้เก่านั้นจะยังมีชีวิตอยู่ได้อีกหรือ
พวกเขาล้วนเป็นบ่าว ต้องพึ่งพิงเจ้านาย หากเจ้านายอยู่ดี พวกเขาถึงจะอยู่ดี หากเจ้านายเป็นอะไรขึ้นมา เช่นนั้นพวกเขาก็จะเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ที่สุด
คนเป็นๆ จะหายได้อย่างไร มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล กลัวเพียงว่าฮ่องเต้จะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว!
“เจ้าพวกไร้ประโยชน์ รีบส่งคนไปตามหา ต้องหาคนให้เจอ หากหาไม่เจอ เจ้าก็อย่าได้คิดมีชีวิตอยู่เลย รีบไปตายเสีย!”
เขาพูดไปพลางรูดแขนเสื้อไปพลาง ขันทีน้อยยืนงงอยู่กับที่ ยังดีๆ อยู่เลย ไฉนจู่ๆ ถึงรีบร้อนเช่นนี้ เขางงอยู่พักหนึ่งก็นึกถึงคำสั่งของพั่งไห่แล้วไม่รอช้าให้คนไปตามหา
พั่งไห่ออกจากห้องเตรียมตัวก็ไปที่กระโจมของฮ่องเต้ เขายืนฟังอยู่ข้างนอกพักหนึ่ง ข้างในไม่มีเสียง ไฟยังสว่างอยู่ น่าจะยังไม่พัก เขาเรียก ‘ฝ่าบาท’ เบาๆ ข้างในเงียบสงบไม่มีใครตอบรับ
ตอนที่ 532 ไปจับนางมาให้เรา
เรียกแล้วไม่มีใครตอบ ใจของพั่งไห่กระตุกขึ้นมา หรือว่าจะเกิดเรื่องขึ้นแล้วจริงๆ แต่ก็ไม่กล้าผลีผลามเข้าไป หากฮ่องเต้กับท่านหญิงเพียงแค่พักผ่อนอยู่ เขาเข้าไปเช่นนั้นจะถูกตัดศีรษะเอาได้ จึงได้แต่อดทนเรียกอยู่ข้างนอก เรียกแล้วหยุด เพียงแต่เรียกอยู่นานก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ
ขันทีน้อยที่ถวายชาเร่งรีบกลับมารายงาน บอกว่าหาทั่วทุกที่แล้วก็หาไม่เจอ และได้ถามทุกคนแล้ว ต่างบอกว่าไม่ได้เจอนาง เหมือนดั่งคนผู้นี้หายไปดื้อๆ เช่นนั้น
พั่งไห่เรียกเสียงสูงอีกหลายครั้ง ข้างในก็ยังไม่มีใครตอบ ต่อให้ฮ่องเต้กับท่านหญิงจะพักผ่อนแล้ว เขาเรียกเสียงดังอยู่ข้างนอกเช่นนี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่ฮ่องเต้จะไม่ได้ยิน นี่ก็ไม่ได้อยู่ในวังเสียหน่อย หากเป็นวังที่มีห้องด้านนอกสามชั้นห้องด้านในสามชั้น เช่นนั้นก็อาจจะไม่ได้ยินอยู่บ้าง แต่นี่เป็นเพียงแค่กระโจมเท่านั้น กั้นเพียงม่านชั้นเดียว เรียกเสียงดังเช่นนี้ยังไม่มีใครตอบ ข้างในคงจะเกิดเรื่องแล้วแน่ๆ
ยามนี้จึงไม่สนว่าจะเสียมารยาทแล้วหรือไม่ พระชนม์ชีพของฮ่องเต้สำคัญที่สุด เขาเปิดม่านเข้าไป ในกระโจมแม้จะใหญ่โต เพียงแต่ก็ยังสามารถเห็นการจัดแต่งอยู่ในสายตาได้ กลางกระโจมมีเตียงวางอยู่ เป็นขนาดตามพระแท่นบรรทม ใช้พื้นที่ไปมาก ม่านที่อยู่ข้างบนห้อยลงหลายชั้น ปิดบังภาพข้างนอกจากสายตาคนนอกอย่างมิดชิด
พั่งไห่ถวายเคารพให้พระแท่นบรรทม “ฝ่าบาททรงอภัยพ่ะย่ะค่ะ บ่าวมีเรื่องจะทูลฝ่าบาท ขอให้ฝ่าบาทให้บ่าวกราบบังคมทูล!”
ข้างในยังคงไร้เสียง
เขาหดคอ ในใจคิดว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวล้วนขึ้นอยู่กับการกระทำนี้ เขาค่อยๆ เปิดม่านออก จะเป็นหรือตายล้วนอยู่ในมือของตัวเองนี้แล้ว คำพูดนั้นว่าอย่างไรนะ ความรุ่งโรจน์อยู่ในความอันตราย พระชนม์ชีพของฮ่องเต้ใหญ่ยิ่งกว่าสิ่งใดๆ เขาก็รักเจ้านายไม่ใช่หรือ
เขาค่อยๆ เปิดท่านชั้นแรกออก ยังคงเห็นข้างในไม่ชัด เพียงแต่สามารถมองได้รางๆ แล้ว เขาเปิดชั้นที่สองที่สามต่อ พอเปิดออกหมดแล้วก็เห็นได้ชัดเจนในที่สุด พระแท่นบรรทมอันใหญ่นั้นมีผ้าห่มห่อคนอยู่!
พั่งไห่ตกใจขึ้นมาทันที มีเพียงคนเดียว? เขาคลานเข้าไปเปิดผ้าห่มออก เผยคนที่อยู่ข้างในออกมา ไม่ต้องสงสัยเลย ที่นอนอยู่บนพระแท่นบรรทมยังจะเป็นใครได้อีก
ฮ่องเต้มีโลหิตอาบเต็มกาย ที่พระศอมีปิ่นปักผมทองคำปักอยู่ พระองค์เอาพระหัตถ์อุดไว้ มีพระโลหิตกำลังไหลออกไปข้างนอก สีพระพักตร์ขาวซีด พระโอษฐ์อ้าแล้วหุบ กลับไม่มีเสียงใดๆ ออกมาเลย
พั่งไห่ตอบสนองไว รีบสั่งขันทีน้อยที่ถวายชาว่า “เร็ว! รีบไปเรียกหมอหลวง! รีบไป!”
ปกติขันทีน้อยทำงานเพียงถวายชาชงชา เป็นครั้งแรกที่เห็นสถานการณ์เช่นนี้ ตกใจจนเข่าอ่อน เขาล้มลุกคลุกคลานออกไปจากกระโจม วิ่งเซไปเซมา ระหว่างทางก็ตะโกนเรียกหมอหลวง
พั่งไห่คุกเข่าอยู่ข้างพระกายฮ่องเต้ ยามนี้แล้วก็ยังไม่ลืมที่จะแสดงความภักดี เขาแอบย่อตัวเองอย่างเร่งรีบ พอคำพูดชมตัวเองพูดจบแล้ว ก็เห็นพระโอษฐ์ฮ่องเต้ขยับขึ้นลง คิดว่าคงจะมีบางอย่างจะตรัส เขาจึงแนบหูเข้าไป ได้ยินฮ่องเต้ตรัสด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงว่า…
“ไปจับ…เว่ยหมิ่น…กลับมา…ให้เรา… ขอ ขอจับเป็น!”
เมื่อครู่มัวแต่ร้องไห้ ไม่ทันได้สังเกต คงจะเป็นฝีมือของท่านหญิง ยามที่ผู้หญิงคนนี้ใจเ**้ยมขึ้นมาก็ลงมือโหดร้ายเสียจริง ปักลงไปเช่นนี้ แทงทะลุพระศอฮ่องเต้ จะว่าอย่างไรก็เป็นเจ้าแผ่นดิน นางลงมือขึ้นมากลับรอบคอบยิ่งนัก!
“ฝ่าบาทโปรดวางพระทัย บ่าวจะพาท่านหญิงกลับมาให้ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!”
ที่ที่หมอหลวงพักอยู่ไม่ไกลจากกระโจมของฮ่องเต้นัก ครู่เดียวก็มาถึง พั่งไห่ให้คนกลุ่มหนึ่งเฝ้าอยู่ข้างพระกายฮ่องเต้ไม่ให้ห่าง ตัวเขาเองได้เรียกกององครักษ์กองหนึ่งไปจับนางด้วยตัวเอง