ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 576 ประทับตราให้เจ้าก็เป็นคนของข้า
ตอนที่ 576 ประทับตราให้เจ้าก็เป็นคนของข้า
นี่คือคู่ร่วมทุกข์ร่วมสุข เริ่มต้นได้ไม่เลว เริ่มมาด้วยการถกเถียงตีกัน ล้วนเป็นการทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ เรื่องใหญ่ๆ นั้นในใจต่างก็มีอีกฝ่ายอยู่ สามารถเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่ออีกฝ่ายได้
เพียงแต่การใช้ชีวิตร่วมกันจะราบรื่นได้อย่างไร สวรรค์ชอบกลั่นแกล้งนัก ไม่ให้ผ่านคลื่นใหญ่แห่งความเป็นความตายก็ไม่อาจเห็นความรักของทั้งสองฝ่ายได้ ความรักล้วนต้องปรับเข้าหากัน ต้องปรับอยู่บ่อยๆ ถึงจะมีชีวิตคู่ที่ยืนยาว
ตอนแรกเหลียงอู๋เย่ว์เช็ดน้ำตาจนแห้งแล้ว เว่ยหมิ่นยื่นมือไปลูบหน้าของเขา ปลายนิ้วสั่นเทา เขากลั้นไม่ไหว เริ่มร้องไห้โฮเป็นเด็กขึ้นมาอีกครั้ง
เว่ยหมิ่นหยิกแก้มเขา เชิดมุมปากยิ้ม “พอได้แล้ว ข้าไม่ได้ตายเสียหน่อย ไม่ต้องรีบร้องไห้ไว้ทุกข์ให้ข้าเร็วเช่นนี้”
เหลียงอู๋เย่ว์ชูหน้านาง จูบเบาๆ ที่ริมฝีปากของนางแล้วปล่อยและก็จูบอีกครั้ง เป็นเช่นนี้อยู่หลายรอบ สุดท้ายก็มั่นใจแล้วว่านางมีชีวิตจริงๆ “อย่าพูดเหลวไหล ข้ามาแล้ว ข้ามาแล้วก็ไม่ไปแล้ว คราวนี้ข้าจะติดกับเจ้า ชีวิตนี้จะไม่ปล่อยเจ้าไปคนเดียวอีก”
แต่เดิมริมฝีปากของนางขาวซีด พอถูกเขาจูบเข้าหลายทีก็เริ่มมีสีเลือดขึ้นมา ดูแล้วก็ไม่หดหู่ มีชีวิตชีวามากขึ้น ทำให้มองแล้ววางใจลงได้บ้าง
เว่ยหมิ่นขยับไม่ได้ พอขยับก็เจ็บทั่วร่าง นางให้เขาขยับหน้าเข้ามาใกล้ๆ แล้วมือก็หยิกไปมา นางวางใจลง “ข้ายังคิดว่าฝันอีกแล้วเสียอีก ฝันที่เป็นเช่นนี้ข้าฝันมาหลายครั้ง สมจริงยิ่งนัก เพียงแต่ตื่นขึ้นมาถึงได้รู้ว่าล้วนเป็นฝันทั้งสิ้น”
“ครั้งนี้ไม่ได้ฝันแล้ว เป็นของจริง เจ้าดู เจ้าตื่นแล้ว ข้าก็ยังอยู่ไม่ใช่หรือ”
“ใช่ เป็นของจริง สามีของข้าหาข้าเจอในที่สุด ข้าดีใจจริงๆ”
เหลียงอู๋เย่ว์จ้องมองนาง “เมื่อครู่เจ้าพูดอะไรหรือ”
เว่ยหมิ่นมองเขาด้วยความประหลาดใจ “ข้าพูดอะไรหรือ”
“เจ้าบอกว่าข้าเป็นสามีของเจ้า ข้าชอบฟัง เจ้าพูดอีกสักหลายครั้งหน่อยสิ ข้าฟังแล้วรื่นหูนัก” นี่เรียกว่าได้คืบจะเอาศอก เขารู้สึกผ่อนคลายมีความสุขยังอยากจะฟังอีกหลายครั้ง เขาขยับหน้าเข้าไปใกล้ๆ จูบอย่างไรก็ไม่พอเช่นนั้น
เว่ยหมิ่นกัดที่ริมฝีปากของเขา “ประทับตราให้เจ้า เช่นนี้เจ้าก็หนีไม่พ้นแล้ว ไปที่ใดก็เป็นคนของข้า ข้ามองก็รู้ได้ทันที”
เหลียงอู๋เย่ว์ลูบริมฝีปาก ท่าทางได้ใจ “เช่นนี้สิดี น้ำก็รู้ว่าข้าเป็นคนของเจ้าแล้ว และไม่มีใครกล้าคิดอะไรกับข้า” พอเขาคิดดีๆ อีกครั้งก็รู้สึกไม่ถูก “ทุกคนต่างรู้ว่าข้าเป็นของเจ้าแล้ว เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าเจ้าเป็นของข้า เจ้าประทับตราให้ข้าแล้ว ข้าก็ต้องประทับตราให้เจ้า ให้คนรู้ว่าเจ้าเป็นของข้า เช่นนี้เจ้าก็หนีไม่ได้แล้ว”
หากจะไม่พูดถึงสองคนนี้ช่างเหมาะกันเสียจริง ยามจริงจังก็สามารถจริงจังได้ ยามหยอกเล่นก็สามารถเข้าคู่กันได้ดี ไม่ว่าทำสิ่งใดก็สามารถเข้ากับอีกฝ่ายได้ ยามที่ควรจะหวานซึ้งก็หวานซึ้งได้ ยามที่ไม่หวานซึ้งก็สามารถอยู่เป็นดั่งเพื่อน เช่นนี้ดีที่สุด เป็นคู่บุพเพสันนิวาสจริงๆ
เว่ยหมิ่นกัดริมฝีปากของเขาแตก ที่ริมฝีปากของนางมีเลือดติดอยู่ ยามที่ยิ้มขึ้นมาแทบทำเอาใจละลาย “เช่นนั้นเจ้าก็มาเลย มาประทับตรา ข้าก็จะเป็นของเจ้าไปตลอด”
จะประทับอย่างไร นางยังบาดเจ็บอยู่ จะให้ตัวเองไปกัดนางไม่ได้กระมัง เขาทำไม่ได้ พอได้เจอนาง ในใจก็อ่อนลงแล้ว เพียงแต่นางมีท่าทางท้าทาย เหมือนดั่งคิดไว้แล้วว่าเขาไม่กล้าเช่นนั้น จึงทำท่าทางอ้าปาก ตั้งท่ากัดไปที่คอของนาง เว่ยหมิ่นคิดว่าเขาจะกัดจริงๆ จึงร้อง ‘อ๊ะ’ ออกมา พอร้องเสร็จ กลับไม่มีความรู้สึกเจ็บ ที่คอมีริมฝีปากทาบลงมาอย่างอ่อนโยน จูบวนไปมาเหมือนดั่งเฝ้าตรวจตราพื้นที่