ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 583 คนเก่งจริงไม่เปิดเผย / ตอนที่ 584 มีภรรยาก็ลืมแม่
- Home
- ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง
- ตอนที่ 583 คนเก่งจริงไม่เปิดเผย / ตอนที่ 584 มีภรรยาก็ลืมแม่
ตอนที่ 583 คนเก่งจริงไม่เปิดเผย
ชีวิตของมนุษย์นั้นแสนสั้นมีเพียงไม่กี่สิบปี ครึ่งแรกของชีวิตถูกคนอื่นบังคับ ครึ่งหลังของชีวิตไม่อาจให้ใครมาข่มขู่ได้ ชีวิตในวังก็เป็นเช่นนี้ไม่ใช่หรือ คิดจะอยู่รอดต่อไปก็ต้องเหยียบไหล่คนอื่น เจ้าไม่เหยียบคนอื่น คนอื่นก็จะมาเหยียบเจ้า ใครไม่อยากมีชีวิตต่อเพิ่มอีกกี่ปี มีชีวิตอยู่ดีเพียงใด ความรุ่งเรืองร่ำรวย อยากได้สิ่งเหล่านี้ก็ต้องมีชีวิต
พั่งไห่เดินออกจากพระตำหนักหย่างซินตัวเป็นๆ กลับทำให้หลี่เต๋อจิ่งประหลาดใจ ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้น้อยยังโกรธจัดตรัสว่าจะฆ่าเขา ไฉนถึงเปลี่ยนไปได้
“ข้าเคยบอกแล้ว คนน่ะอย่าได้ใจเกินไป ยิ่งยืนอยู่สูง ก็ยิ่งตกลงมาเจ็บ” เขาอยู่ในวังนานหลายปีปูรากฐานไว้แน่น รู้ถึงนิสัยของเจ้านายทุกคน แม้ว่าจะเคยพบกับรัชทายาทอยู่ไม่กี่ครั้ง เพียงแต่เมื่อครู่ก็หลอกล่อจนพอเข้าใจแล้ว หลี่เต๋อจิ่งริอ่านจะฉวยโอกาสล้มเขารึ ยังไม่ถึงขั้นหรอก
หลี่เต๋อจิ่งก็ยังคงเป็นคนสำคัญ เป็นบ่าวที่ดีของเหล่าเจ้านาย เป็นผู้สูงส่งในบรรดาคนใช้ เมื่อก่อนถูกเย้ยหยันก็ช่าง เพียงแต่ตอนนี้ไม่ยอมถูกเย้ยหยันแม้แต่น้อย ยามนี้เขาไหนเลยจะทนได้ โบกมือเรียกคนมาจับเขา “เจ้าคิดว่าเจ้ายังเป็นคนสำคัญอันดับสองในวังหรือ ไม่รู้จักดูตัวเองยามนี้ว่าอยู่ในฐานะอะไร ยังกล้าอวดฉลาดกับข้า ข้าว่าเจ้าใช้ชีวิตอยู่ในวังหลายปีนี้ล้วนเสียเปล่าแล้ว ไฉนถึงยังไม่รู้เรื่องเช่นนี้”
ขันทีน้อยห้าหกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ หากจะเ**้ยมขึ้นมาก็ตีให้ตายได้ ใครมีตำแหน่งใหญ่กว่าก็ฟังคนนั้น มีชีวิตออกมาไม่นับว่าเก่ง สามารถปีนสูงขึ้นไปได้ถึงจะเรียกว่ามีความสามารถ สี่ห้าคนเข้าไปจับพั่งไห่พร้อมกัน กดเขาล้มจากซ้ายขวาไม่มีลังเลเลย
พั่งไห่มีวิชาติดตัวอยู่ ปกตินั้นเป็นคนเก่งจริงไม่เปิดเผย ไม่เคยอวดต่อหน้าใคร ดังนั้นจึงมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าเขาเก่งกาจเพียงใด หลี่เต๋อจิ่งรู้ว่าเขาเป็นหมัดมวย เพียงแต่ไม่ได้รู้ว่าเขามีความเก่งกล้าในวิชาเพียงใด ศัตรูในอดีตก้มศีรษะให้กับตัวเองต่อหน้า ความรู้สึกนี้ดียิ่งกว่าเขาเองได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งเสียอีก
“ขอร้องตอนนี้ก็ยังทัน หากเจ้าเรียกข้าว่าท่านปู่ [1] บางทีข้าอาจจะใจอ่อนปล่อยเจ้าไปก็ได้”
พั่งไห่กระตุกมุมปากยิ้ม หันศีรษะไปมองขันทีน้อยที่จับเขาไว้ซ้ายขวา “ปกติข้าก็ดีกับพวกเจ้าไม่น้อย ดึงพวกเจ้าให้สูงขึ้นไม่เคยขาด นายว่าขี้ข้าพลอย ได้ บัญชีนี้ข้าจะจำไว้ให้พวกเจ้า หากข้าฟื้นกลับมาอีกครั้ง พวกเจ้าทุกคนหนีไม่รอดแน่!”
ขันทีเหล่านั้นตะลึง มือที่จับอยู่ก็ผ่อนลง คำพูดของหลี่เต๋อจิ่งไม่เป็นผล พั่งไห่ไม่ได้กลัวเขาเลย หน้าเขาไม่มีที่ไว้ จึงโกรธจัดตะโกนใส่ขันทีเหล่านั้นว่า “ยังมัวอึ้งอะไรอยู่อีก ข้าให้พวกเจ้าลงมือก็ลงมือ… เจ้าอย่ามาทำตัวเป็นวีรบุรุษที่นี่ ไม่ยอมก้มศีรษะให้รึ ได้! เจ้ามันอวดดีนัก ข้าก็จะดูว่าเจ้าจะอวดดีได้อีกนานเพียงใด ตีเข้าไป!”
เมื่อมีคำสั่งก็ลงมือทันที แต่ละคนล้วนกำหมัดแน่น หวดไปที่ร่างของพั่งไห่เหมือนดั่งเม็ดฝน ตอนนี้ในมือพั่งไห่มีข่าวที่ฮ่องเต้น้อยอยากรู้ ก่อนที่ฮ่องเต้น้อยจะได้ในสิ่งที่พระองค์ต้องการอยู่นั้นย่อมไม่ประหารเขา เขาไม่ได้มีส่วนได้เสียกับคนพวกนี้และไม่ต้องขอร้องพวกเขาให้ไว้หน้าตน มีคนตีแล้วทำอย่างไร ก็ต้องเอาคืนสิ! บนโลกนี้มีเหตุผลที่จะถูกตีแล้วไม่เอาคืนที่ใดกัน ฝั่งนี้คว้าได้แล้วก็ให้คนละหมัด ฝั่งนั้นเล็งแม่นแล้วก็เตะเข้าไป คนเหล่านี้ล้วนมีวิชาอ่อนด้อย ไม่ทนมือ ไม่ทันไรก็ล้มเป็นกองเสียแล้ว
พั่งไห่ปัดฝุ่นบนตัวยืนขึ้นมา จ้องใส่หลี่เต๋อจิ่งเหมือนกำลังเยาะเย้ย เขาไม่พูดอะไรแล้วหันหลังจากไป
ตอนที่ 584 มีภรรยาก็ลืมแม่
ช่วงนี้เมืองหลวงวุ่นวาย สถานที่ที่ขังน่ายงอยู่นั้นนอกจากยายแก่คนหนึ่งเฝ้าอยู่ก็ไม่มีใครแล้ว อยากจะพาเด็กออกมาจึงง่ายดายยิ่งนัก
เด็กอายุขวบกว่าแล้ว หน้าตาองอาจน่าเกรงขาม ยามที่ถูกอุ้มออกมานั้นก็ไม่ร้องไม่วุ่นวาย เพียงแค่จ้องตาโตมองคนที่มาเหมือนรู้เรื่องทุกอย่างแล้วอย่างไรอย่างนั้น เพราะดึกเกินไป จึงไม่ได้ส่งไปให้น่าอวี้ทันที แต่อุ้มมาให้เฝิงเยี่ยไป๋ดูจากนั้นค่อยให้สาวใช้อุ้มกลับไป
เฉินยางรอให้เด็กถูกอุ้มไปแล้วถึงได้เอ่ยปากชมว่า “เหมือนน่าอวี้เหลือเกิน น่าอวี้หน้าตาดี เด็กคนนี้โตไปแล้วจะต้องไม่เลวร้าย ท่านว่าไหมว่าหากเขาเป็นเด็กผู้หญิงก็คงจะดีไม่น้อย หากเป็นเด็กผู้หญิง ก็เก็บไว้ให้เสี่ยวจินอวี๋ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปหาอีก”
เฝิงเยี่ยไป๋ถลึงตาใส่นาง “เจ้าช่างเป็นแม่แท้ๆ ของเขาเสียจริง เริ่มหาภรรยาให้เขาตั้งแต่ตอนนี้แล้ว เจ้าไม่กลัวเขามีภรรยาแล้วลืมแม่หรือ”
“ไม่ได้ๆ ข้าเป็นแม่แท้ๆ ของเขา”
“ข้าก็เป็นพ่อแท้ๆ ของเขาเหมือนกัน เจ้าดูซิว่าเจ้าเด็กนี่สนิทกับข้าหรือไม่”
เฉินยางบ่นเสียงเบา “ท่านไม่ขู่เขา เขาจะไม่สนิทกับท่านได้หรือ”
เฝิงเยี่ยไป๋หยิกปลายจมูกนาง “เจ้ากล้าบอกว่าเจ้าไม่ได้ล่อลวงเขา เจ้านี่นะ ไฉนถึงได้เจ้าเล่ห์เช่นนี้นัก”
แม้คลอดลูกแล้วก็ไม่อาจเปลี่ยนความจริงที่นางยังเป็นเด็กได้ เฉินยางแลบลิ้นให้เขาด้วยความขี้เล่น “ลูกชายล้วนสนิทกับแม่ทั้งนั้น ใครใช้ให้ท่านทำหน้าเหมือนดั่งทุกคนติดหนี้ท่านอยู่ทุกวัน”
เจ้าเด็กนี่นะ… เฝิงเยี่ยไป๋ยื่นมือไปดึงนางเข้ามาแล้วขยี้ศีรษะของนางแรงๆ ก่อนจะจูบริมฝีปากนางที่อ้าออกด้วยความตกใจ
เฉินยางกลั้นหายใจจนแทบจะหายใจไม่ออก นางออกแรงตีเขา รอให้เขาปล่อยก็เท้าเอวถลึงตาใส่เขาด้วยความโกรธ “ท่าน… ไฉนท่านถึงเป็นเช่นนี้ตลอดเลย ไม่ทำให้ข้าตายท่านจะไม่พอใจหรืออย่างไร”
เฝิงเยี่ยไป๋โค้งเอวรับกับความสูงของนาง เอาศีรษะชนกับศีรษะของนาง ลมหายใจประสานเข้าด้วยกัน “ข้าจะยอมให้เจ้าขาดใจตายได้อย่างไร สอนเจ้าตั้งกี่ครั้งแล้ว ไฉนถึงยังหายใจไม่เป็นอีก”
“ข้าจะกินกระเทียมทุกวัน ดูซิว่าท่านจะทนไหวหรือไม่”
เฝิงเยี่ยไป๋อดขำไม่อยู่ “กินกระเทียมทุกวันไม่กลัวตัวเองจะสำลักตายหรือไร ต้องทำถึงเช่นนี้เลยหรือ”
เฉินยางผลักเขาออก ก้มหน้าเอาปลายนิ้วจิ้มปลายนิ้ว “จูบครู่เดียวก็พอแล้วไม่ใช่หรือ ไฉนท่านถึงไม่จบไม่สิ้นเสียที”
เขาทำท่าจุ๊ปาก เหมือนดั่งหวนนึกถึงรสชาติอยู่เช่นนั้น “หวานซึ้งยิ่งนัก รสชาติไม่เลว ทำเอาคนติดได้ จะพอได้อย่างไร”
เขาช่างหน้าด้านยิ่งนัก เพียงแต่นางไม่ได้หน้าด้าน ถูกซั่งเหมยซั่งเซียงพบเห็นอยู่หลายครั้ง ทุกครั้งล้วนถูกพวกนางดึงมาถามอยู่ตลอด ถามนางว่าการจูบมีรสชาติเป็นอย่างไร ฟันจะไม่ชนกันหรือ นี่ยังถือว่าเบา จนตอนหลัง ยิ่งถามยิ่งเกินเลย นางไม่มีหน้าจะฟังแล้ว ยิ่งไม่มีหน้าจะตอบ บอกเขากี่ครั้งแล้วว่าให้เขาระวัง ไม่ใช่ว่าเกลียดเขา เพียงแต่เรื่องเช่นนี้ก็ต้องดูสถานที่สักหน่อยมิใช่หรือ เช่นเขาที่เป็นอยู่นี้ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป นางยังมีหน้าสร้างความน่ายำเกรงต่อหน้าซั่งเหมยซั่งเซียงได้อย่างไร
เฝิงเยี่ยไป๋รู้ถึงความกังวลของนาง เพียงแต่เขาก็ชอบดูท่าทางเวลานางโกรธใส่เขาเล็กๆ น้อยๆ นั่น ไม่เหมือนกับผู้หญิงของเขาก่อนหน้านี้ ดีกับพวกนางเพียงเล็กน้อยก็ไม่รู้ซ้ายขวาเสียแล้ว ไม่จบไม่สิ้น กล้าขอทุกสิ่ง มีบางคนยิ่งกว่า คิดเองเออเอง ชอบมือยื่นมือยาวมายุ่งเรื่องของเขาอีก
เพียงแต่เฉินยางนั้นต่างกัน นางโกรธเล็กโกรธน้อยไม่ใช่จะไร้เหตุผล นางไม่เคยสร้างความวุ่นวายโดยไร้สาเหตุ จะโกรธก็ต้องพูดด้วยเหตุผล นี่ล้วนเป็นพ่อของนางที่สอนมา แม้จะไม่ได้มาจากตระกูลสูงส่ง เพียงแต่การสั่งสอนอบรมนั้นกลับดียิ่งกว่าพวกตระกูลใหญ่เสียอีก
——
[1] การเรียกคนที่ไม่ใช่สายเลือดด้วยนามของผู้ใหญ่ เช่น พ่อหรือปู่ ในวัฒนธรรมของจีนนั้นถือเป็นการสบประมาทอย่างหนึ่ง